วัตถุมงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับผม

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับผม

 

รายการที่ 181 พระปิดตายันต์ยุ่ง เนื้อตะกั่ว หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550

พระปิดตาชุดนี้หล่อที่บริเวณข้างโบสถ์วัดชายนา ในวันฉัตรมงคล โดยหลวงพ่อตัดท่านเป็นผู้เทชนวนเอง ภายหลังจากเทเสร็จ ตอกโค๊ดแล้ว หลวงพ่อก็ได้นำเข้ากุฏิไปปลุกเสกตลอดพรรษาปี 2550
พ้นพรรษาแล้วหลวงพ่อท่านก็นำมาแจกให้กับศิษย์ที่ช่วยออกทุนทรัพย์ในการสร้างพระปิดตาชุดนี้ราวๆ20-30คน หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยมีใครได้รับแจกพระปิดตาชุดนี้จากหลวงพ่อตัดมากนัก

พระอาจารย์ทินท่านบอกว่า หลวงพ่อตัดท่านชอบพระปิดตายันต์ยุ่งนี้มากแล้วก็หวงพอสมควร เพราะหลังจากที่แจกให้กับศิษย์ที่ช่วยออกทุนทรัพย์นี้แล้ว หลวงพ่อท่านก็อุ้มบาตรที่ใส่พระปิดตาชุดนี้เข้ากุฏิเก็บเงียบเลย

เป็นพระอีกหนึ่งพิมพ์ที่มีความสำคัญกับศิษย์วัดชายนามากครับ เพราะเชื่อกันว่าถ้าเป็นพระที่หลวงพ่อตัดท่านชื่นชอบแล้วจะไม่ธรรมดาแน่ๆ ประสบการณ์ก็ไม่เป็นรองรุ่นไหน ถือว่าเป็นพระอีกหนึ่งพิมพ์ที่สวย คลาสสิค ไม่มีออกมาให้หมุนเวียนเปลี่ยนมือกันนานแล้วและราคายังเบาๆน่าอาราธนาบูชามากครับ

องค์ที่นำมาแบ่งบูชานี้สภาพสวยไม่ผ่านการใช้ ตอกโค๊ดเพชรพญาธรคมชัด คราบเบ้าเดิมๆ อีกหนึ่งพิมพ์ที่แนะนำให้หาเก็บกันไว้บ้างครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 181 รูปเหมือนอุ้มบาตรเนื้อครั่งพุทรา หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2552

รูปเหมือนหลวงพ่อตัดอุ้มบาตรเป็นอีกหนึ่งพิมพ์ที่น่าอาราธนามากๆครับสำหรับยุคเศรษฐกิจแบบนี้ เพราะหลวงพ่อตัดท่านก็บอกศิษย์ว่า "ดี มีบาตรแล้วคนที่เอาไปใช้จะไม่อด"

แต่ผู้ที่บูชาก็ต้องหมั่นทำบุญตักบาตรด้วยถึงจะดี เหมือนกับกลอนที่หลวงพ่อตัดท่านเขียนด้วยลายมือท่านไว้ว่า

"ใครใช้ได้ผล ฝึกฝนบูชา
ทำบุญใส่บาตร อย่าขาดข้าวปลา
ผลไม้นานา ทำบุญส่งไป"

ความคิดส่วนตัวผม บทกลอนนี้ไม่ได้จำกัดแค่เพียงรูปหล่อ รูปเหมือนอุ้มบาตรนี้เท่านั้น แต่รวมๆคือวัตถุมงคลของหลวงพ่อตัดทุกอย่าง และครูบาอาจารย์ท่านอาจจะไม่ได้ต้องการอาหาร หรือเครื่องสักการะที่เราใส่บาตรไปให้ แต่การทำบุญใส่บาตรนั้นก็เพื่อฝึกตนลดความตระหนี่ถี่เหนียวในจิตใจของผู้บูชาเองครับ

องค์ที่นำมาแบ่งบูชานี้สภาพสวยสมบูรณ์ น้ำหนักไม่เยอะเพราะเป็นเนื้อครั่งพุทรา อาราธนาแขวนบูชาเดี่ยวๆได้สบายราคาเบาๆด้วยครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

จองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับผม

 

​

หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก พระอริยเจ้าแห่งเมืองลำปาง ผู้มีศีลาจารวัตรอันเคร่งครัดงดงาม เป็นที่เคารพนับถือของคนทุกระดับชั้นทั่วประเทศไทย มีภูมิจิต ภูมิธรรมสูงส่ง เป็นที่เชื่อมั่นได้อย่างสนิทใจว่า ท่านได้ก้าวเข้าสู่เขตอรหัตตมรรค อรหัตผลอย่างเต็มภูมิ ถึงขนาดที่หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เคยบอกกับลูกศิษย์ของท่านอยู่เสมอๆว่า ถ้าอยากพบอยากกราบพระอรหันต์ทรงปฏิสัมภิทาญาณ ให้ไปกราบหลวงปู่เกษม เขมโก ที่ลำปาง ทั้งยังเคยส่งลูกศิษย์เดินทางขึ้นไปกราบนมัสการหลวงปู่เกษม หลายครั้งหลายหน นอกจากนี้ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต พระอรหันต์กลางกรุงได้เคยบอกกับลูกศิษย์ของท่านก่อนที่ท่านจะมรณภาพว่า " ที่ลำปาง จะมีพระโสดา ลุถึงขั้นอรหันต์ มีที่พำนักอยู่ในสุสานป่าไผ่" ซึ่งเป็นการยืนยันได้ถึงภูมิธรรมอันสูงสุดของท่าน

เมื่อประมาณปี พศ. 2520 กว่าๆ ที่จังหวัดลำปาง มีชาวเพชรบุรีท่านหนึ่งชื่อ "โกชุ่น" แกได้อพยพถิ่นพำนักขึ้นไปทำมาหากินที่ลำปางมาหลายปี ก็ได้มีโอกาสเข้ากราบนมัสการหลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก ซึ่งในช่วงนั้นท่านยังมีสุขภาพที่แข็งแรง การเข้าพบเข้ากราบยังไม่ยากนัก

เมื่อกราบนมัสการเสร็จ โกชุ่นก็ได้ถอดวัตถุมงคลที่ห้อยบูชาอยู่เต็มคอพร้อมแจ้งความประสงค์ขอเมตตาให้หลวงปู่เกษมท่านมนต์(เสก)เพิ่มให้เพื่อความเป็นสิริมงคล พอถอดสร้อยวางไว้หน้าหลวงปู่เกษมแล้วนั้น หลวงปู่ท่านก็ได้หยิบพระมาองค์หนึ่ง คือ "เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อตัด วัดชายนา"
พระบ้านเกิดของโกชุ่นนั่นเอง และหลวงปู่ท่านก็ได้พูดกับโกชุ่นว่า

" พระนี่เขาทำมาดีแล้ว เจ้าของเขาเป็นโสดาบันนะ"

แล้วท่านก็มนต์ให้พร้อมกับคืนสร้อยพระนั้นกลับมาให้

จงบจนถึงปัจจุบันโกชุ่นเองก็ยังแปลกใจและมีความสงสัยว่าทำไมตอนนั้นหลวงปู่เกษมท่านเจาะจงเลือกเหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่อตัด วัดชายนาขึ้นมาพูดทั้งๆที่ในสร้อยนั้นก็เต็มไปด้วยพระดีมีราคาตั้งหลายองค์.....(ข้อมูลนี้ได้คุยกับโกชุ่นเมื่อราวปี พ.ศ. 2554)

ผู้รู้ได้กล่าวไว้ว่าการที่พระอริยเจ้าท่านจะกล่าวอย่างนี้ แสดงว่าท่านต้องการจะโปรดลูกศิษย์ ลูกหลานของหลวงพ่อตัด วัดชายนา ให้ทราบถึงภูมิจิต ภูมิธรรมของหลวงพ่อตัด ว่าก้าวเข้าสู่เขตแห่งพระอริยะแล้ว เพื่อมิให้ใครมาปรามาส หรือกระทำประมาทพลาดพลั้งสร้างกรรมหนักกับพระอริยบุคคล ด้วยประมาทคิดว่าหลวงพ่อตัดท่านเป็นพระหลวงตาบ้านนอก ธรรมดาๆ ซึ่งการที่หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษมท่านเมตตา นับว่าเป็นวาสนาอย่างสูงของศิษย์วัดชายนา

ถ้านับจากปี 2520กว่าๆ จนถึงหลวงพ่อตัด ท่านมรณภาพ เป็นระยะเวลาอีก 20-30 ปี เราไม่อาจจะล่วงรู้ได้ว่าท่านได้ก้าวเข้าสู่เขตพระอริยเจ้าชั้นใด แต่เป็นที่มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคล เหรียญ พระเครื่อง หรือเครื่องราง ชนิดใดก็ตามที่หลวงพ่อตัดท่านได้เมตตาปลุกเสกให้ จะไม่มีการเสื่อมฤทธิ์เด็ดขาด อธิษฐานขอได้ และคุ้มครองภัยได้จริง ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติตัว รวมไปถึงกรรมเก่าของผู้ห้อยบูชา เพราะทุกๆอย่างไม่มีอะไรเกิน " กฏแห่งกรรม " ซึ่งเป็นกฏของจักรวาล แม้แต่พระอริยเจ้าก็ไม่อาจพ้นไปได้

 

ปรากฏการณ์หลอมไม่ละลาย

เหตุการณ์นี้ได้เกิดขึ้นเมื่อตอนปี พ.ศ. 2560 จากกลุ่ม ณ เวียงพิงค์ ที่กำลังจัดสร้างเหรียญพระแก้วดอนเต้า มีการรวมรวมชนวนมวลสาร วัตถุมงคลดังๆต่างๆมากมายจากทั่วประเทศ
แต่มีวัตถุมงคลอยู่หนึ่งชนิดที่หลอมอย่างไรก็ไม่ละลาย คือตะกรุดตะกั่วหนึ่งดอก ธรรมชาติของตะกั่วเองนั้นมีจุดหลมเหลวที่ต่ำ เป่าไฟเพียงเวลานิดเดียวก็จะถูกหลอมละลาย แต่เปลวไฟที่มีร้อนแรงนับ 1,000 องศาเซลเซียสก็ไม่อาจจะทำให้ตะกรุดตะกั่วดอกนี้ละลายลงไปได้ ทั้งๆที่ชนวนมวลสารอื่นๆถูกหลมละลายลงไปหมดแล้ว

ตะกรุดนั้นคือตะกรุดของหลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี นับว่าเป็นอีกครั้งที่ทำให้คนในวงการพระ คนที่ชื่นชอบในเรื่องวัตถุมงคล เครื่องรางของขลังพูดถึงตะกรุดของหลวงพ่อตัด วัดชายนากันอย่างกว้างขวางครับผม

ขอบพระคุณภาพจากพี่เกตุ ณ.เวียงพิงค์มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

 

รายการที่ 183 ปลัดขิกไม้มะขามผูกคอตาย (เจ๊หนู) หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2550

ปลัดขิกเป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านถนัดมากที่สุด และท่านสำเร็จวิปลัดขิกมาตั้งแต่ยังหนุ่มๆ นอกเหนือจากปลัดขิกไม้มงคลทั่วไปแล้ว ทางวัดชายนาเองก็ได้รังสรรค์ปลัดขิกไม้ผูกคอขึ้นมาหลากหลายไม้ ซึ่งเคล็ดการทำปลัดขิกจากไม้ผูกคอนี้หลวงพ่อตัดท่านได้ไปเรียนกับหลวงพ่อชุ่ม วัดกุฏิ บางเค็ม โดยในสมัยที่ท่านยังอยู่ที่วัดเขากระจิว หลวงพ่อชุ่มได้รับนิมนต์มาปลุกเสกวัตถุมงคล และได้ปลุกเสกปลัดขิกจนปลัดขิกนั้นกระโดดออกนอกโบสถ์ หลวงพ่อตัดท่านเห็นดังนั้น ภายหลังจากพิธีปลุกเสกที่วัดเขากระจิวจึงไปฝากตัวเรียนกับหลวงพ่อชุ่มที่วัดกุฏิ บางเค็มจนสำเร็จ

ถามว่าไม้ผูกคอ มีอะไรต่างจากไม้มงคลหรือไม้อื่นๆ?

เคยมีคนนำเรื่องนี้ไปถามหลวงพ่อตัดท่านเหมือนกัน
หลวงพ่อตัดท่านตอบเป็นนัยๆมาว่า เป็นเคล็ดมาแต่โบราณ คือ “นะจังงัง” หรือ “ไม้เหลียวหลัง” เรียกว่าขนาดเดินเลยไปแล้วยังต้องหันกลับมามอง อะไรแบบนั้นเลยทีเดียว
วิชานี้ถือว่าเป็นวิชาที่ส่งต่อมาทางสาย ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็มีที่พยายามจะเลียนแบบเคล็ดวิชานี้ของหลวงพ่อตัด แต่ทว่ายังไม่มีสายไหนเสกได้ ทำได้ขลังเท่าของสายวัดชายนา

ซึ่งไม้มะขามผูกคอตาย นี้จัดว่าเป็นปลัดขิกไม้ผูกคอที่มีคนถามหามากที่สุดไม้หนึ่งเลยครับ เรียกว่าปัจจุบันนี้หายากกว่าไม้ประดู่หลายเท่านัก มีประสบการณ์หนาหูที่สุดอีกรุ่นหนึ่ง ทางเมตตา โชคลาภ ค้าขาย กันเขี้ยวงาได้อยู่หมัด หากอธิษฐานเป็นแล้วนั้นใช้บูชาตัวเดียวพอ

ในปัจจุบันหายากมากแล้วครับ หลายปีจะโผล่ออกมาหมุนเวียนเปลี่ยนมือสักตัว ที่ออกไปต่างประเทศก็ไม่น้อยแล้ว แถมใบสั่งบนห้างดังก็มีเพียบแต่หาของไม่ได้ เรียกว่าปลัดขิกของหลวงพ่อตัด วัดชายนาดังด้วยประสบการณ์แบบปากต่อปากล้วนๆไม่ต้องรอเซียนเชียร์

ปลัดขิกไม้มะขามผูกคอตาย(เจ๊หนู) ที่นำมาแบ่งปันตัวนี้จารทั้งเหล็กและหมึกจนแน่นทั้งตัว ไม่ได้ตอกโค๊ดแต่พระอาจารย์ทินท่านเขียนกำกับมาแต่เดิม ราคาย่อมกว่าแบบที่ตอกโค๊ดหน่อย แต่จะหาตัวต่อไปไม่ง่ายแน่นอน บูชาพกพาติดตัวเป็นผู้เคียงข้างตัวเดียวจบครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

รายการที่ 184 ตะกรุดโสฬสมหามงคล หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551

ตะกรุดโสฬสมหามงคล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตะกรุดในตำนานของวัดชายนา ด้วยความที่เป็นยันต์ใหญ่ ทำออกมาจำนวนน้อยถ้าเทียบกับตะกรุดชนิดอื่น เพราะทำยาก
จัดสร้างไว้ 2 ปีหลักๆคือ ปี 2536 สร้างจำนวนหลักสิบดอก และ ปี 2551 จำนวน 499 ดอก

ตะกรุดที่ม้วนจากแผ่นตะกั่วจารมือยันต์โสฬสมหามงคล
จารนอก-ใน ยาว 4.75 นิ้ว รายได้จากการให้เช่าบูชาเพื่อบูรณะหอระฆัง วัดชายนาในขณะนั้น
ตอกโค๊ด “หลวงพ่อตัด” โค๊ด "ต รัศมี" และมีการตอกเรียงหมายเลขกำกับทุกดอก เป็นวัตถุมงคลที่ทำกันเองภายในวัดฯ ตามแบบฉบับเรียบง่ายแต่เข้มขลังของวัดชายนา
หลวงพ่อตัดปลุกเสกในโบสถ์วัดชายนา ตลอดไตรมาสปี 2551

ด้วยประสบการณ์ผู้พกพาที่เล่าต่อกันปากต่อปาก และเป็นที่เลื่อถือกันมานานมากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเตือนภัย โดนยิงระยะเผาขนแต่ไม่โดนเนื่องจากลูกปืนเกิดเปลี่ยนวิถีขึ้นมาซะอย่างนั้น หรือว่าจะเป็นปกป้องผู้พกพาจากสิ่งที่มองไม่เห็น ทำให้ตะกรุดชุดนี้เป็นที่ต้องการแก่ศิษย์-ผู้ศรัทธามากๆครับ ไม่มีออกมาหมุนเวียนในตลาดมานานมากๆแล้วครับผม

ตะกรุดโสฬสมหามงคลที่นำมาแบ่งปันนี้หมายเลข 161 สภาพสวยสมบูรณ์มากๆ ใส่หลอดอย่างดีพร้อมอาราธนาครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับผม

 

จองครับ

 

รับทราบการจองครับ
ขอบพระคุณครับผม

 

เรื่องราวเกี่ยวกับปลัดขิกของหลวงพ่อตัด จากพี่อภินันท์ พุ่มพวง ได้เล่าไว้เมื่อปี พ.ศ. 2557

เมื่อเร็วๆนี้มีคุณลุงท่านนึงซึ่งส่วนตัวผมค่อนข้างนับถือแกอยู่พอสมควร พอดีพาแกมาบ้านมาดูเรื่องศาลพระภูมิที่ชำรุดต้องทำใหม่ ไหนๆก็มาแล้วก็เลยให้ดูที่ทาง และบ้านว่ามีอะไรติดขัดทำไม่ถูกตรงไหนอย่างไรบ้าง

คุณลุงก็เดินดูมาเรื่อยๆจนถึงหิ้งพระผมและคุณลุงท่านก็ว่า

"ดีๆไม่มีอะไรทำถูกต้องแล้ว จริงจัง( แกชอบใช้คำว่าจริงจัง )หน่อยก็สวดมนต์บ้างนะ"

นั่นรู้อีก เพราะหลังๆผมไม่ค่อยไม่ไหว้พระสวดมนต์เท่าไหร่

คุณลุงเดินมาถึงชุดโต๊ะหมู่ที่ผมตั้งบูชาปลัดขิกของหลวงพ่อตัด คุณลุงแกเดนดิ่งที่ไปที่ปลัดขิกตัวครูเอามือลูบๆคำๆแล้วท่องคาถา

"นะกระ................. " ออกอากาศไม่ได้ครับ

คุณลุงแกไม่ทราบหรอกนะครับว่าเป็นปลัดของวัดไหนที่ใด
แกบอกว่า

"ปลัดขิกแรงดีนะ เหมือนมีชีวิต แต่ตั้งไว้แบบนี้ไม่มีประโยชน์หรอก ปลัดขิกเคล็ดเค้าทำมาเพื่อให้เกิด จะให้เกิดสิ่งต่างๆ จะด้านไหนก็เหอะ อย่าลืมซิว่าต้องเอาไปจิ้ม ถ้าไม่จิ้มก็ไม่เกิดนะ"

หลังจากนั้นแกก็จับคลำหลายตัวเชียว
แกบอกแรงๆ แรงจริงๆ ไม่ยอมเดินไปที่อื่นเลย
ผมเลยต้องหยิบปลัดให้คุณลุงแก 1 ตัว ฮ่าๆๆ

ที่น่าแปลกคือแกท่องคาถาที่ผมคุ้นมากเลย เพราะคาถานี้คือคาถาที่หลวงพ่อตัดท่านก็เคยเขียนลงในสมุดบันทึกเล่มนึงที่ไว้ใช้จดวิชาของท่าน และผมก็ได้คุยสอบถามคุณลุงว่าคาถานี้คุณลุงได้มาจากไหน แกบอกว่าแกเคยไปเรียนที่เขาอ้อ กับ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้มาหลายวิชาเช่นกัน แต่แกก็ไม่ยอมบอกว่าวิชาปลัดขิกก็ได้มาจากอาจารย์ชุมหรือเปล่า

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราว หากท่านอ่านแล้วได้ประโยชน์ผมก็ดีใจ แต่หากไม่เป็นประโยชน์ ก็ขอให้ท่านทิ้งไป

เรื่องราวปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องที่้กิดขึ้นนี้ องค์หลวงพ่อตัดท่านไม่ได้รับรู้ หรือยืนยันว่าของท่านดีอย่างไร ใช้แล้วจะเกิดปาฏิหาริย์อย่างไร หากแต่เป็นแรงศรัทธาที่เกิดจากผู้บูชาได้พบเจอด้วยตัวเองและนำมาเล่าสู่กันฟัง

ตั้งแต่หลวงพ่อตัดท่านยังไม่ดัง จวบจนถึงดังทั่วประเทศ และจนถึงมรณระภาพลง ท่านก็ไม่เคยอวดอ้างว่าของๆท่านดีอย่างไร หากมีผู้ศรัทธาเข้าไปกราบท่านถึงเรื่องแบบนี้ ท่านก็มักจะตอบว่า

"ฮื้อ พวกมึงก็ใช้ๆไปเถอะ"

ในภาพเป็นปลัดขิกไม้ชมพู่ผูกคอตาย หลวงพ่อตัดเมตตาลงเหล็กจารเอง หยดเทียนบริกรรมคาถามนต์จินดามณี ซึ่งปลัดไม้ชมพู่ผูกคอตายชุดนี้ใช้กิ่งที่ผูกมาทำ ศิลป์นี้มักจะเรียกว่า "ศิลป์หมอหอม" ซึ่งผู้เหลาปลัดขิกชุดนี้คือหมอหอม ศิษย์ฆราวาสของหลวงพ่อตัดที่แต่ก่อนท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ และได้มาฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อตัด หมอหอมยังได้ช่วยจารผ้ายันต์เพชรพญาธรยุคแรกๆหรือที่เรียกกันว่าพยัฆย์พญาธรให้หลวงพ่อท่านปลุกเสกและนำมาแจกจ่ายให้ชาวบ้านอีกด้วย ซึ่งหมอหอมได้เสียชีวิตไปเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ครับ
สำหรับปลัดขิกไม้ชมพู่ผูกคอ จากการไปสอบถามแล้วสร้างไว้จำนวนไม่เกิน 100 ตัวเท่านั้นครับ

นำมาแบ่งปันข้อมูลให้ผู้ศรัทธาได้ชมกัน

 

รายการที่ 185 ปลัดขิกไม้งิ้วดำ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2548

ปลัดขิก เป็นวิชาที่หลวงพ่อตัดท่านชำนาญที่สุดแล้วล่ะครับ จริงๆแล้วก็ต้องบอกว่าหลวงพ่อตัดท่านดังปลัดขิกมาก่อนตะกรุดเสียอีก จากการสืบค้นข้อมูล ท่านเสกได้ตั้งแต่เป็นพระหนุ่มที่วัดเขากระจิวแล้ว เมื่อก่อนพระที่บวชอยู่ในสมัยที่หลวงพ่อตัดท่านมาสร้างวัดชายนาใหม่ๆก็จะแอบดูหลวงพ่อท่านปลุกปลัดขิกจะได้ยินเรื่องบอกต่อกันมาว่าเวลาหลวงพ่อตัดท่านปลุกเสกปลัดขิกนั้น ปลัดขิกจะวิ่งไปทั่วห้องเลยทีเดียว...

โดยผู้ที่พกพาปลัดขิกของหลวงพ่อตัดนั้นก็พบเจอประสบการณ์ต่างๆมากมายแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น เมตตามหานิยม คงกระพันหมากัดไม่เข้า การค้าขาย(สมัยก่อนแม่ค้าแถบท่ายางจะนิยมเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดตัวเล็กๆเลี่ยมทองห้อยกัน และจะไม่นิยมนำมาโชว์ใคร เวลาจะค้าขายอะไรก็ว่าคาถา บอกกล่าว แล้วเอาปลัดขิกไปจิ้มๆที่ของที่ข้าวของที่จะขาย ทำให้ขายดี) หรือแม้กระทั่งเอาปลัดขิกหลวงพ่อตัดไปใช้ไล่ฝนก็มี
ในปัจจุบัน เซียนใหญ่ที่เป็นสายปลัดขิกก็ยกให้ปลัดขิกของหลวงพ่อติด 1 ใน 5 ของปลัดขิกประเทศไทยครับ

ปลัดขิกที่นำมาแบ่งปันตัวนี้เป็นปลัดขิกไม้งิ้วดำ ยาว 4 นิ้ว ตอกโค๊ด วชน. กระโดดนิยมแน่นๆ พระอาจารย์ทินจารเหล็กที่ลำตัว และหลวงพ่อตัดจารเหล็กเพิ่มบริเวณหัวปลัด ปลุกเสกพร้อมหยดเทียนมนต์จินดามณี ยังมีรอยเทียนให้เห็นอยู่ตามตัวและหัวปลัดครับ

ถ้าเป็นปลัดขิกที่หลวงพ่อตัดจารเองหรือจารเพิ่มเยอะๆ ราคาไปไกลแล้ว ตัวนี้นำมาแบ่งปันในราคาพิเศษสุดๆเพื่อเผยแพร่บารมีครูบาอาจารย์ครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณครับผม

 

รายการที่ 186 แผ่นจารมือยันต์นะหน้าทองพร้อมรูปหลังยันต์ หลวงพ่อตัด วัดชายนา ปี 2551

อีกหนึ่งยันต์ที่ได้รับความนิยมของสายวัดชายนาครับ
พระอาจารย์ทินจารมือ หลวงพ่อตัดปลุกเสก ซึ่งปัจจุบันงานจารมือเริ่มหายากแล้ว
ขนาด 2.5*2.5 นิ้ว จะม้วนเป็นตะกรุดขึ้นคอ หรือใส่กรอบบูชาก็ได้ เมตตาเย็นๆสไตล์วัดชายนาเชื่อขนมกินได้ ราคายังเบาๆด้วยครับ

มีผู้จองบูชาแล้วครับผม