ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

More than 80,000 dead or missing in China quake

Thu May 22, 2008 10:15am EDT



<SCRIPT language=JavaScript type=text/javascript>document.write("<script src="/resources/js/linkback.js"></scr" + "ipt>");</SCRIPT><SCRIPT src="/resources/js/linkback.js"></SCRIPT>

เยอะจัง อาจจะถึงแสนก็ได้นะ

 

ฟิลิปปินส์ เจอหนักๆ แต่ต้นปีเลย

Tornado Rips Through 5 Southern Leyte Villages
<!-- templateDebugMode: start template: articleLists/categoryIndex.html - templateCell: pageDefault.embeddedMedia --><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=0 width=100 align=left border=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- /templateDebugMode: end template: articleLists/categoryIndex.html - templateCell: pageDefault.embeddedMedia -->MANILA, Philippines - A rare footage of tornado that wrecked five villages in Southern Leyte was captured on video. The footage showed the tornado gathering strength off the sea in the said province.
May 21, 2008 - 10:33:35 AM

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 align=center border=0 valign="top"><TBODY><TR><TD class=text5 width=626 bgColor=#414141 height=97>วาฬกว่า 100 ตัวเกยชายหาดเซเนกัล ตายแล้วอย่างน้อย 38 ตัว</TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=626 border=0><TBODY><TR><TD width=14 bgColor=#414141></TD><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=599 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=599><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=599 border=0><TBODY><TR><TD class=text4>08:37 น.

<DD>ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์และเจ้าหน้าที่กองทุนสัตว์ป่าโลก เปิดเผยว่า ตั้งแต่คืนวันอังคารจนถึงเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น มีวาฬมากถึง 100 ตัว ว่ายไปเรียงรายเกยชายหาดแห่งหนึ่งในกรุงดาการ์ของเซเนกัล กระทั่งบ่ายวันพุธพบว่าวาฬตายแล้วอย่างน้อย 38 ตัว เจ้าหน้าที่กับชาวบ้านช่วยกันนำวาฬกลับลงทะเลได้มากถึง 60 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่มีขนาดใหญ่กว่ามนุษย์ ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นวาฬพันธุ์ใด แต่เจ้าหน้าที่กองทุนสัตว์ป่าโลกเชื่อว่าเป็นวาฬพันธุ์นำร่อง (pilot whales) หรือวาฬหัวแตงโม (melon-headed whales) เขาบอกว่ามีสมมุติฐาน 3 ข้อสำหรับกรณีนี้ ข้อแรกคือระบบโซนาร์ของพวกมันทำงานผิดพลาด ข้อที่สองคือพวกมันว่ายเข้าน้ำตื้นเพื่อหาปลากิน และข้อที่สามคือวาฬเดินทางเป็นฝูงและตัวหัวหน้าฝูงมีปัญหา
<DD>รายงานข่าวระบุว่าเด็กๆ พากันลงน้ำเพื่อช่วยไล่วาฬที่พยายามว่ายเข้าฝั่ง ขณะที่ชาวประมงใช้เคเบิ้ลผูกวาฬตัวหนึ่งและใช้เรือไม้พยายามลากมันกลับไปยังทะเลลึก ขณะที่บางคนใช้แผ่นโรลเลอร์ที่ใช้ย้ายเรือลงน้ำสอดใต้ร่างของวาฬอีกตัว และพยายามนำมันกลับลงน้ำ แต่เลิกพยายามเมื่อพบว่าวาฬตัวนั้นใกล้สิ้นใจ แต่พวกเขาก็สามารถช่วยวาฬเพศเมียตัวหนึ่งกับลูกหลังวาฬตัวนั้นให้กำเนิดลูกบนชายหาด
<DD>รายงานข่าวระบุด้วยว่าเมื่อเห็นได้ชัดว่าวาฬหลายตัวตายลง เด็กๆ เริ่มเล่นกับซากวาฬด้วยการขึ้นไปกระโดดเหยียบ ขณะที่ชาวบ้านบางคนตัดซากวาฬโดยบอกว่าจะเอาไปทำน้ำมันถูนวด ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการขอให้บริษัทก่อสร้างที่ทำงานอยู่บนถนนแถบนั้น เข้าช่วยขนซากวาฬใส่รถดัมพ์ โดยโฟร์แมนของบริษัทกล่าวว่าไม่สมควรปล่อยให้ชาวบ้านนำเนื้อวาฬไปบริโภค เพราะไม่แน่ชัดว่าวาฬป่วยตายหรือไม่ </DD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ทะเลอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่าครับ...ปลาวาฬถึงมาเกยตื้น

 

นำมาจากพันทิพ ประสบการณืของชาวฟลอริด้ากับเฮอริเคน

เบคกี้ วิธสแตนลีย์ ชาวฟลอริดาและสามี คริส ถูกบังคับให้ต้องออกจากบ้านของพวกเขาในวันหยุดวันแรงงานปี 2547 เมื่อเฮอริเคนฟรานซ์โจมตีคอนโดของพวกเขา ฤดูร้อนปี 2548 ขณะที่เฮอริเคนแคทริน่าช็อคโลกด้วยอานุภาพการทำลายที่โหดร้ายของเธอ ชาวอเมริกันที่เคยถูกปล้นโดยเฮอริเคนลูกก่อนๆ หน้านี้ต้องสร้างเนื้อสร้างตัวกันใหม่ มันกลายเป็นตำนานที่ทุกคนคุ้นเคย ชีวิตต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือด้วยน้ำมือของเฮอริเคนที่โหมกระหน่ำ

ปลายสิงหาคม 2547 เฮอริเคนฟรานซ์ซึ่งกลายเป็นเฮอริเคนลูกใหญ่เป็นอันดับสามของฤดูดังกล่าว กระตุ้นเตือนความทรงจำของชาวฟลอริดาอย่างครอบครัววิธสแตนลีย์ ให้ทำการสำรองอาหารและ ตีไม้ปิดหน้าต่าง ในวันที่ 1 กันยายน มีประกาศแถลงการณ์ฉุกเฉิน และคนจำนวนครึ่งล้านรวมถึงครอบครัววิธสแตนลีย์ ถูกบังคับให้ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตน เกือบสองอาทิตย์หลัง เฮอริเคนชาร์ลีย์โจมตี ทิ้งผู้เสียชีวิต 15 รายไว้เบื้องหลัง เฮอริเคนฟรานซ์ก็บึ่งลงไปยังเกาะ เซาต์ฮัชชินสันซึ่งเป็นเกาะที่ขวางหน้าพายุที่ซึ่งครอบครัววิธสแตนลีย์อาศัยอยู่ “ธุรกิจพัง บ้านเรือนพัง” ครอบครัววิธสแตนลีย์กล่าว

พายุทวีความรุนแรงขึ้นแล้ว
หลักฐานที่เชื่อมโยงการร้อนขึ้นของโลกกับเฮอริเคนกำลังปรากฎให้เห็น สภาพภูมิอากาศที่ร้อนขึ้นทำให้น้ำในทะเลร้อนขึ้น และน้ำทะเลที่ร้อนขึ้นเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีสำหรับเฮอริเคน นักวิทยาศาสตร์ได้พยากรณ์มาเป็นเวลานานแล้วว่าภาวะโลกร้อนจะทำให้เกิดพายุที่รุนแรงยิ่งขึ้น คำถามที่ยังคาใจคือ “เมื่อไหร่เฮอริเคนที่รุนแรงขึ้นจะมาถึง ?” และ “พายุเหล่านี้จะรุนแรงแค่ไหน?” นักวิทยาศาสตร์หลายรายตีพิมพ์บทความในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาโดยแสดงถึงหลักฐานที่แน่นหนาว่าคำตอบคือ “ความรุนแรงนั้นได้ปรากฏขึ้นแล้ว” และ “เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก” การวิจัยเร็วๆ นี้สรุปในรายงานปี 2550 โดยคณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPPC) ระบุว่าเฮอริเคนที่รุนแรงยิ่งขึ้นในแอตแลนติกเหนือ “มีความสัมพันธ์กับการสูงขึ้นของอุณหภูมิของผิวหน้าทะเลเขตร้อน”

การศึกษาของเอ็มไอทีปี 2548 พบว่าอานุภาพในการทำลายล้างของพายุโซนร้อนจะทวีความรุนแรงเป็นสองเท่าระหว่างช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลดังกล่าวสัมพันธ์กับความโหดร้ายที่เพิ่มขึ้นและอุณหภูมิผิวหน้าของน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น โดยเป็นเครื่องเตือนของความสัมพันธ์ที่แน่นเหนียวกับการร้อนขึ้นของโลก การวิจัยที่สถาบันเทคโนโลยีจอร์เจียพบว่าจำนวนเฮอริเคนที่มีความรุนแรงระดับ 4 และ5 เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่านับตั้งแต่ทศวรรษ 70 สำหรับชาวอเมริกันนับพันรายที่ต้องย้ายถิ่นฐานเพราะเฮอริเคน แอนดรูว์ ชาร์ลีย์ ฟรานซ์และอื่น ๆ อีกจำนวนมาก นี่เป็นเกร็ดชีวิตที่ยากจะลืมเลือน

อุทกภัยทำลายบ้านเรือน วิธสแตนลีย์ สามีของเธอ และโคดี้แมวของพวกเขา ย้ายไปยังสถานที่ที่ปลอดภัยบนแผ่นดินใหญ่เพื่อรอให้พายุสงบ "ฉันรู้สึกสบายใจมากที่คอนโดของเราจะยังอยู่ดี เพราะเรามีที่กำบังเฮอริเคนซึ่งทำจากบล็อกคอนกรีต” วิธสแตนลีย์กล่าว “จะเป็นยังไงถ้าหลังคาหายไป และทันใดนั้นทุกอย่างหลุดออกเป็นชิ้นๆ หลังคาเปิดออกและน้ำเริ่มทะลักเข้าไป” น้ำไหล่บ่าท่วมคอนโดทั้งสามชั้น

ประมาณ 6 สัปดาห์หลังจากพายุ เมื่อประชากรในเซาต์ฮัชชินสันได้รับอนุญาตให้กลับบ้านของตน ครอบครัววิธสแตนลีย์เริ่มต้นการเดินทางเพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของตน หลังจากการเดินทาง 2-3 ครั้ง ปัญหาใหญ่คือหลักฐาน “พวกเชื้อราพากันโตเอาๆ” วิธแสตนลีย์กล่าว บริษัทประกันบอกคู่สามีภรรยาว่าพวกเขาต้องเคลื่อนย้ายทุกสิ่งที่เชื้อราจะเติบโตได้ ในเวลาสั้นๆ ห้องทั้ง 15 ยูนิตในคอนโดดังกล่าวต้องอพยพอีกครั้งเพราะเชื้อรา

เดือนแห่งการก่อสร้าง หลังจากครอบครัววิธสแตนลีย์พบสถานที่อื่นสำหรับพักอาศัย การรอคอยก็เริ่มต้นขึ้น เป็นเวลาหลายต่อหลายเดือนที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นขณะที่ครอบครัววิธสแตนลีย์และ เพื่อนบ้านของเขาเฝ้ารอใบอนุญาตและผู้รับเหมา และจากนั้นหลังคาชั่วคราวก่อนที่จะมีการปูหลังคาใหม่ ท้ายที่สุดด้วยเงิน 50,000 เหรียญที่มาอย่างล่าช้า เนื่องจากบริษัทประกันไม่พร้อมที่จะชำระเงิน คอนโดก็เหลือแต่โครงสร้าง

ค่าใช้จ่ายเริ่มทับถม ขณะที่ประกันทำเพียงเปลี่ยนสิ่งที่สูญหายไป (ลบด้วยค่าเสียหายส่วนแรก) เงินดังกล่าวไม่เพียงพอสำหรับจ่ายหลังคากันเฮอริเคนใหม่ที่ทำจากเหล็ก เป็นเวลานานเหลือเกินนับตั้งแต่เฮอริเคนฟรานซ์มาเยือนโดยไม่ได้รับเชิญ แต่ในท้ายที่สุด อาคารยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง

หลังจากต้องใช้ชีวิตประมาณครึ่งปีกับเพื่อนคนหนึ่ง เบคกี้ วิธสแตนลีย์ ผู้จัดการธนาคาร และคริสสามีของเธอ นักชีววิทยาทางทะเล ย้ายไปอยู่ในเรือซึ่งตอนนี้พวกเขาเรียกมันว่าบ้าน เบคกี้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์และหวังว่าพวกเขา จะเริ่มต้นการสร้างบ้านใหม่ในส่วนที่พวกเขาเป็นเจ้าของ เช่น ทาสี ปูพื้นและต่อตู้ใหม่ เมื่อสิ้นเดือนมีนาคม 2549

ชายฝั่งเป็นสถานที่ดึงดูดใจชาวอเมริกันนับล้านๆ คน มากกว่าครึ่งของคนในประเทศอาศัยอยู่ในรัศมี 50 ไมล์ของแนวชายฝั่ง วิธสแตนลีย์กล่าวว่าเวลาระหว่างที่อาศัยอยู่ในเรือเป็นประสบการณ์ที่สำคัญ เธอกำลังรอคอนโดที่สามารถกันเฮอริเคนและบ้านที่รอการกลับมาของเธอเป็นเวลานาน “ฉันไม่ต้องการไปอยู่ที่อื่น”

อะไรเป็นสาเหตุของพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติก?[/color]


จากผลการวิจัยล่าสุดพบว่า สาเหตุของการเกิดเฮอริเคนก็คือ พายุฝนฟ้าคะนองในที่ราบสูงของเอธิโอเปียนี่เอง



ความสัมพันธ์กันระหว่างฟ้าแลบ และการเกิดพายุเฮอริเคน



จะช่วยให้นักวิจัยรู้ได้ทันว่าเมื่อไรพายุเฮอริเคนที่รุนแรงจะก่อตัวขึ้นหลายสัปดาห์ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริงๆได้



Dr. Colin Price จากมหาวิทยาลัย Tel Aviv ในอิสราเอล กล่าวว่า


ปัจจุบันนี้นักวิทยาศาสตร์มีโมเดลที่ทันสมัยมากมายที่สามารถทำนายว่าจะเกิดพายุขึ้นเมื่อไรที่ไหน รวมทั้งทำนายความรุนแรงของพายุได้ด้วย แต่มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่พายุก่อตัวขึ้นจริงๆที่มหาสมุทรแอตแลนติก สิ่งที่โดดเด่นเกี่ยวกับงานวิจัยชิ้นนี้ก็คือ นักวิจัยได้สำรวจตั้งแต่ขั้นแรกๆของการก่อตัวเป็นพายุก่อนที่มันจะพัฒนาไปเป็นเฮอริเคน


Dr. Price และทีมงาน


ได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับฤดูที่เกิดพายุเฮอริเคนมาก ในปี 2005-2006 และพบว่ามีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด ในปี 2005 มีพายุ 28 พายุ ในที่นี้รวมถึงเฮอริเคนคาทรินาด้วย



ส่วนในปี 2006 มีเพียง 10 พายุเท่านั้น



ลดลงถึง 64% นอกจากนี้ก็พบว่าช่วงหน้าร้อน การเกิดฟ้าแลบในอาฟริกาตะวันออก โดยมากที่พื้นที่ราบสูงของเอธิโอเปียก็มีความแตกต่างในลักษณะเดียวกันคือมีการเกิดฟ้าแลบลดลง 23% ในปี 2006 เมื่อเทียบกับปี 2005

Dr. Price นักวิทยาศาสตร์ด้านบรรยากาศ


ที่ได้ศึกษาเกี่ยวกับปรากฏการณ์ฟ้าแลบมานานกล่าวว่าทั้งสองเหตุการณ์ในต่างทวีปกันนี้มีความเกี่ยวข้องกันอยู่ โดยอธิบายว่า ฟ้าแลบที่รุนแรง ที่เกิดในอาฟริกาตะวันออกจะรบกวนกระแสลมตะวันตกที่ผ่านทวีปอาฟริกา เขาเปรียบเทียบว่า มันก็เหมือนกับหินที่อยู่ในลำธาร หินเหล่านี้จะก่อให้เกิดการกระเพื่อมของกระแสน้ำที่ไหลผ่านมันเป็น turbulence flow ยิ่งหินก้อนใหญ่การกระเพื่อมก็ยิ่งมาก ก็เหมือนกับพายุฝนที่อาฟริกา ยิ่งพายุรุนแรงก็ยิ่งส่งผลกระทบไปได้ไกล



พายุฝนที่รุนแรงจะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนไหวของบรรยากาศที่ไร้ระเบียบ


ซึ่งกระแสของบรรยากาศนี้ก็จะส่งผลให้เกิดบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ ที่เรียกว่า African easterly waves (AEW) ซึ่งเป็นที่ทราบแล้วว่ามากกว่าครึ่งของคลื่นบรรยากาศเหล่านี้ เมื่อมันเคลื่อนไปทางทิศตะวันตกเหนือมหาสมุทรแอตแลนติกจะก่อให้เกิดพายุ tropical storm (ที่มีความเร็ว 48-121 km/h) การที่พายุเหล่านี้จะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นเฮอริเคนหรือไม่ก็เป็นเรื่องของหลายๆปัจจัยเสริมต่างๆ เช่น อุณหภูมิของผิวทะเล ฝุ่นและลมที่วิ่งตัดผ่านมหาสมุทร


ทีมวิจัยของ Dr. Price


ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดฟ้าแลบจาก World Wide Lightning Location Network ซึ่งมีสถานีที่คอยตรวจดูสัญญาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่ต่ำมากๆที่ฟ้าแลบปล่อยออกมา



นักวิจัยพบว่า



ทุกฟ้าแลบที่มีความรุนแรงในปี 2005-2006 ที่เกิดในอาฟริกาตะวันออก จะมีพื้นที่ความกดอากาศต่ำ AEW ตามมา และจะมีเพียงบางส่วนของ AEW เหล่านี้ที่จะพัฒนาต่อไปเป็นเฮอริเคนในอเมริกา โดยอย่างน้อย 85% ของเฮอริเคนที่มีความรุนแรง และ 2ใน 3 ของเฮอริเคนที่เกิดขึ้นทั้งหมด ในมหาสมุทรแอตแลนติก มีต้นกำเนิดมาจาก AEW ที่เกิดหลังพายุฝนในอาฟริกาตะวันออก


Dr. Price แนะว่า


นักพยากรณ์อากาศและทีมกู้ภัยในภาวะฉุกเฉินควรสอดส่องต่อการเกิดพายุฝนที่มีความรุนแรงในอาฟริกาตะวันออกช่วงก่อนหน้าฤดูที่จะมีเฮอริเคนในอเมริกา เพื่อที่จะได้ประเมินความรุนแรงได้แม่นยำขึ้น



Dr. Earle Williams ผู้เชี่ยวชาญด้านฟ้าแลบจาก MIT ให้ความเห็นว่า



การศึกษานี้ช่วยให้เราเห็นถึงความสำคัญของการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดฟ้าแลบ หรือพายุทั่วโลกตลอดปี เพราะมันมีความสำคัญในการทำนายและวิเคราห์การเกิดพายุในอนาคตได้

 

*** สิ่งที่เกิดขึ้นจริง ****

น้ำ ที่ไซบีเรีย...มากขึ้น
ส่งผลให้โลกอนาคต....เย็นลง
และ โลก...จะสมบูรณ์เหมือนโลกในอดีต

ดินฟ้าอากาศ...ขึ้นกับจิตใจคน

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

108 คำพยากรณ์ จากเวปพุทธวงศ์
http://www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-080516101726466

 

เนื่องจากผมได้ทราบเรื่องอันไม่น่ายินดี และ มีความรู้สึกเสียใจ และสงสารผู้ที่กระทำการในเรื่องนี้จึงขอ มาแจ้งให้ทราบทั่วกันครับ และขอแจ้งให้คุณ woottipon ทราบด้วยนะครับเนื่องจากผมเองเป็นผู้เคยอ่านกระทู้ ที่คุณ woottipon เคยลงไว้เกี่ยวกับพระพุทธสถานรอยพระพุทธบาทเขากะลาfficeffice" /><O></O>
<O></O>
ขณะนี้ที่พระพุทธสถานรอยพระพุทธบาทเขากะลา ได้ถูกผู้ที่มีจิตอันเป็นมิจฉาทิฐฐิ เห็นแต่เพียงประโยชน์ส่วนตนได้กระทำการหักล้าง ถางพงทำไร่ข้าวโพด เข้ามาในเขตพุทธสถานอยู่ในบริเวณรอบๆรอยพระพุทธบาทเลยทีเดียว ผู้ที่ทำเรื่องนี้นั้นเป็นลูกหลานของเจ้าของที่ดินที่เคยถวายที่ดินผืนนี้ให้กับพุทธสถาน แต่ตอนหลังมากลับลำเนื่องจากเขาได้เอาเงินไปทำกิจกรรมการเมืองจนเงินไม่เหลือหรอ จึงพยายามใช้วิธีการเหล่านี้เพื่อให้ทางวัด ซื้อที่ดินคืน เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท
<O></O>
ผมได้ทราบเรื่องนี้จากพระท่านที่จำวัดอยู่ประจำอยู่ที่นั่น พอผมทราบเรื่องนี้ ผมก็มีใจคิดอยากช่วยเหลือท่านทันทีแต่ท่านได้บอกว่า ซื้อคืนไม่ได้ หลวงตาอ๋อยบอกว่า ใครซื้อคืนตกนรกครับ เพราะที่ดินผืนนี้เป็นที่ ธรณีสงฆ์แล้วครับ
<O></O>
สำหรับผมเป็นผู้ที่อ่านกระทู้นี้มานานแล้วครับ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้มันเกินจะทนจริงๆครับจึงมาแจ้งให้ทราบทั่วกันครับ ที่แจ้งในกระทู้นี้เพราะผมมีความเชื่อว่า ที่พระพุทธสถานรอยพระพุทธบาทเขากะลา เป็นที่หลบภัยในยามเกิดภัยพิบัติที่ปลอดภัยอีกที่หนึ่งครับ เนื่องจากเป็นที่ที่มีรอยพระบาทของสมเด็จองค์ปฐมฯและยังมีใกล้ๆบริเวณนั้นอีก 4 รอย ซึ่งเป็นรอยที่พระพุทธเจ้าของกัปนี้ประทับซ้อนกันในตำแหน่งเดียวกัน
<O></O>
และพระท่าน ยังได้บอกอีกว่าน่าจะมี อีก 7 รอย ล้อมรอบรอยพระพุทธบาทของสมเด็จองค์ปฐมฯ
<O></O>
ปัจจุบันพุทธสถานมีสภาพไม่เจริญเท่าไรเพราะชาวบ้านแถวนั้นไม่เชื่อในพระพุทธศาสนา แต่มีผู้ที่มาจากที่ไกลๆได้มาทำนุบำรุงอยู่บ่อยๆ สำหรับชาวบ้านแถวๆนั้น ผมเห็นว่าใกล้เกลือกินด่างแท้ๆครับ

 

ตามเนื้อข่าวพบที่ชายหาดแห่งหนึ่งในกรุงดาการ์ของเซเนกัล ครับ

เอ่อ..จำได้ว่าคุณ wellriderได้เคยขอให้ผู้โพสต์ข้อความหรือข่าวช่วยบอกที่มาและให้เครดิตให้แก่แหล่งข่าวที่นำมาลงด้วยครับพี่ๆ

 

คุณหล่อลำน้ำกรุณาระวังคำพูดหน่อยครับ พระเจ้าแผ่นดินที่คนไทยรักและหวงแหน ท่านเกิดปีเถาะครับ

 

รอยไถข้าวโพดรอบองค์พระ และรอยพระพุทธบาทครับ ขณะที่ญาติของผมไปกราบไหว้ยังโดนชาวบ้านแถวนั้นบอกว่า ระวังอย่าไปเหยียบแถวนั้นเดี๋ยวจะเหยียบไปโดนข้าวโพดที่เขาหว่านเอาไว้

http://palungjit.org/showthread.php?t=125103&page=3

 

จะเป็นไปได้ไหมครับ ว่า ควรมีคนไปบอกให้ชาวบ้านทราบก่อนว่า โทษของการไปใช้ประโยชน์ในที่ที่เป็นธรณีสงฆ์เพื่อประโยชน์ตนนั้น โทษสาหัสเพียงใด อาจเอาจากที่หลวงพ่อพระราชพรมญาณ(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ท่านได้อนุเคราะห์เล่าไว้ไปบอกให้เขาทราบดีหรือเปล่าครับ แล้วถ้าเขาสำนึกก็ให้เขาขอขมาพระรัตนตรัย และควรให้เขาได้ใช้หนี้สงฆ์ด้วยจะเป็นการดี หนักจะได้กลายเป็นเบาหรือหมดโทษกันไป อาจเหมือนยิงหนังกะติกลูกเดียวได้แอบเปิ้นทั้งต้นคือเขากลับให้การคำจุนทางพุทธสถานด้วย แต่ ถ้าเขายังไม่เชื่อ ไม่ทำแก้ไข ก็นับว่าเป็นกรรมเขาครับ ก็ขอให้คุณไม่เป็นธรรม (แหมเปลี่ยนชื่อดีกว่านะครับ) ปล่อยวางนะครับอย่าไปโกรธเขานะครับ ให้ความสงสารเขาดีกว่า เพราะไม่ว่าคุณ ผม หรือผู้รู้ทั้งหลายก็ทราบกันดีว่าโทษทันนั้นมากสักเพียงใด นึกแล้วขนลุกจริงๆ สงสารเขายิ่งกว่าว่า นี้ความตายกำลังจะมาไวกว่าที่คิดด้วยนะเนี่ย กรรมจริงๆ กรรมไม่แบเลยทีเดียว...

 

ผมเข้าไปเห็นครั้งแรกถึงกับทรุดนั่งบนรอยไถ น้ำตาจะหลั่งไหลจุกอยู่ในอก ความกดดันเคียดแค้นเข้ากระทบอย่างรุนแรง แต่ก็ได้แต่สังเวชใจและกลับกลายเป็นสงสารว่าเขาไม่น่าทำเลย พระท่านเตือนมาแล้วคงไม่นานได้เห็น ครูบาอาจารย์ย้ำว่ารอยนี้เป็นรอยพระพุทธบาทของสมเด็จพ่อองค์ปฐมบรมศาสดาต้นพุทธวงศ์ เปิดขึ้นช่วงไม่กี่ปีมานี่ และเป็นที่ปลอดภัยที่สุด ดินทุกเม็ดหินทุกก้อนในบริเวณนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หาใดมาเทียบเท่า ฝากไว้สำหรับท่านที่ยังไม่มีจุดมุ่งหมายในการอพยพหนีภัย คนจะมากันนับล้าน นิมิตบอกเหตุผู้ปฏิบัติธรรมเห็นชัดคนตายมากมายเหลือคณานับ และมีเทวดาท่านพามาดูที่รอยพระพุทธบาทนี้แหละ คนจะมากันมากเต็มบริเวณเพื่อหนีภัย กราบเรียนถามครูบาอาจารย์ถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ท่านเพียงบอกว่าอย่ากังวนไปเลยตายก็ดีซิไปพักก่อนอีก 4- 50 ปี ค่อยลงมาใหม่สร้างบารมีต่อ แป่ว..

 

มนุษย์ทำลาย ธรรมชาติ ยังค่อยๆเป็นไปตามเหตุแห่งปัจจัย
แต่มนุษย์ทำลาย ธรรมะ ขององค์พระศาสดานี่สิมันเร่งกรรมให้รวดเร็วเหลือเกิน


สำหรับผู้ที่มีหน้าที่ดูแลรักษาพระศาสนาให้ถึง 5000 ปี คงจะยอมไม่ได้ คงต้องมีการปรับสมดุล มิฉะนั้นศาสนาของเราคงจะสิ้นสุดเร็วกว่าที่ควรจะเป็น

 

ก็เจ้าสำนักแถวนั้นเปิดเทปหลวงพ่อให้ลั่นทุกวัน แต่ก็ไม่มีใครสนใจหรอกเพราะเจ้าสำนักเล่นซะเอง ตั้งแต่ตอนหล่อองค์พ่อใหญ่แล้ว ตั้งเตนท์ให้บูชาทองเพื่อร่วมหล่อพระพอเสร็จงานหอบเงินเข้าวัดตัวเองสบายเฉิบ ปล่อยข่าวว่าเป็นการหลอกลวง จนเรื่องดังถึงเจ้าคณะจังหวัด ส่งรองเจ้าคณะจะมาจับพระสึก หลวงพ่อท่านบอกว่ากูไม่สึกหรอกแต่มึงน่ะซิต้องสึก อยู่ต่อมาไม่นานก็มีเรื่องอื่อฉาวออกข่าว ITV พระระดับรองเจ้าคณะจังหวัด กอดและจับนมสาว ต้องสึกขาลาเพศ สึกไปไม่นานควบเบนซ์ชนต้นไม้ดับสยองเป็นผีเฝ้าทาง

 

ผมสงสารเขาเช่นกันครับ บุญเมื่อครั้งแรกที่เขาทำนั้น แม้คนในเว็บนี้จะเคยร่วมทำบุญกันที่ไหนก็ยังสู้เขาไม่ได้เลยครับ แต่เมื่อเขากลับลำนั้นมันช่างน่าเสียดายนักจริงๆครับ

เปรียบได้กับการปฏิบัติธรรมนั้นเราต้องไม่ประมาทจริงๆครับ บางวันนั้นเหมือนกับเราขึ้นไปอยู่บนตึกสูง 100 ชั้น แต่ในวันหนึ่งเราอาจตกลงสู่เหวลึกอันมืดมิดไร้ทางออก

นี่ล่ะครับภัยของสังสารวัฏ

พระพุทธองค์ท่านได้มาประกาศข่าวดีให้กับชาวโลกทุกคนได้รู้ถึงทางออกที่ไม่มีใครเคยค้นพบ ช่างเป็นบุญของเราทุกคนแล้วที่ได้เกิดมาได้พบพระพุทธศาสนา

 

อินโดนีเซียเพิ่มระดับเตือนภัยภูเขาไฟพ่นควันแล้ว ​

​

จาการ์ตา 22 พค. - ศูนย์ภูเขาไฟอินโดนีเซีย เพิ่มระดับเตือนภัยภูเขาไฟที่สูงที่สุดบนเกาะชวา ในวันนี้ ภายหลังจากที่พ่นควันร้อนออกมา

ทางการอินโดนีเซีย ประกาศเตือนภัยภูเขาไฟเซเมรุ ในขั้นเตรียมพร้อมซึ่งเป็น 2 ระดับ ก่อนถึงขั้นระเบิด หลังจากผู้สังเกตการณ์เห็นควันร้อนออกมาเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า เกิดขึ้น 6 ครั้ง และควันร้อนที่พวยพุ่งออกมาตามแนวภูเขาไฟมากที่สุดเป็นระยะทาง 3,000 เมตร อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ภูเขาไฟสูง 3,676 เมตร ดังกล่าว ในชวาตะวันออก ไม่จัดว่าอยู่ในขั้นอันตราย ซึ่งหมู่บ้านที่อยู่ใกล้พื้นที่ภูเขาไฟมากที่สุดก็อยู่ห่างไปถึง 10 กิโลเมตร ทั้งนี้ อินโดนีเซียเต็มไปด้วยภูเขาไฟที่มีอยู่ราว 130 ลูก ซึ่งยังคงคุกรุ่นอยู่ .-สำนักข่าวไทย

2008-05-22 14:14:06

ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุกระหน่ำฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 44 คน

​

มะนิลา 22 พค.-เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์กล่าวว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อนพัดกระหน่ำภาคเหนือของฟิลิปปินส์เพิ่มเป็น 44 คนแล้ว ซึ่งเชื่อว่าผู้สูญหาย 8 คนอาจเสียชีวิตในทะเล

พายุโซนร้อนฮาลองทำให้ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัยกว่าล้านคน ทำลายบ้านเรือนหลายหมื่นหลัง ทรัพย์สินเสียหายคิดเป็นมูลค่า 3,740 ล้านเปโซ (2,780 ล้านบาท) เจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันภัยพลเรือนกล่าวว่า พื้นที่บางแห่งยังคงไม่มีไฟฟ้าและน้ำ ส่วนถนนถูกดินถล่มทับหรือน้ำท่วมเสียหาย สำหรับยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 44 คน และบาดเจ็บ 24 คน ขณะที่ชาวประมง 8 คนสูญหายมา 5 วันแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2008-05-22 17:58:09

จีนขอเต็นท์เพิ่มให้ผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหว​

​

ปักกิ่ง 22 พ.ค.-กระทรวงต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศอีกครั้ง ในการจัดสรรเต็นท์อีกกว่า 3.3 ล้านตัน เพื่อเป็นที่พักพิงสำหรับผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นายฉิน กัง โฆษกต่างประเทศจีน แถลงว่า จีนจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากต่างประเทศอย่างเร่งด่วน เพื่อจัดสรรเต็นท์กว่า 3.3 ล้านตัน สำหรับยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวน เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 41,000 คนแล้ว และรัฐบาลคาดว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย

2008-05-22 15:08:49

จีนระบุมีเด็กกำพร้าจากเหตุแผ่นดินไหวกว่า 4 พันคน

​

เหมียนหยาง 22 พ.ค.

 

<TABLE class=tborder id=post1222108 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Falkman<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1222108", true); </SCRIPT>
สมาชิก
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: เมื่อวานนี้ 07:40 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
สถานที่: Falkland
ข้อความ: 3,675 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 6,546 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 37,096 ครั้ง ใน 3,635 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 3442


</TD><TD class=alt1 id=td_post_1222108 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ม.รังสิต พัฒนาซอฟต์แวร์รับโครงการ"บ้านมั่นคง" <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 พฤษภาคม 2551 13:48 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=247 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=247> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ดร.วลัยภรณ์ นาคพันธุ์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>หัวหน้าหลักสูตรปริญญาโทคอมพิวเตอร์ช่วยออกแบบ มหาวิทยาลัยรังสิต นำเสนอผลงานวิจัยออกแบบเว็บแอปพลิเคชั่นจัดเก็บข้อมูลในโครงการบ้านมั่นคง และแสดงผลผ่านกูเกิ้ลแมพ สะดวกและง่ายในการค้นหาและจัดเก็บ หวังต่อยอดใช้ในโครงการเคหะแห่งชาติ และเรื่องการแสดงข้อมูลเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ร่วมกับ มหาวิทยาลัย Paris Val-de-Seine ประเทศฝรั่งเศส

ดร.วลัยภรณ์ นาคพันธุ์ รักษาการหัวหน้าหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคอมพิวเตอร์สถาปัตยกรรมเพื่อการออกแบบสถาปัตยกรรม (M.S.(CAAD)) คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า

ตนและทีมงานได้มีโอกาสทำโครงการวิจัยเพื่อหาแนวทางจัดเก็บข้อมูลเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยโครงการบ้านมั่นคง สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(องค์การมหาชน) หรือ DEVELOPMENT OF A SIMPLE WEB-BASED GIS SYSTEM FOR SUSTAINABLE HOUSING PROJECTS VISUALIZATION นำเสนอในการประชุมสัมมนาวิชาการนานาชาติ CAADRIA 2008 จัดโดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยโครงการวิจัยดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อรวบรวมและจัดเก็บข้อมูลต่างๆ ที่จำเป็นต่อโครงการบ้านมั่นคงอย่างเป็นระบบ ให้สามารถค้นหาข้อมูลอย่างเป็นรูปธรรม สามารถมองเห็นภาพลักษณ์ของโครงการฯ ได้ ในลักษณะของหมุดที่ปักบนแผนที่ ซึ่งโครงการบ้านมั่นคงเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 โดยปัจจุบันได้พัฒนาไปแล้วกว่า 3,750 ครัวเรือน ทั่วประเทศ

 

น่ากลัวจัง ขอให้อย่าได้เกิดขึ้นเลย แต่ถ้าเป็นจริงก็ขอให้เพื่อนๆชาวพลังจิต และชาวพุทธทุกท่านปลอดภัย จากภัยพิบัติทั้งปวงเถิด

 

*** กบ ****

รูกระบอกแสงรอดกระลา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "