มนุษย์ในสมัยพระพุทธเจ้ามีอายุเป็นเเสนปีเลยจริงหรือครับ ?

สาาาาา...ธุ<O</O
กระทู้นี้เจริญปัญญาดีมากครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ให้ธรรมทานครับ

 

ดวงอาทิตย์ จะเกิดดับอีกหลายรอบ ในวันโลกาวินาศ จะขึ้นพร้อมกัน 7 ดวง

อนันตรจักรวาล นั้นกว้างใหญ่ มากกว่าที่เรารับรู้ สิ่งมีชีวิตในโลกอื่นนั้น ไม่มีใครพบ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มี ชมพูทวีปเป็นส่วนเดียวเท่านั้น

ในโลกอื่น มาตรวัดในเรื่องต่าง ๆ เช่น ขนาด เวลา นั้นขึ้นอยู่กับ สถานที่
เช่น ไปแค่ดวงจันทร์/ดาวอังคาร น้ำหนัก ความหนาแน่นของมวลสารก็ต่างกัน
วงจรเวลาของโลกแมลง นั้น เท่ากับไม่กี่ชั่วโมง ของมนุษย์
50 ปี ของมนุษย์ เท่ากับ 1 วัน ในชั้นจตุมหาราชิกา

เวลานั้นสัมพันธ์ไปกับภพภูมิด้วย

 

ได้รับสาระความรู้มากครับ

 

พระพุทธศาสนาเราเสียตรงนี้หละ ตรงที่อ้างว่า
คนสมัยก่อนอายุยาวเป็นแสนๆปี แต่ไม่สามารถหาข้อเท็จจริงมาอ้างได้
ได้แต่บอกว่าก็ทำสมาธิแล้วให้บรรลุอรหันต์ซิ เดี๋ยวก็รู้เอง

ศาสนาอื่นได้ยินเข้าก็หน้าหงายและหัวเราะเยาะใส่
ไม่สงสัยบ้างเหรอพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทำไมอายุแค่ 80 ปี
แต่พระพุทธเจ้าก่อนหน้าท่านอายุ 20000 คือพระกัสสป
ทำไมไม่ค้นพบซาก คนยุคนั้นๆเลย เห็นแต่เจอกระดูกไดโนเสาร์

นี่หละประเด็นที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้ จึงเห็นว่าไม่ควรยกเอามาพูดหรือสาธยาย
ณ ตอนนี้ ที่ควรเน้นคือ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ก็พอแล้ว

และก็เรื่องพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปในอนาคตอีกเหมือนกัน เขียนไปเรื่อยว่า องค์ต่อไปคือพระศรีอาริย์ แล้วรู้ได้ไงว่าองค์ต่อไปชื่อนี้ และแถมบอกด้วยนะว่าอายุ 80000 ปี แค่วันพรุ่งนี้ฝนจะตกหรือเปล่ายังบอกไม่ได้เลย

ถ้าจะลบคำสบประมาทนี้ได้ต้องให้พระอรหันต์องค์ใดองค์แสดง ยมกปาฎิหาริย์
แสดงภาพอดีตกาลย้อนไปแสนๆกัลป์ให้คนไทยทุกคนได้เห็นด้วยตาว่า เนี่ยที่พูดๆมาว่า พระพุทธเจ้าอายุเท่าโน้นเท่านี้ มีจริงนะ

นั่นแหละถึงจะเชื่อสนิทใจ

///////////////////////////////////////////////////////////////////////

งั้นชาตินี้ก็คงไม่มีโอกาสได้เชื่อหรอกคับ เขาให้ทำเองยังไม่ทำเลย หวังแต่ให้คนอื่นมาแสดงฤทธิ์มาทำให้ดู ใครเขาจะมาทำ ไม่ต้องถึงอรหันต์หรอกคับ แต่ อตีตังสญาณ ก็ย้อนดูได้แล้ว เรือ่งของพุทธศาสนา เป็นเรื่องของจิตล้วนๆคับ แต่เป็นวิทยาศาสตร์ทางจิต ถ้าจะพิสูตรคำสอนตอ้งพิสูจน์ด้วยจิต จะเอาวัตถุมาพิสูจน์ ไม่ได้ ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย ยังพิสูจย์ไม่ได้เลยคับ

อธิบายเรื่อง อายุขัย และซาก ก่อนที่คุรจะปรามาส คุณควรทำความเข้าใจก่อน ว่ากัปนึ่งมีอายุยาวนานเท่าไร และคุณควรจะรู้ด้วยว่าหลังจากที่พระพุทธเจ้าองค์หนึ่งเสด็จดับขันธปรินิพพานไปหรือพุทธศาสนาหมดไป จะเกิดช่วงที่ว่างขึ้น ชื่อว่า สูญกัปป์ ซึ่งเป็นกัปย่อย ช่วงนี้ภัยพิบัติมีมาก ท้ายที่สุดไฟจะใหม่โลกทั้งโลก แต่นั้นก็จะมีการนับ 1 เริ่มต้นสรรพชีวิตกันใหม่ แล้วซาก กระดูก มันจะไปเหลืออะไรละคับ ถ้า คิดจากตรรกอันนี้ แต่มันก็ยากที่จะเชื่อพิสูจยืได้ละคับ (ด้วยตาเปล่าด้วยวัตถุ) ถ้าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่ต้น อย่าไปยึดติดจนเกินไปว่าใครเขาจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องของเขา

โมทนา
<!-- / message -->

 

เวลาเป็นสิ่งสมมุติ คนจะอายุ100ปี 1000ปี ก็สักแต่ว่ามีเพียง 1 ชั่วชีวิต พระพุทธเจ้าอายุ10000ปี ศาสนาก็มีอายุ10000ปี ดูตามตัวเลขเหมือนจะนาน แต่ความจริงแล้วก็เพียง 1 ชั่วชีวิตคนเท่านั้นเอง

 

มนุษย์หนอมนุษย์ ตามืดบอดยังอวดว่าตนตาดี ปัญญาน้อยแต่อวดว่าตนเป็นผู้มีปัญญามาก อ่านแล้วน่าอนาถใจ
(แต่ก็แปลกยังมีคนอนุโมทนาให้อีก เหอๆๆ)

เอามาให้อ่านเล่นๆนะ อย่าซีเรียส นำมาจาก หนังสือ "รวมคำสอนธรรมปฏิบัติ เล่ม 1"

"คนใดก็ตามที่ประกาศตนเป็นอาจารย์พระพุทธเจ้า รู้ดีเกินพระพุทธเจ้า ที่บอกของพระพุทธเจ้าไม่ดี
ไม่ทันสมัย เอาอย่างโน้นดีกว่า อย่างนี้ดีกว่า ผมไม่คบด้วย พวกจัญไรนี่ไม่คบ คบยังไง มันจะไปไหน
ไอ้พวกนี้ โน้น อเวจีมหานรก เพราะทำคนทั้งหลายที่มีเจตนาดี ให้มีมิจฉาทิฏฐิ ปฏิบัติผิด
ฟังความเห็นผิด กรรมมันมาก"

 

ขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

เมื่อก่อน มนุษย์มีกายเป็นทิพย์ พอมีกิเลส ร่างกายก็หยาบขึ้นเรื่อย ๆ
คนสมัยก่อน กายจะละเอียดกว่าพวกเรามากมายนัก กระดูกจึงไมปรากฏเป็นซากฟอสซิลอย่างไดโนเสาร์

 

ในอดีตกาลตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ในวันออกพรรษา ก็ได้แสดงปาฏิหาริย์ให้ทุกภพทั้งนรก โลก และสวรรค์ เห็นซึ่งกันและกันมาแล้ว แต่ก็ยังมีคนที่มีมิจฉาทิฐิไม่เชื่ออยู่ดีครับ นึกว่าเป็นภาพลวงตา ส่วนที่ไม่เจอซากหรือกระดูกคนยุคก่อนหน้าก็น่าจะมีเหตุผลว่า 1 พุทธันดร (ระยะระหว่างพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งกับอีกองค์หนึ่ง) เป็นระยะเวลานานมากวัดเป็นกัปป์ เคยมีเพื่อนบอกว่า ฝรั่งสงสัยว่าทำไมต้องมีหน่วยวัดเป็นกัปป์ ในพระพุทธศาสนา จะมีอะไรที่ต้องใช้หน่วยนี้ในการระบุ เพราะมันเป็นตัวเลขที่มากๆๆๆๆ โดย 1 กัปป์ ประมาณ สามล้านสองแสนเจ็ดหมื่นหกพันแปดร้อยล้านล้านล้านล้าน ปีประมาณ 3.3 X 10 ยกกำลัง 30 ปี นานกว่ายุคไดโนเสาร์แน่ๆ ครับ และในกัปป์นี้มีพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ถ้าลองหาร 5 ดูก็ยังเป็นตัวเลขที่แทบไม่ลดลงเลย ดังนั้นอายุคนในสมัยพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ จึงเป็นสมัยของคนที่อยู่ในช่วงเวลาที่แตกต่างกันมากๆ เลยครับ และวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่เขาสันนิษฐานกันก็ไม่กี่ล้านปีเท่านั้นเอง ที่คนวิวัฒนาการตั้งแต่มาจากสัตว์เซลเดียว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะไม่พบกระดูกเหล่านี้ เพราะกระดูกที่พบก็อายุไม่กี่ล้านปีไม่ใช่หรือครับ แต่พุทธันดรนี้ประมาณล้านล้านล้านล้านปีครับ ผมว่าถ้าฝรั่งเขาไม่เชื่อก็ช่างเขาเถอะ เพราะมันพิสูจน์ยาก เหมือนกับสมัยก่อนถ้ามีใครบอกว่า ในอนาคตคนในซีกโลกหนึ่งจะคุยกับคนในอีกซีกโลกหนึ่งได้ ก็คงไม่มีใครเชื่อเหมือนกัน แต่คนก็พัฒนาโทรศัพท์มือถือให้ส่งข้อมูลเสียงผ่านคลื่นได้ นั่นก็น่าจะสรุปได้ว่า วิทยาศาสตร์ยังไม่ทันพุทธศาสตร์ มีอีกเรื่องหนึ่งที่ฝรั่งทึ่ง ก็คือได้ยินมาว่าในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าตรัสว่า 1 เมล็ดข้าวประกอบด้วยสิ่งเล็กๆ จำนวน xxx และพอฝรั่งคำนวณก็ไปเท่ากับอะตอม ซึ่งน่าทึ่งมาก

 

อนโมทนากับผู้รู้และผู้ไฝ่รูทุกท่านครับ

ถ้าสงสัยก็ต้องศึกษาแล้วจะแจ้งกระจ่างใจได้เองครับ สิ่งที่สงสัย ในนี้จะช่วยได้ครับ
เรื่องของอสงไขยปี อสงไขยกัป...นับการอย่างไร อายุมนุษย์ 100000 ยังน้อยไปกว่าที่กล่าาไว้อีกครับ นี้เป็ส่วนหนึ่งครับ


<CENTER></CENTER><CENTER>อสงไขยปี เป็นอย่างไร </CENTER>

ในยุคแรกๆ มนุษย์นั้น จะมีอายุขัยที่ยืนยาวมาก คือจะมีอายุ เท่ากับ เอาเลข 1 นำหน้า แล้วตามด้วยเลข 0 อีก 140 ตัว จำนวนทั้งหมดนี้แหละครับที่เขาเรียกกันว่า อสงไขยปี





<CENTER>หนึ่งรอบอสงไขยปี เป็นอย่างไร </CENTER>

ในทุก 100 ปี มนุษย์เราจะมีอายุขัยสั้นลง 1 ปี และจะเป็นอยู่อย่างนี้เรื่อยมา คือ จะมีอายุขัยสั้นลงๆ จนกว่าจะมีอายุขัยที่ต่ำสุด คือ 10 ปี การลดลงของอายุขัยก็จะหยุดลง และจะเริ่มต้น การมีอายุที่ยืนยาวขึ้น จาก 10 ปี เป็น 11 ปี โดยใช้วิวัฒนาการ ทุกๆ 100 ปีเช่นกัน และจะมีการพัฒนาเช่นนี้ ต่อไปเรื่อยๆ
จนกว่า อายุ จะเท่ากับ อสงไขยปี เช่นเดิม คือ 1 แล้วตามด้วย 140 ศุนย์ กำหนดระยะเวลาทั้งหมดนี้ เราเรียกว่า หนึ่งรอบอสงไขยปี และการที่ครบรอบหนึ่งอสงไขยปีนี้แหละ ก็จะเท่ากับ หนึ่ง อันตรกัป

 

ท่านอาจจะเคยเกิดเป็นมนุษย์ในยุคสมัยที่พระพุทธเจ้ามีอายุเป็นแสนปีแล้วก็ได้ เพียงแต่ท่านจำไม่ได้ หรือท่านอาจจะไม่เคยเกิดเป็นมนุษย์ในยุคนั้นเลยก็ได้อีกเช่นกัน แต่ที่แน่ๆ คือ ผมและท่านๆ ยังเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏนี้อยู่อย่างแน่นอน ทราบใดที่เราๆท่านๆ ยังไม่เข้าสู่แดนทิพย์พระนิพพาน ก็ยังเวียนว่ายตายเกิดใน 31 ภพภูมินี้แหละครับ

 

อนุโมทนาสาธุ....กับทุก ๆ ท่านที่ได้สนทนาธรรมร่วมกันนะคะ บางเรื่องที่เราอาจจะไม่รู้มาก่อน...ก็ได้รู้...บางเรื่องที่รู้มาแบบผิด ๆ ก็จักได้เข้าใจกันเสียใหม่ค่ะ

 

เกิดแต่กรรม

​

เหตุที่มนุษย์มีสภาพแตกต่างกัน​

ฆ่าสัตว์ ไม่มีความกรุณา เป็นเหตุให้ อายุ สั้น
ไม่ฆ่าสัตว์ มีความกรุณาเป็นเหตุให้ อายุ ยืน
เบียดเบียนสัตว์ เป็นเหตุให้ มีโรค มาก
ไม่เบียดเบียนสัตว์ เป็นเหตุให้ มีโรค น้อย
มักโกรธ มีความคับแค้นใจมากเป็นเหตุให้ ผิวพรรณ ชั่ว
ไม่โกรธ ไม่มีความคับแค้นใจ เป็นเหตุให้ ผิวพรรณ ผุดผ่อง
มีใจประกอบด้วยความริษยาผู้อื่นเป็นเหตุให้ มีอานุภาพ น้อย
มีใจไม่ริษยาผู้อื่น เป็นเหตุให้ มีอานุภาพ มาก
ไม่บริจาคทาน เป็นเหตุให้ ยากจน อนาถา
บริจาคทาน เป็นเหตุให้ มีโภคสมบัติมาก
กระด้าง ถือตัว เป็นเหตุให้ เกิดในสุกล ต่ำ
ไม่กระด้าง ไม่ถือตัว เป็นเหตุให้ เกิดในสกุล สูง
ไม่อยากรู้ ไม่ไต่ถามผู้มีปัญญา เป็นเหตุให้ มีปัญญา น้อย
อยากรู้ หมั่นไต่ถามผู้มีปัญญา เป็นเหตุให้ มีปัญญา มาก

สัตว์นรก ครั้นสิ้นกรรมแล้ว มาเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมเกิดในสกุลต่ำ เป็นคนยากจนอดอยาก เป็นอยู่โดยฝืดเคือง มีรูปร่างผิวพรรณไม่สมประกอบ

กิจโฉ มนุสสะปฏิลาโภ การเกิดเป็นมนุษย์ นั้น แสนยาก
กิจฉัง มัจจานะ ชีวิตัง การดำรงชีวิตอยู่ของสัตว์ทั้งหลาย นั้น แสนยาก
กิจฉัง สัทธัมมัสสะวะนัง การได้ฟัง พระสัทธรรม นั้น แสนยาก
กิจโฉ พุทธานะมุปปาโท การบังเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย นั้น แสนยาก

 

สาตุ๊

 

ขอบคุณในธรรมทานที่ทุกท่านได้ให้แลกเปลี่ยนความรู้กันค่ะ..
ยอมรับว่าไม่เคยศึกษาลึกซึ้งแบบเนี่ยมาก่อนเลย..โมทนาค่ะ
รู้และปฏิบัติเยอะๆ กันเข้าไว้ดีแล้วค่ะ...สาธุ

 

<TABLE class=tborder id=post1268950 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">เมื่อวานนี้, 03:14 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#16 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>intelinside<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1268950", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งล่าสุด: เมื่อวานนี้ 04:27 PM
วันที่สมัคร: Jun 2008
ข้อความ: 3
Groans: 0
Groaned at 3 Times in 1 Post
ได้ให้อนุโมทนา: 6
ได้รับอนุโมทนา 35 ครั้ง ใน 3 โพส
พลังการให้คะแนน: 0




</TD><TD class=alt1 id=td_post_1268950 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->พระพุทธศาสนาเราเสียตรงนี้หละ ตรงที่อ้างว่า
คนสมัยก่อนอายุยาวเป็นแสนๆปี แต่ไม่สามารถหาข้อเท็จจริงมาอ้างได้
ได้แต่บอกว่าก็ทำสมาธิแล้วให้บรรลุอรหันต์ซิ เดี๋ยวก็รู้เอง

ศาสนาอื่นได้ยินเข้าก็หน้าหงายและหัวเราะเยาะใส่
ไม่สงสัยบ้างเหรอพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันทำไมอายุแค่ 80 ปี
แต่พระพุทธเจ้าก่อนหน้าท่านอายุ 20000 คือพระกัสสป
ทำไมไม่ค้นพบซาก คนยุคนั้นๆเลย เห็นแต่เจอกระดูกไดโนเสาร์

นี่หละประเด็นที่หาข้อพิสูจน์ไม่ได้ จึงเห็นว่าไม่ควรยกเอามาพูดหรือสาธยาย
ณ ตอนนี้ ที่ควรเน้นคือ คำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ก็พอแล้ว

และก็เรื่องพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปในอนาคตอีกเหมือนกัน เขียนไปเรื่อยว่า องค์ต่อไปคือพระศรีอาริย์ แล้วรู้ได้ไงว่าองค์ต่อไปชื่อนี้ และแถมบอกด้วยนะว่าอายุ 80000 ปี แค่วันพรุ่งนี้ฝนจะตกหรือเปล่ายังบอกไม่ได้เลย

ถ้าจะลบคำสบประมาทนี้ได้ต้องให้พระอรหันต์องค์ใดองค์แสดง ยมกปาฎิหาริย์
แสดงภาพอดีตกาลย้อนไปแสนๆกัลป์ให้คนไทยทุกคนได้เห็นด้วยตาว่า เนี่ยที่พูดๆมาว่า พระพุทธเจ้าอายุเท่าโน้นเท่านี้ มีจริงนะ

นั่นแหละถึงจะเชื่อสนิทใจ


</TD></TR></TBODY></TABLE>
believe คำๆนี้ แปลว่า เชื่อ ใช่ไม๊
ไม่น่าเชื่อเลยใช่ไม๊ หัวข้อกระทู้นี้ อ่ะ
เป็นไปไม่ได้เลยใช่ไม๊

ถ้าจิตเรานะ อ่านแล้วนะ แล้วก็ส่งให้สมองคิดนะ อ่ะ
impossible ใช่ไม๊ อ่ะ

 

ถึง สมาชิกชาวพลังจิต ผู้เจริญด้วยอายุ

ท่านจะเพียรถกเถียงในเรื่องอายุของเหล่าองค์พระศาสดาไปไย
ในเมื่อหนทางไปสู่นิพพานเป็นที่น่าค้นหาและประเสริฐกว่าเป็นไหนๆ

ถึงพวกท่านจะทราบถึงอายุแห่งพระศาสดา ก็เป็นเพียงอุปมาขึ้นมาให้เกิดศรัทธาเท่านั้น
หาได้เป็นหนทางหลุดพ้นแห่งวัฏฏะสงสารไม่ ไม่ใช่หนทางดับกิเลสในขันธ์สันดานแต่ประการใด

พระพุทธองค์ไม่ทรงเน้นในข้อมูลเหล่านี้ แต่ทรงมุ่งสั่งสอนในโพธิปักขิยะธรรม 37 ประการ อันเป็นหนทางพ้นทุกข์โดยแท้

ท่านผู้เจริญทั้งหลายพึงพิจารณาธรรม ตามสมควรแก่เหตุเถิด

อนุโมทนา.....สาธุ

 

<TABLE class=tborder id=post1183065 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"><!-- status icon and date --> 09-05-2008, 02:57 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>tummaism<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1183065", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 02:30 PM
วันที่สมัคร: Apr 2008
ข้อความ: 185
Groans: 3
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 291
ได้รับอนุโมทนา 1,144 ครั้ง ใน 156 โพส
พลังการให้คะแนน: 21




</TD><TD class=alt1 id=td_post_1183065 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->มนุษย์ในสมัยพระพุทธเจ้ามีอายุเป็นเเสนปีเลยจริงหรือครับ ?
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->พอดีผมกําลังอ่านหนังสือธรรมะเล่มหนึ่งของทางวัดเเห่งหนึ่งในอเมริกา เล่มใหญ่มากๆ เห็นมีเกี่ยวกับว่า มนุษย์สมัยก่อนนั้นมีอายุเป็นเเสนปีเลย จริงหรือครับ ? ผมเห้นคนบนโลกเราอายุได้ ร้อยปีก็เเก่เหี่ยวเเทบไม่มีเเรงเดินกันเเล้ว โอ้โห ไม่อยากคิดเลย ถ้าอยู่ถึงเเสนปี ร่างกายเราจะเป็นอย่างไร รบกวนท่านผู้รู้ครับ ขอบคุณครับ
<!-- / message -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>
หนังสือธรรมมะ จากวัดแห่งหนึ่งในอเมริกา
sense จากจิตของตัวตนของเราเองนะ
ที่ได้จากสมองของเราเองนะ

เชื่อไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้น เราก็ไม่ควรเชื่อ

เหตุผลที่เราไม่เชื่อ เราก็ต้องดูที่มาที่ไปของหนังสือ
ว่ามาจากไหน ใครเป็นคนเขียนขึ้น

แค่นี้แหละ สมองเราก็ตัดสินได้เลยว่า
คนเขียน และผู้ร่วมจัดทำหนังสือนั้น

สรุป มีจุดมุ่งหมาย เพื่อประโยชน์ส่วนตัว
สร้างเรื่อง สร้างบารมี ให้กับพวกพ้อง ของตน

 

หนังสือ เกี่ยวกับศาสนา มีเยอะแยะมากมาย

พุทธ และ คริสต์

ปาฏิหาริย์ สุดจะพรรณา ทุกคน ก็ได้อ่านกันมาแล้วนะ

แต่เมื่อเราลองมองย้อนกลับมาหาชีวิตของมนุษย์เรา ในปัจจุบันนี้
เราเคยเจอ สิ่งปาฏิหาริย์ เจอจริงๆนะ
เป็นรูปแบบ เป็นวัตถุ เป็นคนจริงๆ
แบบในหนังสือ พุทธ และ คริสต์ ไม๊