สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    Welcome my sister สตธศร กลับสู่

    NEW! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ RE-POST

    ด้วยรัก

    JINTAWADEE
     
  2. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สูงสุดคืนสู่สามัญ ...มีก็ใช่ ไม่มีก็ใช่ ขาดก็ต้องเติม เกินก็ต้องลด รักษาได้ ฟื้นฟูได้ ก็ดำเนินไป รักษาไม่ได้ ฟื้นฟูไม่ได้ ก็ดำเนินไป ...เกิด ตาย ล้วนคือสิ่งเดียวกัน เกิดเพื่อพัฒนา ตายเพื่อเริ่มใหม่ ธรรมชาติให้ทุกสิ่ง ธรรมชาติเยียวยารักษา ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ฟื้นฟูพัฒนา ชำระชะล้าง ปกปักรักษาและคุ้มครอง...สปอร์เล็กๆที่แตกหน่อออกมา ล้วนมีหน้าที่ หน้าที่เพื่อเข้าถึง ... ตายแล้วเกิด เกิดแล้วตาย คือการเรียนรู้เพื่อให้เข้าถึง การเติบโต แต่ละเสี้ยววินาทีจะหล่อหลอมให้ได้เข้าถึง แม้ในสภาวะของโลกอาจจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่เห็นการเปลี่ยนไป แต่สภาวะของจิต การเรียนรู้ได้เกิดขึ้น และดำเนินต่อไป...ไม่มีอะไรถูก ไม่มีอะไรผิด มีแค่การเรียนรู้ การพัฒนา ...อาจจะเข้าใจยาก แต่สามารถเข้าใจได้ หนักนักก็วาง เบานักก็ถ่วงซะหน่อย ก็แค่นั้น ยึดไปก็ทุกข์ ไม่ยึดเลยก็ไม่มีหลัก ก็เอาแค่พอสมดุล ^^:D^^
     
  3. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    การเชื่อมต่อ CONNECTION

    กระทู้นี้ ยังคงต้องการการเชื่อมต่อ ต่อไป เช่นเดียวกับทุกๆชีวิต ที่มีหน้าที่เชื่อมต่อช่องว่างระหว่างกันและกันด้วยการเติมเต็ม สายใยความสัมพันธ์ ความรักและการสนับสนุนค้ำจุนซึ่งกันและกันในระบบวัฏจักร และนี่คือหน้าที่ของความเป็นมนุษย์ในการเติมเต็มช่องว่างระหว่างทุกสรรพสิ่ง และใช้ปัญญาในการค้นหาสายสัมพันธ์ระหว่างกันและกัน และสิ่งต่างๆให้เจอ

    ข้าพเจ้าขอขอบคุณทุกข้อมูลจากคุณ 999phudit, คุณ ณ. และคุณ สตธศร เป็นอย่างมาก ข้อมูลของทุกๆท่าน ล้วนมีประโยชน์ มีความสำคัญ และมีความเชื่อมต่อสัมพันธ์กันเป็นอย่างยิ่ง เป็นเรื่องเดียวกัน และเป็นข้อมูลที่ใช้สำหรับการเติมเต็มช่องว่างระหว่างกันและกันของทุกสรรพสิ่ง

    เราทุกคนต่างก็อาศัยอยู่ในช่องว่างระหว่างฟ้าและดินที่เต็มไปด้วยพลังงาน และมีการหมุนเวียนแลกเปลี่ยนถ่ายเทพลังงานระหว่างกันและกันอยู่ตลอดเวลา น้ำถูกความร้อนจากแสงอาทิตย์ ระเหยกลายเป็นไอน้ำ และถูกลมพัดพาขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ จนเกิดความหนาแน่นเพียงพอ แล้วมากลายเป็นฝน ตกลงมาสู่ดิน และไหลลงแม่น้ำลำคลอง สร้างความชุ่มชื่นต่อทุกสรรพสิ่ง

    ร่างกายของมนุษย์ก็มีการหมุนเวียน แลกเปลี่ยนถ่ายเทพลังงานเช่นนี้ตลอดเวลาเหมือนกัน ดูได้จากการหายใจของร่างกายมนุษย์ ที่สร้างพลังงาน หรือพลังชีวิตให้แก่ร่างกายผ่านระบบการทำงานต่างๆของอวัยวะ ร่างกายใช้ออกซิเจนผ่านการลำเลียงของเม็ดเลือดเข้าหล่อเลี้ยงเซลล์ทั้งหลายภายในร่างกาย เซลล์ทั้งหลายล้วนมีระบบชีวิตของมันตามหน้าที่ที่มันได้รับ หรือได้ถูกโปรแกรมไว้ ทุกอย่างมีวัฏจักรของมัน มีการให้และการรับเกิดขึ้นอย่างสมดุลย์เป็นระบบ เมื่อใดที่การทำงานอย่างเป็นระบบขาดดุลยภาพ มีการให้หรือการรับที่มากเกินไป หรือน้อยจนเกินไป ย่อมทำให้ระบบนั้นๆ เสียความสมดุลย์ เกิดเป็นความเสียหาย ความเจ็บป่วยแก่ระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบร่างกาย ก็ระบบครอบครัว ระบบสังคม ระบบโลก ระบบจักรวาล ระบบแกแล็คซี่ ล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งสิ้น

    ดังนั้นข้อมูลที่ 999phudit, คุณ ณ. และน้องสตธศรได้นำมาลง จึงเป็นข้อมูลที่สำคัญและเป็นแก่นแท้ของความเป็นจริงในธรรมชาติ หรืออาจกล่าวได้ว่านี่คือ สัจธรรม เพราะผลทั้งหลายย่อมเกิดจากเหตุ ดังนั้นผลลัพธ์ปัจจุบัน จึงเป็นผลรวมจากเหตุที่มีมาก่อนหน้านั้นทั้งสิ้น

    การเจ็บป่วยของร่างกายก็ดี การเจ็บป่วยของโลกก็ดี จึงเป็นภาพสะท้อนของความคิดและการกระทำที่ผ่านมา หรือผลรวมที่กำลังแสดงให้เห็นถึงเหตุที่ผ่านมา (Justify Function)

    หากมองในระนาบเดียว อาจจะมองเห็นได้ว่าความเจ็บป่วยของร่างกาย หรือมะเร็ง เกิดจากการที่สภาพของเซลล์ต้องการปรับตัวให้อยู่รอดได้ในสภาพของความผิดปกติไปจากธรรมชาติจนเกิดการกลายพันธ์ ทั้งนี้จึงสามารถกล่าวได้ว่า มะเร็งไม่ใช่สิ่งที่เป็นธรรมชาติ ดังที่คุณ999phudit ได้กล่าวไว้ เพราะธรรมชาติคือ ความปกติของระบบ คือความสมดุลย์ของทุกสรรพสิ่ง แต่ในขณะเดียวกัน มะเร็งก็เป็นธรรมชาติของการเตือนภัยจากร่างกายถึงการเสียความสมดุลย์ของระบบ ตามที่คุณ ณ. ได้กล่าวเอาไว้ ดังนั้นข้อความของทาง 999 phudit และ คุณ ณ. จึงไม่มีสิ่งใดที่ขัดแย้งกัน แต่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

    ดังนั้นไม่ว่า มากเกินไป หรือ น้อยเกินไปย่อมก่อให้เกิดการเสียหายต่อความสมดุลย์ทั้งสิ้น. วิธีการแก้ไขจึงเกี่ยวข้องกับการเติมเต็มและตัดลดเสมอ เมื่อขาดก็ต้องเติม เมื่อเกินก็ต้องปรับลด ให้อยู่ระหว่างกลางจึงจะสมดุลย์


    ดังนั้นการที่จะเติมอะไร หรือปรับลดอะไร จึงต้องย้อนกลับไปดูถึงต้นเหตุ แล้วแก้ที่ตรงนั้น

    ในขณะเดียวกันถ้ามอง ในมุมกว้างที่มิใช่ระดับเดียว เซลล์ทุกเซลล์ ล้วนมีโครโมโซมที่บรรจุความรู้ความทรงจำของชาติภพ ความรู้ความทรงจำเหล่านั้นล้วนเกี่ยวพันกับนิสัยความเคยชิน ในสิ่งที่เคยคิด เคืกระทำ ในระดับมิติหรือชาติภพต่างๆ แล้วแสดงผลออกมาผ่านตัวตนในชาติภพปัจจุบัน จึงอาจกล่าวได้ว่า ตัวตนในปัจจุบัน เป็นผลรวม ของความคิดและการกระทำในทุกชาติภพพร้อมกันทั้งหมด

    ร่างกายของมนุษย์ และนิสัยความเคยชินในปัจจุบัน ล้วนเป็นผลลัพธ์ หรือผลรวม ของความคิด และการกระทำในทุกชาติภพ (Justify Function)

    ความรัก ความสามัคคีและความสนับสนุนซึ่งกันและกันของชีวิต คือหน้าที่ตามธรรมชาติของมนุษย์ ผู้มีหน้าที่รับผิด และรับชอบในการใช้ปัญญาเชื่อมต่อทุกสรรพสิ่งในระบบ ทุกสรรพสิ่ง มีหน้าที่ และมาตามเวลา หากปรับใช้อย่างถูกต้อง ย่อมก่อให้เกิดผลดีต่อระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบร่างกาย หรือระบบธรรมชาติ ทุกระบบในจักรวาลล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งสิ้น หากใช้อย่างผิดที่ผิดเวลา ผิดกาลเทศะ ย่อมก่อให้เกิดการเบียดเบียนต่อธรรมชาตินั้นๆ. ดังเช่นที่คุณ 999phudit ได้เขียนอธิบายเอาไว้อย่างเป็นเอกลักษณ์ การเบียดเบียนเหล่านั่นย่อมก่อให้เกิดโทษ ย้อนกลัยมาสู่ตัวเองทั้งสิ้น

    จะเห็นได้ว่าทุกข้อความของทุกๆท่านที่แตกต่างกันไปในลีลาอันเป็นเอกลักษณ์ ต่างมุมมอง ต่างวัย ต่างแฝงความจริงอันเป็นแก่นแท้ของธรรมชาติอยู่ในนั้น ไม่ต่างจากบทเพลง ไม่ต่างจากนิทานปรัมปรา หรือเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมา ที่ต่างก็มีท่วงทำนอง และแอบแฝงความเป็นจริงจากธรรมชาติอยู่ในนั้น ดังที่น้องสตธศรได้กล่าวไว้ทุกประการ

    เราทุกคนต่างอยู่ในกระบวนการเติมเต็มความรู้ ความเข้าใจในแก่นแท้ของธรรมชาติ หรือสัจธรรม และกระบวนการเติมเต็มความรู้นั้น จะเกิดขึ้นไม่ได้หากขาดการเปิดใจ หรือเปิดช่องว่างเพื่อการเติมเต็มให้ทุกสรรพสิ่ง การเติมเต็มจะทำให้ฟ้าและดิน ได้โอบกอดกันอีกครั้ง

    กระบวนการเติมเต็มช่องว่างยังดำเนินต่อไป BALANCE FORWARD


    WELCOME TO

    NEW! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ RE-POST
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2018
  4. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    กระทู้ของข้าพเจ้า เป็นเพียงมุมมอง และความพยายามที่จะเชื่อมต่อ และถักทอสายใยระหว่างฟ้าและดิน และสายสัมพันธ์ระหว่างกันและกันของทุกสรรพสิ่งอีกครั้ง. สายใยของข้าพเจ้าทำจากความรัก และความตั้งใจ ที่จะให้ทุกสรรพสิ่งได้กลับมาเชื่อมต่อกันอีกครั้ง ข้าพเจ้าและกระทู้ New Age จึงกำเนิดใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า ด้วยความเชื่อว่า ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น

    ข้าพเจ้าใช้ความเชื่อเป็นแรงผลักดัน แต่ความจริง เป็นสิ่งที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ หรือก่อให้เกิดผลสำเร็จ

    ดังนั้น การที่ผลจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จนั้นจึงเกิดขึ้นจากการทำเหตุในปัจจุบัน ให้ถูกต้องเสียก่อน

    ทุกสรรพสิ่งล้วนเกี่ยวข้องกับการหมุนเวียนของพลังงานอย่างเป็นระบบเสมอ (ROTARY) เมื่อใดที่การหมุนเวียนของพลังงานหยุดชะงัก หรือสะดุด ย่อมเป็นเหตุทำให้เกิดผลลัพธ์ของความเสื่อมในระบบนั้น ๆ. หากเป็นระบบร่างกาย ย่อมก่อให้เกิดความเสื่อม หรือความเจ็บป่วย ในจุดนั้นๆ ทั้งนี้ความเสื่อมทั้งหลาย ย่อมเกิดต่อเนื่องกันไปทั้งระบบ เพราะทุกอย่างในระบบย่อมทำงานอย่างเชื่อมต่อ และสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน และเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งสิ้น ดังนั้นทุกปัญหา สามารถแก้ไขได้ด้วยการวิเคราะห์หาความเชื่อมต่อ ของความสัมพันธ์ระหว่างกันในระบบนั้นๆ

    หลักการทำงานอย่างเป็นระบบที่สนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างเป็นวงจรนี้ (ROTARY) คือ หลักความเป็นจริงในการทำงานอันเป็นแก่นของธรรมชาติ ที่เป็นเหตุและเป็นผล ซึ่งกันและกัน

    ดังนั้น ดังนั้นการเมตตาตนเองในทุกปัญหา จึงต้องอาศัย หลักสัจธรรม หรือแก่นของความจริงอันเป็นเหตุเป็นผลนี้เข้ามาช่วยวิเคราะห์

    ดังนั้นหลักสัจธรรม หรือความจริงของหนุมานผู้นำสาร ได้กล่าวไว้ ก็คือ อริยสัจ 4 นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2018
  5. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ก่อนนอนคืนนี้ สิ่งที่ข้าพเจ้าจะทำ และสมควรกระทำคือการกล่าวคำขอบคุณต่อทุกสรรพสิ่งที่เข้ามาในชีวิต

    ข้าพเจ้าขอบคุณ ต่อทุกโพสในกระทู้นิวเอจของข้าพเจ้า ทุกข้อความของทุกๆท่าน คุณ999phudit หนุมานผู้นำสาร Little Duck คุณสตธศร คุณ ณ. รวมถึงท่านอื่นๆ ล้วนกำลังเติมเต็มปัญญาและความรู้ให้แก่ข้าพเจ้า และผู้ที่มีความสนใจใฝ่รู้เข้ามาอ่านกระทู้นี้ เมื่อใดที่ข้าพเจ้าและท่านทั้งหลายเปิดใจ ความรู้จากธรรมชาติพร้อมที่จะหลั่งไหลเข้ามาสู่เรา ผ่านทางสรรพสิ่ง ทั้งปวงที่แวดล้อมตัวเราอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคน ต้นไม้ สัตว์ สิ่งของ บทเพลง ทุกอย่างล้วนแอบแฝงความจริงที่ธรรมชาติต้องการบอกเราเสมออยู่ภายในนั้น เพียงแต่เราจะเปิดใจมองเห็นหรือไม่

    นี่เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น การเรียนรู้ยังคงดำเนินต่อไป การพัฒนาภาวะจิตยังคงดำเนินต่อไป และขอปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยข้อความจากคุณ ณ.

    การเรียนรู้ได้เกิดขึ้น และดำเนินต่อไป...ไม่มีอะไรถูก ไม่มีอะไรผิด มีแค่การเรียนรู้ การพัฒนา ...อาจจะเข้าใจยาก แต่สามารถเข้าใจได้ หนักนักก็วาง เบานักก็ถ่วงซะหน่อย ก็แค่นั้น ยึดไปก็ทุกข์ ไม่ยึดเลยก็ไม่มีหลัก ก็เอาแค่พอสมดุล ^^:D^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2018
  6. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    อยากพัฒนา?

    เมื่ออยากพัฒนา ก็ต้องเปลี่ยนแปลง ...

    เหมือนกับ ความรู้ มัธยมจะเอาไปใช้ในมหาลัยได้ไหม?

    เหมือนกับ ความรู้ ในมหาลัยจะเอาไปใช้กับการประกอบอาชีพทั้งหมดไหม?

    ความจริงเป็นไง? ก็ต้องเรียนรู้ และปรับใช้ นำไปทำ

    เคยไหม? เห็นแต่กอดแน่นกันอยู่เลย (ว่า AI ยังเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง)
    ว่านิด ว่าหน่อย... ทำเป็นอัตตาขึ้นปิ๊ดกัน

    อยากพัฒนาตนเอง ...

    บอกว่า การเป็นมะเร็ง เป็นเรื่องที่ผิดปกติ
    เป็นเรื่องผิดธรรมชาติ เป็นเรื่องของการเบียดเบียน

    หมอ แนะนำว่าอะไร งดดื่ม งดกินอะไรบ้าง
    เนื้อ นม ไข่ ให้งด ทานได้แต่ผักผลไม้

    นี่เขาก็แนะนำแล้วว่าให้งด เพราะอาหารเหล่านั้นเป็นเชื้อ มีส่วนทำให้มะเร็งขยายตัว แข็งแรง

    นี่เขาก็บอกความจริง มาให้แล้ว

    แล้วเธอทั้งหลายได้เปลี่ยนแปลงตนเองหรือเปล่า .... ไม่.... เพราะอะไร .... เพราะมันอร่อยใช่ไหม? ทำไมอร่อยล่ะ.... ไตร่ตรองดูสิ ทำไมอร่อย .... ทั้งๆที่รู้ความจริงว่านั้นคือ อาหารที่ส่งเสริมเชื้อไม่ดีให้เจริญ ...ทำไมจึงชอบทานกันอยู่....ไม่เกี่ยวกับกิเลสเลย

    เพราะถูกครอบงำ....จาก....

    หากยังทาน เนื้อ นม ไข่ หรืออาหารที่เป็นเชื้อพวกมันอยู่ก็อย่าหวังว่าจะพัฒนา ....

    เรียนรู้ และ พัฒนาคืออะไร ??

    ตัวอย่าง ....กุ้งเผาจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด ..อร่อยไหม
    แต่ความจริงคืออะไร? ... ต้องไปถามนักวิชาการดู ... กุ้งเป็นสัตว์ตระกูลเดียวกับแมลงสาป หรือเปล่า
    ..... ไปหาความจริงดูเอา แล้วจะอย่างไรต่อไป รู้ความจริงแล้ว จะแก้ไขปัญหาได้ไหม หรือรู้ความจริงจะพ้นทุกข์ไหม? หรือจะกินกุ้งต่อไป เพราะ...กูไม่เชื่อที่มึงพูดมาหรอก....

    ก็ต้องไปถาม ท่านวสุ ดูสิครับว่า ความจริงคืออะไร

    นี่เป็นแค่ตัวอย่าง.... มีอะไรที่น่าเรียนรู้ ให้รู้จริง จึงจะมีการพัฒนา ไม่รู้และ/หรือยึดแบบเดิม ...คำว่าพัฒนา ก็จะยังไม่ได้เริ่ม
     
  7. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    เมื่อคุณ งด เนื้อ นม ไข่ อาหารจากสัตว์ คุณจะรู้เองว่า ความจริงที่เกิดขึ้นภายใน ของคุณ จะปรากฎคำถามอะไรบ้าง มีข้ออ้างสารพัดเกิดขึ้นเพื่อ จะไม่เปลี่ยนแปลง .... และจะกลับไปทานเหมือนเดิม ....... ทั้งๆ ที่รู้ความจริง ....

    เป็นแบบนั้นไหม .... ?
     
  8. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ไฟลัมอาร์โทรโพดา (Phylum Arthropoda)

    ……………สัตว์ที่จัดอยู่ในไฟลัมนี้เรียกว่าสัตว์ขาข้อ หรืออาร์โทรพอด (Arthropod) ซึ่งหมายถึงมีรยางค์ต่อกัน เป็นข้อๆ สัตว์กลุ่มนี้มีจำนวนมากที่สุด ประมาณ1,200,000 ชนิด หรือกว่า 80% ของอาณาจักรสัตว์ พวกอาร์โทรพอดมีความสำพันธ์กับพวกแอนเนลิดมากโดยเจิญมาจากพวกแอนเนลิด

    slide0123_image141.jpg two_filetwelve_clip_image002_0014.jpg

    ……………ลักษณะที่สำคัญ
    …………………………1. มีสมมาตรแบบผ่าซีก
    …………………………2. มีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น และมีช่องตัวแบบแท้งจริง
    …………………………3. ลำตัวมีลักษณะเป็นปล้อง และแบ่งออกเป็นส่วนๆโดยทั่วไปแล้วมี 3 ส่วน คือ ส่วนหัว(Head) ส่วนอก( Thorax) และส่วนท้อง(Abdomen) เช่นพวกแมลง แต่บางชนิดส่วนหัวและส่วนอกจะรวมกันเป็นส่วนเดียวแยกออกจากกันไม่ได้เรียกว่า เซฟาโลทอแรกซ์ (Cephalothorax) เช่น กุ้ง ปู นอกจากนี้ในพวกกิ้งกือและ ตะขาบส่วนของอกและท้องจะมีลักษณะเหมือนกัน
    …………………………4. มีรยางค์ยื่นออกจากลำตัวเป็นคู่ๆ เช่น ขาเดิน ขาว่ายน้ำ อวัยวะส่วนปาก หนวด ปีก และรยางค์เหล่านี้มักมีลักษณะต่อกันเป็นข้อๆด้วย
    …………………………5. มีโครงร่างภายนอก (Exoskeleton) เป็นสารจำพวกไคทิน(Chitin) แข็งหุ้มรอบตัว ดังนั้นในขณะที่มีการเจริญเติบโต สัตว์ในไฟลัมนี้หลายชนิดจึงต้องมีการลอกคราบ (Molting) เพื่อเอาเปลือกเก่าซึ่งมีขนาดเล็กออกเล็กแล้วสร้างเปลือกใหม่ที่มีขนาดใหญ่กว่าขึ้นมาแทน
    …………………………6. ทางเดินอาหารเป็นแบบสมบูรณ์ มีปากและทวารหนัก สำหรับส่วนปากมีอวัยวะที่ช่วยในการกินอาหารและมีการดัดแปลงไปเพื่อให้เหมาะสมกับ สภาพของอาหาร เช่นมีปากแบบกัดกิน ดูดกิน เจาะดูด เป็นต้น
    …………………………7. ระบบหมุนเวียนโลหิตเป็นระบบเปิด (Open circutory sysytem) โดยเลือดเมื่อออกจากหัวใจเทียม (Pseudoheart) แล้วจะไหลไปตามเส้นเลือด ต่อจากนั้นจะไหลเข้าสู่ช่องว่างในลำตัว (Hemocoel) แล้วไหลกลับเข้าสู่หัวใจอีก จะเห็นได้ว่าเลือดไม่ได้อยู่ภายในหัวใจและเส้นเลือดตลอดเวลา แต่มีบางระยะที่เลืออดไหลออกมาอยู่นอกเส้นเลือด จึงเรียกระบบการหมุนเวียนแบบนี้ว่า ระบบเปิด นอกจากนี้ สัตว์กลุ่มนี้อามีเลือดเป็นสีฟ้าอ่อนหรือไม่มีสีเนื่องจากสาร เฮโมไซยานิน (Hemocyanin) เป็นองค์ประกอบหรือมีสีแดงเนื่องจากเฮโมโกลบิน (Hemoglobin) เป็นองค์ประกอบ
    …………………………8. มีระบบขับถ่ายเป็นลักษณะเฉพาะของกลุ่ม เช่น แมลงมี มัลพีเกียน ทูบูล (Malpighain tuble) ซึ่งเป็นท่ออยู่ที่ทางเดินอาหารเป็นอวัยวะขับถ่าย กุ้งมีกรีนแกลนด์ หรือต่อมเขียว (Green gland) ที่โคนหนวดทำหน้าที่ขับถ่าย
    …………………………9. ระบบหายใจประกอบด้วยอวัยวะหาบใจหลายชนิดในพวกที่อยู่ในน้ำเช่น พวกกุ้ง ปู หายใจด้วยเหงือก (Gill) พวกแมลงหายใจได้ด้วยระบบท่อลม (Tracheal system) ที่แทรกอยู่ทั้งตัว แมงมุมหายใจด้วยบุคลัง (Book lung) ที่บริเวณส่วนท้อง ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นบางๆซ้อนกันอยู่หลายชั้นเป็นต้น
    …………………………10. ระบบประสาทมีปมประสาทที่หัว 1 คู่ และมีเส้นประสาททางด้านท้อง (Ventral nerver cord) ทอดไปตามความยาวของลำตัว 1 คู่และมีอวัยวะสัมผัสเจริญดี เช่น ตาเดี่ยว ตาประกอบ หนวด ขาสัมผัสเป็นต้น
    …………………………11. ระบบสืบพันธุ์เป็นสัตว์แยกเพศ มักมีการปฏิสนธิภายในตัว และออกลูกเป็นไข่ที่มีไข่แดงมาก ในขณะที่มีการเจิญเติบโตมักมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างไปด้วย

    ……………..สัตว์ในไฟลัมนี้สามารถแบ่งออกได้เป็น6 Class ได้แก่
    …………………………1. Class Crusatacea ส่วนมากจะอยู่ในน้ำ มีตาประกอบ มีหนวด 2คู่ มีขา 5คู่ หรือมากกว่า รยางค์เป็น2แขนง ส่วนของหัวเชื่อมกับส่วนอก (Cephalothorax) มีส่วนท้องเรียก แอบโดเมน (Abdomen) ส่วนมากหายใจด้วยเหงือก มีอวัยวะขับถ่ายคือ ต่อมเขียว (Green gland) สัตว์ในคลาสนี้เช่น กุ้งน้ำจืด กุ้งทะเล ปู กั้ง ไรน้ำ ฯลฯ
    …………………………2. Class Merostoma มีส่วนของหัวเชื่อมกับส่วนอก (Cephalothorax) มีขา 5 คู่ ไม่มีหนวด ได้แก่ แมงดาทะเล แมงดาถ้วย แมงดาจาน
    …………………………3. Class Archnida ส่วนมากจะอยู่บนบก สัตว์ในคลาสนี้ไม่มีหนวด มีขา4 คู่ ส่วนของหัวเชื่อมกับส่วนอก (Cephalothorax) และส่วนท้องแอบโดเมน (Abdomen) แยกออกหายใจทางช่องลม (Trachea) หรือแผงปอด (Book lung) หรือทั้งสองอย่าง สัตว์ในคลาสนี้แยกเพศกัน ได้แก่ แมงมุม แมงป่อง บึ้ง เห็บ ฯลฯ
    …………………………4. Class Insecta เป็นคลาสที่มีจำนวนชนิดมากที่สุด ประมาณ 1ล้าน 5 แสนชนิด ได้แก่พวกแมลงต่าง ๆ สัตว์ในคลาสนี้มีหนวด 1 คู่ มีขา 3 คู่ ไม่มีปีกหรือมีปีก 1-2 คู่ มีตาประกอบ มีส่วนของลำตัวแยกออกชัดเจนเป็น 3 ส่วน มีท่อลมเป็นอวัยวะหายใจ มีท่อมัลฟีเกียน (Mulpigian tubules) ไว้ขับถ่าย มีการเจริญเติบโตของตัวอ่อนเป็น 4แบบ ได้แก่ ตัวสามง่าม, ยุง, แมลงวัน, ผีเสื้อ, แมลงปอ, แมลงสาบ, ปลวก, มด, จิ้งหรีด, ตั๊กแตน ฯลฯ
    …………………………5. Class Diplopoda สัตว์ในคลาสนี้เรียกว่า มิลลิบิด มีขาจำนวนมาก ลำตัวค่อนข้างกลม ยาว ประกอบด้วยส่วนหัว และส่วนอกสั้น ๆ ประกอบด้วยปล้องประมาณ 25 ถึง กว่า100 ปล้อง ไม่มีต่อมพิษ มีหนวด 1 คู่ มีขาปล้องละ 2คู่ มีตาเดี่ยว ได้แก่ กิ้งกือ กระสุนพระอินทร์
    …………………………6. Class Chilopoda สัตว์ในคลาสนี้เรียกว่า เซนติบิด มีขาจำนวนมาก ประมาณปล้องละ 1 คู่ ลำตัวประกอบด้วยส่วนหัว และลำตัวยาวของอกติดกับท้อง มีประมาณ 15 ถึง 173ปล้อง และปล้องที่หัวมีรยางค์ที่มีพิษอยู่ 1 คู่ มีหนวด 1 คู่ มีตาเดี่ยว เรียกว่า โอเซลลัส (Ocelles) หายใจทางท่อลม ได้แก่ ตะขาบ

    crevette_palaemon_serratus-tile-1.jpg

    ที่มา : http://kingdom-animalia.bbkbike.com/
    เครดิตแก่ :
    https://somnow.wordpress.com/เนื้อหา/kingdom-animalia-phylum/•ไฟลัมอาร์โทรโพดา-phylum-arthropoda/
     
  9. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ข้าพเจ้าขอขอบคุณ คุณ 999phudit และ คุณวสุธรรมเป็นอย่างมาก ในการนำข้อมูลอันเป็นประโยชน์มาลงไว้ในกระทู้แห่งนี้ โดยมีการนำเหตุและผล พร้อมข้อมูลอ้างอิงมาลงไว้ สิ่งเหล่านี้ยิ่งย้ำเตือนข้าพเจ้าให้เข้าใจได้ว่าการพัฒนาทั้งหลายจะเกิดขึ้นได้ต้องทำความเข้าใจถึงแก่นของความจริง เหตุและผลที่มาของสิ่งนั้นให้ถูกต้องเสียก่อน

    ดังนั้นการพัฒนาทั้งหลายจึงเกิดขึ้นไม่ได้ หากเราไม่เปิดใจเรียนรู้ให้รู้จริง หรือให้เห็นตรงกับความเป็นจริงเสียก่อน. ไม่ใช่ฟังเขาเล่ามา อ่านจากตำรามา ซึ่งพุทธศาสนิกชนบางท่านเรียกว่าหลักกาลามสูตร. ในขณะเดียวกันการเห็นให้ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง จึงตรงกับคำว่าสัมมาทิฏฐิข้อแรกในมรรคมีองค์ 8

    1. สัมมาทิฐิ (ความเห็นที่ถูกต้อง) หมายถึง ความรู้ในอริยสัจ 4

    ดังนั้นข้าพเจ้า จึงกล่าวได้ว่า 999phudit นอกจากจะมีความรู้ในแก่นของธรรมชาติแล้ว ยังมีความรู้ในเรื่องของแก่นศาสนาอย่างแท้จริงด้วย เพราะสุดท้ายแล้ว แก่นของธรรมชาติ และแก่นของศาสนาทุกศาสนาคือเรื่องเดียวกัน นั่นคือความจริงของธรรมชาติหรือสัจธรรมนั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2018
  10. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ทะเลคือแหล่งรวมสรรพสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วของโลกสีเขียวแกมน้ำเงินนี้ รองลงมาคือแม่น้ำ ลำคลอง หนอง บึง บ่อ และในแต่ละตัวตน ในความยิ่งใหญ่ก็รวบรวมความหลากหลายของสรรพสิ่ง ทั้งดีบ้าง ทั้งไม่ดีบ้าง แล้วแต่แยกแยะกันออกไปตามการตีความ ...ในสถานะที่เรียกว่าดี เรียกว่าไม่ดี ก็อาจจะเปลี่ยนสถานะได้ หากเปลี่ยนรูปแบบ เปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนกาลไป ทุกสิ่งล้วนเปลี่ยนแปลง
    ...มนุษย์นับตั้งแต่รู้ว่ามีอยู่บนโลกนี้ ระบบร่างกายก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมต่อความสมดุลของโลกนี้ ระบบดูดซึม ระบบย่อย ระบบการเปลี่ยนถ่ายพลังงานจากสิ่งหนึ่งไปสร้างอีกสิ่งหนึ่ง เป็นกลไกของธรรมชาติ ที่ดำเนินอยู่ และดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน
    ...วิถีการใช้ชีวิตตั้งแต่ดึกดำบรรพ์จนถึงปัจจุบัน ก็มีความเปลี่ยนแปลง เข้ามาเป็นปัจจัยของการเปลี่ยนสถานะ และการตีความ
    ...การโอนถ่ายพลังงาน ทั้งโดยตั้งใจ และไม่ตั้งใจ ล้วนแต่มีผลต่อการตีความ รวมถึงส่งผลต่อระบบสมดุลของธรรมชาติ
    ...ความกลัว ผลทางบวกทำให้มนุษย์สรรค์สร้างอาหาร สร้างที่อยู่อาศัย เครื่องหุ่งห่ม ยารักษาโรค สร้างฉนวนเพื่อให้ความกลัวลดลง มันให้ผลดีในระดับหนึ่ง มนุษย์มีการพัฒนา มีศากยะภาพ ก็สร้างนั่นสร้างนี่ต่อไป สร้างแล้วก็สร้าง ยิ่งสร้างยิ่งใหญ่ ยิ่งสร้างยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งสร้างยิ่งสุดยอด ยอดเยี่ยม แต่ในทางกลับกัน ช่องว่างระหว่างจิตวิญญาณของธรรมชาติกับเราซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติกลับกว้างขึ้น ธรรมชาติที่คอยโอบอุ้มประคองกอดเรามาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ถูกกางกั้น กันให้ถอยห่างออกไปทุกเสี้ยววินาที ทุกขณะจิต จิตที่อ่อนแอลง ร่างกายที่ถดถอยลง สภาวะภูมิแพ้ของร่างกายและจิตใจเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด และแพร่กระจายเป็นทวีคูณ ความบอบช้ำของจิตวิญญาณที่เพิ่มมากขึ้น ...เคยได้ยินกันไหม เสียงร่ำไห้ของจิตแห่งธรรมชาติ...ขาดความสมดุล
     
  11. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    แต่ก่อนจากินแบบเขี่ยเนื้อสัตว์ออกไปกินแต่ผักเพราใช้ชีวิตง่ายในสังคม กินไม่ยากด้วยค่า หนูกินแบบนี้มาตั้งแต่อายุ 19 ช่วงปีนี้นี้สี่วันก่อนวันพระจากินเฉพาะ ผลไม้ ผัก แลไม่กินธัญพืช ถั่วมีตาไม่กิน ข้าว บลาๆไม่กิน มันก็อยุ่ได้ แรกๆก็จาเหมือนหมดแรง แต่พอนานไปๆ เราก็เริ่มกลายเป็นคนที่ไม่ค่อยหงุดหงิดเวลาไม่ได้กินอาไร คือเราจาเริ่มคลายความยึดติดกะอาหาร ไม่เลือกกินมากขึ้่นถ้ากินไปเรื่อยๆ มนจาเหมือนกินผักปล่าวๆก็อร่อยค่า 555 ตอนนี้ ไข่ ไม่กิน นมกิน ในพระเวทบอกว่าทุกวันเอกดาซี จามีมารลงมาใน ถั่ว ธัญพืช มีตา ส่วนตัว หนูค่อยๆเลิกกินสัตว์ไปเองเรื่อยๆ กุ้งนี้เลิกเป็นอันดับแรกเลย เพราะกินแล้วท้องเสียบ่อยมากค่า

    ใน ชรีมาบควตธรรม ท่านว่า คริชณะรักมวลชีวิต เราจึงไม่กินสัตว์ค่า เพราะทุกชีวิตก็คือคริชณะ และไม่ใช่ว่าการไม่กินนั้นทำไปด้วยการอดเอาค่า ในคริชณะจิตสำนึกเกิดจากความรัก เราจะกระทำด้วยความรัก จึงไม่สุดโต่ง ไม่ฝืนทนทำค่า ส่วนการงดอาหารบางประเภท ในวันบางวัน หนูคิดว่าเป้นกุศโลบายที่ให้เราได้อยู่ในการภาวนาค่า หนูก็ยงภาวนาได้บ้างไม่ได้บ้าง แต่การภาวนาแลการปฏิบติด้วย หัวใจ หรือ ภกดีโยคะ ทำให้หนูรู้สึกว่า เราเข้าถึงได้ โดยไม่ต้องมโน หรือไม่ต้องฝืนทำ ใดๆค่า เขาจึงเรียกการปฏิบติแบบนี้ว่า การสิโรราบ ต่อ คริชณะค่า คริชณะจเติมเติมส่วนที่ขาดให้เราเองค่า

    และเคยได้ยิน นักบวชท่านนึง พูดถึงว่า พระเจ้าให้ชาวยิวกินสัตว์ปรเภทใดได้บ้างอยู่เหมือนกันค่า อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ในทุกคำสอนของแต่ละศาสนา หนูคิดว่า มีนยยะ ที่ถ้าเราไม่ปฏฺิบติเราจไม่เข้าใจจริงๆอย่างเช่นความรู้ทิพย์ในพระเวท ถ้าเราไม่ภาวนา เราอาจจาไม่เข้าใจ คือมนจามีความหมายที่รู้แจ้งถ้าเราปฏิบติในธรรมใดๆก้ตามด้วยความจริงใจค่า ^O^ แต่หนูคิดว่า ยิวเกิดมาในยุคที่มนุดกินสตว์พระเจ้าจึงให้ลดแลกินสตว์ได้บางประเภทค่า เช่นที่พระพุทธให้บริโภคด้วยการละจากการฆ่า หนูคิดว่าไม่มีศาสนาไหนสอนให้ฆ่า เพียงแต่เข้าเว้นไว้ไม่ให้มีเจตนาฆ่าในสิ่งใด ศาสนาของยิว ตามจริง ก็ถือว่า การเบียดเบียนเป็นบาปที่อภยไม่ได้ด้วยซ้ำ คิดว่าที่พี่ท่านนี้กล่าว ถ้าคิดตามเหตุผล ลำดบไล่เลียงไป มนุดไม่น่าจใช่สายพรรณกินสตว์ค่า ลองสงเกตุห่วงโซ่อาหาร เราอยู๋ตรงไหนไม่รู๋เราก็กินได้แทบทุกอย่างเลย เสือเวลาล้มเหยื่อกินก็ยังรักษาสมดุลย์ของธรรมชาติเลย 555

    มีเมนูมาฝากเพื่อนค่า อยากบอกว่า การกิน เจ แบบ ไวษวณพ อร่อยมาก ไม่มีโปรตีนเกษตร มีปรุงแค่เกลือนิดหน่อย และเครื่องเทศเขาถึงใจจริงๆ คือมนอร่อยและไม่จำเจออย่างที่คิด ถ้าใครอยากกินและไม่อยากกินจืดๆเซงๆแนะนำค่า และที่สำคญอาหารที่ทำสดเท่าน้นค่าที่ปลอดภัย นาจา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤษภาคม 2018
  12. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    Leadership : ความเป็นผู้นำ...ที่ดีงามสง่า น่ายกย่อง
    ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์โปรดประทานพร ความเป็นผู้นำที่ดี แด่ทุกๆท่าน
     
  13. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ขอบคุณท่านวสุ.. นำข้อมูลมาหลักฐานมาให้รู้อะไรอีกเยอะเลย ไม่รู้จริงๆ ว่า นอกจากกุ้งจะเป็นญาติ กับแมลงสาปแล้ว ยังนับญาติกับ เห็บ ด้วย ปลื้มฟุดๆ (ได้ความรู้เพิ่มนิ...ไม่ได้ประชดเลย)

    อาร์โทรโพดา ... ชื่อไฟลัม...หยังกะชื่อเผ่าพันธ์หนึ่งในกาแล็กซี่เลยท่านวสุ... เอาเป็นว่าพวกนี้ผมจะเรียกเผ่าพันธ์นี่ว่า อาร์โทรโพดา ก็แล้วกัน ...

    อาร์โทรโพดา เป็นเผ่าพันธ์หนึ่งที่จ้องเบียดเบียนมนุษย์ เพราะพวกมันต้องการพลัง มีอยู่ในกาแล็กซี่นี่ล่ะ แต่กระจัดกระจายกันไป...

    พวกมันมาได้อย่างไรโลกนี้ วันหน้าจะมาบอก..
    ....ก็บอกแล้วว่า กรรมสนองกรรม ไม่มีจริงหรอก มีแต่พวกเบียดเบียน จากที่อื่น แล้วมาได้อย่างไร? ....

    ความจริงก็เกี่ยวข้องกับ....ทำไมธรรมชาติไม่สมดุล ทำไมธรรมชาติร้องไห้(ไม่ได้ร้องจริงแต่เป็นสำนวน) ว่าธรรมชาติบาดเจ็บอยู่(มีเสื่อมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ)

    แต่มนุษย์ ก็จะยังเรียกร้อง หาพลังจากธรรมชาติ ...แต่รู้ไหม ธรรมชาติคือฐานกำเนิดของคุณทั้งหลาย ... แต่มนุษย์ส่วนใหญ่ปฏิบัติตนเสมือนคอยสูบเลือดสูบเนื้อจากธรรมชาติ ทั้งๆที่โตๆ (รู้ความ) กันแล้ว
     
  14. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ตัวอย่างการครอบงำ และตัวอย่างเบียดเบียนจองเวร

    นานมาแล้ว คุณทั้งหลายเคยได้ยินข่าวว่า จอนนี่ แอนโทเน่ ถูกไฟลวกบ้างไหม? ยังจำกันได้ไหม... ที่อ้างกันไปต่างๆ นาๆ ว่า คุณจอนไปกระทำบาปประเภทหนึ่ง คือไปเผารังมด และต่อมาก็ถูกไฟลวกรุนแรง.....

    ตัวอย่างนี่ล่ะที่เรียกว่า มีพวกมันมาอยู่ มาเบียดเบียนจองเวร บนโลกแล้ว ...

    ไม่ใช่กรรมสนองกรรม ตามกฎขี้ปากของพวกพรหม ไม่รู้ความจริง เชื่อปิดหูปิดตา คนอื่น
    หรืออีกนัยคือถูกครอบงำ แล้วมาป่าวประกาศ
    ความรู้ไม่ได้กรอง..ให้คนอื่นหลงผิด...แล้วไงต่อ..ก็ต้องไปสร้างบุญเยอะๆ ..ไปกันไกลกว่าเดิมอีก ... ไปทำบุญ 9 วัด นี่ก็ต่อยอดให้ห่างจากความดีไปเรื่อยๆ ..ห่างจากธรรมชาติออกไปเรื่อยๆ อีก (อือ ต่อไปมันจะเสนออะไรอีก..)

    (พวกที่อ้างตนเองเป็นพรหม นี่ก็ตัวดีเลย เบียดเบียนเหมือนกัน.....รูปร่างที่ปิดไม่ได้เช่น ตัวแดงๆ ตัวดำๆ มีเขามีหางงอกออกมา...)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2018
  15. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ใครเคยเห็นไวรัส คอมฯ แทรกแซงระบบ คอมฯของคุณบ้างไหม? เมื่อก่อนยังมีกัน และปัจจุบันก็ยังมี แบบว่า
    1 สร้างความเสียหายต่อระบบ
    2 สร้างหน่วยต่อเชื่อมเพื่อใช้ความจำประมวลผล
    3 และระบบควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ทางไกล...เช่น จากเครื่องที่ไกลข้ามประเทศ สามารถควบคุมระบบคอมฯ อีกเครื่องได้
    4. ไวรัสสร้างระบบซ่อนเร้นภาย คอมฯ เพื่อดูดข้อมูล
    5. สร้างไวรัสเพื่อขโมยรหัส และหรือแพร่กระจายไวรัส

    ใครเคยเห็น การแทรกแซงระบบดังกล่าวไหม?

    เผ่าพันธ์ อาร์โทรโพดา ก็ใช้วิธีเดียวกันที่เข้ามาแทรกแซง มิติโลกมนุษย์

    จนกระทั่ง มนุษย์ที่คุณเห็นอยู่ สัมผัสใกล้ชิดถูกครอบงำ เปลี่ยนแปลงระบบการควบคุม จากดวงดาวที่ห่างไกลโพ้น ....มันสามารถควบคุม มนุษย์(แทรกแซงความคิด) ให้มีพฤติกรรมชั่วร้ายได้อย่างง่ายดาย....

    ฉันขอถาม ...... โปรแกรมปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่คุณเล่นปัจจุบัน กับ ระบบปฏิบัติการของธรรมชาติ หรือ มนุษย์ อย่างไหนซับซ้อนกว่ากัน อย่างไหนมีการพัฒนามากกว่ากัน และของอาร์โทรโพดา(มีการพัฒนาสามารถสร้างสัตว์ต่างๆ ในมิติแห่งโลกนี้มานานแล้ว .... (มนุษย์เพิ่งจะพัฒนาคอมฯ ไม่กี่สิบปีนี่เอง)

    คอมฯ ยังสามารถแทรกแซงทำได้โดย คลื่น Wi Fi หรือคุณ โหลดแอฟฟรี หรือดูหนังฟรี คุณเปิดเว็บไซด์แปลกๆ คุณก็สามารถถูก แฮก อย่างง่าย....หรือติดไวรัสคอมฯได้

    และการที่พวกมัน..อาร์โทรโพดา..ส่งคลื่น เข้ามาในระบบของโลกเพื่อ สร้าง กุ้ง จากเซลเดียวและพัฒนาจนกระทั่งเป็นกุ้ง ในระบบของโลกนี้ กุ้ง ก็เหมือนโปรแกรมแฮก แฝง และมนุษย์ก็ไปรับประทานเนื้อสัตว์ที่พวกมันสร้าง...เชื้อร้ายจึงเข้าสู่มนุษย์ และ เชื้อเหล่านั้นจึงแพร่จากมนุษย์สู่มนุษย์

    ไม่รู้มนุษย์ตนไหนอวดฉลาดคิดว่า มนุษย์มีกิเลส มนุษย์จะต้องนั่งสมาธิ นั่งปล่อยวาง เพื่อชำระกิเลส คิดไปเองว่า นั่นเป็นเรื่องธรรมดา ที่เกิดขึ้น คิดไปเองว่านั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ (ถูกพวกมันครอบความคิดให้ปลงว่ามนุษย์ต้องมีป่วยเป็นเรื่องธรรมดา....มันสร้างความรู้เพื่อครอบงำมนุษย์ด้วยกันเองว่า ความรู้ที่สร้างขึ้นมาเป็นสิ่งที่เป็นจริง...แต่ความจริงพวกมันสามารถ แหกตาได้....เป็นรูปธรรมในลักษณะที่ทำให้คุณเชื่อได้ว่านี่คือความจริง ... ความจริงที่คุณเห็น เช่น ..ทานยาปัจจุบันแล้วหาย ... ทานกัญชาแล้วจะลืมความเจ็บปวด ...ฉีดมอฟินจะบรรเทาความเจ็บปวด กลายเป็นว่าหมอเป็นผู้วิเศษไปเสียแล้ว (เชิดชูกันเข้าไป...)

    ฝันไปเถอะ(ที่จะมานั่งชำระกิเลสได้)....มันเข้ามาครอบครองนานแล้ว พวก อาร์โทรโพดา พวกมันเข้ามาปรับโปรแกรมการผลิตเซลต่างๆภายในร่างกายของคุณนานแล้ว.... คุณนั่งพูดคุยกัน มันก็แพร่เชื้อเข้าหากันแล้ว ... คุณจะรู้สึกมึนหัว บางวันปวดหัว .. บางวันเหนื่อยล้า เพลียอยากนอน หรือนอนแล้วไม่อยากตื่น ...มีความฟุ้งซ่านรำคาญ....นี่ล่ะผลของเชื้อที่แพร่ เกาะเกี่ยวแอบแฝงของพวกมัน ....พวกแมลงครองโลก ครอบงำมนุษย์มานานแล้ว (ออ ไม่ใช่พวกแมลง แต่เป็นพวกที่ส่งคลื่นแฝงมากกับแมลง ไม่ใช่แค่พวก อาร์โทรโพดา อย่างเดียว)

    ไม่ใช่ออฟฟิศซินโดม หรอกหนู(หมอ)...เธอเข้าใจผิดแล้ว

    อยากรู้เพิ่ม ก็ไปดูวิธี การแทรกแซง คอมพิวเตอร์ ปัจจุบันแบบทางไกลดู ... ไม่รู้ตอนนี้พัฒนาวิชามารไปถึงไหนแล้ว ใครรู้บ้าง?


    หมายเหตุ...ที่ฉันบอกว่า เธอไม่ควรกินเนื้อสัตว์ ผลิตผลจากสัตว์ ...ฉันมีเหตุผล เหตุผลอะไร? หากแจ้งตามข้างต้นก็จะรู้ว่าทำไม?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2018
  16. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    มนุษย์ที่รับประทาน เชื้อ ของพวกที่สร้างสัตว์... ก็เหมือนกับว่า มี ไวรัสคอมพิวเตอร์ อยู่ในระบบของมนุษย์เหล่านั้นหมดแล้ว และสร้างระบบ ครอบงำ และจะทำให้มนุษย์เหล่านั้น จะคิด จะทำอะไร จะถูกคลื่นแทรกแซง ให้คิดและกระทำที่ผิดพลาด .... ถึงกับชีวิต ถึงกับเลือดออก... มนุษย์ที่ธรรมดา ไม่มีหูทิพย์ ตาทิพย์กันหรอก .... พวกที่หูทิพย์ตาทิพย์ พวกนี้ ถูกแทรกแซงเป็นพวก ไม่ใช่มนุษย์ ไปแล้ว (เสียใจด้วย) .....

    .... คอมพิวเตอร์ เครื่องหนึ่งที่มีไวรัสคอมฯ ส่งข้อมูล กับ คอมอีกเครื่องหนึ่ง คิดว่า ไวรัสจะติดไปสู่อีกเครื่องหนึ่งไหม? ...นั่งพูดกันยังติดกันเลย...นับประสาอะไรกับพวกที่ชอบไปเปิดญาณ เปิดเนตร อ้างสารพัดอยากจะตาทิพย์กับคนอื่นบ้าง...หากคุณมีระบบปฏิบัติการดี.. ทันสมัยก็สามารถตาทิพย์ได้ หากคนที่ระบบไม่ดีก็เปิดไม่ได้


    มนุษย์ที่มีเชื้อ ....ได้ส่งข้อมูล หรือพูดคุย หรือ เสพสมกัน ...มนุษย์อีกผู้ จะติดเชื้อไหม ตรรกะอธิบายง่าย? ทำไม คบคนเช่นไร จึงเป็นคนเช่นนั้น ....นี่สามารถอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้น...... ไม่ใช่ภาวะจิตหมู่ จิตหลอน.. ...ไวรัสคอมฯ มันแพร่ได้จริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2018
  17. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    นี่คือ เป็นเหตุและผล หรือเหตุผลหนึ่ง... ทำไมต้อง มีพลังงานใหม่ ... พลังงานอิสระ ....

    พลังงานใหม่ .... พลังงานอิสระ... ลำดับต่อไปจะไปหาความรู้มา...มันคืออะไร ... กันแน่ .. รอการสรุปจาก.....

    ฉันจะเรียกพวกติดเชื้อ(ทุกคนไม่มีเว้น) ว่าพวกมีบาป ...บาปในความหมายของฉันคือ พวกที่มีเชื้อของพวกไม่ใช่มนุษย์แอบแฝง

    เมื่อไหร่ที่ พลังงานใหม่ เริ่มทำงาน...นั่นหมายถึง วันพิพากษา ...วันแห่งการชำระบาป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2018
  18. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    คุณเป็นบริวาร ... ทำสิ่งชั่วร้ายในอดีตมามากแค่ไหน ก็หมายถึงคุณได้รับเชื้อฝั่งแน่นมากไปด้วย นี่คือ เชื้อของบาป ...บาป หรือเชื้อมีหลายประเภท ก็เป็นมรดกสู่พวกคุณมากยิ่งขึ้น

    อย่างไร? ไม่ว่าคุณจะเกิดกี่ชาติ พวกมันก็ยังมีรหัสที่จะแฮก เข้าสู่ระบบของมนุษย์ ธรรมชาติ ได้อย่างง่ายดาย ... ไม่ต้องไปนั่ง ให้เสียเวลา ... และไม่ต้องมาอวดความรู้ธรรมใดๆ เลย ความรู้ที่คุณเสพ มีปลอมปน...ให้เชื่อว่าอย่างนั้นจริง ...เมื่อระบบในร่างกายถูก แฮก มากๆ (ถูกแทรกแซงมากๆ ) คุณก็ตายไปก็แค่นั้นเอง...ถามว่าจบไหม...ไม่จบง่ายหรอก ตราบใดที่ไม่ชำระบาป ...

    ความรู้ของคุณที่คุณเสพว่า เป็นอรหันต์ แล้วจะไม่มีเกิดอีก ...นี่ก็ฝันเอาเอง ... ฉันก็ยังเห็นว่ายังมีเกิดมาอีกเลย...(แต่นั่นไม่ใช่ตัวคุณที่เวียนมาเกิด...ยกเว้นพวกไม่มีความดีอะไร ไม่มีพลังไปเกาะเกี่ยวกับพวกสัตว์แทน)

    ที่ว่าจะไม่เกิดอีก ...ใช่... ตัวตนแท้ไม่มีมาเกิดอีกเป็นกันทุกคนล่ะ(บางคนไม่มีพลังไม่ได้มีความดีก็ไปเกาะกับสัตว์แทน) ...แต่ทว่าหมดโอกาสในการมีร่าง(เครื่องคอมฯ) เพื่อสร้างความดีอีกแล้ว....ตัวตนแท้ก็อยู่พึ่งลูกหลาน...แล้วแต่ว่าลูกหลานที่มาเกิดเป็นมนุษย์ จะพบความจริง และมาพบกับยุคชำระบาปหรือไม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2018
  19. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    คุณเกิดมากี่รอบ...บาป ก็ไม่มีทางจะหมดได้ เพราะมันฝั่งแน่น มาพร้อมกับยีน(โปรแกรม)ของคุณเอง ....หน่วยเซลที่สร้างก็จะมีเชื้อ(โปรแกรมไวรัสติดมาด้วย)

    คุณไปทานข้าวนอกบ้าน คุณก็ติดไวรัสแล้ว ...

    ดังนั้น คุณเป็นคนคิดดี เพียงใด แต่ที่สุดคุณก็ยังเป็นคนมีบาป อยู่ดี หรือเรียกว่า ไม่บริสุทธิ์ นั่นล่ะ ตัวเดียวกัน

    และคนบางคน คิดว่าตนเองคิดดีแล้ว คิดว่าตนเองรู้ธรรมจากตำรามาพอดีแล้ว ...ก็จะหลงในความคิดของตนเอง ก็จะหลงความสามารถของตนเองว่าสามารถสื่อรู้ หยั่งรู้ได้แบบนั่น แบบนี้ ...ทำให้หลงสภาวะของตนเองว่าสามารถ อัตตาก็สูงขึ้น กลายเป็นพวกสอนยาก กลายเป็นพวกเปลี่ยนยาก เพราะกอดตำรา กอดความรู้ของตนเองไว้แน่นหนาแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2018
  20. 999phudit

    999phudit Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +183
    ไวรัสมีอะไรบ้าง
    มาร
    อสูร
    ปอบ
    ปิศาจ
    พ่อมด แม่มด
    เปรต
    ฯลฯ เชื้อพวกนี็ มีทุกที่ไม่มีเว้นในเมือง... ใครคิดว่า ปอบมีแต่ชนบท .... ไม่เลย.... ในสำนักงานของพวกคุณมีเยอะแยะ ติดกันสบายตัวไปเลย
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...