ทำไมคำอธิบายถึงนรก-สวรรค์ ของไทย จีน ฝรั่ง จึงแตกต่างกัน

ผมเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับนรก-สวรรค์ เทพ เทวดา ของทั้ง ไทย จีน ฝรั่ง แต่ดูเหมือนจะบรรยายไว้ไม่เหมือนกัน จุดที่ผมสงสัยที่สุดคือเกี่ยวกับเทวดาบนสวรรค์แต่ละเชื้อชาติ อย่างเช่นของไทยเราก็จะบอกว่าเทวดามีใครบ้าง ใครเป็นใหญ่ แต่งตัว รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ของจีนก็จะบอกไปอีกแบบหนึ่ง เช่นมีเง็กเซียนฮ่องเต้เป็นใหญ่ เทวดาแต่งตัวแบบจีนโบราณ เป็นต้น ของฝรั่งก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ดังนั้นก็เลยสงสัยว่า หรือว่านรก-สวรรค์นี่จะแบ่งแยกไปตามเชื้อชาติ หรือเขตแดน หรือภูมิภาคเหมือนของโลกมนุษย์นี้ด้วย ซึ่งจะไม่ก้าวก่ายกันหรือเปล่า ฝรั่งก็จะไปตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ของฝรั่ง จีนก็จะไปตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ของจีน ไทยก็ตกนรกหรือขึ้นสวรรค์ของไทยหรือเปล่า และกฎเกณฑ์ต่างๆของสวรรค์-นรกแต่ละแดนก็จะไม่เหมือนกันด้วยหรือใช่ไม่ครับ
ในเทศนาของหลวงปู่หลวงตา ได้เคยกล่าวถึงจุดนี้ไว้บ้างหรือเปล่าครับ ขอวิงวอนท่านผู้รู้และผู้ทรงฌานรวมถึงผู้ที่สามารถไปเที่ยวนรกสวรรค์ได้ทุกท่าน ช่วยเมตตาให้ความกระจ่างด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับสำหรับธรรมทาน แก่ผู้ด้อยปัญญาคนหนึ่ง

 

ผมเคยถามพระอาจารย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ท่านตอบว่า...

พระพุทธเจ้าไม่เคยตรัสว่า สวรรค์นรกเป็นอย่างไร
ท่านตรัสแต่เพียงว่า "ทำดีได้ไปเกิดที่ดี ทำไม่ดีได้ไปเกิดที่ไม่ดี"
แต่สวรรค์นรกที่เรารู้และเชื่อกันในปัจจุบัน
ถูกเขียนขึ้นในไตรภูมิพระร่วง

(มนุษย์เขียนใช่มั้ยครับ ในโลกเรายังรู้ไม่หมดเลย จะไปรู้เรื่องสวรรค์นรกได้อย่างไร
มันเป็นกุศโลบาย (กุศล+อุบาย) ที่ทำให้คนกลัวการทำผิด
ลองคิดดูนะครับ ถ้าโลกเราไม่มีการพูดถึงนรก คนเราจะกลัวการทำผิดมั้ยหละครับ ถ้าไม่มีการพูดถึงนรก เราก็จะทำผิดอย่างไม่ละอาย)

ถ้านรก-สวรรค์แบ่งตามเชื้อชาติก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้ามันแบ่งตามศาสนาหละครับ
คนไม่มีศาสนามีเยอะแยะ เค้าจะไปอยู่ไหน ฝรั่งนับถือพุทธก็มีเยอะแยะ เขาจะไปอยู่ไหน...

ถ้าสวรรค์นรกมีจริง จะต้องมีหนึ่งเดียว สำหรับลงโทษ/ให้ผลรางวัลแก่มนุษย์ด้วยกฏเดียวกันสิครับ ถ้างั้น แล้วศาสนาที่ไม่มีสวรรค์หละ...

มันเป็นแค่ความเชื่อครับ... ถ้ามีจริง คนที่ไปเห็นมาทำไมเห็นไม่เหมือนกันหละครับ
คนไทยเห็นอย่างที่เชื่อ และฝรั่งก็เห็นอย่างที่เขาเชื่อ...
นักจิตวิทยาก็บอกว่า เขาจะเห็นตามที่เขาเชื่อครับ ถ้าเขาไม่เชื่อในพระเยซู เขาก็จะไม่มีทางตายไปแล้วกลับมาบอกว่าเห็นพระเยซูหรอกครับ เขาก็จะเห็นแต่ยมบาล ฯลฯ ทีเขาเชื่อ

---------------------------------------------------------------------------
บัดนี้เสียงเรียกของเวลา
ได้เรียกร้องให้สัจจะที่สมบูรณ์ถูกเปิดเผยขึ้น... อีกครั้ง
msn: bkgolf_th@hotmail.com

 

เอ..ผมว่าพระพุทธเจ้าทรงเคยกล่าวถึงนะครับ ในหลายๆตอนของพุทธประวัติ เช่นตอนที่โปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้น ดาวดึงส์นะครับ

 

เท่าที่พอทราบมา สวรรค์ นรก มีได้หลากหลายรูปแบบครับ ตามแต่ผลกรรม จริตอุปนิสสัย ใครทำกรรมมาคล้ายๆกัน มีอุปนิสสัย ความชอบ ความเชื่อ คล้ายๆกัน ก็จะไปเกิดอยู่ร่วมกัน เพื่อรับผลกรรมแบบเดียวกันครับ สวรรค์แบบโบราณก็มี สวรรค์แบบเข้ากับยุคสมัยนี้ หรือแบบล้ำสมัยก็มีครับ สถาปัตยกรรมบนสวรรค์ถูกสร้างสรรค์ขึ้นตามความชอบความพอใจของเทพผู้อยู่อาศัย

 

ผมใส่แว่นกันแดดสีดำไปเที่ยว นึกว่าฝนจะตกทั้งวันเลย คุณล่ะใส่แว่นสีอะไร

 

น่าคิดเหมือนกันครับสำหรับแนวคิดที่ว่า "เราจะเห็นอย่างที่เราอยากเห็น หรืออยากเชื่อ" ถ้าเช่นนั้น มันก็อาจจะมีอยู่จริงหรือไม่มีอยู่จริงเช่นนั้นหรอกหรือ (เหมือนที่ใครเคยพูดไว้ว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านเทศไว้ว่าในพระจุฬามณี คนแต่ละคนอาจมองเห็นสีของเข็มขัดของพระพุทธเจ้าไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสภาวะของจิตของแต่ละคน)
หนังสือของอาจารย์ปริญญาก็เคยพูดไว้ว่า เดิมทีนรก-สวรรค์ มันไม่เคยมีอยู่หรอก แต่เพราะคนเราเริ่มเชื่อว่ามันมี ด้วยอำนาจของจิตแต่ละคน ก็เลยไปสร้างให้มันมีขึ้นมาจริงๆขังตัวเองไว้จริงๆ คนแล้วคนเล่า จนกลายเป็นชุมชนขึ้นมา อะไรทำนองนั้น (และเมื่อมีชมชุนขึ้นมาก็เลยต้องมีระบบการปกครอง มีการสร้างระบบ ระเบียบกันขึ้นมา เช่น มีเทพผู้ครองนรก-สวรรค์ชั้นนั้น ชั้นนี้ อะไรทำนองนี้ - ตรงนี้ผมขยายความเอาเองนะครับ) และ..ถ้าเป็นไปตามนัยนี้..ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเช่นนั้น คนที่เขาไม่เคยได้ยินได้ฟัง ได้รับรู้หรือเชื่อเรื่องนรกสวรรค์มาก่อนเลย ถ้าเขาเชื่อว่าตายแล้วสูญ (มิจฉาทิฐิ) เขาก็ต้องไปนิพพานกันหมดสิครับ หรือไม่เขาก็สูญไปเลยซิครับ..เอ..มันน่าคิดน่าครับ..ว่าไหม๊

 

ตามความคิดเห็นของผมนะครับ

ผมขอถามว่าเรือนจำนักโทษนี่ คนกลุ่มหนึ่งนับถือศาสนาหนึ่งแยกไว้อีกที่หนึ่ง คนกลุ่มหนึ่งอีกอย่างแยกไว้อีกที่หนึ่ง หรือป่าวครับ ผมว่านรกก็เหมือนกันไม่มีการแยกกัน แต่ที่แตกต่างกันก็คือความเชื่อแต่ละประเทศ ขนบธรรมเนียมประเพณี จิตนาการ ความเชื่อของตนที่สืบทอดกันมา..
.............................................................................
ที่แน่ๆลงไปดูเองดีกว่า...นะ

 

ถ้าเป็นอย่างคุณ LordChicken ว่า เวลาผู้ที่สามารถไปท่องนรก-สวรรค์ได้ ก็ต้องเห็นว่าบนสวรรค์นั้นมีทั้งเทวดาไทย จีน ฝรั่ง ฯลฯ อยู่กันเพียบหนะซิครับ แต่ไหงเห็นหลวงตา-หลวงปู่ของไทยเขียนไว้ในหนังสือเล่มไหนต่อเล่มไหน ก็บอกแต่ว่าเทวดาหน้าตา-แต่งกาย เป็นแบบไทยหมดเลยหละครับ (แต่อาจจะมีบางท่านกล่าวไว้ก็ได้นะครับแต่ผมไม่ทราบเอง)
...อันนี้ก็เลยสงสัยครับ...

 

.......ในที่ผมบอกว่าแยกกันตามความเชื่อนั้น...ผมหมายถึงความเชื่อในโลกมนุษย์..แต่ถ้าตายไปก็มีสภาพเหมือนกันหมดไม่มีแบ่งแยก ที่หลวงตา-หลวงปู่ของคุณบอก ผมว่าใช่แล้วครับเพราะผมก็ได้รับยินรับฟังตามนี้เหมือนกัน..พูดไปก็เท่านั้นแหละครับ...ไปเองดีกว่านะ...หาอาจารย์ดีๆแล้วไปดูเองเลยจะได้หมดข้อสงสัย

ไปได้จริงๆนะ

 

เอ...เรื่องนรกสวรรค์นี่ ผมว่าเห็นตามที่เจ้าของดวงจิตอยากเห็นนะครับ จาก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ปรุงแต่งเป็นชาติ ภพ จิตดวงใดมีสัญญาแบบไหน ก็เห็นและรับรู้เป็นแบบนั้น ผมว่า เมื่อเทวดามองกันและกัน ต่างก็เห็นเทวดาอีกท่านในแบบที่ตนเองเป็น เช่นเทวดาไทยก็เห็นเทวดาฝรั่งสวมชฎาแบบไทย ส่วนเทวดาฝรั่งก็เห็นเทวดาไทยมีปีกเป็นต้น ส่วนนรกนั้น กรรมต่างกำหนดให้สัตว์เหล่านั้นลงโทษกันเองอยู่แล้ว แม้กระทั่งนายนิรบาล ก็เป็นผู้ต้องโทษในนรกภูมิ ( นรกภูมินั้นร้อนรุ่ม วุ่นวาย ใครอยากไปทำงานในที่อย่างนั้นบ้างครับ แถมไม่มีวันหยุดด้วย )

 

เอ...เรื่องนรกสวรรค์นี่ ผมว่าเห็นตามที่เจ้าของดวงจิตอยากเห็นนะครับ จาก รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ปรุงแต่งเป็นชาติ ภพ จิตดวงใดมีสัญญาแบบไหน ก็เห็นและรับรู้เป็นแบบนั้น ผมว่า เมื่อเทวดามองกันและกัน ต่างก็เห็นเทวดาอีกท่านในแบบที่ตนเองเป็น เช่นเทวดาไทยก็เห็นเทวดาฝรั่งสวมชฎาแบบไทย ส่วนเทวดาฝรั่งก็เห็นเทวดาไทยมีปีกเป็นต้น ส่วนนรกนั้น กรรมต่างกำหนดให้สัตว์เหล่านั้นลงโทษกันเองอยู่แล้ว แม้กระทั่งนายนิรบาล ก็เป็นผู้ต้องโทษในนรกภูมิ ( นรกภูมินั้นร้อนรุ่ม วุ่นวาย ใครอยากไปทำงานในที่อย่างนั้นบ้างครับ แถมไม่มีวันหยุดด้วย )

 

น่าคิด..น่าคิด..

 

มนุษยเป็นคนสร้างพระเจ้า สวรรค์ และนรก

ดังนั้น มนุษย์ที่อยู่คนละทวีป ย่อมจิตนาการ ไม่เหมือนกัน

 

มนุษย์ กลัวสิ่งที่มองไม่เห็น สิ่งที่ไม่เคยเห็น บวกกับจินตนาการอันไร้ขอบเขต ทำให้เกิดความกลัว ถ้ามีใครบอกว่าทำสิ่งนี้แล้วจะเป็นอย่างนั้น อย่างโน้น อย่างนี้..........

 

ใครบอกล่ะพ่อ หลวงพ่อฤาษีฯบอกเห็นพวกชาวคริสต์บนสววรค์ถมถืดไป แต่พวกมุสลิมมีน้อยมาก

 

บางครั้งคนที่เห็นก็เขียนไม่ได้ครับ

พุทธศาสนา ที่แก่นแท้ ก็คือ ธรรม และ ธรรม คือสิ่งที่มีอยู่แล้วและเป็นไปตามที่พระพูทธเจ้าได้สั่งสอน เทพ เทวดา หรือ นรก สวรรค์ ก็เป็นสิ่งที่มีอยู่แต่ก่อนแล้ว ไม่ใช่เป็นของพระพุทธศาสนา ที่ต้องกล่าวเช่นนี้ ก็เพราะว่า บางอย่างเราไม่จำต้องยึดมาเป็นเรื่องของศาสนาแต่ เพียงปรากฏในศาสนาก็เพื่ออธิบาย ให้เห็นถึงธรรม
สวรรค์ ไม่ได้เป็นอย่างที่เขียนเพราะสิ่งที่เขียนก็ต้องอยู่ในกรอบของแต่ละประเทศ ไม่งั้นก็ไม่สามารถอธิบายให้ผู้รับฟังได้
เอาตัวอย่างจากคนที่เห็นจริง แค่โลกที่เราอยู่ในเมืองไทยในกรุงเทพ ก็พอ สิ่งที่คนที่เห็นจริงเค้าเห็น ในกรุงเทพ ก็นับ ไม่หวาดไม่ไหว ที่แต่งตัวเป็นจีน แขก ไทย และ ที่กำหนดไม่ได้ก็มี รูปร่างหน้าตาบาง ท่านก็ไม่สามารถระบุชาติได้ การแต่งตัว บางคนก็แต่งตัวดี บางคนก็ไม่ใส่เสื้อผ้า นี่นับแค่ที่พอบอกได้ว่าเหมือนคน ที่ไม่เหมือนคน ก็อีก หน้าเป็นยักษ์ ก็มี เปรต ก็มี ตัวเคราะห์ก็มี ตัวแช่งก็มี อยู่บนดินก็มี อยู่บนอากาศก็มี เป็นมังกรบินอยู่ก็มี อยู่ในน้ำก็มี
สิ่งที่บอกกล่าว นั้นมาจากคนที่เห็น ด้วยตาทิพย์ เค้าก็บอกว่าพวกนี้ก็อยู่รวมกับเราบนโลก แต่สวรรค์นั้นมีสิงที่แตกต่างกัน คือ ชั้นของสวรรค์ นั้นอย่าลืมว่า เทวดา บนนั้นไม่สามารถข้ามระหว่าชั้นได้อย่างอิสระ ( แต่คนในโลกบางคนกลับข้ามไปมาได้อย่างอิสระ )
ผมก็ขอให้ข้อมูลแค่นี้ก่อนครับ ส่วนผมไม่ค่อยสงสัยเรื่องแบบนี้หรอก เพราะผมหยุดแสวงหาแล้วครับได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ เพราะโลกมันกำลังมีเหตุรุนแรงขึ้นทุกที ทุกวินาทีมีค่าต่อการปฏิบัติครับ

 

ไม่ทราบว่าพอจะบอกชื่อหนังสือได้ไหมครับ จะได้ไปหาอ่านบ้างครับ ขอบคุณมากครับ

 

วันนั้นถามทิ้งไว้ เพราะว่าไม่รู้และสงสัยจริงๆ

แต่วันนี้ คิดว่าพอจะมีคำตอบให้ตัวเองแล้วหละครับ

(หลังจากวนเวียนอยู่ในเวปนี้มากว่า 3 ปี)