เรื่อง.....ท่านลุง

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย gopets, 20 มิถุนายน 2008.

  1. gopets

    gopets เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +119
    ถ้าหากว่าก่อนจะตายนึกถึงหรือเห็นสิ่งที่เป็นบุญกุศลอย่างใดอย่างหนึ่งอะไรก็ได้ ไปสวรรค์ทันที...ที่ผ่าน สำนักพระยายม มีการสอบสวน คือว่าความชั่วความดีทั้งสองอย่างไม่หนักเกินไป ผ่านสำนักพระยายม มีการสอบสวนถ้ากำลังใจหนักเกินไป ไม่ทำความดีมาก ลงดิ่งตรง
    เคยสังเกตเวลาลงตรง มันลงเร็วจริงๆ ปรี๊ดถึง ลงแรงมาก ก็ไม่ผ่านสำนักพระยายม ก็เลยแวะไปถามท่าน "ทำไมไม่ผ่าน" ท่านบอก "คนที่มีบารมีสูงเขาไม่ผ่านสำนักพระยายมหรอก ลงขุมไปเลย"
    ถ้ากรรมหนักเกินไปเป็น อนันตริยกรรม ก็ดีหรือ อาจิณกรรม ก็ดีมีผลเหมือนกัน ลงนรก
    วันนั้นยังไม่ไป ถ้าบอกกับท่านว่า ถ้าเอาไปเมื่อไรบอกด้วยนะ เวลาที่ท่านนำไปมันเดินช้าๆ ที่นี้ ถ้าหากว่ากรรมที่เป็นอกุศลเขาไม่หนักเกินไป กรรมที่เป็นกุศลก็พอมี ถ้าจิตใจเขาไม่เกาะทั้งสองฝ่ายก็ไปสำนักพระยายมก่อน
    ก็อย่างที่อุทิศส่วนกุศล ท่านบอกไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ปีนั้นเพิ่งเริ่มฝึกมโนมยิทธิเป็นปีแรกก็มีคนได้กันหลายคนท่านก็เลยมาบอกว่า "ท่านครับลูกหลานท่านก็คือลูกหลานผม" ท่านก็บอกตรงๆ ว่า ท่านนะเป็นพี่ชายมาหลายแสนชาติ
    "ลูกหลานท่านก็คือลูกหลานผม แต่ก็ไม่แน่นัก การบำเพ็ญการกุศล ถ้าเป็นฌานโลกีย์ ฌานโลกีย์นี่ยังเป็น อนิยตบุคคล คนที่ไม่แน่นอน จะไปสวรรค์ก็ได้ ไปนรกก็ได้ ยังมีสิทธิ์ มันก็ไม่แน่ใจก็อาจจะลืมกันได้ แต่ว่าถ้าหากบังเอิญเรานึกถึงกุศลไม่ทัน ถ้าจำเป็นจะต้องไปสำนักของผม ถ้ากรรมบางอย่างมันปิดปากไว้ มันไม่ให้พูดเรื่องบุญ มันมีอยู่ เวลาอุทิศส่วนกุศลก็ขอให้บอกผมเป็นพยานไว้ ถ้าถามเรื่องบุญกุศล มันนึกไม่ออก ๓ เที่ยว ผมจะประกาศให้เขาทราบว่า เขาสั่งผมไว้ให้เป็นพยาน ก็ไล่ไปสวรรค์เลย" ท่านไม่ได้เล่นพวก แค่เป็นเมตตาเฉยๆ
    ถ้ากรรมหนักมันไม่ผ่าน ถ้าผ่านสำนักท่านท่านก็ช่วยได้ ถ้าไม่ผ่านเบ่งจัด ท่านช่วยยังไง ลงปรี๊ดเลย คนที่ไปสำนักพยายมแล้วตัดสินใจไปนรกจะมีคนนำไป ไปช้า ๆ มีท่านผู้มีเกียรติมาเชิญไป แต่ว่าพวกที่ลงตรงมันพุ่งแรงจริง ๆ พุ่งปรี๊ดถึงเลย เคยสังเกตคนที่เขาจะตาย ดูว่าเขาจะไปไหนแน่นะ ไปไหนก็ตามมันเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวข้องกับเรา ถ้าทราบว่าคนนั้นป่วยเขาจะตาย นอน ๆ อยู่ในกุฏิมองดูไอ้บ้านนั้น ท่านทั้ง ๔ มาเชิญแล้วใช้ได้ ก็นั่งจ้อง ดีไม่ดีท่านมา วันนั้นยังไม่ไป ถ้าบอกกับท่านว่า ถ้าเอาไปเมื่อไหร่บอกด้วยนะ เวลาที่ท่านนำไปมันเดินช้า ๆ
    เวลาพวกที่ไปตรง ท่านทั้ง ๔ มาเหมือนกันแต่ไม่ได้คุมไป ท่านมาคุมเชิงเฉย ๆ เวลาออกพุ่งปรี๊ดเร็วมาก เหมือนจรวด ป๋อง ! อเวจีนี่ถนัด อเวจีนี่คนชอบจริง ๆ แหมมันน่าพิสมัย ไม่มีใครเถียงใคร ไม่มีใครทะเลาะใคร สงบสงัด เพราะปากมันขยับไม่ได้ หอกเสียบ มือไม้ก็ไม่มีทำร้ายกัน อย่าลืมว่า "อจรัง" ไม่ไหวตัว ขยับไม่ได้ ไปดูเขาขยับไม่ได้จริง ๆ
    เสื้อผ้าเขาใช้ชุดที่ทนมาก คือ ชุดวันเกิด นรกทุกขุมใส่ชุดวันเกิดทั้งนั้น ไม่มีใครอายใคร เพราะเวลาอายไม่มี มันทั้งเจ็บทั้งร้อน อายใครล่ะ อย่างเทวทัต ไปดูซิ ถ้าอเวจีนี่กระดูกมันแดงซ๊าดเหมือนเหล็กเขาเผาแดงโชนก็สลดใจเหมือนกัน เราไม่มีสิทธิ์จะเอาท่านขึ้นมาคุยได้ ขุมนั้นน่ะไม่มีสิทธิ์ คือว่า ถ้าขุมเล็ก ๆ อย่างยมโลกียนรก อันนี้ เราพอจะขอเวลาเขานิดหน่อยได้ เข้ามาคุยกันได้ อเวจีนี่ไม่มีเวลาขอได้เลย
    ยมโลกียนรกนี่ต้องบอกเทวดาที่ไปด้วย นายนิริยบาล นี่เขาไม่พูดกับเรา เดินไปคนเดียวเขาไม่พูดหรอก เฉย ทำเหมือนคนหูตึง ถ้าไปกับเทวดาชั้นจาตุมหาราช บอกขอพูดกับคนนี้ ท่านก็บอกนายนิริยบาล พอบอกปั๊บเครื่องพันธนาการก็หลุด ไปก็ดับ เขาก็คุมมา เปลี่ยนสภาพเลย ทีนี้มีผ้านุ่ง ผ้านุ่งมันคอยอยู่ปากขุม เวลาลงผ้านุ่งไม่ลงไปด้วย ขึ้นมาแล้วก็ถามความเป็นมาได้ เพราะว่าโลกที่โกหกมีอยู่โลกเดียวคือโลกมนุษย์ โลกอื่นเขาไม่โกหกพูดตามความเป็นจริงหมด
    ตัวอย่างก็มีพระอยู่องค์หนึ่ง อายุ ๗๒ ปี ท่านตายแล้วก็ไปเสวยสุขสมบัติที่ มหาตาปนรก คือขุมนรกที่ ๗ พอท่านจะไปก็มีเทวดาองค์หนึ่งมาบอกว่ามาจากสำนักพระยายม บอก "ท่านใหญ่นิมนต์ครับ" ถาม "ทำไม" บอก "มีพระลงไป" ถ้ามีพระลงไปส่วนมากจะมีเทวดามาตาม มาตามนี่ไม่ใช่ไปช่วยนะ ให้ไปดูตัวอย่าง พอไปถึงถาม "ลุงให้มาทำไม" บอก เพื่อนท่านมาอีกองค์หนึ่งแล้ว" ถาม "อยู่ไหน" บอก "ขุม ๗ " ก็เลยไปดูกันกำลังเสวยสุขอย่างแสนสาหัส
    ที่ขุมนี้มันมีดอกบัว จมไปแค่คอ เท้าก็จมไปแค่ข้อเท้า ดอกบัวคมจัดดิ้นไปดิ้นมามันก็กัดขาขาดกัดหัวขาดหล่นลงมาข้างล่างโดนหอกเสียบนายนิริยบาลเอาหอกแทงขึ้นไปใหม่ หัวขาดก็ขาดว๊าบเดียว เดี๋ยวก็มีใหม่ พอไปเห็นท่านเข้าก็ขอให้เขานำขึ้นมา เขาก็เอาขึ้นมาให้ พอขึ้นมาสภาพก็เป็นพระ รูปร่างหน้าตาดี
    ถามว่า "บวชพระทำไมจึงลงมาแบบนี้" ท่านอยู่จังหวัดไหนอย่างถามเลยนะ ท่านก็บอกตามความเป็นจริงว่า "ผมบวชมาจนอายุ ๗๒ ปี ก็ ๕๒ พรรษา ผมเป็นสมมุติสงฆ์จริงๆ แค่ ๒ พรรษา นอกนั้นหมดสภาพจากความเป็นพระ แล้วครองผ้าเหลืองอยู่เรื่อยๆ โทษถึงหนัก"
    ถามว่า "ทำไมไม่ลงอเวจี" ท่านบอกว่า "ตอนใกล้จะตาย ๒-๓ ปี ก็รู้สึกตัว แต่ว่าถอนตัวไม่ได้ ก็ขอขมาพระรัตนตรัย ของที่เคยขนไปขายก็ไม่ขายละ ทรัพย์สมบัติต่างๆที่ได้จากเงินไม่ดีนี่ก็มาทำการบูรณะปฏิสังขรณ์ต่างๆ สังฆทานบ้าง ทำอะไรบ้าง จึงกระตุ้นให้มาอยู่ที่ขุม ๗"
    แต่ว่าองค์นี้มีสมณศักดิ์นะ มียศ สมัยนั้นมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะอำเภอและเป็นพระราชาคณะ ไม่นานนักหรอก ไม่ใช่องค์ที่เล่าในเรื่อง " หลวงพ่อปาน" นะ โอ๊ยมีเยอะมาก ถ้าผ่านเข้าไปโดยมากท่านจะให้เทวดามาตาม สมัยนั้นยังไม่ลาจากพุทธภูมิ ไปดูตัวอย่างไงล่ะ แต่ไม่ได้สร้างความระยำแบบนั้นนะ
    อเวจี ตามอายุเขาก็ ๑ กัป แต่ไม่แน่นะ บางคนก็ต้องคูณ ๒ คูณ ๓ บางคนถึงคูณ ๔ ก็ลงโลกันต์ไปเลย เอาไปเก็บโลกันต์ก่อนแล้วจึงขึ้นมาคิดกันใหม่ ถ้าคูณด้วย ๔ นี่ลงโลกันต์ทุกคน ก็อนันตริยกรรมหนักๆ อย่างขโมยของสงฆ์บ่อยๆ ก็ลง ว่างๆ ไปขโมยกระเบื้องจากวัดมาสักแผ่น กระเบื้องหักๆ ก็ได้ ถ้า ๒-๓ แผ่นก็ไปแล้ว
    รู้ตัวก็ชำระหนี้สงฆ์ เสีย สรุปเลย สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ถ้าคนเดียวก็หมื่นเดียว ถ้าหลายคนก็ห้าหมื่น ความจริงก็ดีเหมือนกันแหละ ท่านช่วยแก้ให้ดีมาก เรื่องนี้เราเป็นทุกข์กันมาก เพราะเรื่องของสงฆ์นี่เราไม่ค่อยรู้กัน ที่นาไม่ปรากฏเป็นวัดหรือที่ธรณีสงฆ์ที่เขาถวาย สิทธิของสงฆ์มีอยู่ แม้แต่หญ้าต้นเดียวก็ถือว่าขโมยของสงฆ์ ขโมยของสงฆ์มันมีตราเดียว คือ "อเวจี" ไม่มีผ่อน
    สมัยหลวงพ่อปานยังอยู่ ที่วัดมีไม้ไผ่มาก เวลานี้เขาโค่นหมด ถึงปีท่านก็ซื้อของสงฆ์ ท่านประชุมสงฆ์ มะม่วงก็ดี ขนุนก็ดี ฝรั่งก็ดี มะดันก็ดี ของที่มีอยู่ในวัด ไม้ไผ่ก็ดี หน่อไม้ก็ดี ท่านขอซื้อ สมัยนั้นท่านตีราคา ๘๐ บาท ถ้าอนุมัติขอให้สงฆ์ "สาธุ" พระสงฆ์สาธุก็ใช้ได้ ท่านก็ตั้งใจให้เป็นทานเมตตาคน แต่ว่าที่วัดท่าซุงฉันยังไม่ได้ซื้อนะ ถ้ามันเกินไปไม่ได้หรอก อย่างดอกไม้นี่ไม่เป็นไรแน่ ดอกไม้ที่ในวัด ถ้าเจ้าของเขาปลูกยังมีอยู่ ถ้าคนปลูกยังเป็นพระอยู่ ยังไม่สึกไปยังไม่ตาย เขามีสิทธิ์จะให้ใครก็ได้ ถ้าคนปลูกนั้นเขาสึกไปก็ดี เขาตายก็ดี ก็ตกเป็นของสงฆ์ แต่ว่าเรื่องนี้ฉันกันไว้แล้วเพราะว่าสงฆ์เป็นหนี้ฉันเยอะ
    อ้าว...ถ้าเงินสงฆ์ไม่พอ เงินญาติโยมที่ให้ฉัน ฉันก็ให้แทนสงฆ์เรื่อย สร้างวัด ฉันก็เลยเอาเงินส่วนนี้กันให้
    "ของหลวง" สบายมาก ของหลวงนี้เท่าของสงฆ์เลย เพราะอะไรรู้ไหม ภาษีอากรจากคนทั่วประเทศ สบายมาก ไม่ถึงโลกันต์ก็บุญตัวแล้ว

    จากหนังสือพ่อสอนลูก หน้า ๔๑-๔๕
     
  2. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าขออุทิศให้<O:p</O:p


     
  3. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    <!-- / message --><!-- edit note -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...