เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ล็อกเก็ตเจริญสุข ๒๕๕๖
    ล็อกเก็ต เหรียญรุ่นเจริญสุข ทำพร้อมกัน เสกข้ามปี จาก ๒๕๕๖ มา ๒๕๕๗
    มาเป็นคู่ หลังผง และ ทาทองน่ะครับ มีแผ่นโค็ดเงิน จัดเป็นล็อกเก็ตยุคแรกๆของท่าน เมื่อมาอยู่วิชัยยุทธ ท่านมาอยู่วิชัยยุทธในปี ๒๕๕๓ มาเริ่มอนุญาตให้ทำวัตถุมงคลพวกเบี้ยแก้ ที่มีอภินิหารมาก เดินได้ เต้นได้ เป็นที่ต้องการของศิาญ์มาก แม้จะทำมาหลายรุ่น หลายครธก้ไม่พอต่อความต้องการ ยุคแรก ก็ประมาณ ๒๕๕๔ , ๒๕๕๕ ครับ ในยุคนั้น ที่ทำมากันเป็นหลัก จะเป็นคณะ อาจารย์ ก่อ แม่กลอง สายศิษย์พระครูมานิตย์ครับ
    โค็ด ทำลายหมดแล้วครับ ไม่มีอวตาร ลงเพื่อเผยแพร่ ล็อกเก็ตยุคแรกๆครับ มีผงวิเศษหลายชนิดและเส้นเกศาหลวงปู่ครับ
    เพิ่มเติม
    รุ่นนี้จะมีหลายเด้ง ทำก่อนในปี ๒๕๕๕ เสกปี ๒๕๕๖ และทุกคนที่มีแบ่ง เอามาเสกอีกที กับ รุ่นเหรียญเจริญสุข เสก ๔๖ วันข้ามปี จาก ปี ๒๕๕๗ ไปจนถึง ๒๕๕๘ ...... เพราะท่านเสกนานที่สุด บรรดาศิษย์ นิมนต์ท่านเป็นระยะ อัดทุกวิชาเก่าๆที่ท่านสำเร็จ ไม่ให้สูญหาย เช่นวิชานิ้วเพชร วิชาน้ำมนต์รักษาโรค วิชาโสฬส จะได้อยู่ช่วยศิษย์ น่าจะทำเยอะที่สุดด้วยหลายร้อยอัน ทำให้แพร่หลายออกไปมากกว่ารุ่นอื่นน่ะครับ แต่ดูๆในเว็บก็ยังหายากอยู่ น่าจะใช้บูชากันเองส่วนใหญ่ ครับ
    ผู้ร่วมกันสร้างยังอยู่หลายท่าน สอบถามข้อมูลกันได้น่ะครับ ว่าจริงตามนั้นไหม

    20130829_150952.jpg 20130829_170045.jpg 20130829_150810 (2).jpg เปิดดูไฟล์ 5816210 20130829_150843.jpg ลป เล็ก๑.JPG ลป เล็ก๑๑.JPG

    IMG_2777 (2).JPG IMG_2778 (2).JPG
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ตัวตัดในเหรียญยุคปัจจุบัน
    ย้อนไปหลายสิบปี เป็นหลายสิบปีเหมือนกันน่ะครับ ยุคที่เหรียญเริ่มดัง ใครก็สร้างแต่เหรียญ ง่ายดี ขายไว น่าจะประมาณ ๒๕๑x ยุคที่ไม่ใช่เหรียญโบราณแบบขอบเลื่อยเอาด้วยใบเลื่อย เป็นยุคปั้ม ตัดด้วยตัวตัด
    ผมไปค้นเจอคลิ้บ กลุ่มพี่ๆท่านหนึ่ง กลุ่มสันขวาน ทำคลิ้บไปได้ชัดเจนมาก สงสัยพี่เขาน่าจะเป็นช่างแขนงใดแขนงหนึ่ง ตรงประเด็นมาก กว่าคลิ้บท่านอื่น ซึ่งเป็นพระเหรียญ เซียนๆเหรียญท่านจะมาเน้นที่ตัวเหรียญ
    แต่ไม่เน้นย้ำ ขบวนการผลิตที่โรงงานแท้ๆ ซึ่งต้องมีคลิ้บจริงๆตอนออกไปโรงงานทำเหรียญ ที่รู้จักกัน ขอเขาดูงานจริงตามขั้นตอน จะได้ทราบขั้น เครื่องมือ และขั้นตอนในการทำเหรียญ
    อีกคลิ้บก็ ของ เฮีย ก. ก็ได้ความรู้ดีครับ คนเล่นเหรียญน่าจะชมไว้ เหรียญมีสองด้านเสมอ และ ยังมีขอบอีก เพราะฉนั้นอย่าฟังใครกลุ่มเดียว
    เรื่อง ตัวตัด และ ตัวเหยียบ ท่านใดไม่เคยเห็นเขาทำเหรียญจากโรงงาน ดูให้จบจะเข้าใจและพี่เขายังแนะวิธีถอดพิมพ์เหรียญด้วยซิลิโคนด้วย คนที่เล่นเหรียญมาต้องโดนเหรียญถอดพิมพ์กันบ้างแหละ ในกลุ่มพวกเหรียญบวม ถอดพิมพ์ออกมาขายกัน มีตัวตัดทำขึ้นมาใหม่เสร็จ แล้วแต่ฝีมือคนถอด
    พี่กลุ่มสันขวานเขามีทฤษฎี เส้นรอบวงด้วย อันนี้ผมว่าใช่เลย เป็นการมองแบบช่างแท้ๆ ตัวตัดแม้จะปาดหน้าไปกี่ที ถ้าตัวตัดเดียวกัน เล่นรอบวงก็ต้องเหมือนกัน ตัวตัดกระบอกมันบวมยาก
    และทฤษฎีตัวเหยียบ บางทีตัวเหยียบที่มีร่องรอย วงเดือน หรือ เขย่ง ขะเยื้อน ตอนเขากลึง เขาตัดมา ตัวเหยียบนี่ เปลี่ยนยากเพราะทนทานกว่า เอาร่องรอยตัวเหยียบมาตีเก๊ แท้ ยัง ชัดเจน น่าสนใจกว่าตัวตัดอีกครับ ถึงจะเหยียบไปเยอะๆ อาจจะมีรอยแตก อะไรบ้าง แต่เป็นตัวเดียวกัน ตัวนี้เขาไม่ต้องขัดให้คมแต่อย่างใดเพราะเป็นแค่ตัวดัน กระแทกลงมาดันเหรียญให้ กระแทกกับตัวตัด
    การตัดนี่ตัดด้วยเครื่องไฮดรอลิด แรงเป็น ๑๘๐ ตันก็มี ต่ำกว่าร้อยตัน ก็มี และบางโรงงานน่าจะเกิน สองร้อยตันก็เป็นไปได้น่ะครับ แบบโรงกษาปณ์ของหลวงนี่แหละครับ เขาก็ทำเหรียญหลวงปู่ หลวงพ่อเหมือนกัน
    อ้างอิง ขออนุญาตน่ะครับ
    https://www.youtube.com/watch?v=in5fya8Uk-8
    ผมไม่ใช่เซียนน่ะครับ อย่าเข้าใจผิดว่า มาเขียนสอนใคร ไม่ใช่เซียน ที่เห็นเหรียญแบบเดียวมาเป็นร้อยๆเหรียญและซื้อขาย เขาจะแม่น ชำนาญ ขอออกตัวก่อน แต่ผมเป็นช่างครับ มองแบบช่าง บางงานพวกงานเหล็กพอจะมองออกเพราะหากินด้านนี้มาหลายปี มีกำไรขาดทุน ถ้าดูไม่เป็นเจ๊งไปนานแล้ว
    แต่ยุคนี้เขาเล่นตัวตัดกัน มีแบบตัดธรรมดา ตัดนิยม และมีการพัฒนาเอามาตีเก๊ แท้ด้วย .........แต่ความเห็นผมน่ะ ตัดอย่างหนึ่งก็แค่มีในจำนวนหนึ่ง พอเขาปาด ตัวตัด หรือ เปลี่ยนตัวตัดเนื่องจากตัดเป็นหมื่นๆเหรียญ ขอบตัวตัดต้องเปลี่ยนไปด้วยเพราะมันทื่อลง ตัดไม่ค่อยขาด ต้องกระแทกแรงๆ อันนี้เองเลยมีศัพท์ ตัดนิยมและตัดธรรมดา
    ไม่จำเป็นว่าตัดนิยมแล้วเหรียญจะแท้ และก็ไม่แน่ว่าตัดนิยมจะมีจำนวนน้อยกว่าตัดธรรมดา เพราะไม่มีโรงงานไหนนับมาแน่ ตัดนิยม อาจจะมีจำนวนมากกว่าก็ได้ แต่ถ้าอยู่ในมือเซียนคนขาย ก็จะบอกว่าตัดนิยม เพราะมีน้อยในสายตาเซียนที่ซื้อขายมาก เล่นง่ายไว้ก่อน เพราะฉนั้นระดับเซียนเขาถึงเล่นกัน แบบแยกระดับ ความหายาก หาง่าย
    ที่จริงเอาแน่ๆ จะฟันเก็ แท้ ตรงตัวตัดไม่ได้ด้วย ถ้าจะเล่นเหรียญรุ่นนั้นที่หลวงพ่อเสกมาจริงๆ พร้อมๆกัน ไม่ตัดนิยมก็แท้ได้ เพราะทำมาด้วยกัน แต่คำว่า นิยม จะ mis lead หรือ ทำให้เข้าใจไปอีกทางว่าเหรียญแท้ เพราะคนเล่นกัน นิยมกัน ที่ไม่นิยมแสดงว่ามีปัญหา แต่เหรียญทำมาพร้อมกัน แค่ตัวตัดคนล่ะตัว เสกด้วยกัน มันจะมีปัญหาได้อย่างไร คนแก่ งงนิ
    จะตัดนิยมหรือตัดธรรมดา เหรียญเข้าพิธีเดียวกัน หลวงปู่ หลวงพ่อ ท่านไม่ได้ แยกเสกแน่นอน ว่าตัดนิยมเสกมากหน่อย ตัดธรรมดาเสกธรรมดา และในความเป็นจริงท่านคงไม่รู้ด้วยเหรียญไหน ตัดนิยมและ ตัดธรรมดา เพราะท่านคงไม่สนใจ เหรียญใส่ถุง ใส่กล่อง ใส่ลังมาแล้ว อย่างมาก ท่านให้แกะมาดู เหรียญสองเหรียญ เพื่อเป็นนิมิต ตอนเข้าสมาธิ เข้าสมาบัติเพื่อเพ่งได้ชัดๆ ..... ก็ดูแค่นั้น
    พวกดูการตัด มันมามี ทีหลัง เซียนยุคเก่า ได้ยินมา อ่านมา ฟังมา ไม่เห็นเซียนเหรียญรุ่นเก่าเน้น เรื่องการตัด อาจจะมีบอกว่า ตัดแบบขอบเลื่อยๆ ( สมัยก่อน เทคโนโลยี่ต่ำ ปั้มเหรียญมาแล้ว แยกเลี่อยขอบทีละเหรียญ ) เพราะฉนั้นแต่ละเหรียญขอบจะไม่เหมือนกัน แต่จะเป็นรอยเลื่อยหลงอยู่และรอยตะไบ พวกรุ่นเก่าเขาไม่มีเจตนา ตัดนิยมอะไรหรอกครับ แค่เป็นวิธีเดียวที่ทำได้ตอนนั้น สำหรับโรงงานเขา และ เจตนาทำมาให้เหรียญดูเรียบร้อย ให้ถูกใจเจ้าภาพ
    พอเทคโนโลยี่สูงขึ้น มีตัวตัด และ ตัวเหยียบ ทำได้ไวหน่อย หมื่นๆเหรียญใช้เวลาไม่กี่วัน ถ้ามีพิมพ์ มีตัวตัดรอไว้ ตามในคลิ้บเลยครับ จะไปช้าตอนแกะพิมพ์ ตรวจทานกับเจ้าภาพ หลวงปู่ หลวงพ่อจนเป็นที่พอใจ แล้วเอามาชุบแข็งด้วยกรรมวิธีแล้วมีการทำพิธีเจิมบล็อค เปิดบล็อค เอาเคล็ดซ่ะหน่อย ไปช้าตอนเตรียมการมากกว่า แต่ขั้นตอนการทำจริงๆไม่น่าจะนานมาก เพราะทำเร็ว ลดค่าแรง ค่าใช้จ่าย ได้เงินไว ใครก็อยากได้เงินไวครับ
    เขียนถึงตอนนี้ เนื่องจากผมทำงานเหล็กมาก่อน พอรู้เรื่องเหล็กอยู่บ้างเพราะเคยทำมาหารับประทานเรื่องงานเหล็กมาด้วย แต่ไปค้นตามเน็ท ก็ไม่ชัดเจนว่า เหล็กที่ทำมาใช้งานในตัวตัดนี้จะเป็นเหล็ก plate หรือ เหล็กแผ่นที่มีความหนาตามที่ต้องการ ดูจากสายตาผมประมาณ เซนต์กว่า เป็นเหล็ก ที่เรียกว่า SS400 หรือ อาจจะเกรดสูงกว่านั่น ที่ใช้งานตามปกติ จะเป็นเหล็กที่มีเนื้อเหล็กบริสุทธิ์สูง ผ่านการรีด และ ขบวนการ ร้อน เย็นมา ทำให้ แข็ง เหนียวใช้งานได้ และ เหล็กพวกนี้จะมีใบเซอร์มาจากโรงงาน แต่ท่านก็สามารถหาเหล็กที่ไม่มีใบเซอร์ได้จะถูกกว่า
    ผมเดาๆเอาว่า พวกโรงงานคงใช้เหล็กแบบนี้แหละแบบไม่มีใบเซอร์ เหล็กพวกนี้มาจาก จีนเยอะ ในยุคหลังๆ ผมก็เคยซื้อใช้ เอาพวกเศษเหล็กมาหลอมรวมเป็นก้อน รีดมั่ง ทุบมั่ง แล้วขายเป็นแบบนั้นเลย ให้โรงงานในไทยเอามารีดเอง หรือ รีดขายมาเลย จีนแผ่นดินใหญ่หลังๆมีวิทยาการเรื่องเหล็กก้าวหน้ามากขึ้น มีพวกคนจีนใต้หวันไปสอนและไปลงทุน ( ฝรั่งสอนใต้หวันมาอีกที ) มีการพัฒนา ด้านควบคุมคุณภาพ ที่นิ่งขึ้นจากการที่พวกสิงคโปร์ และ ฝรั่งไปสอน อาจจะมีญี่ปุ่น( ญี่ปุ่นก็เก่งเรื่องเหล็กแบบอุตสาหกรรม ) ด้วยที่ไปลงทุนและจีนก็อบมา
    ถ้าเหล็กมีคุณภาพดีเช่นเหล็ก สวีเดน อเมริกัน มีการถลุง เอาคาณร์บอนด์ออก ผ่านขบวนการร้อน เย็น รีด กระแทก อัดแน่น มาจนบริสุทธิ์ เป็นเหล็กเนื้อดี จนสามารถทำพวกปืนได้ หรือ ทำเครื่องมือชั้นสูงได้ ถ้าเอามาทำพวก บล็อค และ ตัวตัด ตัวเหยียบนี้คงจะ คงทนน่าดู อันนี้เป็นเรื่องโลหะวิทยา ถ้าจะปรับปรุงงานได้งานดีแล้วมีกำไรได้ ก็น่าสนใจน่ะครับ แต่ เอาว่า เหล็ก ที่ทางโรงงานทำเหรียญ คงไม่ซื้อเหล็กแพงๆมาใช้งานทำเหรียญ ยกเว้นโรงงานชั้นดี แบบโรงกษาปณ์ นี้เป็นไปได้น่ะครับ
    ในการทำเหรียญ ก็จะมีบล็อค หน้าเหรียญ หลังเหรียญ และ ตัวตัด ตัวเหยียบ ทำมาทีเดียว ตามรูปที่ผมเอาลงมาให้ ดู แต่แนะนำ ดู คลิ้บซ่ะนิดเพื่อเป็นการอ้างอิง
    ..................................................................
    มาที่ประเด็นเลย พอโรงงานเขาปั้มเหรียญ หน้าหลังมาแล้ว ก็ต้องมาตัดตามที่ต้องการ ในงานนี้เหรียญหลวงพ่อกัสปมุนี เป็น เหรียญโล่ ก็ต้องมีตัวตัดเป็นรูปโล่ และ ตัวเหยียบเป็นรูปโล่ เอามาตัดกระแทก ทีละเหรียญ ที่นี่เหรียญมีเป็นหมื่น พอตัดไป เหยียบไป หลายร้อยๆ หลายพันครั้ง ตัวตัดจะทื่อลง ขึ้นอยู่กับความแข็งของโลหะที่ตัด เขาจะเอาตัวตัดมาขัดพื้นบนตัวตัด ให้ได้ขอบใหม่ ที่คมขึ้น ที่นี้แหละรับร่องรอยที่เกิดจากตัวตัด จะเปลี่ยนไปแน่นอน จะเปลี่ยนมากน้อย โรงงานเขาคงไม่สนใจ เรื่องความสวยงามของขอบเหรียญ ( ยกเว้นเหรียญขอบสตางค์ มีคนทำเหมือนกันแต่น้อย เพราะทำยากกว่า ) ให้ตัดให้ขาด เท่านั้น
    เหรียญที่เกิดจากตัวตัดคราวแรกก็จะมีจำนวนหนึ่ง และเกิดจากตัวตัดที่ปาดใหม่ เกิดขึ้นอีกจำนวน พอตัวตัดทื่อ เขาก็ปาดอีก ทำเหรียญเยอะๆ เขาอาจจะมีการปาดหน้าหลายครั้ง หรือ ตัวตัดหลายตัว ไปตัดสลับกันไปเลยไม่ให้งานช้า หรือบางโรงงานอาจจะมีเครื่องตัดกระแทก หลายตัว มากกว่าหนึ่ง ตัวตัดมากกว่า ๑ ตัว ระดมตัดกันให้เสร็จไวๆไปเลย จะเร็วขึ้นเป็นสองเท่า หรือ ตัวตัดสามตัวก็สามเท่า ว่ากันไป ถ้ายิ่งเป็นแบบนี้ขอบเหรียญก็ยิ่งจะมีหลายแบบ แต่นักเล่นเหรียญเอาขอบเดียวจากการตัดกลุ่มเดียว มาเล่นกันเป็น ตัดนิยมเฉยเลย ดันให้มีราคาสูงขึ้นกว่ากลุ่มอื่น แต่ผมเข้าใจโจทย์น่ะครับ
    โดยเฉพาะตัวตัดที่ใช้แล้ว ที่ตัดแล้วจากงานเดิม มีขนาดเท่าๆกัน ต่างหลวงพ่อ ต่างงาน ถ้าขนาดเท่ากันใช้กันได้ โรงงานเขาก็เอามาใช้แน่นอน ประหยัดเงินเขา เช่น พวกเหรียญรูปไข่ พิมพ์นิยม
    เพราะฉนั้น ตัวตัด มาบอกเก๊แท้ของเหรียญทั้งหมดไม่ได้ เพราะทำเยอะ ๆ จะมีหลายตัวตัด จะดูอย่างไร โรงงานเขาก็ไม่จดไว้แน่นอน ถ้ามีต้อง ตอกโค็ดคุมกันล่ะ ว่าทำเมื่อไหร่ ตัดอะไร มีบันทึกไว้ตามโต็ด แบบ serial number ไปเลย แต่ไม่เห็นมีใครทำน่ะครับ หรืออาจจะมีแต่ผมไม่รู้ แหะๆ .... ว่าตัดเบอร์ 1xxx แบบนี้ ห้าพันเหรียญ ตัดอีกแบบเบอร์ 2xxxx สองพันสามร้อยเหรียญ เขาไม่มีทางจดไว้แน่ๆ ยกเว้นจะจ้างกันพิเศษ ซึ่งผมไม่เห็นประเด็นจะรู้ไปทำไม สำหรับหลวงปู่ หลวงพ่อ หรือ กรรมการวัด
    เพราะฉนั้นเรื่องตัวตัดนี่ น่าจะเป็นมุขของนักเล่นเหรียญยุคนี้แหละ จะได้ขายตัดนิยมแพงหน่อย หรือซื้อเหรียญแท้ๆ แต่ไม่ตัดนิยมได้ถูกหน่อย แต่แท้เหมือนกัน
    ถ้าถามผม ก็ดู หน้าหลวงพ่อ ดูตำหนิแบบที่รุ่นเก่าเขาเล่นกัน ดูไม่ให้เหรียญบวม ดูตัวตัดประกอบ และที่สำคัญ คือดูโค็ดครับ
    ปกติโค็ด ทาง วัด หรือ กรรมการจะทำแยกมา โรงงานไม่ได้ทำโค็ด อันนี้สำคัญ จะมาแอบเสริมย้อนรอยยาก ตัดกันที่โค็ดนี่แหละครับ ไม่งั้นจะมีโค็ดไว้ทำไม ถ้าไม่เอามาแยก เก๊ แท้ได้
    ตกลง ดูหน้า ดูตำหนิ ดูโค็ด น่าจะพอ แล้ว
    ยิ่งไม่ตัดนิยมยิ่งfu จะได้ซื้อถูกหน่อย ถ้าเล่นแบบเราๆท่านๆ ที่เอาแท้ เอาพุทธคุณ เอาบารมีหลวงปู่ หลวงพ่อที่มากับเหรียญ พวกตัดนิยมให้พวกเซียนเขาเล่นกันครับ เราอย่าไปตามแห่เขาเท่านั้น ไม่เสียตังค์เพิ่มด้วย ยกเว้นท่านกะตุนไว้ซื้อขาย ก็ต้องตามเกมส์เขาไปครับ
    .....................................................

    IMG_2990 (2).JPG IMG_2991 (2).png IMG_2992 (2).JPG IMG_2993 (2).png IMG_2990 (3).JPG IMG_2992 (3).JPG IMG_2990 (4).JPG IMG_2991 (3).JPG IMG_2991 (4).JPG IMG_2994 (2).JPG IMG_2995 (2).JPG IMG_3001 (2).JPG
     
  3. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    วันเกิดหลวงพ่อทรง
     
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ปีเสือ ๒๕๖๕
    เดี๋ยวจะหาเสือมาลงหลายตัวเหมือนกันครับ
    นิ่งไปหลายวันให้ฉลองปีใหม่กัน ผมไม่ได้ไปไหนหรอกครับ กัลวโควิด แต่ไป เดอะมอลล์ไปทานข้าวกับลูกมื้อหนึ่ง
    เขี้ยวสิงห์โตอาฟริกา
    ตามรูป จากบนลงล่าง เป็นเขี้ยวสิงห์โต เขี้ยวเสือ เขี้ยวหมี ( ของมรดกของผมจากตระกูลน้าผม คนพิจิตร บางท่านว่าเป็นเขี้ยวสัตว์อื่น ผมไม่ชำนาญเขี้ยวครับ แต่ก็ไม่ได้ออกหาคำตอบว่าเป็นเขี้ยวอะไรเพราะรู้ที่มาที่ไป ) และอันล่างสุดเป็น เสือของศูนย์ หลวงพ่อให้มา อันนี้คงมีนัยยะอะไรสักอย่าง ผมเอามาวางเทียบให้ดูขนาดว่า เขี้ยวสิงห์โตขนาดใหญ่แค่ไหน ปาตัวแตกแน่นอน แต่พอจะประมาณได้ว่า สิงห์โตนี่ตัวใหญ่มาก เทียบขนาดเขี้ยวแล้ว กัดเราที คงขาดคาที่...แหะๆ เจ้าของเขี้ยวนี่ก็ไม่รู้เล่นใครมาบ้างน่ะ ก่อนจะถูกเขาเอาเขี้ยวมา
    เขี้ยวสิงห์โตนี้ เพื่อนซื้อมาฝาก ผมไม่ได้ถามว่าเขาเอามาจากไหน พอผมเอาไปให้หลวงพ่อลง ท่านหัวเราะชอบใจ เพราะแปลกดี ไม่เคยมีใครเอามาให้ลง ( ผมยังมีงาช้างน้ำ เกล็ดปลากระเบนน้ำลึก งาช้าง คดมะพร้าว ที่เอาไปให้หลวงพ่อลงอีกน่ะครับ )
    หลวงพ่อลงให้เพียบ คาถาหลายแถว แต่ถ่ายรอยจารยากเพราะ เขี้ยวมันแข็ง ท่านจารติดนิดหน่อย ผมเก็บไว้ ยังไม่เคยพกไปใช้ทำอะไร แต่คิดว่าจะเอาไปเลี่ยมเงินซ่ะหน่อย
    ผมเคยได้ยินว่าเหรียญหล่อหน้าเสือของหลวงพ่อ ( ของศูนย์อีกเหมือนกัน ) มีประสบการณ์มากเหมือนกัน มีคนหากันอยู่ ของปลอมยังมี แปลกมาก...แหะๆ หลวงพ่อท่านก็ให้ผมมาอันหนึ่ง จารให้เพียบอีกเหมือนกัน

    IMG_6568.JPG IMG_6569.JPG PICT2846 (3).JPG PICT2848 (2).JPG PICT2849 (2).JPG PICT2850 (2).JPG
     
  5. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    รท สันติ ศรีงาม shared a link.
    Admin


    อาถรรพ์หลวงพ่อทรง
    หลวงพ่อทรงนี่ท่านมีอาถรรพ์น่ะครับ พระอาจารย์อื่นไม่มี แปลกมาก แสดงว่าท่านต้องดังระดับชาติทีเดียว ความนิยมไม่มีตก
    ผมเข้าไปเขียนใน สวนขลังเมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๐ หลังหลวงพ่อทรงล่ะสังขาร มีพวกมาบอกเขาเขียนเรื่องหลวงพ่อ เลยเข้าไปดู พวกขายพระเครื่องหลวงพ่อทรง กำลังทะเลาะกัน ผมแค่จะบอกว่า ให้เลิกๆเถอะ เจตนาดีจริงๆ ท่านพึ่งล่ะสังขารไป สองกลุ่มเลย รวมกัน กลับมารุมด่าผมแทน แบบหยาบคาย เกรียนเน็ท ยุคต้นๆ ...... ผมเตือนแล้วไม่ฟัง เลยไปแจ้งความที่ สน บางกอกน้อย วงแตกกันไป ตอนนั้น พรบ คอมฯ ฉบับแรก ออกปี ๕๐ พอดี ตำรวจท่านยัง งงๆอยู่
    ไอ้ที่ท้าผมเหยงๆในเน็ท หายไปหมด ที่ท้าสาบาน ว่าใครมาหากินกับหลวงพ่อทรง ให้ตายตก ก็ ตายไปก่อนหน้าผมแล้ว ผมกำลังจะชวนมาสาบานกันในศาล ให้มีพยานบันทึกไว้ เลยไม่ได้สาบานล้างตากัน ..... พอจะเรียกไปเจอกันที่โรงพัก ไม่เห็นใครสักคน ตำรวจเก้อ ยุคนั้นตำรวจท่านยังไม่เก่งคอมฯมากเหมือนยุคนี้
    มากลุ่มที่สอง ขนาดผมย้ายมาเขียนที่พลังจิตเพราะมีรุ่นน้องมีน้ำใจมาชวน หลังจากหนีจากสวนขลังมา ก็มีพวกมาก่อกวน พวกนี้เล่นหนัก ทั้งหยาบคาย ทั้งใส่ความ..... เลยต้องไปจบกันที่ศาล มหาชัย ศาลปากน้ำ ศาลนนทบุรี ติดคุกไปหนึ่งคน และ ยังมี คดีแพ่ง ผมฟ้องเรียกค่าเสียหาย ๕๐ ล้าน ศาลลดลงมาเหลือ สองล้าน ในศาลอุทธรณ์ กำลังรอฏีกาอยู่ สู้กัน สี่ ศาล ศาลอาญาสามศาล ศาลแพ่งหนึ่งศาล ...... มาร่วมสิบปี ยังไม่จบ
    คราวนี้ ขนาดเขียนเรื่องหลวงพ่อทรงมา สิบกว่าปีแล้วของเก่าทั้งนั้น ข้อเขียนเดิมๆเอามาขยายความ ยังเริ่มมีคนมาป่วน ( น่าจะพ่อค้ารุ่นใหม่ ) ผมจับตาอยู่อยู่ สามกระทู้ ผมตามไปลิ้งค์ไม่มีตัวตน เลยบล็อคไป
    เพียงแต่มาบอกพี่น้องว่า ลองอ่านข้อเขียนผมดู จริงเท็จ ถ้าคุยกันแบบ อารยชน ทำได้เสมอ
    แต่ ถ้าก่อกวน ผมบล็อค
    ถ้าหยาบคาย หรือ ใส่ความ ว่าผมเล่นของปลอม มีความผิดตาม พรบ หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา หรือ เข้าข่ายผิด พรบ คอม ฯ
    ผมให้ทนายดูแล้ว ทนายว่าแจ้งความได้ ผมกับทนายคู่กายที่อยู่กันมา ร่วม ยี่สิบปีกว่าปี ผ่านอะไรกันมาหลายสิบเรื่อง จะไปแจ้งความโรงพักใกล้บ้าน ง่ายๆมาก ไม่ยากเย็น เดี๋ยวนี้ตำรวจเก่งแล้ว เรื่อง คดีอินเตอร์เน็ท หรือ ส่ง ศชอ ขอท่านมาช่วยอีกแรง ว่าผมโดนใส่ร้าย กล่าวหา
    คนที่มาก่อกวนนี่ก็เดาไม่ยาก ว่ามาจากใคร สายไหน ผมขอเตือนตรงนี้ว่า อย่ามาเล่นกับผม ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นของคุณ ไม่ได้เป็นญาติกัน ผลงานผมมีมา สี่ศาลแล้วด้าน พรบ คอมฯ และหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จะมีอีกศาลไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด ทนายผมเก่ง ทั้งอาญา และ แพ่ง
    พระข้างล่างถ้าเป็นของเล่น ก็มีองค์เดียว ผมเล่นของผมเองน่ะจ้ะ ไม่ได้เดือดร้อนใคร แล้วจะไม่อธิบายคนแบบนี้ด้วยเสียเวลา ของผม แต่จะสรุปว่า พระหลวงพ่อทรงน่ะ เขาเล่นกันมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ รุ่น ปี ๒๕๔๕ มั้ง ตั้งแต่ หลวงพ่อเริ่มจะดังในส่วนกลาง ดัง ระดับประเทศ ไปจีน ไปสิงคโปร์ ไปภาคใต้ ........ ไม่ใช่พึ่งมาฮิตเล่น พ.ศ. นี้ให้ฮือฮาแต่อย่างใด
    ของตามบ้าน ตามวัดน่ะ เขาไปบุกกันมาหลายรอบ ทั้งเซียนท้องถิ่น พื้นที่ เซียนต่างถิ่น เอาของดีมาขายกันสนั่นไป เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว โดนมาบ้างก็มี มันจะเหลืออะไรในพื้นที่ให้หาครับ ถ้ามีเขาก้หวง เล่นแพงๆ ถูกๆ ฟลุ๊คๆ คงหลุดมายากครับ
    แล้วเล่นพระน่ะ เข้าดูพิมพ์ ดู เนื้อหา ดูส่วนประกอบ เขาไม่ได้ฟังปากคน ยุแหย่ ก่อกวน อวตารในเน็ท
    ถ้าเรื่องที่ผมเขียนมันโกหกพกลม คงไม่มีใครเข้าไปอ่านในพลังจิต แปดล้านกว่าครั้ง และก็ยังมีทุกวัน ขนาดไม่มีเรื่องใหม่อะไรแล้ว เลยปิดกระทู้ไม่ลง
    ให้ผู้อ่านเป็นคนตัดสิน ที่ผมอยากเขียน เขียนไปแทบจนหมดแล้วในพลังจิต หา key word ในอาจารย์กู๋ มีคำว่า เหรียญบิน พลังจิต ท่านจะได้อ่านเรื่องราวจริงๆ อีกมุมของหลวงพ่อทรง ที่ต่างจากที่เขียนในนิตยสาร และมีคนอื่นที่เล่นสายหลวงพ่อทรง ที่ทันหลวงพ่อ มาประกอบลงความเห็น หลายสิบท่านที่เล่นหา หลวงพ่อทรง .....และถ้าไม่จริง โกหก ของเล่น ผมคงโดนแจ้งความ โดนฟ้องไปนานแล้ว 555555
    แต่ผมเองไม่ค่อยชอบ FB เพราะมีวาระซ่อนเร้นเยอะ แต่ยังหาที่ลง ดีกว่า FB ไม่เจอ ถ้าเจอ จะย้ายข้อเขียนทั้งหมด ไปที่ใหม่ครับ แต่หลักๆคือพลังจิต ไม่มีทิ้งแน่นอน หาอ่านได้ครับ อ่านฟรี ดูรูปฟรี สงสัย เรื่องอะไร รูปไหน ผมจะอธิบายชัดตามประสบการณ์ที่เจอมาเอง ถ่ายรูปให้ดูใหม่ จะ จะ ....ครับ เล่นพระต้องมีหลักฐาน
    ขอบคุณครับ
    ป.ล. เรื่องค้าขายพระ ผมประมูลพระมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ ปีน้ำท่วมใหญ่ ประมูลมา ห้าสิบกว่ารอบได้เงินมา สี่ล้านกว่าบาท เอาไปสร้างวิหารทาน ทำบุญ ทำทาน ช่วยชาติ ช่วยคน มาตลอด มาจากพระที่ผมสะสมไว้ร่วมสี่สิบกว่าปี แทบทั้งนั้น ของ หลวงพ่อทรงที่สะสมไว้ ของหลวงปู่เล็ก วัดทำนบก็เอาประมูลมาหลายรอบ ..... ตอนนี้กำลังช่วยสู้โควิด หลักฐานมีตามลิ้งค์ ท่านใดที่ค้าขายพระแล้ว
    แบ่งเงินให้สังคม
    เอาไปเลี้ยงพ่อ แม่
    เลี้ยงครอบครัว .... ค้าขายไปบ้างเถอะ
    มีคนถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่ดู่ มาแล้ว ท่านว่าไม่บาป ไม่ห้ามขายของหลวงพ่อด้วย แต่อย่าผิดศีลโกหก อย่าขายของเก๊ และจุดประสงค์ว่าเอาเงินไปทำอะไร .......... ยิ่งยุคนี้ บ้านเมืองกลียุค แบ่งๆเขาไปบ้าง ดีกว่า สะสมเยอะ ไว้ แล้วเกิดตายไป ยิ่งโรคเยอะ ไม่แก่ก็ตายได้ จะเป็นภาระลูกหลานที่ คนรุ่นใหม่ ไม่ค่อยสนใจ พระกองเต็มบ้าน ต้องมาหาทาง ระบายออก ..
    ผมเห็นมาหลายคนน่ะครับ สะสม อย่างเดียว ท่านตายไป พระเต็มบ้าน ผมไปบุกมาแล้ว อย่างน้อย สองบ้าน ท่านหนึ่งระดับรองอธิบดีซ่ะด้วย เห็นพระล่ะตาลายเลยครับ เสียดายเวลาที่สะสมมา แบ่งไปช่วยสังคมบ้าง เก็บแต่เนื้อๆที่ตัวเองชอบก็พอ
    ส่วนท่านที่ค้าขายพระด้วยเหตุผลอื่น ก็เป็นเรื่องของท่าน ผมจะสนใจไหม ?????? เป็นสิทธิของท่านตามกฎหมาย ผมไม่สนใจแง่นั้น แต่ตามดู ผมสนใจอยากได้ ผมก็อุดหนุน ซื้อมาครับ ให้ขายของแท้ๆ เถอะ คนเขาดูกันเป็นครับ
    ............................................................
    https://www.facebook.com/groups/342920429632257
    [​IMG]
    PALUNGJIT.ORG
    เพื่อการกุศล - กระทู้ต่อยอดพันบุญ
    กระทู้เกิดเผยลบผิด หายไป เอาใหม่ครับ ใช้บันทึก รายการต่อยอด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กุมภาพันธ์ 2022
  6. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,303
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,134
    อ่านข้อความข้างบนแล้วคิดตามว่าจริงอย่างที่คุณพีกล่าวไว้ครับ

    และประทับใจในน้ำใจของคุณพีมากๆครับ หาได้ยากมาก ผมขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

    ขอแสดงความนับถือจากใจครับ
     
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    เทียบให้ดู ได้ รูปชัดๆ โค็ด ท ไม่มีหัว
    พรุ่งนี้จะมาเฉลยน่ะครับ แต่บางท่านดูเทียบก็ ดูออกแล้ว
    เหมือนกันไหมครับ ทั้งรูปทรง และ ที่สำคัญ ขนาดครับ คนทำใหม่ ไม่เคยเห็นขนาดโค็ดที่แท้ เขาแค่กะๆเอา ทำออกมาเลยได้แบบนี้
    ...............................

    แบบนี้ ท ไม่มีหัวเก๊ครับ

    Gz0nuBbm-rZPUIwbe3ju9GFt&_nc_ohc=AeZxgFvKB5IAX8-pwYu&tn=xf_11MuxMDJ1gQXE&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg

    D_IdfdNc2Ik9FZeJ8OnLEWoVgHmUAUM8cAkJlHWU0HKo&_nc_ohc=hJTsq7xRPgEAX8QaN_1&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
    ..................................................................

    แบบ ท ไม่มีหัวแท้ครับ

    pSMzpjm9kb0dzdbNcmTF3cIy&_nc_ohc=-ClUxesoN-AAX8FEy9r&tn=xf_11MuxMDJ1gQXE&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
     
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ท ไม่มีหัวเก๊น่ะครับ มีมานานแล้วด้วย เป็น ๑๐ ปี
    ตั้งแต่ยุค ๒๕๕๐ หรือ ๒๕๕๑ ตะโพนกำลังดังเลยมีทำขายครับ เดี๋ยวนี้ออกมาอาละวาดอีกรอบน่าจะเป็นของค้าง

    VozIyKDKzCdP6QqYEGf0Yjbf-0LyWsFlX7f8QMJTgvpY&_nc_ohc=j9pubGRbaVAAX-lmCmV&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg

    แบบนี้เก๊ครับ
     
  9. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    รอยเล็บจิก ( รอยนิ้วเพชร นิ้วชี้ )
    ผมก็คิดว่าตัวเอง ผ่านชีวิตมาเยอะ เห็นมาพอสมควร ทำเหรียญถวายหลายหลวงพ่อ ไม่เคยเห็น ใคร หรือ หลวงพ่อไหน เจิมบล็อคแล้วบล็อคเป็นรอยน่ะครับ อาจจะมีในแบบโบราณ แต่เผอิญเกิดไม่ทัน ไม่เคยเห็นกับตา ได้ยินกับหู
    พวกพระคณาจารย์รุ่นเก่าๆ ที่สำเร็จตามวิชาที่เรียกแบบโบราณว่าวิชาโสฬส แบบ หลวงพ่อวัดมะขามเฒ่า หลวงพ่อเต่า วัดน้ำพุ หลวงปู่เฒ่าวัดหนัง ฯ น่าจะมีแต่เกิดไม่ทัน เลยไม่สามารถยืนยันได้
    หลังหลวงปู่เล็กท่านเจิม ตอนช่างเอาบล็อคกลับไปจะล้างแป้งออกเพื่อ ( น่าจะล้างเฉยๆไม่ได้ บอกกล่าว ) เพื่อปั้มเหรียญ พอล้างแป้งเจิมออก ช่างก็ตกใจ ตกตลึง รีบถาม อาจารย์ก่อว่าเอาบล็อคไปทำอะไร ( เช่นเอาไปกระแทกอะไร ตอกอะไรหรือปล่าว บล็อคนี้ชุบแข็งตามขบวนการ ร้อน เย็นมาแล้ว )
    คำตอบคือปล่าว แค่เอาไปให้ หลวงปู่เจิม ช่างยังบอกว่า ตั้งแต่ทำเหรียญมาไม่เคยเห็นบล็อคเป็นรอยแบบนี้เพราะการเจิม หลวงปู่อะไร อยู่วัดไหนกันครับ ต่อมา จะปั้มเหรียญหลวงปู่จะจุดธูปบอก ทุกครั้ง เพราะซึมซับได้ว่าไม่เคยเจออะไรแบบนี้ กว่าจะปั้มเหรียญครบทุกแบบ ได้ยินว่า ช่างหมดธูปเป็นห่อๆ
    รอยเล็บจิกเกิดจากการเพ่ง กำหนดวิชา ไปกับแป้ง ด้วย นิ้วชี้ หรือ นิ้วเพชร ของหลวงปู่ตอนเจิมแป้ง เจิมตามรูป ด้วยอานุภาพของนิ้วเพชรและ ญานบารมีของหลวงปู่ที่สร้างสมมา ทำให้บล็อคเหรียญ ที่ชุบผิวแล้ว บุ๋มเป็นรอยตามรอยจิกของหลวงปู่ท่าน ( ตามรูป ) เกิดมาพึ่งเคยเห็นนี้แหละครับ ตามรูป ช่างชักกลัวๆ เกรงๆน่ะแหละ และจุดธูปบอกก่อนปั้มเหรียญทุกครั้ง เพราะหลวงปู่สั่งไว้ จะทำรูปท่านให้จุดธูปบอกก่อน
    รอยเล็บจิกจะมีในบล็อคแรกๆ เพราะปั้มเหรียญไป พวกเศษโลหะบ้าง การเสียดสี การกระแทก บ้างจะทำให้พื้นบล็อค เป็นรอย ช่างเขาจะปาดฝนให้พื้นเรียบไม่งั้นเหรียญจะไม่สวย การปาดนี้ ทำไม่มากแค่ขัดปาดให้พื้นเหรียญเรียบ แต่ปั้มๆไป หลายร้อย หลายพัน เหรียญก็อาจจะต้องปาดอีก จึงเป็นตำนานพวก การขายพวก บล็อคสายฝน บล็อค วงเดือน บล็อคนิยมต่างๆ บล็อคสายฝนส่วนมาก เขาจะขัดเฉียงๆ ทำสายฝน แบบ เท เฉียงๆลงมาเพราะสวยดี ไม่เคยเห็นสายฝนในแนว ขนาน เพราะดูแล้วคงไม่สวย
    และตัวตัดอีกเหมือนกัน เป็นบล็อคตัวตัด แยกต่างหากในการตัดเหรียญให้ได้รูปทรงที่ต้องการ ในกรณีนี้ เป็นรูปไข่ พอตัด กระเเทกไป เอาไม่กี่ร้อยเหรียญ บล็อคจะไม่คม ตัดกระแทกขาดไม่สวย ทื่อน่ะแหละ เพราะการตัดจะต่างจากการปั้มรูป ต้องกระแทกให้ขาดออกจากกัน พอตัวตัดทื่อ
    เขาจะ ขัดให้คม เพื่อตัดต่อไปได้ รอยตัดจะเปลี่ยนไปบ้าง เพราะตรงคมต่างไป แม้เส้นรอบวงจะเท่าเดิม
    เพราะฉนั้นตัวตัดเล่นว่าเก๊ แท้ แบบที่เขาเล่นไม่ได้ เป็นแค่การตลาด เพราะ ตัดแบบนั้นอาจจะมีแค่บล็อคเดียว เซียนเลย มาแยกเป็นบล็อคนิยม บล็อคธรรมดา แต่จริงๆน่ะ ตัดมาจากโรงงานเดียวกัน เสกพิธีเดียวกัน แต่ คนขายมาแยกเอง แยกของในมือให้นิยม มันจะได้แพง ไม่เหมือนเขา คือบล็อคไม่นิยม หรือบล็อคธรรมดา เพื่อเจตนาในการตลาดไม่ใช่ เจตนาของหลวงปู่ ของวัด หลวงพ่อที่จะเสกให้ขลังแยกกันแต่อย่างใด และบล็อคธรรมดา ก็เสกมาด้วยกันนี่แหละ
    เพราะฉนั้นสรุปว่ารอยเล็บจิก จะค่อยๆหายไป ตามจำนวนที่ปั้มเหรียญ ไม่ได้บอกว่ามีวิชานิ้วเพชรหรือไม่ วิชานิ้วเพชรเป็นวิชา อยู่ที่การประจุของหลวงปู่ ท่านประจุให้ในเหรียญรุ่นนี้ตามที่ขอกันไว้ ด้วยการปลุกเสก
    การปลุกเสก หลวงปู่ท่านเสกเดี่ยว ไม่ต้องไปจัดพิธีอะไรมาเสกทับของท่านอีก แบบที่ท่านเคยว่าไว้ ว่าของท่านไม่ใช่ของโหล ของแบกับดิน เสกเดี่ยว องค์เดียวล้วนๆ เป็นเวลา ๔๖ วัน ที่จริงถ้าบวกวันที่เอาไปด้วยน่าจะ ๔๗ วัน ศิษย์หลายท่านช่วยอาราธนาหลวงปู่ ให้เมตตา ประจุทุกวิชาที่ท่านเรียนไว้ สำเร็จไว้ ในเหรียญรุ่นนี้มิให้ สูญหาย เพื่อในศิษย์ ใช้ติดตัวเพื่อประกอบสัมมาชีพให้ รุ่งเรือง แคล้วคลาด มี โชค มีลาภ ตามสมควร ปราศจาก อันตรายและ โรคภัย ทั้งกับของที่มองเห็นและมองไม่เห็น ไปกราบอกท่านเป็นระยะ เพราะเหรียญอยู่กับท่านนานเป็นเดือนกว่า ( ตามรูป )บางครั้งพอกราบบอกท่าน ท่านให้หยิบสายสิญญ์ ( ที่พันโยงไปยังกองวัตถุมงคล ) มาเสกให้เดี๋ยวนั้นเลย แบบทันใจ กันลืม เมตตาให้ตามที่ขอ และในตอนกลางคืน ท่านเสก ท่องโองการวิชาต่างๆ เชิญครูบาอาจารย์ของท่าน เทพยดา มา ประจุให้ตามที่ศิษย์ขอด้วยความเมตตา( มีการบันทึกคลิ้บเสียงตอนหลวงปู่ร่ายโองการณ์ต่างๆ ไว้ )
    ทำไมจึงเป็น ๔๖ วัน
    ที่เป็น ๔๖ วันเพราะ เทพ เทวดา ผลัก
    ทาง โรงพยาบาลมีความจำเป็นต้องย้ายห้องของหลวงปู่ เพราะห้องเดิม เก่าแก่ มีความชื้นสูง ทางโรงพยาบาลต้องการทำความสอาด ฆ่าเชื้อและแต่งห้องใหม่จึงต้องย้ายหลวงปู่ และพอย้ายแล้วเพื่อไม่ให้โกลาหล ย้ายของกันอีกทีไปมา
    จึงมาสรุปที่เสกพอแล้ว เพราะหลวงปู่เสกให้นานแล้ว ไม่มีรุ่นไหนที่เป็นทางการเสก ที่หลวงปู่เสกให้นานขนาดนี้แล้ว ตามที่ทราบ อาจจะมีรุ่นที่ศิษย์ขอทำให้ต่างหาก เพราะท่านอยู่ที่ รพ มาหลายปี พวกเหล่า พยาบาลที่นิยมกุมารทอง รักยม ก็มาขอให้ลวงปู่เมตตา ให้เป็นการส่วนตัวเหมือนกัน เมื่อเห็น ปฏิปทา ความนิ่ง ตบะของหลวงปู่ และเป็นที่เลื่องลือ ไปนอก โรงพยาบาล เพื่อนผม ไอ้แหบ ที่สมัยเรียนจุฬาฯด้วยกันมา คบกันมา สี่สิบกว่าปี เป็นศิษย์สายวัดป่า เดินสายประจำไปทำบุญ สายนี้ ยังมาถามผม ว่ามึง รู้จัก หลวงปู่เล็ก ที่วิชัยยุุทธไหม
    ผมตอบว่ามึงไปได้ยินมาจากไหน ท่านเป็นพระมหานิกายน่ะ มึงคงไม่สนใจหรอก
    มันบอกว่า เฮ้ย เขาแนะนำ บอกต่อกันมาว่าท่านเก่ง
    ผมเลยตัดบท มึงรีบไปที่วิชัยยุทธเลย ห้องเบอร์ท่าน เบอร์นี้ ชั้น ๑๐ รีบๆไปเพราะท่านอายุมากแล้ว และเขามีเวลาเยี่ยม เท่านั้นนี้ นอกเวลาอย่าไปกวนท่าน ท่านแก่มากแล้ว
    จะสังเกตุว่าหลวงปู่เล็กเป็นพระสายมหานิกาย จีวรเหลืองอ๋อย แต่มีศิษย์สายวัดป่า พระธรรมยุตมากราบ สักการะ หลายคณะ บางคนไปบ่อย ทำของมาขอหลวงปู่เสกให้ก็มี เช่นพวกเบี้ยแก้ ท่านก็เมตตาเหมือนๆกัน ตามสมควร
    และ ถ้าไม่ย้ายห้องอาจจะเสกไปจนถึงเดือนวันเกิดหลวงปู่แล้ว เปิดแจกกันน่ะครับ น่าจะเป็นหลายๆเดือน
    ใครมีเก็บไว้บูชาให้ดีน่ะครับ เมื่อมีวิชานิ้วเพชร วิชาโสฬส เหรียญนี้น่าจะรักษาโรคบางอย่างได้ ยิ่งเสกในโรงพยาบาลด้วย ครูบาอาจารย์เทพ เทวดา สายหมอ น่าจะมาโมทนา ยิ่งพวกที่เกี่ยวกับ อาถรรพ์ ภูติผี ปีศาจ โรค เวร โรคกรรมบางจำพวก ถ้า จนทางไม่รู้จะทำอย่างไร ลองอาราธณาเหรียญนี้ มีรูปหลวงปู่ มีวิชานิ้วเพชร แล้วบอกหลวงปู่ดูน่ะครับ อาจจะหายได้ หรือ ช่วยทุเลาลงได้ไม่ให้ทรมานมาก พออยู่ได้ น่ะครับ
    ..............................

    48388135_333466900810524_4562698970068942848_n.jpg ทำลายล็อคหน้า.jpg อัลปาก้ารอยจิก.jpg ทองแดงรมดำ รอยจิก.jpg ภาพขยายเงิน.jpg ขยายทองแดง.jpg ขยายอัลปาก้า.jpg
     
  10. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ถาม :
    เหรียญ เล็บจิก มีกี่เนื้อ จำนวนการผลิตเนื้อละกี่เหรียญ บ้างครับพี่ มีแบบสามกษัตริย์ไหมครับพี่
    ตอบ: ตามตารางน่ะครับ มีบันทึกไว้หมด ตอกเลขวิ่งและโค็ด โค็ดทำลายแล้ว
    เหรียญหายาก
    ที่หายาก จะเป็นเนื้อเงินหลังเรียบ นวหลังเรียบ เนื้อนาคครับ เนื้อทองคำยังสร้างมากกว่าเนื้อนาคเลยครับ

    1UABbILzewT8a8Ulpt8xfYgYeVsG2D6T3eIWgv_Q-xTz&_nc_ohc=8PAzP7v5_coAX9qridV&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg 4Iz73HbajH-kIcM6khTe7K-S8qHZdEyf9UiJXsIGI5cT&_nc_ohc=7G3ayZ6TeH8AX_Tz-0c&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg GG9R43gra0XM1SkkCEEsisVVvFck3kRo5P0LWY12yf3d&_nc_ohc=GqnzYG9BmnsAX-V1i6K&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg Ehdq_xEJ53NqHjlVRQ3gO6cHUyqpGXGGt5uQhtNxOgVu&_nc_ohc=b2RQKzdjoscAX_5Qi-w&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg XhwplcBdXQ-27tnTfkbR7e3l&_nc_ohc=PuaDsxkawqgAX_0dbpU&tn=xf_11MuxMDJ1gQXE&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg
     
  11. เอกรถไฟ

    เอกรถไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    532
    ค่าพลัง:
    +2,093
    ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล
     
  12. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    เหรียญหลวงปู่เอี่ยมรุ่นแรก วัดหน้าต่างนอก
    นอกนั้นมี พระผง หน้าหลวงพ่อจง หลัง หลวงปู่เอี่ยม เป็นพระหลวงปู่เอี่ยม เนื้อผงรุ่นแรกน่ะครับ ขอหาก่อนจะถ่ายรูปเอามาลง เขาเขียนกันเป็นเกศาหลวงพ่อจง ไม่ใช่น่ะครับ เป็นเกศาหลวงพ่อแม้น
    มูลเหตุ
    ขอเขียนไว้ก่อน ป้องกันการเข้าใจผิด ท่านที่ต้องการวัตถุมงคลของวัดหน้าต่างนอก ก็ไปเช่าบูชาที่วัดน่ะครับ เพราะที่วัดกำลังก่อสร้าง มีภาระอยู่ เหรียญผมสร้างแจกในงานบริษัทของผมเอง ครับ
    ขอสรุปเป็นข้อๆ แล้วผมมาสรุปรวมอีกที่
    ๑) ผมบวชที่วัดหน้าต่างนอกสองครั้ง ครั้งแรกประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๓x ตอนนั้นพระอาจารย์แม้นก็ยังหนุ่มๆอยู่น่าจะประมาณ ๕๐ กว่า ขยัน ยังคล่องแคล่วท่านทำงานวัดทุกวัน นอกจากมีแขก เช่นกวาดวัด ทำความสะอาดห้องน้ำ กวาดใบไม้ ยุคนั้นวัดยังไม่ใหญ่แบบนี้ ผมบวชที่โบสถ์เก่าที่หลวงพ่อจงสร้าง พระอุปัชฌาย์ คือ หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์ พระอาจารย์แม้ไปนิมนต์มาให้ พระอาจารย์แม้นเป็นคู่สวด เป็นอาจารย์ผมนะแหละครับ
    พอบวชแล้วขอหลวงพ่อแม้นไปอยู่กุฏิกรรมฐาน หลวงพ่อแม้นท่านมีกุฏิ กรรมฐาน ส่วนตัวท่านเอาไว้ปลีกวิเวก สร้างอยู่ริมน้ำ ทำด้วยไม้ สองชั้นไม่ใหญ่ ปลูกอยู่ริมน้ำ ไกลผู้คนและ ยุคนั้นเปลี่ยวมาก ลมพัดหวิว เหมาะแก่การอยู่วิเวกมากครับ ไม่มีเสียงโทรทัศน์ วิทยุ มากวนจิต กวนใจ
    ผมเลยไปกางกลดนอนชั้นล่าง ชั้นบนพระอาจารย์ท่านเอาไว้จำวัดของท่าน ไม่กล้าทับครูบาอาจารย์ เงียบสงบดีมาก จำได้เลย ว่าบวชวันแรก อากาศกลางคืนดันหนาว ซ่ะ สั่น น่าจะระดับ ๑๐ กว่าองศา เหมือนทดลองพระบวชใหม่ แหะๆ หนาวจนสั่นไม่ได้คิดว่าจะหนาวเอาดื้อๆ
    ดึกๆ น่าจะร่วมเที่ยงคืน เวลาเหมาะที่จะมีแขกมาเยี่ยมมาก มีเสียงมาเคาะประตู ผมยังนึกว่า มาบวชวันแรกโดนซ่ะแล้วมั้งนี่ แต่แต่งเครื่องแบบพระ ยังไง ก็อย่างนั้นตามกรรมเปิดประตูกุฏิ ฉายไฟไปเจอพระอาจารย์แม้น ยืนยิ้มอยู่ ท่านเอาผ้าห่มนวมมาให้ ท่านบอกว่า เออ เอ็งมาบวชวันแรกก็หนาวเลย ข้านึกถึงพระว่ามาบวช ใหม่ ถ้าจะแย่ เลยเอาผ้าห่มมาให้ บุญคุณนี้ผมไม่มีวันลืม ก็ผ้าห่มนั่นแหละ ผมเอาห่อเดินจงกลมค่อยยังชั่ว เพราะตรงนั้นลมแรงมาก
    ทางเดินข้าง พระวิหารที่มี หลวงปู่เอี่ยมนี่แหละ เงียบสงบมากในยุคนั้น กลางคืนนี้ เงียบสนิท ผมจะเดินจงกลม ข้างพระวิหารหลวงปุู่เอี่ยม ประจำ เพราะมีทางเดิน ข้างกำแพงแก้ว พอมีแสงไฟ เดินไป เดินกลับ กำลังดี
    เดินได้ไม่กี่วัน จนมีคนมาทำผีหลอกผม เรื่องนี้ไม่เคยเล่าให้สาธารณะชนฟัง เล่าให้ฟังแต่ พระอาจารย์แม้นที่เป็นพระอาจารย์ คนพาลที่ทำผีหลอกผม ตายไปแล้ว และด้วยความรำคาญ เพื่อป้องกันคนพาล ที่อาจจะมี เพราะเรื่องแบบนี้มีจริงๆ พระไปทำกรรมฐานในหลายที พวกคนพาลจะคอยแกล้ง เอาหินขว้างบ้าง เอาหนังกะติ้กยิงบ้าง ทำผีหลอกบ้าง เอาหนาม มาเท ทางเดินบ้าง ยิ่งพระบวชใหม่ จะยิ่งโดน
    พระอาจารย์แม้นเลยให้ไปเดิน วิหารหลวงปู่เอี่ยม ยุคนั้นยังไม่มีกุญแจ เปิดเข้าไป อับๆนิดแต่พออยู่ได้ ก็เดินรอบ แท่นหลวงปุ่เอี่ยมนี่แหละจุดตะเกียงแล้ววับๆแวมๆ พอเห็นทาง ไม่มีคนมากวนใจได้ ก่อนเดิน ผม ไปกราบบอกหลวงปู่เอี่ยม ท่านก่อน
    ในวิหารน่ะน่ากลัวกว่าข้างนอก เพราะมีทางออกของพญานาค หรืองูใหญ่ ที่ว่ากันว่า วันพระเขาจะออกมา เรื่องนี้คนเก่าแก่เล่ากันมา ผมรู้มานานแล้ว และ เรื่องเป็ด ออกมาเล่นนำอีก เพราะพระอาจารย์แม้นเล่าให้ฟังหมด นานแล้ว
    ยุุคนั้หลวงปู่เอี่ยมยังไม่ได้บูรณะ มีปลวกขึ้นตามององค์ท่าน งอกบ้านเป็นงวงๆออกมาหลายที่ พระอาจารย์แม้นไปเจอท่านจะหักทิ้ง ส่วนผมไม่กล้า พระโมฬีเดิมของหลวงปู่เอี่ยมที่เป็นปูนก็แห้ง กรอบหล่น ทาสี ดำๆ หล่นตามพื้นผมเก็บถวายหลวงพ่อท่าน พระอาจารย์แม้นยังให้มาจำได้ว่าสองอัน ผมแบ่งเขาไปอัน อีกอันผมเอาติดรถมาตลอด สามสิบปี จนเลิกทำงาน เดี๋ยวจะถ่ายรูปให้ดูครับ แคล้วคลาด ทำมาค้าขึ้นตามวาสนามาตลอดครับ
    ในวิหารน่ะ น่ากลัวกว่าข้างนอกอีก เพราะบรรยากาศให้ ตุ๊กแกตัวใหญ่ส่องไฟไปเจอ จะ จะเอ๋ พอดี ตาเขียวๆ แดงๆ วาบๆ 55555 ผมก็ทำหน้าที่พระ เดินจงกลมไป ถ้าจะมีงู มีพญานาค มีผี ก็ตามกรรม กราบบอก หลวงปู่ ขุนเณร หลวงปู่เอี่ยม หลวงพ่อจงไว้แล้วว่าลูกมาทำตามหน้าที่ของพระ ขอ หลวงปู่ หลวงพ่อเมตตาด้วย
    ก็ทำได้ตลอดจนสึกมา บวชประมาณ เดือน มีความประทับใจในหลวงปู่เอี่ยมมาตลอด หลวงปู่เอี่ยมนี่ไม่ธรรมดาน่ะครับ แต่ท่านเป็นพระกรรมฐานชอบอยู่เงียบๆ และมีหลวงพ่อจง ที่ดังไปทั่วทิศ คนเลยได้ยินแต่หลวงพ่อจง ลืมไปว่ามีของศักดิ์สิท์ธิ์คือ หลวงปู่เอี่ยมอยู่ในวิหารนี่แหละ
    ๒) มาบวชครั้งที่ ๒ คราวนี้ หลวงพ่อวัดกระแชง เป็นพระอุปัชฌาย์ ในปี ๒๕๕๔ ก่อนน้ำท่วมใหญ่ มาบวชคราวนี้ เพราะเบื่องาน มันวุ่นวายมาก ลาออกไปบวชเลย คราวนี้บวชนาน จาก มกราคม ถึง พฤษภาคม แต่บวชนอกพรรษาเลยอดได้ พรรษากับเขา มาบวชคราวนี้ พระอาจารยืแม้นบูรณะ โบสถ์เก่าและ พระวิหารพอดี เลยได้ร่วมบูรณะพระวิหารทั้งสองหลัง ช่วยสร้างหลวงพ่อสมใจนึก พระอาจารย์ทำ แท่น ฉาก หลวงปู่เอี่ยมจนสวยงาม ท่านจะสร้างณุปหล่อเท่าสอง๕จริง ตั้งไว้ทั้ง หลวงพ่อจงในโบสถ์เก่า และ หลวงปู่เอี่ยมในโบส๔ใหม่ ผมเลยไปชวนเพื่อินสนิทที่เรียนจุฬาฯด้วยกันมาเป็นเจ้าภาพ สร้างรูปหลวงปู่เอี่ยม ที่ตั้งอยู฿นี้แหละครับ ข่างหลังที่ฐาน มีชื่อ คุณ มานพ เป็นเจ้าภาพ เพื่อนผมไป ดูได้ และส่วนหลวงพ่อจงใน โบสถ์เก่า ก็มีชื่อผม สันติเป็นเจ้าภาพ ไปดุได้เหมือนกันครับ ว่าไม่ได้อ้าง แต่มีความผูกพันธืทั้งกัย โบสถ์เก่าที่หลวงพ่อจงสร้างและ วิหารเก่าที่มีรูป หลวงปู่เอี่ยม ด้วยความนับถือมานานแล้วครับ
    พอหกลับมาทำงานอีก ดูแลบริษัทตั้งหใม่กับเพื่อนเลยจะทำของแจก ทำรูปบรรดาอาจารยเรานี่แหละ มีรูปหลวงปู่เอี่ยม เพราะเขาไม่ทำกันแปลกเหมือนกัน เอาทั้ง หลวงปู่เอี่ยม หลวงพ่อจง พระอาจารย์มาครบ
    ผมออกแบบ ให้เด็กเขียนแบบ แล้วไปขออนุญาตพระอาจารย์แม้นทำ สามพันเหรียญ ตามรูป เสร็จแล้วมาขอให้พระอาจารย์แม้น เมตาเสกให้ในพรรษปี ๒๕๕๖
    ยังมีต่อ
    หลวงพ่อแม้นท่านให้ลูกศิษย์ตอกโค้ดวัดให้เลย โค็ด วตน เป็นค็ดวัด ไม่ใช่ของผม จึงถือว่าออกในนามพระอาจารย์แม้น ผมแค่ออกทุน ผมเลยไม่ต้องมาตอกเอง มันชัดเจนว่าเป็นของหลวงพ่อแม้นอีกรุ่น และปลุกเสกในพรรษา ๒๕๕๖
    เหรียญนี้ได้กับมือหลวงปู่เล็ก ที่เอาไปเสกซ้ำอีกที ถวายท่านไว้แจก เขียนไว้เสร็จที่ถุงกันลืม จำได้ว่าถวายหลวงปู่เล้ก พระครูมานิตย์ แบ่งให้พวกสายแม่กลองไป นอกนั้นผมแจกลูกค้าครับ
    เหรียญนี้สร้างปี ๒๕๕๖ ผมออกเงินเอง สามพันเหรียญ ได้เหรียญเอาไปฝากหลวงพ่อแม้นในพรรษาให้ท่านเมตตาเสก พอออกพรรษาที่วัดมีพิธีพุทธาภิเศก ต่ออีก ๗ วัน ๗ คืน เสกมงคลวัตถุชุด เหรียญเศรษฐี พิธีใหญ่มาก พระนิมนต์มาเพียบ หลวงพ่อแม้นท่านเลยเอาเข้าพิธีต่อ
    เสร็จพิธีตอนผมไปรับ หลวงพ่อแม้นท่านออกสายกฐินน่าจะของท่านเองอีกสาย ถ้าจำไมผิดคือ วัด บางยี่โท อยุธยา ผมเลยถวายไปประมาณ ๑๕๕๔ เหรียญ
    ที่เป็นเศา ๕๔ เพราผมถว่ายพระอาจารย์แม้นไปครึ่งหนึ่งหม้ท่านไปแจก พอดีแฟนไปด้วยเลยนับเท่าอายุแฟนบวกหนึ่ง ถว่ายพระอาจารยืแม้นสะเดาะเคราะห์ไปพร้อมกัน
    หลวงพ่อให้ท่านใส่ซองกฐิน หรือจะเป็นผ้าป่า อีกงานผมชักเลือนๆ ที่วัดบางยี่โท ที่ท่านเป็นเจ้าภาพ เหรียญน่าจะไปมีแถวนั้นเยอะ แต่ได้สายบุญอีกต่อหนึ่ง
    ส่วนของผม พันกว่าเหรียญ ได้จังหวะ ที่สาย ศิษย์ วัดเงินฯ เอาวัตถุมงคลไปเสก ผมก็ลืมไปแล้วว่าอะไร ..แหะๆ น่าจะเป็นเบี้ย ตะโพน ล็อกเก็ต เลยได้ร่วมพิธีเขา พอหลวงปู่เสกเสร็จ เลยนิมนต์ท่านแจกคนในห้อง มีหลายคน ทั้งพระ และฆราวาส ท่านให้หยิบจากพานหน้าท่าน ส่วนของผม ผมขอเอาใส่มือท่าน ยกเหนือหัวให้ท่านประสิทธิให้ ใครได้ไป เหรียญนี้ ดีมากหลายอย่าง
    ๑) พระเสกให้เพียบ หลวงพ่อแม้นเสก ตลอดในพรรษาปี ๒๕๕๖
    ๒) หลังจากนั้น จัดพิธีอีก ๗ วัน ๗ คืน ถ้าจำไม่ผิดเป็นพิธี รุ่นเหรียญเศรษฐี นิมนต์พระมาเสกเพียบ พระเก่งๆ จำได้มีหลวงพ่อรวย หลวงปู่เพิ่ม พระทางอีสาน ฯลฯ
    ๓) หลวงปู่เล็ก เสกให้ อีกที ตอนนั้นท่านยังแข็งแรงอยู่มาก กราบเรียนท่านว่าเป็นเหรียญหลวงพ่อจง ท่านยังเล่าให้ฟังอีกว่าเคยไปหาหลวงพ่อจง เคยไปงาน งานหนึ่ง นั่งเรือไปกับหลวงพ่อจง เผอิญ ผมไม่ได้ถามต่อ แต่จะบอกว่า พระผู้เฒ่า กับพระหนุ่ม ตอนนั้นหลวงปู่เล็ก น่าจะ มีชนย์มายุ ๓๐ กว่าถึง สี่สิบต้นๆ กำลัง หนุ่ม ร่ำเรียนวิชา ชั้นยอดต่างๆ และ หลวงพ่อจง เป็นพระผู้เฒ่าที่เป็นพหูสูตรด้านพระคาถาอาคม วิชาโบราณ อะไรจะเกิดขึ้น และ ท่านน่าจะรู้จักกันมา เพราะหลวงพ่อจงก็ไป วิเศษฯ หลายงานเพราะสนิทสนมกับพระหลายรูป เช่น หลวงพ่อคำ เป็นต้น ยุคนั้นใครมีงาน ปลุกเสก ในลำน้ำน้อย พระที่ต้องมานิมนต์ถ้ารู้จักกันดี คือ หลวงพ่อ จง เพราะชื่อเสียงคุณธรรม บารมี คาถาอาคมของท่านเกรียงไกรไปทั่วประเทศ และท่านมีวิชาเยอะ ตำราเพียบ สายพระฤาษี สายกรรมฐาน ฯลฯ พระแถวๆนั้นยุคที่ทันหลวงพ่อจง เป็นลูกศิษย์ท่านทั้งนั้น เช่น หลวงปู่เมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา พระอุปัชฌาย์องค์แรกของผม ก็เป็นศิษย์ หลวงพ่อจง ท่านนี้เก่งมาก หลวงพ่อ กวย ก็เป็นศิษย์หลวงพ่อจง ท่านไปเสกเหรียญหลวงพ่อจง หลังหลวงพ่อวัดน้อยให้ด้วย แอบบอก ศิษย์สายหลวงพ่อ กวย หลวงพ่อจรัญ ก็เป็นศิษย์ หลวงพ่อ จง หลวงพ่อ อั้บ วัดท้องไทร ก็เป็นศิษย์ หลวงพ่อจง ส่วนกับหลวงพ่อจงและ หลวงปู่เล็กจะเป็นรูปใด แต่น่าจะมี อะไร ๆ ติดมามั่ง ตามแบบคนชอบเรียน กับ คนไม่หวงวิชา แต่ผม ไม่กล้าถามจนผ่านมาถึงบัดนี้น่าเสียดายเหมือนกัน
    a.jpg a.jpg
    ๓) ในเหรียญ นอกจากมีรูป หลวงพ่อจง หลวงพ่อแม้น อาจารย์ศิษย์กันแล้ว ยังมีรูป หลวงปู่เอี่ยม เป็นพระนอน ในพระนอน ตรงอกท่านมี ผอบใส่กระดูกหลวงปู่เอี่ยมใส่ไว้ ( เชื่อกันแบบนั้น ) ส่วนรูปหล่อ หลวงปู่เอี่ยมในวิหาร เพื่อนกับผมช่วยกันสร้างหล่อไว้ ยังมีชื่อเพื่อนผมติดอยู่ หลวงปู่เอี่ยมมนี้ศักสิทธิ์มาก ตอนท่านมีสังขารอยู่ เคยทำน้ำมนต์รด หลวงปู่ ปั้น สมัยยังเป็นพระหนุ่มๆอยู่ หลวงปู่ปั้น วัดพิกุลฯนี้ รุ่นอาจารย์ของหลวงพ่อ ปูปานและ หลวงพ่อจงอีกทีน่ะครับ เพราะฉนั้นหลวงปู่เอี่ยมนี่เก่ามาก ระดับ อาจารย์ ของอาจารย์ หลวงพ่อจงอีกทีน่ะครับ หลวงปู่เอี่ยมท่านศักดิ์สิทธิ์มาก แต่วัดหน้าต่างนอกนี่ และ แถวนั้น ชื่อเสียงหลวงพ่อจง พระทองคำ กลบหมดทุกองค์ครับ คนเลยไม่ค่อยรู้ว่ามีของดีในวิหาร
    ผมกราบเรียนขออนุญาตหลวงพ่อแม้นก่อนสร้างเหรียญและ เอาแบบไปให้ท่านดู ท่านบอกว่าเป็นเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่เอี่ยมน่ะครับ หลวงพ่อท่านบอกเอง ผมไม่ได้จัดตั้งแต่อย่างใด
    จัดว่า มีศักศรีดิ์รุ่นแรกทีเดียวแต่นอกวัดสร้าง ตอน ผมถวายเหรียญเงินท่านไป หลวงพ่อแม้นท่านยังบอกว่าจะเลี่ยมทองเอาไว้ติดย่าม ถึงขนาดนั้นน่ะครับ ใครได้ไป ไปวัดหน้าต่างนอก เอาเหรียญให้ท่านดูได้ครับ ว่าเป็ฯเรื่องจริงหรือไม่ จะได้มั่นใจ เหรียญนี้เป็นเหรียญรุ่นแรก ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหน้าต่างนอก ท่านเป็นสมภารก่อน หลวงพ่อจง นานมาก ขนาดหลวงพ่อจงไม่น่าจะชาตะทัน ท่านเคยรดน้ำมนต์ให้ หลวงพ่อ ปั้น ( อาจารย์หลวงพ่อจงอีกที ) สมัยยังหนุ่มๆ ไปเรียน กทม กลับมา ( เรียนทางพระ ) หลวงพ่อปั้นท่านไปเรียนหนักไปทางวิปัสสนา กลับมา ญาติโยมนึกว่าท่านฟั่นเฟือน เลยเอาลงเรือไปหาหลวงปู่เอี่ยม ให้รดน้ำมนต์แก้ฟั่นเฟือน หลวงปู่เอี่ยมทำน้ำมนต์ให้ ขณะทำ ท่านมองเห็นอะไรท่านจึงเอ่ยว่า เอาน้ำมนต์คนบ้าไปรดคนดี แต่ก็ทำน้ำมนต์ต่อและรดให้ เหรียญนี้ปลุกเสก เจ็ดวัน เจ็ดคืน พร้อมกับเหรียญเศรษฐี หลวงพ่อ แม้น โดยมีพระอาจารย์หลักๆ เช่น หลวงพ่อ เพิ่ม วัดป้อมแก้ว ( ศิษย์หลวงพ่อ จง ) หลวงพ่อ เฉลิม วัดพระญาติ ( เก่งทางชาตรี ) หลวงพ่อ รวย หลวงพ่อ พูน อีกหลายท่าน ฯลฯ ปลุกเสกเสร็จ ผมถวายเหรียญท่านไป ๑๕๕๔ เหรียญให้พระอาจาร์แม้นแจกฟรี ท่านเอาไปแจกงานกฐินของท่าน ผมถวายเหรียญเงิน พระอาจารย์แม้นท่าน บอกชัดเจนว่าฉันจะเอาไปเลี่ยมติดตัว ( ขนาดพระอาจารย์น่ะครับ เพราะการปลุกเสกมีการเชิญ หลวงปู่เอี่ยม หลวงพ่อจงมาด้วย) ท่านบอกว่าเป็นเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่เอี่ยม นอกจากนั้น ผมนำมาให้ หลวงพี่วัดเงินทำพิธีไป จน ถึงวันไหว้ครู ลอยกระทง และที่สำคัญ ผมไปขออนุญาต หลวงปู่เล็กเอาไปร่วมพิธี ที่ วิชัยยุทธ ในวันที่ ๖ พ.ย. ๕๖ เอาเหรียญให้ท่านดู ท่านอนุญาต ให้เข้าร่วมพิธี เหรียญที่โชว์ เป็นเหรียญที่ผมถวายให้ท่านแจกฟรี ผมเลยของแจกมา ๑ เหรียญเอาฤกษ์ เอาชัย ฝ่ายครูบาอาจารย์ เหรียญนี้ดีมากครับ ฟรีตั้งแต่คิดทำ จนเอามาแจกครับ ขลังไม่ขลัง ท่านต้องพิสูจน์เองส่วนผมน่ะเตรียมเอาไปเลี่ยมหลังจากวันลอยกระทงครับ เพราะผมนับถือหลวงปู่เอี่ยมมาก ตอนบวช ผมไปหัดกรรมฐานต่อหน้า รูปพระนอนของท่านในวิหาร ยุคนั้น เงียบสนิท เปลี่ยววังเวง ไม่มีคนเดิน มีแต่หลวงปู่เอี่ยมให้ความเมตตาครับ
    จบประวัติคร่าวๆของหลวงปู่เอี่ยมที่ผมสัมผัส ใครไปวัดหน้าต่างนอกอย่าพลาดไปกราบท่านน่ะครับ ที่หวังๆไว้ หลวงพ่อจงอวยพระและ หลวงปู่เอี่ยมช่วยอีกทีจะสมหวังครับ

    P4CW4aIVB1WM34vKqwVcP2CJIfEqU6i9TUafGk60dAkR&_nc_ohc=WiUAGGrRqOkAX9Op8af&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg Zphz3Kc1D92AHCcP2c1Tzdq9bn3FWvw7BQne9n8GHgYs&_nc_ohc=WG84DZWPXxUAX_A8Xs0&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg LDaprA44l1jLAo40qOI4h89zkxLLOFuoMpJ5bsMXfysvJZyBVO0GSRN4e2UMiRamBwAdOZML&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg st6XaznVsCk_jB97DOqSO_n9vtZEI2oI62o16tfIIPxu&_nc_ohc=o0CtZTEiDkIAX_VqqUU&_nc_ht=scontent.fbkk2-4.jpg
    IMG_6378 (2).JPG IMG_6379 (2).JPG
     
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    พระโมฬี หลวงปู่เอี่ยม วัดหน้าต่างนอก

    เนื้อปูนเก่าแก่มาก เก่ายังกับพระสมเด็จเก่าๆเลยครับ หลวงปู่เอี่ยมนี่เป็นพระเก่าแก่มากน่ะครับ หลวงพ่อจงท่านไม่ทัน อาจจะเกิดไม่ทันด้วย เป็นไปได้ว่ารูปพระนอนนี่ ถ้าบรรจุอัฐิหลวงปู่เอี่ยมจริง พระนอนนี่ก็เก่าแก่ถึงจะสร้างทีหลัง
    อาจจะกว่ายุคหลวงพ่อจงเป็นเจ้าอาวาสอีกครับอีกครับ จัดเป็น วัตถุโบราณ พระพุทธรูปโบราณของวัดหน้าต่างนอกทีเดียว
    ใครไปวัดหน้าต่างนอกกราบ รูปหล่อหลวงพ่อจง หลวงพ่อแม้นแล้ว อย่าลืมไปกราบ หลวงปู่เอี่ยมน่ะครับ

    พระโมฬีดั้งเดิมของหลวงปู่เอี่ยมที่หักหล่นกับพื้นเดิม ยุคนั้นยังไม่มีใครสนใจ ที่หักก็หล่นกับพื้น ผมเก็บรวมรวมไว้ถวายหลวงพ่อแม้น เพราะกระจายอยู่ตามทางเดินจงกลม จะเดินไม่ได้ ท่านเลยหยิบให้มาองค์หรือสององค์ชักลืมๆ ก็เก็บไว้อย่างดีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    รูปอัดกระจก หลวงพ่อ บุญจันทร์ วัดถ้ำผาผึ้ง อ. ฝาง เชียงใหม่ ปี ๒๕๓๓


    แบบรูปอัดกระจกน่าจะมีรุ่นนี้รุ่นแรกและรุ่นเดียว ที่เคยเห็นจะเป็นเหรียญและ พระเครื่อง

    ผมทำเอง ๒๕ ปีมาแล้ว ( ถึงปี ๒๕๖๕ น่าจะ ๓๒ ปี ) ถวายท่านแจกฟรีส่วนหนึ่ง ส่วนผม แทบไม่เคยแจกใคร เนื่องจากมีน้อยคงไม่แพร่หลายเหมือน เหรียญและพระเครื่องอื่นๆ เห็นว่าท่านไม่ดัง เลยไม่ให้ไปไม่มีใครรู้จักเสียดายของ เลยเก็บมายาว ๒๕ ปี เลย
    ๑) เอาใส่ลังไป ถวายหลวงตาเล็กเสก ซ้ำให้อีกหลายครั้ง ๒) หลวงพ่อทรงก็เสกอีกด้วย ไปขอบารมีท่าน ไปเจอถึงเวลาเอามา แจกแถม หรือ ประมูลต่อ

    หลวงพ่อบุญจันทร์เป็นศิษย์หลวงปู่ชอบ น่ะครับ เป็นพระกรรมฐานรุ่นเก่า ผมเคยพาท่านไปหมอหลายครั้ง บาดแผลท่านเต็มตัวบนร่างกาย นิ้วหัวแม่โป้งแตก มาจากการธุดงค์ทั้งนั้นหมอที่โรงพยาบาลนนทเวชถามอาการ ถามกี่แผลๆ ท่านก็บอกไปธุดงค์มา ตกเขาบ้าง นิ้วแตกบ้างจนหมออึ้ง ผมอยู่ในตอนนั้นด้วย หมอบอกกับผมข้างนอกห้องว่า พระองค์นี้ผ่านศึกมาเยอะ มีแผลทั้งที่ หลังไหล่ สีข้าง แขนขา ต่างกรรมต่างวาระที่ได้แผลมา

    ร่ำลือกันว่าท่าน เป็นพระอริยบุคคล ระดับสูงสุด แนว ฉฬภิญโญ แบบหลวงปู่ชอบ เป็นพระมีฤทธิ์ ชอบสันโดษ อยู่ในป่า ไม่ค่อยเทศนาแบบหลวงปู่ชอบ และกระดูกท่านเป็นแก้วพระธาตุ

    รูปนี้ทันท่านแบบฟันธง ผมทำเอง...แหะๆ
    ลงในพลังจิต หน้า ๓๐๗๗ แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2015
    ..............................................
    รุปนี้ผมถ่ายเอง ขออนุญาตท่านถ่ายที่ กุฏิหลังใหม่ของท่านที่พึ่งสร้างเสร็จ บนหน้าผาถ้ำผาผึ้ง ท่านเลยนุ่งจีวรรัดกุมแล้วจึงอนุญาตให้ถ่ายได้
    ผมถ่สยด้วยกล้องโอลิมปัส ปัญญาอ่อน ด้วยฟิลม์สี ฟูจิ ความคนมชัดเลยได้แค่นี้แหละครับ ไม่ใช่มืออาชีพ
    ผมเอาไปอัดมาประมาณ สามร้อยรูป ไปจ่้างช่้างทำแสตมป์ ยางกดด้านหลังแถวสี่แยกราชเทวี แต่เสียดายที่ผมไม่ได้ ใช้หมึกแบบกันน้ำ ใช้หมึกธรรมดา พอมาติดกระจก หมึกที่กดจะจางไป เหลือดีๆไม่กี่อันเองครับ
    แล้วนำไปให้ท่านอธิษฐานให้ เจตนาจะเอาไปอัดกระจก แต่กว่าจะอัดกระจก พร้อม กลับไปน่าจะหลังปี ๒๕๓๕ ท่านเป็น อัมพาตมากแล้ว จึงไม่ได้ถวายให้ท่านไว้แจก ด้วยเกรงจะเป็นภาระท่านซ่ะอีก เลยเก็บไว้นานจนมาก แจกพวกที่บริษัทเชลล์และ ปตท สผ.ไปบ้าง จนมาเจอ ลป บุญศรี อาจารย์ของผม จึงเอาใส่ลังเหล็ก ไปขอบารมีเพิ่มหลายครั้ง มาเจอหลวงพ่อทรงเลยขอบารมีเพิ่มอีกครั้ง มีแจกไปบ้าง ไม่มาก เพระาคนไม่รู้จักเกรงจะไม่รู้ค่าเอาไปวางทิ้งเรี่ย หายไป น่าเสียดาย
    จนมาครั้งสุดท้ายประมาณปี ๒๕๑๙ FC ชาวเหรียญบินช่วยกันทำเหรียญรุ่น ๒ ถวาย หลวงปู่ครูบาแก้ว ให้ท่านแจกฟรี ในงานของ วัด ตามแต่อัชฌาศัยของท่าน ผมเลยฝากรูปอัดกระจกทั้งหมด แบ่งเป็นสองถุงไปปลุกเสกโดยหลวงปู่ครูบาแก้วอีกครั้ง หลวงปู่ครูบาแก้ว เป็นคนไทยใหญ่มาจากแม่อาย อำเภอฝาง เป็นศิษย์สายตรงของหลวงพ่อบุญจันทร์ที่เคร่งครัดมากในพระธรรมวินัยและ มีวิชาอาคมตามแนวพวกไทยใหญ่ สมัยเป็นนายฮ้อยท่านเก่งด้านนี้มาก่อนบวชแล้วครับ จัดว่าตรงสายของหลวงพ่อบุญจันทร์เลยครับ
    หลังจากเสกเหรียญรุ่น ๓ เสร็จ ถวายครึ่งหนึ่งให้หลวงปู่ครูบาแก้วแจกศิษย์ของท่าน อีกครึ่งผมรับกลับมา แจกไปบ้างหลายท่าน และ แจกพวก FC กระทู้เหรียญบินฯ ในงานประมูลต่างๆ แถมมั่ง แต่ของมีน้อย แจกไปไม่มากก็ใกล้จะงวดเต็มที่

    IMG_3658 (2).JPG IMG_3656 (2).JPG IMG_3659 (2).JPG IMG_3660 (2).JPG


    แบบสองหน้าพิเศษ ตรงกลางใส่เส้นเกศาท่านทำน้อยมากแจกพวกๆกันเอง ตอกโค็ดแยกต่างหาก

    IMG_3662 (3).JPG IMG_3662 (3).JPG
     
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    เหรียญหลวงพ่อจง วัดสิงห์สุทธาวาส ๒๕๑๖

    มีเหรียญจะแนะนำ เหรียญน่ะครับ ท่านที่นับถือหลวงพ่อกวย ทางด้านพุทธคุณ ไม่เน้น ด้านรูปแบบที่เขานิยม แนะนำเหรียญนี้เลยครับ หรือพระสมเด็จพิธีนี้ ไม่แพงเหมือนของวัด
    ปลุกเสก โดยหลวงพ่อกวย ชัวร์ หลวงพ่อกวยท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อจงอีกรูปหนึ่ง ท่านมาเล่าเรียน กับหลวงพ่อจงประมาณ ปี ๒๕๐๕/ ๒๕๐๖ ปลายๆอายุของหลวงพ่อจงแล้ว
    มีหลวงพ่อกวยแล้ว นอกจากนั้น ตามโบชัว์ ยังมีหลวงปู่โต๊ะ ลพ แดง วัดเขาบันไดอิฐ อันนี้ อาจจะจริง แต่ท่านก็อายุมากแล้ว แต่ พระถ้าเรื่องช่วยกัน มาได้ท่านมากันน่ะครับ หลวงพ่อผาง น่ะ ตามข่าวที่สืบทราบมาแน่ๆครับ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม อีก ระดับตำนานทั้งสิ้น

    เหรียญนี้ถ้าออกเร็วกว่านั้น ๘ ปี คือ ทันหลวงพ่อจง ตอนนี้ราคาเป็นหลายหมื่นแน่ะ แต่รวมศิษย์สายหลวงพ่อจงเลยครับ เก่งๆทั้งนั้นเช่นหลวงพ่อ สังข์ วัดน้ำเต้า หลวงพ่อเมี้ยน ฯลฯ

    ในปี พุทธศักราช 2516 วัดสิงห์สุทธาวาส ได้สร้างวัตถุมงคลเพื่อให้ประชาชนได้บูชาหาเงินมาบูรณะวัด มีพิธีพุทธาพิเศก 3 วันมีคณาจารย์ที่มาปลุกเสกเป็นจำนวนมาก
    (ทีสำคัญพิธีพุทธาพิเศกนี้ได้มีการรวมตัวครั้งใหญ่ที่สุดของศิษย์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ภายหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพลง ในพิธีได้มีการอัญเชิญบารมีหลวงพ่อจง ท่านลงมาเพื่อทำการปลุกเสกอีกด้วย)
    ได้มีรายการสร้างตามที่รวมรวมมาดังต่อไปนี้

    1.เหรียญเสมา ได้สร้างเอาไว้ 2 พิมพ์เล็ก - ใหญ่เหรียญเสมาหน้าหลวงพ่อจงครึ่งองค์หลังหลวงพ่อวัดน้อย สั่งปั้มมาจากโรงงานจำนวนประมาณ 5000 เหรียญ มีด้วยกันหลายเนื้อเเบ่งเป็น

    เนื้อเงิน (สร้างน้อยมาก)

    เนื้อทองคำ (สร้างน้อยมาก)

    เนื้อทองเหลีอง(ฝาบาตร) กะไหล่เงิน กระไหล่ทอง

    เนื้อทองแดง กะไหล่เงิน กระไหล่ทอง

    2.พระกริ่ง พระกริ่งนี้ได้ขอเช่าต่อมาจากวัดไร่ขิง แล้วนำมาตะไบหลังออก (ฐานพระด้านหลัง) ทำให้หลังพระกริ่งปี 16 มีรอยตะไบ สิ่งที่ตะไบออกคือชื่อวัดไร่ขิงทางวัดได้นำมาประมาณ 1000 กว่าองค์ และได้นำเข้าพิธีพุทธาพิเศกในปี 2516 นี้ด้วยมีกด้วยกันหลายเนื้อดังนี้

    เนื้อเงิน

    เนื้องทองคำ

    เนื้อทองแดง กะไหร่เงิน กะไหล่ทอง

    เนื้อทองแดงรมดำ

    3.พระสมเด็จ ได้นำมวลสารสำคัญจาคณาจารย์ที่มาปลุกเสกในปี 2516 มาเป็นส่วนผสมมีทัง ผงปัถมัง อิฐิเจ ตรีนสิงเห มวลสารสมเด็จวัดระฆัง ผงของหลวงพ่อกวย มวลสารเก่าหลวงพ่อ ปาน หลวงพ่อจง หลวงปู่โต๊ะ ผงตะไบเงินตะไบทอง มวรสารจากศาสนสถานสำคัญหลายแห่ง และมวลสารที่ถูกนำมาจากคณาจารย์นภาคต่างๆที่เข้าร่วมพิธีพุทธพิเศก มีด้วยกันหลายพิมพ์ เนื้อพระจะคมเพราะตอนผสมมวรสารมีความเหลวของมวรสารเมื่อกดลงพิมพ์ทำให้พระคม ด้านหน้าเป็นพิมพ์พระประธานแบบต่างๆ
    หลังปั้มตราวัดสิงห์สุทธาวาส ลงแล๊กเกอร์ พระมีลักษณะหนาเป็นพิเศษ มีด้วยกันดังนี้

    ---สมเด็กพิมพ์ใหญ่ แหวกม่าน ขาโต๊ะ เกศไชโย แข้งหมอน ฐานแซม สมเด็จใบโพธิ์

    ---สมเด็จพิมพ์เล็ก

    4.แหวนหลวงพ่อวัดน้อย เป็นกะไหร่เงิน เนื้อด้านในเป็นทองเหลืองและทองแดง ชุบ นิ๊กเกิล ด้านหน้าหลวงพ่อวัดน้อย มีด้วยกันหลายแบบหลายขนาด เป็นโล่รูปอาร์มแขน มีทั้งแบบอาร์มมีขอบ และไม่มีขอบ

    5.ล๊อกเก็ตกระดาษหลวงพ่อวัดน้อย เป็นล๊กเก็ตรูปไข่ มี 2 ขนาด เล็ก-ใหญ่ ด้านหน้ารูปหลวงพ่อวัดน้อย ด้านหลังมีสิงห์

    6.พระพุทธรูปบูชา ฐานป้ำตราวัดสิงห์สุทธาวาส เนื้อทองเหลือง มีขนาด 5 นิ้ว 9 นิ้ว

    7.สมเด็จ พญาไม้งิ้วดำ

    8.งาเเกะรูปสิงห์ และ สมเด็งาเเกะ

    ในปี พุทธศักราช 2516 วัดสิงห์สุทธาวาส ได้สร้างวัตถุมงคลเพื่อให้ประชาชนได้บูชาหาเงินมาบูรณะวัด มีพิธีพุทธาพิเศก 3 วันมีคณาจารย์ที่มาปลุกเสกเป็นจำนวนมาก (ทีสำคัญพิธีพุทธาพิเศกนี้ได้มีการรวมตัวครั้งใหญ่ที่สุดของศิษย์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ภายหลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพลง ในพิธีได้มีการอัญเชิญบารมีหลวงพ่อจง ท่านลงมาเพื่อทำการปลุกเสกอีกด้วย)

    เหรียญรุ่นนี้มีจำนวนสร้างรวมกันทุกเนื้อประมาณ 5,000 เหรียญ พุทธาภิเศก 3 วัน โดยคณาจารย์เกจิในยุคนั้น อาทิ
    หลวงพ่อกวย วัดโฆษิตาราม ชัยนาท
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม
    หลวงพ่อเทียม หลวงพ่อออด อยุธยา
    หลสงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    หลวงพ่อพริ้ง ลพบุรี
    หลวงพ่อเมี้ยน หลวงพ่อฟ้อน หลวงปู่ทิม หลวงพ่อจำปา หลวงพ่อชื้น หลวงพ่อวาสน์ หลวงพ่อโกย อยุธยา
    หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ
    หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    หลวงพ่อสังข์ วัดน้ำเต้า
    หลวงปู่กี๋ หลวงปู่หน่าย หลวงพ่อผาง และคณาจารย์ในยุคนั้นหลายท่าน

    อ้างอิง
    https://www.facebook.com/910430902334228/posts/1323350067708974/ุ

    IMG_3648 (2).JPG IMG_3647 (2).JPG IMG_3651 (2).JPG IMG_3652 (2).JPG IMG_3653 (2).JPG IMG_3654 (2).JPG
     
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    ในรูปพระคณาจารย์ต่างๆรวมทั้งหลวงพ่อทรง กำลังนั่งรอเข้าโบสถ์ทำพิธี หรือ รอฤกษ์ ผมชักเลือนจำได้แค่งานใหญ่ อาจจะรอรอบก็ได้ ให้พระคณาจารย์รอบที่แล้ว เสร็จพิธี รอบนี้ หลวงพ่อและคณะก็เข้านั่งปรกต่อ
    ในส่วนกลาง แทบไม่มีคนรู้จักหลวงพ่อเถื่อน เลยเหมือนหลวงพ่อวัดน้อยที่อยูธยา แต่คนพื้นที่เลื่อมใสกันมานานมาก
    หลวงพ่อเถื่อนนี่ท่านเป็นพระสงฆ์น่ะครับ
    เก่าแก่ขนาดเป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์
    หลวงพ่อเถื่อนท่านเป็นอุปัชฌาย์และอาจารย์ของหลวงพ่อภักวัดโบสถ์ท่านมาสร้างวัดป่าพระเจ้าและได้สร้างพระพุทธรูปไว้ก่อนจะเกิดภัยแล้งท่านจึงไปสร้าง วัดหลวงที่ อ. วิเศษชัยชาญ วัดป่าพระเจ้าจึงกลายเป็นวัดร้างจนหลวงพ่อได้มรณะภาพลงในประมาณปี2443-2446 ต่อมาได้มีหลวงพ่อชิตและชาวบ้านเข้ามาบูรณะวัดป่าพระเจ้าขึ้นมาใหม่
    ชาวบ้านจึงเรียกพระพุทธรูปในวิหารว่าหลวงพ่อเถื่อน
    ประวัติหลวงพ่อชิต เกิดวันที่ 6 พฤศจิกายน 2464 อุปสมบท ปี .พ.ศ. 2494 เป็นผู้เข้ามาพัฒนาวัดป่าพระเจ้าที่เดิมเป็นวัดร้างและเป็นเจ้าอาวาสในปี พ.ศ. 2514 เป็นเจ้าคณะตำบล และปรึกษาเจ้าคณะตำบลปลายนาตามลำดับ มรณภาพในปี พ.ศ. 2555 สิริอายุรวม 91 ปี
    อ้างอิง

    https://th.wikipedia.org/.../%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94...
    Z17ckxqeYmnM2y3kL8t-UG3hcZjPZ8nYA-tehovofyRP&_nc_ohc=8-ruYjEFX0sAX_Kdcps&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg

    jyQQyhxz8bsTpTWTRlCM0Gf4oVBEVxijjv43JqxMMc7V&_nc_ohc=PjhBE2QvPtgAX_UcL6d&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg

    FezXPcNT0ejEzPUKMxoxno0L-1ZHDv5OGDXPSxg03Oh-&_nc_ohc=EHApghSs1B0AX_3MWdb&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg

    9-p_Xy9btZkgO4mzLHRsKPkZK9wFbd-rpgRFxl84Gl0m&_nc_ohc=hu45O7GkpK0AX_XTXPF&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg

    0o6Ozewm0QZzsd2j8ELQuITGelYJSkcn5A7TJ-c3otlZ&_nc_ohc=0osa0Mja_MUAX_gjgdu&_nc_ht=scontent.fbkk2-3.jpg
     
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    พระบูชาทรงอู่ทอง ปางมารวิชัย ฐานบัวมีผ้าทิพย์
    หลวงพ่อเถื่อน วัดป่าพระเจ้า จ.สุพรรณบุรี
    เนื้อโลหะ รมดำมันปู
    หน้าตัก 5 นิ้ว สูงรวม 9.5 นิ้ว
    งานเทหล่อโลหะบาง เข่านอก
    ผมหาประวัติไม่เจอ ต้องเขียนเอง งานพิธีพุทธาภิเศก
    ในวันที่ ๒๒ เดือนมิถุนายน ปี ๒๕๔๘
    หลวงพ่อได้รับนิมนต์ไปงานพิธีพุทธาภิเศกตามรูป ผมเลยขับรถตามไปด้วยไปร่วมเข้าพิธี เป็นพิธีใหญ่ พระเขตสุพรรณและ วิเศษชัยชาญตรงรอยต่อมากันหลายองค์มาก ผมหาประวัติไม่มี ว่ามีใครบ้างแต่แถวๆนั้นน่าจะถูกนิมนต์มาหมด เพราะหลวงพ่อเถื่อนเป็นพระพุทธรูปที่คนนับถือมากในท้องที่
    หลังพิธีผมเลยช่วยวัดบูชาพระพุทธรุป และ เหรียญมา มีรูปถ่ายอัดปลาสติกด้วยลืมบูชามาด้วย
    ตามหลวงพ่อกลับมาที่วัดเลยนิมนต์รับกับมือหลวงพ่อท่านจาร ให้รอบฐาน
    นะ โม พุท ธา ยะ นะ ชา ลี ติ มะ อะ อุ ตามรุูปครับ หลวงพ่อท่านจารพระพุทธรูปและเหรียญแล้วเสกให้อีกที่ รับมากับมือครับ
    พระพุทธรูปเทได้สวยและเทได้บางดีมากครับ

    256096 (2).jpg เปิดดูไฟล์ 5934190 256095 (2).jpg 256094 (2).jpg 163265 (2).jpg 163266 (2).jpg 256095 (2).jpg 163267 (2).jpg 163268 (2).jpg IMG_8712.JPG IMG_8713.JPG IMG_8714.JPG IMG_8709.JPG IMG_8710.JPG IMG_8711.JPG
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 256092 (2).jpg
      256092 (2).jpg
      ขนาดไฟล์:
      188 KB
      เปิดดู:
      114
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    มีท่านทางบ้านถามถึงการปลุกเสก พระบนแพโบสถ์น้ำ หน้า ๑๓๗๗
     
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    หน้า ๓๑๐๘
     
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,295
    เหรียญหลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ รุ่นแรกพิมพ์ใหญ่
    ปี ๒๕๑๙
    หลวงพ่อเจริญ พระครูพิพัฒน์ศีลคุณ
    นามเดิม เจริญ นามสกุล ศีลขันธ์ เกิดเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2443 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ปีชวด ที่หมู่ 9 ตำบลตาลาน อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวัยเด็กอายุ9 ปี ได้ไปอยู่สำนักพระอาจารย์ง้วน วัดตาลานเหนือ ตำบลตาลาน อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ศึกษาหนังสือไทยกับพระอาจารย์ง้วน พระอาจารย์ใหญ่ในวัดนั้น
    ต่อมาโรงเรียนของวัดได้ตั้งขึ้นที่ศาลาการเปรียญโดยมีครูสำเภาเป็นผู้สอน จึงไปเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ ศึกษาอยู่ 4ปี มีความรู้อ่านออกเขียนได้ เทียบเท่ากับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ครั้นต่อมาอายุ 14ปี ได้ย้ายไปอยู่ สำนักพระอาจารย์ครุฑ วัดย่าน อ่างทอง ได้ศึกษาหนังสือขอมและเรียนสูตร สนธิ์ นาม กับพระอาจารย์ครุฑ 6ปีมีความรู้ อ่านเขียนหนังสือขอมได้ อายุ 19ปี ลาออกจากสำนักพระอาจารย์ครุฑ ไปช่วยบิดา-มารดา ประกอบอาชีพทางการค้าขายอยู่ 2 ปี
    พออายุ 21ปี ได้เข้ารับราชการทหารอยู่กับทหารราบ 13 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รับราชการอยู่ 2 ปี จึงออก จากราชการทหาร เมื่ออายุ 22ปี ได้อุปสมบท ณ วัดตาลานใต้ ในวันที่ 5 กรกฎาคม 2465
    พระครูสุทธาจารวัตร(อ่ำ) วัดตึกคชหิรัญศรัทธาราม เป็นพระอุปัชฌาย์
    พระอาจารย์อธิการกอน วัดตาลานใต้ เป็นกรรมวาจาจารย์ เมื่อบวชแล้วได้ศึกษาธรรมวินัยกับพระอธิการกอน วัดตาลานใต้และได้อยู่วัดนี้โดยตลอด
    เมื่อปีพ.ศ.2470 หลวงพ่อเจริญ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดตาลานใต้ ในปี 2493 ได้รับตราตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาปี2495 ได้รับตราตั้งเป็นพระครูพิพัฒน์ศีลคุณ
    หลวงพ่อเจริญ เป็นพระที่ปฏิบัติดีเป็นที่เลื่อมใสของบุคคลทั่วไป นอกจากนี้ท่านยังได้พัฒนาวัดและสิ่งก่อสร้างต่างๆจนเจริญสวยงาม
    หลวงพ่อเจริญ ได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 10พฤศจิกายน 2533 สิริรวมอายุได้ 90 ปี 6 เดือน 27วัน พรรษาที่ 74
    ถ้าเป็นเหรียญสายสุพรรณ สายนั้นเก่งป่านนี้ราคาหลักหมื่น
    ผมได้รับความรู้และอุดหนุน จากเซียนสายผักไห่ ชื่อ แก๊ก หรือ แจ็ค เป็นศิษย์ก้นกุฏิหลวงพ่อเจริญ เรื่องเหรียญรุ่นหนึ่ง เซียนแก๊กตระเวณหาขายเขามานานมาก หาไปตามบ้าน เป็นคนคิดมุข พิมพ์นิยมเองเป็นคนแรก ตามแนว เซียนพระ จะได้ดันให้มีพิมพ์แพง และ ของแท้แต่ ไม่ใช่พิมพ์นิยม ซื้อได้ถูกกว่า เขาบอกผมเองว่ามุขผมเอง ให้ ล บี้เป็นพิมพ์นิยม เพื่อที่จะซื้อ พิมพ์ไม่นิยม ได้ถูกกว่า
    ตกลงถ้าแนวพุทธคุณหลวงพ่อเสกมาพร้อมกันนั่นแหละครับ ในปี ๒๕๑๙
    แต่ถ้าซื้อขายก็ตามเซียนพิมพ์นิยมจะแพงกว่าครับ
    ทำนองแบบตัดนิยม ผมเอาพิมพ์ธรรมดา นิยมน้อยกว่า มาแสดงให้ดูก่อน
    T0xI2COwPvs-pYT18PCZXeGSlXATjSVTvzurG-A0pqj&_nc_ohc=AGyUh-rKLLoAX-SEAax&_nc_ht=scontent.fbkk29-1.jpg

    wXEsAlldyy0wFQRONWxQ3qWmyFBbnI2kgcsNxTLmmC_&_nc_ohc=TeIX-MoYc_0AX8_XxMY&_nc_ht=scontent.fbkk29-2.jpg

    sU_lzCGnKoE9PtQBUCeiTJT&_nc_ohc=3mjoYbnG_uYAX8OfnoZ&tn=xf_11MuxMDJ1gQXE&_nc_ht=scontent.fbkk29-1.jpg

    BjDsFMw0Ds1QSklLsTgKoLs1AHT3eaGnlkC1BfyBUec&_nc_ohc=REpJ2ql4XlIAX-3BSF8&_nc_ht=scontent.fbkk29-2.jpg

    KX6waODm36N0nMKvZxVIuN9&_nc_ohc=kbndj-1Ej60AX8fOSaJ&tn=xf_11MuxMDJ1gQXE&_nc_ht=scontent.fbkk29-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มิถุนายน 2022

แชร์หน้านี้

Loading...