เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 17 มกราคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,582
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,582
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ เมื่อวานนี้ช่วงเช้าได้ไปปลุกเสกวัตถุมงคลที่วัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ร่วมกับท่านเจ้าคุณหลวงตา พระราชภาวนาพัชรญาณ วิ. ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี เจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) และพระครูปลัดสมนึก สุธมฺมถิรสทฺโธ เจ้าอาวาสวัดจันทาราม (ท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี

    วัดอุทยานนั้นเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดนนทบุรี ครูบาอาจารย์ในอดีตที่มีชื่อเสียงโด่งดังคือหลวงปู่เพิ่ม ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมยุคสมัยเดียวกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ตามประวัติว่าแม้แต่หลวงปู่ปาน วัดบางนมโคก็เคยไปขอแลกเปลี่ยนวิชากับหลวงปู่เพิ่มด้วย ลูกศิษย์หลวงปู่เพิ่มที่มีชื่อเสียงก็ได้แก่ หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง หลวงพ่อสนธิ์ วัดปราสาท เป็นต้น

    โดยธรรมเนียมของการปลุกเสกวัตถุมงคลในสถานที่อื่น นอกจากกราบขออาราธนาบารมีพระแล้ว ก็ต้องขอบารมีครูบาอาจารย์ในบริเวณนั้นให้มาช่วยเหลือด้วย ปรากฏว่าหลวงปู่เพิ่มท่านมา แล้วท่านบอกว่า "ขอให้ช่วยก็จ่ายตังค์มาด้วย เพราะว่าสมัยนี้นิยมกันแบบนี้" กระผม/อาตมภาพก็บอกว่า "ถ้าเอามากก็ไม่ไหวนะครับ" ท่านบอกว่า "บาทเดียวก็พอ"

    กระผม/อาตมภาพคำนวณดูแล้วว่ายุคสมัยของหลวงปู่ท่าน ก๋วยเตี๋ยว ๒ ชาม ๕ สตางค์ บาทหนึ่งก็ตกราว ๆ ๑,๖๐๐ บาทของสมัยนี้ แต่ท่านบอกไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้ เมื่อพุทธาภิเษกเสร็จ จึงถวายท่านไป ๑,๐๐๐ บาทของยุคนี้ เรียกว่าให้ไม่ถึงบาทในของยุคของท่าน

    เรื่องของครูบาอาจารย์ บางทีท่านก็เล่นสนุกด้วย เพียงแต่ว่าของพวกเราเอง ถ้าหากว่าเอ่ยปากแล้วก็ควรที่จะทำตามนั้นอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการปลุกเสกวัตถุมงคล ถ้าหากว่าได้เจ้าของวัตถุมงคลก็ดี ได้ครูบาอาจารย์ของสถานที่นั้นก็ดี มาร่วมงานด้วย ก็จะทำให้งานทุกอย่างง่ายขึ้น สะดวกขึ้น
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,582
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    โดยเฉพาะงานนี้ ท้าวจาตุมหาราชทั้ง ๔ มากันโดยถ้วนหน้า กระผม/อาตมภาพก็ยังสงสัยอยู่ เพราะว่าโดยปกติแล้ว บางทีก็จะมีท่านท้าวธตรฐมาองค์เดียว หรือว่าท่านท้าวเวสสุวรรณมาองค์เดียว ปรากฏว่าท่านท้าวเวสสุวรรณชี้ให้ดูในกองวัตถุมงคลบอกว่า "นั่นรูปพวกผมเกือบทั้งนั้น" พอมองเข้าไปแล้วถึงได้เห็นบาตรน้ำมนต์ ปรากฏว่าฝาบาตรเขาทำเป็นรูปท้าวจตุโลกบาลแบกพระ ก็ยังขำ ๆ ว่า ภาระนี้ใหญ่หลวงนัก เพราะถ้าหากว่าแบกพระก็เท่ากับแบกพระพุทธศาสนาไปด้วย

    ต้องบอกว่าเรื่องของภาระเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาเป็นภาระโดยตรงของพวกท่านอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าในระยะนี้ สถานการณ์ของโลกและสถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยดี ถ้าหากว่าจะพกพาวัตถุมงคลอะไร ถ้ามีรูปของพวกท่านอยู่ด้วย ก็เท่ากับว่ามอบภาระให้ท่านช่วยดูแลโดยตรง

    คราวนี้ท้าวเวสสุวรรณท่านบอกว่า ถ้าหากว่าเป็นสายอื่นก็แล้วไป แต่ว่าถ้าเป็นสายของหลวงพ่อวัดท่าซุง หรือหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคแล้ว ในเรื่องของการปฏิบัติตนเพื่อความเป็นพระโสดาบันนั้นสำคัญที่สุด ถ้าหากว่าใครปฏิบัติตนเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ท่านจะให้บริวารตามคุ้มครองตลอดชีวิต แต่เพื่อความแน่ใจ วัตถุมงคลนั้น ๆ ก็ให้ติดรูปของท่านไว้สักนิดหนึ่ง พูดง่าย ๆ ก็คือเหมือนกับมีนามบัตรเจ้านาย ลูกน้องก็จะได้เกรงใจ ขอความช่วยเหลือได้ง่าย

    กระผม/อาตมภาพจึงได้เรียนถามท่านว่า "ควรจะเป็นวัตถุมงคลรุ่นไหน ?" ท่านบอกว่า "รุ่นไหนก็ได้ที่ท่าน (คำว่าท่านคำนี้คือกระผม/อาตมภาพเอง) ได้ขอบารมีพระและอัญเชิญให้พวกผมมาร่วมเสก"
    กระผม/อาตมภาพก็ว่า ถ้าอย่างนั้นก็ไม่หนักใจ เพราะว่ามีหลายรุ่นมาก ท่านก็บอกว่า ถ้าหากว่ามีน้อยก็จะไม่สั่งอย่างนี้เหมือนกัน เพราะว่าจะกลายเป็นวัตถุมงคลขึ้นราคาและของแพงโดยใช่เหตุ

    ตรงจุดนี้ ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ในเรื่องที่พระ หรือว่าพรหม หรือเทวดา ท่านให้พรอะไรไว้ ถ้าหากว่าเราตั้งใจกระทำตามกฎเกณฑ์กติกาของท่าน ท่านก็เต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือ

    โดยเฉพาะกฎเกณฑ์กติกาของสายหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้นสูงมาก คือตั้งใจให้ปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบัน ได้แก่ การมีความเคารพในพระพุทธเจ้าจริง ๆ มีความเคารพในพระธรรมจริง ๆ มีความเคารพในพระสงฆ์จริง ๆ ตั้งใจรักษาศีลตามสภาพของตนให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นศีล ๕ ศีล ๘ ศีลหรือกรรมบถ ๑๐ ศีล ๒๒๗ เป็นต้น และท้ายที่สุดให้รู้ตัวอยู่เสมอว่าจะช้าจะเร็ว เราก็ต้องตาย ถ้าหากว่าตาย เราขอมีที่ไปแห่งเดียว คือพระนิพพาน
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,582
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    ในเรื่องนี้ แม้แต่สมเด็จพระศรีอริยเมตไตรยท่านก็เคยบอกเอาไว้ว่า ถ้าหากว่ารักษากฎเกณฑ์กติกาเหล่านี้เอาไว้ได้ เผลอหลุดไปเกิดในยุคสมัยของท่าน ท่านจะช่วยอนุเคราะห์สงเคราะห์ เทศน์จบเดียวก็เข้าสู่พระนิพพานได้เลย เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ บางท่านก็กำหนดจดจำได้ บางท่านก็หลงลืมไปนานแล้ว

    ตัวกระผม/อาตมภาพเอง ระยะหลังก็ได้รับการสงเคราะห์จากท่านปู่ท้าวเวสสุวรรณอยู่มาก อยู่ในลักษณะที่ท่านคอยตามดูแลใกล้ชิด เนื่องเพราะว่าอายุกาลผ่านวัยมา ปีนี้ก็ถึง ๖๓ ปีแล้ว อาจจะมีการหกล้มหกลุกเสียเมื่อไรก็ได้ ก็ยังเกรงใจว่ามีเทวดาผู้ใหญ่ระดับนั้นคอยตามดูแลอยู่ไม่ห่าง มีโอกาสก็ต้องกราบขอบพระคุณและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ท่านอยู่เสมอ ๆ

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ที่เล่าให้ฟัง เพื่อที่จะให้ท่านได้มั่นใจว่า ไม่ว่าสถานการณ์ของโลกและสถานการณ์ของประเทศชาติจะลำบากขนาดไหนก็ตาม ถ้าหากว่าพวกเราตั้งใจประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมโดยสมควรแล้ว เรื่องของพรหม เทวดา เรื่องของครูบาอาจารย์ ท่านยินดีที่จะช่วยเหลือในการรักษาตัวเรา ตลอดจนกระทั่งคนที่เรารักให้อยู่รอดปลอดภัย

    สำหรับช่วงท้ายนี้ก็อยากจะเตือนท่านทั้งหลายว่า ตัวกระผม/อาตมภาพเองได้เทขายเงินดอลล่าร์ทุกดอลล่าร์หมดเกลี้ยงไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งหลายท่านก็ไม่สงสัยว่าเป็นเพราะอะไร แต่ปีนี้ควรที่จะสงสัยเอาไว้บ้าง เนื่องเพราะว่าในส่วนของสงครามการค้าก็ดี ในเรื่องของสงครามอาวุธก็ตามเกิดได้ทุกเวลา ตัวเราทั้งหลายถ้าหากว่ารู้จักขยับขยาย รู้จักหาทางหนีทีไล่เอาไว้ เหมือนกับภาษิตจีนที่บอกว่า "กระต่ายที่ฉลาดมี ๓ โพรง" ก็แปลว่าอย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีทางหนีทีไล่เอาไว้ ๒ ทาง ๓ ทาง เป็นต้น
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,582
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ บางทีถ้าหากว่าบอกมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ท่านทั้งหลายตระหนกตกใจโดยใช่เหตุ แล้วบางเรื่องรู้มาก็ไม่ใช่ว่าจะพูดได้ทั้งหมด ก็ได้แต่ "บอกเล่าเก้าสิบ" กันเฉพาะในส่วนที่สามารถจะบอกกล่าวกันได้

    บ้านเราเมืองเราจะเข้าสู่ฤดูแล้งเร็วมาก ถ้าหากว่าเป็นไปได้ก็หาแหล่งน้ำสำรองเอาไว้บ้าง ซึ่งทางวัดท่าขนุนของเรานั้น
    กระผม/อาตมภาพได้ทำแหล่งน้ำสำรองเตรียมไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว และตอนนี้ก็ได้สร้างศาลานั่งเล่น ๘ เหลี่ยมเอาไว้บนอ่างเก็บน้ำอีก ๑ หลัง ถึงเวลาจะได้มีที่พักผ่อนหย่อนใจเพิ่มขึ้นอีกที่หนึ่ง เป็นต้น ถ้าหากเรามีการเตรียมพร้อม เรื่องอื่น ๆ ก็ไม่กระไรนัก

    โดยเฉพาะในส่วนที่ท่านทั้งหลายอยากจะซื้อรถใหม่ ขอให้อดทนเอาไว้สัก ๓ ปี ๕ ปีให้ระบบรถไฟฟ้าเข้ามาให้เรียบร้อยเสียก่อน เมื่อถึงเวลานั้นราคาก็จะถูกลงอยู่ในระดับที่จับต้องได้ และขณะเดียวกันเทคโนโลยีในการผลิตต่าง ๆ ก็จะก้าวหน้าขึ้น ทำให้รถทั้งหลายสามารถใช้ได้สะดวกขึ้น

    แม้แต่ตัวกระผม/อาตมภาพเองก็สั่งให้พระในวัดศึกษาเกี่ยวกับการตั้งปั๊มหัวจ่ายไฟฟ้า สำหรับชาร์จรถไฟฟ้าที่จะเดินทางมา ซึ่งถ้าบอกไปแล้วก็เหมือนอย่างกับเป็นเรื่องฟุ้งซ่าน เพ้อเจ้อ เนื่องจากว่ารถที่ใช้ไฟฟ้าจริง ๆ แทบจะไม่มีวิ่งมาทองผาภูมิเลย แต่ถ้าเราไม่เตรียมการล่วงหน้าเอาไว้ก่อน แล้วรถที่ไหนจะกล้ามา ? เป็นต้น

    สำหรับวันนี้ อีกสักครู่
    กระผม/อาตมภาพก็ต้องออกไปเป็นเจ้าภาพงานศพของท่านวิมละ อดีตเจ้าอาวาสวัดผาอ้นในนามของคณะสงฆ์ตำบลท่าขนุน เขต ๑ และตำบลท่าขนุน เขต ๒ ซึ่งตรงจุดนี้ จึงทำให้ต้องมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนก่อนเวลาอีกตามเคย

    จึงขอเจริญพรบอกกล่าวแก่ญาติโยมทั้งหลายที่ฟังอยู่แต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...