NEW! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ....

5 = V
V = 22
V = Victory
22 = 2020


Victory 2020 ✨

"ผู้พิทักษ์คนสุดท้าย"

 

สู้ๆนะค่ะเป็นกำลังใจให้ ไม่ค่อยได้เล่นได้ตามอ่านเลย นานๆทีได้เข้ามา เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนค่าาาา ^O^

 

ฉันให้ในสิ่งที่เหมาะดีแล้ว ควรแล้วแก่การปฏิบัติ สิ่งใดเธอเห็นเหมาะสำหรับเธอก็ทำต่อไป เธอได้รับผลไม่ใช่ฉัน .... เมื่อไหร่ที่เธอหลงทางฉันจึงจะมา

เมื่อเห็นถูกแล้วดีแล้ว..ไม่ยึดตัวตน ..ไม่ยึดตัวตนใดที่สมมติเป็นสรณะก็ทำต่อไป

 

ใครคือผู้รู้.....เธอหมายถึงใคร? ตัวตนหรือตำแหน่ง
ใครคือผู้ตื่น....
ใครคือผู้เบิกบาน...

รู้อะไร
ตื่นอะไร?
เบิกบานอะไร?

ตัวตนแท้จริงไหม?ที่รู้..ตื่น..เบิกบาน

รู้ก็แค่รู้...แล้วมีหมายถึงเจริญไหม?

ตื่นหมายถึงอะไร? ตื่นจากกิเลส ..รู้เหตุแล้วเหรอกิเลส(อวิชชา)มีต้นเหตุมาจากอะไร?...ไหนล่ะ..จากการยึดตัวตนเหรอ.....แล้วฉันขอถาม...เหตุอะไรจึงยึดตัวตน...แล้วเธอก็จะตอบว่าเพราะไม่วาง....นี่ไม่ใช่คำตอบ...มันเป็นการตอบแบบกลบเกลือนคำถามเพื่อเลี่ยงตอบสาเหตุ

เบิกบาน..อะไรเบิกบาน..ตัวเองเบิกบาน...อือยังเป็นตัวเอง

เจริญ...หมายถึง...มนุษย์...เจริญแบบไหน? แบบ
เกื้อกูล เอื้อประโยชน์จำเป็นในการดำรงต่อกัน แบบนี้จึงเรียกว่ายั่งยืน

ยั่งยืนไม่ใช่ทุกสิ่งสรรหามาใช้...หมายถึงเฉพาะสิ่งที่จำเป็นในการดำรงรอดสืบไปโดยไม่ขัดแย้งต่อกัน

 

มนุษย์ ... จะปรเสริฐอยู่แล้ว

สิ่งสำคัญตอนนี้ เธอหลงตัวเองเป็นมนุษย์เต็มร้อย

เปล่าเลย...เพราะอะไร?

เธอไม่ได้ทำหน้าที่ของมนุษย์ตั้งแต่ต้น

เธอไม่เปลี่ยนแปลง

เธอหยุดนิ่ง

เธอหยุดนิ่ง...เธอเริ่มเน่า

เธอไม่ทำหน้าที่ของมนุษย์ ...ทำความดี...เธอไม่ใส่อาหาร เธอปล่อยให้ต้นไม้เติบโตเองเพื่อรอกินผล

ถามว่า เธอจะได้ทานผลไหมเมื่อไหร่ตอบได้ไหม

เธอตอนโน้น..อดีต..จึงไม่ทำความดีให้ตนเองเจริญ

แล้วมาวันนี้ ...อยากจะรู้อะไร...ความดี..หน้าที่ตนยังไม่ทำเลย

มาวันนี้เธอตื่น...ตื่นจากอวิชชา...เธอยังไม่เข้าถึง และเข้าใจแท้เลย ...มนุษย์มาจากไหน...แล้วมาสรุปว่าเธอเป็นผู้สร้าง...เพื่อให้คนอื่นนับถือเธอเหรอ...
...เธอยังไม่รู้คุณธรรมชาติเลย...เธอจะมาเหมาตนเองเป็นผู้สร้างมนุษย์....
รู้จักธรรมชาติดีพอแล้วเหรอ...การตื่นแบบนี้

มาวันนี้เธอจะเป็นผู้เบิกบาน...สมัยโน้นเมื่อเธอกำเนิดมาก็เป็นอริยแล้วเธอไม่เบิกบานเหรอ
การเบิกบานได้...แสดงว่าไม่รู้จักการทำประโยชน์แก่มวลมนุษย์ มีแต่การเห็นแก่ตัวเป็นเดิมของตน

หาดเธอทำประโยชน์จำเป็นแก่มวลมนุษย์เธอจะรู้ว่าเบิกบานคืออะไร

อีกประการเธอรู้ในเหตุของเบิกบานไหม..ทำไมเธอจึงเบิกบานได้ อะไรทำให้เธอรู้สึกเบิกบาน

 

ทำไมฉันว่าเธอยังไม่เข้าถึง ไม่เข้าใจ

เพราะว่า มิติไม่ได้สิ้นสุดที่ พุทธะ

ยังมีระดับมิติ ศรีอริย ซึ่งเหนือกว่าเธอหนึ่งขั้น

เหนือกว่าศรีอริย มีไหม?....ทำไมจะไม่มี

แล้วเธอรู้ความจริงแล้ว..แน่น่ะ??

กฤษณะ ยังไปไกลกว่าเธอผู้รู้อีก

อมิตาภะ ก็เช่นกันไปมิติความจริงยิ่งกว่า เพราะเข้าถึง เข้าใจ

ธรรมชาติ...ไม่ยกตน ละเลย เพื่อเหนือธรรมชาติ

 

3 ข้อที่เธอเขียนมา ยังงดงาม กว่าผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานเสียด้วยไหม....

หากเธอเข้าใจถูก..เธอมาจากไหน และรู้คุณ สำนึกคุณ

 

เกิด ทำไมจึงเกิด....เกิดเพราะกรรมจริงเหรอ?
ตาย...ทำไมจึงตาย..ตายเพราะอะไร?
แก่..ทำไมแก่....แก่เพราะอะไร?
เจ็บ...ทำไมเจ็บ...เจ็บเพราะอะไร?

เพราะธรรมดาโลก...ต้องมี เกิด แก่ เจ็บ ตาย
ใช่เหรอ...หากเธอตอบแบบนี้...ใครๆที่ไหนก็รู้...ไม่ใช่คำตอบอย่างที่สุด

เพราะมันเป็นธรรมดาโลก...เธอตอบแบบนี้เหรอ
..ไม่ใช่คำตอบอย่างที่สุด..

เพราะเป็นคำตอบที่ยังไม่ได้ตอบอย่างที่สุด

ฉันถาม...ทำไมมนุษย์ มิติกายสมมติจึงมีอายุไม่เท่ากัน....ผู้รู้ตอบได้ไหม?

จะตอบว่าเพราะกรรม

แล้วรู้ไหมระบบกรรมมันมีการทำงานอย่างไร?..

 

และอีกประการ ... ฉันไม่ใช่ผู้รู้ ฉันไม่ใช่ผู้ตื่น ฉันไม่ใช่ผู้เบิกบาน
และ ไม่ได้สอนยึดตัวฉัน เป็นสรณะ
เพราะ ฉันไม่ได้เป็นสรณะใคร ...เมื่อฉันไป ฉันก็ไปตามทางของฉัน
ไม่มีใครจะมาให้ฉันต้องเป็นภาระอีก ... ยุคอิสระ ... ยุคใหม่ ...
ไม่ใช่เหรอ?? ใครอยากทำก็ทำ ใครไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำ
รับผิดชอบ'ผล'ของตัวเองได้แล้ว .... โตกันแล้วนี่

ที่สุดการพัฒนาของมนุษย์แล้วนี่ ....
อยากเป็นอิสระ ... ก็ทำ ....ไม่ทำก็ได้

 

อยากรู้ .... อะไรหลายอย่างที่สงสัย

ทำตามที่ฉันให้แจ้งก่อน ... เมื่อถึงเวลาฉันจะมาเปิดให้

มีใจให้นอบน้อมเพียงพอ เข้าถึงธรรมชาติ เพียงพอเสียก่อน

แม้จะสืบรู้ตอนนี้ เธอจะได้แต่ข้อมูลลวง ... จากพวกที่ส่งบาปให้เธอ

 

หากเธอเป็นเจ้าของสวนผลไม้ .... มีต้นไม้ ที่ออกดอกออกผลดี เธอจะเก็บไว้ไหม ?

แล้วต้นไม้ที่ไม่ออกดอกออกผล ... เธอที่ไม่ใช่ผู้รู้ ผู้ยังตื่นสาย ผู้ยังเบิกบานไม่พอ .... ตอบได้ไหม จะทำอย่างไร? กับต้นไม้ที่ไม่ออกดอกออกผลเลย

..... ก็เหมือนกัน มนุษย์ ที่ไม่พัฒนา .... เหล่านั้น จักอายุสั้น ... สิ้นเปลืองทรัพยากร ไม่สามารถออกดอกได้แล้ว เธอจะเก็บเอาไว้ไหม? เพราะปัจจุบันมันกลายเป็นกาฝากที่คอยแต่จะใช้ทรัพยากรจากธรรมชาติ ... ไม่ได้สร้างประโยชน์ แต่จะคอยให้ ภาพรวมของสวนเธอ เน่าเหม็นไปด้วย .....

หากเป็นเธอ เธอจะทำอย่างไรกับกาฝากเหล่านั้น (เมื่อเข้ายุค พลังใหม่)

 

เธอสงสัยฉันเหรอ?

อยากรู้ว่าฉันเป็นใคร.... ก็เข้าถึงธรรมชาติ ...รับรู้สึกจากธรรมชาติ

ให้เพียงพอเสียก่อน ... บริกรรมให้เพียงพอเสียก่อน

หากเธอไม่มีเกาะเกี่ยวจากบาป เธอก็จะรู้ความจริงๆ ได้ชัดเจน

คำตอบอยู่ที่ ความรู้สึก ..... ระดับอย่างหยาบ ก็อยู่ที่ลม ในกาย ...

ตั้งสิ่งที่สงสัยไปสิ "...ฉัน 999... คือใคร? ....." นี่คือกระบวนการหนึ่งของการวิจัย ใช่ไหม? การวิจัยคือ การหาความจริง ... การหาความจริงต้องมี คำถาม ความสงสัยเกิดขึ้นก่อน .... เมื่อมีคำถามแล้ว เธอก็ออกแบบสอบถามไปสิ ....ในธรรมชาติ ...ที่เธอเข้าถึงได้

ถามไปอีก "....ฉัน 999... คือผู้มีคุณต่อมนุษย์ " ขณะถามเปิดรับรู้ความรู้สึก

เสร็จแล้ว ถามต่อไป และ "....ฉัน 999... คือผู้ไม่มีคุณต่อมนุษย์ " ขณะถามเปิดรับรู้ความรู้สึกไปด้วย

คำถามเดียวกัน " ... ตัวตนเธอ คือผู้มีคุณต่อมนุษย์ ...." เปิดรู้สัมผัสในเธอ
อีก "... ตัวตนเธอ คือผู้ไม่มีคุณต่อมนุษย์...." เปิดรู้สัมผัสในเธอ

แล้วเธอก็ ดูที่ความรู้สึกของเธอ .... ดูสิว่าเธอเมื่อ syn กับธรรมชาติดีพอแล้ว ได้คำตอบว่าไง ?

เธอสงสัยอะไรฉันอีก .. ....ฉัน 999 คือ.???...... เธอจะได้อะไร... ก็ให้ใช้ความเด่นชัดของความจริง ..... ความจริง ความรู้สึก...ที่ปรากฎในเธอ .... (หมายถึงเธอสามารถเข้าถึง เปิดรับรู้ธรรมชาติดีพอแล้วเท่านั้น)

ถามมาก... ต้องใช้พลังมาก ....
ถามลึก...ต้องใช้พลังมาก ...
ถามคลุมเครือ ... ก็ไม่มีคำตอบ ...


พลังหมด มีไม่พอ... มิติปิด ...

 

ฉันจะยกตัวอย่าง ทำไม มนุษย์ จึงไม่บริสุทธิ์

คำว่า ไม่บริสุทธิ์ ...สาเหตุมีได้หลายช่องทาง

ฉันจะยกตัวอย่างเท่านั้น ...

ตัวอย่างที่พวกเธอทั้งหลาย ยินยอมไม่บริสุทธิ์กัน

ทุกคนเคยมีอดีตของตนเอง หรือ การเกิดสมัยต่างๆ ที่ผ่านมา หรือ อดีตชาติ

และส่วนใหญ่ ก็จะมีคู่หมาย คู่สามีภรรยา กัน

นี่แล้วแต่เธอจะเลือกใช้ชีวิต ร่วมกัน ....

เธอไม่บริสุทธิ์อย่างไร ?

เธอเคยเล่น แลกน้ำลาย กับคู่ชีวิตไหม กับคู่หมั้นไหม กับคู่หมายไหม กับคู่เล่นกิจกรรมของเธอไหม ....ในอดีต

การแลกน้ำลาย ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ เธอไม่บริสุทธิ์

ตามภาษาวิทย์ คือ แจก DNA เข้าหากัน หน่วยใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย คือ แลกเปลี่ยนยีนกัน

ยีน หรือ DNA เหล่านี่ มีชีวิตกันไหมล่ะ

เธอคิดว่า เหล่านี่ มันสูญ เหรอ เมื่อเข้าไปในร่างกายที่แตกต่างรหัส

ยีน หรือ DNA เหล่านี่ มีคลื่นเฉพาะตัว มีโปรแกรม แล้วด้วย ?

เธอคิดว่าไม่มีเหรอ .... คลื่นเหล่านั้น มีผลต่อ DNA เธอไหม ?

แล้วเธอว่า DNA หรือ ยีน เหล่านั้น ที่เข้ามา จะมีผลกระทบต่อ ระบบการทำงานยีนของเธอไหม ?

ยีนของเธอที่ได้รับ ที่ติดชิดกับ ยีน คู่ขา คู่แลกเปลี่ยนน้ำลายกัน

ย่อมได้รับผลกระทบ ..เปลี่ยนแปลง .... ยีนเกาะติดกัน เธอคิดว่า

แบบนี้ เธอคิดว่า ยังบริสุทธิ์ กันไหม

เธอคิดว่า ยีน มันคงจะตายล่ะสิ .... เอ้า

จะสมมติคิดว่า ตาย .... แล้วเธอคิดว่า พลังงาน มันสูญไหม .... ตามภาษาวิทยาศาสตร์ ของเธอ .... พลังงานเป็นคลื่นไหม ? .... คลื่นเป็นคลื่นเฉพาะ คู่แลกเปลี่ยนน้ำลายไหม

คลื่น เหล่านั้นเป็นคลื่นแปลกปลอมไหม ... เธอว่า มันจะ syn กับคลื่น DNA หรือยีนเธอไหม ? ....

เธอจะสรุป ว่าไง? เธอยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ....ฝัน... แม้ว่าเธอยังไม่มีคู่แลกเปลี่ยนน้ำลาย เธอยังฝันว่าเธอบริสุทธิ์ เหรอ

แต่มาดูต่อ

เธอเคยเห็น วิทยาการ อาวุธคลื่นไมโครเวฟ ...ที่ส่งคลื่นทำลายศัตรู ที่มีการพัฒนาแสดงโชว์กันไหม ส่งคลื่นทำลาย ....

ทำลายได้จริงไหมล่ะ?

DNA ของเธอ ยีน ของเธอ จะถูกทำลาย หรือถูกเปลี่ยนสภาพไหมล่ะ

ไม่เข้าใจ ก็ไปหาดูการพัฒนาอาวุธที่ใช้คลื่น ทำลาย

DNA หรือยีน ของเธอ กับ คู่แลกเปลี่ยนน้ำลายของเธอ

อยู่ในมิติเดียวกันไหมล่ะ .....ระดับเดียวกันไหมล่ะ ....

เธอมองไม่เห็น ในระดับนั้น ... เธอก็ไปดู คลื่นทำลาย ของทหาร

จะเห็นเปรียบกันได้ ....

นี่ยังไม่รวม เอาของแปลกใส่ทางปาก การดูดกินอสุจิ ......

สำหรับ การมีเพศสัมพันธ์ .... เป็นช่องทางที่ธรรมชาติจัดเตรียม มีกระบวนการทำลาย ต่อกันอยู่แล้ว จึงไม่มีผลต่อความไม่บริสุทธิ์

ยกเว้น เธอเอาสิ่งไ่ม่สะอาดใส่....

..... หากเป็นสิ่ง ชั่วร้าย ประสงค์ไม่ดี

จะเรียกว่า คุณไสย ....

ถามต่อไป ใน อดีต การเล่นคุณไสย การเล่นไสยศาสตร์ (ทำผัวรัก ผัวหลง)
หนังเหนียว .... เธอคิดว่า อดีตชาติ เธอ ไม่เคยผ่านจุดนี่มาเหรอ ....

เธอไม่เล่น เขาก็เล่าใส่เธอ .....

ดูเอาเองว่า เธอจะหาหนทางบริสุทธิ์ ได้อย่างไร ....

แล้ว ที่พวกเธอ นั่ง ... สลืมสรือ .... ปล่อยวาง .... เป็นหนทาง

หลุดพ้น .... ทำแล้วหลุด.... ใช่จริงไหม ...

เพราะ นั้นเป็นทางที่ ทำให้เธอสบาย แค่นั้น ... เพื่อไม่ให้เธอ

อยู่ในภาวะทุกข์ .... แต่มันยังไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ ...

คือ ความไม่บริสุทธิ์ .... ... เธอว่า .... กรรมแก้ไม่ได้หรอก

ก็นี่ไง... ที่เธอทำ ที่เธอนั่งกัน แค่แสวงหามิติใหม่ และหลงในมิติใหม่

ที่เธอสมมติขึ้นมาเอง ... เพราะเธอ อหังการคิดว่า มิติใหม่ คือที่สุดแล้ว

ฉันจะบอกอะไร ....

สมมติ เธอมีบาดแผลหนึ่งทำให้เธอเจ็บ รู้สึกเจ็บ

แต่ฉันให้เธอ ดูทีวี ที่สนุกมาก .... ในระหว่างที่เธอ

กำลังเพลิดเพลินกับการดูทีวี .... ความรู้สึกเจ็บปวด เธอปรากฎไหม

เธอไปใส่ใจกับความรู้สึกเจ็บปวดไหม .... ทั้งๆ ที่บาดแผลเธอยังมีอยู่

ก็ทำนองเดียวกัน ..... เธอไปใส่ใจกับสิ่งอื่น ..แทนบาดแผลเธอก็หาย

เจ็บได้ ....

เธอเจ็บบาดแผล ... เธอปล่อยวาง ... เธอไม่เจ็บ

ฉันถาม บาดแผลยังมีอยู่ไหม ...

ฉันถาม ที่เธอว่าปล่อยวาง เธอพ้นทุกข์ ....มันจริงหรือ?? ใช่แน่น่ะ??

 

พ้นทุกข์ ...

แต่บาดแผลเธอยังไม่หาย....ยังมีอยู่

... เธอจะหนีไปนิพพานแล้วเหรอ ...

...เธอนี่ ทำไมเป็นคนแบบนี้ ... ทิ้งบาดแผลให้ผู้อื่นจัดการ

เธอ จขกท ... เธอว่านี่คือคนที่สมควรจะคบหาด้วยไหม

การทิ้งบาดแผลไว้ ให้ธรรมชาติ รับภาระไป

จึงเป็นสิ่งที่ ขาดการรับผิดชอบ หนึ่งล่ะ

และ เมื่อยังมีบาดแผลอยู่ .... เธอไม่ต้องโม้ว่า จะไม่มีมาเกิดอีก

.... แบบนี้ธรรมชาติ ไม่รับชำระ ไม่รับรักษาบาดแผลของเธอ

....จะไม่มีการเกิดสำหรับ อรหันต์ !!! ฝันไปเถอะ ....

 

เธอ จขกท เธออยากรู้.... การเป็นอรหันต์แล้ว ไม่มีการเกิด จริงหรือไม่

เธอก็ออกแบบสอบถามงานวิจัยสิ

"การเป็นอรหันต์ จะไม่มีการเกิด" สัมผัสรู้เป็นไง ....

อีกคำถาม

"การเป็นอรหันต์ ยังมีการเกิดอีก" สัมผัสรู้แล้วเป็นไง

เธอเรียนรู้มาแล้ว .... เธอก็มาแถลงไขเอาสิ ...

เรียนมาแล้ว ไม่เอามาใช้ ... แล้วเธอเรียนเพื่ออะไร .... ไหนว่าอยากรู้

ฉันก็ให้เธอ แล้ว ... หรือแค่อยากรู้ เฉยๆ

.... ทุกคนมีสิทธิ์จะเลือก ... แม้ว่าผลจะเป็นอย่างไร?

แต่คนที่ ไม่เคยทำ ... คนเหล่านี้ ไร้ค่า เพราะความรู้ไม่เกิดกับตนเอง

แต่ เก่งทางปาก .... เก่งคิดที่ไม่รู้จริง(เก่งแต่เรื่องสมมติทั้งสิ้น)

และเก่งแต่ในตำรา (หลงเชื่อในตำรา....ไม่เคยรู้ความจริงเลย)

 

คนที่หลงเชื่อในตำรา .... เป็นคนที่ไม่มีสัจจะ

คนที่ไม่มีสัจจะ คือคนที่ ไม่มีความจริง

คนที่ไม่มีความจริง จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

เพราะ ไม่เคยพบความจริง

คนเปลี่ยนไปมา คือ คนไร้สัจจะ

คนไร้สัจจะ ...จะไม่พบความจริง

คนไร้สัจจะ ... คือคนไม่จริง คบไม่ได้ ...

เธอคิดว่า คนแบบนี้ จะ เข้าถึง เข้าใจ ธรรมชาติไหม

 

พระพุทธเจ้ากว่าจะเรียนรู้จนจบต้องใช้ระยะเวลายาวนานมาก กว่าจะเรียนรู้แต่ละเรื่องราวได้หมด

คนที่ไม่ใช้ความคิด มีแต่ผู้ที่พ้นแล้วเท่านั้นค่ะ

การดูถูกความคิด คือ การดูถูกตนเอง

เพราะความประพฤติที่ดีและชั่วทั้งหลายล้วนมาจากความคิด

หากใครกล่าวว่า "พวกไม่มีสมอง" เราอาจเจ็บปวดได้ เห็นไหมค่ะ

ความคิดมีทั้งแบบคิดที่เป็นกิเลสตัณหา

หรือ คิดแบบไร้อัตตา มีแต่การให้ หรือคิดแบบไร้กิเลส ก็เป็นความคิดแบบปัญญาญาณได้ค่ะ

หากไม่พ้นฝั่ง อย่าเพิ่งทิ้งแพค่ะ

 

การจะคิดดี การจะคิดชั่ว

มาจากไหน?

มาจากตัวตนเธอ? แบบนี้ใช่ไหม?

แสดงว่า เธอยังมีอัตตา การเป็นตัวตน

ทำไมไม่ถามว่า คิดดีเกิดจากอะไร

และคิดชั่วเกิดจากอะไร?

กระทู้ที่เขียนจะโยงมาจากกระทู้ก่อนๆ

เมื่อยังไม่รู้ความจริง..ก็อ้างตำรา

อ้างตำรา...ก็ไม่ใช่ของจริงจากการปฏิบัติ

การจะทิ้งแพหรือไม่ทิ้งแพ...ผู้ขับเคลื่อนแพ หรือผู้อยู่บนแพ จะรู้ตน....ว่าฝั่งอยู่ไหน จะขึ้นฝั่งหรือไม่...และจะให้ดีต้องรู้ด้วยว่าฝั่งที่ขึ้น ปลอดภัยดี

ขึ้นฝั่งโดยไม่รู้ว่าปลอดภัย..เธอจะทำไง...ก็อยู่บนแพต่อไป..ลงแพขึ้นบก ปลอดภัยแล้วเหรอ แน่ใจอย่างไร...เพราะเธอเชื่อในตัวบุคคลใช่ไหม?

 

ความจริงไม่แสวงหา แต่เชื่อในตัวบุคคล..

เธอยังอ่านตำราของบุคคลที่เธอเชื่อยังไม่ครบ

ยังไม่กระจ่าง...ในบทที่กล่าวเรื่องความเชื่อเธอไปอ่าน

ตอนสรุปข้างล่าง..เรื่องความเชื่อเสียก่อน

แล้วเธอจะเห็นว่าเขาสอนอะไร? ตอนท้าย

 

ปัญญาคืออะไร

ญาณ คือะไร

มีปัญญาณ ยังต้องคิดอีก?

การอ่านบทความใดๆ หากไม่มีตัวตนใด

ก็จะไม่มีอะไรเกิดขี้น

หากมีอะไรเกิดขึ้น..ก็ไม่ใช่ตัวเธอ

ไม่ใช่ตัวเธอก็หมายความว่า???

คำตอบนี้เมื่อรู้ความจริงจะมีคำตอบเอง ฉันขี้เกียจเล่า..ไปหาเอาเอง