กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    คัดลอกจากเพจเฟสบุ๊ค : ทำบุญ
    1f49b.png #เอ็งเป็นศิษย์ข้า เป็นลูกข้า มาหลายภพหลายชาติ ข้าถึงมาช่วยเอ็ง เมื่อเอ็งเอาตัวรอดได้แล้ว ก็ต้องมาช่วยงานข้าด้วย
    #งานของข้า ไม่ใช่งานเล็กน้อย เอ็งไปร่วมประชุมกับเบื้องบนบ่อยๆ เอ็งก็ต้องสานต่อด้วย ข้าก็ช่วยเอ็งด้วย มีอะไรก็นึกถึงข้า ต่อไปเอ็งก็ต้องมาเกิดเป็นลูกข้าอีก แล้วเอ็งถึงจะเข้านิพพานได้
    #ตอนนี้ทำงานช่วยข้าไปก่อน ท่านปิยะก็มารับเอ็งเป็นลูกบุญธรรม ท่านปิณโฑลนก็มารับเอ็งเป็นศิษย์ ก็เพราะข้าไปบอกให้มาช่วยเอ็ง ทนเอาลูก อีกไม่นานก็พ้นทุกข์แล้ว ทนเวียนว่ายตายเกิดมาตั้งนาน ทำไมแค่นี้ จะทนอีกหน่อยไม่ได้
    2728.png #ใครๆเขาก็ขอบารมีข้า ไม่รู้จักข้า และไม่ได้ทำงานให้ข้าเหมือนเอ็ง ท่านโต ท่านปาน ท่านศรีวิชัย และองค์อื่นๆ ก็ช่วยงานข้าหมด เพราะพระโพธิสัตว์ท่านมีเมตตากรุณาสูง และทุกองค์ต่างก็เร่งบำเพ็ญบารมี เพื่อปรารถนาจะไปเกิดในยุคของข้า หวังที่จะได้รับคำพยากรณ์จากข้า เพราะข้าจะสำเร็จก่อนองค์อื่นๆ
    2728.png #ใครที่จะตามข้า เอ็งต้องไปบอกไปสอนเขา ให้เขาได้รู้จักวิธีสร้างบารมีโดยเร็ว แต่ถ้าเขาไม่ฟัง เอ็งก็ปล่อยเขาไป เรื่องของเขา กรรมของเขา บารมีเขาไม่พอที่จะไปในยุคของข้า ก็สุดวิสัย
    #ข้าโปรดได้แต่คนที่มีบารมีเก่า มีทุนเดิมเท่านั้น โปรดได้ไม่หมดหรอก หรือให้องค์อื่นๆท่านโปรดบ้างก็ได้
    2728.png #ข้าโปรดได้เฉพาะคนของข้า แต่ข้าก็ช่วยทุกคนนั่นแหละ ไม่เลือกหรอก ใครมีทุกข์มาข้าช่วยหมด มันเป็นหน้าที่ของข้า และพระโพธิสัตว์ทุกองค์ แต่ใครจะสำนึกหรือไม่ มันเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของข้า ข้าทำเพื่อให้ มิใช่ทำเพื่อเอา....
    1f538.png #บอกเขาด้วยวิธีที่ง่ายที่สุด คือ ให้โมทนาบุญของข้า แล้วตั้งความปรารถนา อย่างนี้ถึงจะได้เกิดทันในยุคของข้า แต่ถ้าจะได้สำเร็จธรรม ต้องบำเพ็ญบารมีด้วย คนสมัยนี้รู้ธรรมมาก แต่ไม่ได้บรรลุธรรม เพราะยังขาดบารมีนั่นเอง เอ้า! เอาบุญไป โมทนาซะ...
    นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ......
    #คำสอนหลวงปู่ทวด.....
    #บันทึกบุญง่ายๆด้วยการแชร์ออกไป น้อมโมทนาค่ะ
    เครดิต จักรพรรดิ แห่งจักรวาล
    _______________________________________
    #คาถาบูชาหลวงปู่ทวด
    ตั้งนะโม (3จบ) แล้วท่อง
    2728.png นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา 2728.png
    (#ท่องก่อนออกเดินทาง3 จบ)
    หรือสวดทุกอาริยาบถ
    ยืน เดิน นั่ง นอน และนึกถึงหลวงปู่เสมอ
    2728.png #ตัวอย่างคำอธิษฐานถึงหลวงปู่ทวด 2728.png
    ลูก(ชื่อ................)ขออนุโมทนาทุกบุญบารมีที่หลวงปู่ทวดสร้างมาทุกภพทุกชาติ ขอหลวงปู่เป็นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของลูกทุกชาติไปตราบเข้าสู่พระนิพพาน โปรดคอยดูแลปกป้องคุ้มครองลูก จากภัยทั้งหลาย คอยเตือนสติให้ลูกใช้ชีวิตตามครรลองแห่งธรรม เป็นผู้ไม่หลงลืมในการสร้างคุณงามความดี ตราบจนกว่าเข้าสู่พระนิพพาน #หากแม้ยังไม่ถึงซึ่งพระนิพพานในกาลอันใกล้นี้ ...ขอให้ลูกได้เกิดในยุคพระศรีอริยเมตไตรย ได้ฟังธรรมต่อหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้า ได้บรรลุธรรมในยุคพระศรีอริยเมตไตรยด้วยเทอญ สาธุสาธุสาธุ...
    (ยกตัวอย่างในการอธิษฐาน ท่านสามารถอธิษฐานเพิ่มเติมแล้วแต่ใจปรารถนา)
     
  2. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ผู้ให้ทานผู้ที่รักษาศีลผู้ที่หมั่นภาวนา ยามที่หนทางพบกับความทุกข์อุปสรรคปัญหา ก็สามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดายอนิสงส์ของผลบุญนี้ เปรียบดั่งมีแสงสว่างที่คอยนำทางให้อยู่เสมอ..
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    สวัสดีครับ อยู่ดีๆก็ฟลุ๊กจำรหัสผ่านได้
    เดี๋ยวจะมีเรื่องเล่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา 6-7 ปีที่ได้ไปพบพระเกจิหลายๆรูป
    แล้วก็ประสบการณ์ที่มีโอกาสได้ไปช่วยเหลือ
    เพื่อนๆสมาชิกที่ไปเจอกันข้างนอกแล้วก็ FC ต่างๆ
    พี่ตามไปเจอกันที่วัดที่มีพระเกจิ
    คิดถึงทุกคนครับ
    แต่ตอนนี้อาจจะไม่ได้แวะเข้ามาบ่อย
    ติดเขียนบทความวิชาการอยู่ 2-3 บทความครับ
     
  4. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    คิดถึงอ.นพครับ รอฟังเรื่องเล่าครับ ไม่รู้จะมีเรื่องหลวงปู่เทพโลกอุดรไหม อยู่ๆก็นึกถึงท่าน
    สวัสดีครับอ.นพ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    นิทาน 2024
    -สภาวะดับ หรือ สภาวะนิโรธสมาบัติ
    การเข้าได้เริ่มจากวินาที
    เหมือนกันทุกดวงจิต
    เข้าได้ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้วิเศษหรือดีอะไร
    เพียงแต่ทั่วไป กำลังของมันจะไปเอา
    บางเรื่องที่มันเคยฝั่งอยู่ในตัวจิต
    ตั้งแต่ก่อนมีกาย
    ให้มันค่อยๆน้อยลงไปเรื่อยๆ
    แต่มักจะไม่ได้ผล หากเรื่องที่เกิดขึ้นใหม่
    ดวงจิตนั้นเป็นผู้เริ่มก่อเอง กรณีที่มีกายแล้ว
    แต่ด้วยกำลังของมันก็สามารถใช้ประโยชน์ด้านอื่นได้อยู่ แม้จะเข้าใด้ไม่กี่วินาที
    ส่วนทางสายมหาฯท่าน มักจะใช้เพื่อเป็นฐาน
    การโปรดสรรพสัตว์
    แต่ท้ายนี้ มรรคผลจะยังไม่ได้ หากฐานกำลัง
    สมาธิพื้นฐานหรือใช้งานยังไม่พอ
    ดังนั้นการจะเข้าได้นานๆจะไม่มีคำว่าบังเอิญ ฝลุ๊ก
    หรือเกิดขึ้นเองโดยไม่ได้ตั้งใจ เหมือนกริยาทางด้านนามธรรมแบบที่เจอระหว่างทางของการฝึกสมาธิ
    - บางดวงจิตเกิดมาสามารถสื่อสารและคุยกับสิ่งที่มองไม่เห็นได้ทั่วไปเราจะเรียกว่าพวกญาณวิถี เป็นตัวจิตเขาที่ชอบแต่เจ้าตัวเขาอาจจะไม่ได้ชอบถ้าไปถามว่าฝึกยังไงคุณจะไม่ได้คำตอบที่ตรงเพราะเขาไม่ได้ฝึกมามันเกิดขึ้นเอง และส่วนมากจะเป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลจิตเวชแต่เขาไม่ได้บ้าหรือวิกลจริต เพียงแต่ที่เขาเป็นทำให้คนภายนอกมองเขาแปลกๆและหายตัวในญาณวิถีไม่เป็น(แยกแยะไม่ออกว่าที่เดินสวนกันใครเป็นคนใครเป็นภพภูมิ)แต่พอได้มาฝึกเจริญสติฝึกสมาธิบ้างมาทางปัญญาบ้างความสามารถอะไรที่ไม่ได้ใช้มันจะถูกปิดไป จะเหลือแต่ความสามารถที่ยังได้ใช้งานอยู่
    -ดวงจิตที่เข้าออกฌานได้หลายรอบภายใน ๑ลมหายใจเข้าออกพวกนี้กระแสลมหายใจจะมี ๒ สายที่ต่างกันวิ่งอยู่ในลมหายใจเดียวกันนั้น สายลมที่ ๒ ที่แทรกเข้ามานี่แหละเป็นตัวบอกจำนวนรอบในการเข้าออกฌานภายในลมหายใจเดียว งงไหมงงไปก่อน ส่วนที่บอกว่าไปฝึกนั่งสมาธิแล้วเข้าๆออกๆจนเป็นวสี นั่นยังไม่ถือว่าเป็นระดับใช้งานในสถานการณ์ปกติทั่วไป
    - ไม่ว่าจะพระธาตุเสด็จ พระสรีระเสด็จ ปรอทเหล็กไหลเสด็จหรืออะไรเสด็จก็ตามที่มาทางอากาศในวงการเราจะเรียกรวมๆว่า"ภูตอากาศ"
    -มาแนวอธิษฐานจิตเพื่อใช้งานความเฉลียวฉลาดในการอธิษฐานและฐานสมาธิใช้งานเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีเป็นทุน
    -มาแนวความสามารถค่อยๆขึ้นมาตามความละเอียดของจิตแบบทางพุทธ การทิ้งความสามารถที่มี(ยิ่งทิ้งยิ่งอัตโนมัติไม่ได้หายไปไหน)และมาต่อทางด้านปัญญาเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนที่ฟังทำแล้วบรรลุคุณธรรมมาพร้อมความสามารถต่างๆนั้นยังพอมีอยู่แต่มักอยู่ในรูปของการห่มเหลือง

    Cr. ท่านผู้ไปมาไร้ร่องรอย,ท่านปฏิสัมภิทาฯจิตไว,ท่านผู้พลิกนามธรรมเป็นรูปธรรมและพระป่าท่านผู้มีปฏิปทาพระปัจเจกฯ

    จบนิทานแค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    นิทาน 2024
    -นิวทรีโน ,อนุภาคผี ,กระแสในโหมดอรูปฌาน(เห็นได้ด้วยตาเปล่า ถ้ารู้ทริค),เครื่อง LSC องค์กรเซินส์ใช้เพื่อค้นหา ทั้งหมดคือสิ่งเดียวกัน
    -กระแสพลังงานตามแนวกระดูก หากเอียงไม่เกิน ๓๐ องศา หรือ หมุนวนมั่วๆแนวตั้ง ยังสามารถจับดัดให้ตรงได้ จะอยู่ต่อได้อีกกี่ปีขึ้นอยู่กับพฤติกรรมแห่งตน, หากองศามากกว่านี้ ต้องอาศัยกำลังบุญใหญ่มาหนุนแล้วค่อยว่ากันอีกที,แต่เมื่อใดขนานพื้นให้เตรียมจองศาลาไว้ เพราะแม้แต่ท่านยมฯ มาเองก็ช่วยไม่ได้
    -ที่โผล่พ้นข้างล่างมารับบุญได้ครึ่งตัวในวันโกน และต้องมาลุ้นอีกทีว่าจะได้รับหรือไม่ ส่วนหนึ่งมาจากการใช้อุบายหลอกลวงทรัพย์ผู้อื่น ให้ระวังอย่าคิดหรือไปมีส่วนร่วมทำ
    -ปริมาณใบชาฤาษีคืนชีพ ๕ ใบต่อน้ำ ๑ แก้วต้มได้จนน้ำจางมากถึงเปลี่ยน กินแทนน้ำเปล่า ๓ เดือนจะหาไขมันในเส้นเลือดไม่เจอ หากมีผดสิวขึ้นระหว่างนี้หลังจากกินให้ตามด้วยตามเปล่ามากๆได้
    -จะใช้จิตไม่ว่ากรณีใดๆให้อฐิษฐานพระฯครอบกายก่อนจะครอบคลุมและปลอกภัยที่สุด
    -เป็นฮีทสโตรกมา ให้จิ๊บน้ำอุ่น(ห้ามเด็ดขาดคือน้ำเย็น หรือทานน้ำอุ่นทีเดียวปริมาณมากทีเดียว) ร่วมกับเดินเหยียบดิน ๖ เดือนจะกลับมาเหมือนปกติได้เอง แต่ถ้าเป็นร่วมกับไตให้ทานอาหารเน้นจืดอย่างเดียวระนะเวลาใกล้เคียงกัน
    -เป็นไตค่าไตน้อย แต่ยังไม่เคยฟอก ตัดอ้อยดำเหนือข้อต่อบนล่าง ๑ นิ้ว /น้ำ ๑ ลิตร ต้มกินแทนน้ำ(ต้มได้ ๕ รอบถึงเปลี่ยน) อย่างน้อย ๓ เดือนจะกลับมาแทบปกติได้ ส่วนเบาหวานความดันให้เปลี่ยนเป็นอ้อยแดงอื่นๆเหมือนกัน
    -ไขมันฟอกตับ ต้มใบเก๊กฮวย หนึ่งกำมือ/น้ำ ๑ ลิตร เช้า ๑ แก้ว เย็น ๑ แก้ว ๒ เดือนขึ้นไป ไขมันที่ตับจะหาไม่เจอ
    -อายุมากกระดูกพรุนแล้ว น้ำมะพร้าว ๑๐ ลูกเคี่ยวจนเหลือปริมาณ ๑ ลูกน้ำมาทานวดๆด้วยมือจะเบาเทาอาการได้ แต่ถ้าจะเพิ่มมวลกระดูกให้แข็งแรง น้ำมะพร้าวสกัดเย็น ๑๐ / พิมเสน ๑ ผสมให้เข้ากัน น้ำมาทานวดด้วยไม้เนื้อแข็งเท่านั้น(ห้ามใช้มือ)
    จบนิทาน แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง 2024
    Cr.ท่านปฏิสัมภิทาฯจิตไว
     
  7. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +4,712
    555...555...555...ฮักหาอจ.นพ
    9 ขอต้อนรับการกลับมาของท่านอจ.นพด้วยความสุข
    ความสุขทั้งกายใจอันสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด
    รวมทั้งทุกท่านที่มักแวะเข้ามาอ่านประจำและไม่ประจำ


    กว่าอาทิตย์ที่9หลบเข้าป่าส่องนก ดูช้าง กว้าง ดูหมี
    หมีดำหลายตัวที่แอบซ่อนตัวอยู่ในเขตวัดป่าภูหายหลง
    เท่าที่ทราบจากท่านเจ้าอาวาสเล่าให้ฟัง...
    "น่าจะมาเป็นครอบครัว"
    เห็นครั้งแรกเมื่อประมาณเมษาหน้าร้อนนี้
    อากาศร้อนจัด กลุ่มหมีคงหนีร้อนมาพึ่งเย็นที่วัดนี้
    ดูน่ารักดี แต่ก็แฝงไปด้วยอันตราย
    สำหรับนักททท.และญาติธรรมที่ขึ้นมาทำบุญไหว้พระ
    แต่พระภิกษุมักพบเห็นหมีดำช่วงช่วงดึก
    โดยเฉพาะกลางคืนใกล้ๆกุฎิที่พักสงฆ์
    ส่วนกลางวันครอบครัวหมีดำน่าจะหลบอยู่ที่โพรงถ้ำใกล้ๆ

    *เช้าวันนี้9 ขอเข้ามาทักทายทุกท่านเพียงแค่นี้นะครับ*
    ไว้วันเสาร์นี้จะเข้ามาตามปกติ
     
  8. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ต้อนรับการกลับมาของอ.นพเช่นกันครับ อิอิ สาธุในบทความ
     
  9. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    มีคำถามครับ พี่ที่รู้จัก สวดมนต์บทแผ่เมตตาใหญ่ แล้วเกิดอาการหาว อันนี้เกิดจากอะไรครับ
     
  10. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +4,712
    "สวัสดีครับ อยู่ดีๆก็ฟลุ๊กจำรหัสผ่านได้"
    (อจ.นพ)

    ไม่ได้ปลุ๊กหรอกครับ
    อย่างงี้เรียกว่า"บุพเพสันนิวาส"รูปแบบหนึ่ง
    อำนาจเหนือดวงจิตซึ่งได้นำพาเรามาพบกันอีก

    "เดี๋ยวจะมีเรื่องเล่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา 6-7 ปี
    ที่ได้ไปพบพระเกจิหลายๆรูป
    แล้วก็ประสบการณ์ที่มีโอกาสได้ไปช่วยเหลือ
    เพื่อนๆสมาชิกที่ไปเจอกันข้างนอกแล้วก็ FC ต่างๆ"
    (อจ.นพ)

    จะรออ่านเรื่องราวสนุกๆและลี้ลับ
    ยินดีและขอบคุณครับ

     
  11. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +4,712

    55....ผมก็เช่นกันครับ
    เวลาท่องบทสวดคาถามหาจักรพรรดิ
    พอท่องถึงตอน "....มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมมา"
    จะเกิดอาการหาวเกือบทุกครั้ง

    สาเหตุเกิดจากอะไรไว้รออจ.นพเข้ามาเฉลย
    เพราะ9 เองก็ยังสงสัยและไม่รู้เหมือนกันครับ
     
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +4,712
    (ใครผ่านพัทยาระยองจันทตราดลอง
    ลองแวะไปขอพรอาจนำโชคมาให้)

    *****************************

    ศูนย์รวมความศรัทธา องค์ท้าววิรูปักษ์ สูง 15 เมตร หนึ่งเดียวในจังหวัดระยอง ทำพิธีพุทธาภิเษกสุดยิ่งใหญ่

    วันที่ 18 พฤษภาคม 2567 เมื่อเวลา 17.00 น. ที่วัดหนองตะแบก ต.ตาขัน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พระเกจิจากวัดต่างๆ ในจังหวัดระยอง รวมถึงพุทธสานิกชน ได้เดินทางมาร่วมพิธี เบิกเนตร องค์ท้าววิรูปักษ์ สูง 15 เมตร หนึ่งเดียวในจังหวัดระยอง

    บริเวณปรัมพิธี มีการจัดเรียง พานผลไม้ พวงมาลัยเครื่องเซ่นไหว้จัดไว้อย่างสวยงาม ด้านหน้าพุทธสานิกชนจุดธูป พร้อมกับท่องบทกราบไหว้ไม่ขาดสาย เมื่อมองไปเบื้องหน้าปรากฏ องค์ท้าววิรูปักษ์ สูง 15เมตร มือซ้ายถือไม้เท้ามีพญานาคพัน มือขวาถือลูกแก้ว ช่วงองค์เศียรมีพญานาคแผ่ปกป้องรักษา ดูแล้วมีมนต์ขลัง เมื่อพิธีเริ่มขึ้น มีการจุดประทัดเสียงดัง พระสวดมนต์เริ่มพิธี

    พระครูสุรภัทร โพธิคุน เจ้าอาวาสวัดหนองตะแบก ให้สัมภาษณ์ว่าที่มาที่ไปที่ทางวัดได้สร้างองค์ท้าววิรูปักษ์นั้น แรกเริ่มมีญาติโยมมาทำบุญแล้วพอกลับไป ได้ไปปรากฏนิมิตรว่าที่วัดมีพญานาคปกครองอยู่ เมื่อนำนิมิตรไปปรึกษาร่างทรงจึงแนะนำว่าต้องสร้างองค์ท้าววิรูปักษ์ไว้ที่วัด เพราะองค์ท้าววิรูปักษ์กับพญานาคคือสิ่งคู่กัน

    สำหรับ องค์ท้าววิรูปักษ์ สูง 15 เมตร เมื่อตรวจสอบภายในพื้นที่จังหวัดระยอง พบว่ายังไม่เคยสร้างที่ไหนมาก่อน ทำให้ที่วัดหนองตะแบกเป็นองค์แรกและองค์เดียวในจังหวัดระยอง หากท่านใดมีโอกาสขอเชิญแวะเวียนไป ขอพรได้ที่วัดหนองตะแบก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง


    (ขอบคุณแหล่งที่มา)
    https://www.sanook.com/news/9387782/gallery/
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ถ้าเหตุไม่ได้เกิดจากการเหนื่อยจากการใช้ชีวิตประจำวันนะ
    ทั่วไปนะไม่ว่าจะสวดบทไหน เป็นเวลานาน อาการหาว ง่วง เกิดขึ้นได้เสมอ
    เนื่องจากอยู่ในระดับคลื่นความถี่ที่่ไม่ต่างกัน สมองจะปรับไปที่คลื่นหลับ
    ประมาณ 1 - 3 Hz ,ส่วนคลื่นขณะฝันจะประมาณ 4 -8 Hz เวลาหาว มันจะหาวช่วงนี้แระ
    (นึกออกไหม ก่อนจะหลับ คลื่นจะลดลงเรื่อยๆ ดังนั้นมันจึงมีโอกาสง่วงเป็นเรื่องปกติ)
    ถ้าพูดทางสมาธิ คือ กำลังสมาธิสะสมที่จะเป็นภูมิต้านทานกายตรงนี้ยังไม่พอ
    ให้แก้ด้วยการเดินจงกลมก่อนสวด หรือ แก้ด้วยการที่ระลึกรู้ลมหายใจเข้าออก
    หยุดที่ปลายจมูกระหว่างวัน ครั้งละ 10 รอบ (นับ 1 ถึง 10 ) แต่ทำบ่อยๆเอา ก็หายได้
    หายเพราะ เวลาผ่านช่วงคลื่น 4- 8 Hz ร่างกายจะเฉยๆได้ และกำลังสมาธิที่ได้
    จากการเดินจงกลม หรือ ระลึกรู้ลมจะสามารถ ทำให้จิตอยู่ช่วง 1- 3 Hz ได้นานขึ้นด้วย
     
  14. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    ขอบคุณอาจารย์นพครับ
     
  15. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +4,712
    :):):oops::oops::rolleyes::rolleyes:o_Oo_O

    (ปักหมุด23 หน้า28)
    หน้า 28 นี้มีสาระหลากหลายน่าอ่าน
    มีTips & Tricks 2เรื่อง
    (โดยเฉพาะคำสั่งของพ่อ)
    และรูปวาดองค์ลป.ทวดพร้อมคติธรรม

    https://palungjit.org/threads/88.637310/page-28
    ;);););););):rolleyes::rolleyes:
     
  16. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +4,712
    พระธาตุเสด็จสัณฐานกลมนูน
    กลางหน้าผากพระสมเด็จนางพญา(พิมพฺ์เล็ก)ไม่ทราบวัด
    (ช่วงหลายสิบปีก่อนที่ได้มาไม่มี)
    312580 - Copy (2) - Copy.jpg


    ที่สร้างความอัศจรรย์ใจคือ
    ด้านหลังปรากฏภาพลางๆคล้ายองค์สมเด็จนางพญา
    ซึ่งแต่เดิมที่ได้มาไม่มี(หลังเรียบธรรมดา)
    เพิ่งเกิดขึ้นช่วงหลังๆนี้(จะกี่ปีไม่แน่ชัด)

    312581.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2024
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +4,712
    ส่วนผมจะเกิดอาการหาวช่วงสวดมนต์ก่อนนอน
    ส่วนช่วงอื่นไม่ค่อยหาว แต่ที่สงสัยคือ
    ทำไมสวดถึงวรรคเดิมๆนั่นถึงจะหาว

    ทั้งที่เพิ่งสวดมนต์ไปได้แค่ 20-30%
    หลายครั้งเกิดอาการหาวซ้ำๆจนหงายหลังหลับสนิทเลย
    มีอยู่ครั้งหนึ่งฝืนทนหาวซ้ำๆ
    จนเอนลงข้างๆตกเตียงเลย ยังดีที่มือยันพื้นไว้ทัน
    ...55 เกือบไหมล่ะ:eek::eek::eek:
     
  18. ง่าวต๋าย

    ง่าวต๋าย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2020
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +150
    สวัสดีค่ะทุกท่าน :)
    วันนี้กะเข้ามาย้อนอ่านเรื่องเก่าๆ
    ไม่คิดว่าอ.นพจะกลับมา หายไปเป็นปีๆเลยนะคะ :D
     
  19. volvo16738

    volvo16738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +234
    ไม่ใช่แค่ อ.นพฯ ครับ แต่ทุกคนกลับมากันหมด
     
  20. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +4,712
    :oops::oops::oops::rolleyes::rolleyes:o_Oo_Oo_Oo_O

    (ปักหมุด24/1) หน้า30
    มาจากวรรคทองTips & Tricks
    เขียนโดยอาจารย์นพ
    หน้า 7 ลำดับที่ #128(ต่อ)
    nopphakan post

    (ถ้าเนื้อหาปักหมุดซ้ำต้องขออภัย)

    อีกเสียงที่ต้องระวัง คือ
    เสียงสูงแต่เรียกชื่อเราเอง
    แบบรู้กันสองคน
    (ตัวใครตัวมันนะครับ ๕๕๕)

    คือเสียง ต้นกำเนิดจากคลื่นๆ คลื่นจากไหน
    ก็คลื่นที่สร้างจากตัวจิตเราในสภาวะบังเอิญชั่วคราว
    กับคลื่นที่ส่งมาจากภายนอก
    ที่พยายามส่งเข้ามาเชื่อม
    กับตัวจิตเรานั่นหละครับ
    แต่ว่าตำแหน่งที่เข้ามาในกายนั้น
    มันพอจะบอกได้ว่า
    เป็นคลื่นความถี่ระดับไหนครับ....

    ถ้าเป็นแบบ...
    ๑.มาทางด้านซ้ายใกล้หู
    ในระดับเดียวกับหู
    คือต้องการกำลังบุญอย่างแรง
    เสียงพวกนี้จะไม่ค่อยชัด
    พูดเหมือนคนไม่มีแรง พูดได้สั้นๆ
    ไม่ต้องคิดอะไรมาก ทำบุญให้เลย
    จัดไป ๕ ดอกครับ(ทำบุญนะ)

    แต่ถ้าด้านซ้ายใกล้หู
    แต่อยู่ต่ำกว่าใบหู นั่นบอกว่า
    ตายมานานมากแล้วต้องยิ่งรีบทำบุญให้...
    ไม่ใช่ใกล้หูขวาแต่อยู่เหนือหูหน่อยเดียวนะ
    นี่ก็ตายมานานแต่พอมีกำลังบุญนะครับ
    เข้าใจที่พูดเนาะ...

    ๒.เสียงที่มาทางด้านขวา
    จะเป็นดวงวิญญานที่พอมีกำลังบุญ
    ทำไมถึงมาทางด้านขวาหละ.
    ก็เพราะคลื่นมันเป็นพลังงานครับ
    มันจะมีเรื่องเกี่ยวกับการดึงดูดพลังงาน
    ส่วนหนึ่งมันจะมาจากธาตุเหล็ก
    ที่อยู่ในเส้นเลือดดำด้านหลังขวาเรา
    ถ้าไม่เชื่อ ลองเอามีดกรีดดู
    จะพบแต่เส้นเลือดดำด้านนี้ ๕๕๕

    เวลาที่เราจะสัมผัสเสียงได้
    จิตมันจะมีความเป็นทิพย์ชั่วคราว
    ซึ่งสภาวะนี้ มันจะตัดร่างกาย
    ในส่วนที่เป็นธาตุออกชั่วคราวเหมือนกัน
    มันเลยจะเข้าถึงธาตุเหล็ก
    ที่อยู่ในกระแสเลือดดำเราได้
    ถ้ากำลังไม่มากพอ
    แล้วมาทางด้านขวา
    ผลก็คือจะถูกดูดนั่นเองครับ
    เล่าให้ฟังเชิงวิทย์
    เพราะจริงๆมันไม่มีอะไรพิศดารครับ...

    ๓.เสียงทางหูขวา
    แต่เส้นเสียงขนานกับหูเรา เข้าตรงกลางหู
    นั่นคือ คนที่เราเคยรู้จักในชาตินี้
    แต่ชิงเปลี่ยนภพภูมิไปก่อนครับ

    ๔.ถ้าเสียงเรียก มุมขวาบน เสียงดังฟังชัด
    เป็นท่านที่จะมาสอนเราในชาตินี้
    หรือแวะมาทักทาย แบบชั่วคราว

    ๕.เสียงผุดจากกลางจิตเราเอง
    เป็นสภาวะจิตเราเอง
    ที่จะพยายามพ้นสภาวะธรรมที่ทำเราติดขัด
    หรือเพื่อบอกหลักธรรมที่จะก้าวข้าม

    ๖.เสียงระดับกลางหน้าอก
    เป็นระดับไม่เกินเทพ...

    ๗.เสียงระดับกลางกระโหลก
    เยื้องขวานิดเดียว เบาๆ เป็นระดับพรหม

    ๘.เสียงตรงกลางกระโหลกเลย
    เบา นิ่ม ได้ยินทั้งประโยค
    แต่เราฟังเป็นพยางค์เดียว
    คืออะไรที่สูงกว่า พรหม...

    ๙.เสียงมาทางหูด้านซ้าย
    คุยได้เรื่อยๆ อย่าไปสนใจ
    พวกนี้เป็นเสียงของพวกผีมีฤทธิ์
    กึ่งๆประมาณตำหนักทรง..

    ๑๐.เสียงเรียกทางด้านหลังเหนือศรีษะ
    เป็นระดับครูบาร์
    อาจารย์มีชื่อในอดีต ที่จะมาสอนเรา....

    ๑๑.เวลาสัตว์คุยกัน พวกตัวเล็กๆ
    มันจะเอาอวัยวะแตะกัน
    ตอนที่แตะกันนั่นหละ จะเกิดคลื่นเสียง
    จะแปลเป็นภาษาให้เราเข้าใจได้ว่า
    มันคุยอะไรกันครับ
    พวกนี้จะคุยวนๆอยู่ไม่กี่คำหรอกครับ
    ..เช่น ไปไหนมา ทำอะไร ฯลฯ ๕๕

    ที่พูดมาข้างบนนี้
    เป็นแค่กิริยาที่เกิดขึ้นได้ปกติ
    ไม่มีผลต่อความดีของจิต
    ไม่มีผลต่อความสามารถทางด้านเสียง
    ยกเว้นว่า เราจะได้ยินเสียงผีคุยกัน
    เหมือนชาวบ้านปกติคุยกัน
    ถึงจะกลายเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านเสียงได้ครับ

    ดังนั้น ที่เล่ามาทั้งหมด
    ให้ถือว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา
    ทั่วไปที่ใครก็จะเจอได้ครับ

    ปล.ตาดีแค่ไหน เสียงดีเท่านั้นครับ
    มันเป็นบางคนครับ..

    (ปักหมุด 24/2) หน้า30 ลำดับที่#584
    เรื่อง การจำแนกมังกรกับพญานาค

    1. ถ้าพูดถึงมังกรกับพยานาค ที่เข้าใจน่าจะตระกูลเดียวกันนั่นหละครับ
    2. บางก็ว่าชนิดเดียวกัน หรือในระบบภพภูมิเดียวกัน
      เพียงแต่ต่างที่ ต่างถิ่นรูปร่างก็ปรากฏตามสัญญา

      อย่างมังกรที่เด่นสุดคือ มีขา เขา และหนวดครับ
      อย่างมังกรชิวเล้งเนี่ย สีใสนะครับ
      และก็ไปไวมาไว้มา เร็วปานจรวด
      ชอบแอบซ่อนตัวอยู่ตามก้อนเฆข ประมาณนี้
      ลำตัวยาวมากๆ

      แล้วก็มีมังกรทอง เวลาปรากฏบนโลก
      ลำตัวจะเป็นคล้ายๆละอองสีทอง กระจายๆ
      เคลื่อนไหวช้าๆ


      ถ้าอย่างบ้านเราพยานาค เท่าที่ทราบ จะมีพยานาคภูเขา กายสีดำ
      ปกติเวลาปรากฏตัวจะรูปร่างใหญ่มาก ถ้าเป็นคนหน้าตาจะออกคมๆดูดุๆหน่อย
      พยานาคที่ดูและพุทธสถาน สีเขียว รู้ๆทั่วไปที่ชอบช่วยคน
      สามารถปรากฏได้หลายรูปแบบ ชีวัดแน่นอนได้ยาก
      เกี่ยวกับเรื่องโชคลาภ ทำมาค้าขายด้วย
      พยานาคที่ชอบทำบุญ สีขาวล้วนๆ สังเกตุง่ายๆชอบมาแบบชุดขาว
      แบบคนที่แต่งตัวไปวัด แต่งกายหลวมๆหน่อย
      พยานาคที่ มีสีขาวปนทอง มีความสามารถในการรักษาโรคได้
      เป็นกลุ่มพยานาคที่มีวิชาเดินธาตุโบราณ เป็นแนวคล้ายๆทาง นักพรต
      ทางฤษี แต่ว่า จะเป็นชุดขาวนะครับ
      พยานาคดูแลท้องฟ้าก็สีขาวบางทีก็ปนสีฟ้าบ้าง ส่วนตัวยังไม่เคยเจอตอนปรากฏเป็นคน
      ส่วนพยานาคดูแลแม่น้ำ หลายสีหน่อย มีแดง เขียว ฟ้า ปนๆกัน
      พยานาคสีแดงล้วนๆก็มี
      ส่วนพยานาคสีออกน้ำตาลๆ(ความจริงมีฟ้า มีแดงปน)
      เป็นลักษณะที่เฝ้าสมบัติอะไรซักอย่างอยู่

      ส่วนตัวยังไม่เคยปรากฏว่า มังกรจะปรากฏอีกกายเป็นคล้ายๆมนุษย์
      แต่พยานาคที่เล่ามาทั้งหมด สามารถปรากฏเป็นคล้ายมนุษย์ได้
      อย่าง สีขาว ก็เหมือนมนุษย์ปกติทั่วไป ที่ชอบห่มขาว ปล่อยผมเรียบๆธรรมดา
      แต่พอเป็นพนานาคก็จะมีลำตัวสีขาวหมดทั้งตัว
      ทางด้านหงอน บนศรีษะ ก็มีขนาดเล็กใหญ่ต่างๆกันไป....

      คือ สีก็คือ สิ่งที่ตนเองได้เคยบำเพ็ญมานั่นหละครับ...
      แต่ในภูมิ พยานาค ที่ฝ่ายภพภูมิยอมรับกัน
      ก็คือ วิชาเดินธาตุโบราณ ที่ใช้การตั้งธาตุ
      น้ำ ดิน ไฟ ลม กลางอากาศ แล้วใช้หน้าอกบังคับเข้ามานั้นหละครับ
      ถ้าเดินธาตุในดง จะใช้หน้าฝากบังคับ ไม่ได้กำหนดว่าธาตุอะไรแน่นอน
      แต่อย่างน้อยๆ ก็ น้ำ ดิน ไฟ ลม อากาศ
      ส่วนวิชาเดินธาตุ สายอดีตสมเด็จพระสังฆราชฯ
      ก็ใช้การตั้ง ๑๐ ธาตุ บนอากาศก่อน แล้วใช้จุดเหนือสะดีอในการบังครับ


      ซึ่งจุดเหนือสะดือ นี้ ก็ได้ถูกเอามา ใช้ ในวิชาเฉพาะของหลายสาขา
      บางที่ ก็บอกว่า เป็นฐานของจิต แต่จริงๆมันเป็นฐานเริ่มต้นที่ใช้
      ในการฝึกกรรมฐานกองนั้นๆ ไม่ใช่ ฐานของจิตที่อยู่ในกาย
      เวลากายกับจิตมันแยกขาดจากกันเด็ดขาดชั่วคราว ตรงลิ้นปี่นะครับ
      ฐานของจิตจริงๆเราจะดูตรงนี้

      วิชาเฉพาะก็เอามาฝึกได้อยู่ แต่มันจะไปได้ทางด้านภายในแทน
      แต่ว่ามันจะไม่ได้ทางด้านกำลังจิต เพราะว่า มันเริ่มต้นด้วยการกำหนด
      จุดและสร้างภายในกายขึ้นมาก่อน มันจะต่างจากการที่ไปตั้งธาตุภายนอกหรือขึ้นรูป
      ภายนอกก่อนแล้วบังคับเข้ามาในกาย พวกนี้ถึงจะได้ทางกำลังจิต
      จากการที่พยายามลดรูป หรือ ปั่นธาตุให้รวมกัน แล้วดึงเข้ามาที่กายนั่นหละ

      อย่างวิชา ทางหลวงพ่อ ส วัด ปากน้ำนะ ไม่ใช่แถวๆคลองนะครับ
      เริ่มตั้งในกายเพราะว่า จะใช้หลัก ในการเริ่มซ้อนกายพระจากจุด
      ที่กำหนดในร่างกายๆขยายออกไปเรื่อยๆ ซ้อนกันไปเรื่อย
      เป็นอุบายในการเข้าถึงพระนั่นเอง....
      แต่ที่สำคัญอย่าไปยึดนามธรรม ไม่งั้นเสร็จและอาจจะหลงสภาวะได้

      ส่วนทาง จ.อุทัย นั้น ก็ใช้อุบายเดียวกัน
      ในลักษณะที่รู้เห็นได้ในใจ คล้ายตาเห็น
      ก็เพื่อคงอุบาย ให้พระอยู่ในกายอยู่เป็นเบื้องต้นนั่นเอง
      ทั้ง ๒ หลักการนี้ จึงต้องมาเน้นวิปัสสนาตัดร่างกายให้มาก
      เพราะไม่งั้น โอกาสจะหลงตัวเองค่อนข้างสูง

      คือ ปกติถ้าแยกรูปแยกนาม เดินปัญญามาก่อน
      มีกำลังสมาธิสะสมมาบ้าง
      แล้วค่อยมาฝึกอะไรพวกนี้ ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร
      แต่ส่วนมากไม่ใช่ เน้นฝึกก่อน ค่อยว่ากัน..

      พอเกิดกิริยาต่างๆนา พอเห็นนามธรรมอะไรแล้ว
      ไม่มาตัดร่างกาย มาวิปัสสนาต่อ ก็เลยจะหลงสภาวะ
      ไปหลงในนามธรรม จนเผลอดึงเข้ามา สร้างเป็นอัตตาตัวเอง
      ก็จะหลงตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่นี้หละบอกยากเลย...
      ที่ในวงการเรียกว่า เฝื่อ นั่นเอง...

      ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องดู ปฏิปทา ของผู้ถ่ายทอดหลักด้วย
      ว่าเน้นเรื่องอะไร ห้ามอะไรไว้ ผู้ที่จะเรียนรู้
      ควรทำความเข้าใจให้ดีในเบื้องต้น.....
      แต่ส่วนมาก มักจะทำตรงกันข้าม
      เลยไม่สามารถ ที่จะต่อ ในอีกระดับได้....


      เรื่อง อดีตชาติ ไม่ว่าจะเคยเกิดเป็นใคร
      หรือมีความสามารถที่จะย้อนอดีตได้ ถึงยุคไดโนเสาร์ก็ตาม
      แนะนำว่า อย่าไปสนใจเลย เอาปัจจุบันก็พอ

      เพราะการย้อนอดีต ที่มีประโยชน์จริงๆ ต้องการให้เรารู้แค่เพียงว่า
      เราไปพลาดอะไรตรงไหน ทำไมถึงยังต้องได้กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก

      ณ ปัจจุบัน ตัวเรา จิตเรา ไปผูกพันธ์ กับภูมิอะไร มากไปถึงขนาดที่ยึด
      เวลาเราตาย ตัวจิตเรามันก็จะไปภูมินั้นนั่นหละครับ

      เพราะฉนั้น ไม่ว่า จะดีหรือไม่ดี เราเคารพนับถือได้หมด
      แต่ไม่ควรที่จะไปยึดมั่นถือมั่น

      การปฏิบัติบูชาที่ดีที่สุดคือ การปล่อยวาง นั่นเอง.....
      เพราะไม่งั้น มันจะยังต้องทำให้เราเป็นไปตาม
      วิบาก จริต อนุสัย อย่างใดอย่างหนึ่งได้อยู่
      ซึ่งจะเป็นตัวขวางทำให้เรายังไม่พ้นได้.....

      นัยยะ ส่งท้าย จากท่านผู้เป็นเลิศด้าน
      พลิกนามธรรมเป็นรูปธรรมบอกว่า
      ''โสดา ฟัง
      สกิทา อีกครั้ง
      อนาคา ไม่พึ่งอีก
      อรหันต์ ดำเนินชีวิตที่ดี...''
      เป็นพิจารณากันเอาเอง..........

      ปล. แค่เพียงแต่เล่านิทานให้ฟัง......

      (บุรุษไร้เงา, 27 กรกฎาคม 2018)
     

แชร์หน้านี้

Loading...