เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ขอเดาว่าเป็นสมเด็จองค์ปฐมครับ

 

(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า"เจ้าถ้ำ"!!!
=================
ความเดิม...บางทีกุศลผลบุญนี้ อาจช่วยหนุนส่งกงล้อแห่งโชคชะตาหนุนนำพาคณะเราหลุดรอดพ้นนรกตะนาวศรี มีขุมทรัพย์เผ่านาคาติดปลายนวม...กลับบ้าน!
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

ก่อน 9 โมงเช้าเล็กน้อย ผมนำหน้าไต่ขึ้นหลังคาเทวาลัยดึกดำบรรพ์ ข้อมือขวาคล้องเถาวัลย์ ถัดไปเป็นเจ้ามะมอญหนุ่มจอมแกร่ง ผูกเถาวัลย์กับเอวโยงเงื่อนขึ้นอกแบบนักไต่เขา อาจารย์เลิศรั้งท้าย โยงเถาวัลย์ผูกเงื่อนอย่างเดียวกัน

เอาตัวจอมขมังเวทย์ขึ้นยอดปราสาทหินโบราณด้วยวิธีง่าย ๆ ไม่พลาดพลัดร่วงคอหักอย่างปลาตายน้ำตื้นอับอายผีสางแถวนี้

เจ้ามะไต่กลับลงไป ผมกับดวงดาวช่วยจัดสัมภาระวางตามจุดที่อาจารย์เลิศชี้...

"สวย...สวยงามไม่น่าเชื่อ..วิวบนนี้"...คุณเทพถือไอ้ปืนโตเดินสำรวจตรวจตราความแข็งแรง พูดเสียงดังกับภาพพาโนราม่า การมองทัศนียภาพเปิดกว้างรอบทิศ

ทะเลสีเขียวแห่งพงไพรโผล่ยอดเห็นมุมใกล้ตาตรงนี้นิด ไกลตาตรงโน้นหน่อย แต่งแต้มประปรายในห้วงมหาสมุทรแห่งสายหมอกที่ท่วมทับหนาทึบ บางแห่งหมอกก็แยกตัวเป็นทางเบาบางเลือนรางดั่งควัน ช่างเป็นโลกแห่งความงามที่ยากจักจินตนาการออกมาได้เสมอเหมือน มีแต่เงื้อมหัตถ์ธรรมชาติเท่านั้น ที่สามารถรังสรรความวิลิศมาหราดั่งนี้

เราพักดื่มด่ำช็อตอัศจรรย์ เพลินฟังเสียงเพรียกวิญญาณป่าที่กำลังเคลื่อนไหวใต้สายหมอก ความงามยิ่งใหญ่เลอโฉมสะกดทุกสายตาบนยอดเทวาลัยตะลึงงัน โลกเบื้องล่างที่มองไม่เห็นนั้นเล่า ก็ส่งสรรพสำเนียงขึ้นมาเป็นระยะ ทั้งส่ำสัตว์กู่ร้อง สายลมกระพือโหม การเคลื่อนตัวของหมู่ไม้ หมู่วิหคเหนือหัวฉวัดเฉวียนว่อน ตัดกับท้องนภาสีครามชวนตื่นตาตื่นใจ

ฉากนี้ประหนึ่งภาพวาดจิตรกรเอกของโลก มอบให้พวกเราเป็นรางวัลชีวิต ชดเชยความผิดหวังคับแค้นติดข้องเรื่อยรุ่มที่เผชิญมาในผืนป่าหฤโหด มหัศจรรย์แห่งขุนเขา มหาสมุทรสายหมอก ทะเลป่าดงดิบสีเขียว สายธารปีกสกุณาที่ต่อเป็นทิวยาวเหยียดบนท้องฟ้า...

โลกหลายมิติงดงามทับซ้อน สั่งสอนเราว่ามนุษย์นั้นช่างเล็กดังมดปลวก เมื่อเทียบกับมหิทธาแห่งธรรมชาติและจักรวาล!

"มาเถอะ...ได้เวลาแล้ว"...จอมขมังเวทย์เตือนให้ตื่นจากความฝัน

หีบวิเศษถูกนำวางพื้นแลงกึ่งกลางยอดเทวาลัย หม้อน้ำมนต์จัดเตรียมน้ำเปี่ยม สายสิญจน์ไม่ต้องใช้แต่ก็เอาออกมาวางกองพอเป็นพิธี...หัวกะโหลกปักด้วยเทียนไขที่จุดใช้แล้ว ความจริงเทียนนี้ไม่ควรนำกลับมาใช้อีกตามเคล็ดวิชาไสยเวทย์

"ยามไร้เด็ดดอกหญ้าแซมผม อย่าถือเคล็ดคนเมืองนัก นี่เป็นป่าพิสดาร คนพิศวง เผ่าที่ไม่รู้เรื่องเคล็ดของชาวเรา"...อาจารย์ว่าอย่างยืดหยุ่น เราทุกคนเข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม

ผมเหลาไม้ยาวขนาดช่วงแขนเรียวเล็กเป็นก้านธูปสมมติ พยายามจุดไฟตรงปลายจนติด มันจะดับทีหลังก็ไม่เป็นไร ปักลงตามซอกแลงผุกร่อน จานเนื้องูเหลือมพม่ายักษ์ 2 ก้อนสุกกับดิบวางหลังก้านธูปจำแลง

ลมภูเขาเริ่มโชยอื้ออึง บนนี้เทียนพิธีไม่มีทางจุดติด...

"จุดเทียนติดแล้วดับช่างมัน ทำให้ดีที่สุด สุดฝีมือ อะไรจะเกิดขึ้น ให้มันเป็นไปตามนั้น น้องพราน"!

( ยังมีต่อ )
________________________

*** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอน มีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณี มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ***

 

(ต่อ)...เหล็กไหลฯ
=============

จอมขมังเวทย์นั่งขัดสมาธิหันหลังให้ดวงอาทิตย์ หมายความว่าพวกเรากำลังหันหน้าสู่เบื้องปัจฉิมทิศ..เส้นทางคนตาย!

ผมนั่งขวา ดวงดาวอยู่ซ้าย คุณเทพอุ้มปืนโตในอ้อมแขน ยืนเยื้องเบื้องหลังเงียบ ๆ ในท่าพัก ไม่เกะกะใคร

ชั่วอึดใจพระพุทธ อาจารย์เลิศเข้าสมาธิหลับตา แล้วลืมตาเปิดหนังสือมนตราเล่มน้อย อ่านโองการชุมนุมเทวดา ไม่มีการตั้งนะโม ใช้พุทธศาสตร์เกี่ยวข้อง

"โลกวิญญาณย่านนี้ ไม่รู้จักเสียงสวดมนต์ไม่เข้าใจภาวะพุทธะดังพวกเรา เป็นโลกมนต์ดำล้วน..."...อาจารย์ว่าแล้วเสริมต่อ...

"ไหว้วานเทพเทวาเจ้าป่าเจ้าเขาก็พอ"!!!

บทสวดชุมนุมเทวดา เปลี่ยนบรรยากาศโปร่งใสนุ่มนวลชวนใหลหลงเบาสบายบนยอดเทวาลัยสลับฉากเป็นหนักอึ้ง มวลอากาศอึดอัดบอกไม่ถูกเคลื่อนเข้ามากดทับ ท้องฟ้าโปร่งงามกระจ่างแสงแดด ครึ้มลงฉับพลันเมื่อมหาเมฆก้อนมหึมาด้านบูรพาทิศข้างหลังเรา เคลื่อนเข้าบดบังรัศมีสุริยัน ลมแรงกระหน่ำอื้ออึงใส่ยอดเทวาลัย คุณเทพต้องหยีตา ย่อตัวลงนั่งตามพวกเรา

บทชุมนุมเทวดาระรัวจากปากจอมขมังเวทย์จบสิ้น ตานั้นจ้องเขม็งบนตัวหนังสือไม่กระพริบ ทันใดก็เสือกหนังสือมนตรามาทางผม...

"อ่านบทต่อไปให้ดวงว่าตาม...เร็ว"!

เป็นบทสวดเรียกวิญญาณที่พวกเล่นคุณไสยใช้ ผมสูดลมหายใจลึก ๆ อ่านช้า ๆ บทเดียวกับที่เคยเชิญทัพนักรบปิศาจหมวดทินอ่อง มาช่วยเก็บกวาดสัมภเวสีผีขว้างถ้ำ...ดวงดาวหลับตาพนมมือ เงี่ยหูฟัง ปากก็ขยับตาม ลูกคออดีตเณรน้อยเอื้อนเสียงเสนาะเป็นลำนำมนตรา ไพเราะก้องกังวานแข่งสายลมหวีดหวิว!

มนต์ดำอันทรงพลังแห่งโลกวิญญาณ ลอยสะท้านไปถึงไหนก็หาทราบได้...แต่ลมที่กรรโชกเริ่มกระหน่ำหนักข้อ เมฆเทาดำอีกก้อน รวมเป็นกลุ่มก้อนมาทางเบื้องหน้า

ชั่วพริบตามันก็บิดเป็นรูปเกลียวเชือก หมุนเป็นลำยาวยืดบนท้องฟ้ามองยังไงก็ใช่ ร่างงูยักษ์กำลังเริงระบำ ห่างยอดเทวาลัยพวกเราไม่กี่มากน้อย...

เจ้าปิศาจงูยักษ์ผลุดขึ้นมาจากยมโลก ก่อนวิญญาณอื่นจะเดินทางมาตามบทเรียก...

อาจารย์เลิศจ้องเขม็งไปยังภาพชวนสะพรึงรีบร้องสั่งเสียงดัง...

"เปลี่ยนเป็นบทปล่อยวิญญาณ น้องพราน"...

ผมพับหน้าหนังสือไว้แล้วตามที่ซักซ้อมกับอาจารย์ บทลำดับต่อไปการขับไสไล่ส่งวิญญาณร้ายทั้งปวงอย่าได้มาเข้าใกล้ยุ่งขิง...ดวงดาวในภาวะเข้าฌานเบื้องต้น ขยับเสียงตามการอ่านช้า ๆ ของผม แต่เสียงจากปากดวงเริ่มเปล่งดังขึ้น ดังขึ้นมาก กลายเป็นกระหึ่มกึกก้องกลบทุกสรรพสำเนียงรอบตัว

ดวงดาวเข้าสู่สภาวะโดนครอบด้วยมนต์อีกครั้ง!

เรายังไม่รู้ "เทพ" หรือ "สิ่งใด" เข้าครอบร่างอดีตเณรน้อย แต่ภาพที่เห็นช่างประทับใจ เพราะใบหน้าซูบซีดดำเกรียมหนุ่มน้อย เปลี่ยนเป็นเปล่งปลั่งสดใสเปี่ยมราศรี

ทันใด...ดวงก็ขยับตัวขยับมือเปลี่ยนท่าเองโดยไม่มีใครบงการหรือสอนสั่ง...มือเล็ก ๆ ที่พนมปรับอยู่ในท่าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต...!

-------------------

*** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอน มีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลง ทำซ้ำทุกกรณี มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย ***

 

ธรรมะของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ-พระราชพรหมยาน วัดท่าซุง อุทัยธานี
เมื่อวานนี้ เวลา 06:24 น. ·
เกิดมาแล้วต้องรับกรรม ๒ อย่าง
" เราเกิดมา เราต้องรับผล ๒ อย่าง คือ กรรมที่เป็นกุศล อย่างหนึ่ง กรรมที่เป็นอกุศล อย่างหนึ่ง
ขณะใดกรรมที่เป็นอกุศลครอบงำ จิตไม่มีทางจะทำความดีได้เลย ความเลวมันจะครอบงำจิต เห็นผิดเป็นชอบ
ถ้าอกุศลมันถอยไป กุศลกรรมเดิม มันเข้ามาสนอง จะรู้เลยว่า ที่ทำครั้งเก่ามา เลวมาก มันก็ไม่ทำ
เพราะฉะนั้น หมั่นในการให้ทาน เป็นการตัดความโลภ หมั่นในการรักษาศีล เพราะเป็นการปิดอบายภูมิ ไม่ให้เราลงนรก
ใช้ปัญญา เป็นเครื่องพิจารณากฏของธรรมดา จิตยอมรับนับถือกฏของธรรมดา
เมื่อจิตยอมรับนับถือ กฏของธรรมดาเสียอย่างเดียว เราก็เป็นพระอริยเจ้า เป็นถึง พระอรหัตผล..."

( จากหนังสือ *ธรรมสัญจร* เล่มพิเศษ หน้าที่ ๑ )

 

ขอบคุณมากๆครับคุณอา
สองท่อน
บทชมป่า
ทอดอารมณ์
อันงดงาม
ประเดี๋ยวเดียว
ณ.ตรงที่เดิม
อย่างท่องเรือ
ฝ่าคลื่นยักษ์

 

สวัสดียามเช้าครับ สดชื่น ระรื่นใจ ในวันพักผ่อนอีกวันกันนะครับ มีความสุขทุกท่านครับ

 

ขนมในเทศกาลครับ

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน สุขสันต์วันตรุษจีน

 

จุใจ สะใจมากครับ ระทึกมากก วิญญาณอื่นยังไม่มา วิญญาณงูยักษ์มาก่อนล่วงหน้าเลย ติดตามครับ

 

ให้เดาเพลินไปก่อนน้องปรายฯ
คนจัดเองก็ยังไม่รู้พระอะไร-ฮ่า

 

ฟังพระองค์จริงนี่แหละแน่นอนที่สุด
ลพ.ฤาษีวัดท่าซุงกับ"กรรม"ทั้ง2ด้าน...

มธุรส.........สดจากลิ้น
เชิญดื่มกิน...สิ้นสงสัย
กุศลกรรม....ย้ำปลอดภัย
ปัดเป่าไป่.....รุกไล่ทุกข์
.....อกุศล.........หากท้นท่วม
.....ชีวิตอ่วม......น่วมหน่ายลุก
.....วิถีกรรม.......กระหน่ำสุข
.....จมเลวทุกข์...ยากปลุกฟื้น!

 

การต่อสู้ยังไม่สิ้น
กว่าจะออกป่า ลิ้นห้อย
ต้องคอยตาม อย่าขาดตอน

 

มาสีแดงแรงยังกับอั่งเปา
แต่วันนี้วันจ่าย คงจ่ายกันมือแดง
ส่วนซองแดงหรือสีทองรับกันพรุ่งนี้

 

ทั้งหนมเข่ง-หนมเทียนของชอบ
ดูขนาด-สีสันเห็นแล้วรู้ว่าอร่อยแน่
อย่างนี้ ฝากใครหลังไหว้ได้อั่งเปา-ฮ่า

 

พรุ่งนี้ถึงเป็นวันตรุษ
วันนี้พาท่านผบ.จับจ่าย
เตรียมของไหว้พอท้วมๆ
เสียดายประทัดซื้อไว้ก่อน
เจออากาศอย่างนี้ต้องเอาเก็บ
ช่วยทางการเขาหน่อยเรื่องมลพิษ
อย่าคิดว่าไม่เป็นไรน่า เราบ้านเดียว
ลองคิดแบบนี้"ล้านบ้าน"ก็เท่ากับส่งยาพิษ
ขึ้นไปสมทบกับของที่กำลังไล่ หนักหนาอยู่ดี
คิดอีกที ทดลองไม่มีการจุดประทัดก็ดีเหมือน
เจ้าจะได้ไม่หนวกหู รับประทานไหว้อย่างสงบ
หลังจากนั้น ก็ให้ศีลให้พรลูกหลานอย่างมีพลัง
ไม่ต้องสะดุ้งกับเสียงปึงปัง...เอ มันไล่หรือรับ
ตูกันแน่หว่า?-เห็นไหม คิดมุมดีก็ดีจนได้-ฮ่า

 

วันนี้ช่วยแม่บ้านจับจ่ายข้าวของ หมดแรงเขียนน้องเอ็ด รอไว้พรุ่งนี้หรือสลับกับการทำบุญอีกทีหลังวันตรุษฯละกัน

 

ชิงช้าสวรรค์อาเชี่ยน เลือกนั่งตามสบายว่าจะอยู่ซุ้มชาติไหน ส่วนผมขอบาย เพราะเลยวัยหวาดเสียวแล้ว ยกเว้นมีสาวๆนั่งเป็นเพื่อน เผื่อหัวใจเต้นผิดจังหวะ-ฮ่า

 

วันตรุษจีนทั้งที มีวลีหลากสำเนียง
จากเจ้าของประเพณีมาฝาก ตรงกับ
ใครก็เอาไปใช้ได้ ไม่ต้องขัดเขิน...

--ฮกเกี้ยน...ซินเจียหยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้...(ทุกคนคุ้นหูยาวนาน)
--แต้จิ๋ว......ซิงเจี่ยยู่อี่ ซิงนี้หวกไช้...(นี่ก็ยังพอคุ้น)
--จีนกลาง...ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาฉาย...(บ้านเราใช้น้อย)
--จีนแคะ.....ซิ้นจิ้นหยียี่ ซิ้นเหนียนฝัดฉอย...(ไม่ค่อยได้ยิน)
--กวางตุ้ง....ซินจังจู๋จี่ ซินหนินฟัดฉ่อย...(ยิ่งได้ยินน้อยที่สุด)

อย่างไรก็ตามทุกสำเนียงล้วนทรงความสิริมงคล แปลและความหมายทางเดียวกันว่า...

"คิดหวังสิ่งใดขอให้สมหวังสมปรารถนามีแต่ความสุขมั่งคั่ง โชคดีร่ำรวยตลอดปี !"

"ซินเจี่ยหยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้"...!
แด่เพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ

 

แด่คุณอาและเพื่อนๆ
ซินเจียหยู่อี่ ซินนี่ฮวดไช้
ตั่วถั่ง ตั่วถั่ง