เตือนภัยพลังมารครอบงำประเทศเราแล้วครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เฮ้งตงเอี๊ยง, 21 พฤษภาคม 2008.

  1. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    สังเกตุได้จากนี้ครับ

    1. คนจะโมโหง่าย ดุร้ายมากขึ้น จู่ๆ ประท้วงพร้อมกันโดยไม่ได้นัด
    2. คนจะแตกคอกันง่าย ทะเลาะกันง่าย ผิดปกติ จากที่เคยเป็น
    3. คนที่ปกติดีๆ อยู่ ก็ไม่ดีขึ้นมาได้ แต่พอระลึกได้ ได้สติ งงว่าไม่น่าทำเลย
     
  2. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    สาเหตุพลังมารครอบงำ

    1. พลังพุทธคุณที่ปกป้องโลกอยู่ ถอนกลับ ปล่อยให้กฏแห่งกรรมดำเนิน
    คนทำเลวจะรับเคราะห์ก่อน เมื่อรับจบ พุทธคุณจะกลับมา คนดีจะได้ดีภายหลัง
    2. ภาคมารทำหน้าที่ของตน คิดครองสามภพ ด้วยอาศัยจังหวะเทพเซียน
    จุติมาสานกิจศาสนากันมาก เบื้องบนขาดพลังของเทพเซียนคุ้มกัน มารกำเริบ
    3. เป็นวาระกรรมจะปรากฏ พลังมารผู้ทำลายล้าง จะเพิ่มสูงขึ้น และผ่านยัง
    มนุษย์ที่รับพลังมารได้ เพื่อใช้ให้มนุษย์เข่นฆ่ากันเอง
     
  3. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    วิธีแก้

    1. พุทธานุสติ เมื่อมีสติระลึกถึงพุทธคุณเสมอ จะรับพลังพุทธคุณได้
    เพราะพลังพุทธคุณแม้ถอยกลับ ก็จะไม่ทอดทิ้งไปหมด จะเหลือบางส่วน



    พุทธานุสติ อย่างเดียว จึงจะพ้นจากพลังมารที่ครอบงำนี้ได้ครับ
     
  4. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    สำรวจตนเองว่าตกอยู่ใต้พลังมารหรือไม่?


    1. เราโมโหง่ายกว่าปกติหรือเปล่า?
    2. เราคิดจะทำลาย อยากทำลาย หรือกำลังทำลายอะไร โดยไม่รู้ตัวหรือไม่?
    3. เพ่งโทษ จับผิด บุคคล กลุ่มบุคคล สถาบันต่างๆ มีความโกรธ หรือแค้นเคือง
    4. พลั้งมือ พลั้งปาก พลั้งใจ แปลกๆ อย่างที่ไม่เคยเป็น แล้วมาคิดได้ทีหลัง
     
  5. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    เหตุการณ์ต่อไปที่จะสังเกตุได้


    1. จะพบว่าคนในประเทศนี้จะเดือดดาลกันง่ายมากขึ้น อยากะเลาะเบาะแว้ง
    กันมากขึ้น อยากทำลายฝ่ายตรงข้ามกันไปมามากขึ้น จนเกิดความรุนแรงได้
    2. ประชาชนจะระส่ำ มีอาการแปลกๆ อยากจะลุกฮือมาทำสิ่งที่ไม่ดี
    3. มีบางคน ทำสิ่งผิดพลาดไปอย่างไม่น่าทำ เช่น พระแทงคนตายข้างถนน
     
  6. เฮ้งตงเอี๊ยง

    เฮ้งตงเอี๊ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    668
    ค่าพลัง:
    +130
    พลังมารมีหลายประเภท เช่น

    1. พลังภาคทำลายล้าง จะทำให้คนอยากทำลายล้างกัน
    2. พลังภาคครอบงำ จะทำให้คนดี ยอมจำนนต่อมารไม่รู้ตัว
    เช่น พระโพธิสัตว์ ยอมทำตามพ่อ (ซึ่งพ่อถูกมารครอบงำ)
    แบบนี้ มารจึงครอบงำโพธิสัตว์ได้เพราะอาศัยจิตกตัญญู
    3. พลังภาคยุยง จะทำให้คนมีกิเลส ริษยา อาฆาตเพิ่มขึ้น
    เป็นการเพิ่มพลังทางลบ แก่คนที่มีจิตใจด้านลบ สีดำอยู่แล้ว


    เป็นต้น จอมยุทธ์ที่มีพลังจักรวาล ถ้าไหวตัวทัน จะรู้ถึงพลังนี้ได้ครับ
     
  7. หล่อลำน้ำ

    หล่อลำน้ำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    487
    ค่าพลัง:
    +40
    ผมนี่แหล่ะครับ เป็นได้ในทุกๆ สิ่งที่อยากจะเป็น

    ใครหือหา โดนเชือดทันทีขอรับท่าน

    ผมเป็นเทพ มิใช่มาร นะครับ
     
  8. วนากร

    วนากร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +69
    ออกจะคล้ายๆหนังจีนแต่ก็จริงของเขาน่ะนะ มารเกิดจากจิต พุทธอยู่ที่ใจ อะไรๆก็ไม่สำคัญเท่าจิตใจ
     
  9. เซี่ยมหล่อนั๊ง

    เซี่ยมหล่อนั๊ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +665
    จริงแล้วมาร ก็คือจิตอกุศล ทีเห็นผิดเป็นชอบมากขึ้น ทวีรุนแรงขึ้น เห็นคนอื่นทำผิดไม่ได้รับโทษ ก็คิดว่าเอาอย่างคงไม่เป็นไร จนหนึ่งเป็นสอง สาม สี่จนเกิดไปทั่วระแหง กระทำพร้อมกันก็กลายเป็นพลังลบได้ โดยปริยาย เมื่อเหล่าอกุศลเพิ่มมากขึ้นก็ย่อมเป็นน้ำเสียไล่น้ำดี แต่สุดท้าย ธรรมะ ย่อมศักดิ์สิทธิ์ชนะอธรรมเสมอครับ
     
  10. chotiwit

    chotiwit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,616
    ค่าพลัง:
    +1,794
    หนังและเกมที่รุนแรงมีส่วนในการกระตุ้นความรุนแรงเป็นอย่างมาก อยากเรียนแบบ อยากทำร้ายกันและอื่น ๆอีกมาก
     
  11. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    เป็นวงรอบที่เคยเกิด บัดนี้เวียนมา


    ขอให้ดูการเบียดเบียน ด้านดีประการต่างๆ โบราณสถาน โบราณวัตถุ


    คือ เทวาลัยพนมรุ้ง และแห่งอื่นผ่านมา
     
  12. นายจั๊บ

    นายจั๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +1,110
    อืมๆ น่าคิด แต่ผมจะไม่ยอมตกอยู่ใต้พลังมารเด็ดขาด
     
  13. ป่าวอันถัง

    ป่าวอันถัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +114
    ผู้บูชาราหู คือ กลุ่มคนที่เป็นบริวารของพระอสุรินทราหูโพธิสัตว์
    ซึ่งยังไม่พ้นภพมาร จะทำการเพิ่มพลังให้แก่ราหู ลดพลังตรีมูรติ
    เพื่อทำการณ์บางอย่างอันใกล้นี้


    ประเทศของเรา จะมีภัยจากคน ระวังการปะทะกันครับ
    เปนกรรมของประเทศ ต้องปล่อยให้ภาคมารทำกิจของเขาไป
    เดือนสิงหาคมค่อยว่ากันใหม่ พลังภาคขาวจะเพิ่มขึ้นในเดือนนั้นครับ
     
  14. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    อื่ม....มีส่วนถูกอยู่มากข้อมูลนี้ท่านเฮ้งตงเอี้ยงท่านได้แต่ใดมา
     
  15. ลามะจักรทอง

    ลามะจักรทอง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +23
    พลังด้านลบมีสองส่วน

    1. พลังมาร
    2. พลังอสูร


    พลังอสูรจะหนุน พระอสุรินทราหูโพธิสัตว์
    คำว่า "อสุรินทราหู" มาจาก อสูร + อินทรา + ราหู


    คือ อสูร ที่เกิดจากราหู ในการกวนเกษียรสมุทร ซึ่งเป็นนิทานเล่าจากอดีตชาติ
    ของคนกลุ่มหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดมนุษย์และสัตว์ต่างๆ สามภพ ใน
    ช่วงแรกของโลกใบนี้ จนกระทั่ง บำเพ็ญบารมีแก่กล้า ถึง "นิตยโพธิสัตว์"
     
  16. ลามะจักรทอง

    ลามะจักรทอง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +23
    คนที่สำคัญเกี่ยวข้องมีสามคน

    1. พระศิวะ
    2. พระแม่กาลี
    3. อสูรทารุณ

    ในชาตินั้น นามมาแล้ว เป็นช่วงแรกๆ ของการสะสมบารมี จึงมีความผิดพลาด
    อยู่มาก โลกไร้แสงธรรม มีกรรมต้องเกิดเป็นอสูรและมารเพื่อสร้างสามภพก่อน
    องค์ศิวะปรารถนาโมกขธรรม แต่ยามนั้นโลกไม่เหมาะที่จะมีพระพุทธเจ้า


    กรรมพัดพา ให้อสูรทารุณ มาเป็นสหายรักของพระศิวะ อสูรยกย่องพระศิวะ
    มากมาย จนกลายเป็นเพื่อนรักกัน เพื่อจะได้ร่ำเรียนวิชชาทั้งหมดที่พระศิวะ
    บำเพ็ญมา ซึ่งยังไม่ทันบรรลุธรรม วิชชาทั้งหลายจึงเต็มไปด้วยอภิญญา
    พระศิวะ กลายเป็นศาสดาลัทธิมาร ที่มีบริวารนับหลักล้านๆ


    อสูรทารุณ เร่มแรกก็ศรัทธาในองค์ศิวะดี แต่เมื่อสำเร็จวิชชาทั้งหมดแล้ว
    ก็มีมานะถือตนว่าเหนือผู้ใด คิดจะประกาศธรรมแห่งองค์ศิวะให้สามภพ
    รู้ ว่าบรรลุแล้ว (ทั้งๆ ไม่บรรลุ) จึงได้สำแดงเดชเอาชนะเหล่าเทพมากมาย
    แม้แต่พระนารายก็ไม่อาจสู้ได้ สุดท้ายถูกจิตอสูรครอบงำ กลายเป็นอสูรทารุณ


    เมื่ออสูรทารุณ ถูกจิตอสูรครอบงำจึงทรยศต่อองค์ศิวะ ทำให้พระองค์เจ็บปวด
    มาก ไม่อาจลงมือจัดการมันได้ ด้วยความอาลัยรักที่เคยเป็นเพื่อนกันมา และ
    อสูรก็ศรัทธาตนมากมาก่อน จึงได้ถ่ายทอดอภิญญาทั้งหมด ให้หญิงที่รัก เพื่อ
    ให้หญิงที่รักไปปราบอสูร ซึ่งอสูรสร้างความวุ่นวายแก่สามภพมาก


    เมื่อองค์อุมา แบ่งภาคไปบำเพ็ญเพียร เกิดจิตมารเข้าแทรก แต่จิตที่ปรารถนา
    สร้างความสงบสุขแก่สามภพไม่หมดไป จึงกลายเป็นมารที่ดี และปราบอสูร
    สำเร็จ ทว่า จิตมารกำเริบคิดจะล้างโลก องค์ศิวะ เห็นเหตุความผิดทั้งหมดเกิด
    จากตนเป็นเหตุ จึงคิดตายใช้กรรม นอนลงรับเท้าองค์กาลี องค์กาลีเห็นดังนั้น
    จึงได้สติหยุดทำลายล้างโลก


    ทั้งสามไปจุติใหม่ดังนี้


    1. องค์ศิวะในชาตินั้น ตกนรก นานแสนนาน
    2. องค์กาลี เป็นพญามารสร้างบริวารบนสวรรค์
    3. อสูรทารุณ เป็นจอมอสูรไปสร้างบริวารในนรก


    ถัดจากนั้น ทั้งสามบำเพ็ญเพียรใหม่ ด้วยเจ็บปวดกับความผิดพลาดที่เคยทำมา
    จึงมีความปรารถนาสร้างโลกที่สงบสันติสุขร่วมกัน ผ่านมาหลายล้านชาติภพ


    1. องค์ศิวะ ได้เป็น มหาเทพศิวะ และเป็น มหาโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตตรัย
    2. องค์กาลี ได้เป็น มหาเทพอุมาเทวี และเป็น มหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
    3. อสูรทารุณ ได้เป็น มหาโพธิสัตว์มัญชูศรี ในกาลต่อมา
     
  17. ลามะจักรทอง

    ลามะจักรทอง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +23
    กลียุค คือ ยุคปัจจุบัน เกิดจากกรรมที่มวลสัตว์ทั้งหลายทำร่วมกันในยุคนั้น
    คือ ยุคแห่งเจ้าแม่กาลี และอสูรทารุณ และองค์ศิวะ เป็นเหตุ


    ทั้งสามจึงต้องมาเกิดใหม่ ช่วยโลก ชดใช้กรรมนั้น
     
  18. ลามะจักรทอง

    ลามะจักรทอง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +23
    สัตว์แต่ละยุค ถูกคัดมาให้เกิดต่างกัน โครงสร้างสังคมและเหตุการณ์จึงต่างกัน
    ในยุคปัจจุบัน เป็นยุคที่สัตว์ในกลียุคต้องมาชดใช้กรรมกัน จึงมีโครงสร้างดังนี้


    1. สัตว์นรกมาเกิด 10% ผู้คนจำพวกนี้จึงขาดหิริโอตัปปะ
    2. เปรตมาเกิด 25% ผู้คนจำพวกนี้ จึงตะกละตระกราม บริโภคนิยม
    3. สัตว์เดรัจฉานมาเกิด 40% ผู้คนจำพวกนี้ จึงเบียดเบียนกันเป็นทอดๆ
    4. อสูรมาเกิด 10% คนจำพวกนี้ คือ กลุ่มอำนาจใหม่ เติบโตจากการแข่งขัน
    5. มารมาเกิด 10% ผู้คนจำพวกนี้ คือ กลุ่มผู้มีอำนาจเก่า ขุนนางเก่า
    6. เทพ เซียน โพธิสัตว์มาเกิด 5% ผู้คนจำพวกนี้ มีน้อยแต่เป็นคนดีมาก
     
  19. ลามะจักรทอง

    ลามะจักรทอง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +23
    โลกจะจัดระเบียบใหม่อย่างไร?


    มารกับอสูรจะมีกำลังมาก เท่ากัน และเข่นฆ่ากันจนตายทั้งคู่
    คือ กลุ่มอำนาจเก่า และกลุ่มอำนาจใหม่ (ที่ถีบตัวเองจากชนชั้นล่าง)
    จะเข่นฆ่ากันจนตายมากมาย


    แล้ว 5% ของเทพเซียน โพธิสัตว์ จะออกมาสร้างโลกใหม่ให้สัตว์
    ที่เหลืออยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข คือ ยุคแห่งความเท่าเทียมกัน ไม่มีชนชั้น
     
  20. ลามะจักรทอง

    ลามะจักรทอง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +23
    จะสอนสัตว์โลกยุคปัจจุบันได้อย่างไร?


    1. โพธิสัตว์หญิง จะต้องผ่านด่านมาร คือ เป็นมาร แล้วกำจัดจิตมารได้
    จึงจะสอนสัตว์โลกยุคปัจจุบันได้ เพราะมีมารมาเกิดครอบงำสัตว์โลกมาก
    2. โพธิสัตว์ชาย จะต้องผ่านด่านอสูร คือ เป็นอสูร แล้วกำจัดจิตอสูรได้
    จึงจะสอนสัตว์โลกยุคปัจจุบันได้ เพราะมีอสูรมาเกิดครอบงำสัตว์โลกมาก


    ดังนั้น พุทธบุตร จะก่อเกิดได้มากมาย อาศัยหยิน หยาง จึงสมดุล คือ
    มหาโพธิสัตว์สององค์ คือ อวโลกิเตศวร (หญิง) และ มัญชูศรี (ชาย)
    เป็นแบบอย่างของมนุษยฺโลกใหม่ในกลียุคนี้


    โดยมีองค์ศรีอาริยเมตตรัย ไม่ชาย ไม่หญิง ไม่มีเพศใดๆ อยู่เบื้องหลัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...