เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

หลังมื้อเที่ยงวันพุธกลางสัปดาห์ ร่วมอนุโมทนาบุญใส่บาตรยามเช้า ก่อนไปพบเรื่องราวดีๆ พระดี วัตถุมงคลยอดเยี่ยมกันต่อ

 

■■เหรียญดี-ปีลึก■■
เกจิยอด-ปลุกเสกเยี่ยม
อายุสร้าง"ครึ่งร้อยปี"อัพ
===============

อากาศเย็นกาย สบายใจ คัดเหรียญดี ปีลึก เกจิยอด ปลุกเสกเยี่ยม ดังหัวเรื่องให้ร่วมบุญบูชากัน ทุกเหรียญอายุผลิต สร้าง-เสก ตั้งแต่ 50-60-70 ปีที่ผ่านมา

แต่ละเหรียญ หาไม่ยาก หากมีสตังค์ แต่ก็หาไม่ง่ายนักในราคาที่จัดให้ พร้อมประวัติน่ารู้ น่าศึกษา น่าอ่าน จุใจ "คนรักเหรียญ"!

2 สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรฯ
สมเด็จญาณฯ+ลป.โต๊ะเสก-14
~~~~~~~~~~~~~~~


(ขอบคุณภาพ+คำบรรยายจาก "วิกิพีเดีย")
--------------------

ประเดิมหรือ "เจิม" กันด้วย 2 สมเด็จพระสังฆราชฯ แห่ง วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

พระองค์แรก ผู้สร้าง "พระกริ่งปวเรศ" กลายเป็นตำนานตลอดกาลไม่มีใครลบล้างได้ใต้ฟ้าเมืองไทย และใต้ฟ้าวัตถุมงคลในฝัน แต่ก็หาชมได้ ที่วัดบวรฯ ซึ่งจัดแสดง "องค์ต้นแบบ" ไว้ยาวนานหลายสิบปี ผมเข้าดูตั้งแต่วัยรุ่นทุกวันนี้ หากมีโอกาสผ่านไปแถวบางลำภู ก็แวะเยี่ยมสักการะเสมอ แต่ต้องสอบถามวัน-เวลาเปิดชมให้ดีจะได้ไม่ไปเก้อ

พระสมเด็จสังฆราชฯ พระองค์ถัดมาก็สร้างคุณูปการองค์ความรู้ และความเจริญรุ่งเรืองให้พระพุทธศาสนาใหญ่หลวง ทรงจัดตั้ง "มหามกุฏราชวิทยาลัย" จัดการศึกษาพระภิกษุสามเณรแบบใหม่อย่างก้าวหน้า ให้วัดทั่วราชอาณาจักรเป็นครูสอนการศึกษาแก่ประชาชนขั้นพื้นฐาน ส่งวิชาความรู้สู่รากหญ้าไกลปืนเที่ยงช่วยกันพัฒนาประเทศ

เป็นพระสงฆ์หัวสมัยใหม่ ทรงออกนิตยสาร "ธรรมจักษุ" ถือเป็นนิตยสารทางพระพุทธศาสนาฉบับแรกของประเทศ

**ทรงมีความรอบรู้ด้านภาษาอย่างสูงคือ บาลี/สันสกฤต/อังกฤษ/ฝรั่งเศส
**ทรงนิพนธ์หนังสือหลักสูตรนักธรรมชั้นตรี โท เอก
**หลักสูตรบาลี ไวยากรณ์ทั้งชุด
** ชำระคัมภีร์บาลีไว้กว่า 20 คัมภีร์
**รวมพระนิพนธ์ทั้งหมด มีมากกว่า 200 เรื่อง

นับว่าพระองค์ท่านเป็น "จอมปราชญ์" ท่านหนึ่งในพระพุทธศาสนา!!!

เหรียญ 2 สมเด็จ 2 จอมปราชญ์พระพุทธศาสน์ วัดบวรฯจัดสร้างในปี 2514 (54ปี)

พิธีพุทธาภิเษกเข้มข้น "สมเด็จพระญาณสังวรฯ" ปลุกเสกร่วมกับ" หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี" และคณาจารย์อีกกว่าสิบท่าน

ยอดเหรียญแห่งคุณค่าครบด้าน ไม่ต้องฉายหนังขายนิยายนิทาน มอบร่วมบุญเป็นศิริมงคล...

=======400=======

หน้าแรก-กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ เนื้อทองแดงผิวไฟ แต่เป็นโลหะผสมทำให้เนื้อเหมือนนวโลหะ คุณค่าและความงามเต็มปรี่ทุกด้าน ไม่เคยผ่านการใช้ เก็บรักษามาอย่างดี

"กรมพระยาวชิรญาณวโรรส" อีกหนึ่งด้าน เหรียญจริงงามกว่าภาพถ่าย เป็น "2 สมเด็จ" แห่งวัดบวรฯซึ่งสร้างไว้เป็นที่ระลึกเพียงหนเดียว

สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 8(กรมพระยาปวเรศฯ) กับ สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 10 กรุงรัตนโกสินทร์ 2 พลัง 2 บารมีสูงสุดสยาม ทู อิน วัน!!!

 

..ขอคั่นโฆษณาหน่อยครับ..อิ อิ.. ขอแสดงความยินดีสู่หน้าที่ 4000 ด้วยครับ....

 

■■เหรียญดี-ปีลึก■■
เกจิยอด ปลุกเสกเยี่ยม
===============
พระพุทธชัยมงคล ปี 2512
'หลวงพ่อเณร สมบูรณ์จริง'
~~~~~~~~~~~~~~~

เหนือ ใต้ ออก ตก อีสาน กลาง กทม. คือความตั้งใจเสาะหาเหรียญดี-ปีลึกมาให้ชม ให้ร่วมบุญทั่วทุกภาค ท่านใดอยากนำครูอาจารย์ที่เคารพนับถือกลับมาตุภูมิ อย่างที่ชอบพูดกันว่า...นำหลวงพ่อกลับบ้าน

ก็สามารถติดตามชมไปได้เรื่อยๆตามสบาย เผื่อจ๊ะเอ๋อาจารย์ที่ตนเองตามหา ศรัทธาเชื่อมั่น หรืออยากเก็บรักษาอนุรักษ์ เหรียญดี คุณค่าเพียบ ราคาย่อมเยา(พยายามจัดให้อยู่ในระนาบ"หลักร้อย") เก็บสะสมถึงรุ่นลูกหลานก็อายุเข้าเหยียบร้อยปี ก็เชิญคัดเลือกเอาตามใจชอบ

มากเหรียญ มากคณาจารย์เป็น ภิกษุสงฆ์ชื่อดังท้องถิ่นหรือพื้นบ้านในยุคที่การสื่อสารไม่เจริญก้าวหน้า อาศัยแค่หนังสือนิตยสารไม่กี่เล่ม คนไม่ซื้ออ่าน หรือหนังสือส่งไปไม่ทั่วถึง ก็ไม่รู้กันว่า พระดี ศรีท้องถิ่น อยู่ตรงไหน เว้นแต่มีลูกศิษย์ลูกหาเป็นนักเขียน ขยันเขียนขยันเล่าส่งไปตามนิตยสารให้เผยแพร่ พระอาจารย์ท่านนั้นจึงสามารถโด่งดังเป็นที่รู้จักกันได้

สำหรับ "หลวงพ่อเณร สมบูรณ์จริง" ท่านลือชื่อเข้าขั้นลือลั่นเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ เมื่อสำแดงการย่อตัว-พรางตาด้วยอาคม "สรงน้ำในขวดแก้ว" ในที่สาธารณะหลายหน

(((วิชานี้ เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ ก็ชอบทำให้พระโอรส-พระธิดาชมบ่อยๆ ให้รู้ว่าไสยศาสตร์มีจริง!)))

ในปี 2515 เป็นปีที่ทั้งประเทศฮือฮารู้จักท่าน เพราะการร่ายมนต์มายาพรางตานึ้ จัดแสดงไปหลายแห่ง หนังสือพิมพ์ นิตยสาร ทุกเล่ม แห่กันไปทำข่าวกลัวตกข่าวตกภาพ...

"หลวงพ่อเณร" กลายเป็น "ซุปต้าร์ผ้าเหลือง" ชั่วข้ามคืน!!!

เมื่อย้อนกลับดูประวัติในอดีต ก็ไม่น่าแปลกใจเพราะท่านติดตามไปเป็นศิษย์ "หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา" ตั้งแต่อายุน้อยอยู่หลายปี สมทบกับ "หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด" ศิษย์รุ่นพี่ และ หลวงพ่อทบ วัดชนแดน ศิษย์อาวุโสอีกหนึ่งท่าน

ปฏิปทาที่หลวงพ่อเณรตั้งสัตย์รับและเรียนมาคือ...

--สรงน้ำปีละหนึ่งครั้ง!
--เปลี่ยนสบงจีรวรปีละหนึ่งผืน!

ต้องทำเช่นนี้ตลอดที่อยู่ในผ้าเหลือง ไม่ผิดสัจจะ ไม่ผิดครู...!

หลวงพ่อเณร สมบูรณ์จริง ชื่อเสียงกิตติศัพท์เลื่องลือช่วงนั้น ถึงกับได้เข้าเฝ้าถวายวัตถุมงคล กับพระหัตถ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล้นเกล้ารัชกาลที่ ๙

อีกหนึ่งจริตวิสัยหรือปฏิปทา หลวงพ่อเณร ได้แก่ ชอบธุดงค์+สร้างวัดเพื่อพระพุทธศาสนา!!!

เหรียญพระพุทธชัยมงคล หลัง "หลวงพ่อเณร" ครึ่งองค์ปี 2512 นี้ สร้างในวาระท่านสรงน้ำห้วงสงกรานต์ 19 เมษายน วัดสมบูรณ์วนาราม ต.บ้านโนน อ.ซำสูง จ.ขอนแก่น

เห็นชื่อวัดก็พอเดาออกว่า "หลวงพ่อเณร" สร้างและเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ก่อนมอบให้รูปอื่นดูแล แล้วท่านก็ย้ายไปสร้างวัด สร้างความเจริญแห่งหนอื่นตามปฏิปทา

วัตถุมงคลที่สร้างไว้ไม่มาก หาค่อนข้างยาก แต่ราคายังจับต้องได้ ไม่เหมือน ควายธนูหรือ ตะกรุดที่ท่านสร้างไว้แพงลิบทางวัดแถบภาคเหนือ

มอบร่วมบุญสำหรับพระดี ศรีอีสาน...

=======500=======

พระพุทธชัยมงคล เนื้ออัลปาก้า ผิวหิ้ง ผิวเดิมกะหลั่ยเงินบางๆ แต่กะหลั่ยลอกไปเองตามเวลาที่ผ่านมาถึง 56 ปี มีเหลือริ้วรอยเห็นตามซอกเล็กน้อย ไม่เคยผ่านการใช้ ท่านสร้างวัดนี้ตั้งแต่ปี 2487 จนถึง 2515 ก็ธุดงค์ต่อ

เป็นเหรียญกลมออกแบบได้ดี มีสกุลรุนช่างสำหรับวัดบ้านนอกไกลปืนเที่ยงเมื่อกว่าครึ่งร้อยปี บ่งชี้ให้เห็นว่า "หลวงพ่อเณร" มีลูกศิษย์มีระดับ มีฐานะสามารถร่วมสร้าง ร่วมบุญกับท่านมากทีเดียว!

สมบูรณ์จริง และเหรียญสมบูรณ์ดีทั้งหน้า-หลัง นามเดิมของหลวงพ่อเณรคือ "พระปลัดสมาน สมบูรณ์จริง" แต่เรียกขานกันแต่"หลวงพ่อเณร" กระทั่งลืมเลือนชื่อจริง และมีหลวงพ่อเณรต่อๆมาอีกหลายรูป ดังบ้าง ดับบ้าง ตามวิสัยโลก!

เหรียญสวย ขนาดกำลังงาม

 

ว้าวถึงหน้าที่ ๔๐๐๐แล้ว ยินดีกับน้าวันและชาวนักขุดกรุฯครับ พร้อมทั้งแจ้งน้าวันว่าได้รับเหรียญขวัญถุงหลวงพ่อผางเที่ยงวันนี้แล้วครับ สาธุครับ

 

โอ้โห ก้มหน้าก้มตาเขียนหรือวัยรุ่นเรียก "โซโล่" อย่างเมามันส์และอย่างเพลิดเพลินนิ้ว กับเรื่องราวสารพัดที่สรรหามาให้นักอ่านได้อ่านอย่างมีความสุข

น้องคัมภีร์ไม่กระตุกมา ก็ไม่ทราบหรอกว่า ..."สี่พันหน้า" แล้วคร้าบ....

ช่างเป็นการเดินทางยาวไกลหนักหนา (แต่ไม่สาหัส) ในรอบ 8 ปีที่ปักหลักเป็นพลพรรคและสมาชิก "พลังจิต" ได้ทำบุญ ทำทานแทบจะนับไม่ถ้วน คิดเป็นตัวเงินก็เบื่อบวกตัวเลข...

ปล่อยให้เป็นพลังบุญล่องลอยไปรออยู่ชั้นทิพย์เทวาใด ก็ตามใจท่านเถอะ

รับน้ำใจไมตรึจากเพื่อนๆสมาชิกจนแบกไม่หมด...!

ที่สำคัญนำความรู้ในชีวิต ประสบการณ์พระเครื่อง เรื่องเล่าชั้นยอด เรื่องทางธรรมชั้นดี ให้สมาชิกได้นำไปต่อยอดได้ ทุกเรื่องคุยได้ไม่ต้องอายใคร

อยากเขียนมากกว่านี้ แต่เริ่มเมื่อยนิ้ว ปวดตา จำต้องพัก ขอบพระคุณน้องคัมภีร์ หนึ่งสมาชิกที่รัก ขอให้ปีใหม่นี้จงมีแต่ความสุข ความเจริญ ทำมาหากินราบรื่นตลอดทั้งปีครับ

 

กำลังจะปิดเครื่องพัก น้องบัวฯก็ทักเข้ามาอีกหนึ่งท่าน รีบตอบเสียก่อนม่ายงั้นจะต้องยาวไปยามค่ำคืน

โมทนาน้องบัวฯ แจ้งข่าวหลวงพ่อผาง เดินทางกลับมาตุภูมิสะดวกสบายเรียบร้อย เป็นศิริมงคลเป็นกำลังใจของการทำงานและชีวิต

ขอบคุณการมอบกำลังใจและยินดีในวาระ สี่พันหน้า ขอให้น้องบัวฯประสบความสำเร็จทุกเรื่องดุจกัน และสาวน้อย-หนูน้อยล้วนแข็งแรง สุขภาพเยี่ยมเป็นขวัญใจของครอบครัวตลอดไป

 

สวัสดีครับคุณอา wanwi...พี่น้องชมรมนักขุดฯทุกท่านครับ...ยินดีและปลื้มใจกับคุณอา wanwi ด้วยครับที่นำพวกเราเดินทางมากันจนถึงหน้าที่ 4,000 ...และจะเดินหน้าเพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านพระเครื่องที่ไม่ค่อยมีใครรู้มาแนะนำให้กระจ่างและร่วมบุญกันต่อไป...สาธุครับ

 

วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้ อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

น้องประเวชหายไปนานครัน กลับมาทักทายในวาระ 4,000 หน้า มอบกำลังใจให้เดินหน้าต่อไป

เมื่อวานผมพักสายตายาวเพิ่งได้เข้ามาตอบสายวันนี้ ขอบพระคุณและสวัสดีปีใหม่ไปด้วยในตัว ให้เป็นปีที่เผาจริงของใคร เก๊าะ...ช่างหัวมัน !!!

ขอให้พวกเราจง รอด รอด และรอด ปลอดโปร่ง ปลอดภัย คุณพระคุณเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดูแล คุ้มครองเสมอ

 

ยามเช้า หนุ่มสาวจอดรถแวะใส่บาตรกับหลวงพ่อ ได้ร่วมอนุโมทนาก่อนเพล แล้วไปทำงานด้วยพลังกายพลังใจชุ่มชื่นเต็มเปี่ยม

 

■■เหรียญดี-ปีลึก■■
เกจิยอด-ปลุกเสกเยี่ยม
~~~~~~~~~~~~~~~
"หลวงพ่อเปาะ วัดช่องลม"
ศิษย์เอก"ลป.ห้อง" ปี2497
===============

พระราชเขมาจารย์ "หลวงพ่อเปาะ อินทสโร" วัดช่องลม ราชบุรี ศิษย์เอกผู้สืบทอดวิชาจากปรมาจารย์ "หลวงปู่ห้อง วัดช่องลม" พระอุปัชฌาอาจารย์ สุดยอดเกจิเมืองโอ่งมังกร

ท่านคือตัวจริง เสียงจริง ยิ่งนับ "ผลงาน" ที่สร้างไว้มโหฬาร ถือว่าไม่น้อยหน้าหรือเสียชื่อบูรพาจารย์แต่อย่างใด

เป็นยอดพยัคฆ์สืบสานตำนานอภิพยัคฆ์ได้อย่างเฉียบขาดที่สุดรูปหนึ่ง!!!

หลวงพ่อเปาะเป็น 1 ในคณาจารย์ราชบุรีไม่กี่รูปที่ถูกรัฐบาลเชิญเข้าปลุกเสกพระเครื่อง "25 พุทธศตวรรษ" ในปี 2500

ประกาศนียบัตรแค่นี้ก็พอเพียงสำหรับความขลังเยี่ยมวิทยายุทธของท่าน เมื่อหันหลังกลับไปมองผลงานโดดเด่น ยิ่งน่าทึ่งสุดๆ

--สร้างโรงเรียนสำนักปริยัติธรรมวัดช่องลม
--สร้างร.ร.วัดเนินพลู
--ร.ร. วัดบำรุ
--ร.ร.วัดคลองแค
--ร.ร.วัดท้ายเมือง
--ร.ร.วัดมหาธาตุ
--ร.ร.วัดโรงข้าว
--ร.ร.วัดปากท่อ
--ร.รวัดหนองกระทุ่ม
--ร.ร.วัดคูหาสวรรค์ ฯลฯ

โรงเรียนทั่วไปเพื่อการศึกษาของกุลบุตรกุลธิดาราชบุรี ท่านก็สร้างไว้หลายแห่ง...
--โรงเรียนประชาบาล วัดพระแท่นดงรัง กาญจนบุรี
--โรงเรียนสวรรค์เทพกิจ
--โรงเรียนอินทรเขมานุเคราะห์
--โรงเรียนประชาบาลวัดช่องลม

***อำนวยการสร้างโรงพยาบาลราชบุรี**

พระดีศรีแห่งแผ่นดินสมบูรณ์แบบ ไม่ต้องสาธยายความศักดิสิทธิ์ หากไม่เก่งจริงและโปรดสัตว์ได้ทุกรูปแบบ ใครจะหอบเงินหอบทอง สละแรงงานมาช่วยท่านสร้างสาธารณประโยชน์ สร้างสายธารกุศลได้มากมายถึงเพียงนั้น

เหรียญเสมาทองแดงรมดำ สร้างปี 2497 ที่นำมาให้ร่วมบุญนี้ จัดเป็นรุ่นที่ 4 ทั้งที่ความจริงคือรุ่น 2 เพราะปี 2497 หลวงพ่อเปาะ ((ความจริงควรเรียก "หลวงปู่" เพราะท่านอายุยืนถึง 98 ปี!)) สร้างเหรียญนี้ติดต่อกัน 3 ครั้ง 3 วาระ

แต่ "สารานุกรมพระเครื่องลุ่มน้ำแม่กลอง" ซึ่งกระทู้ได้อาศัยใบบุญเพจดีมีคุณค่าทั้งเรื่องราว+ภาพบ่อยครั้ง ระบุว่าเป็นรุ่นที่ 4 ก็ว่าตามตำราที่เชื่อถือได้

(((เหรียญรุ่นแรกของท่านสร้างปี 2496 ส่วนพระเครื่องอื่นๆ สร้างตั้งแต่ครั้งสงครามอินโดจีน 2485 มีเกร็ดเล็กๆเล่าว่า ยามสงครามพระเณรทุกวัดพากันหนีหลบภัยกันหมดรวมทั้งที่วัดช่องลม แต่ "หลวงพ่อเปาะ" ไม่ยอมหนีอยู่รูปเดียว ใครมาชวนหนีท่านไม่ไป ท่านบอกว่าจะอยู่เฝ้าวัด เรื่องราวนี้ชาวราชบุรีทราบดี และยิ่งนับถือท่านทวีคูณ)))

=======600======= เหรียญหลักพัน ยิ่งสวยยิ่งแพงหลายพัน แต่มอบบูชาตามสภาพ แม้จะไม่ผ่านการใช้ แต่มือแรกรักษาไม่ค่อยดีนัก เหรียญกระทบกระทั่งกัน ผิวรมดำก็เปิดออกเกือบหมด

เป็นไปตามอายุที่สร้างมาแล้ว 70 ปี แต่ก็เชื่อเถิดว่า "พุทธคุณ" กับ บารมีคุณหลวงพ่อเปาะยังเต็มเปี่ยม
หลวงพ่อแก่นจันทร์ ประจำวัดช่องลม พระพุทธรูปไม้แกะโบราณศักดิ์สิทธิ์ที่มีความผูกพันกับหลวงพ่อเปาะ สามารถสืบสาน "นิมิต" ถึงกันได้ตลอด

เป็นหลวงพ่อแก่นจันทร์ 1 ใน 3 องค์ ที่มีผู้คนเคารพนับถือมากที่สุดของประเทศ!

เสมามาตรฐาน อริยเจ้าที่นำ
ขึ้นคอบูชาได้ทุกเมื่อ ทุกกาล

*** หลวงพ่อเปาะ เกิดวันที่10 สิงหาคม 2423 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะโรง มรณภาพ 9 มีนาคม 2520 สิริอายุ 98 ปี 78 พรรษา

ท่านมรณภาพอิริยาบทนอนตะแคงขวา พนมมือสองข้างนาบกับหมอนที่หนุน สงบ สะอาด สว่าง ว่างเปล่า สู่แดนเกษม สมกิริยาอริยเจ้าแท้จริง !!! ***

 

ร่วมบุญครับ

 

'หลวงปู่เปาะ'......เพาะศาสน์พันธุ์
'พ่อแก่นจันทร์..ผูกพันพึ่ง
กึ่งศตวรรษ....อุบัติตรึง
พระผู้ซึ่ง......ซึ้งแก่นธรรม!

น้องเสฯเลือดเนื้อเชื้อไขเมืองมังกรนำ"หลวงปู่เปาะ" หนึ่งอริยเจ้าที่เป็นความภูมิใจคนเมืองโอ่งกลับมาตุภูมิเป็นเหรียญที่ 2 เหรียญแรกสัก 2 ปีที่แล้วจำได้ว่าน้องเสฯก็นิมนต์ท่านไป

วัตถุมงคล "หลวงปู่เปาะ" สร้างไว้สักสิบกว่ารุ่น ไม่ค่อยมีปรากฏเห็นในท้องตลาด เพราะคนพื้นที่เก็บหมด ไม่หลุดกระเซ็นออกมาเลย ให้เห็นว่าท่านเป็น "ขวัญใจท้องถิ่น" ตัวจริงเสียงจริงของแทร่ ทั้งผู้เคารพบูชาในพุทธคุณและนักพุทธพาณิชย์ มีของท่านในมือ เปลี่ยนมือรวดเร็วมาก

โมทนากับน้องเสฯ ขอจัดส่งท่านเดินทางวันจันทร์ จะได้ไม่ติดขัดวันหยุด

 

■■เหรียญดี ปีลึก■■
เกจิยอด-ปลุกเสกเยี่ยม
~~~~~~~~~~~~~~~
"หลวงพ่อธีร์"-ปราจีนฯ-ปี 09
งานผูกพัทธเสมา"วัดธารเลา"
===============

พระพิศาลสุธี ใบหน้าภาพนี้เป็น "ต้นแบบ" ของเหรียญที่นำให้ร่วมบุญ
-------------------------

ก่อนสิ้นปี67 ปราจีนบุรี มีแต่ข่าวอื้อฉาวกลิ่นคาวเลือด เหมือนจะเป็นแดนมิคสัญญี ทั้งที่เป็นเมืองชายแดนด้านตะวันออก มีพระสงฆ์ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เปี่ยมล้นคุณงามความดีและชื่อเสียงมากมาย

ก็นำ เหรียญดี ปีลึก พระเกจิซึ่งผู้คนนับถือค่อนเมืองอีกรูปให้ชมและให้ร่วมบุญกัน กลบกลิ่นคาวอื้อฉาวด้านร้ายหันมาหาคุณพระคุณเจ้าช่วยชโลมจิตชโลมใจในห้วงปีใหม่กันเถิด

"พระพิศาลสุธี"(ธีร์ ธัมมทัตโต) เป็นอดีตรองเจ้าคณะจังหวัดปราจีน อดีตเจ้าวัดอุดมวิทยาราม(โรงเกวียน) วัดเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 3 สร้างโดย "แม่ทัพไร้พ่าย" เจ้าพระยาบดินทรเดชา( สิงห์ สิงหเสนี) จอมทัพผู้พิชิตตะวันออก เขมร จรดเวียดนาม

เมื่อเป็นวัดเก่าแก่ระดับจอมทัพใหญ่ของแผ่นดินสร้าง ผู้มาครองวัดก็ต้องคัดเฟ้นอย่างดี คนเป็นเจ้าอาวาสวัดนี้ จึงไม่ต้องพิสูจน์ฝีมือ โดยปี 2501 หลวงพ่อธีร์ ได้รับสมณศักดิ์ "พระพิศาลสุธี" เป็น "พระราชาคณะชั้นสามัญ"

เหรียญใบเสมาทองแดงกะหลั่ยทอง หลวงพ่อธีร์ อนุญาตให้สร้างในวาระงานผูกพัทธเสมาวัดธารเลา ปี 2509 ซึ่งเป็นวัดในสังกัดที่ท่านดูแล รวมทั้งจัดงานพิธีพุทธาภิเษกเข้มข้นท่านเป็นประธานฝ่ายสงฆ์

แน่นอนย่อมมี หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ในงานนี้ด้วย!

เหรียญดังท้องที่ เหรียญดีท้องถิ่น เก่าล้ำลึก ปีหน้าอายุสร้างครบ 60 ปี มอบร่วมบุญ...

=======600=======

ความเก่าของเหรียญรูปแบบใบเสมา เนื้อกะหลั่ยทองอายุเกินกว่าครึ่งศตวรรษ เหมาะเป็นครู ไว้ดูและศึกษากะหลั่ยเก่าอายุเกินครึ่งร้อย ประเภทอายุเป็นร้อยปี แต่กะหลั่ยยังนิ้งเนี้ยบ รีบเดินหนีเสี้ยนเหล่านี้ไปไกลๆ

นี่ขนาดเหรียญไม่เคยผ่านการใช้ กะหลั่ยก็ยังลอกล่อนไปเองตามอายุขัย และการเปลี่ยนแปลงของผิวพรรณอันมิอาจหลีกเลี่ยง

ของดี มีสกุล "เกจิยอด"...ของแรงด้วยพิธี "ปลุกเสกเยี่ยม" อย่าเก็บไว้ดูอย่างเดียว หากมีโอกาสหรือมีที่ว่างบนคอ ก็ลองนำท่านขึ้นบูชาดูบ้าง

หลวงพ่อธีร์ มรณภาพปี 17 เหรียญรุ่นสุดท้ายสร้างแจกพระราชทานเพลิงศพในปี 18 ได้รับความนิยมอีกรุ่นหนึ่ง ทั้งที่ไม่ทันท่านเสก

ขนาดสวยงามกลางๆ
ไม่ใหญ่-ไม่เล็กกำลังดี

 

วันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือนยี่(๒) ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้ อนุโมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ย่างเข้าสู่วันศุกร์ครั้งที่ 2 ของเดือนมกรา ศุกร์ที่มีแต่ความสุขไม่ใช่ศุกร์สยองของฝรั่ง ซึ่งกำลังนี้แคลิฟอร์เนียร์ เผชิญไฟป่าครั้ง "ถล่มโลก" อาจเป็น "ไฟประลัยกัลป์" ทางธรรมชาติที่มิได้เกิดจากอาวุธสงคราม เท่าที่มนุษย์ยุคปัจจุบันเคยเห็นก็ได้ ต้องอพยพผู้คนหลายแสน

ชาวคริสต์บางคนบอกว่ามันเป็น "อามาเก็ตดอน" การรบครั้งใหญ่ที่สุด ถึงที่สุดบนเขาเมกิดโต ระหว่างธรรมะกับอธรรม ซึ่งก็คือ ปีศาจกับเทวดา(พระเจ้า)

อีกนัยหนึ่งคือ...วันสิ้นโลก...!!!

ตรงๆตามตัวง่ายๆว่าความตามไท้ในพระคัมภีร์ของเขา...

เรา "ชาวพุทธ" รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ติดตามและเอาใจช่วยเพราะแคลิฟอร์เนียร์ เป็นรัฐมีคนไทยมากสุดคือ "แอลเอ." เมืองนางฟ้า ขอให้คนไทยทุกคน รอดปลอดภัย

มาร่วมอนุโมทนาบุญใส่บาตรยามเช้า ส่งกำลังใจข้ามขอบฟ้าสู่ ลอส เองเจลิส ปลอดไฟ หนีภัยพ้นทุกคน!

 

■■เหรียญดี ปีลึก■■
เกจิยอด-ปลุกเสกเยี่ยม
~~~~~~~~~~~~~~~
'พระครูบุญทิม นุตตโม'
"วัดกระทุ่มแผ้ว"-2506
===============

พระดี ศรีปราจีนฯ...พระดังพื้นที่ เหรียญดีท้องถิ่น ยังอยู่กับเมืองปราจีนบุรี

กับเหรียญรุ่นแรก พระครูบุญทิม นุตตโม วัดกระทุ่มแผ้ว อ.บ้านสร้าง ปราจีนฯ เป็นวัดท้องถิ่นแต่สร้างชื่อเสียงระดับชาติมาแล้ว ด้วยการเป็น "วัดพัฒนาตัวอย่าง" 1 ใน 9 วัดที่ถูกคัดเลือกทั่วประเทศ

ปัจจุบัน "วัดกระทุ่มแผ้ว" คงรักษาคุณภาพอดีตวัดพัฒนาตัวอย่างหมายเลข 1 จังหวัดและระดับประเทศเอาไว้ เป็นวัดที่สวยงาม สงบ ร่มรื่น เหมาะการทัศนศึกษา ปฏิบัติธรรม หรือท่องเที่ยวในเชิงพุทธศาสตร์

ต้องชม "พระครูบุญทิม นุตตโม" ผู้วางรากฐานดีงามเหล่านี้ และเจ้าอาวาสรุ่นต่อๆมา ก็รับไม้ได้อย่างยอดเยี่ยม สมเป็น "วัดดี ศรีปราจีน~พระดี ศรีสง่าชุมชน"!!!

เหรียญพระดี ศรีพระศาสน์ ที่ไม่ต้องโด่งดังในเชิงพาณิชย์ รักษามาให้นำไปบูชาเป็นศิริมงคลชีวิต เหรียญรุ่นแรกปี 2506 ถึงวันนี้อายุสร้างนานกว่า 60 ขวบปี

ท่านสร้างไว้ไม่มาก แค่ เนื้อทองแดงผิวไฟ กับ ทองแดงกะหลั่ยทอง

"บูชาบุคคลที่ควรบูชา"!!!

1 ในมงคลชีวิต 38 ประการอยู่ข้อที่ 3 ลำดับต้นๆที่พระพุทธองค์ทรงสอนสั่งไว้ จงอย่าหลงเชื่อผีเปรตสัมภเวสีที่เอาพระพุทธศาสนามาหากินเป็นอันขาด

นอกจากเป็นสัมภเวสีแล้ว มันยังเป็นปิศาจแอบแฝงมาในคราบชาวพุทธ หลอกต้มชาวพุทธอีกด้วย เห็นแค่ "กระโถน" ที่เอามาประกอบการพล่ามพุทธวจน...

ก็ต้องรู้ว่ามันจานไรสิ้นดี ไร้สมอง ไร้สติสัมปชัญญะในการแยกแยะ เรื่องที่ต่ำที่สูง!!!

คนสติอ่อน ปัญญาหลุด ที่ผุดเข้าไปหลงเชื่อคารมถ่อยเถื่อนของมัน ก็ลองคิดเอาเองว่า ตนเองเป็นบุคคลประเภทไหน?

กลับมาชมยอดเหรียญดีศรีปราจีนฯ เชิญร่วมบุญบูชา...

=======600=======

เหรียญหน้าโล่เล็ก ข้างเม็ดไข่ปลา ออกแบบเรียบง่าย แต่สวยงามไม่รกรุงรัง มีแค่นามหลวงพ่อ"พระครูบุญทิม นุตตโม"

ทองแดงผิวไฟเริ่มหมดยาง ส่งให้ผิวทองแดงเก่าสวยคลาสสิค ไม่เคยผ่านการใช้ให้มีราคี นำไปดูและศึกษา เนื้อทองแดงยุคต้นๆที่เก่าจริงกับเก่าปลอม(แกล้งเก่า) ว่า...ต่างกันฟ้ากับเหวอย่างไร?

หลัง-แม่นางกวัก กวักทรัพย์และโชคลาภ สถิตอยู่เหนือรายละเอียดวาระสร้าง

ยืนยันว่าเป็นเหรียญแห่งโภคทรัพย์ โชคลาภและโชคดี ค้าขายทำมาหากินคล่องตัว

ขนาดพกก็เหมาะ เก็บรักษา
ยาวไปยิ่งยอดเยี่ยม อีกไม่นาน
อายุเข้าถึง"วัตถุมงคลโบราณ"

 

■■เหรียญดี-ปีลึก■■
เกจิยอด-ปลุกเสกเยี่ยม
~~~~~~~~~~~~~~~
"หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง"
"ซำปอกง-ลพ.จง"เสก-04
===============

เยือนกรุงเก่า อยุธยาไม่เคยสิ้นคนดีและพระดีศรีอโยธยา

สักการะ "หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง" พระคู่บ้านคู่เมือง สร้างมาก่อนกำเนิดกรุงศรีฯ และหยัดยืนยงคู่บารมีแผ่นดินตราบเท่าทุกวันนี้

ท่านหลุดรอดจากพม่ารามัญเผากรุง คงหลุดรอดต่อไปแม้วันนี้" ไอ้ต้าว-ไอ้ม่า" เต็มเมือง และบังอาจเหิมเกริมไม่เกรงอกเกรงใจคนไทยเจ้าของแผ่นดินหลายเรื่อง ทั้งตั้งแก๊งนักเลงอันธพาล ทำร้ายคนไทย จับกลุ่มยึดหลายพื้นที่สาธารณะเป็นที่ชุมนุมพวกตนเอง ฯลฯ

ที่พอมีความรู้ก็ทำเพจสำแดงอหังการว่า เมืองไทยเจริญได้เพราะแรงงานพวกมัน เรียกร้องขึ้นค่าแรงอีกต่างหาก...

บ้างก็สำรากหน้าด้านๆว่าบรรพบุรุษมันไม่ได้เผากรุงศรีฯ แต่พวกมันต่างหากสร้างกรุงเทพฯ...บลา! บลา! บลา!

ก็หวังว่า "น้ำตา" คงไม่หลั่งไหลจากพระเนตร "หลวงพ่อโต" อีกครั้ง หาก "กรุงรัตนโกสินทร์" มีอันเป็นไปโดน "ไอ้ต้าว-พม่า" มันลุกฮือขึ้นยึด เพราะความอ่อนแอของรัฐบาลไทยห่วยแตก กับเจ้าหน้าที่บ้านเมืองบางส่วนที่เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ เพิกเฉยกับปัญหาใหญ่หลวงนี้

จะบอกให้ว่า..."กรุงศรีอยุธยา" แตกครั้งที่ 2 นั้น ไปอ่านบันทึกโบราณของพวกพม่า จะรู้เลยว่า มันไม่ได้ตั้งใจเข้ามาตีกรุงศรีฯ

พวกกองทัพพม่า แค่รวมพลมาปล้นสดมภ์คนสยามตามชายแดน เอาทรัพย์สินกับเสบียงเท่านั้น มีกำลังพลไม่เกิน หลักพัน

แต่พวกมันดันพบว่า สยามหละหลวมเรื่องป้องกัน แต่ละเมืองมีทหาร เจ้าหน้าที่รักษาบ้านเมืองน้อยนิดไม่เข้มแข็ง มันจึงตีเมืองไล่มาเรื่อยๆ จับคนไทยเป็นเชลยเพิ่มจำนวนทัพบ้าง จนเกือบถึงกรุงศรีอยุธยา ยังไม่มีกองทัพหน้าไหนยกออกไปปราบ

พวกพม่ารามัญจึงฉุกคิดว่า...ไหนๆถลำมาไกลถึงขั้นนี้แล้ว ตีกรุงศรีฯเลยดีกว่า มันจึงแต่งใบบอกให้ม้าเร็วรีบแจ้งไปทางกรุงหงสาวดีเมืองหลวงให้แต่งทัพมาสมทบเท่าที่จะทำได้ แล้วพวกมันก็ตั้งค่ายตั้งทัพ รอทัพใหญ่ของจริงมาสนับสนุน

จากนั้นเรื่องราวก็เป็นไปตามที่ คนไทยรุ่นหลังรับรู้กันตามประวัติศาสตร์ บทเรียนและข้อเขียนต่างๆที่บันทึก

กลับมาดูสถานการณ์บ้านเมืองวันนี้...

คล้ายกันมั้ย พ่อแม่พี่น้อง?...ใครว่าไม่คล้าย เขียนเถียงมาได้ วิจารณ์ให้เต็มที่ เผื่อบางทีจะได้ไปเข้าหูเข้าตาไอ้พวกนักการเมืองหน้าโง่ งี่เง่า และงั่ง ที่นั่งเสวยสุขอยู่บนหอคอยงาช้าง บริหารแผ่นดินชุ่ยๆ อาจฉุกคิดในกระโหลกหนา ปัญญานิ่มของพวกมันได้บ้างว่า...

เรื่อง "ไอ้ต้าว-ต่างด้าวพม่า" เต็มเมืองวันนี้ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะเห้ย!!!

แล้วก็ขอโทษที...นักรบอย่าง "สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ก็ใช่ว่าจะกลับมาเกิดให้เห็นบ่อยนะไอ้นักกินเมืองจ้าดเง่าทั้งหลาย...?!

เฮ้อ...เขียนแล้วเหนื่อยใจ...กลับมาชม พระพุทธไตรรัตนนายก "หลวงพ่อโต" หรือองค์ "ซำปอกง" ของแผ่นดินไทยและกรุงศรีอโยธยา

เหรียญปี 2504 เนื้อทองแดงกะหลั่ยทอง อายุสร้างนานเกิน 60 ปี พิธียิ่งใหญ่คับเมือง หลวงพ่อจง ร่วมเสก "ทิ้งทวน"ให้ พร้อมพระเกจิดี ศรีอโยธยาทั้งเมือง อาทิ หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ / หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ ฯลฯ

รุ่นนี้มีบล็อคธรรมดากับบล็อควงเดือน ซึ่งเชื่อเลยว่า "วงเดือน" นั้น เป็นบล็อคที่แก้ไขทีหลัง หลังจากบล็อคธรรมดา "ด้านหลังพัง" เหลือแต่แม่พิมพ์ด้านหน้าที่ใช้ได้...!

แต่ก็ช่างเถอะ ดูของเก่าแท้ คลาสสิคชัวร์ที่สุด ให้ร่วมบุญสบายกระเป๋าอีกต่างหาก...

=======600=======

เนื้อทองแดงกะหลั่ยทองบางๆ แต่กะหลั่ยลอกล่อนเกือบหมด หลงเพียงตามซอกองค์พระกับตามตัวหนังสือด้านบนเล็กน้อย

จะชึ้ตำหนิให้ชมว่า ปี 2504 ...ควรดูตรงไหนให้ถูกต้อง ตรงปี!!!

ดูตาเปล่าตรงนี้ก่อน แล้วค่อยดูภาพปากกามาวง...จะเห็น 'กลุ่มเม็ดผด' ย่อมๆบริเวณด้านพระกรรณขวา(ใบหู)องค์ท่าน แล้วยังมีเส้นขนแมววิ่งขนานที่ขอบเหรียญ เหนืออักษร "ไม้หันอากาศ" ตรงคำว่า "รัตน"!

มี 2 จุดสำคัญนี้ก็วางใจได้ว่า เป็นเหรียญเก่าปี 04 ล้านเปอร์เซ็นต์ ส่วนด้านหลังจะมีวงเดือนหรือไม่มี ไม่ใช่จุดสำคัญ

เพราะความสำคัญอยู่ที่ว่า บล็อคแรก "หลวงพ่อจง" เสกแน่นอน!!!

กะหลั่ยทองด้านหลังก็พอเหลือบ้าง

ปากกาวงจุดสำคัญยืนยันเป็นปี 2504 กลุ่มผดที่พระกรรณด้านขวา กับเส้นวิ่งขนานขอบเหรียญ

ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ มีกิน มีใช้ตลอดไป รุ่นเก่าเขาถือว่า "แคล้วคลาด"เป็นเอก ตามประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ของท่าน แถมด้วยคงกระพันชาตรี หนึ่งไม่มีสอง!