วัดอโศการามในยามสงกรานต์

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย aprin, 18 เมษายน 2008.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    ขอขอบคุณ ที่มาคะ: Posted by คุณคนเล่าเรื่อง
    ................................................................
    สำหรับการเดินทางถ้ามาจากถนนบางนาตราด เลี้ยวซ้ายที่แยกไปบางพลีใหญ่ก็ได้ เลี้ยวที่แยกบางพลี ส่วนถ้าจะใช้เส้นทางจากวัดศรีเอี่ยม ใช้ถนนศรีนครินทร์ ก็จะผ่านห้างคาฟูร์ สี่แยกเทพารักษ์ (บ้านใครก็ม่ายรู้) ขับตรงไปเรื่อย ๆ จนสุดถนนศรีนครินทร์ จะเจอสำนักงานการไฟฟ้าสมุทรปราการ เลี้ยวซ้ายไปทางบางปู เลยแยกขวาเข้าตลาดบางปูก็ให้เงยหน้าสูง ๆ เข้าไว้ มองป้ายบอกทางไปวัดอโศการาม ให้ขับเลยป้าย ไปมากโข อย่าเพิ่ง u-turn แยกที่ตรงป้ายเพราะจะยังไม่ถึงวัด ให้ขับไปอีกนิดนึงค่อย u-turn กลับรถ สังเกตุด้านซ้ายมือจะมีซอยเล็ก ๆ มีชือวัดอโศการม สังเกตุดี ๆ นะคะ อย่ามัวคุยต้องตั้งสติให้มั่น เลี้ยวเข้าวัดผ่านตลาดนัด เข้าไปไม่ไกลก็จะถึงวัด ผ่านประตูวัดที่เป็นเหล็กอัลลอยสวย สงสัยว่าคงราคาแพงด้วย เข้าเขตวัดสังเกตุต้นอโศกเต็มวัดเลย

    [​IMG]


    สำหรับประวัติความเป็นมาและรายละเอียดของวัดอโศการาม มีดังต่อไปนี้ครับ

    นาแม่ขาว เป็นชือตำบลเป็นที่ตั้งของวัดอโศการามปัจจุบัน ตามประวัติที่กล่าวไว้ในหนังสือชีวประวัติ พระสุทธธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ ( พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร) ความว่า

    " ที่ตั้งวัดอโศการามปัจจุบันนี้ เดิมเรียกว่า "นาแม่ขาว" เจ้าของที่ดินคือ นางกิมหงษ์ และนายสุเมธ ไกรกาญจน์ ได้ถวายที่ดินให้สร้างวัดเนื้อที่ประมาณ 53 ไร่ เมื่อ ปี พ.ศ. 2497 จนกระทั่งปี พ.ศ. 2498 จึงได้เริ่มตั้งสำนักขึ้นเป็นครั้งแรก โดยให้พระลูกศิษย์ คือ พระครูใบฎีกาทัศน์ มาเฝ้าสำนักแทน พร้อมกับลูกศิษย์อีก 5 รูป รวมมีพระที่สำนักนี้ในครั้งเริ่มตั้ง จำนวน 6 รูป"

    เมื่อออกพรรษาและได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพสมเด็จฯ เรียบร้อยแล้ว เป็นปี พ.ศ. 2498 ท่านพ่อลี จึงได้ออกไปจำพรรษาที่วัดอโศการาม ในระหว่างนี้ได้เริ่มคิดดำริจัดงานฉลองสมโภช 25 พุทธศตวรรษ ในปี พ.ศ. 2500 การดำริในเรืองนี้ ท่านได้ดำริมานานปีแล้ว คือเริ่มดำริตั้งแต่ปีที่ได้เดินทางออกมาจากดงบ้านผาแด่นแสนกันดาร( เชียงใหม่)

    วัดอโศการามได้รับการพัฒนาสืบเนืองมาโดยลำดับ แม้หลังท่านพ่อลีได้มรณะภาพไปแล้ว( ปี พ.ศ. 2504) ได้มีการขยายพื้นที่ออกไปทางด้านทิศตะวันออก ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของวิหารสุทธิธรรมรังสีในปัจจุบัน พร้อมกันนั้นก็ได้ทำการสร้างพระธุตังคเจดีย์ ที่ท่านพ่อได้วางแบบเอาไว้ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เป็นปูชนียสถาน ประดิษฐานพระบรมสารีริธาตุไว้เป็นที่สักการะของเหล่าเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ชื่อว่า " ธุตังคเจดีย์" เป็นเจดีย์หมู่ 13 องค์

    วัดอโศการาม เป็นสถานที่ปฏิบ้ติธรรมกัมมัฏฐานภาวนา ที่ท่านพ่อลี ได้วางรากฐานไว้ เหล่าศิษยานุศิษย์ได้ปฏิบัติสืบ ๆ กันมาตราบเท่าทุกวันนี้ โดยเฉพาะหลักอานาปานสติกัมมัฏฐาน เป็นหลักฐานให้แก่ผู้สนใจได้ศึกษาทดลองปฏิบัติ จนเป็นที่น่าพอใจสมควรแก่การปฏิบัติของแต่ท่าน จวบจนปัจจุบัน

    ที่มา : http://www.geocities.com/asokaram00/asokaramstory.html





    ผมเดินเข้ามาถึงภายในบริเวณวัดอโศการาม แล้วก็พบว่าอาคารต่างๆ ภายในวัดนั้นสวยงาม และน่าทึ่งมากเลยครับ รูปปั้นของพระเจ้าอโศกมหาราช องค์ศาสนูปถัมภกของพระพุทธศาสนาองค์แรกของอินเดียประดิษฐานอยู่ทางขวามือ ซึ่งพระนามของพระองค์ก็เป็นชื่อของวัดนี้ด้วย



    [​IMG]


    บริเวณที่ผมประทับใจและศรัทธาอย่างมากก็คือ รูปปั้นของบรรดาพระอาจารย์สายกรรมฐานจำนวนมากที่ประดิษฐานอยู่เรียงเป็นแถว ทั้งท่านพระอาจารย์จวน หลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวน และองค์อื่นๆ ที่ผมไม่ค่อยรู้จักมากมายเลยครับ ขณะนั้น ภายในบริเวณวัดยังมีงานฉลองสงกรานต์และเปิดให้ญาติโยมมาสักการะและทำบุญกันอย่างต่อเนื่องครับ



    [​IMG]



    [​IMG]




    [​IMG]





    [​IMG]

    พอไหว้รูปปั้นของบรรดาพระอาจารย์ทั้งหลายแล้ว ผมกับเพื่อนจึงเดินขึ้นไปที่ศาลาวัดชั้นสองเพื่อนมัสการองค์พระ พระบรมสารีริกธาตุและหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่ลี บรรยากาศจึงเป็นไปอย่างสำรวมและศักดิ์สิทธิ์มากครับ รู้สึกขนลุกจริงๆ ครับที่ได้มานมัสการพระอาจารย์ผู้โด่งดังและมีวัตรปฏิบัติอันเข้มแข็งเหล่านี้ครับ
    พอเสร็จแล้ว ผมกับเพื่อนจึงเดินออกไปยังพระธุตังคเจดีย์ (เจดีย์ 13 องค์) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่ง
     
  2. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    เคยไปบวชชีพราหมณ์ที่วัดนี้ค่ะ 2 คืน 3 วัน ชอบค่ะแม่ชีเยอะสวดมนต์เพราะดีค่ะวันนึงจะมีสวดหลายครั้งค่ะ กลางคืนจะมีนั่งสมาธิด้วยค่ะ

    [​IMG]
     
  3. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะคะ....
     
  4. ปทุมธานี

    ปทุมธานี ยอมไม่ทำดีกว่าทำร้ายคนอื่น

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    1,876
    ค่าพลัง:
    +1,217
    ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลเยี่ยมๆ
     
  5. pran_88

    pran_88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +274
    เพิ่งไปมา 3 วันครับ
     
  6. อดุลย์ เมธีกุล

    อดุลย์ เมธีกุล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,363
    ค่าพลัง:
    +11,794

    ไม่หิวข้าวเย็นหรือครับ คุณบุษ
     
  7. บุษบากาญจ์

    บุษบากาญจ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    9,476
    ค่าพลัง:
    +20,271
    ไม่หิวค่ะ สบาย ๆ บวชชีพราหมณ์มา 2 ครั้งแล้วค่ะ อีกครั้งนึงก็ที่วัดเกตุมฯแถวๆ มหาชัยมั้งถ้าจำไม่ผิดเพื่อนชวนไปก็ไปกับเค้า 3 วัน 2 คืน แล้วก็ไปถือศีลตามโครงการของที่ทำงาน ที่วัดปัญญานันทาราม แถวธัญญะบุรี 4 วัน 3 คืน ไม่ทานข้าวเย็นทุกครั้งค่ะ คือถือศีล 8 ค่ะ ชอบนะคะ(ตื่นแต่เช้าได้โดยไม่ต้องปลุกเลยค่ะ สวดมนต์เช้า เย็น ฯลฯ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 เมษายน 2008
  8. ใหญ่...พปด

    ใหญ่...พปด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +188
    ท่านพ่อลี คนสมุทรปราการ นับถือท่านทุกคนครับ
    ที่รักผมก็เคย"บวชชีพราหมณ์"ที่นี่เหมือนกัน
    เคร่งครัดมาก มือถือ+เครืองสำอาง+รองเท้ามีส้น+ฯ ห้ามใช้
    หน้าที่ผมนำอาหารไปให้2มื้อ หลังจากอาหารมื้อเพลแล้ว
    เวลาที่เหลือในวันนั้น เป็นของผมครับ [บาปไหมเนี้ย]
     

แชร์หน้านี้

Loading...