ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย ====, 3 สิงหาคม 2018.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นักรบอธรรม

    นักรบอธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +157
     
  2. นักรบอธรรม

    นักรบอธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +157
    อยากมีส่วนร่วมคับ
    แต่ไม่แน่ใจว่าที่ จขกท ถาม หมายถึงสิ่งนี้หรือป่าว Screenshot_20220127-084935_Chrome~2.jpg Screenshot_20220127-085448_Chrome.jpg
     
  3. นักรบอธรรม

    นักรบอธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +157
    ถ้าอาวุธที่ทรงอานุภาค ที่สุดในความหมายของวัยรุ่น ที่เรียกว่าสุดยอดสุด ๆ ( เจ๋ง) จุงเบย ที่ทรงอนุระเบิดนิวเคลียร์ก็ทำลายไม่ได้ มนุษย์แค่เข้าใกล้ได้สัมผัส ถึงกับระเหย ละลายกันได้เลยทีเดียว อาวุธชนิดนี้ผมเห็นต่างจาก จขกท คับผม
     
  4. นักรบอธรรม

    นักรบอธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +157
    "ความรัก" ครับผม
    อาวุธหลักเลยครับ ผมก็ใช้อาวุธตัวนี้ไปลุยกับทุกสมรภูมิ
    ชนะทุกเวที ทำลายยันขั้วหัวใจละลาย กันเลยครับ
    หักคอลุงเท่งก็ใช้แต่อานุภาพเต็มที่ก็แค่บาดทะยัก
    สภาพเก่าสนิมเยอะสุด ๆ
     
  5. นักรบอธรรม

    นักรบอธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +157
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มกราคม 2022
  6. Hello!world

    Hello!world Just a Game

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    214
    ค่าพลัง:
    +398
    อย่าทำอะไรถ้าใจไม่ปกติ คริคริคริ
     
  7. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    . ความเชื่อสุดโต่งเรื่องหลังความตาย Afterlife มี 2 แบบ

    1. เชื่อว่าตายแล้วสูญไม่มีอะไรอีก

    2. เชื่อว่าตายแล้ว ยังมีโลกหลังความตายต่อไป

    ... ส่วนตัว เป็นแบบที่ 2

    . เกี่ยวกับช่วงความถี่ที่เราสามารถเห็น,ได้ยิน อย่างจำกัดครับ จริงๆร่างกายมันก็แค่เปลือก และร่างก็เป็นเพียงบ้าน,รถ ,รถบ้าน(Motorhome) จิตตัวในคือคนขับ,ผู้อยู่อาศัย



    # จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว

    คงเคยได้ยินคำว่า "อนันต์ภพ" มาบ้างใช่มั้ยครับ มันก็คือ "มิติช่องความถี่" ที่มีเป็นอนันต์ เหมือน FM 65.85 ,AM 36.25 , # FM, AM, SW เปลี่ยนเป็น รหัสประเทศ เลขช่อง เป็น รหัสประชาชน , ของเราๆก็จะเป็น TH เลขช่อง คือ รหัสประชาชน 13หลัก ,ถ้า อเมริกา ก็ U.S. เลขรหัสประชาชน , จีนก็ CN เลขรหัสประชาชน # รหัสช่องความถี่ โลกธาตุใครโลกธาตุมัน คนอื่นๆที่เราเห็น คือตัวแทน,ตัวโคลน,นักการฑูต ที่ตัวจริงเขาอยู่ในโลกธาตุตัวเอง โดยตัวแทนเราก็มีในโลกธาตุคนอื่นๆเช่นกัน , # ร่างตัวแทนมาจากไหน?? เวลาเราอยู่ที่ๆมีแสง แสงกระทบร่างเรา จะเกิดเงาทอดตัวไปตามพื้นตามผนัง ที่ซึ่งเท้าของเงาจะเชื่อมกับเท้าของเรา เงานั้นจะปรากฏเป็นร่างเสมือนเราในโลกธาตุคนอื่นๆก็เช่นกัน เราคือเฟืองอันหนึ่ง คนอื่นๆก็เช่นกัน เงาก็เช่นกัน เงาเราจะอย่างไรกับเขา ขึ้นกับเราขับเฟืองเราอย่างไร จะขับเฟืองเงาอีกที เขาในโลกธาตุเขา ขับเฟืองเขาอย่างไร จะต้านจะร่วมกับเฟืองเงาเราอย่างไร จะเกิดผลอย่างนั้น เขากับเราก็เช่นกัน....

    ... จริงๆในอนันตภพมันมีทุกรูปแบบทุกจินตนาการเลยนะ ทั้งดีและไม่ดี อยู่ที่ใจ ว่าจะไปเชื่อมต่อกับพวกไหน

    และมันจะมีเรื่อง "กรรม" เข้ามาเกี่ยวด้วย (อันนี้สำคัญมากๆ) อย่างการกระทำใดๆ ก็ตาม มันจะเกิดสายกรรมเชื่อมต่อกรรมเป็นเหมือนเส้นด้าย

    ถ้านึกไม่ออก ลองดูในผังการเขียนโปรแกรมฐานข้อมูล ที่มีการทำ LAYER ทางเลือกในผังฐานข้อมูล (สาย LAYER = สายกรรม)

    และระบบคอมพิวเตอร์อัตโนมัติแบบเรื่อง "แมททริกซ์" ประมาณนั้น ซึ่งหากจูนติดสัญญาณช่องความถี่สายกรรม จะสามารถเห็นสายกรรมได้ชัด

    . แต่ละมิติช่องความถี่ (Verse) มันก็มีพวกที่เหมือนกับล่องหนสำหรับ Verse อื่นๆ อยู่เยอะแยะ ที่มันเห็นเรา เราไม่เห็นมัน (ญิน ในอิสลาม #ผี)

    อยู่ที่ว่าสามารถปรับจูนต่อม(อวัยวะขนาดเล็ก)ตัวหนึ่งในสมอง ที่สามารถรับสัญญาณช่องความถี่ใดได้บ้างก็เท่านั้น

    Universe = เอกภพ (มิติช่องความถี่ หนึ่งช่อง # คลื่นความถี่ที่สามารถถูกเห็น/ได้ยิน/สัมผัส ได้)

    Multiverses = พหุภพ/อนันตภพ (มิติช่องความถี่ ที่มีจำนวนช่องเป็น "อนันต์" )

    . #ความเข้าใจของคนในปัจจุบันต่างกับเมื่อก่อนครับ

    . เดิมที "จักรวาล" ในพระพุทธศาสนาหมายถึง "โลกธาตุ" ในทางพุทธใช้เทียบกับวิทยาศาสตร์ว่า "จักรวาล = แกแล๊กซี่" ครับ ส่วน "เอกภพ" ใช้นิยาม SpaceTime อันหมายถึง มิติช่องความถี่ ช่องความถี่หนึ่ง อันประกอบไปด้วย พื้นที่กว้างใหญ่เป็นอนันต์ และมีสารสาระ ควบคู่ไปกับ กาลเวลา

    เหมือช่องทีวีช่องวิทยุ ที่มีช่องเยอะแยะมากมาย และฉาย/ออกอากาศ,ดำเนินไปพร้อมกันในเวลาเดียวกัน เช่น ขณะที่เรากำลังชม ช่อง3,5,7 ในเวลาเดียวกัน BBC,CNN, al-Jazeerah , ช่องท้องถิ่นต่างๆ,เคเบิ้ลท้องถิ่นต่างๆ ,และอีกมากมายทั่วโลกที่เราไม่เคยเห็นไม่เคยได้ยิน/รู้จัก ก็กำลังออกอากาศไปพร้อมกัน โดยมีใจความสาระต่างๆกันไปที่มีหลากหลายช่อง เราต้องปรับจูน หรือ ต้องมีกล่อง/มีจาน (# ที่เฉพาะเท่านั้น) จึงจะสามารถรับชมได้ แน่นอนว่ามันก็ฉายออกทางทีวีเครื่องเดียวกันเราก็สามารถเห็นมัน(ช่องต่างๆ) ผ่านจอเดียวกัน ได้ยินมันผ่านลำโพงเดียวกัน (เมื่อเราเปลี่ยนช่อง)

    . #อยู่ที่ว่าสามารถปรับจูนต่อม(อวัยวะขนาดเล็ก)ตัวหนึ่งในสมองที่สามารถรับ/แปลง สัญญาณช่องความถี่ใดได้บ้างก็เท่านั้น

    ต.ย. ต่อมรับ/แปลงสัญญาณที่ผิดปกติที่ รับ/แปลง สัญญาณช่องอื่นจนทำให้เห็น,ได้ยิน,สัมผัส ได้

    . เช่น ความผิดปกติของต่อมดังกล่าว อาจเพราะสารเคมีผิดปกติ หรือรับสารเคมีที่ส่งผลแก่ต่อม อย่างจากการใช้สารเคมี(ยาเสพย์ติด)ที่ส่งผล

    หรืออย่างการนั่งสมาธิแล้วกำหนดจิต(ตั้งค่าโปรแกรม) ปรับตัวจูนการ รับ/แปลง สัญญาณ หรือที่เรียกกันว่า "ตาทิพย์" ประมาณนี้

    . # สรุปคือ สิ่งมีชีวิตต่างดาวก็ดี สิ่งมีชีวิตต่างมิติก็ดี ล้วนแต่ลงมติเห็นชอบว่า "ต่างคนต่างอยู่" ไม่ควรยุ่งเกี่ยวหรือแทรกแซงกัน โดยมีกฏระเบียบ

    และแต่ละดวงดาวแต่ละมิติ(จักรวาล,อนันตภพ,มิติช่องความถี่) ก็ได้มีเจ้าที่เจ้าทาง(ผีผู้ปกครอง)คอยปกป้องคุ้มครองดูแลลูกหลานอยู่ตลอดเวลา

    (ที่ได้สร้างม่านพลังเหมือนเอากะลามาครอบไว้ เพื่อให้ลูกหลานได้รู้ได้เห็นอย่างจำกัด ตามความเห็นชอบของพวกเขา)

    เมื่อไหร่ที่การพยายามเชื่อมต่อกับกลุ่มอื่นๆ โดยหากมีความเห็นชอบจากผีผู้ปกครอง (Guardians) แล้ว ก็น่าจะติดต่อกันได้(อยู่ในสายตา,ดูแล)

    . ในอิสลามจะมีสอนอยู่เรื่องหนึ่ง "ญิน" ที่มีเรื่องราวความเป็น ไปในทางที่เป็นสิ่งลึกลับ เหมือนเรื่องผี(ทางจิตวิญญาณ) ที่มีการพบเจอในลักษณะ ที่ปรากฏเป็นคนที่เสียชีวิตไปแล้ว(ตามนิยาม ผี ตามความเชื่อของคนไทย)

    . ในส่วนตัวผม ผมจะมองไปทางเชิงวิทยาศาตร์ เช่น ปรโลก คือ มิติควอนตั้ม และผีตามนิยามของคนไทย ที่มีลักษณะแบบญินของอิสลาม

    . ว่าด้วย "ญิน" ทางทัศนะคติผม ญิน คือสิ่งมีชีวิตต่างมิติช่องความถี่ เหมือนอย่างวิทยุ/โทรทัศน์ ที่เป็นเครื่องเดียวกัน/จอเดียวกัน ที่เมื่อผู้ใช้งานทำการเปลี่ยนช่องสัญญาณ จะส่งผลให้เนื้อหาสาระที่ออกมาจากลำโพง/หน้าจอ เปลี่ยนไป อย่างโทรทัศน์ เมื่อเราเปลี่ยนช่อง เนื้อหาที่ปรากฏบนหน้าจอก็เปลี่ยนไป เสียงที่ออกจากลำโพงก็เช่นกัน เปลี่ยนไปตามช่องที่เปลี่ยน หากแต่การปรากฏ ก็คือหน้าจอเดียวกัน/ลำโพงเดียวกัน

    ทีนี้ เมื่อเทียบกับสมองคนเรา หากเราทำการจูนรับสัญญาณช่องความถี่อื่น ที่ปกติจะไม่เชื่อมต่อ/จูนรับสัญญาณ ซึ่งหากเราปรับแต่งให้รับสัญญาณได้ เราก็จะเห็น/ได้ยิน เพิ่มจากปกติ อย่างคลื่นเสียงความถี่ต่ำที่สัตว์บางชนิดใช้ในการสื่อสารกัน ที่ซึ่งมนุษย์เราจะไม่ได้ยินมัน เพราะสมองของมนุษย์ ได้มีการเซตค่า default standard เฉพาะมาแล้วตามสายพันธ์ ที่ไม่สามารถ รับจูน/แปลง สัญญาณความถี่อื่นๆอย่างเสียงความถี่ต่ำได้ โดยธรรมชาติของมนุษย์ๆสามารถรับรู้ความถี่เสียงได้ตั้งแต่ 20 เฮิรตซ์ - 20 กิโลเฮิรตซ์ อันเป็นเสียงจากการพูดคุยของมนุษย์ หรือจากเครื่องดนตรี เป็นต้น ขณะที่สุนัขสามารถได้ยินเสียงความถี่ต่ำกว่า 20 เฮิรตซ์ และที่มากกว่า 20 กิโลเฮิรตซ์ ได้ ซึ่งเป็นความถี่ที่มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถได้ยินหรือรับรู้ได้ #ที่ว่ากันว่าสุนัขเห็น/ได้ยิน ผี

    ในขณะที่มนุษย์กลุ่มหนึ่ง ที่ได้มีการปรับแต่งต่างไปจากปกติ เช่น จากการฝึก(สมาธิ)/ดัดแปลงแก้ไข/เป็นเองจากความผิดปกติ จะมีลักษณะหนึ่ง ที่ทางการแพทย์เรียกว่า กลุ่มอาการ ภาพหลอน,หูแว่ว อันเป็นลักษณะที่สมองได้มีการทำงานต่างจากปกติซึ่งส่งผลให้ เห็น/ได้ยิน ต่างไปจากคนปกติที่มีการกำหนดค่าเป็น default standard ก็เท่านั้น

    . ในส่วนที่ส่งผลการทำงาน/จูนรับสัญญาณ ที่ต่างจากปกตินั้น สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น จากการฝึกสมาธิวิปัสนากรรมฐานต่างๆ,จากอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อการทำงานของสมอง,จากการใช้สารเคมีต่สงๆ(รวมถึงสารเสพย์ติด) และความผิดปกติจากกรรมพันธุ์ รวมถึงการดัดแปลงปรับแต่งค่าการทำงานของสมองโดยเจตนา(เช่นการทดลอง)

    ซึ่งล้วนแล้วส่งผลแก่การทำงานของสมองในลักษณะเกิดการจูนรับช่องสัญญาณต่างๆที่ผิดไปจากค่า default เริ่มต้น ประมาณนั้นครับ

    . ร่างกายเป็นที่เกาะเกี่ยวแก่จิตวิญญาณได้ใช้ ในลักษณะเป็นที่อยู่อาศัย,ยานพาหนะ บ้าน,รถ,รถบ้าน จิตวิญญาณเห็นตนเองมีตัวเป็นคนเป็นมนุษย์ เห็นร่างกายที่ตนใช้เกาะเกี่ยวปรากฏเป็นบ้านเป็นรถ

    . ว่าทางกายภาพ จิตเดิมคือตัว(body)เก่า ขณะใช้ชีวิตอยู่ จะเป็นการคีย์ข้อมูลให้ตัวใน(ตัวจิตในร่าง) เป็นไปตามกรรมตามการกระทำตามพฤติกรรม

    . หากกระทำตนมีพฤติกรรมอย่างเดรัจฉาน กลไกอัตโนมัติ จะคีย์ข้อมูลให้ตัวจิตในร่างกลายเป็นเดรัจฉาน หากมีพฤติกรรมเช่นสัตว์นรก จะเป็นการคีย์ข้อมูลตัวจิตในร่างเป็นสัตว์นรก

    . ที่ซึ่งเมื่อเสียชีวิต ตัวตนเก่าจะเป็นดั่งคราบ(งู,แมลง) เหมือนเสื้อผ้าชุดก่อนที่ถอดออก

    โดยร่างใหม่ จะเป็นไปตามตัวตนที่จริงกว่า โดยจะเป็นไปตามตัวจิตตัวในที่ซึ่งบุคคลนั้นๆได้คีย์ข้อมูลการทรานฟอร์มด้วยตนเอง

    การจะดูว่าใครเป็นเดรัจฉานในร่างคน หรือเปรต,สัตว์นรกในคราบคน คงดูออกได้ไม่ยาก ดูจากพฤติกรรม,การกระทำของบุคคลนั้นๆ ก็พอจะสามารถประเมินคร่าวๆได้

    . # เพื่อนน้อยแต่มีคุณภาพจะพากันเจริญ เพื่อนมากแต่แย่คุณภาพมักจะชวนกันไปตายหมู่

    . เลือกคบคนสักนิด เพื่อชีวิตที่เจริญ

    . จิต คือ USER,PLAYER
    . วิญญาณ คือ DATAs,SKILLs,MEMORIEs,EXPERIENCE
    . จิตวิญญาณ คือการประมวลผล,ตัดสินใจ,วิเคราะห์ โดยอิงกับข้อมูลวิญญาณที่มีทักษะมีความเป็นมีความเข้าใจ
    . เช่น จิตวิญญาณความเป็นครู(มีความเป็นครูอาชีพ),จิตวิญญาณความเป็นทหาร(มีความเป็นทหารอาชีพ) ,,มีความรู้ความสามารถมีทักษะการบริหารจัดในระดับมืออาชีพของนั้นๆชนิดมือโปรที่มีความชำนาญทางด้านนั้นๆ
    . จิตเที่ยง -ไม่แปรเปลี่ยน คงความเป็นตัวตนรูปลักษณ์ของตนเองดั่ง RARE ITEM ดุจดั่งมีเอกลักษณ์ จากการคงเส้นคงวา สะสมบุญวาสนา หมั่นเคลียร์บาปกรรมให้สลาย ขึ้นภพภูมิชั้นฟ้าในรูปลักษณ์ตัวตนของตนเอง มีออร่าเปล่งประกายออกมา ใครเห็นก็รู้สึกถึงความมีเสน่หาน่าหลงใหลน่าคบค้าสมาคม
    . จิตไม่เที่ยง -แปรเปลี่ยนรูปลักษณ์ตัวตน กลายเป็นสัตว์ กลายเป็นจิตตก วิตกวิกลจริต ความเป็นตัวตนเดิมแปรเปลี่ยน,สูญสลายสูญหายไป กลายสภาพเป็นอย่างอื่นที่หากต่ำลงจะสูญเสียความน่าคบหา



    # เพิ่มเติม

    r7jro949t2ZSzq26Y6wo-o.gif

    เทสเซอแรค ที่เหมือนแป้งกวน กวนจนเนื้อเดียวกัน ชนิดที่กด,คั้น,บีบ เนื้อแป้งกวนจากฝั่งหนึ่งให้เคลื่อนแบบกลืนไปอีกฝั่งหนึ่งได้

    ในสิ่งที่เป็นยิ่งเราเคลื่อนไกลจากจุดของตัวเอง เราจะตัวเล็กลง (มิติที่ 5 ,มีกลไกการทับซ้อน) เหมือนสิ่งที่อยู่ไกลๆโดนเราเห็นว่ามันเล็กกว่าเห็นใกล้ๆ

    #มิติที่ 5 มิติทางจิตวิญญาณ (ปรโลก *ปร คือ เล็กจิ๋ว/ควอมตั้ม การรับรู้ต่างกันเพราะกฏฟิสิกส์ต่างกัน)

    ตกลงโลกเรากลมหรือแบน???

    สากลจักรวาล

    แผ่นกระเบื้องหนึ่งแผ่น ยกตัวขึ้นเป็นลูกบอลกลมๆลูกหนึ่ง(โลกธาตุ) มีแกนดาว (ธาตุไฟ) ผิวแตกออกเป็นสิบชิ้น (เป็นดาว10ดวง) แกนของดวงก่อนกลายเป็นดวงอาทิตย์ ,แต่ละดวงแตกออก รุ่นสู่รุ่น จนเป็น แสนล้านชิ้น เป็น 1ระบบ แกแล๊กซี่

    ... สิ่งมีชีวิตในมิติย่อย เดินทางระหว่างดวงดาวด้วยยานอวกาศทรงซิก้าร์ เมื่อขึ้นมิติที่สูงกว่า(ตายโดยมีบุญ) พบว่าตน ลอยออกมาจากท่อมอไซด์ เท่านั้น ... ดาวหลายดวงที่พวกเขาเคยเดินทางไปมา รวมกันเป็นดวงเดียว โดยมีดวงอาทิตย์ของระบบเป็นแกนดาวนั้น ....เหมือนตอนจบของเรื่อง MIB
     
  8. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    "การจับต้องคลื่นความถี่ ถูกออกแบบให้ซับซ้อนกว่านั่น" กรรมจะเป็นตัวกำหนดถึงสิ่งที่จะได้พบได้เจอ
    เช่น การมีบุญมากกว่าบาป = สุทธิมีบุญ
    ชอบอะไร,อยากได้อยากเจออะำร (ที่สุจริต) จะมีโอกาสสมหวังมากขึ้น
    หากสุทธิเป็นบาป ,บาปมากกว่าบุญ
    เกลียดอะไรไม่ชอบอะไร มักมีโอกาสได้พบได้เจอมากขึ้น
    # ยิ่งเกลียดยิ่งเจอ,บุญมีแต่กรรมบัง

    "คุณจะต้องทำให้การค้ำจุลจักรวาลอยู่ในรูปแบบมนุษย์" เท่าที่มนุษย์จะสามารถค้ำจุนจักรวาลได้ มีเพียงการประพฤติตนให้อยู่ในศีลในธรรม
    ...ร่างกายคือโลกธาตุ คือโลก(ธาตุ)คือบ้านคือรถ ,รถบ้าน (Motorhome) จิตที่อยู่ในร่างจะเห็นตัวเองเป็นคน เห็นร่างที่ตนกำลังสิงสถิตอยู่ ปรากฏเป็นดาว,เป็นดินแดน,ป่าเขา,อาณาเขต,ที่พักอาศัย,พาหนะ
    ในร่างแต่ละร่าง คือโลกธาตุ (ระดับจักรวาล) คือช่องความถี่ช่องนึง FM,AM เปลี่ยนใช้เป็นสัญชาติ เช่น TH,US,UK,RS,PS, ฯลฯ ตามด้วยเลขช่อง คือ รหัสประชาชน ....ตามข้างบนเมนต์ก่อน #ขี้เกียจพิมพ์

    พระเจ้ามีหลายทัศนคติ
    พระเจ้าของผม คือ "พระธรรม" (พระ = บริสุทธิ์, ธรรม = ธรรมชาติ) ธรรมชาติ คือ ทุกสิ่งทุกอย่าง โดยมีอธรรม(มารา) เป็นสิ่งที่มีมาพร้อมกับธรรมชาติทุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อเป็นตัวเลือกแก่การเดินทาง เลือกอะไรได้อย่างนั้น
    ...พระเจ้าได้ให้อิสระการเลือกทางเดิน ผู้ที่เลือกเดินเป็นซาตาน,ทางชั่ว,อธรรม,มารา,เปรตา ก็จะกลายเป็นซาตาน,วิญญาณชั่ว

    ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่าง แสงสว่าง,พระธรรม(ะ),อธรรม,มาร,นรก,สวรรค์,ไฟนรก,ความเย็นร่มรื่นสุคติสุขใจ ได้มีมาพร้อมกัน โดยไม่มีจุดเริ่มต้นและไร้ซึ่งจุดสิ้นสุด อยู่ที่เราจะเลือกอะไรจะเดินทางไหนจะเลือกสร้างการกระทำ(กรรม)อะไรใดใด ซึ่งมันมีผลลัพธ์ผลตอบแทนผลกรรมเสมอ
    ....พระเจ้า(แสงสว่าง,พระธรรม(ะ))ได้พลิกวิกฤติเป็นโอกาส พร้อมกับการให้เวลาแก่ผู้เลือกเดิน ได้มีเวลาและได้มีเลือกตัว ที่เลือกได้เองอย่างอิสระ ขณะที่เวลากำลังเคาท์ดาวน์ถอยหลังจนถึงจุดตัดเหตุการณ์(วันพิพากษา) ระหว่างที่ยังมีเวลาเหลืออยู่ พระเจ้าได้ใช้วิกฤติจากการมีซาตานและวิญญาณชั่วอยู่ให้เป็นโอกาส เป็นเครื่องทดสอบมนุษย์ไปในตัว(เป็นตัวเลือก) มนุษย์จะเดินตามพระเจ้าหรือจะเดินตามซาตานวิญญาณชั่ว ก็เลือกเองได้อย่างอิสระ เพียงแต่เมื่อถึงเส้นชัย จะได้รางวัลตอบแทนที่ต่างกันก็แค่นั้น
    ...หยิน/หยาง
    ....ทุกสิ่งทุกอย่าง(ธรรมชาติ) รวมทั้งภพนรก,ภพมนุษย์,ภพสวรรค์ มีมาพร้อมกัน โดยไม่มีจุดเริ่มต้นและไร้ซึ่งจุดสิ้นสุด
    #พระเจ้าผู้ประเสริฐ คือธรรมชาติ ที่มีรัศมี(คือระบบอัตโนมัติ)คือ "กฏฟิสิกส์" ,ฟิสิกส์ แปลว่า ธรรมชาติ กฏฟิสิกส์พื้นฐาน f<=f> # แรงซ้าย=แรงขวา *แรงกรรม
    ถอดได้ว่า "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง"

    #...พระเจ้าในความเชื่อว่าคือ ชายแก่ลงพุงเคราขาวเฟิ้ม แท้จริงคือ โปรเฟสเซอร์
    เทวดาที่มีดินแดนของตนเอง (เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าเมือง ของดินแดน,อาณาเขต,อาณาจักร)
    ของวิเศษของโดเรม่อน เทคโนโลยีศตวรรษที่ 21
    #เทคโนโลยีล้ำยุคล้ำสมัยสำหรับปัจจุบัน "ชุดจำลองการสร้างโลก/จักรวาล ของโดเรม่อน" ผู้ที่มีเทคฯ/ใช้เทคฯ ดังกล่าวในพื้นที่ส่วนบุคคลของตนเอง สามารถที่จะมีดินแดนเป็นของตนเองได้ครับ
    !!! หากแต่จะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 25ปีบริบูรณ์ และต้องสอบเพื่อขอใบอนุญาติให้มีให้ใช้ เหมือนรถเหมือนปืน เพราะหากวุฒิภาวะไม่เพียงพอ จะกลายสภาพเป็นซาตานเป็นวิญญาณชั่วได้ง่ายเลยทีเดียวเชียว -_-"


    #หากเราปล่อยให้กิเลส(ชัยฏอน(ใจตนที่ใฝ่ต่ำ)/หยิน)ครอบงำ แล้วพลั้งเผลอกระทำผิด มันจะส่งผลให้เกิดตะกอน(บาป)กรรมสะสมในดวงจิต
    หากเทียบกัน ดวงจิตเป็นเสมือนบอลลูน หากมีตะกอน(บาป)กรรมมาก =มีตัวถ่วงน้ำหนักมาก บอลลูนจะเคลื่อนลงต่ำ
    *สมมติเคลื่อนลงหน้าผา/เหว(Hell) ต่างกัน จิตจะเคลื่อนลงภพใต้ชั้นดิน(นรกภูมิ/อบายภูมิ) ซึ่งเมื่อเคลื่อนลงใต้ชั้นดิน จะส่งผลให้พบเจอสิ่งไม่ดีเข้ามาสู่ชีวิตมากขึ้น มีแต่เรื่องเครียดๆไม่เจริญหูไม่เจริญตา เสียสุขภาพกายเสียสุขภาพ ชีวิตจะมีแต่สิ่งเร้าแย่ๆ(ปัญหาต่างๆ)ถาถมเข้ามา แต่นั่นก็เป็นระบบอัตโนมัติของธรรม(ะ)ชาติ เพื่อสกัดตะกอน(บาป)กรรมของผู้นั้นๆ (หากเสียชีวิตขณะนั้น จิตวิญญาณผู้นั้น ก็จะเคลื่อนเข้าสู่อบายภูมิอย่างเต็มตัว เพื่อชดใช้(บาป)กรรม)
    ....หากมีบุญ มักได้เจอสิ่งที่ใช้ที่ชอบ(ที่เป็นสิ่งสุจริต) หากมีบาปสุทธิ(บาปมากกว่าบุญ เอาบุญล้างบาปจนบุญหมด เหลือแต่บาป) เกลียดอะไรยิ่งเกลียดยิ่งเจอ

    หากชำระจิตใจบ่อยๆ เช่น สำนึกผิดอย่างจริงใจละอายในบาป มันก็สามารถสกัดตะกอน(บาป)กรรมออกไปจากจิตได้พอสมควร จิตก็จะลอยขึ้นสูง อย่างบอลลูนที่เอาส่วนถ่วงน้ำหนักออกไป
    # สำนึกอย่างจริงใจ บ่อยๆ = น้ำยางสดมากกิโล(ปริมาณมาก) จริงใจมาก = ความเข้มข้น % น้ำยางสูง. น้ำยางสดยิ่งน้ำหนักกิโลมาก เข้มข้น %สูง ยิ่งราคาดี (ปริมาณน้ำยาง × %เข้มข้น) × ราคาต่อกิโล

    - สำหรับผู้ที่ไม่เลือก(เชื่อ)ศาสนาก็จะได้แคลนสายวิทยศาสตร์ ซึ่งธรรมชาติจะปรับสมดุลพลังงานบวก-ลบที่เจ้าตัวสะสมไว้ #หยินหยาง f<=f> #กฏฟิสิกส์พื้นฐานเรื่องแรง ถอดความได้ว่า "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง" เช่น ได้ตกอยู่ในสภาวะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โรคระบาด ปรากฏการณ์ต่างๆ ได้ทุกรูปแบบทุกจินตนาการ ผีดิบซอมบี้ระบาด เอเลี่ยนบุก สงครามต่างๆ มีสิทธิได้เจอหมด(ตามแต่ความเชื่อของใครของมัน)
    *ตามกฏแรงดึงดูด *โลกธาตุ/มิติช่องความถี่ต่างๆ/โลกมายาต่างๆ มีเยอะแยะ (Multiverse/อนันตภพ)
    สุดแล้วแต่กรรม ถ้าสามัญๆธรรมดาๆ ก็อาจแจคพอร์ตแค่ประสบ ภัยพิบัติ/ภัยธรรมชาติ/อุบัติเหตุ หรือโรคระบาดทั่วไปกับตนเอง แต่ผู้ไม่เชื่อศาสนาและไม่เคารพธรรมชาติ ก็มักปลอบใจตัวเองประมาณว่ามันเพราะ "ความบังเอิญ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2022
  9. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    ..ความเชื่อคือสิ่งที่เชื่อ,สิ่งที่หวัง,อยากให้มันจะเป็นอย่างนั้น
    ความจริง คือ สิ่งที่มันเป็นไปตามที่มันเป็น
    อย่างเช่นกฏแห่งกรรม อาจเป็นสิ่งที่คนเรายังพิสูจน์ได้ไม่แน่ชัด เหมือนมันเป็นนามธรรม
    หากแต่ ที่เป็นรูปธรรม ก็มีให้เห็น เช่น กฏฟิสิกส์ ฟิสิกส์ แปลว่า ธรรมชาติ กฏฟิสิกส์พื้นฐาน เช่น f<=f> f:force (แรง) แรงซ้าย=แรงขวา #แรงกรรม ถอดได้ว่า "กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง"
    .. การส่งผ่านแรงสะท้อนกลับ มีสิ่งกีดขวางบ้าง บ้างก็มีหลายปัจจัยขวางกั้น รองรับซับแรงสะท้อนกลับให้เบาลง เช่น ทำบาปชั่วร้าย แต่ได้ผลสะท้อนกลับที่รู้สึกว่าไม่มากเท่าสิ่งที่ได้กระทำชั่ว นั่นเพราะมีบุญ,บารมี จากการกระทำอื่นๆเป็นเกราะรองรับดูดซับแรงสะท้อนไว้
    ..บางกรณี ก็มีผู้จองเวร ระงับ(ชั่วคราว)และดูดแรงกรรมเราไปเก็บสะสมไว้กับตน(ตามความสามารถ) เพื่อรอวันจังหวะที่โอกาสเหมาะสมปล่อยแรงสะท้อนสะสมที่มากมากระหน่ำใส่เรา เพื่อการโจมตีที่รุนแรง(มุ่งเน้นให้เป้าหมายสาหัส,ถึงตาย) แม้อาจต้องแลกกับรับผลเสียวิบากกรรมกัดกินตนเพราะดูดสะสมแรงกรรมของผู้อื่นเข้าตัว ก็มีเช่นกัน
    หรือบารมี(คนที่รักเรา) พลีสละส่วนตัว กระโดดรับกระสุนแทนคนที่รักโดยคนที่รักไม่รู้ตัว บ้างคนที่รักมองไม่เห็นสิ่งที่กำลังเกิด เพราะไร้ความสามารถที่หยั่งรู้ถึงได้(เช่นมีแต่ตาเนื้อไม่มีตาทิพย์หรือตาใน,อีกส่วนหนึ่งของผลพวงที่บรรพบุรุษครอบกะลาอำพราง เพื่อปกป้องลูกหลานให้ปลอดภัย,ให้รู้เห็นอย่างจำกัดเพื่อลดความวุ่นวาย) แต่เมื่อกรรมถึงพร้อม จะได้รู้แน่ชัดอย่างแน่นอน
    ..รวมถึงคนบางจำพวก บุญมีแต่กรรมเก่าบัง จึงทำให้เหมือนเป็นจำพวกที่สอนไม่ได้ เช่นปิดกั้นโอกาสตัวเอง,อีโก้สูง ขณะที่คนอื่นๆที่ใจกว้างพอรับได้ ได้พัฒนาตนเองจนไปไกลกว่า ทั้งๆที่เวลาก็มีเท่ากัน บ่อยครั้งการมั่นใจเกินไปก็ทำให้ถดถอยได้ง่ายๆ มั่นใจ 100% คือ ประมาท 100%
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มีนาคม 2022
  10. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    นอกจากเหตุ แล้ว เหตุอื่นๆ ที่เป็นปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ย่อมส่งต่อผลที่จะเกิดด้วย
    เช่น เหตุจะปลูกมะม่วง หากไม่ลงมือทำ ก็จะไม่มีต้นมะม่วงที่ตนปลูก หรือ ปลูกอะไร ได้อย่างนั้น หากอีกเหตุนึง คือปลูกผิดที่ผิดเวลา ผล จะปลูกไม่ขึ้น,ปลูกขึ้นแต่ไม่โต
    ปลูกอะไรก็ได้ แต่ควรปลูกให้เป็นด้วย เช่น ขับรถได้ กับขับรถเป็น นั้นต่างกัน
    ..ขับรถได้ แค่สตาร์ทใส่เกียร์เหยียบคันเร่ง ก็ทำให้รถเคลื่อนได้ นี้ขับได้
    ...ขับรถเป็น นอกจากขับใส่เกียร์เหยียบเบรคเหยียบคันเร่ง ควบคุมหมุนพวงมาลัยให้รถเลี้ยวอย่สงชำนาญได้ ต้องรู้กฏกติกาการใช้รถใช้ถนน รู้จังหวะไหนควรชิดซ้าย,ให้ทาง จังหวะไหนควรเร่งเพื่อแซง รู้ว่าตรงไหนจอดได้ไม่ได้หรือไม่ควรจอดแบบดับเครื่อง ขับอย่างมีน้ำใจ นี้เรียก ขับเป็น
    ..ทุกสิ่งทุกอย่าง (ธรรมชาติ,ทั้งหมด) มีเป็นระดับอนันต์ ต่างมีส่วนได้ส่วนเสีย มากบ้างน้อยบ้างร่วมกัน , Butterfly Effect ผีเสื้อตัวนึงขยับปีกผิดจังหวะเพียงทีเดียว สามารถส่งผลให้เกิดทอร์นาโดได้ , หมุดตอกเรือหลวมแล้วหลุดเพียงตัวเดียว เรือทั้งลำมีสิทธิล่มจมได้ง่ายๆ
    อย่าคิดเล็กคิดน้อยมากนั้น เป็นคำกล่าวที่ไม่ถูกนัก เพราะ เรื่องเล็กเรื่องน้อย สามารถส่งผลใหญ่หลวงได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรพอดีๆ รู้จักพอประมาณ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2022
  11. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    หากเจ็บแล้วจำคือคน เจ็บแล้วทนคือควายจะใช้ได้กับทุกกรณี
    หากแต่เด็กไม่มีประสบการณ์ไม่ประสีประสาไม่รู้ความมันพลาดถูกล่อลวงไปครั้งแรกครั้งเดียว โดนพวกคุณกักขังในโรงงานนรก โดนทรมานบังคับให้ทำงานทั้งวัน ทานข้าวคลุกน้ำปลาวันละครึ่งจาน เจ็บแล้วต้องทนเพราะเด็กเล็กถูกกังขังหน่วงเหนี่ยวถูกผู้ใหญ่อย่างคุณที่แข็งแรงกว่าพร้อมอาวุธครบมือ บีบบังคับ จนเด็กเจ็บแต่ต้องทน คุณคงจะเรียกพวกเขาว่าควายด้วย ใช่หรือไม่
    บางกรณี ใจดี ไม่ได้มีความหมาย เพราะคนรับน้ำใจมองผู้เอื้อให้ว่า "โง่" ซ้ำผู้รับน้ำใจ ไร้จิตสำนึก สะกดรอยตามผู้เอื้อไปถึงบ้าน แล้วชักอาวุธข่มขู่พร้อมกับยกเค้าเอาทรัพย์สินเขา ทำร้ายลูกเมียเขาจนปางตาย หากแต่เขา ยังคงใจดีกับผู้อื่นต่อไป เพราะเขามีน้ำใจ ใจดี โดยสันดาน โดยสามัญสำนึกของความเป็นคนปกติ คุณคงมองว่าเขาเจ็บแล้วทนคือ "ควาย" ด้วยใช่หรือไม่ ??
    หากแต่เปรต,สัตว์นรกในคราบคน จะมองว่าเขาสันดานโง่เป็นแค่ควายเชื่องๆตัวหนึ่ง พร้อมกับจ้องจะเอาเขาเป็นเหยื่อที่เสือคอยจ้องจะตลบจะตะครุบเขาอยู่เสมอ แต่..จงระวังไว้นะเสือ ประโยคเหยื่อจ๋า เสือกลับมาแล้ว ไม่สามารถใช้ได้ทุกครั้ง เสือที่ไร้ความสามารถจะหยั่งรู้ถึง ว่าเสือกำลังจะเป็นเหยื่อแก่ที่สิ่งเสือมองว่าเป็นเหยื่อของเสือ เพราะเหยื่อมันกลายเป็น THE THING ไปเสียแล้ว (รู้จักไหม? ถ้าไม่ก็ลองอากู๋ดู) ...
    ...บางครั้ง คนเราก็ควรเจ็บแล้วทนบ้าง เพื่อจะได้รู้ รู้แล้วจะได้จำ ไม่ใช่คุณสายธาร11 ที่เกิดมาแล้วฉลาดปราดเปรื่องรู้ไปสะทุกสิ่งทุกอย่าง คนส่วนใหญ่ก่อนจะรู้ก่อนจะฉลาด ต่างก็โง่ต่างก็ต้องทนเพื่อเรียนรู้กันก่อน เรียนรู้แล้วจึงจะจำ หากไม่รู้ชัดจำไม่แม่นก็ต้องทนเรียนเขียนอ่านเพื่อให้จำ ถ้าจะมีเป็นพิเศษคงมีแต่อัจริยะเกิดมาดีแต่มีน้อย ที่เก่งมาแต่เกิด เด็ก ป.2 ทั่วไป เขียนศัพท์เขียนไทยคิดเลขคณิตท่องสูตรคูณ ต้องทนเรียนทนฝึก ครูก็ตีเวลาตอบผิด ต้องเจ็บใจแต่ก็ต้องทน นี่คือที่ที่คุณนิยามว่า "ควาย" แม้จะมีบ้าง(มีน้อย) ที่อัจฉริยะเรียนเก่ง IQ สูงแต่เกิด คิดเลขคล่องจำสูตรคูณได้ไว เขียนไทยเขียนศัพท์อังกกฤษพร้อมคำแปลได้แม่นจนตอบไม่ค่อยผิด นี้คือ "คน" ในนิยามคุณ?? สำหรับผมความเป็นคนไม่ได้วัดที่เจ็บแล้วจำหรือทน แต่วัดกันที่จิตใจ,สามัญสำนึก,ศีลธรรม คุณความดี(สุจริต) เท่านั้น ที่เห็นฉลาดๆแต่แกมโกงเยอะ ชอบเอาเปรียบเบียดเบียนอยากมีอยากได้ของของคนอื่นมีให้เห็นเยอะแยะ ซึ่งแลดูยังไงๆก็คงเป็น เปรต,สัตว์นรกในคราบคนเสียมากกว่า หมาที่รักเจ้าของซืาอสัตย์ต่อเจ้าของ กล้าที่จะโดดรับกระสุนแทน เพื่อปกป้องเจ้าของมันยังมีศักดิ์ศรีเยอะกว่าสัตว์นรก,เปรตในคราบคนเยอะ อย่างเทียบไม่ได้เลย (ห่างกันแบบไม่เห็นฝุ่นฝุดๆ) จริงมิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2022
  12. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    การพบจิตแพทย์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย อย่าไปกลัวว่าจะโดนคนอื่นมองว่าเป็นบ้า เวลาเครียดๆผมมักจะไปปรึกษาจิตแพทย์(มีจิตแพทย์ประจำตัว ,ปรึกษาผ่านไลน์ก็ได้) เวลาไปหมอก็จะถามๆอาการ ปรึกษาปรับทุกข์ได้ หรือขอยาที่จำเป็นงี้ หมอสามารถที่จะจ่ายยาปรับสารสื่อประสาท เช่น อาการประจำของผม คือสารสื่อประสาทไม่สมดุล บางช่วงก็มีโดปามีนมากไป บางช่วงก็เซโรโทนินน้อยเกิน เหตุจากภาวะเครียดสะสม
    ...คนสมัยนี้โดยเฉพาะวัยรุ่น มักมีอาการโดยไม่รู้ตัว/ไม่ทันตั้งตัว โดยเฉพาะที่มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมบางกรณีอย่าง ใช้/รับ สารเคมีในประจำวัน เช่นจาก การใช้กระท่อม,กัญชา,ยาต่างๆ ซึ่งมันส่งผลต่อการหลั่งสารสื่อประสาทในสมอง อาการที่ปรากฏ เช่น ซึมเศร้า เหม่อลอย เบื่ออาหาร ฟุ้งซ่าน หนักเข้าถึงคิดฆ่าตัวตายก็มี ดังที่เห็นกันในข่าวที่ผู้ป่วยซึมเศร้ายิงตัวตาย,ผูกคอ,โดดตึก หากมีอาการเหล่านี้อย่าปล่อยไว้ และอย่าอายว่าจะถูกคนอื่นมองว่าบ้า อันเป็นเหตุผลหลักที่คนไทยนิยมใช้เป็นข้ออ้างในการเลี่ยงพบจิตแพทย์ -_-"
    ......
    #1 ... อย่าว่าแต่ผู้ป่วยเลย หมอด้านจิตเวช(จิตแพทย์) ที่เจอผู้ป่วยจิตเภทในโรงบาลมาทั้งวัน จนหมอเองก็เครียด ทั้งยังมักปรึกษาจิตแพทย์ด้วยกัน เพื่อฟื้นฟูสุขภาพจิตของตนเองเลย
    ......
    #2 ... " บ้า" ความหมายคือ คลั่งไคล้มากๆ บ้ารถ ก็คลั่งไคล้เรื่องรถ ,บ้าแฟชั่น ก็คลั่งไคล้แฟชั่น ส่วนนิยามว่าบ้าที่เรามักใช้ๆกัน ที่ถูกคือ จิตเภท คือมีอาการป่วยทางจิตประสาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2022
  13. เค็นชิโร่

    เค็นชิโร่ Set zero

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2021
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +62
    images (3).jpeg

    แม้วิบากกรรมจะส่งผลให้เราได้เจอ...
    คน หรือ เหตุการณ์ต่างๆ
    ....แบบโชคชะตาจงใจก็ตาม
    แต่เรามี Freewheel...
    ความอิสระในการกระทำกับสิ่งนั้นได้เสมอ
    เหมือนกับว่า...
    วิบากเก่า...ก็ไม่อาจบีบคั้นให้ต้อง
    ....ลงเอยแบบนั้นเสมอไป
    เราเลือกสร้างกรรมใหม่ได้....
    ....เส้นทาง มีมากกว่าหนึ่งเสมอ
    และเป็นไปกับทุกเหตุการณ์ในชีวิต

    ...เพราะงั้นการกระทำในปัจจุบัน
    จึงเป็นตัวกำหนด....หนทางในอนาคต
    แม้วิบากเก่าที่จะเจอนั้นเลี่ยงไม่ได้....
    ...แต่วิบากใหม่ที่จะเกิดในอนาคต
    ...เราสร้างได้ด้วยสิ่งที่เราทำในปัจจุบัน
    เพราะเรามี Freewheel
    ....อิสระในการตัดสินใจเสมอฮับ

    ...............
     
  14. นักรบอธรรม

    นักรบอธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2016
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +157
    การคิด หรือ การกระทำด้วยวิธีการเดิม ๆ
    แต่ต้องการให้ผลลัพธ์เปลี่ยน....อันนี้ บ้า ตัวจริงคับเพ่
     
  15. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    จริงๆผลลัพธ์จะออกมาแบบใด มันขึ้นกับปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องด้วยนะ อย่างเราคิดเดิมๆ วิธีการเดิมๆ แต่ปัจจัยสำคัญอันอื่นมันต่างกัน ผลลัพธ์สามารถต่างกันได้ หากต้องการให้ผลลัพธ์เปลี่ยนทั้งๆที่วิธีคิดดเดิมๆ การกระทำด้วยวิธีเดิมๆ ถ้าปัจจัยสำคัญตัวอื่นๆเปลี่ยน ผลลัพธ์จะเปลี่ยนไปได้เช่นกัน อันนี้อยู่ที่ปัจจัยอื่นๆที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าตัวแปรต่างๆ ตัวบุคคล แวดล้อม เหตุการณ์/สถานการณ์ มีผลต่อผลลัพธ์หมด
     
  16. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    การยึดติดใดๆจนเกินไป ย่อมไม่เป็นผลดี
    โดยปกติของผม คือยึดติดอย่างกลางๆไม่หย่อนไม่ตึง เอาเพียงพอดี (บางกรณีที่ควรตึงก็ตึงบ้าง บางกรณีที่ควรหย่อนก็หย่อนหน่อย) กับชอบทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้วเพื่อเปิดพร้อมรับสิ่งใหม่ๆอย่างสม่ำเสมอ และพร้อมที่จะปรับตัว เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ดีกว่า
    ปัจจัยสำคัญคือตัวเองจริง
    # เปลี่ยนความคิด = เปลี่ยนชีวิต
    ความคิดเปลี่ยน ชีวิตก็เปลี่ยน
    แต่อย่ารอช้าจน ชีวิติเปลี่ยน แล้วค่อยเปลี่ยนความคิด เวลามันไม่รอท่า หากช้าเกิน มันอาจจะสายไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2022
  17. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    คนเราก่อนที่จะรู้ ย่อมไม่รู้มาก่อน แล้วเริ่มลองผิดลองถูกจนรู้ รู้แล้วจด,จำ แล้วส่งต่อรุ่นสู่รุ่น อย่างที่โรงเรียนต่างๆทำอยู่ อย่างน้อยๆก็ลดเวลาที่รุ่นหลังๆอาจต้องไปลองผิดลองถูกเอง โดยผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มาก่อน(อาบน้ำร้อนมาก่อน) ได้สอนสิ่งที่รุ่นก่อนๆลองผิดลองถูกจนได้ผลลัพธ์แล้วมาบอกต่อสอนต่อ
    ...
    ความไม่รู้ก็คือ "อวิชชา" เมื่อรู้แล้วที่รู้จะกลายเป็น "วิชชา" สร้างเสริม "ปัญญา" (ความรู้สุจริตใช้ในทางสุจริต)
    คนเราต้องโง่กันมาก่อน ไม่มีใครฉลาดมาแต่เกิด(แต่อนาคตไม่แน่อาจมีพันธุวิศวกรรม,เทคโนโลยีมาเกี่ยวข้อง)
    ไม่มีใครฉลาดอย่างแท้จริง
    ...
    ผมก็ไม่ได้ฉลาด ไม่ได้รู้ไปสะทุกเรื่อง และก็โง่มาแต่ไหนแต่ไร แต่ก็พยายามโง่ให้น้อยลงให้บ่อยๆ คนเราควรจะเจ็บแล้วจำ แต่บางครั้งอาจเสียสละเจ็บแล้วทน เพื่อ "อดเปรี้ยวไว้กินหวาน" ก็ได้เช่นกัน การจะปลูกอะไร กว่าจะเป็นผล ต้องใส่ใจสม่ำเสมอต้องดูแลอย่างอดทน อาจจะต้องตากแดดอาบฝน เสียสละอดทนเพื่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่า
    แม้ว่าอาจจะโดนคนอื่นมองว่าโง่มองว่าควาย แต่ หากผลลัพธ์มันคุ้มค่า มันก็คือ "คุ้มค่า"
    ...
    คนอื่นๆใครหลายๆคน มักมองคนที่อดทน,คนที่ทำความดี,คนที่มีน้ำใจ ว่าเป็นคนโง่ (เหมือนคำกล่าว เป็นคนดีไป เขาไม่ได้มองว่าเป็นคนดี แต่เขาจะมองว่าเป็นคนโง่ #คนเลวกล่าวไว้) หากแต่คนที่มองคนเรานั้นว่าโง่ กลับเป็นคนไม่ดี,คนเลวนิสัยแย่ ไม่เห็นคุณค่าในความดี และไร้น้ำใจ เป็นจำพวกใจดำ ที่เห็นใครมีน้ำใจ,ใจดีหน่อยเป็นต้องมองว่าเป็นคนโง่เป็นเหยื่อของตนไปเสียหมด จ้องแต่จะเข้าไปเอารัดเอาเปรียบเบียดเบียนพวกเขา มองว่า "คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด" มั่นใจทนงตนว่าตนฉลาดตนอยู่เหนือคนมีน้ำใจที่ตนมองว่าเป็นคนโง่ไปเสียหมด
    ...
    ท้ายสุด มีกรณีคนที่ชอบมองว่าตนฉลาดกว่าคนอื่นกลับกลายเป็นคนจำพวกอาชญากร,มิจฉาชีพ คนโง่ๆทั่วไปเจ็บแล้วก็จำได้เช่นกัน คนส่วนใหญ่ก็มักพยายามโง่ให้น้อยลง เพราะเจ็บแล้วจำ สุดท้ายคนที่มองว่าตนฉลาดก็จะหาเหยื่อใหม่ไปเรื่อยๆ เพราะเหยื่อเก่าๆเริ่มเจ็บแล้วจำและเริ่มหลีกห่างคนฉลาดไปเรื่อยๆๆๆทีละราย
    ...
    แต่ที่แน่ๆ คน(ที่มองว่าตน)ฉลาด อาจกลับกลายเป็นคนที่คบไม่ได้, ไม่น่าคบหา เป็นคนใจดำชอบเอาเปรียบคนมีน้ำใจ และอาจจะลืมสังเกตุรอบข้าง ว่าคนอื่นๆที่อยู่รอบๆรู้เห็นพฤติกรรมของตนอย่างชัดเจนมาโดยตลอด
    และเมื่อคนรอบๆรักษาน้ำใจแก่ตน โดยไม่พูดตรงๆ ไม่ให้รับรู้ว่ารู้เห็น(ปิดบัง) อาจเพราะถนอมน้ำใจ และเลือกที่จะปลีกตัวออกห่างคนฉลาดอย่างเงียบๆ ท้ายสุดจะเป็นอย่างไร?? คง + - × ÷ ได้ไม่ยากนัก
    ...
    ดังนั้น จึงไม่ควรมอง,ตัดสินแค่ด้านเดียว การจะตัดสินใดใด ผู้ตัดสิน ควรจะรู้ ข้อมูลปัจจัยสำคัญอื่นๆ เช่นการแยกแยะให้ออก ว่ามีน้ำใจ,ใจดี,ใจกว้าง นั้น ต่างจากโง่ แยกแยะให้ออก ว่า ฉลาดหรือเลว(ใจดำชอบเอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น) หากตีความแยกแยะไม่ได้แยกแยะไม่ออก แล้วด่วนตัดสิน จะมีสิทธิตัดสินผิดพลาดได้สูง แล้วจะกลายเป็นผู้ถูกตัดสินเสียเองได้ง่ายๆด้วยเช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มีนาคม 2022
  18. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    เมื่อแต่ละคน มีช่องมิติช่องความถี่เป็นของตนเอง
    เปลี่ยนช่วงคลื่น FM,AM,SW เป็น รหัสประเทศ TH,US,UK,JP,FR แล้วใช้ รหัสปชช. เป็นเลขช่อง
    ต่างคนต่างมีโลกธาตุ,กรรม เป็นของตนเอง
    คนต่างๆเมื่ออยู่กลางที่ที่มีแสง แสงกระทบร่างจนเกิดเงาดำๆ ทอดตัวไปตามพื้นตามผนัง โดยเท้าของเงาเชื่อมกับเท้าต้นแบบ เงาเหล่านั้นล้วนแต่ปรากฏเป็นร่างเสมือนของร่างต้นแบบในมิติช่องความถี่คนอื่นๆ ในโลกของตัวเอง ใครทำอะไรกับเงาร่างเสมือนของคนอื่น ท้ายสุดแรงกรรมจะสะท้อนกลับสู่ตน....... พอจะตีความออกไหม???
     
  19. ตัวแทนหมู่3

    ตัวแทนหมู่3 ตัวแทนหมู่บ้าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +3
    ดีฮับ... แล้วจะให้คิดแทนใครได้ละฮับ
     
  20. ตัวแทนหมู่3

    ตัวแทนหมู่3 ตัวแทนหมู่บ้าน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +3
    เพราะปัญญาประดิษฐ์มีความสามารถคล้ายมนุษย์หรือเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ โดยเฉพาะความสามารถในการคิดแทนมนุษย์ได้ ฮับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...