93.เก็บเรื่องมาเล่า : ภูเขาทอง ในวันฝนโปรย

.​

 

แล้วก็ถึงเวลา เดินขึ้นภูเขาทอง อีกครั้ง​

 

​

นิราศบรมบรรพต พ.ศ.2466 โดยพระพินิจหัตถการ เขียนไว้ตอนหนึ่งว่า

“ล่วงหนทางมาถึงหว่างบรรไดเวียน
เปนที่เตียนชั้นกว้างหนทางใหญ่
มีทางแยกที่ตัดลัดขึ้นไป
เปนบรรไดตรงชนชั้นน่ากลัว
ไม่มีใครขึ้นลงที่ตรงนั้น
ที่สำคัญใครดูก็รู้ทั่ว
ต้องเอาไม้บิดกันกั้นเปนรั้ว
อยู่จนชั่วเดี๋ยวนี้มีจริงจริง
แต่ก่อนนั้นตกตายเปนหลายคน
ตั้งแต่บนตกตรงลงมากลิ้ง
มือจะคว้าจับอะไรไม่ได้จริง
ก็แน่นิ่งพอถึงล่างก็วางวาย
ฉันนิ่งนึกตรึกตรมอารมย์หมอง
ภูเขาทองสูงใหญ่น่าใจหาย
ใครพลั้งลงแล้วก็คงต้องถึงตาย
อย่านึกหมายว่าจะได้เห็นใจทัน”

.....

 

ข้างบันไดเวียนขึ้น มีบ่อปลาด้วย​

 

​

ยังมีเหตุการณ์ที่ยืนยันได้ว่ามีคนตกบันไดภูเขาทองลงมาจริงๆ ในหนังสือพิมพ์ไทย ฉบับวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2451ได้ลงข่าวเรื่องคนเมาตกภูเขาทองว่า

“ตกภูเขาทอง เมื่อคืนวันที่ 7 เดือนนี้ มีชายผู้หนึ่ง อายุกลางคน ดูท่าทางจะมีดีกรีจัดสักหน่อย ไปเที่ยวในการรื่นเริงที่งานบรมบรรพต ชายนั้นได้ขึ้นไปบนภูเขาทางบรรไดชั้นตรง แล้วปาฏิหารพลัดตกลงมามีความเจ็บช้ำมาก พลตระเวรได้นำตัวคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล อาการน่ากลัวจะไม่รอดเสียมาก นั่นเพราะความประมาทจนเกินส่วนไม่ใช่หรือ?”

แต่ในข่าวบอกว่า ...น่ากลัวจะไม่รอดเสียมาก...
อืมมม.. ก็ยังไม่รู้ว่ารอดหรือไม่รอด...

.

 

พระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลี ศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ ทรงเครื่องจักรพรรดิ์

ภาพต่างจากคราวที่แล้ว มีการจัดพระพุทธรูปใหม่
พอเดินวนรอบๆ ดู ก็มีพระพุทธรูปอีกหลายองค์เพิ่มขึ้นมาจากคราวก่อน
ถ้าจำไม่ผิด จะมี สมเด็จองค์ปฐมทรงเครื่องจักรพรรดิ์ปางเปิดโลก
และอีกหลายๆ องค์ที่เป็นพระทรงเครื่อง.

.​

 

ตรงนี้ มาคราวก่อน ไม่คุ้น หรือจำไม่ได้ ไม่แน่ใจ
เหมือนว่ามีพระพุทธรูปปรินิพพาน
ตอนนี้เป็น ภูเขาทอง จำลอง
มีพระปางห้ามญาติ จีวรลายดอกพิกุล อยู่ซ้ายขวา​

 

เจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

.​

 

.​

 

ขึ้นมาถึงด้านบนสุด
เหงื่อท่วมกันเลยทีเดียว​

 

เดินลงมาเจอพระศรีอริยเมตไตรย สังเกตมีรอยแป้ง
คงจะให้สรงน้ำพระกันเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา(อันนี้สร้อยฟ้ามาลา คิดเอง)
.​

 

ใกล้ๆ กันมีวิหารรอยพระพุทธบาทจำลอง​

 

ด้านหลังวิหารรอยพระพุทธบาทจำลอง
มีหุ่นจำลองตำนานแล้งวัดสระเกศ

(ตำนานแล้งวัดสระเกศ อ่านได้จากในกระทู้ หน้า 2)

.​

 

ดูดวงอาทิตย์ สิ
ร้อนแรงส์ สุดๆ...

(แรงส์ ในพจนานุกรมไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน ไม่มีนะ
ขออนุญาตใช้คำนี้)
...
​

 

เดินผ่าน เห็นอะไรไหวๆ คงมาคลายร้อน
แสดงว่าตรงนี้ระบบนิเวศน์ ดี​

 

หลวงพ่อดวงดี
มีพระนามเต็มว่า “พระพุทธมงคลบรมบรรพต” เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หรือปางตรัสรู้ มีพุทธลักษณะพุทธศิลป์แห่งพุทธศตวรรษที่ ๒๖ มีความงดงาม โดดเด่น ด้วยศิลปะสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ หล่อขึ้นจากแผ่นดวงมหาโภคทรัพย์ที่บรรจุอยู่ บนยอดบรมบรรพต ภูเขาทอง ถวายพระนามโดย เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช และมีบัญชาให้ประดิษฐาน ณ ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร

นอกจากนั้น ที่ศาลาหลวงพ่อหลวงดี ยังเป็นที่ประดิษฐานปฏิมากรรมและรูปหล่อ ตลอดจนจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับประวัติเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) และจิตรกรรมฝาผนังไตรภูมิจักรวาล และแสนโกฏิจักรวาล อันวิจิตรงดงาม

มีคติแห่งการสักการะหลวงพ่อดวงดีว่า ผู้ใด ได้สักการะบูชา จะมีดวงชะตาที่ดี เป็นที่รักของมิตรสหาย ปลอดภัยจากอุปสรรคนานาประการ


(คัดมาจาก เว็ปไซด์วัดสระเกศราชวรวิหาร)​

 

หลวงพ่อดำ
องค์นี้เป็นพระปิดทองปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง ๔ ศอก สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือปั้นยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นพระพุทธรูปที่คู่กับบรมบรรพต(ภูเขาทอง) มาตั้งแต่ต้น เล่ากันว่าสร้างไว้เพื่อให้เจ้านายและพุทธบริษัททั่วไป ที่ไม่สามารถขึ้นไปบูชาองค์พระบรมบรรพตได้บูชาที่พระพุทธรูปองค์นี้

ชาวบ้านโดยเฉพาะที่อยู่ใกล้วัดมีความเคารพนับถือกันมากพอสมควร มีคนไปไหว้ไม่ขาด และเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ หลวงพ่อดำ” เล่ากันว่าแต่เดิมลงรักไว้ แต่ไม่ได้ปิดทอง เดิมทีมีวิหารไม้หลังเล็กๆไม่มีฝากั้น ก่อกำแพงไว้สูงประมาณครึ่งเมตร


​

 

พระพุทธรูปบามิยัน

ตรงนี้สร้างเป็นถ้ำให้เดินเข้าไป
มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกถึงเรืองของ
คัมภีร์โบราณพระพุทธศาสนา 2000 ปี
ที่ได้รับมอบจากรัฐบาลนอร์เวย์
....

ก็เป็นรูปสุดท้ายของการขึ้นภูเขาทองครั้งที่ 2
ยังมีพระพุทธรูปที่สำคัญอีกที่ยังไม่ได้ถ่ายภาพมา
รวมถึงต้นพระศรีมหาโพธิ์ ก็ไม่ได้ถ่ายภาพ
เห็นว่าช่วงนี้กำลังปรับปรุงพื้นที่อยู่

...โอกาสหน้า ค่อยมาใหม่...​

 

ภาพเก่า ภูเขาทอง



​

 

ภาพเก่า ภูเขาทอง




.​