อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    ธนบัตรที่ระลึก ครองสิริราชสมบัติครบ ๗๐ ปี


    งดงามมากเหมาะแก่การใส่กรอบไว้บูชา ภาพต้นฉบับเป็นพระบรมฉายาลักษณ์เบื้องหน้าพระบรมโกศ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2016
  2. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]



    เหรียญพระแก้วมรกต ปึ ๒๕๒๕ สุดยอดของดีราคาถูก นำมาแนะนำกันอีกครั้งนะครับ


    ช่วงเวลานี้วัตถุมงคล และของที่ระลึกอันเนื่องด้วยในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทุกๆอย่างล้วนแล้วแต่ได้รับความสนใจเก็บหากันไว้เป็นที่ระลึกถึงพระองค์ท่าน บางอย่างเช่าหากันแพงหรือถูกก็ว่ากันไปตามความนิยม แต่ไม่ว่าแบบไหนมีไว้ระลึกถึงพระองค์ท่านและคำสั่งสอนก็ล้วนแล้วแต่ดีทั้งนั้น

    กล่าวถึงพระแก้วมรกตก็เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ที่ครูบาอาจารย์หลายๆองค์ได้กล่าวถึงความศักดิ์สิทธื์เอาไว้ อาทิ หลวงปู่มั่น หลวงพ่อฤาษี หลวงปู่สิม เป็นต้น หรือที่วัดหลวงพ่อกวย หรือวัดหลวงปู่หมุน ก็มีสร้างพระแก้วมรกตไว้ให้บูชากัน ใครไปที่วัดก็จะเห็น

    หลวงพ่ออุตตมะเคยเล่าให้ "พุทธวงศ์" ฟังว่า พระแก้วมรกตกับพระคาถาชินบัญชรนั้นเป็นของคู่กัน เพราะเป็นพระคาถาที่ใช้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเข้าประดิษฐานในองค์พระแก้วมรกต
     
  3. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    นำรูปหล่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี มาถ่ายภาพใหม่โดยใช้กล้องdslr


    [​IMG]

    ภาพแรกใช้เทคนิคการถ่ายโบเก้รูปองค์พระ ไม่ได้ใช้การตัดต่อภาพนะครับ



    [​IMG]

    ภาพที่สองถ่ายแบบปกติโดยเปิดช่องรับแสงกว้างๆเพื่อละลายฉากหลัง ตำแหน่งภาพตรงโดยบังเอิญต้นไม้ด้านหลังหลวงพ่อถูกละลายไปเหมือนองค์หลวงพ่อท่านแผ่รังสีหรือแผ่บารมีออกมา
     
  4. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]



    พระวิสุทธิเทพ กับแสงTwilight ยามเช้า

    เข้าสู่อาทิตย์สุดท้ายของปีแล้ว แม้จะต้องผ่านอะไรมามากมายแต่ชีวิตก็ยังคงต้องดำเนินกันต่อไป ประสบกับสุขทุกข์ตามที่ตนได้ประกอบเอาไว้หมุนเวียนกันไปตามวัฏจักร เสมือนดวงอาทิตย์ที่ต้องหมุนเวียนไปตามฤดูกาล

    คงมีแต่คำสอนของพระบรมศาสดา ที่หากเรายึดมั่นปฎิบัติตาม คงมีโอกาสได้เข้าเฝ้าพระวิสุทธิเทพในสักวัน

     
  5. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,486
    ค่าพลัง:
    +53,107
    [​IMG] [​IMG]
     
  6. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    [​IMG]


    น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ

    ๒๘ ธันวาคม วันคล้ายวันปราบดาภิเษกสมเด็จพระเจ้าตากสินมหารา
     
  7. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,486
    ค่าพลัง:
    +53,107
    FB_IMG_1470450428966.jpg FB_IMG_1470450425716.jpg สวัสดีปีใหม่2560ทุกๆท่านด้วยครับผม FB_IMG_1477213801489.jpg
     
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,905
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    .........................
    เจอแล้วว รูปนี้เหมือนมีพระล้อมองค์หลวงพ่อเลยนะคะ
     
  9. ภารกิจ

    ภารกิจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2018
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +618
    ฝากไว้ในอัลบั้มพระสักชุด "พระคู่ชีวิต"
    เหรียญเมตตา หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง,
    หรียญยันต์ดวง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก,
    เหรียญท้าวเวสสุวรรณ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

    26166849_538565556517488_2312310875814501410_n.jpg
     
  10. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    19,486
    ค่าพลัง:
    +53,107
    แพะแกะ IMG_25610213_115814.JPG
     
  11. NiponSuwan

    NiponSuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2018
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,153
    บุษบก หลวงพ่อฤาษี.jpg

    เมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ที่ผ่านมา มีโอกาสได้เข้าไปกราบสังขารพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีอีกวาระหนึ่ง ตอนนี้ทางวัดทั้งกำลังก่อสร้างและบูรณะในส่วนที่ชำรุดทรุดโทรมให้ดูงดงามยิ่งขึ้น แต่เวลามีไม่มากเลยเดินชมได้เพียงไม่กี่ที่ หากมีโอกาสก็จะกลับไปอีก ได้ไหว้พระได้ชมสิ่งสวยงามเจริญตา และได้ร่วมบุญกับทางวัดด้วย
     
  12. NiponSuwan

    NiponSuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2018
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,153
    พระพุทธชินราช วัดท่าซุง.jpg

    พระพุทธชินราช วัดท่าซุง

    หลวงพ่อฤาษีท่านได้ปรารภกับศิษย์ว่าจะสร้างพระคำข้าวแบบสมัยหลวงพ่อปานขึ้นมา แล้วท่านก็ได้สร้างผงคำข้าวขึ้นตามกรรมวิธี จากนั้นได้นำผงคำข้าวที่บดละเอียดแล้วไปฉาบกับองค์พระพุทธชินราช หลวงพ่อวิรัช เจ้าอาวาสวัดธรรมยาน ท่านได้ให้ช่างขยักผงไว้ส่วนหนึ่ง ซึ่งก็ได้นำมาสร้างเป็นพระเครื่อง คือพระคำข้าวที่เรารู้จักกัน พระพุทธชินราชองค์นี้ก็เป็นพระคำข้าวองค์แรกของวัดท่าซุง ที่ทั้งงดงามและศักดิ์สิทธิ์มากๆ
     
  13. NiponSuwan

    NiponSuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2018
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,153
    สมเด็จองค์ปฐม.jpg


    สมเด็จองค์ปฐม1.jpg


    สมเด็จองค์ปฐม วัดท่าซุง

    วิหารหรือมณฑปสมเด็จองค์ปฐม จะอยู่ด้านหลังทางโซนพระยืน ๓๐ ศอก เจดีย์พุดตาน และใกล้ๆกับ ปราสาททองคำและอาคารสมบัติพ่อให้ ที่จะเป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญอีกจุดหนึ่งในอนาคต

    “สมเด็จองค์ปฐม” ก็คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือองค์ที่หนึ่ง ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขี” แต่พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้วอาจจะมีชื่อซ้ำกันได้ โดยเฉพาะชื่อนี้มีด้วยกันถึง ๕ พระองค์ จึงเรียกขานกันว่าเป็น พระพุทธสิกขีที่ ๑ พระองค์จึงเป็นต้นพระวงศ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระพุทธองค์ว่า ทรงเป็น “สมเด็จองค์ปฐมบรมครู” อย่างแท้จริง
     
  14. NiponSuwan

    NiponSuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2018
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,153




    เจดีย์พุดตาน.jpg


    พระยืน ๓๐ ศอก.jpg


    เจดีย์พุดตานและพระยืน ๓๐ ศอก

    เจดีย์พุดตาน วัดท่าซุง

    "ถามพระท่านว่าทำไมจึงต้องสวย ท่านบอกว่าเป็นการเจริญศรัทธา ทุกอย่างที่ให้ทำนี่ ไม่ต้องการโอ้อวด ไม่ต้องการแข่งขันกับใคร จึงทำไม่เหมือนใคร

    ต้องการอย่างเดียว ให้ทุกคนที่มองเห็นแล้ว ติดตาติดใจว่า วัดท่าซุงมีอะไรบ้างที่เราชอบใจ ถ้าเวลาก่อนเขาจะตาย จิตเขานึกขึ้นมาว่า เราเคยเห็นวัดท่าซุงชอบใจตรงนั้นตรงนี้ ในขณะนั้นพร้อมกับเขาตายไป เขาจะไปสวรรค์ทันที"
    (หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง)


    พระยืน ๓๐ ศอก
    เป็นพระที่มีลาภสักการะมาก บูชาให้ดีจะมีเงินทองไหลมาเทมา แม่ชีทศพร ก็แนะนำให้ลูกศิษย์มากราบขอพรจากท่าน​
     
  15. NiponSuwan

    NiponSuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2018
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,153
    ปราสาททองคำ.jpg


    ปราสาททองคำ1.jpg


    อาคารสมบัติพ่อให้.jpg


    ปราสาททองคำ และ พิพิธภัณฑ์ "สมบัติพ่อให้"

    อาคารพิพิธภัณฑ์ "สมบัติพ่อให้"

    เป็นอาคารใหม่ที่ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ (คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน ๓ ปี) ใช้เป็นอาคารเก็บพระพุทธรูป พระเครื่องและวัตถุมงคลที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อพระราชพรหมยานได้จัดสร้างไว้ อีกทั้งยังใช้เป็นห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ห้องประชุม/สัมมนาอีกด้วย

    พิพิธภัณฑ์สมบัติพ่อให้เป็นอาคารรูปทรงสถาปัตยกรรมแบบสุโขทัยประยุกต์ เฉพาะตัวอาคารมีพื้นที่ประมาณ ๑ ไร่ อยู่ในบริเวณป่าใหม่ ลานธรรม (ตรงข้ามปราสาททองคำและ ๒๕ ไร่) เป็นอาคาร ๓ ชั้น โดยชั้นที่ ๒ จัดสร้างเป็นห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถือเสมือนเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรม และห้องประชุม/สัมมนา

    ส่วนชั้นที่ ๓ ใช้เป็นที่เก็บพระพุทธรูป พระเครื่องและวัตถุมงคลที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคและหลวงพ่อพระราชพรหมยานได้จัดสร้างไว้เพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ลุกหลานรุ่นหลัง

    ความเป็นมาในการก่อสร้าง

    เรื่องนี้ พ.ต.อ.อรรณพ กอวัฒนา ได้กรุณาเล่าให้ฟัง เมื่อวันวิสาขบูชาที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ ไว้ว่า ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีการจำหน่ายสังฆทานครบชุด ต้องไปเช่าบูชาพระพุทธรูปขนาดหน้าตักต่างๆ กันเพื่อถวายเป็นสังฆทาน ทำให้ที่วัดมีพระพุทธรูปสะสมมาจากการถวายสังฆทานนับเป็นหมื่นๆองค์

    ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านได้ปรารภเสมอว่าท่านไม่สบายใจเลยที่พระพุทธรูปถูกเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่เหมาะสม และถึงแม้จะสร้างปราสาททองคำและวิหารหลวงพ่อ ๕ พระองค์ เพื่อส่วนหนึ่งใช้เก็บพระพุทธรูปแต่ก็ยังไม่เพียงพอ จึงได้ดำริที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์สมบัติพ่อให้ขึ้น เพื่อใช้เป็นที่เก็บพระพุทธรูป พระเครื่อง และวัตถุมงคล ที่หลวงพ่อปานและหลวงพ่อฤาษีได้สร้างไว้ที่ชั้น ๓ ของตัวอาคาร
    สำหรับชั้น ๒ ซึ่งจัดเป็นห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์และห้องประชุม/สัมมนานั้น พ.ต.อ. อรรณพได้เล่าให้ฟังว่า ด้วยเหตุที่วัดท่าซุงไม่มีโรงเรียนพระปริยัติธรรม ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์แห่งนี้จะเปรียบเป็นเสมือนโรงเรียนพระปริยัติธรรมในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

    เพราะถึงวัดท่าซุงจะเป็นวัดสายปฏิบัติแต่ก็ไม่ทิ้งความรู้ด้านปริยัติ ในส่วนของห้องจัดประชุม/สัมมนา สร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ได้ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส เนื่องด้วยที่วัดมีพระสงฆ์มาก สถานที่นี้จึงสามารถใช้เป็นที่ประชุมสงฆ์ได้

    อีกทั้งในส่วนของโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระ ซึ่งในปีพ.ศ. ๒๕๕๐ มีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้เต็ม ๑๐๐% อันนับเป็นอันดับหนึ่งในเขตภาคเหนือ ทำให้มีคณะครู นักเรียนและส่วนราชการต่างๆขอมาศึกษาดูงานเป็นจำนวนมาก

    แต่ที่โรงเรียนฯมีสถานที่ไม่พอรองรับกับจำนวนคนที่มา จึงได้สร้างห้องจัดประชุม/สัมมนาขึ้นมาเพื่อใช้ต้อนรับคณะต่างๆที่มาดูงาน และยังสามารถใช้เป็นห้องบรรยาย ในกรณีที่ได้เชิญวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญภายนอกทั้งในประเทศและต่างประเทศมาอบรมให้ความรู้ทั้งกับครูและนักเรียนด้วย
    ที่มา: Watthasung.com​



     
  16. NiponSuwan

    NiponSuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2018
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,153
    ศาลา 12 ไร่.jpg


    จากศาลา ๑๒ ไร่ สู่ มหาวิหาร ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน

    อนุสรณ์ แห่งความเคารพรักความศรัทธาที่ลูกหลานศิษยานุศิษย์มีต่อพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน

    " ณ ที่แห่งนี้ บริเวณนี้ ต่อไปในอนาคตอันใกล้ จะมีลูกหลานและญาติสนิทมิตรสหายของฉันในอดีตชาติ จะกี่ภพกี่ชาติมาแล้วก็ตามที่มาเกิดทันฉันในชาติปัจจุบัน จะพากันมาชุมนุม ณ ที่แห่งนี้เป็นหมื่นๆ แสนๆคน "

    อมตะวาจาหลวงพ่อฤาษีที่บัดนี้เป็นความจริงทุกประการ

    ศาลา ๑๒ ไร่แห่งนี้นับเป็นความมหัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีและวัดท่าซุง ด้วยความใหญ่โตมโหฬารของศาลาที่ใครจะคาดคิดว่ายามเมื่อทางวัดท่าซุงจัดงาน คนจะมาร่วมงานกันจนแน่นศาลาหลังนี้

    และแม้บัดนี้หลวงพ่อฤาษีท่านจากไปเกือบ ๓๐ ปีแล้ว ยามที่วัดท่าซุงจัดงานศิษยานุศิษย์ ก็ยังคงมาร่วมงานกันแน่นศาลาเช่นเดิม แม้ศิษย์รุ่นเก่าล้มหายตายจากไป ศิษย์รุ่นใหม่ก็ถือกำเนิดเกิดขึ้นตามมากันไม่ขาดสาย

    และแม้ตัวศาลาเองก็ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ประกอบกับปี พ.ศ.๒๕๕๙ จะครบรอบ ๑๐๐ ปี ชาตกาลพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี ทางคณะสงฆ์วัดท่าซุงนำโดยหลวงพ่ออนันต์ ร่วมกับคณธศิษยานุศิษย์ จึงได้ทำการบูรณะศาลา ๑๒ ไร่แห่งนี้ขึ้นใหม่ เพื่อเป็นการเชิดชูพระคุณครูบาอาจารย์ โดยเมื่อแล้วเสร็จได้เปลี่ยนชื่อเป็น "มหาวิหาร ๑๐๐ ปี พระราชพรหมยาน" และสถานที่นี้จะได้ใช้เป็นที่หล่อรูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีด้วยเนื้อทองคำ เป็นการบูชาพระคุณครูบาอาจารย์ด้วยโลหะธาตุที่มีค่ามากที่สุด



    ศาลา 12 ไร่1.jpg

    หลวงพ่อได้เล่าถึงเหตุการสร้างศาลา ๑๒ ไร่

    ...อีกประการหนึ่ง เขาบอกว่า สร้างอะไรก็ใหญ่มาก มีคนผู้น่ารังเกียจ ไม่ใช่ผู้ทรงเกียรติ เมื่อสร้างศาลา ๒ ไร่ได้สองปี เสร็จไป ๒ ปี แกมานั่งเคาะพื้นว่า สร้างทำไม มันใหญ่โต จะเอาผู้คนที่ไหนมา..?

    แต่ความจริง การสร้างศาลา ๒ ไร่ ช้าไปหนึ่งปี การสร้าง สร้าง ๑ ปี ๖ เดือนเสร็จ มันก็ไม่ช้า แต่ว่าที่ช้าเพราะว่า มีปีหนึ่ง พอกฐินทอดเสร็จ พระท่านก็สั่งว่า

    ปีนี้..ต่อไปนี้ต้องสร้างศาลาถึง ๒ ไร่ ให้แล้วเสร็จภายในกฐินปีหน้า บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท มันเป็นคอนกรีต จะสร้างเสร็จได้อย่างไร ก็ยังสร้างไม่เสร็จ

    พอถึงกฐินปีหน้า ปีนั้นปรากฏว่า เฉพาะรถบัสมา ๕๐ คัน ศาลาพระพินิจไม่พอ..ล้น รถเก๋งอีกต่างหาก รถตู้อีกต่างหาก พอสร้างเสร็จ กฐินปีที่สร้างเสร็จ คนล้นศาลาไม่ใช่พอดีกับคน..คนล้นศาลา

    โดยเฉพาะปีนี้..หลายล้น ๒๕๓๕ นี่..หลายล้นศาลา เป็นอันว่า ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๓๕ เป็นต้นไป จะรับกฐินที่ศาลา ๑๒ ไร่

    ศาลา ๑๒ ไร่ นี่ไม่ใช่คนอื่น อาตมาเองคิดว่า ท่านสั่งสร้างทำไม ทีแรกก็คิดไม่ออก คิดว่าถ้าเป่ายันต์เกราะเพชร ศาลา ๒ ไร่ก็พอ

    ต่อมาไม่พอ..ใช้ศาลา ๔ ไร่ รวมเป็น ๖ ไร่ ก็ไม่พอ..ต่อมาศาลา ๑๒ ไร่ ต้อง ๓ รอบ
    ศาลา 12 ไร่2.jpg

    ศาลา ๑๒ ไร่
    (พระมหาวิหาร ๑๐๐ ปีพระราชพรหมยาน)


    ใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาและงานบุญต่างๆ

    ...เดิม "ศาลา ๑๒ ไร่" พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ สร้างไว้ หลังจากที่ได้สร้างศาลา ๒ ไร่ ศาลา ๓ ไร่ และศาลา ๔ ไร่แล้ว ศาลาเหล่านี้สร้างไว้เพื่อใช้ในการจัดงานบุญของวัด และใช้เป็นที่พักของญาติโยม เพื่อมาปฏิบัติพระกรรมฐาน หรือพักอาศัย ในเวลาทางวัดมีงานต่างๆ

    การสร้างศาลา ๑๒ ไร่ เพราะว่าศาลาต่างๆ ที่สร้างมาแล้วในครั้งที่จัดงานเป่ายันต์เกราะเพชร ปรากฎว่าผู้คนมามากมายจนล้นศาลา ๒ ไร่ และศาลา ๔ ไร่ เพิ่มรอบในการเป่ายันต์เกราะเพชรแล้ว ผู้คนก็ยังล้นมากมาย

    (หลวงพ่อเคยทำพิธีเป่ายันต์ที่นี่ จึงมีรูปยันต์เกราะเพชรขนาดใหญ่ ภายในศาลา ๑๒ ไร่ )

    ดังนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ จึงได้สร้างศาลา ๑๒ ไร่ โดยสร้างพระประธาน ๘ ศอก สร้างห้องพักเพื่อให้ญาติโยมได้พักประมาณ ๑๒๐ ห้อง ห้องน้ำประมาณ ๑๔๘ ห้อง

    (เคยมีโรงทานที่หลวงพ่อให้แม่ครัวของวัดทำอาหารเลี้ยงฟรี แต่ปัจจุบันนี้ได้ย้ายโรงทานไปไว้ที่ศาลา ๔ ไร่แทน)

    นอกจากนี้ บริเวณทางเดินชั้น ๒ ก็ได้สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ตลอดแนว พระชำระหนี้สงฆ์นี้เป็นเงินที่ญาติโยมถวายวัด โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ และได้ประดิษฐานไว้รอบศาลา ๑๒ ไร่

    ปัจจุบันศาลา ๑๒ ไร่ ได้ปรับปรุงใหม่โดย พระราชภาวนาโกศล (พระครูปลัดอนันต์ พทฺธญาโณ) เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ปี 2536 - 2561 และยังคงใช้ในการประกอบพิธีทางศาสนาและงานบุญต่างๆ เช่น งานทำบุญประจำปีซึ่งจัดเป็นประจำทุกปีช่วงกลางเดือนมีนาคม อาทิ

    งานทำบุญในวันสงกรานต์ งานสะเดาะเคราะห์ งานเข้าพรรษา งานออกพรรษา งานทอดกฐิน งานธุดงค์ และการฝึกมโนมยิทธิแบบเต็มกำลัง ซึ่งจัดในช่วงต้นเดือนธันวาคมของทุกปี


    ศาลา 12 ไร่3.jpg


    สรีระสังขาร พระราชภาวนาโกศล(หลวงพ่ออนันต์ พทฺธญาโณ)

    ตั้งอยู่ภายในมหาวิหารหลังนี้


     
  17. NiponSuwan

    NiponSuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2018
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,153
    พ่อหลวง.jpg


    พ่อหลวง1.jpg


    พ่อหลวง2.jpg


    วันที่ ๕ ธันวาคม วันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และ วันพ่อแห่งชาติ

    น้อมสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้

    ภาพแท่นบูชาในวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร วัดท่าซุง
     
  18. NiponSuwan

    NiponSuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2018
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,153
    เจ้าพระยาโกษาเหล็ก.jpg


    เจ้าพระยาโกษาเหล็ก1.jpg


    อนุสาวรีย์เจ้าพระยาโกษาธิบดี(เหล็ก) วัดท่าซุง

    ประวัติเจ้าพระยาโกษาธิบดี (เหล็ก) หรือ เจ้าพระยาโกษาเหล็ก

    โดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษี

    หลังจากเป็นพระบรมไตรโลกนาถพอสมควร เวลานั้นอย่าลืมนะว่ามี พระอรหันต์มาก คนเวลานั้นนิยมเจริญพระกรรมฐานอยู่มาก แต่การแย่งราชสมบัติกัน สมัยกรุงศรีอยุธยานี่แย่งกันไปแย่งกันมา ก็รู้สึกน่ารำคาญ กษัตริย์เปลี่ยนกันไปเปลี่ยนกันมา รู้สึกว่าใคร ๆ ก็อยากเป็นกษัตริย์ เห็นว่าเป็นของดี บางคนเป็นได้ไม่กี่ปีก็ตาย ก็ยังอยากจะเป็นกัน ก็แปลกตำแหน่งกษัตริย์เป็นตำแหน่งที่หนักมาก แต่ก็อยากเป็นกัน ช่างเขา มันเป็นกฎของกรรม และอาจจะเป็นบุญวาสนาของเขาก็ได้ เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถสวรรคต ก็ไปเป็นพรหมตามเดิม ไม่ช้าไม่นานก็ต้องเสด็จลงมาอีก​


    วาระที่ ๑๐ ก็ลงมาเกิดเป็นขุนเหล็ก หรือ “พระยาโกษาเหล็ก” เกิดควบคู่กับสมเด็จพระนารายณ์มหาราช รุ่นราวคราวเดียวกัน ขุนเหล็กมีน้องชายชื่อ ขุนปาน หรือพระยาโกษาปาน ประวัติของ เจ้าพระยาโกษาเหล็ก และสมัยหลังน้องชายก็เป็นเจ้าพระยาโกษาปาน ทำอะไรบ้างก็รู้กันตามประวัติศาสตร์แล้ว แต่งานจริง ๆ ทำมากกว่านั้น มีงานหนักมาก เจ้าพระยาโกษาเหล็กนี่เป็นเชื้อสายของสุโขทัย ตอนนี้ท่านก็มาถึงไทย และขยายไทยให้เข้าสู่สภาพปกติ เพราะตอนนั้นไม่สู้ปกตินัก

    เจ้าพระยาโกษาเหล็กและเจ้าพระยาโกษาปาน เคยเดินทางถึงต่างประเทศ ทั้ง ๒ คน มีฝีมือดี เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชมาก อันดันแรกเป็นเพื่อนเล่นกัน ต่อมาเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันมีฝีมือดี ต่อมาเป็นแม่ทัพ สมัยนั้นมีแม่ทัพนายกองเก่ง ๆ หลายท่านด้วยกัน เช่น พระยาพิชัยดาบหัก และอีกหลายคน ไม่ใช่เก่งคนเดียว เก่งคนเดียวนี่เก่งไม่ได้

    บั้นปลายของชีวิตท่านลาราชกิจราชการ เพราะเป็นคนแก่ ไปจำศีลภาวนาเจริญพระกรรมฐานวิปัสสนาญาณ ให้ทาน ตามปกติของคนแก่ ตายจากเจ้าพระยาโกษาเหล็กด้วยกำลังของฌานไปเป็นพรหมตามเดิม นอนสบายได้พักหนึ่ง ก็ต้องเสด็จลงมาอีกแล้วกรุงศรีอยุธยาแตกยับเยิน


    จาก หนังสือ เรื่องจริงอิงนิทาน (พิเศษ)​
     
  19. NiponSuwan

    NiponSuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2018
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,153
    ธงผ้ายันต์.jpg


    ผ้ายันต์ธงท้าวมหาพรหม(ธงขจัดอุปสรรค, กันเพลี้ยกระโดด)

    เป็นผ้ายันต์ผืนสีขาวมีอักขระพิมพ์ด้วยหมึกสีแดง มีการสร้างด้วยกันหลายวาระ ภายหลังจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านมรณะภาพแล้ว พุทธคุณเด่นๆ สำหรับผ้ายันต์ชุดนี้ จะเด่นทางด้านเมตตา โชคลาภ ปัดเป่าอุปสรรคต่างๆนาๆ รวมถึงหากนำไปปักไว้กลางทุ่งนา หรือไร่ สวน จะช่วยป้องกัน เพลี้ยกันแมลงได้อย่างดี

    *****************

    เรื่องผ้ายันต์กันเพลี้ยกระโดด
    มีเรื่องอยู่เรื่องคือ ที่พิเศษออกมาก็คือยันต์ จริงๆนี่สมัยหลวงพ่อท่านมีชีวิตอยู่นี่เกิดเรียกว่าเพลี้ย เพลี้ยกระโดด เคยได้ยินไหม เพลี้ยสีน้ำตาลมันกินข้าวเป็นแสนๆล้านๆ ไร่เลย ชาวนาจนช่วงนั้นนี่ คือหลวงพ่อก็ไม่รู้จะช่วยยังไง ท่านบอกว่า นันต์(หลวงพ่ออนันต์ อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าซุง) แกลองบอกกับชาวบ้านเขาซิ ให้ว่าคาถาตัวไหนก็ไม่รู้ ให้เขียนเป็นยันต์แล้วไปปักที่กลางนา เราก็จำไม่ได้ ไม่ค่อยได้สนใจมาก พอคุยปุ๊บท่านก็เข้าห้องน้ำ ท่านอยู่ในห้องน้ำท่านก็บอก เฮ้ย..นันต์ ที่พูดนั่นท่านเจ้าของคาถาเขามาเลย ท้าวมหาพรหมมาบอก เขียนแค่นั้นไม่พอนะ ต้องเต็มตัวเลย เขียนว่า... ​

    "พรหมาจะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ"

    ตอนนั้นท่านก็ยังไม่ได้ทำนี่ เราก็ให้พระที่อื่นทำ พระที่เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อที่เคารพกันอยู่ ทำแล้วก็เกิดมีผลเข้า มีผลชาวบ้านเขาบอกเออ..ดี ไปปักที่นาแล้วเพลี้ยทีนี้ไม่เข้าก็จริง แต่เรามาดูคาถาที่แปลแล้วเป็นคาถาปัดอุปสรรค เราก็เอ๊ะ..มาถึงตา เรานี่มาถามปรึกษากับพระบอก เอ๊ะตัวนี้นี่หลวงพ่อให้ทำ แต่เราไม่ได้ทำสมัยแต่ก่อน ท่านไม่ได้บอกให้เราทำ แต่ให้คนอื่นทำดู ไปเขียนคาถา คาถาปัดอุปสรรคอะไรอย่างนี้ เราก็เอ๊ะ...ลองปรึกษากับพระ ไปปั๊มทีซิจะทำเสาร์ห้าด้วย ทีนี้ก็เกิดทำเข้ามาแล้วก็ เราไม่รู้ผลจะเป็นยังไงนะ ใช่ไหม พระชัยวัฒน์นี่พอทำวันเสาร์ห้า เสร็จก็ไปอะไรนะ ไปเขาคิชฌกูฏ ที่จันทบุรีเลย เราก็ไม่รู้ผลว่าเป็นยังไงเพิ่งทำมาได้ไม่กี่วันนี่ ท่านชัยวัฒน์เขามาเล่าให้ฟัง บอกไอ้ปั๊มน้ำมันนี่เขาเอายันต์นี่ไปให้ เขาก็บอกเอ๊ะ...แปลกใจจังเลย คนเข้าปั๊มเต็มเลย เราบอกค่อยๆ พูดนะ เดี๋ยวจะหาโฆษณานี่ เดี๋ยวจะไปกันใหญ่
    แต่เป็นคาถากันอุปสรรค กันเสนียดจัญไร อะไรอย่างนี้ กันอุปสรรค แต่ที่แปลดูคาถามหาลาภนี่ จะเป็นกันอุปสรรค กันอุปสรรคทั้งหลาย​


    " หรือจะเป็นอุปสรรคหมดไปแล้ว ลาภก็เลยเข้ามา "
    คงจะเป็นยังงั้น อุปสรรคคือสิ่งที่ไม่ถูกใจ ใช่ไหม​

    " นี่จะเอาสักผืนแล้ว มีมาหรือยังครับ "​

    มีอยู่ ๓ พัน เขาทำไว้ ๓ หรือ ๔ พันเท่านั้น ปั๊มไม่ทัน จะมีหรือเปล่า มีมั๊ง​

    ท่านบอกปักกลางนา ทำเป็นธงนะ เป็นธงไปปัก​

    ก่อนปักนั้นให้สัคเคด้วย สัคเค ใครสัคเคไม่เป็นก็ไปหัดท่องให้ได้ สัคเค อธิษฐานขอให้ธงนี้ป้องกันอุปสรรคทั้งหลาย อะไรนี่ คือไปปักที่กลางนาก็มีผลนี่ มีผลมาแล้วพวกลองดูน่ะ เราไม่มีนาก็ปักที่บ้านได้ กันอุปสรรคได้​

    " หรือไม่ก็เอาไว้ในกระเป๋าสตางค์ "​

    เอาไว้กระเป๋าสตางค์ได้​


    (จากคอลัมภ์ "คำบอกเล่า" ธัมมวิโมกข์ มีนาคม ๒๕๓๘)
     
  20. NiponSuwan

    NiponSuwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2018
    โพสต์:
    443
    ค่าพลัง:
    +1,153
    หลวงพ่อฤาษี27.jpg


    เหรียญยันต์ตะกรุดเม เหรียญทำน้ำมนต์ เหรียญเศรษฐี ๑ชุด ๓ เหรียญ อานุภาพครบครันทุกด้าน

    มหาปราบ รักษาโรค โชคลาภ

    อานุภาพยันต์ตะกรุดเม (ตะกรุดมหาสะท้อน)

    ประวัติตะกรุดเม
    ในระหว่างปี พ.ศ.๒๕๒๘หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)ได้เมตตาสงเคราะห์ศิษย์ใกล้ชิดเป็นกรณีพิเศษโดยอนุญาตให้นำแผ่นทองคำ แผ่นนากหรือแผ่นเงิน(ตามกำลังของแต่ละคน) มาทำเป็นแผ่นตะกรุด เรียกกันว่า ตะกรุดเม ซึ่งเป็นคำย่อมาจาก
    “ เมสัมมุขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขา ”

    ท่านได้เมตตาจารยันต์ให้ ส่วนใหญ่เป็นยันต์องค์พระและมีอุณาโลมอยู่ด้านบนบางแผ่นท่านจารอักขระเพิ่มเติมให้ และมีอยู่แผ่นหนึ่งที่ท่านเมตตาจารเป็นกรณีพิเศษโดยด้านหนึ่งเป็นยันต์ท่านปู่พระอินทร์อีกด้านเป็นยันต์ท้าวมหาชมภู
    ที่กล่าวว่าเป็นกรณีพิเศษนั้นเนื่องจากในขณะนั้นหลวงพ่อท่านมีภาระกิจมากทั้งงานสอนพระกรรมฐานงานศูนย์สงเคราะห์ฯ งานเจริญศรัทธางานก่อสร้าง ฯลฯ เวลาพักผ่อนของท่านน้อยมาก ท่านยังสละเวลาจารแผ่นยันต์ให้ ผู้ที่ได้รับแผ่นยันต์ชุดนี้มาตั้งแต่ต้นหรือได้รับตกทอดมาในภายหลังล้วนแล้วแต่มีความชุ่มชื่นใจอิ่มใจในความเมตตาของท่าน
    ปัจจุบันยันต์แผ่นพิเศษนี้พระผู้ใหญ่องค์หนึ่งของวัดท่าซุงได้ถวายเพื่อเป็นสมบัติของสงฆ์
    และคณะทำงานได้พิจารณาขออนุญาตตัดส่วนหนึ่งเพื่อนำมาเป็นชนวนในการสร้างวัตถุมงคลต่างๆของวัดและได้ขอจำลองรูปยันต์ที่หลวงพ่อท่านได้จารไว้นำมาสร้างเหรียญตะกรุดเมเพื่อรักษารูปแบบยันต์ที่เป็นเอกลักษณ์ไว้และเป็นเครื่องระลึกถึงความเมตตาของหลวงพ่อพระราชพรหมยานที่มีต่อคณะศิษย์โดยหาประมาณมิได้


    "เมสัมมุขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขา"
    นี้เป็นพระคาถาป้องกันคุณไสย ท่านให้เสกของทุกอย่างก่อนที่จะกินท่านบอกไว้ในขณะที่วัดกำลังมีภัย ถ้าศัตรูทำคุณไสย เราว่าคาถานี้คุณไสยนั้นจะย้อนกลับเข้าตัวผู้ทำ ถ้าทำเป็นตะกรุด

    "ห้ามนำตะกรุดเข้าห้องคนคลอดบุตร ท่านห้ามทำแจกเด็กด้วยจะเป็นอันตรายกับเด็ก"


    เหรียญทำน้ำมนต์แก้กฏของกรรม

    .....ลุงพุฒิ(ท่านปู่พญายมราช)ท่านบอกว่าให้ทุกคนทำตามนี้ ว่าถึงเวลาที่จะนอนถ้ามีกำลังใจสูงนะ กำลังเข้มข้นก็ไม่ต้องใช้น้ำมนต์ นึกถึงภาพเหรียญหรือภาพยันต์นั้นอยู่ตรงกระหม่อมแล้วว่า อิติปิโส ๗ จบ แล้วก็ นะมะพะธะ ๑๕ จบ ว่าอย่างอื่นเสียก่อนนะ บูชาพระเสียก่อนนะ แล้วก็สวดอิติปิโส ๗ จบ นึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระอริยสงฆ์ แล้วก็ว่า นะมะพะธะ ๑๕ จบ
    อย่างนี้ท่านบอกว่าจะคลายกฏของกรรมไปมาก ค่อยๆ คลายกฏของกรรมนะ ถ้าทำทุกวันต่อไป จะเหลือนิดเดียวอย่างโทษปาณาติบาต ต้องป่วยไข้ ไม่สบาย หรือทุพพลภาพทางกายจะคลายตัวเหลือเล็กน้อย
    ถ้าบุคคลใดกำลังใจไม่เข้มแข็ง ก็ให้นึกถึงน้ำมนต์ แล้วว่าอิติปิโส ๗ จบ แล้วก็สวด นะมะพะธะ ๑๕ จบ เอาน้ำมนต์มาพรมที่ศีรษะเล็กน้อยอย่างนี้ทุกวัน
    ทำทุกวันกฏของกรรมจะคลายตัว อันนี้ดีมาก กฏของกรรมเราหาทางแก้ไม่ได้อยู่แล้วนะ ท่านบอกจะคลายเรื่อยๆไป จนกระทั่งสิ้นกำลัง แต่ไม่สิ้นเลย เหลือนิดหน่อย

    ดีมากอย่างคนถูกหวยยากนี่จะถูกหวยง่าย

    (จากธัมมวิโมกข์ มกราคม ๒๕๓๓)

    เหรียญเศรษฐี

    อานุภาพของเหรียญเศรษฐี เหรียญนี้ให้เอาไว้ติดขื่อประตู ติดบ้าน ติดรถ ใส่กระเป๋าสตางค์ สอดสมุดบัญชี ดีนักแลเพราะสมัยหลวงพ่อบัณทึกไว้ว่าใช้เขียนยันต์นี้ไว้ที่กระดานเรือน แต่สมัยนี้ทำเป็นเหรียญ ก็นำเหรียญมาติดไว้
    หลังจากสวดคาถาเงินล้านตอนเช้าเสร็จ ก็ไปยืนตรงประตูที่มีเหรียญแขวนอยู่ แล้วสวดด้วย คาถาบารมี ๓๐ ทัศ แล้วขอว่า "ขอให้บ้านหลังนี้มีเงินไม่ขาดบ้านด้วย ทุกคนในบ้านขอให้มีเงินไม่ขาดมือ" ประตูบานนี้เป็นประตูที่ทุกคนในบ้านใช้เข้าออกประตูนี้ทุกคน


    คาถาบารมี ๓๐ ทัศ(ย่อ)
    "อิติ ปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา

    อิติ โพธิมะนุปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม"

    ในหนังสือ"ตามรอยพระพุทธบาท เล่ม ๓ " หลวงพ่อเขียนไว้ว่า " ลงกระดานเรือน หรือ รอดบ้าน เงินไม่ขาดบ้าน " เข้าพิธีปลุกเสกเมื่อ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๗




     

แชร์หน้านี้

Loading...