เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๘

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 8 มกราคม 2025.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,186
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +26,443
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๘


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,186
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +26,443
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ อากาศยามเช้าที่โรงแรมโมเดิร์นโฮเต็ลอยู่ที่ -๒๙ องศาเซลเซียส เป็นวันที่ทางพยากรณ์อากาศแจ้งว่าอุณหภูมิจะต่ำสุดของฮาร์บิน เนื่องเพราะว่าเมื่อวานนี้อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ -๒๑ องศาเซลเซียส ก็แปลว่าวันเดียวอุณหภูมิลดลงไปถึง -๘ องศาเซลเซียสเลยทีเดียว แต่ว่านอนสบายมาก เนื่องเพราะว่าที่พักมีเครื่องทำความร้อน เข้าถึงได้ทุกซอกทุกมุม ค่อนข้างจะรู้สึกร้อนมากเสียด้วยซ้ำไป..!

    เมื่อวานนี้พวกเราอยู่ที่สนามบินไป๋หยุน เมืองกวางโจว เวลา ๑๖.๒๕ น. เจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่องตามเวลา แต่ด้วยความที่คนมากจึงต้องเสียเวลาไปค่อนข้างที่จะนาน แต่ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความคล่องตัว เนื่องเพราะว่ามีการเผื่อเวลาเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เครื่องบิน China Southern Airlines ที่นั่งค่อนข้างจะกว้างขวาง

    ตอนแรกกระผม/อาตมภาพยังคิดว่าเป็นชั้นบิสซิเนสคลาส แต่เมื่อสอบถามพระครูวิโรจน์กาญจนเขต, ผศ.,ดร.แล้ว อีกฝ่ายบอกว่าเป็นแบบนี้ทุกที่นั่ง โดยเฉพาะมีที่อุ่นเก้าอี้เอาไว้ให้ด้วย เปิดไว้ที่ ๓๔ องศาเซลเซียส ไม่ต้องกลัวว่าอากาศเย็นจนเรานั่งไม่ได้ เครื่องบินที่ใช้อยู่ในพื้นที่แบบนี้น่าจะมีเก้าอี้อุ่นแบบนี้ทุกลำ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นเฉพาะของ China Southern Airlines นี้หรือเปล่า ?

    บรรดาสจ๊วตและแอร์โฮสเตสทำหน้าที่ของตนเองอย่างแข็งขัน หลังจากที่เครื่องขึ้นแล้วก็มีทั้งการเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟอาหาร แล้วโดยเฉพาะน้ำนั้นมีการวนมาถึง ๓ รอบด้วยกัน ตอนแรกที่ได้ยิน กระผม/อาตมภาพก็เข้าใจว่าคุณเธอพูดเล่น เพราะบอกว่าอีก ๓ ชั่วโมงก็ถึง c9jเอาเข้าจริง ๆ ใช้เวลาบิน ๔ ชั่วโมง ๑๕ นาทีพอดิบพอดี..!

    ในระหว่างที่คนอื่นกำลังสาละวนกับเครื่องดื่มหรือว่าอาหาร กระผม/อาตมภาพก็เข้าสมาธิ ส่งบุญกุศลให้กับเจ้าที่เจ้าทางที่รักษาตลอดเส้นทางในการเดินทางวันหนึ่งคืนหนึ่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นอากาศเทวดา รุกขเทวดา ภุมมเทวดาก็ดี ตลอดจนกระทั่งเหล่าสัมภเวสี เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานมีฤทธิ์ก็ตาม ขอให้เขาทั้งหลายเหล่านั้นอนุโมทนาในผลบุญที่กระผม/อาตมภาพได้กระทำแล้วและอุทิศให้ ขอให้ช่วยดูแลความปลอดภัยให้กับทั้งคณะ ทั้งไปและกลับด้วย
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,186
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +26,443
    ครั้นถึงเวลา ๒๑.๑๐ น. (เมืองจีน) เครื่องบินก็ลงที่สนามบินฮาร์บินไท่ผิง เมืองเฮยหลงเจียง กระผม/อาตมภาพเปิดโทรศัพท์เช็คอุณหภูมิแล้ว อยู่ที่ -๒๓ องศาเซลเซียส แสดงว่าต่ำกว่าเมื่อวานนี้ ๒ องศาเซลเซียส แต่รู้สึกปกติ คำว่าปกติในที่นี้ก็คือนอกจากไม่เป็นไข้แล้ว ยังไม่รู้สึกว่าอากาศติดลบมากขนาดนั้น ยังปรารภว่าอากาศจะเย็นมากเย็นน้อย ทำไมกระผม/อาตมภาพรู้สึกว่าเย็นเท่ากันก็ไม่รู้ ?

    ครั้นตั้งจิตดู ปรากฏว่าเห็น
    "ต้าเหนียง" พาเอาแกะฝูงใหญ่มายืนรออยู่เต็มสนามบินไปหมด ยังสงสัยว่า "ต้าเหนียง" จะต้อนแกะไปเลี้ยงที่ไหน ? ปรากฏว่าบรรดาแกะทั้งหลายคลายร่างกลับคืนมาเป็นคนกันเป็นแถว ทำความเคารพพร้อมกับคำว่า "หนีห่าว" ดังลั่นไปหมด จนเกรงว่าคนอื่นจะได้ยิน..! แค่เห็นที่พื้นสนามบินแล้วก็รู้ว่าวันนี้หนาวมากแน่นอน เนื่องเพราะว่าบริเวณที่เขาไม่ได้ทำความสะอาดเพื่อใช้งานนั้น หิมะสุมหนาเป็นฟุต ส่วนบริเวณที่เขาไถเกรดออกไปเพื่อที่จะใช้พื้นที่ ตามขอบของบริเวณนั้นหิมะหนาเป็นเมตร ๆ เลยทีเดียว..!

    เมื่อกระผม/อาตมภาพทำท่าจะเดินลงเครื่องด้วยชุดปกติ ก็คือห่มจีวรทางด้านใน มีเสื้อกันหนาว ๒ ชั้นเท่านั้น ทางด้านสจ๊วตรีบทำมือทำไม้บอกใบ้ว่าให้เอาเสื้อคลุมมาใส่โดยด่วน แต่กระผม/อาตมภาพค่อนข้างจะมั่นใจความรู้สึกของตัวเอง จึงเดินออกไปเลย พอกระทบอากาศหนาวครั้งแรก ก็รู้สึกว่าเหมือนกับอากาศหนาวทั่ว ๆ ไปที่เคยพบมาเท่านั้น

    พวกเราต้องเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ เมื่อขึ้นไปแล้วได้ที่นั่งก็ยังอุตส่าห์มีการเปิดประตูรับผู้โดยสารตรงบริเวณที่กระผม/อาตมภาพนั่งอยู่พอดี ตรวจสอบอุณหภูมิกับสภาพร่างกายแล้ว เห็นว่ารับได้สบายมาก..! จึงจัดการถ่ายรูปในขณะที่คนอื่นกำลังขึ้นรถกันมา ไม่ทราบเหมือนกันว่าเครื่องบินของเราทำไมถึงไปจอดไกลขนาดนั้น ? เนื่องเพราะว่าต้องวนรถเป็นเวลานานทีเดียว กว่าที่จะมาเทียบประตูทางเข้าอาคาร

    เมื่อพวกเราเดินเข้าประตูเข้ามาก็ร้อนวาบไปหมด เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าทางด้านในมีเครื่องปรับอุณหภูมิ แล้วในขณะเดียวกัน พวกเราก็เดินฝ่าความหนาว -๒๓ องศาเซลเซียสเข้ามา เพียงแค่เดินผ่านเครื่องนับคนอัตโนมัติเท่านั้น เนื่องจากพวกเราบินเครื่องภายในประเทศ ที่เหมือนกับเป็นประชากรชาวจีนไปแล้ว
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,186
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +26,443
    เมื่อตรงไปยังสายพาน ๒ เพื่อรอรับกระเป๋า กระผม/อาตมภาพก็ขอไปเข้าห้องน้ำเสียก่อน เนื่องเพราะว่าปวดตั้งแต่อยู่บนเครื่องบินแล้ว แต่ตอนทรงสมาธิอยู่ก็ไม่รู้สึกอะไร ครั้นคลายสมาธิออกมาแล้ว ถึงได้รู้ว่าตัวเองปวดปัสสาวะมาก แต่ว่าเครื่องกำลังลง ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าห้องน้ำได้ ออกจากห้องน้ำมา พวกเราก็ทยอยกันรับกระเป๋า ที่แม้จะมาช้าหน่อย แต่ว่าครบถ้วนสมบูรณ์ไม่มีชำรุดเสียหาย

    ครั้นรวมพลได้แล้ว พวกเราเดินออกมาทางด้านนอก ปรากฏว่าน้องปูเป้ไกด์ท้องถิ่นรอรับอยู่ น้องปูเป้เป็นชาวลาวที่เดินทางมาเรียนที่ประเทศจีน ด้วยความที่พูดภาษาไทยได้ ทัวร์ไทยแทบทุกคณะจึงขอให้น้องปูเป้เป็นไกด์ท้องถิ่นให้ แม่เจ้าประคุณรับงานเสียจนไม่มีเวลาพักผ่อน แม้แต่วันนี้ เพิ่งจะส่งลูกทัวร์กลับ แล้วก็มารับคณะของเราต่อ ก็เลยออกอาการ "เอ๋อ ๆ" อยู่บ้าง ถ้าหากว่าไม่ถามก็ไม่บอกชื่อ น่าเห็นใจอยู่เหมือนกัน เพราะว่าสภาพอากาศโหดขนาดนี้ แล้วยังทำงานไม่ได้พัก แม้ว่าจะเป็นนักศึกษาต่างชาติ แต่ก็พยายามที่จะหารายได้เพื่อให้ตนเองไม่ต้องรบกวนครอบครัวมาก ต้องบอกว่าเป็นบุคคลที่มีจิตสำนึกดีทีเดียว

    น้องปูเป้พาพวกเราเดินออกมาทางด้านนอก เจอผู้คนซึ่งมารอรับคณะของตนเองอยู่ "ล้านเจ็ดสิบเอ็ดแสน" เห็นจะได้ ออกมาด้านนี้แล้วถึงได้รู้ว่าอากาศ -๒๓ องศาเซลเซียสนั้นหนาวสุด ๆ เพราะว่าด้านนี้มีลมด้วย เมื่อโดนลมกระโชกเข้าเต็มหน้า กระผม/อาตมภาพรู้สึกเหมือนกับตัวเองกลืนไอศกรีมเข้าไปคำโต ก็คือมีอาการเส้นเลือดหดตัว ในลักษณะแบบนี้ บางคนอาจจะมีปัญหาในสุขภาพร่างกายไปเลย เพราะว่าเส้นเลือดหดตัวกะทันหัน ร่างกายก็พยายามจะปั๊มเลือด เพื่อให้ต่อสู้กับความหนาว บุคคลที่มีเส้นเลือดเปราะบาง จึงไม่ควรที่จะมาอยู่ในสถานที่อุณหภูมิสุดขั้วแบบนี้..!

    เมื่อพวกเราขึ้นไปบนรถแล้ว ก็เป็นอันว่ารอดตายไปได้ ไม่เช่นนั้นแล้วระยะทางที่เดินมาหลายร้อยเมตรนั้น กระผม/อาตมภาพเข้าใจชัดเจนแล้วว่า โลกันตนรกที่ลงโทษบุคคลด้วยความเย็นนั้นเป็นอย่างไร !? ในขณะที่ลงไปดู เห็นสัตว์นรกนั้นเมื่อกระทบกับน้ำที่ก้นเหวนรก ก็เกิดอาการแตกกร๊อบ..! กลายเป็นฝุ่นไปทั้งตัว ถ้าตะเกียกตะกายขึ้นมาไม่ทัน ในขณะที่ร่างกายกลับคืนมาใหม่ ก็แตกสลายไปอีก ลักษณะแบบเดียวกับตอนที่พวกเราเดินมา มองเห็นสิ่งของต่าง ๆ ก็แทบไม่กล้าหยิบ ไม่กล้าจับ ไม่รู้เหมือนกันว่าจะกรอบแตกคามือไปหรือเปล่า..!?
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    20,186
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,595
    ค่าพลัง:
    +26,443
    เมื่อนับจำนวนครบถ้วนและเก็บกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว โชเฟอร์ก็นำพวกเราตรงไปยังสถานที่ซึ่งเป็นร้านค้าเครื่องกันหนาว แม้ว่าในขณะนี้จะเป็นเวลา ๔ ทุ่มกว่าของเมืองจีนแล้ว แต่รถก็ยังติดกันอยู่มาก โดยเฉพาะรถทุกคันพ่นควันขาวโขมงทีเดียว ตอนแรกกระผม/อาตมภาพยังคิดว่าเป็นไอเสียรถ แต่ "ต้าเหนียง" บอกว่านั่นเป็นไอร้อน ไม่ใช่ไอเสีย ก็คือความร้อนของรถมากระทบอากาศเย็นทางภายนอก ก็เลยเกิดเป็นหมอกควัน นับว่าเป็นทัศนียภาพที่แปลกตาอยู่ทีเดียว

    ทางด้านเมืองเต้าหลี่ (Daoli) นี้ มีแสงสีตระการตาค่อนข้างที่จะมาก แสดงว่าทางรัฐบาลจีนเอาใจนักท่องเที่ยวกันสุด ๆ เพราะว่าไม่สมควรที่จะมาสิ้นเปลืองไฟฟ้ากับเรื่องแบบนี้ แต่เขาก็เต็มใจทำ เพราะว่านักท่องเที่ยวหลั่งไหลกันมาเป็นน้ำเลยทีเดียว

    พวกเรามาถึงร้านขายเครื่องกันหนาว เข้าไปดูแล้ว ทุกคนก็ได้แต่สั่นหัว เพราะว่านอกจากที่ตนเองขนมาเต็มพิกัดแล้ว ทางเติมเต็มทราเวลยังมีการแจกหมวกไหมพรม ที่ครอบหู ผ้าพันคอ ถุงมือ ตลอดจนกระทั่งแผ่นแปะกันหนาวอีกด้วย ในเมื่อหาคนซื้อข้าวของไม่ได้ พวกเราจึงขึ้นรถตรงไปยังที่พัก ซึ่งก็คือโรงแรมโมเดิร์นโฮเต็ล ที่เปลี่ยนไปจากโรงแรมเก่า ซึ่งโดนทางรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ยึดไปให้นักกีฬาที่มาแข่งขันเอเชี่ยนวินเทอร์เกมส์ ๒๐๒๕

    ครั้นได้กุญแจห้องแล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินขึ้นไปชั้น ๔ ขณะที่คนอื่นใช้ลิฟท์ ปรากฏว่าไปถึงพร้อมกัน เข้ามาในห้องแล้ว รู้สึกว่าร้อนมากจนเกินไปเสียด้วยซ้ำ ก็แปลว่าโรงแรมนี้ทุกสิ่งทุกอย่างค่อนข้างจะดีมาก ห้องพักก็กว้างขวาง แต่ไม่หนาวเย็น คาดว่าคืนนี้คงจะนอนหลับกันอย่างสบาย

    กระผม/อาตมภาพได้ทำการเก็บข้าวของและแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าที่เจ้าทางทั้งหลาย โดยเฉพาะ
    "ต้าเหนียง" และบริวารที่ตามมาส่งจนถึงที่พัก ขอให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญ มีความปรารถนาที่สมหวังทุกประการ ได้เลื่อนภพภูมิขึ้นไปสู่สถานที่อันมีความสุขมากยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตามแต่วาสนาบารมีของทุกคนด้วยเถิด

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...