ตายดีมีสุข

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย สิกขิม, 12 พฤษภาคม 2008.

  1. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left></TD><TD class=date vAlign=baseline align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 11 พ.ค.2551 -- ครอบครัวเดียวกัน 4 คนกลายเป็นศพลอยน้ำใกล้กับเมืองเดะเด (Dedaye) ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีกลับจากที่นั่นรายงานว่า พบศพหลายสิบศพในแม่น้ำกับอีกหลายสิบตามท้องนาปะปนกับซากสัตว์เลี้ยง ที่มีเกลื่อนกลาดระหว่างทาง ผู้คนผ่านไปมาเป็นปกติ ทุกคนต้องเอาตัวรอด (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ในวันเสาร์ (10 พ.ค.) ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพี.ที่เดินทางไปยังเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี ได้เห็นสภาพที่น่าอเน็จอนาถใจ คือร่างคนตายและซากสัตว์ยังเกลื่อนทุ่งนาและลำน้ำ

    อาทิ ได้พบเห็นศพสมาชิกทั้งครอบครัว จำนวน 4 ศพ ซึ่งลำตัวผูกติดกันด้วยเชือก โดยหลังพายุสงบลง ในอีก 8 วันต่อมา ศพของคนทั้ง 4 ได้ลอยอืดที่ริมแม่น้ำสายเล็กๆ แห่งหนึ่ง
    คนกลุ่มนี้ อาจจะพยายามช่วยเหลือตัวเองให้รอดจากพายุ แต่สิ่งที่พรากชีวิตของพวกเขาอาจจะเป็นคลื่นสูงที่ถาโถมจากทะเลเบงกอล

    ใกล้กับเมืองเดะเด (Dedaye) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งไปทางตะวันตกเฉียงใต้ มีผู้คนนับหมื่นๆ ต่างก็รอคอยการช่วยเหลือ



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 10 พ.ค.2551-- ชาวบ้านยังคงช่วยเหลือตัวเองตามลำพังในเขตเมืองกุงย่างกุ้ง (Gungyangon) ที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี ขณะที่ท้องฟ้ามืดครึ้ม ลมพัดแรงและเกิดฝนตกหนักแทบทุกวัน ในระยะหลังนี้ (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ผู้คนทั้งหิว ทั้งกระหายน้ำ หน้าตาเต็มไปด้วยริ้วรอยและรอยแผล เห็นได้ชัดว่าหลายคนคงจะไม่ได้กลืนอะไรลงท้องไปในช่วงหลายวันมานี้

    วันอาทิตย์ (11 พ.ค.) ได้เกิดฝนตกอย่างหนัก ชาวบ้านส่วนมากไม่มีที่พักพิงหลบฝน หลายคนนั่งรวมกันอยู่ใต้ร่มเงาของเศษวัสดุ



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER> </CENTER><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 10 พ.ค.2551-- ศพคนกับซากวัว ขึ้นอืดลอยเคียงข้างกัน ขณะที่อีกศพหนึ่ง อยู่ถัดไปในท้องนาใกล้เมืองกุงย่างกุ้ง (Gungyangon) ที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี คาดว่าทั้งสองเสียชีวิต ขณะพยายามนำวัวหนีพายุ </CENTER><CENTER>เมื่อไซโคลนนาร์กิส หอบคลื่นจากทะเลเบงกอลขึ้นตีกระหน่ำที่นี่ </CENTER><CENTER>(ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ นับตั้งแต่เหตุการณ์พายุนาร์กิสผ่านไป ยังคงเห็นศพเห็นเกลื่อกลาดตามท้องทุ่ง ส่งกลิ่นเน่าเหม็น มีหลายสิบศพ ที่ลอยฟ่องตามริมแม่น้ำเปียะโปน (Pyapon) นอกจากศพของคนครอบครัวเดียวกัน จำนวน 4 ศพดังกล่าว

    ผู้คนละแวกนั้นไม่มีที่จะไป ศพคนกับซากสัตว์เลี้ยง ขณะนี้ขึ้นอืด เปลี่ยนเป็นสีดำและเน่าเปื่อย
    ชาวบ้านจึงต้องเดินผ่านศพ กับซากสัตว์เหล่านั้นทุกวันอย่างไม่รู้สึกอะไร ทุกคนดำเนินชีวิตตามปกติ เพื่อให้มีชีวิตรอด



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>กาชาดสากลเผยแพร่ภาพนี้เมื่อวันเสาร์ (10 พ.ค.) </CENTER><CENTER>ชาวบ้านใกล้กับเมืองลาบุตตา (Labutta) ในเขตที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี จับกลุ่มกันท่ามกลางสายฝน รอความช่วยเหลือจากรัฐบาล (ภาพ: AFP)</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 11 พ.ค. 2551-- ศพเหยื่อไซโคนนาร์กิสรายนี้ถูกทิ้งเอาไว้เดียวดายริมแม่น้ำเปียะโปน (Pyapon) ใกล้กับเมืองเดะเด (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>



    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER> </CENTER><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 11 พ.ค. 2551-- ชาวบ้านตามสองฟากฝั่งยังคงใช้น้ำจากลำน้ำเปียะโปนอย่างไม่ทางเลี่ยง ลำน้ำสายนี้ยังมีศพลอยฟ่องอยู่หลายสิบศพ ซากสัตว์เลี้ยงอีกนับไม่ถ้วน ทุกคนเสี่ยงต่อโรคระบาด (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000054953</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤษภาคม 2008
  2. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ตายดีมีสุข ( พระไพศาล วิสาโล )


    คนเรามักไม่ค่อยนึกถึงความตายของตนเท่าใดนัก แต่เมื่อใดที่นึกถึง ก็อยากให้ตัวเอง "ตายดึ"

    ซึ่งส่วนใหญ่หมายถึง ตายโดยไม่เจ็บปวด ไม่ทุรนทุราย ไม่น่าเกลียด ไม่มีใครมาทำให้ตาย หรือตายเพราะอุบัติเหตุ

    ความตายที่พึงปรารถนายังรวมถึง ความตายท่ามกลางคนรัก ญาติมิตรอยู่พร้อมหน้า ไม่จากไปอย่างโดดเดี่ยวอ้างว้าง ในสถานที่ ที่ไม่คุ้นเคย และไม่สร้างความเดือดร้อนแก่คนที่ยังอยู่

    กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ตาย ในสภาวะทางกายและทางสังคมที่เกื้อกูล
     
  3. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    อย่างไรก็ตาม ยังมีองค์ประกอบอีกประการหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง นั่นคือ องค์ประกอบ หรือสภาวะทางจิตวิญญาณ

    ได้แก่ สภาวะจิตที่สงบโปร่งเบา เพราะได้ปล่อยวางทุกสิ่ง ไม่มีอะไรเป็นภาระให้ห่วงกังวล น้อมรับทุกอย่างในวาระสุดท้าย โดยไม่ปฏิเสธ ผลักไส ไม่หวาดกลัวต่อความตาย

    นอกจากเห็นความตายเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว ยังรู้จักใช้ความตาย ให้เกิดประโยชน์ในทางจิตวิญญาณด้วย
     
  4. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    องค์ประกอบหรือเงื่อนไขประการหลังนี้ ถือว่าสำคัญที่สุด การตายแบบไม่รู้ตัวเช่น ตายในขณะหลับ หรือหมดสติ และตายไปอย่างกระทันหัน

    แม้จะเป็นการตายที่ไม่เจ็บปวดหรือทรมาน แต่จะเรียกว่าตายดีไม่ได้ หากวาระสุดท้ายของผู้ตาย อยู่ในอารมณ์ที่ "หม่นหมอง"

    เนื่องจากกำลังฝันร้ายหรือครุ่นคิด ในเรื่องที่เป็นอกุศล เช่น โทสะ พยาบาท หรือเศร้าโศก
     
  5. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ในทำนองเดียวกัน แม้จะอยู่ท่ามกลางญาติมิตร แต่หากตายไปในขณะที่ยัง "ห่วงกังวล" ลูกหลาน

    วิตกกับภาระที่ยังไม่แล้วเสร็จ หรือมีเรื่องค้างคาใจกับใครบางคนอยู่ ก็ยังไม่เรียกว่า ผู้นั้นตายดี เพราะเป็นการตายที่ยังมีความทุกข์อยู่

    และหากเชื่อในเรื่องภพภูมิหลังตาย การตายในสภาวะจิตเช่นนั้น ย่อมมีทุคติเป็นเบื้องหน้า

    จะนานเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับความดีหรือความชั่วที่ได้กระทำไว้ ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่
     
  6. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ในทางตรงข้าม แม้จะเผชิญกับความเจ็บปวดที่แผดเผาทิ่มแทงกาย ห่างไกลคนรัก โดดเดี่ยวไร้ญาติมิตร

    แต่หากสามารถประคองจิตให้เป็นปกติ มีสติรู้ตัว หรืออยู่ในภาวะที่เป็นกุศล จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ไม่มีอะไรเป็นภาระในจิตใจ เพราะปล่อยวางไปหมดทุกสิ่ง

    การตายเช่นนั้นย่อมจัดว่า เป็นการตายดี เพราะนอกจาก จะจากไปโดยไม่ทุกข์ใจแล้ว ยังจะนำไปสู่สุคติอีกด้วย
     
  7. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    มีคนจำนวนไม่น้อย ที่แม้จะถูกโรคร้ายกัดกินร่างกาย แต่ก็สามารถรักษาใจให้เป็นปกติได้ ความเจ็บปวดทำร้ายได้แค่ร่างกาย แต่ไม่สามารถย่ำยีจิตใจได้

    บางคนใช้สมาธิภาวนาระงับความเจ็บปวด โดยไม่ต้องใช้ยาแก้ปวดแต่อย่างใด และในที่สุด ก็จากไปอย่างสงบ

    ในสมัยพุทธกาล มีกรณีที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้น แต่ก็เป็นตัวอย่างที่ชี้ว่า การตายดีนั้น ไม่จำเป็นต้องหมายถึงการตายที่ไร้ความเจ็บปวด

    พระนางสามาวดี เป็นพระมเหสีของพระเจ้าอุเทน พระนางเป็นผู้ที่ศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า และประพฤติตนอยู่ในกุศลธรรมมาโดยตลอด แต่เป็นที่อิจฉาของพระนางมาคันติยา ซึ่งเป็นอัครมเหสีของพระเจ้าอุเทน

    ฝ่ายหลังนั้น ได้หาทางกลั่นแกล้งพระนางสามาวดีหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ครั้งสุดท้ายได้ลวงให้พระนางสามาวดีและหญิงบริวาร เข้าไปในเรือนคลังแล้วขังไว้ จากนั้นได้จุดไฟเผาทั้งปราสาท

    พระนางสามาวดีเมื่อรู้ว่าวาระสุดท้ายมาถึงแล้ว แทนที่จะตื่นตกใจ กลับแนะนำให้บริวารกำหนดจิตทำสมาธิภาวนา โดยถือเวทนาเป็นอารมณ์ บริวารทั้งหมดได้ทำตามคำแนะนำจนตายคากองไฟ

    ต่อมา เมื่อมีภิกษุนำเรื่องนี้ ไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระองค์ได้ตรัสว่า อุบาสิกาเหล่านั้นได้บรรลุธรรม เป็นโสดาบันก็มี เป็นสกทาคามีก็มี เป็นอนาคามีก็มี

    จากนั้นพระองค์ได้สรุปว่า "อุบาสิกาเหล่านั้น ทำกาละ ( ตาย ) อย่างไม่ไร้ผล "
     
  8. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    น่าแปลกที่ว่า ในยุคปัจจุบัน ซึ่งเต็มไปด้วยเทคโนโลยียืดชีวิตนั้น การตายอย่างสงบกลับกลายเป็นเรื่องยาก แม้แต่อาจารย์กรรมฐาน หรือเกจิอาจารย์ชื่อดัง ก็เลี่ยงปัญหานี้ได้ยาก

    ส่วนใหญ่ต้องสิ้นลมในห้องไอซียู. โดยมีสายระโยงระยางทั่วร่างกาย ทั้งนี้เพราะลูกศิษย์ลูกหา พยายามหาทางหน่วงเหนี่ยวชีวิตของท่านให้อยู่นานที่สุด

    โดยหารู้ไม่ว่า นั่นเป็นการหน่วงเหนี่ยวการตาย ให้เป็นไปอย่างยืดเยื้อ ซึ่งไม่เป็นคุณแก่ใครเลย

    ผลก็คือ ความตายของครูบาอาจารย์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน ไม่สามารถสอนผู้คนให้รู้จักพร้อมรับความตายด้วยใจสงบ ดุจเดียวกับใบไม้ที่พร้อมจะหลุดจากขั้วเมื่อถึงเวลา
     
  9. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    การตายอย่างสงบนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีโอกาสเข้าถึง ไม่เว้นแม้กระทั่งฆราวาสหรือคนธรรมดาสามัญ สภาพแวดล้อมมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เราตายอย่างสงบได้

    แต่ที่สำคัญกว่านั้น ก็คือการฝึกฝนพัฒนาตน ไม่ใช่แต่เฉพาะเวลาใกล้ตายเท่านั้น หากต้องทำไปทั้งชีวิต

    การดำเนินชีวิตอย่างถูกทำนองคลองธรรม และหมั่นสร้างความดีอยู่เสมอ เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยให้เราเผชิญความตายได้อย่างสงบ
     
  10. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุ บุญนี้อุทิศให้เทวดา ประจำบ้านของข้าพเจ้า ขอให้ท่านมีความสุข สาธุ สาธุ
     
  11. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    อานิสงส์ประการหนึ่ง ของกาย วาจา และใจที่สุจริตก็คือ ช่วยให้ไม่หลงตาย หรือลืมสติเวลาตาย

    ปัจจัยสำคัญประการต่อมาก็คือ "การฝึกฝนอบรมจิตด้วยสมาธิภาวนา" เพื่อประคองจิตให้มีสติอย่างต่อเนื่อง

    พร้อมเผชิญกับทุกขเวทนาและอาการต่างๆ ที่มากระทบอย่างเท่าทัน แม้ทุกขเวทนาทางกาย ตลอดจนการพลัดพรากจากของรัก เป็นสิ่งที่ยากจะหลีกพ้น แต่เราสามารถรักษาจิต มิให้ทุกขเวทนาและความเศร้าโศกมาครอบงำได้

    จะว่าไปแล้วชีวิตทั้งชีวิต มีขึ้นก็เพื่อเปิดโอกาสให้เราฝึกฝนตนเอง จนพร้อมที่จะเผชิญกับความตายในวาระสุดท้ายนั่นเอง

    หลวงปู่ดูลย์ อตุโล เป็นศิษย์รุ่นแรกๆ ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต มีคราวหนึ่ง ท่านไปเยี่ยมพระรูปหนึ่ง ซึ่งอาพาธหนักใกล้จะมรณภาพ

    เมื่อท่านมาถึง พระรูปนั้นก็ลุกกราบท่านแล้วก็ล้มตัวนอนตามเดิม ไม่ได้พูดอะไร หลวงปู่ดูลย์ยิ้มรับ จากนั้นท่านก็พูดว่า

    "การปฏิบัติทั้งหลาย ที่เราพยายามปฏิบัติมา ก็เพื่อจะใช้ในเวลานี้เท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่จะตาย ให้ทำจิตเป็นหนึ่ง แล้วหยุดเพ่ง ปล่อยวางทั้งหมด"

    นี้ มิใช่คำแนะนำสำหรับภิกษุเท่านั้น หากยังเหมาะสำหรับคนทั่วไปด้วย
     
  12. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณลุงชาลี บุญนั้นย่อมสำเร็จดังที่ท่านประสงค์
     
  13. น้ำใสไหลเย็น

    น้ำใสไหลเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +4,452
    ... เป็นความจริงที่ยังประสบพบเห็น กันอยู่ และยากที่จะหลีกเลี่ยง

    ในปัจจุบัน ทางการแพทย์ยอมรับวิธีเลือกตายได้กว้างขวางมากขึ้น
    หากเราไม่อยากให้ช่วยฟื้นคืนชีพ อยากตายเองอย่างสงบ
    ก็สามารถแจ้งความประสงค์ได้
     
  14. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    "การปฏิบัติทั้งหลาย ที่เราพยายามปฏิบัติมา ก็เพื่อจะใช้ในเวลานี้เท่านั้น เมื่อถึงเวลาที่จะตาย ให้ทำจิตเป็นหนึ่ง แล้วหยุดเพ่ง ปล่อยวางทั้งหมด"
     
  15. โอมสักการะ

    โอมสักการะ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +9
    ขอบคุณมากครบ
     
  16. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    เช่นเดียวกัน คุณโอมสักการะ
     
  17. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย อย่างน้อยเพื่อไม่ให้เสียชาติเกิด ควรปิดอบายให้สิ้น ในปัจจุบันกาลเทอญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...