รับสมัครอาสาสมัครช่วยงานพระพุทธศาสนาที่เทวสถานพระศรีมหาอุมาเทวี

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย น้องหน่อยน่ารัก, 16 เมษายน 2008.

  1. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    รับสมัครอาสาสมัครช่วยงานพระพุทธศาสนา
    พระพุทธศาสนากำลังแย่ลงในด้านความเข้าใจที่ถูกต้อง การปฏิบัติตนที่ถูกต้องของชาวพุทธ ดังนั้น ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญเพียรภาวนา จนได้รับการสนับสนุนจากแม่พรอุมา ธรรมกูล ให้สามารถใช้สถานที่ปฏิบัติธรรม ทำกิจตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาได้ แม่พรอุมาได้ให้สิทธิ์ในการจัดการแก่ข้าพเจ้า ที่ เทวสถานพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี ในการณ์นี้ ข้าพเจ้าคิดจักสร้างแนวร่วมที่มีอุดมการณ์เดียวกัน คือ จรรโลงพระพุทธศาสนาอย่างถูกวิธี จึงขอเปิดรับอาสาสมัครทำงานในมูลนิธิของพระแม่ศรีมหาอุมาเทวี ดังนี้

    <O:p</O:pวัตถุประสงค์ของเทวสถาน

    <O:p</O:p๑) เพื่อการปฏิบัติธรรมขจัดอวิชชา ให้มีจิตตรงต่อนิพพาน เข้าใจหลักธรรมตามหลักพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง และพ้นไปจากอาสวกิเลส ไม่เอนเอียงออกไปสู่ทางอื่น ไม่มุ่งเน้นการเทศน์เพื่อเอาทาน หรือปฏิบัติธรรมเพื่อสะสมบุญ<O:p</O:p
    ๒) เพื่อสร้างแบบอย่างของพุทธบริษัทแบบใหม่ ที่ถูกต้องตรงทางตามคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่จะมาแทนที่ฆราวาสรุ่นเก่าที่มีอายุมาก และอาจหมดวาระไปตามกาลเวลา เพื่อสานต่องานพุทธศาสนาในวัดต่างๆ <O:p</O:p
    ๓) เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนา ด้วยการถ่ายทอดแนวทางในการรักษาพุทธศาสนาอย่างถูกวิธี เพื่อให้พระพุทธศาสนามีอายุยืนยาว คือ การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และการปฏิบัติที่ถูกต้อง ทั้งด้านการปฏิบัติธรรม และบำเพ็ญบารมี<O:p</O:p
    ๔) เพื่อช่วยเหลือสังคม บุคคลที่มีความทุกข์ร้อนใจ สามารถเข้ามาปฏิบัติธรรมที่เทวสถานเพื่อให้พ้นไปจากทุกข์ได้ไม่จำกัดเวลา นอกจากนี้ ทางเทวสถานก็มีมูลนิธิที่จะช่วยเหลืองานสังคมในอนาคตต่อไป เหมือน มูลนิธิร่วมกตัญญู<O:p</O:p
    ๕) เพื่อเป็นที่ประกอบกิจกรรมทางพุทธศาสนา และเปิดโอกาสให้ผู้นับถือเทพฮินดูได้เข้าสักการบูชาตามเวลาราชการปกติของเทวสถาน ด้วยความเข้าใจที่แท้จริง ไม่แบ่งแยกศาสนา (เทพฮินดูนับถือพระพุทธเจ้า จึงไม่ใช่ศาสนาพราหมณ์)<O:p</O:p
    ๖) เพื่อเป็นสำนักที่พักประจำของชีพราหมณ์ และที่พักชั่วคราวของภิกษุ กรณีที่ภิกษุขาดแคลนที่พักและเดินทางผ่านมาสามารถขอเข้าพักชั่วคราวได้ ส่วนชีจะสามารถพำนักได้ถาวรตามแต่จะสามารถอยู่ได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นสำนักชีพราหมณ์ ที่ต้องการสร้างแบบอย่างฆราวาส ไม่ใช่วัด จึงไม่นำพระมาสอน

    <O:p</O:pเงื่อนไขของอาสาสมัคร

    <O:p</O:p๑) ไม่มีตำแหน่งและเงินเดือนประจำ หากจะมีการให้เงินเพื่อช่วยเหลือก็จะให้บ้าง ไม่ให้บ้างเป็นครั้งคราวตามแต่กรณีไป เช่น อาจมีการให้เงินช่วยค่ารถในบางท่าน ดังนั้น ผู้มาเป็นอาสาสมัคร จึงเป็นการช่วยงานโดยไม่หวังผลตอบแทนเท่านั้น ส่วนข้าพเจ้าจะจัดสรรให้เงินหรือไม่ก็ได้ตามแต่จะพิจารณา
    ๒) มีที่พักและอาหาร ในช่วงจัดกิจกรรม ซึ่งจะพักและรับประทานอาหารตามแบบของผู้มาปฏิบัติธรรม คือ นอนพื้นมีเพียงเสื่อ, หมอน และมุ้งบ้างบางกรณี ไม่มีเตียงและห้องให้เฉพาะ ส่วนอาหารรับประทานสามมื้อปกติ แต่เป็นมังสวิรัติ<O:p</O:p
    ๓) ไม่มีผลทางกฎหมาย ในการช่วยงานนี้ ไม่มีการทำสัญญาจัดจ้าง ไม่มีฐานะทางนิติกรรมระหว่างกัน เป็นการทำงานด้วยใจ เป็นเรื่องของการสมัครใจมาเอง ไม่มีการบังคับขู่เข็ญหรือหลอกลวงใดๆ ทั้งสิ้น จึงไม่ใช่เรื่องของนิติกรรมต่างๆ<O:p</O:p
    ๔) ไม่มีอำนาจบังคับ ทางสถานปฏิบัติธรรมไม่มีอำนาจใดๆ จะบังคับอาสาสมัครให้ทำงานหรือไม่ทำงาน เพียงแต่จะชักชวนให้ทำงาน ช่วยงานในขณะมีกิจกรรม เช่น ช่วยกันล้างจานให้ผู้ที่เข้ามาปฏิบัติธรรม ซึ่งอาสาสมัครจะทำตามหรือไม่ก็ได้ เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่หากทำสิ่งที่ไม่ดี ทางเทวสถานจำเป็นต้องเชิญออก

    <O:p</O:pคุณสมบัติของอาสาสมัคร

    <O:p</O:pตำแหน่งผู้จัดการสถานปฏิบัติธรรม

    <O:p</O:p๑) มีความเป็นผู้ถูกสอนได้ ไม่ใช่ผู้ที่ไม่ปรารถนาจะเรียนรู้ ไม่เอาแต่จะสอนคนอื่น เป็นแก้วที่มีน้ำเต็ม รับคำสอนจากใครไม่ได้ ไม่มีความคารวะ ไม่สุขุม ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนแข็งกร้าวเอาแต่ใจ ไม่ยอมปรับตัวเอง เอาแต่จะปรับคนอื่น<O:p</O:p
    ๒) มีความเป็นผู้นำ ไม่ใช่เป็นแต่ผู้ตามที่คอยแต่รอคำสั่ง และไม่ใช่เอาแต่สั่งคนอื่น แต่เป็นผู้ที่สั่งตัวเองให้ทำก่อนคนอื่นได้เป็น และทำจนผู้อื่นสามารถทำตามตนเองได้ เรียกว่า “มีภาวะผู้นำ” ไม่ใช่มีอำนาจ มีตำแหน่ง แต่ไม่มีภาวะผู้นำ<O:p</O:p
    ๓) มีปณิธานหรือความตั้งใจจริงที่จะอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา ตามแต่วาระโอกาสของตนจะเอื้ออำนวย สามารถอุทิศตนช่วยงานในกิจกรรมต่างๆ ในวัดต่างๆ ได้ตามวาระโอกาสโดยไม่เย่อหยิ่ง ถือเนื้อถือตัว เปิดใจกว้างไม่ยึดวัด<O:p</O:p
    ๔) ไม่จำกัดอายุ เพศ วัย สามารถเข้ามาเป็นอาสาสมัครและฝึกงานนี้ได้ ในฐานะผู้จัดการสถานปฏิบัติธรรม เมื่อฝึกงานได้สำเร็จแล้ว จะได้รับการแนะนำให้ไปช่วยงานในสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ ในแบบที่ตนเองถนัด คือ ผู้จัดการฯ

    <O:p</O:pตำแหน่งอาจารย์สอนธรรมะ

    <O:p</O:p๑) มีความเป็นผู้ถูกสอนได้ ไม่ใช่ผู้ที่ไม่ปรารถนาจะเรียนรู้ ไม่เอาแต่จะสอนคนอื่น เป็นแก้วที่มีน้ำเต็ม รับคำสอนจากใครไม่ได้ ไม่มีความคารวะ ไม่สุขุม ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนแข็งกร้าวเอาแต่ใจ ไม่ยอมปรับตัวเอง เอาแต่จะปรับคนอื่น<O:p</O:p
    ๒) มีความเป็นครู คือ มีใจที่หนักแน่นยอมรับแรงกระทบจากลูกศิษย์ที่มีความร้ายกาจได้ อดทนได้นานที่จะสอนให้ลูกศิษย์พยศเปลี่ยนเป็นคนดีได้ โดยไม่โกรธเกลียดลูกศิษย์เมื่อได้รับแรงกระทำจากลูกศิษย์ มีจิตเมตตาให้ผู้อื่นได้รู้ตามตน <O:p</O:p
    ๓) มีปณิธานหรือความตั้งใจจริงที่จะอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา ตามแต่วาระโอกาสของตนจะเอื้ออำนวย สามารถอุทิศตนช่วยงานในกิจกรรมต่างๆ ในวัดต่างๆ ได้ตามวาระโอกาสโดยไม่เย่อหยิ่ง ถือเนื้อถือตัว เปิดใจกว้างไม่ยึดวัด<O:p</O:p
    ๔) ไม่จำกัดอายุ เพศ วัย สามารถเข้ามาเป็นอาสาสมัครและฝึกงานนี้ได้ ในฐานะผู้จัดการสถานปฏิบัติธรรม เมื่อฝึกงานได้สำเร็จแล้ว จะได้รับการแนะนำให้ไปช่วยงานในสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ ในแบบที่ตนเองถนัด คือ ผู้จัดการฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ตำแหน่งนี้ จะมีหลายระดับและหลายขั้น สายที่สอนกรรมฐาน เรียกว่า “วิปัสสนาจารย์” จะต้องเข้าใจการทำสมาธิที่ถูกต้อง และตรวจวัดจิตลูกศิษย์ได้ สายที่สอนจริยธรรมและการบำเพ็ญเพียร จะต้องมีจิติทยาในการจูงใจ และความรู้ในการจรรโลงพระพุทธศาสนา เรียกว่า “จริยธรรมาจารย์” และสายที่สอนธรรมะอันเป็นสัจธรรม จะต้องบรรลุธรรมตั้งแต่โสดาบันขึ้นไปเท่านั้น จึงจะสามารถสอนได้ เรียกว่า “อริยาจารย์” ทั้งหมดนี้ เมื่อทำงานในสถานปฏิบัติธรรม จะรู้กันเองในกลุ่มทีมงานบริหาร แต่จะไม่แสดงตนเป็นครูอาจารย์ จะแสดงตนเป็นเพียง “พี้เลี้ยงในกิจกรรมต่างๆ” เป็นผู้ให้บริการแก่ผู้ปฏิบัติธรรม มีฐานะเท่าเทียมกันทุกคน ไม่มีครูอาจารย์ในที่นี้ เพื่อลดอัตตา ความอยากหลงในฐานะนั้นๆ

    <O:p</O:pอาจารย์สอนธรรมทั้งสามสาย จะมาร่วมถ่ายทอดธรรมทั้งสามสายให้แก่ผู้ปฏิบัติธรรม หมุนเวียนเปลี่ยนกันไปตามวาระโอกาสหน้าที่ของตน เพื่อให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้ธรรมครบทุกด้าน คือ ทั้งด้านการภาวนาจิต (วิปัสสนา), ด้านปัญญาสู่การหลุดพ้น (อริยา), และด้านการบำเพ็ญเพียรที่ถูกต้อง (จริยา) ดังนั้น อาจารย์จึงมีได้จำนวนมาก แต่จะได้รับการเชิญเข้ามาถ่ายทอดธรรมสายต่างๆ ในวาระโอกาสต่างๆ แตกต่างกันไป ทั้งนี้ จะไม่มีการตอบแทนด้วยค่าสอนใดๆ หากทางเทวสถานฯ มีรายได้มากพอ ก็จะหาเงินมาช่วยในด้านค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้แก่อาจารย์ได้ ทั้งนี้ ตามแต่ทางเทวสถานจะพิจารณา

    <O:p</O:pตำแหน่งอาสาสมัครจรรโลงพุทธศาสนา

    <O:p</O:p๑) มีความเป็นผู้ถูกสอนได้ ไม่ใช่ผู้ที่ไม่ปรารถนาจะเรียนรู้ ไม่เอาแต่จะสอนคนอื่น เป็นแก้วที่มีน้ำเต็ม รับคำสอนจากใครไม่ได้ ไม่มีความคารวะ ไม่สุขุม ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนแข็งกร้าวเอาแต่ใจ ไม่ยอมปรับตัวเอง เอาแต่จะปรับคนอื่น<O:p</O:p
    ๒) มีความเป็นผู้ให้บริการ ไม่รังเกียจงานที่ตกต่ำ เช่น งานล้างส้วม, งานล้างจาน, งานถูพื้น, งานรดน้ำต้นไม้ดายหญ้า ฯลฯ สามารถทำงานเหล่านี้ได้ด้วยใจรัก ด้วยปรารถนาเพื่อประโยชน์แก่มหาชน หรือจรรโลงพุทธศาสนาไว้ให้ยาวนาน<O:p</O:p
    ๓) มีปณิธานหรือความตั้งใจจริงที่จะอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนา ตามแต่วาระโอกาสของตนจะเอื้ออำนวย สามารถอุทิศตนช่วยงานในกิจกรรมต่างๆ ในวัดต่างๆ ได้ตามวาระโอกาสโดยไม่เย่อหยิ่ง ถือเนื้อถือตัว เปิดใจกว้างไม่ยึดวัด<O:p</O:p
    ๔) ไม่จำกัดอายุ เพศ วัย สามารถเข้ามาเป็นอาสาสมัครและฝึกงานนี้ได้ ในฐานะผู้จัดการสถานปฏิบัติธรรม เมื่อฝึกงานได้สำเร็จแล้ว จะได้รับการแนะนำให้ไปช่วยงานในสถานปฏิบัติธรรมต่างๆ ในแบบที่ตนเองถนัด คือ ผู้จัดการฯ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หลักฐานการสมัคร

    <O:p</O:pไม่มีหลักฐานและเอกสารใดๆ สามารถเข้าพบพูดคุยได้ ทางเทวสถานจะแนะนำให้ฝึกงานในตำแหน่งต่างๆ ตามแต่เหมาะสมในเบื้องต้นก่อน หากยินดีฝึกงานในตำแหน่งนั้นๆ ทางเทวสถานฯ ก็จะดำเนินการต่อไปทันที คือ เตรียมจัดหลักสูตรการอบรมให้

    <O:p</O:pติดต่อสมัครได้ที่

    <O:p</O:pสามารถลงชื่อได้ที่นี่ โดยโพสชื่อและนามสกุล พร้อมที่อยู่ที่ติดต่อได้ เบอร์โทรไว้ หรือหากไม่ประสงค์จะแสดงตนในสาธารณะ สามารถส่งข้อมูลทาง P.M. ได้โดยตรง นัดหมายวันเวลาที่จะเข้าพบเพื่อสนทนาแนวทาง ปณิธานร่วมกัน และการฝึกงานในแบบที่ตนต้องการได้ โดยอาจสนทนาทางโทรศัพท์ก่อนเป็นการเบื้องต้นตามแต่จะพิจารณา

    <O:p</O:pที่อยู่

    <O:p</O:pเทวสถาน พระแม่อุมาเทวี เลขที่ ๑๑๐ หมู่ ๑๑ ต. เชิงดอย อ. ดอยสะเก็ด จ. เชียงใหม่ ให้ขับรถส่วนตัวมายังตัวอำเภอดอยสะเก็ดแล้วขับเลยต่อไป ประมาณ ๑ กม. เลียบคลองระบายน้ำ จะเห็นสะพานซ้ายมือเข้าวัดกิ่วแลให้ข้ามไป ประมาณไม่ถึง ๑ กม. จะไปสุดเส้นลาดยาง จะเห็นป้ายสถานปฏิบัติธรรมแม่ชีฯ ดอยสะเก็ด ๒ แวะเข้าซอยไป ประมาณ ๓๐๐ เมตร จะเห็นทางแยก ให้เลี้ยวซ้าย ตรงไปประมาณ ๒๐๐ เมตร ถึงเทวสถาน หากมารถโดยสารให้ขึ้นรถโดยสารที่จะมา อ. ดอยสะเก็ด หรือวัดพระธาตุดอยสะเก็ด แล้วต่อรถรับจ้างมาก็ได้ ภายในเทวสถาน ที่มีพักได้ประมาณ ๕๐ ท่าน มีโรงเจ โรงครัว มีที่จอดรถประมาณ ๑๐ ถึง ๑๕ คัน สถานที่สงบ สะดวก สบาย กว้างขวาง แต่ค่อนข้างเริ่มเก่า

    <O:p</O:pความแตกต่าง

    <O:p</O:p๑) เราต้องการสร้างคนรุ่นใหม่ ที่มีแนวคิดใหม่ๆ ในการจรรโลงพระพุทธศาสนา เพราะเราได้เห็นแล้วว่าแบบเก่า เช่น แข่งกันสร้างวัดซึ่งมีแต่วัตถุ และการเรี่ยไรผ่านการแจกพระที่ปลุกเสกอย่างขลังนั้น ไม่ใช่ แนวทางของพระพุทธองค์<O:p</O:p
    ๒) เรามีบุคลากรที่รู้จริง แต่ยังไม่เคยเปิดเผยตัวในประเทศไทย จึงไร้ชื่อเสียงเรียงนาม บางท่านโด่งดังในประเทศอินเดียแต่ไม่ได้เปิดเผยตัวเองในประเทศไทย พร้อมที่จะให้ความรู้จริงในการปฏิบัติตามหลักพุทธศาสนาที่พิสูจน์ได้ ให้ผลจริง <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 เมษายน 2008
  2. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    คำอธิษฐานของข้าพเจ้า

    ๑๒ เมษายน ๕๑ (สิ้นปีเก่าไทย)



    <O:p</O:p


    ชีวิตที่ผ่านมาของข้าพเจ้านี้ทำเลวมาก็มาก ทำดีมากก็ไม่น้อย หลายครั้งที่ได้ทำบุญกุศล ไม่ค่อยได้ตั้งจิตอธิษฐานขอสิ่งใดเลย เพียงเพราะข้าพเจ้าเต็มเปี่ยมไปด้วยความโง่เขลา ไม่รู้ว่าจะเอาบุญไปทำอะไร ไม่รู้ตัวว่าข้าพเจ้านั้นแท้แล้วอยากได้อะไร ความร่ำรวยก็หาใช่สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการไม่ ชื่อเสียงเกียรติยศก็หาใช่สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการไม่ ชีวิตของข้าพเจ้า จึงอยู่ไปอย่างไม่รู้จุดหมายปลายทางไปวันๆ ผ่านชีวิตที่โง่เขลาในวัยเยาว์มามากมาย ผ่านความทุกข์ทรมานมามากมาย หลายครั้ง คิดอยากฆ่าตัวตาย อยากให้ความตายนั้นมาถึงเร็วๆ นอนรอความตาย เพราะไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อไปอีกแล้ว

    <O:p</O:pเมื่อชีวิตเหมือนดับมืดลงอย่างที่สุด ข้าพเจ้าก็พบกับพระธรรม ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม ทำให้ชีวิตที่มืดมิดเหมือนอยู่ในนรกอเวจี ได้พบกับแสงสว่างแห่งความหวังอีกครั้ง ชีวิตใหม่ได้เริ่มผลิบานขึ้น งอกงามขึ้นในร่างกายเดิม ความสุขสงบมากมายกลับมาแทนที่ ไม่มีผู้ใดในโลกนี้จักชี้ทางนี้ได้ ไม่ว่าผู้ที่ร่ำรวยที่สุด มีอำนาจมากที่สุด หรือมีอภิญญามากที่สุด ไม่ว่าเทพพรหมตนใดในสามภพ ก็ไม่อาจประทานสิ่งนี้ให้แก่ข้าพเจ้าได้ เมื่อข้าพเจ้าได้พบธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมแล้ว ชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์และวิบากกรรม ก็บรรเทาเบาบางอย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งกว่าพรแห่งเทพพรหมองค์ใดในสามภพจะสามารถทำได้ ณ วันนี้ ข้าพเจ้าเต็มแล้ว อิ่มแล้ว กับความสุขสงบที่ข้าพเจ้าได้รับ ไม่ได้มีความปรารถนาในสุขใดในโลกนี้อีก ข้าพเจ้าสำนึกน้อมบุญคุณอันไร้ประมาณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเมตตาอันไร้ประมาณของพระองค์ พระปัญญาอันไร้ประมาณของพระองค์ พระจิตอันบริสุทธิ์ของพระองค์ จักขอตั้งจิตอธิษฐานเพื่อทดแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่เหนือสิ่งใด ด้วยคำอธิษฐานสามประการนี้

    <O:p</O:p๑) ขอให้บุญบารมีที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแต่ก่อนมาและที่ได้ก่อขึ้นในชาตินี้ จงเป็นไปเพื่อพระพุทธศาสนาแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมเพียงพระองค์เดียว อย่าได้มีเพื่ออย่างอื่นใดอีก มันผู้ใดพึงจะเอาบุญบารมีของข้าพเจ้าแม้เพียงแต่ส่วนเดียวไปเพื่อการณ์อื่น ของให้ชีวิตของมันผู้นั้นจงพบกับความวิบัติบรรลัย ไม่เว้นแม้แต่ศาสดาแห่งศาสดาใดๆ หรือเทพพรหมตนใด ก็ไม่เว้น
    <O:p</O:p
    ๒) ขอให้เวลาทั้งชีวิตของข้าพเจ้าต่อนี้ไป จนสิ้นใจขาดตายแม้วินาทีสุดท้าย จงเป็นไปเพื่อพระพุทธศาสนาแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมเพียงพระองค์เดียว อย่าได้มีเพื่ออย่างอื่นใดอีก มันผู้ใดพึงจะเอาเวลาของข้าพเจ้าแม้เพียงแต่ส่วนเดียวไปเพื่อการณ์อื่น ขอให้ชีวิตของมันผู้นั้นจงพบกับความวิบัติบรรลัย ไม่เว้นแม้แต่ศาสดาแห่งศาสดาใดๆ หรือเทพพรหมตนใด ก็ไม่เว้น
    <O:p</O:p
    ๓) ขอให้ชีวิตของข้าพเจ้าต่อนี้ไป แม้หยาดเหงื่อทุกหยด เลือดทุกหยาด รวมทั้งอวัยวะน้อยใหญ่ ทุกเสี้ยวส่วนของอวัยวะร่างกาย จงเป็นไปเพื่อพระพุทธศาสนาแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมเพียงพระองค์เดียว อย่าได้มีเพื่ออย่างอื่นใดอีก มันผู้ใดพึงจะเบียดบังเอาอวัยวะหรือชีวิตของข้าพเจ้าแม้เพียงแต่ส่วนเดียวไปเพื่อการณ์อื่น ของให้ชีวิตของมันผู้นั้นจงพบกับความวิบัติบรรลัย ไม่เว้นแม้แต่ศาสดาแห่งศาสดาใดๆ หรือเทพพรหมตนใด ก็ไม่มีข้อยกเว้น <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    อนึ่งกิจใดๆ อันเป็นหน้าที่ที่มนุษย์ผู้หนึ่งพึงกระทำต่อมวลมนุษย์หรือครอบครัว ตามคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ข้าพเจ้าขอนับไว้เป็นกิจแห่งพระพุทธศาสนาที่ข้าพเจ้าได้อธิษฐานไว้ด้วย อันได้แก่ การบำรุงเลี้ยงดูบิดามารดา ญาติ บริวาร เพื่อนฝูง ฯลฯ และการบำรุงสุขโปรดมวลสรรพสัตว์ ไม่นับเป็นการณ์อื่นอันต้องคำสาปแช่ง

    <O:p</O:pหากคำอธิษฐานของข้าพเจ้าไม่อาจทำได้สำเร็จในชาตินี้<O:p</O:p
    ขอให้ชีวีของข้าพเจ้าจงพินาศบรรลัยสิ้นไปในเร็ววันเทอญ<O:p</O:p
     
  3. manson810

    manson810 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    410
    ค่าพลัง:
    +780
    "รับสมัครอาสาสมัครช่วยงานพระพุทธศาสนาที่เทวสถานพระศรีมหาอุมาเทวี"
    ---------------------------------------------------------------------

    อ่านแล้วรู้สึกว่า แปลกๆนะครับ ช่วยงานพระพุทธศาสนาที่เทวสถานของศาสนาพราหมณ์ ???

    แถมมีสาปแช่งตอนท้ายด้วย ......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2008
  4. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ขอแก้ไขให้หน่อยนะ มันผู้ใดพึงเอาเวลาของข้าพเจ้าไปเพื่อการอื่น ขอให้เวลาที่เขาเอาไปนั้นเป็นปัจจัยให้เขาถึงพระนิพพานตามข้าพเจ้าด้วยเทอญ แม้ เทพพรหม องค์ใดก็ไม่เว้น ขอให้เข้าถึงสัจธรรมในพระพุทธศาสนา

    คำแช่ง มันไม่ดีครับ มันเป็นอกุศลจิต

    ขอโทษนะที่ขัดคอ
    ให้ตั้งจิตอธิษฐานใหม่ อย่าไปแช่ง อย่าไปกล่าวโทษ
     
  5. ป่าวอันถัง

    ป่าวอันถัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +114
    เปิดร้าน เอ้ย สถานปฏิบัติธรรมใหม่หรือครับ
     
  6. เกาฉี

    เกาฉี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +6
    เทวสถานก็เทวสถาน ในพระพุทธศาสนาไม่มีเทวสถาน มีแต่พุทธสถาน


    แค่จขกท. เอ่ยปากแช่ง ก็ถือเป็นอกุศลแล้ว

    บุคคลที่ในจิตยังแฝงด้วยอกุศล จะนำพาพุทธศาสนาไปได้ยังไง ยังไม่เห็นทางเลย


    เทวสถานไม่ได้นุ่งเหลือง ไม่ได้ถือศีลแบบสงฆ์ ไม่ได้ปฏิบัติกิจแบบสงฆ์ แบบพุทธที่ควรจะเป็นพุทธ


    หากจะทำนุบำรุงศาสนา ควรเริ่มจากวัด เริ่มจากพุทธสถานก่อน ไม่ใช่เริ่มจากเทวสถาน


    สงฆ์คือตัวแทนของพุทธ คือผู้เผยแผ่และศึกษาธรรมะอย่างแท้จริง


    พระสงฆ์ดีๆ ก็มีถมไป หากจะช่วยศาสนารบกวนช่วยจากฐานให้แข็งแกร่งก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 เมษายน 2008
  7. ป่าวอันถัง

    ป่าวอันถัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    486
    ค่าพลัง:
    +114
    ทองแท้ไม่กลัวไฟ
    ทองแท้ย่อมไม่ต้องสาปบรรลัย
    แต่ทองปลอมดีแต่ปากทั้งหลาย
    ไม่อาจพ้นกรรม
     
  8. natmarchy

    natmarchy ย่านัท

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +410
    อืม..........จขกท.ยังไม่กระจ่างในเรื่องของพระธรรมหรือเปล่าคะ อื๋อ....ดูรุนแรงนะคะ มันไม่ต้องมีมานะกับการความอยากได้ของคนอื่นก็ได้...หากมีความตั้งมั่นในกุศล
    ก็ได้แก่ตนเอง หากว่าคนอื่นทำอกุศลกรรมก็ได้กับตัวเขาเองอยู่แล้ว......อืม..แรงๆ
     
  9. gupta

    gupta สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    I known about your group, don't use "the buddhism" into your magic world.
     
  10. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    พุทธะ พุทธแท้ ยังมีอีกมาก ต้องการผู้สืบสานงานของพระพุทธเจ้า


    ช่วยกันเถิด ขออย่าละไปข้างอื่น
     
  11. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    เพ่.....เค้าคงกินยาผิดเมื่อเช้านี้ น่ะ.......ไม่มีไร หรอก
     
  12. eddy1965

    eddy1965 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    369
    ค่าพลัง:
    +475
    พออ่านเจอกระทู้นี้เข้า http://palungjit.org/showthread.php?t=123807

    เหมือนคนหลงผิดที่อำนวยพรให้ จขกท. นี้ขนาดยังไม่ได้เป็นเจ้าสำนัก ยังขนาดนี้

    หากเป็นเจ้าสำนักเมื่อไร ก็คงไม่แคล่วที่จะข่มและกดผู้อื่นเหมือนทาสในเรือนเบี้ย เจอมาเยอะพวกร่างทรงที่ต้องการแผ่บารมีและหาทาสรับใช้ ไปหากินอย่างอื่นเถอะ
     
  13. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    เพื่อความสบายใจของชาวพุทธ
    เรื่องที่ผมได้รับอนุญาติในการดำเนินการในสถานธรรม
    ผมได้ขอละทิ้ง ไม่เอาแล้ว


    สวัสดี
     

แชร์หน้านี้

Loading...