พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย HMMAmulet296, 4 กุมภาพันธ์ 2022.

  1. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    สวัสดีครับ
     
  2. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    682.พระปิดตาภควัมบดี (ปิดตาพ้นบ่วงมาร) ปี 2526 พิมพ์เล็ก ให้บูชา 850 บาท ปิดครับ

    upload_2022-8-18_16-31-49.png

    เป็นพระปิดตาเนื้อผงพุทธคุณอีกหนึ่งที่คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกได้สร้างถวายให้วัดพระพุทธบาทตากผ้า และครูบาหล้า (ตาทิพย์) วัดป่าตึง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ แต่ก่อนที่จะถวายพระชุดนี้ไปให้ครูบาหล้านั้น ทางคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก ได้ขอเมตตาจากหลวงปู่ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้าได้ปลุกเสกที่วัดพระธาตุดอยน้อย อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ โดยท่านก็ได้เข้านิโรธสมาบัติตามแบบพระอริยะเจ้าที่เคยกระทำมาแต่พุทธกาลและท่านก็เมตตาปลุกเสกวัตถุมงคลชุดพระปิดตาชุดนี้ครั้งสุดท้ายในชีวิท่านเช่นกัน ก่อนที่ท่านจะมรณะในอีก3 วันต่อมา(ถือว่าเป็นการปลุกเสกวัตถุมงคลของพระอริยะเจ้าอย่างแท้จริง) และหลังจากนั้นก็ให้หลวงปู่หล้า(ตาทิพย์) วัดป่าตึง ปลุกเสก เมื่อหลวงปู่หล้าปลุกเสกแล้ว ทางคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกได้นำพระปิดตาชุดนี้ไปขอความเมตตาจาก หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า จ.ระยองปลุกเสกเป็นครั้งสุดท้าย จึงได้ตั้งชื่อพระปิดตาชุดนี้ว่า พระปิดตาพ้นบ่วงมาร
    #มวลสารที่สร้างพระปิดตาชุดนี้ประกอบไปด้วยผงพุทธคุณแก้ว3ดวงของหลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค ผงพุทธคุณแก้ว3ดวงครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ผงปัจเจกโพธิ ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย และได้ผสมผงพระสมเด็จวัดระฆัง บางขุนพรหม เกศไชโย และน้ำพระพุทธมนต์อีก5วัด คือ...1.วัดช่องแค 2.วัดวังมุย 3.วัดพระพุทธบาทตากผ้า 4.วัดน้ำบ่อหลวง 5.วัดสันพระเจ้าแดง ด้านหลังโรยไหมเจ็ดสีที่หลวงพ่อพรหมปลุกเสก ข้างหลังเป็นยันต์พระควัมปติ และตัวขอมเป็นพระคาถา หัวใจของพระไตรปิฏก มะ อะ อุ ซึ่งเป็นยอดพระคาถาทั้งหมด มีอุณาโลม9ยอดข้างบนเปรียบเสมือนนิพพาน 1 ซึ่งถือว่าพระปิดตาชุดนี้เป็นพระปิดตาที่สมบูรณ์มากชุดหนึ่งที่มีการปลุกเสกจากพระอริยะเจ้าที่ขึ้นชื่อว่า พระผู้อุดมด้วยวิชชา และวิมุตฺติ ทั้ง3รูปเลยทีดียว
    พุทธคุณเป็นเมตตาโชคลาภ หนุนดวงชะตา อยู่ร่มเย็นเป็นสุข ทำกิจการงานอันใดก็เจริญงอกงาม จะมีจิตใจที่เยือกเย็น สุขุม กันภยันตรายทั้งปวงประดุจดังวิสัยแห่งพระอริยะเจ้าทั้ง3องค์คือ ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ครูบาหล้า (ตาทิพย์) วัดป่าตึง หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ที่ได้ปลุกเสกมาอย่างดีที่สุดแล้วนั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2022
  3. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    683. แพ๊คคู่!!! พระผงยุคต้น พระสังกัจจายน์ เนื้อว่านผสมเกศา/ยอดขุนพล ผสมผงว่านสิริมหากาฬ ให้บูชาคู่ละ 800 บาท

    upload_2022-8-18_16-44-56.png

    upload_2022-8-18_16-45-8.png


    พระอาจารย์นก วัดเขาบังเหย จ.ชัยภูมิ เป็นพระยุคแรกๆ ของท่านครับ พระอาจารย์นก วัดเขาบังเหย ท่านเป็นพระสายกรรมฐาน วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์ดีทั้ง มหาอุตม์ คงกระพัน แคล้วคลาด เมตตาครบทุกด้านครับ
    #พระอาจารย์นก ฐิตะธัมโม แห่งวัดเขาบังเหยชุมพลสีมาราม หมู่บ้านซับมงคล ต.โป่งนก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ เป็นพระสายปฏิบัติศิษย์หลวงปู่แหวน สุจิณโณ พระอริยะสงฆ์ แห่งดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ท่านได้ไปอยู่ปรนนิบัติอุปฐาก หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ที่จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากหลวงปูละสังขารมีการพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่แหวนแล้ว พระอาจารย์นกได้เดินธุดงค์ปลีกวิเวกหาความสงบภาวนามาเรื่อยๆจนถึงเขาพังเหยบริเวณ บ้านซับมงคล ตำบลโปร่งนก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ เห็นว่าสถานที่ตรงนี้ เหมาะสำหรับภาวนา จึงได้ปักกรด เจริญสมถวิปัสสนา ซึ่งเป็นบริเวณของวัดในปัจจุบัน ท่านพระอาจารย์นกได้พิจารณาเห็นว่าสถานที่แห่งนี้เป็นมงคล ต่อไปภายภาคหน้าสถานที่บริเวณนี้จะเป็นวัด อาณาบริเวณนี้เป็นป่าธรรมชาติได้ เป็นสถานที่สงบวิเวกเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม "อนึ่งพระเครื่องและวัตถุมงคล เครื่องราง ของขลัง ญาติโยมสร้างถวายเพื่อแจกฟรีเป็นทาน ให้เป็นที่ระลึกคนที่มาช่วยใช้กำลังก่อสร้างวัด ให้เป็นที่ระลึกสำหรับญาติโยมที่มีจิตศรัทธาร่วมบุญในวาระต่างๆ แจกให้เป็นที่ระลึกเพื่อให้คนมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้เป็นเครื่องเตือนสติ ละบาป ทำบุญ ละชั่ว ทำดี จนถึงทุกวันนี้
    #พระอาจารย์นกบอกว่า “วัตถุมงคลแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่ามีพุทธคุณสูง แต่ไม่มีวัตถุมงคลชนิดใดในโลกนี้กันตายได้แต่ช่วยเหลือไม่ให้ได้ตายได้ และไม่ได้หมายความว่าวัตถุมงคลชนิดเดียวกันจะช่วยเหลือคนได้ทุกคนเหมือนกัน หากต้องขึ้นอยู่กับความศรัทธาด้วย เมื่อมีศรัทธาปฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นได้ เมื่อไร้ศรัทธาก็ไร้ปาฏิหาริย์ จึงไม่ควรใช้ชีวิตด้วยความประมาท ไม่ว่าคนดีหรือคนเลวหากมีศรัทธาปาฏิหาริย์ย่อมเกิดขึ้นได้เช่นกัน เมื่อทำชั่วแล้วย่อมได้รับผลแห่งกรรมชั่ว เมื่อทำดีย่อมได้รับผลแห่งกรรมดี ทุกคนย่อมหลีกหนีกฏแห่งกรรมไปไม่พ้น ” ทั้งนี้พระอาจารย์นกได้ตอบคำถามที่ว่า“การสร้างวัตถุมงคลเป็นเปลือกของพุทธศาสนาทำให้คนติดและหลงใหลในวัตถุมงคล”ไว้อย่างน่าคิดว่า “ทุกอย่างย่อมมีเปลือก ต้นไม้ก็เช่นกันอยู่ได้เพราะเปลือกที่คอยปกป้องเลี้ยงกระพี้และแก่นให้เจริญเติบโต ศาสนาก็มีเปลือกคือ”ทาน”ที่คอยปกป้องอุ้มชูเลี้ยงกระพี้คือ”ศีล”และศีลคอยปกป้องอุ้มชูเลี้ยงแก่นคือ”ภาวนา คอยปกป้องอุ้มชูเลี้ยงใจกลางแก่นคือ ” ปัญญา ” ถ้าทุกคนในศาสนานี้มุ่งแสวงหาแต่แก่นเพื่อความหลุดพ้นอย่างเดียว โดยไม่รู้จักการให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนาแล้วไซร้ วันนี้พุทธศาสนาจะอยู่ได้อย่างไร เพราะถ้าทุกคนไม่รู้จักทำบุญให้ทาน ข้าวน้ำอาหาร เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นเปลือกของศาสนา พระภิกษุสามเณรก็จะอยู่ไม่ได้ การสร้างศาสนะสถานอย่างที่เห็นอยู่ทุกวันนี้ ก็เกิดจากคนที่มีจิตใจศรัทธาในบุญ สละทรัพย์ให้เป็นทาน ท่านพระอาจารย์นกได้กล่าวทิ้งท้ายไว้อีกว่า การให้ทานด้วยศรัทธา ด้วยการเสียสละ ด้วยการไม่ยึดติด เป็นการละกิเลสในเบื้องต้น ทานเป็นบุญอย่างหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ ความปิติอิ่มเอิบของทาน เป็นความรู้สึกส่วนหนึ่งของสังขาร มีศรัทธาคล้อยตามบุญสวรรค์ก็บังเกิด เมื่อบุญสวรรค์บังเกิด ย่อมหมุนเวียนเปลี่ยนไปตามวัฏจักรไม่รู้จบ สิ่งที่เวียนว่ายแปรเปลี่ยนอยู่หาใช่บุญที่ยั่งยืนไม่ การเจริญ สมถ วิปัสสนา จิตที่ผ่องใสแลปัญญานั้นปรากฏตัว การเวียนว่ายตายเกิดของภพชาติย่อมสั้นลง สิ่งนี้ต่างหากคือเส้นทางแห่งบุญที่ยั่งยืน การไม่ ยึดติด ยึดถือ ในรูปนาม ว่าเป็นตัวกูของกู นั่นแลคือบุญที่แท้จริง อย่างไรก็ตามพระอาจารย์นกยังกล่าวว่า สำหรับญาติโยมและลูกศิษย์ที่มีจิตศรัทธาสร้างวัดเขาบังเหย เมื่อ ทาน ศีล ภาวนา บารมีไม่มากพอ ก็ย๊ากที่จะเข้าถึงธรรมในระดับสูงได้ ก็ให้เพียรพยายามสะสมบุญตามกำลังศรัทธาไปก่อน คนที่ทำดีหรือทำชั่วก็ใช่ว่าต้องมีวัตถุมงคลหรือเครื่องรางของขลัง ขึ้นอยู่ว่าคนเหล่านั้นเข้าถึงธรรมมะคำสั่งสอนขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าได้มากน้อยเพียงใด วัตถุมงคลที่ญาติโยมมีศรัทธาสร้างถวายเพื่อให้อาจารย์นกแจกฟรีเพื่อเป็นทาน! ปรากฎว่า "ผู้ที่มีศรัทธารับแจกวัตถุมงคลไปบูชาแล้วล้วนมีประสบการณ์ปาฏิหารย์เล่าขานกันมากมาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2022
  4. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    684.พระดีพิธีใหญ่ เหรียญ อาจารย์เปิง วัดชินวราราม ปี21 ให้บูชา 650 บาท

    upload_2022-8-18_16-59-21.png

    เหรียญหลวงพ่อเปิง วัดชินวราราม พิธีหญ่ พระเกจิที่มาร่วมมีหลวงปู่เส็ง วัดบางนา หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม หลวงพ่อุตตมะ หลวงพ่อสาลี่ วัดสองพี่น้อง หลวงพ่อพา วัดน้ำวน หลวงพ่อทองกลึง สุนทโร วัดเจดีย์หอย (ขณะยังจำพรรษาอยู่วัดชินวราราม) และพระเกจิรามัญใน จ.ปทุมธานี อีกหลายรูปครับ
     
  5. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    685. เหรียญหลวงพ่อดับภัย เนื้อนวะโลหะแก่เงิน รุ่นแรกปี2518 มีคราบน้ำมันมนต์เดิมๆทั่วทั้งเหรียญ เหรียญดีมากประสบการณ์ครับ ให้บูชา 3250 บาท

    upload_2022-8-18_17-7-52.png

    เหรียญพระพุทธูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ จัดสร้างปีพ.ศ. ๒๕๑๘ โดยมีหลวงปู่ครูบาคำแสน วัดสวนดอก เป็นองค์ประธานในพิธีปลุกเสก พร้อมทั้งลป.คำแสน วัดป่าดอนมูล ลป.สิม วัดถ้ำผาปล่อง อ.เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ ซึ่งเมื่อเสร็จพิธีพุทธาภิเษกตอนใกล้รุ่งหลังจากที่ ครูบาคำแสน วัดสวนดอกได้ทำพิธีดับเทียนชัยแล้ว อ.เณร ซึ่งได้สั่งให้คณะกรรมการในการจัดสร้างได้ตั้งกระทะใบบัวต้มน้ำมันมนต์ไว้รออยู่แล้ว ได้นำเอาเหรียญทั้งหมดลงคนในกระทะน้ำมันเดือดๆด้วยมือของท่าน แล้วอ.เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ ยังปลุกเสกเหรียญเพิ่มอีกด้วย เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือไปกันทั่วไปในสมัยนั้น หลังจากนั้นจึงมีการทดสอบพุทธคุณของเหรียญ ลพ.ดับภัย ผู้ทดสอบคือ นายอุ่นเรือน แสงสว่าง ศิษย์ใกล้ชิดของครูบาคำแสน อินทจักรโก วัดสวนดอกซึ่งนายอุ่นเรือน ผู้นี้เองที่เป็นต้นตำหรับ พระคงองค์หนานเฮือน อันสะท้านทรวง ในการทดสอบหนานเฮือน ได้อมเหรียญไว้ในปากแล้วใช้มีดปลายแหลมแทงไปที่พุงอ้วนๆของแกแต่ปรากฏพุงของแกว่ามีแต่รอยจ้ำๆแดงๆเท่านั้นเอง
    พิธีมหาพุทธาภิเษก เหรียญหลวงพอดับภัย รุ่นแรก ในปีพ.ศ.๒๕๑๘ พระอธิการบุญชม ปภสฺสโร เจ้าอาวาสวัดดับภัยพร้อมคณะกรรมการวัด ได้จัดสร้างเหรียญพระพุทธวัดดับภัย ขึ้นเพื่อนำรายได้ทั้งหมดสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญ โดยสร้างเป็นหลายเนื้อจำแนกได้ดังนี้
    ๑.เนื้อทองคำ ตามสั่งจอง
    ๒.เนื้อเงิน ตามสั่งจอง
    ๓.เนื้อนวะโลหะ จำนวน ๙,๙๙๙ เหรียญ
    ๔.เนื้อทองแดง จำนวน ๓,๐๐๐ เหรียญ
    ๕.เนื้อตะกั่วลองพิมพ์ จำนวน ๙ เหรียญ
    ได้จัดพิธีมหาพุทธาภิเษก ในวันที่ ๑ - ๓ พฤษภาคม ๒๕๑๘ มีพระเกจิอาจารย์ร่วมพิธีมากมายอาทิเช่น หลวงปู่คำแสน วัดสวนดอก หลวงปู่คำแสน วัดป่าดอนมูล หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง ครูบาคำปัน วัดหม้อคำตวง หลวงพ่อสนิท วัดช่างฆ้อง ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี อาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ วัดป่าสัก

     
  6. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    686.เหรียญพุทธนิมิต วัดสุทัศนเทพวราราม มีจาร (เหรียญทำน้ำมนต์) ปี 2534 ปิดรายการครับ

    upload_2022-8-18_18-11-45.png

    upload_2022-8-18_18-11-35.png

    ยันต์พุทธนิมิตนั้นเป็นหนึ่งในพระยันต์สำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณโดยยันต์พระพุทธนิมิตรนี้จะเขียนเป็นรูปองค์พระทั้งองค์ แล้วลงด้วยคาถาพุทธคุณพระพุทธเจ้า 56 และเรียกสูตรด้วย อิติปิโสรัตนมาลา เสกด้วยพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ รวมทั้ง คาถาพระพุทธนิมิตร สามารถใช้ติดประตูบ้าน ลงของ ทำน้ำมนต์ได้อย่างชะงัดนักโบราณตีค่าพระยันต์นี้ไว้ถึงแสนตำลึงทองเลยทีเดียว

    สำหรับเหรียญพุทธนิมิตวัดสุทัศน์ปี 2534 ที่นำมาลงนี้ ทางวัดสุทัศน์จัดสร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์คือเพื่อใช้ในการทำน้ำมนต๋ด้วยตนเองเพื่อให้เกิดความศักดิ์สิทธิ์เปรียบประดุจดังเป็นน้ำพระพุทธมนต์โดยด้านหน้าเป็นพระยันต์พุทธนิมิตอันลือลั่นส่วนด้านหลังเป็นยันต์สุกิตติมาเป็นยันต์ที่สมเด็จพระสังฆราชแพประทับอยู่ในครอบน้ำมนต์เพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์

    ลักษณะเหรียญพุทธนิมิตรุ่นนี้ด้านหน้าเป็นยันต์พุทธนิมิต ใต้องค์พระพุทธนิมิตมีชื่อเป็นภาษาไทยว่า “พุทธนิมิต” มีอักขระเป็นอักษรขอมล้อมรอบองค์พระว่า “นะโมพุทธายะ นะมะนะอะ อุมิอะมิ นอกอนะกะ มะหิสุตัง กอออนออะ สุนะพุทธัง นะอะกะอัง สุอะนะอะ”

    ช่องว่างระหว่างเหรียญลงจารมือด้วย “อิสวาสุ” หมายถึงหัวใจของพระพุทธเจ้าและตอกโค้ต ๙ หมายถึงความเจริญก้าวหน้าตลอดไปสำหรับผู้ใช้เหรียญนี้

    ด้านหลังเหรียญเป็นดวงประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศาสดาเอกของโลก มีอุณาโลมทั้งสองข้างหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ด้วยลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ร่ำรวยเงินทองตลอดชีวิตของผู้ใช้เหรียญพุทธนิมิตนี้

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2023
  7. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458

    upload_2022-8-18_20-55-56.png
     
  8. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    687. พระดีพิธีใหญ่ พระพุทธชินราชใบเสมา เนื้อผงน้ำมัน รุ่นพิธีมหาจักรพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก ปี ๒๕๑๕ ปิดรายการครับ

    upload_2022-8-18_21-51-9.png

    พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก

    ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช
    วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก ๒๐ มกราคม ๒๕๑๕ เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕ พุทธสมาคมพิษณุโลก
    ได้จัดพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ขึ้น ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร
    จ.พิษณุโลก เพื่อนำวัตถุมงคลที่จัดสร้างขึ้นเข้าพิธีปลุกเสก วัตถุมงคลในรุ่นนี้มี พระพุทธชินราชจำลอง พระชัยวัฒน์
    พระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ พระพิมพ์ และเหรียญมหาจักรพรรดิ์ ฯลฯ พิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก เป็นพิธีที่ใหญ่มาก
    ยากแก่การดำเนินการหาเจ้าพิธี ตลอดจนตำรับพระคาถา และพระภิกษุเจริญพระคาถาได้ ตามประวัติ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
    พิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" นี้ ครั้งแรกได้กระทำพิธีในสมัยรัชกาลที่ ๑ และได้มีการกระทำพิธีนี้อีก เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕
    ในสมัยรัชกาลที่ ๙ หลังนั้นก็ไม่ปรากฏว่ามีการกระทำพิธีฯ นี้อีกเลย ในพิธีนี้ พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส กทม.
    และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร ซึ่งเป็นเจ้าพิธีได้กำหนด และควบคุมดำเนินการประกอบพิธี "จักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก" ครบถ้วน
    ตามแบบฉบับของโบราณพิธีทุกประการ คณะกรรมการพิธีฯ สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย ศาสตราจารย์
    สัญญา ธรรมศักดิ์ นายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานในพิธีจุดเทียนบูชาพระรัตนตรัย พระครูศรีพรหมโสภิต

    (หลวงพ่อแพ) วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เป็นประธานบริกรรมปลุกเสก

    กรรมการฝ่ายเจ้าพิธี
    พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิราชาวาส อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร อาจารย์มาโนช มาโสภาศ
    กรรมการอุปถัมป์ฝ่ายสงฆ์ พระสุวรรณวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก พระพิษณุบูราจารย์ เจ้าอาวาส วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ จ.พิษณุโลก ฯลฯ
    กรรมการอุปถัมภ์ฝ่ายฆราวาส นายพ่วง สุวรรณรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ท.สำราญ แพทยกุล แม่ทัพภาคที่ ๓ สมาคมนักเรียนเก่าพิษณุโลกพิทยาคม ฯลฯ
    กรรมการดำเนินงาน คณะกรรมการพุทธสมาคม จ.พิษณุโลก
    กรรมการที่ปรึกษา นายประชุม กาญจนวัน์ นายสุฉันท์ โพธิสุวรรณ ฯลฯ
    ๙ เม.ย.๒๕๑๔ คณะกรรมการพุทธสมาคมจังหวัดพิษณุโลก ได้ตกลงให้ นายช่างสวน จามรมาน ธนบุรี เป็นผู้ออกแบบพระพุทธลักษณะ
    พระกริ่ง และดำเนินการสร้าง โดยให้ทำตามแบบโบราณพิธีทุกประการ และอยู่ในความควบคุมของคณะกรรมการพุทธสมาคม จ.พิษณุโลก ตลอดเวลา ทุกขั้นตอน
    ๑๕ เม.ย.๒๕๑๔ คณะกรรมการฯ นำแผ่นเงิน แผ่นทอง เข้านมัสการขอบารมีพระคุณเจ้าผู้ทรงวิทยาคุณ ทั่วประเทศ รวม ๑๐๙ ท่าน ลงอักขระ คาถายันต์
    และอธิษฐานจิตปลุกเสกแผ่นทองเงิน จนครบ ๗ เสาร์ ๗ อังคาร ๒๐ ก.ค.๒๕๑๔ คณะกรรมการฯ ได้นำแผ่นทองเงิน ที่พระคณาจารย์ ๑๐๙ รูป ลงและปลุกเสกแล้ว
    ขึ้นกราบทูลสมเด็จพระสังฆราช ทรงเจิม และประทานพร แล้วนำแผ่นทองเงินไปถวาย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดราชบพิธ, สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุฯ,
    สมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ, พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ วัดจักรวรรดิฯ, พระธรรมวิสุทธิ์วงศาจารย์ วัดสุทัศนฯ, พระธรรมวิสุทธาจารย์ วัดพิชัยญาติฯ, พระเทพเมธี วัดทองนพคุณ,

    พระเทพโสภณ วัดชนะสงคราม เจิมอีกครั้ง และให้พรแห่งความสำเร็จในการสร้าง

    ประกาศสังเวยเทวดา
    ๘.๑๙ น. ๑ ส.ค.๒๕๑๔ บวงสรวงดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช นายกพุทธสมาคมฯ เป็นประธาน นายโปฏก
    โหรหลวง กล่าวบวงสรวง ๑๐.๑๙ น. นายกพุทธสมาคมฯ จุดธูปเทียนบูชาครู โดย อาจารย์เทพย์ สาริกบุตรเป็นเจ้าพิธีฯ
    ๑๒.๐๐ น. เจ้าคุณพระพิษณุบุราจารย์ เจ้าอาวาส วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จุดเทียนชัย พระคณาจารย์ ๙ รูป
    นั่งบริกรรมปลุกเสกแผ่นทองคำ แผ่นเงิน แผ่นทองแดง ซึ่งได้ลงอักขระคาถา เลขยันต์ พร้อมทั้งโลหะ ๙ อย่าง
    ที่จะหล่อพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ คือ ทองคำเงิน ทองแดง ชิน เจ้าน้ำเงินเหล็กละลายตัว ตะกั่วน้ำนม ปรอท สังกะสี
    ซึ่งได้คำนวณน้ำหนักให้เป็นส่วนผสมเนื้อนวโลหะ
    พระคณาจารย์ ๙ รูป ที่นั่งปรกบริกรรมปลุกเสก คือพระเทพโสภณ (นิยม) วัดชนะสงคราม, พระพ่อกรับ วัดโกรกกราก
    สมุทรสาคร, หลวงพ่อละมูล วัดเสด็จ ปทุมธานี, หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี, หลวงพ่อลำยอง วัดสนุทรประดิษฐ์ บางระกำ พิษณุโลก,หลวงพ่อม้วน วัดตลาดชุม วังทอง พิษณุโลก, หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี, หลวงพ่อธงชัย วัดพุทธมงคลนิมิต นครสวรรค์ และ หลวงพ่อเกตุ วัดศรีเมือง จ.สุโขทัย
    ๑๘.๓๒ น. พิธีเททอง หล่อพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ "นเรศวรวังจันทน์"
    ระหว่างพิธีเททองพระคณาจารย์ ๘ รูป ใน ๙ รูป นั่งล้อมโรงพิธีฯ หันหน้าไปทิศทั้ง ๘
    อนึ่ง ก้อนเส้ารองรับเบ้าและดินสุมหุ่น ใช้ดินกลางเมืองอันเป็นมงคลแข็ง ๕ แห่ง คือ เมืองพิชัย จ.อุตรดิตถ, เมืองชัยบาดาล จ.ลพบุรี, เมืองชัยนาท จ.ชัยนาท,
    เมืองหริภุญชัย จ.ลำพูน, เมืองท่าชัย จ.สุโขทัย น้ำพระพุทธมนต์ ใช้น้ำจากทะเลแก้ว เมืองโอฆะบุรี, ทะเลชุบศร เมืองละโว้
    ถ่านและฟืนเชื้อเพลิงหลอมโลหะใช้ถ่านไม้ราชพฤกษ์ ๙ กระสอบ ฟืนไม้ราชพฤกษ์ ๙ ลบ.ม.
    ตั้งแต่วันที่ ๒ ส.ค.๒๕๑๔ ช่างสวน จามรมาน ได้ตกแต่งพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ อยู่ในโรงงานภายในบริเวณบ้านพักของนายกพุทธสมาคมฯ
    เพื่อเป็นการควบคุมมิให้ช่างมีโอกาสสร้างพระเสริมนอกพิธีหรืออื่น ๆ อันเป็นการไม่สมควร
    เมื่อพระกริ่งนเรศวรวังจันทน์ ตกแต่งจนคบหมดแล้ว รวมทั้งพระบูชาและวัตถุมงคลทุกอย่างสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณะกรรมการฯ
    ได้นำวัตถุมงคลทั้งหมดประกอบพิธีจักรพรรดิมหาพุทธาภิเษก ณ พระวิหารหลวงพ่อพระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก เมื่อวันที่ ๒๐ ม.ค.๒๕๑๕
    โดยมีพระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจกรวรรดิฯ และ อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร เป็นเจ้าพิธี มีพระคณาจารย์นั่งปรกปลุกเสก ดังนี้
    รายนามพระคณาจารย์บริกรรมปลุกเสก

    1 หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    2 หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี
    3 หลวงพ่อหอม วัดชากหมาก ระยอง
    4 หลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทอง บุรีรัมย์
    5 หลวงพ่อสด วัดหางน้ำ ชัยนาท
    6 หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    7 หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ สุพรรณบุรี
    8 หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ สุพรรณบุรี
    9 หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว สุพรรณบุรี
    10 หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม กาญจนบุรี
    11 หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม
    12หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    13 หลวงพ่อเกษม สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    14 หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์
    15 หลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์
    16 หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท
    17 หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี
    18 หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    19 หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช อยุธยา
    20 หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ธนบุรี
    21 หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยา ธนบุรี
    22 หลวงพ่อมิ่ง วัดกก ธนบุรี
    23 หลวงพ่อทิม วัดละหารไร่ ระยอง
    24 หลวงพ่อเกตุ วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์
    25 พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ วัดดอนศาลา พัทลุง
    26 หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน พัทลุง
    27 หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร
    28 หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์ ขอนแก่น
    29 พระอาจารย์ถนอม วัดนางพญา
    30 หลวงพ่อทอง วัดท่ามะปรางค์
    31 หลวงพ่อชื่น วัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี
    32 หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว
    33 หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่นอพะอง
    34 หลวงพ่อกรับ วัดโกรกกราก
    35 หลวงพ่อเจริญ วัดทองนพคุณ
    36 หลวงพ่อชื่น วัดคุ้งท่าเสา
    37 พระครูสนิทวิยการ วัดท่าโขลง
    38 หลวงพ่อดำ วัดบำรุงธรรม
    39 หลวงพ่อฝัน วัดราษฎร์เจริญ
    40 พระครูพุทธฉายาภิบาล วัดพระพุทธบาท
    และพระเกจิในจังหวัดพิษณุโลก และจากจังหวัดต่างๆทั่วประเทศ รวม 109 รูป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2023
  9. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    688. พระดี มวลสารสดี น่าบูชา พระสมเด็จอาภัคโค หลวงปู่โชติ วัดภูเขาแก้ว จ.อุบลราชธานี พิมพ์หลวงปู่มั่น / พิมพ์ประทานพร ให้บูชาคู่ละ 800 บาท

    upload_2022-8-19_7-47-32.png

    upload_2022-8-19_7-47-39.png

    1. ผงวิเศษพระธาตุพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวัดนครพนม
    2. ผงวิเศษวัดพลับ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) พระอาจารย์พุฒ วัดใหม่พิเรนทร์ ได้จากหลานชาย พระสังวรานุวงศ์เถร (หลวงปู่ชุ่ม) วัดราชสิทธาราม ได้นำมาถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร เมื่อปี 2508
    3. ผงวิเศษดอนเจดีย์ของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพนรัตน์ วัดป่าแก้ว (ขรัวตาคง) อาจารย์ ม.ร.ว. สิทธิประภัทร เกษมสันต์ ได้นำมาถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร ที่วัดอัมพวา กรุงเทพฯ เมื่อปี 2492
    4. ผงวิเศษและชิ้นส่วนพระผงสมเด็จวัดระฆังฯ หลวงปู่อ่อง ยโสธร เก็บรักษาไว้ตั้งแต่จำพรรษาอยู่วัดพระยาทำ กรุงเทพฯ
    5. ผงวิเศษ 5 อย่าง คือ ผงอิทธิเจ ผงปัตถมัง ผงมหาราช ผงพุทธคุณ และผงตรีนิสิงเห หลวงปู่อ่อง ยโสธร ได้มาจากหลวงปู่คง พุทธสร วัดถนนหักใหญ่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
    6. ผงยาวิเศษพระฤาษีพันปี หลวงพ่อศรีทัต วิปัสสโน วัดหนองสามหมื่น อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ได้ถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร จำนวนหนึ่ง และไปนำมาจากถ้ำบนเขาพังเหย จังหวัดลพบุรี เมื่อปี 2506
    7. ผงวิเศษหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ จังหวัดประทุมธานี ท่านพระครูสารทราพัฒนกิจ (หลวงพ่อละมูล) วัดเสด็จ ได้มอบให้เมื่อปี 2509
    8. แร่เหล็กมันปูเกาะล้าน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี พระภิกษุ (ไม่ทราบนาม) ซึ่งเป็นน้องชาย จ.อ.สวัสดิ์ ทองเสริม ได้มอบให้เมื่อครั้งเดินทางไปราชการที่สถานีทหารเรือสัตหีบ เมื่อเดือน มีนาคม 2505
    9. ผงวิเศษและชิ้นส่วนพระกรุ วัดอัมพวา กรุงเทพฯ หลวงปู่อ่อง ยโสธร เก็บรักษาไว้จำนวนมากขณะจำพรรษาอยู่ที่วัดอัมพวา
    10. ผงวิเศษ หลวงปู่อ่อง ยโสธร ซึ่งท่านผสมเป็นแท่งจากผงชอล์คของบุคคลต่างๆ ที่ได้มาให้ท่านตรวจดวงชะตา โดยเลือกเฉพาะบุคคลที่มีเกษตรมหาอุจ มหาจักร และราชาโชค ทำเป็นผงวิเศษ 5 ประการ
    11. ผงเกสรดอกไม้รอบโลกจากประเทศต่างๆ นาวาอากาศตรีหญิงเผ่าทอง เมนะรุจิ (ยศขณะนั้น) นำมาถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร เมื่อปี 2508
    12. ผงสังเวชนียสถานสี่แห่งในชมพูทวีป คือ ผงดินที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา ที่ปรินิพพาน และใบศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ ซึ่งหลวงปู่อ่อง ยโสธร เก็บรักษาไว้และได้นำมาจากประเทศอินเดียอีกในปี 2523
    13. ผงวิเศษบึงพระยาสุเรนทร์ ผงใบลานเผา พระผงบึงพระยาสุเรนทร์ชำรุด 30 กว่าองค์ ท่านพระครูสุตาธิการี หรือหลวงปู่ทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาครมอบให้
    14. ผงตะใบพระกริ่ง พระบูชาจากวัดต่างๆ คุณอุดม รัมมะวาสน์ และคุณสงัด ปัจฉิมสุภาคม มอบให้
    15. เปลือกต้นศรีมหาโพธิ์พุทธคยา หลวงปู่สิม พุทธธาโร ให้คุณธนา ศรีพันธ์ุ นำมามอบให้
    16. ผงวิเศษ ท่านพระครูญาณวิลาส (หลวงพ่อแดง) วัดเขาบันไดอิฐ จังหวัดเพชรบุรี พ.ต.ต.ประสงค์ เจิมพร นำมามอบให้เมื่อเดือนสิงหาคม 2526
    17. ผงกบิลว่าน 108 และเกสรดอกไม้ 108 หลวงปู่อ่อง ยโสธร ได้เก็บรวบรวมไว้
    18. ผงวิเศษ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หรือพระมงคลเทพมุนี วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ศิษย์ฆราวาสของท่านได้นำมาถวายหลวงปู่อ่อง ยโสธร 3 ก้อน
    19. ผงวิเศษ พระอาจารย์เมี๊ยก ฉันทวุฑโฒ วัดสัมมาธัญญาวาส กรุงเทพฯ มอบให้
    20. ผงมวลสารอื่นๆ อีกจำนวนมาก ที่ท่านพุทธศาสนิกชน ผู้ใจบุญทั้งหลายนำมามอบให้
    21. ผงวิเศษพระธาตุพนม วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร จังหวัดนครพนม ดร.พระมหาสม สุมโน นำมามอบให้เพิ่มเติม ดังนี้
    21.1 ผงอิฐพระธาตุองค์เดิม
    21.2 ผงเกสรดอกไม้ 108 ซึ่งได้จากฐานพระบุเงิน,บุทอง จากกรุพระธาตุพนมเมื่อปี 2518
    21.3 ผง ผอบสำริดหลังเดิม ซึ่งเป็นที่บรรจุพระอุรังคธาตุ
    21.4 ผงพระยอดพระธาตุองค์เดิมช่วงกลาง
    21.5 ผงพระยอดพระธาตุองค์เดิมช่วงบนด้านนอก
    21.6 ผงยอดพระธาตุช่วงบนสุดด้านใน ซึ่งเข้าใจว่าเป็น "ขี้เหล็กไหล"
    21.7 ผงเหล็กเปียก ซึ่งหล่อหุ้มปิดพระธาตุองค์เดิม

    ประวัติการสร้างพระสมเด็จอาภัคโค มงคลฤกษ์ในการสร้างพระผงสมเด็จอาภัคโค พระเดชพระคุณท่านพระครูพิบูลธรรมภาณ (หลวงปู่โชติ อาภัคโค) วัดภูเขาแก้ว อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี ได้ให้มงคลฤกษ์สร้างพระผงสมเด็จอาภัคโคเป็นปฐมฤกษ์ในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม 2526 เวลา 09.09 น. ตรงกับวันขึ้น 4 ค่ำ เดือน 5 ปีกุน จุลศักราช 1345 โดยท่านพระครูพิบูลธรรมภาณ (หลวงปู่โชติ อาภัคโค) เป็นประทานจุดเทียนชัยเจริญสวดพระคาถา นั่งบริกรรมภาวนาอธิษฐานจิตขอพุทธบารมีสร้างพระผงสมเด็จอาภัคโค พร้อมกับพิมพ์พระผงสมเด็จอาภัคโคขึ้นเป็นปฐมฤกษ์ 9 องค์ และมีคณะศิษยานุศิษย์ผู้เข้าร่วมในพิธี ได้แก่ นาวาตรีกวี รัตนวโรภาส คุณอุดม รัมมะวาสน์ คุณเทพ ขาวมงคล พ.ต.อ. นายแพทย์ปราโมทย์ ศรศรีวิชัย คุณมัณฑนา ศรศรีวิชัย และคุณย่าอนงค์ ศรศรีวิชัย เป็นผู้ดำเนินการสร้าง ในขณะกดพิมพ์พระจะต้องภาวนาพระคาถาว่า "สัง วิ รา ปุ กะ ยะ ปะ" ดังนั้น เมื่อท่านมีพระผงสมเด็จอาภัคโคของวัดภูเขาแก้วไว้บูชาแล้ว ท่านควรจะภาวนาพระคาถานี้อยู่เสมอ เพื่อเป็นการเสริมประสิทธิภาพด้วยพลังจิตของท่านเอง จะทำให้พระผงสมเด็จอาภัคโคของท่านมีประสิทธิภาพยิ่งๆ ขึ้นไป การกดพิมพ์พระผงสมเด็จอาภัคโคเป็นอันแล้วเสร็จในวันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน 2528 ตรงกับวันวิสาขบูชา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ปีฉลู จุลศักราช 1347 ใช้เวลาในการสร้าง 1 ปี 9 เดือน 14 วัน ครบ 84,000 องค์ และพระผงพระเกจิอาจารย์ที่หลวงปู่โชติเคารพนับถือสายพระกัมมัฏฐานอีกจำนวนหนึ่ง เช่น พระรูปเหมือนพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระผงรูปเหมือนพระอาจารย์ขาว อนาลโยเพื่อให้ศาสนิกชนมีไว้สักการะบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว พร้อมทั้งได้จัดพิธีมหาพุทธาภิเษกขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ นับว่าเป็นของดีของวิเศษที่ทุกท่านควรให้ความสนใจเก็บสะสมไว้สักการะบูชาต่อไป
     
  10. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    689. Full Option เหรียญหล่อ(รุ่นพูนทรัพย์ )ติดตะกรุด+เกศา+จีวร +ชานหมาก พระครูอมรธรรมโมภาส (หลวงปู่ชม โอภาโส) วัดสามัคคี อ.เมือง จ.หนองคาย ครบ ๑๐๑ ปี ให้บูชา 850 บาท


    upload_2022-8-19_14-11-22.png

    upload_2022-8-19_14-12-27.png

    upload_2022-8-19_14-12-35.png
    พระครูอมรธรรมโมภาส (หลวงปู่ชม โอภาโส) วัดสามัคคี อ.เมือง จ.หนองคายศิษย์เอกรูปสุดท้ายของหลวงปู่พิบูลย์ ท่านเกิดเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๘ ท่านเป็นคนบ้านแดง จ.อุดรธานี โดยกำเนิด ซึ่งในบ้านแดงเป็นที่ตั้งของวัดพระแท่น ที่หลวงปู่พิบูลย์ (พระอภิญญาอาคมขลังแห่งอุดรธานี) ได้มาสร้างวัดอยู่ช่วยสงเคราะห์ญาติโยมนี่เอง ตอนเป็นเด็กหลวงปูชมท่านมีโอกาสรับใช้ครูบาอาจารย์หลายรูป ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่พิบูลย์ หลวงปู่ฤาษีผมยาว หลวงปู่โชติ

    หลวงปู่ชม ท่านเป็นพระที่มีพลังจิตสูงมาก มีคนเอาไซมาให้ท่านเสก ท่านให้วางไว้ข้างหน้า และท่านชวนคุยเรื่องอื่น และท่านก็บอกเสร็จแล้ว ไม่เห็นท่านเสก แต่พอเอาให้คนที่เขาเชี่ยวชาญด้านพลังจิตตรวจดูปรากฏว่า ของหลวงปู่มีพลังมากซึ่งหาเกจิเทียบท่านยากในปัจจุบัน มีครั้งหนึ่งนายอธิวัฒน์ ลูกศิษย์คุ้มบ้านสามัคคี ได้เอาวัตถุมงคลให้คนที่เขาปฏิบัติกรรมฐานตรวจดูหลายคน ซึ่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแรงมาก ตอนจับเห็นขนลุกไปหลายคนแล้ว เอาหลวงพ่อดังๆองค์อื่นให้ตรวจเขาก็ว่าดีๆ แต่ของหลวงปู่ชมเขาต่างไม่มีคำพูด พูดได้แค่ว่าขนลุก มีคนหนึ่งชื่อคุณชินพร สุขสถิตย์ ศิษย์เอกหลวงปู่ทิมตื่นเต้นมากเมื่อดูพระหลวงปู่ชม พูดว่า”แค่มองก็ขนลุกแล้ว”คุณชินพรจึงนิมนต์ท่านไปนั้งปรกอธิฐานจิตวัตถุมงคลกับหลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู วัดในเกิดหลวงปู่คำบุ ครบ ๙๑ พรรษา

    หลวงปู่ชมมีชื่อเสียงมานานแล้ว ท่านอาจนับเป็นพระเกจิเบอร์ ๑ แห่งเมืองหนองคายก็ว่าได้ บารมีธรรมท่านสูงมาก เรื่องปราบผีปราบปอบ ผีที่ไหนที่ว่าเฮี้ยนๆ นิมนต์หลวงปู่ชมไปเสร็จทุกราย นอกจากนั้นท่านยังรักษาคนที่ใกล้ตาย หมอรักษาไม่หายมาแล้ว ท่านสามารถทำนายทายทักคนได้อย่างแม่นยำ รู้วาระจิตคน คนที่มีสายสิญจและชานหมากหลวงปู่ชมมีประสบการณ์เรื่องฉีดยาไม่เข้า เผาศพของขลังไม่ไหม้เป็นเรื่องปกติ ทำให้มีคนศรัทธาท่านมาก เวลามีพิธีพุทธาภิเษกที่อยู่แถบอีสาณตอนบน มักจะมีคนมานิมนต์ท่านอยู่เสมอ หลวงปู่ชมเป็นพระเกจิที่หลวงปู่เณรคำ จังหวัดนครพนม เครพนับถือมาก
     
  11. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +6,461
    ขอจองรายการนี้ครับ
     
  12. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    รายการนี้ปิดไปแล้วครับพี่ ขออภัยด้วยครับ
     
  13. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    690.พระพุทธชินราช พิมพ์กลีบบัว ยุคแรก เนื้อผงเมตตา หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ปี พ.ศ.๒๕๑๒ ให้บูชา 650 บาท

    upload_2022-8-19_16-36-53.png
    พระพุทธชินราช พิมพ์กลีบบัว ยุคแรก เนื้อผงเมตตา หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ปี พ.ศ.๒๕๑๒ สร้างจากเนื้อผงพุทธคุณ และ ผงวิเศษต่างๆ ที่หลวงพ่อเงิน ท่านเก็บสะสมไว้


    พระราชธรรมมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน จันทสุวัณโณ) เทพเจ้าแห่งดอนยายหอม

    อภินิหารหลวงพ่อเงิน

    เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2502 หลวงพ่อเงิน เดินทางไปเชียงใหม่โดยรถยนต์กับ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ อดีตผู้กำกับการตำรวจภูธร ลูกศิษย์ของท่านที่มีความเคารพนับถือหลวงพ่อมาก ไม่ว่าจะย้ายไปรับราชการ ณ จังหวัดใด เป็นต้องนิมนต์หลวงพ่อให้ไปเที่ยวทุกครั้งไป

    พ.ต.อ.ศิริและหลวงพ่อเงินเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปถึงบ้านตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ก็ได้พบกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายคาดไม่ถึง เพราะมีคนร้ายประมาณสิบคนกำลังปล้นรถเมล์อยู่ข้างหน้า!




    รถของ พ.ต.อ.ศิริวิ่งไปด้วยความเร็วตามปกติ และหาทราบไม่ว่าที่นั่นเขากำลังทำอะไรกันอยู่ เมื่อหวนถึงที่เกิดเหตุ พวกคนร้ายหันมาเห็นเข้า เกิดเข้าใจผิด คิดว่าเป็นรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาจับกุม จึงใช้ปืนสั้นและปืนยาวระดมยิงสกัดกั้น กระสุนปืนของพวกคนร้ายถูกกระจกหน้ารถและหม้อน้ำแตกกระจาย!




    คนในรถที่ประสบกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ก็ต่างตระหนกตกใจ ก้มลงกราบหลวงพ่อเงินที่นั่งสงบอยู่และร้องขอให้หลวงพ่อช่วย

    ปรากฏว่า กระสุนปืนนับเป็นสิบชนิดที่คนร้ายยิงมานั้น ไม่ต้องผิวกายผู้ใดเลย!

    ถูกลอบยิง

    แต่โชคร้ายก็ยังพัดกระหน่ำคนในรถของ พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ ซ้ำสองในเที่ยวกลับจนได้!

    กล่าวคือเมื่อ พ.ต.อ.ศิริ พาหลวงพ่อกลับจากเชียงใหม่ หลังจากเสร็จธุระแล้ว ขณะที่รถวิ่งพ้นจากเขตอำเภอเถิน อำเภอลี้ เข้ามาถึงเขตจังหวัดตาก ได้เกิดมีการดักยิงกันขึ้น!




    เนื่องจากบริเวณนั้นเป็นป่าทึบสองฟากทาง ซ้ำยังมีก้อนหินก้อนโตๆ วางเรียงรายริมทาง เหมาะสำหรับเป็นที่กำบังของคนร้ายด้วย

    พอรถวิ่งมาถึงบริเวณนั้น หมู่ทรชนก็กรูกันออกมาจากที่ซุ่ม ร้องบอกให้รถหยุด เมื่อรถไม่ยอมหยุด พวกมันก็สาดกระสุนเข้าใส่ หมายให้วอดวายทั้งคันรถ

    พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ กับคุณนายพรรณพิมพ์ ภรรยา เห็นเหตุการณ์ดังนั้น ก็กระโดดออกมาจากรถยนต์ แล้วยิงโต้ตอบแบบถวายชีวิต ส่วนคนอื่นที่มีปืนก็ช่วยยิงต่อสู้ด้วย เหตุการณ์อลหม่านอยู่ประมาณสิบนาที เสียงปืนก็สงบ!

    ผลจากการต่อสู้กันในครั้งนั้น ฝ่ายคนร้ายจะเป็นตายร้ายดีอย่างใด ไม่มีใครทราบ เพราะพวกมันหายเข้าไปในป่าข้างทาง แต่ฝ่าย พ.ต.อ.ศิริ คชหิรัญ มีผู้บาดเจ็บหนึ่งคน คือ คุณนายอรุณ สุจริตจิต อีกคนหนึ่งโดนยิงแต่ไม่เข้า คือ ส.ต.ต.เสถียร คชหิรัญ

    คุณนายอรุณนั้นร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ด้วยโดนกระสุนเข้าที่รักแร้ใกล้หัวใจ ได้แต่นอนมาในรถยนต์ โดยมีหลวงพ่อเงินคอยปลุกปลอบใจตลอดทาง

    ไร้ร่องรอย

    เมื่อถึงโรงพยาบาลจังหวัดตาก เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล ได้รีบนำเปลมาหามคนเจ็บขึ้นนอนบนเตียง พอรู้ว่าใครเป็นใคร ทั้งนายแพทย์และพยาบาลก็พากันกุลีกุจอให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน โดยส่งให้พลพยาบาลนำคนเจ็บเข้าห้องผ่าตัด

    ณ ห้องผ่าตัดใหญ่ห้องนั้น คุณนายอรุณขอนิมนต์หลวงพ่อให้เข้าไปยืนด้านเหนือศีรษะเพื่อเป็นกำลังใจอยู่ด้วย




    นายแพทย์นำเครื่องมือเข้ามาในห้อง พลางปลุกปลอบให้คนไข้ใจดี ๆ




    แล้วนางพยาบาลก็ช่วยยกแขนซ้ายของคุณนายที่หนีบไว้แน่นออก พอแขนแยกจากกาย ลูกกระสุนที่แนบติดกับเนื้อคุณนายก็ตกลงมา! มีรอยไหม้เกรียมตรงซอกรักแร้หน่อยเดียว นอกนั้นหาบาดแผลไม่เจอ!

    ทั้งนายแพทย์ ทั้งนางพยาบาลรวมทั้งคนป่วย ก้มลงกราบหลวงพ่อเงินเกือบจะพร้อมกัน! แล้วหลวงพ่อก็ต้องเสียพระเครื่องในย่ามอีกหลายองค์ ณ โรงพยาบาลแห่งนั้น!

    ควรแก่การบูชา

    บัดนี้หลวงพ่อเงินได้ถึงกาลมรณภาพตามกฎแห่งสังสารวัฏ แต่เกียรติคุณของท่านขจรขจายไปทั่วทุกสารทิศ ไม่มีวันลืมเลือน ผู้คนยังคงให้ความเคารพสักการะท่านมิได้เปลี่ยนแปลง

    ทุกคนยอมรับว่า หลวงพ่อเงิน จันทสุวัณโณ เป็นพระภิกษุที่ปฏิบัติชอบ ได้ประกอบประโยชน์ไว้แก่พระพุทธศาสนา และแก่ประชาชนเป็นอเนกประการ นับเป็นปูชนียบุคคลที่มีคุณค่าควรแก่การกราบไหว้เป็นอย่างยิ่ง
     
  14. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    691.เขี้ยวเสือหล่อรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์(เสกไตรมาส53) หลวงปู่แขก ปภาโส วัดสุนทรประดิษฐ์ จ.พิษณุโลก ให้บูชา 850 บาท

    upload_2022-8-20_12-53-46.png


    upload_2022-8-20_13-2-1.png
     
  15. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    692.เหรียญพระกริ่งสิทธัตโถ พิธีสิทธัตโถ.ที่ระลึกหล่อพระกริ่ง..พิธีใหญ่.สายกรรมฐานร่วมปลุกเสก สร้างปี2512 ให้บูชา 750 บาท


    upload_2022-8-20_13-7-31.png


    มหาพิธีมังคลาภิเษกพระกริ่งสิทธัตโถองค์ใหญ่
    หลวงปู่สิมเป็นเจ้า พิธีมหาพิธีทำขึ้นในวันที่ 7 ธันวาคม 2512 ที่วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
    พร้อมพิธีนี้คณะกรรมการได้จัดสร้างเหรียญขึ้นเป็นที่ระลึก 11 พิมพ์
    และพระกริ่งขนาดห้อยคออีก 1 พิมพ์ รวมเป็น 12 พิมพ์
    ไม่นับพระกริ่งขนาดบูชาหน้าตัก 3 นิ้ว 5 นิ้ว และ 12 นิ้ว ตามลำดับ และพระบูชาประจำวันอีก 1 ชุด
    คณาจารย์ ที่รับอาราธนาเข้าร่วมพิธีมหาพุทธภิเษกพระกริ่งสิทธัตโถ และเหรียญที่ระลึกทั้งหมดนั้น อาจบันทึกได้ไม่ครบถ้วนทุกรูป แต่สามารถบอกได้ดังนี้
    1. หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ (ท่านเป็นเจ้าพิธี)
    2. หลวงปู่ตื้อ อจลธมโม วัดป่าอรัญญวิเวก นครพนม (ขณะนั้นท่านอยู่เมืองเชียงใหม่)3. หลวงปู่นาค วัดระฆัง
    4. เจ้าคุณวรพรตปัญญาจารย์ (แก้ว) วัดป่าอรัญญิกาวาส ชลบุรี
    5. หลวงปู่แว่น วัดถ้ำพระสบาย ลำปาง (ขณะนั้นท่านอยู่วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร)
    6. หลวงพ่อเมตตาหลวง (ขณะนั้นคือเจ้าคุณสุนทรธรรมภาณ วัดป่าชัยวัน ขอนแก่น)
    7. หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ อยุธยา
    8. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลยไลย์ สุพรรณบุรี
    9. หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    10. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    11. หลวงพ่อลมูล วัดเสด็จ ปทุมธานี
    12. หลวงพ่อเจริญ วัดอโศการาม (ปัจจุบันอยู่ถ้ำปากเพียง)
    13. หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน ลำปาง
    14. พระราชปัญญาโสภณ (สุข) วัดราชนัดดา
    15. หลวงพ่อสา วัดราชนัดดา
    16. หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
    17. หลวงพ่อเฉลา วัดคีรีภาวนาราม ระยอง
    18. หลวงพ่อแฟ้ม วัดป่าอรัญญิกาวาส ชลบุรี (ขณะนั้นอยู่วัดตรีรัตนาราม ระยอง)
    19. หลวงพ่ออำนวย ถาวโร วัดเสาธงกลาง สมุทรปราการ
    20. หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม นครปฐม
    21. หลวงพ่อคำสิงห์ วัดล่ามช้าง เชียงใหม่
    22. หลวงพ่อเจียง วัดป่าสันติธรรม เชียงใหม่
    23. หลวงปู่เคน วัดเขาอีโต้ ปราจีนบุรี
    24. หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่ หนองพะอง
    25. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    26. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    27 หลวงพ่อบุญมี วัดอ่างแก้ว กทม.
    28. หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธินิมิต
    29. พระธรรมดิลก วัดบรมนิวาส
    30. หลวงพ่อหอม วัดท่าอิฐ อ่างทอง
    31. หลวงพ่อผ่อง วัดจักรวรรดิ กทม.
    32. หลวงพ่อเขียน วัดพิชัยสงคราม สมุทรปราการ
    ปัจจุบัน พระกริ่งสิทธัตโถค่อนข้างหายาก ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก
    และเหรียญที่ระลึกทุกพิมพ์พอจะเห็นได้บ้างประปรายในที่ต่าง ๆ ผู้สนใจอยากจะได้ไว้ต้องลงมือหาเอาเอง
    (งานเขียนของอำพล เจน หนังสือศักดิ์สิทธิ์ฉบับที่ 252 วันที่ 1 กรกฎาคม 2536 )
     
  16. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    693.พระรูปเหมือนซุ้มเรือนแก้ว หลวงพ่อเต๋ คงทอง ( คงคสุวัณโณ ) วัดสามง่าม จ. นครปฐม พ.ศ.2503 ให้บูชา 1250 บาท จองแล้วครับ

    upload_2022-8-20_13-44-43.png
    พระรูปเหมือนซุ้มเรือนแก้ว หลวงพ่อเต๋ คงทอง ( คงคสุวัณโณ ) วัดสามง่าม จ. นครปฐม พ.ศ.2503 ด้านหลังยันต์สามง่าม สร้างขึ้นด้วย ดินโป่ง 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เพราะเชื่อว่าดินดังกล่าว จะมีเทวดารักษา จึงมีอานุภาพแห่งพุทธคุณ และความศักดิ์สิทธิ์สูง ด้านโชคลาภ การค้า การขาย การเสี่ยงโชค รวมถึงการชี้นำไปยังแหล่งร่ำรวยนานับประการ

    ประวัติและเกียติคุณ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม นครปฐม

    หลวงพ่อเต๋ คงทอง เกิดเมื่อวันจันทร์ ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 7 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 15 มิถุนายน 2434
    ณ บ้านสามง่าม หมู่4 โยมบิดาชื่อ จันทร์ โยมมารดาชื่อ บู่ นามสกุล สามง่ามน้อย ท่านมีพี่น้อง 7 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 5 เมื่ออายุครบ 15 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่กับหลวงลุงแดงซึ่งเป็นลุงของท่าน พร้อมกับร่วมกันจัดสร้างวัดใหม่ไปพร้อมกัน รวมทั้งได้ศึกษาวิชาอาคมจากหลวงลุงแดงไปด้วย เมื่อ พ.ศ.2454 ท่านมีอายุครบ 21 ปี จึงได้ทำการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมี พระครูอุตตรการบดี ( หลวงพ่อทา) วัดพระเนียงแตก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสมุห์เทศ วัดทุ่งผักกูด เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการจอม วัดลำเหย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า คงทอง เมื่ออุปสมบทแล้วได้ไปศึกษาเล่า เรียนทั้งทางธรรมและวิชาอาคมกับหลวงพ่อทา วัดเพียงแตก ต่อมาเมื่อหลวงลุงแดง ก่อนมรณภาพลงได้ฝากฝังวัดสามง่ามให้หลวงพ่อเต๋ ดูแล

    หลวงพ่อเต๋ เริ่มออกธุดงค์ระหว่าง พ.ศ.2455-2477 รวมเป็น 17 ปี รวมทั้งการศึกษาอาคมเพิ่มเติ่มนอกเหลือจากการศึกษาจากหลวงลุงแดงและหลวงพ่อทาวัดพะเนียงแตก ต่อมาได้ไปศึกษาวิชาเพิ่มเติมกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้องจากนั้นก็ธุดงค์ไปเรื่อยๆ ในสถานที่ต่างๆและได้ไปเรียนเพิ่มกับพระอาจารย์รูปอื่นๆรวมทั้งอาจารย์ฆราวาสที่เป็นชาวเขมร ซึ่งเคยเป็นอดีตแม่ทัพเขมร และเป็นอาจารย์ที่หลวงพ่อเต๋ให้ความนับถือมาก ( ในสมัยท่านมีชีวิตหลวงพ่อเต๋จะทำการไหว้ครูเขมรมิขาด) ภายหลังที่กลับมาพำนักได้ 3 ปีท่านได้ทำการปฏิสังขรณ์วัดสามง่าม อย่างมานะอันแรงกล้าอย่างหาที่สุดเปรียบมิได้ รวมทั้งการพัฒนา โรงพยาบาล สถานีอนามัย โรงเรียน สถานีตำรวจ ฯลฯ

    หลวงพ่อเต๋ เป็นผู้กอปรด้วยความเมตตาปราณี ท่านจะให้ความรักแก่ศิษย์ทุกคนโดยไม่เลือกที่รักที่ชัง นอกจากนี้ท่านยังให้ความเมตตาแก่สัตว์เลี้ยง ก่อนท่านจะฉันภัตตาหาร ท่านจะต้องให้ข้าวสัตว์เหล่านี้เป็นนิล เมื่อ พ.ศ.2475 กรรมการสงฆ์จังหวัดได้พิจารณาแต่งตั้งให้หลวงพ่อเต๋เป็นเจ้าอาวาสวัดสามง่าม และปี พ.ศ.2476 แต่งตั้งให้ท่านเป็นเจ้าคณะตำบล ปกครอง 5 วัด

    การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเต๋
    ท่านจะสร้างไว้หลายแบบหลายชนิดในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้ วัตถุมงคลของท่านไม่ได้เน้นเรื่องความสวยงามแต่เน้นเรื่องพุทธคุณเพราะท่านตั้งใจสร้างเพื่อให้บูชาพกติดตัวป้องกันภัยต่างๆ ส่วนมากเป็นเนื้อ ดินผสมผงป่นว่าน เนื้อดินอาถรรพณ์ที่นำมาเป็นมวลสารนั้นได้แก่ ดิน 7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้น ด้านหลังพระทุกพิมพ์จะประทับชื่อ หลวงพ่อเต๋ กดลึกลงเนื้อพระ ส่วนวัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านจนทุกวันนี้คือ ตุ๊กตาทอง ( กุมารทอง) ตำราการสร้างได้จากหลวงลุงแดง นำดิน7 โป่ง ดิน 7 ป่าช้า ดินขุยปู เป็นต้นมาปั้นแจกชาวบ้าน นำไปเพื่อคุ้มครอง การปลุกเสกนั้นหลวงพ่อเต๋ จะปั้นแล้วเอาวางนอนไว้แล้วทำการปลุกเสกให้ลุกขึ้นมาเองตามตำรา ผู้ที่ได้รับไปบูชามักจะมีเรื่องเล่าสู่กันฟังเป็นมี่อัศจรรย์ทางต่างๆ หลวงพ่อเต๋ คงทอง มรณะภาพลงโดยอาการสงบเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2524 รวมสิริอายุได้ 80 ปี 6 เดือน10วัน พรรษาที่ 59 ปัจจุบันทางวัดเก็บรักษาสังขารท่านไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหารวมทั้งผู้เคารพศรัทธาไปกราบไหว้จนทุกวันนี้

    (แหล่งที่มา นิตยสารคเณศ์พร ฉบับอมตวัตถุมงคลยอดนิยมหลวงพ่อเต๋)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2022
  17. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    694. ของดีราคาถูกชั่วโมงนี้ครับ ผสมผงพระหลวงปู่โต๊ะ พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ ตอนนี้องค์เป็นแสน แล้วครับ พระปิดตามหาลาภพิมพ์ใหญ่ รุ่นแรก ปี 2521 เนื้อผง หลวงพ่อตี๋ วัดบางฅณฑีใน อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ให้บูชา 750 บาท

    upload_2022-8-20_13-47-49.png
    พระปิดตามหาลาภพิมพ์ใหญ่ รุ่นแรก ปี 2521 เนื้อผง หลวงพ่อตี๋ วัดบางฅณฑีใน อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม รุ่น 1 เมตตาที่สุดๆครับ อนาคตจะแพงมากและหายากมากครับ สร้างมากว่า30ปีเสกเรื่อยมาครับ ผสมผงเกจิยุคเก่ามากมาย พระหลวงปู่โต้ะเป็นสิบองค์บดผสมไปท่านกดพิมพ์ที่วัดทุกองค์ครับ

    พระครูพินิจสมุทรคุณ(หลวงพ่อตี๋ สุจิณโณ) วัดบางคณฑี จ.สมุทรสงคราม หลวงพ่อตี๋ เป็นศิษย์หลายอาจารย์ โดยเฉพาะหลวงพ่อหลา อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคณฑีใน ฯลฯ ท่านบอกว่า พระเกจิอาจารย์ที่เก่งๆ จะต้องเก่งด้วยตัวเอง เพราะอาจารย์เป็นเพียงผู้สอนวิธีการเท่านั้น...การจะเก่งขลัง จะแน่ แค่ไหน ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ การฝึกฝนจิต ความมุมานะ และความพากเพียรของตัวเอง มากกว่า

    ด้วยเหตุนี้ หลวงพ่อตี๋ จึงได้พยายามเล่าเรียนฝึกฝนด้วยตนเองมาโดยตลอด จนมั่นใจแล้วจึงได้สร้างพระเครื่องออกมาแจกแก่ลูกศิษย์ลูกหา และชาวบ้านทั่วๆ ไป

    หลวงพ่อตี๋ บอกว่า การสร้างพระทุกครั้งต้องมีเหตุมีผล ต้องมีที่มาที่ไป ไม่ใช่คิดจะสร้างก็สร้างกันทันที ที่สำคัญ การสร้างพระทุกครั้งจะสร้างกันเองที่วัด ตำผง ผสมผง กดพิมพ์กันเองที่วัดทุกขั้นตอน ไม่ได้จ้างโรงงานที่ไหนทำให้ จึงมั่นใจได้ในความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระ และเพื่อให้ชาวบ้านได้รู้ว่า วัดบางคณฑีในไม่เคยสร้างพระแบบสุกเอาเผากิน ทุกอย่างล้วนกำเนิดขึ้นมาจากความตั้งใจจริงทั้งสิ้น

    การสร้างพระแต่ละครั้ง ท่านได้นำมวลสารศักดิ์สิทธิ์จำนวนมาก ที่ได้สะสมไว้สำหรับการสร้างพระโดยเฉพาะ เช่น ผงวิเศษชนิดต่างๆ ที่ท่านได้เพียรลบผงด้วยตนเองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการลบผงที่เขียนขึ้นในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เช่น ในอุโบสถ หน้าโต๊ะบูชาครู ฯลฯ หรือการลบผงที่เขียนขึ้นตามฤกษ์ยาม เช่น ราชาฤกษ์ ที่เด่นทางความเจริญก้าวหน้า หรือ สมโณฤกษ์ ที่อำนวยผลทางด้านความร่มเย็น ฯลฯ

    หรือการลบผงแบบเฉพาะกิจ เช่น ขณะที่พระกำลังสวดพระปาฏิโมกข์ ก็ยังคงทำขึ้นอยู่เสมอๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการพร้อมที่จะสร้างพระได้ตลอดเวลา

    นอกจากนี้ ยังมี ดินขุยปู ที่มีความขลังในตัวของมันเอง เป็นดินที่กองอยู่บริเวณปากรูปู ซึ่งเกิดจากปูตัวผู้ได้ขุดดินในรู แล้วอมขึ้นนำมาคายไว้บริเวณปากรู เพื่อให้เป็นจุดสังเกตของปูตัวเมีย ในการเข้ามาวางไข่
    โดยเชื่อกันว่า ดินขุยปู เป็นของดีตามธรรมชาติ ในทางไสยศาสตร์ถือว่า ให้ผลทางด้านเมตตามหานิยม และถ้าต้องการให้ดินขุยปูนี้ครอบคลุมไปถึงด้านมหาอุด ครูบาอาจารย์จึงได้กำหนดไว้ว่า ให้ใช้นิ้วหัวแม่เท้ากดอุดลงไปที่รูปู แล้วว่าคาถาก่อนพลีดินขุยปูนั้นมาใช้

    หลวงพ่อตี๋ ยังมี ดินกากยายักษ์ ดินที่มีสีดำสนิท จากป่าในท้องที่ อ.ยะหา จ.ยะลา เพียงแห่งเดียว ที่พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี นำมาใช้เป็นสวนผสมหลักอย่างหนึ่งของการสร้างพระหลวงพ่อทวด เนื้อว่าน รุ่นแรก เมื่อปี ๒๔๙๗ โดยเชื่อว่า ดินกากยายักษ์มีเทวดาและยักษ์ คอยปกปักรักษาตลอดเวลา
    และมีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัว

    ดินจอมปลวก (ในป่าลึก) ผงรังต่อ (สื่อความหมายถึง ต่อลาภ ต่อเงิน ต่อทอง รวมไปถึงการต่อทุกสิ่งทุกอย่างในทางที่ดีงาม ว่าน ๑๐๘ ชนิด ดินหน้าตะโพน ดินเจ็ดท่า ฯลฯ

    มวลสารทั้งหมดนี้ คือ บางส่วนที่หลวงพ่อตี๋ ได้เพียรเสาะหาเพื่อนำมาผสมสร้างพระเครื่อง เพื่อให้มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง ก่อนที่จะมีพิธีการปลุกเสกเพิ่มพุทธคุณอีกครั้งหนึ่ง

    หลวงพ่อตี๋ ยังบอก ด้วย ว่า การปลุกเสกต้องทำตามฤกษ์ที่กำหนดไว้ โดยก่อนทำพิธีต้องตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีของพระพุทธเจ้าว่า....“ด้วยบุญกุศลที่ได้ทำมา และด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ ขอให้พระที่สมบูรณ์ไม่แตกหัก เป็นพระที่สามารถนำไปคุ้มครองชีวิตของผู้บูชาได้”

    หลวงพ่อตี๋ ได้ ที่ผ่านสร้างพระเครื่องไว้หลายรุ่น หลังจากแจกลูกศิษย์และชาวบ้านแล้ว ที่เหลือท่านจะนำไปบรรจุไว้ที่วัด เพื่อเป็นการสืบพระศาสนาต่อไป พอได้โอกาสฤกษ์งามยามดี ท่านจะสร้างพระรุ่นใหม่ออกมาแจกกันอีก เป็นอยู่เช่นนี้ตลอดมา

    เมื่อปี ๒๕๒๑ ท่านได้สร้างพระตามแบบฉบับของท่าน ๔ พิมพ์ คือ ๑.พระปิดตาพิมพ์จัมโบ้ ๒.พระปิดตามหาเสน่ห์ (ใบโพธิ์) ๓.พระพิมพ์ขุนแผน ๔.พิมพ์ฤๅษีบรมครู

    พระทั้ง ๔ พิมพ์นี้ ใช้เนื้อหามวลสารตามที่ได้สะสมไว้เก่าก่อน รวมทั้งผงวิเศษที่ท่านทำขึ้นเฉพาะพิมพ์ผสมลงไปด้วย เพื่อให้พระพิมพ์นั้นๆ มีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น พระปิดตาพิมพ์จัมโบ้ ผสมผงเกี่ยวกับโชคลาภ พระปิดตาใบโพธิ์ ผสมผงด้านเมตตา พระพิมพ์ขุนแผน ผสมผงด้านมหาเสน่ห์ พิมพ์ฤษีผสมผงที่ให้ผลทางด้านคุ้มครอง และเจริญรุ่งเรือง

    สำหรับพระที่ท่านสร้างขึ้นทั้งหมด ไม่เคยนำไปตระเวนเสก หรือนำเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดอื่นใด ท่านจะเสกของท่านเพียงรูปเดียวเสมอ โดยให้เหตุผลว่า ๑.ชาติเสือไม่ขอเนื้อใครกิน ๒.ช้างเผือกอยู่ในป่า ใครไม่เห็นคุณค่าก็ช่างมัน

    เมื่อปลุกเสกเสร็จ ท่านได้แจกพระออกไป ต่อมาปรากฏว่า มีประสบการณ์ ในหลายด้าน มีผู้คนจำนวนมากพากันมาขอพระจากท่านไม่เว้นว่าง ด้วยอุปนิสัยส่วนตัวของท่าน ที่ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย และเรื่องมากกับท่าน ท่านจึงตัดสินใจ เก็บพระชุดนี้ไว้ในกุฏิหลังเก่า และไม่เคยนำออกมาแจกใครอีกเลย
     
  18. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    695.พระสมเด็จ วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม ปี 2521 พิธีใหญ่ หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีร่วมปลุกเสก ให้บูชา 750 บาท


    upload_2022-8-20_16-43-2.png

    พระสมเด็จ วัดบางกะพ้อม จ.สมุทรสงคราม ปี21 (หลังยันต์หลวงพ่อคง) พิธีใหญ่ ผสมมวลสารเก่าของหลวงพ่อคงวัดบางกะพ้อมที่่ทางวัดได้เก็บรักษาไว้จำนวนมาก + หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีร่วมปลุกเสก + พระรุ่นนี้สร้างออกมาน้อยมาก ผู้นำไปบูชาต่างมีประสบการณ์มากมาย บางท่านใช้บูชาแทนเหรียญหลวงพ่อคงวัดบางกะพร้อมรุ่นแรก
     
  19. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    696. สุดยอดพระดี พระสมเด็จหลังวัดพิมพ์หูบายศรี / พระสมเด็จหลังวัดพิมพ์มีหน้ามีตา หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี ต.บางช้าง จ.สมุทรสงคราม ผงเก่าบางขุนพรหม ให้บูชาองค์ละ 1550 บาท (ยกคู่ 2800 บาท)

    upload_2022-8-20_16-50-3.png

    upload_2022-8-20_16-50-25.png


    พระสมเด็จหลังวัด พิมพ์หูบายศรี สร้างสมัย หลวงตาคร้าย ถวายหลวงพ่อเนื่อง หลวงพ่อเนื่องท่าน ปลุกเสกอย่างดี แล้วก็แจกให้กับลูกศิษย์ไปใช้ ไม่มีจำหน่าย และมีส่วนหนึ่งที่หลวงพ่อเนื่องนำมาแจกในศิษย์ ใน งานทอดกฐินของวัด ปี ๒๕๐๖ จำนวนการสร้างไม่มาก มวลสารสารที่ใช่เป็นส่วนผสมหลักคือพระสมเด็จสายวัดระฆัง ได้แก่ พระสมเด็จบางขุนพรหม พระสมเด็จหลวงปู่อ้น วัดบางจาก และ อีกผงเก่าพระสมเด็จอีกหลายๆ วัด รวมเป็นมวลสารล้วนๆ (เนื้อพระจึงมีความคล้ายคลึงกับเนื้อสมเด็จเนื้อผงระฆังล้าน วัดสุทัศน์ ปี ๒๔๘๕ มาก) แกะแม่พิมพ์เอง และ กดพิมพ์เองในวัดครับ ส่วนใหญ่พระเครื่องชุดนี้บอกได้เลยว่าคนที่มีจะหวงมาก
     
  20. HMMAmulet296

    HMMAmulet296 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    7,214
    ค่าพลัง:
    +458
    697. พระสมเด็จ หลวงพ่อพัว วัดพักตราราม จ.สมุทรสงคราม สร้างขึ้นในยุคแรก ปี ๒๔๘๓ เป็นเกจิยุคเก่าที่ขลังอีกรูปแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ให้บูชา 1450 บาท


    upload_2022-8-20_17-3-57.png

    หลวงปู่พัว ภุมมสโร ท่านอุปสมบถที่วัดบางกะพ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โดยมีหลวงพ่อคง ธัมมโชโต เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อบ่าย ธัมมโชโต วัดช่องลม เป็นพระกรรมวาจา หลวงพ่อรอด วัดบางน้ำวน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงปู่พัว ยังเป็นที่เคารพนับถือของบรรดาลูกหลาน ศิษยานุศิษย์ทั้งใกล้และไกลที่รู้เกียรติคุณความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน มาบูชาขอพึ่งบารมีที่รูปปั้นของท่าน ซึ่งส่วนมากก็จะสำเร็จผลดังปรารถนา ด้านพระเครื่องวัตถุมงคลของ หลวงพ่อพัว วัดพักตราราม ส่วนมากเป็นเนื้อผง มวลสารหลักคือผงเก่าวัดระฆังฯ ที่ได้รับมาจากหลวงปู่อ้น วัดบางจาก (ซึ่งวงการทราบกันดีว่าหลวงปู่อ้นท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดสมเด็จฯพุฒาจารย์ฯโต และ พระเครื่องเนื้อผงของท่านว่ากันว่าแทนพระสมเด็จฯได้เลย) พระผงของหลวงปู่พัว สร้างตั้งแต่ ปี ๒๔๘๓ ในคราวยุคสงครามโลก เพื่อเป็นขวัญกำลังใจชาวบ้าน เหมือนกับหลายๆวัด หลายๆพระเกจิยุคเก่าที่ทางการได้ขอให้สร้างวัตถุมงคลเพื่อบำรุงขวัญยามสงคราม...พิมพ์พระของท่านส่วนมากเป็นเอกลักษณ์ ชาวบ้านช่วยกันแกะแม่พิมพ์ และ บางส่วนท่านก็แกะพิมพ์เลียนแบบพระกรุพระเก่า บางพิมพ์มียันต์ปั๊ม บางพิมพ์มีรอยจารมือ บางองค์หลังเรียบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...