เรื่องเด่น ตะลึงงูโผล่ชูคอจุดพบศพ พระทำพิธีเรียกวิญญาณกลับวัดบ้านโนนเมือง คำชะโนด

​

ไร้ปาฏิหาริย์ เจอศพแล้วหนุ่มบ้านโนนเมืองคำชะโนด ระดมหา 5 วันจมฝายน้ำ ชาวบ้านตะลึง พระทำพิธีเรียกวิญาญาณกลับ งูเขียวตัวเขื่องโผล่ชูคอ ไม่มีท่าทางตื่นกลัวคนเป็นร้อย เชื่อเป็นปู่เขียวคำชะโนดมาร่วมส่งดวงวิญญาณ

วันที่ 27 ก.ค.2564 จากกรณีนายไพรัตน์ อายุ 45 ปี เกิดลื่นไถลตกน้ำไหลเชี่ยวกรากขณะมาดูฝายน้ำจมหายไป บริเวณฝายน้ำ เขตรอยต่อระหว่าง ต.บ้านจันทร์ และ ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยพยายามระดมค้นหามานานกว่า 5 วันแต่ยังไม่พบ

ล่าสุดเรื่องนี้ เมื่อเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยพบร่างนายไพรัตน์แล้ว ขณะที่รถแบ็กโฮกำลังลอกจอกหูหนูก้อนสุดท้ายบริเวณขอบสะพาน ปรากฏว่าบุ้งกี๋รถแบ็กโฮอุ้มร่างนายไพรัตน์ขึ้นมาด้วย ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัว โดยเฉพาะผู้เป็นพ่อ อายุ 85 ปี หลังทราบข่าวว่าลูกชายเดินทางมาที่ฝายน้ำ จุดธูปขอขมาเจ้าแม่ธรณีและทำพิธีโยนหมอนเสี่ยงทาย ซึ่งเป็นพิธีและความเชื่อโบราณในการตามหาคนหาย หากเสียชีวิตจะเป็นการเรียกวิญญาณกลับบ้าน พร้อมกล่าวผ่านเจ้าที่เจ้าทางว่า ” ลูกชายเอ๋ย กลับบ้านได้แล้วลูก อย่าทำให้คนอื่นลำบากค้นหา และเดือดร้อน “

​

จากนั้นครอบครัวนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดเรียกดวงวิญญาณกลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านโนนเมืองคำชะโนด ปรากฎว่าชาวบ้านและเจ้าหน้าที่พากันตกตะลึง เมื่อมีงูเขียวตัวเขื่องยาวประมาณ 80 ซ.ม.โผล่ออกมาบริเวณที่จุดธูปและพบศพ โดยงูตัวนี้ไม่มีอาการตื่นกลัวหนีลงน้ำทั้งที่มีคนจำนวนมาก พร้อมชูคอให้เห็น ชาวบ้านบางคนชื่อว่าเป็นงูเจ้าที่เจ้าทางหรือเป็นปู่เขียวคำชะโนดมาร่วมส่งดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตด้วย ก่อนงูเขียวค่อยๆ เลื้อยไปใต้รถกระบะกู้ภัย ทะเบียน ผธ 578 อุดรธานี

​

นายวรุตม์ วิศิษฏ์ศิลป์ นายอำเภอบ้านดุง เปิดเผยว่า จากการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตที่จมน้ำสูญหาย ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.2564 จนถึงวันนี้ ทีมค้นหาพบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว โดยใช้ระยะเวลาค้นหารวม 5 วันผมขอขอบคุณความร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย จิตอาสา และพลังของพี่น้องชาวบ้านดุง ที่ทำให้การค้นหาในครั้งนี้ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ขอให้ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตไปสู่สุขติ

​

ขอบคุณภาพจากเพจ บ้านดุงอัพเดท Bandung Update
ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6533228