สุดยอดเครื่องราง

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย montrik, 24 พฤษภาคม 2017.

  1. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    Montri Konguthaikul
    รับทราบ รายละเอียดแจ้งทางกล่องข้อความนะครับ
     
  2. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,973
    ค่าพลัง:
    +6,570
    ขอจอง ๑ ดอกครับ ขอเลือกเลี่ยมพลาสติกสีส้มครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2018
  3. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 120 : ปิดตาล้มลุก คุณแม่บุญเรือน
    รับทราบ พร้อมส่งพรุ่งนี้ครับ
     
  4. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,973
    ค่าพลัง:
    +6,570
    ผมจอง104 นะครับ
    ขอทราบ บช.เพื่อโอนครับ
     
  5. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ได้ครับ
     
  6. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 110 : ตะปูสังฆวานรเก่า แท้ รับประกัน
    มี 4 ดอก
    ราคา ดอกละ 799 บาท ปิด
    ค่าส่ง 70 บาท

    ประวัติตะปู เกิดจากพญาวานรตนหนึ่งซึ่งลงมาจุติเกิดในภพภูมิของมนุษย์ แล้วเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังมิวายที่จะติดใจหลงใหลในฤทธิ์อำนาจของตนเองที่ติดตัวมาตั้งแต่ อดีตชาติ เมื่อเข้ามาบวชเรียนแล้ว พญาวานรก็ยังชอบที่จะใช้ฤทธิ์ใช้อำนาจที่มีอยู่เดิม ในการเหาะเหิรเดินอากาศเพื่อที่จะไปเก็บรวบรวมเหล็กไหลธาตุ(สีขาวนวล) ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศธาตุ ซึ่งมิได้ถูกเทพ-เทวาอัญเชิญไปเป็นฐานพระเกตุแก้ว จุฬามณี (ฐานของพระเกตุแก้วจุฬามณีเป็นวัชรธาตุ)
    29570588_596557750708343_7093743551901451459_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  7. Powernext

    Powernext เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +3,290
    วันนี้โอนเงินให้เรียบร้อยแล้วครับ
    รายละเอียดตามPMครับ
     
  8. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 111 : ลูกอมหนังเสือ หลวงพ่อโอด วัดจันเสน

    ราคา 1,500 บาท
    ค่าส่ง 50 บาท

    สร้างจากมวลสารสุดยอดตามตำราของท่าน หลวงพ่อท่านสร้างตามตำรับของหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล
    ซึ่งท่านเองมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล และหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพธิ์ จึงมั่นใจในพระพุทธคุณได้อย่างเชื่อใจ
    ประกอบไปด้วย
    1) ดิน 7 เมือง
    2) ขี้ตะไคร่ท่าเรือจ้าง 7 ท่า
    3) ขี้ตะไคร่เสาตะลุง 7 เสา
    4) รังนกหัวหงอก
    5) ดินอุดโพรงนกเหงือก
    6) เทียนวิปัสสนา ***
    *** "ลูกอมหนังเสือ" หนึ่งในเครื่องรางแห่งประสบการณ์ของพระครูนิสัยจริยคุณ หรือ หลวงพ่อโอด วัดจันเสน พระอริยเกจิอาจารย์แห่งจังหวัดนครสวรรค์ ด้วยพลังจิตและบุญบารมีที่ได้ฝึกฝนอบรมมาอย่างดี ทำให้การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อเปี่ยมด้วยพุทธคุณและมีประสบการณ์แก่พุทธศาสนิกชนผู้เลื่อมใสศรัทธา โดยเฉพาะ "ลูกอม" หลวงพ่อท่านสร้างตามวิชาที่ได้รับการถ่ายทอดจากหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล มีพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาดและคงกระพันอยู่พร้อม ขนาดโยมที่เป็นสุภาพสตรีแขวนเพียงลูกอมของหลวงพ่อ ยังรอดพ้นจากคมเขี้ยวของสุนัขแบบกัดไม่เข้าครับ ทั้งนี้เชื่อว่าทุก ๆ ท่านคงทราบกันดีว่า หลวงพ่อโอดเป็นพระที่มีวาสนาบารมีมาก เพราะท่านได้รับการถ่ายทอดและสามารถเข้าถึงในสรรพวิชที่ได้ศึกษาจากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค หลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล และหลวงพ่อเชน วัดสิงห์
    ลูกอมหนังเสือ หลวงพ่อโอด วัดจันเสน จึงถือเป็นอีกหนึ่งของดีที่ขณะนี้ได้กลายเป็นตำนานลูกอมในระดับประเทศไปแล้ว และประสบการณ์ยังเกิดขึ้นแก่ผู้บูชามาโดยตลอด จนอาจกล่าวได้ว่า "ลูกอม" คือสื่อกลางในด้านวัตถุมงคลที่ทำให้เราได้เข้าถึงเกียรติคุณของหลวงพ่อโอดเป็นอย่างดี ที่สำคัญสร้างยากตั้งแต่หามวลสารไปจนถึงการเสกครับ เพราะหลวงพ่อจะเสกเป็นประจำทุกวัน เสกกันจนสำเร็จจึงจะอนุญาตมอบให้กับญาติโยมได้ ลูกอมหนังเสือของหลวงพ่อจะมีส่วนผสมของสีผึ้งหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ เทียนชัยและสีผึ้งของหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล รวมถึงมวลสารหายากอื่นๆที่หลวงพ่อโอดให้จัดหาและลบเขียนเองกับมือ ส่วนหนังเสือและขนหน้าผากเสือนั้น หลวงพ่อและพระในวัดจะช่วยกันตัดเป็นชิ้นเล็กๆผสมลงไปด้วย บางลูกก็เห็นชัด บางลูกก็ไม่เห็น ทั้งบางลูกแก่ผง และบางลูกก็แก่สีผึ้งครับ เพราะได้ทยอยสร้างเรื่อยมาตั้งแต่ก่อนปี 2500
    FB_IMG_1522995631634.jpg FB_IMG_1522995633873.jpg FB_IMG_1522995636004.jpg FB_IMG_1522995638256.jpg FB_IMG_1522995640415.jpg
     
  9. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 112 : ลูกอม หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม
    รับประกัน
    ราคา 2,850 บาท ปิด
    FB_IMG_1523005619486.jpg FB_IMG_1523005624716.jpg FB_IMG_1523005629840.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2018
  10. chukit1967

    chukit1967 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2015
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +218
    จองดอกพิกุล หลวงพ่อโอภาสี1ดอก
     
  11. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 113 : สิงห์เนื้อกะไหล่ทอง ที่ระลึกงานผูกพัทธสีมา หลวงปู่ทิมวัดละหารไร่ ปี 2517
    ราคา 1,250 บาท
    FB_IMG_1523015700609.jpg FB_IMG_1523015703835.jpg FB_IMG_1523015706508.jpg
     
  12. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 114 : ลูกอมหลวงพ่อเนียมวัดน้อย เนือตะกั่ว ปรีมาณ ปี 2430 - 2453
    รัดลวดเก่า มาพร้อมบัตรรับประกัน

    ปิด
    FB_IMG_1523055123528.jpg FB_IMG_1523055133915.jpg FB_IMG_1523055131505.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  13. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 115 : ลูกแก้วรุ่นแรก ลูกเล็ก หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
    รับประกัน

    ราคา 1,450 บาท

    20180407_060324.jpg 20180407_060146.jpg
    20180407_060232.jpg
     
  14. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 116 : หมากทุยถักเชือกเก่า หลวงปู่เอีายม วัดหนัง
    รับประกัน
    ราคา 2,850 บาท
    20180407_102257.jpg 20180407_102304.jpg 20180407_102312.jpg 20180407_102319.jpg
     
  15. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการส่งพัสดุวันนี้
    20180407_123536.jpg
     
  16. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 117 : ลูกอม หลวงตาแก้ว วัดป่าฝ้าย จ.ปทุมธานี สีชมพูเข้ม สวยงาม

    ราคา 2,850 บาท ปิด

    หายาก หลวงตาแก้ว ท่านเป็นเกจิยุคเก่า ท่านเก่งทางด้านหมอยา จะโดดเด่นมาก สัตว์มีพิษกัดต่อยเพียงแค่นำปูนยามาทาที่แผลจะยุบทันที แม้แต่ลูกอมของท่านก็ยังนำมาขูดทำยาได้สารพัด การจัดสร้างลูกอมของท่าน. จะมีสีขาวอมชมพูและเม็ดมวลสาร เนื้อจะเรียบแน่น และเนื่องจากอายุของลูกอมเกือบร้อยปี ทำให้ไปคร้ายคลึงกับลูกอม ระดับตำนาน คือ วัดตุ๊กตา อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ซึ่งถ้าจำแนกจริงๆแล้ว จะเห็นว่า ลูกอมของปลัดปาน นั้น เนื้อหาจะแกร่งกว่าและมีมวลสารน้อยกว่า ของหลวงตาแก้ว ส่วนมวลสารหลักๆที่จะพบเห็นในลูกอมนั้นประกอบไปด้วย เม็ดดำ คราบสีเทา ก้อนขาว จุดแดง (เศษหมาก) ทั่วทั้งลูกมีสีออกอมชมพู ปัจจุบัน วัดป่าฝ้ายไม่มีแล้ว เพราะหลังจากหลวงตาแก้วมรณะภาพ ลง วัดก็ร้างตามไปด้วย ลูกอมและพระเครื่องที่ตกค้างภายในวัดก้อ หายไปจากวงการ ไม่ค่อยพบเห็นอีก จนเมื่อคนมาจับจองพื้นที่อยู่อาศัย ความรู้เรื่องลูกอมของท่านก็เลือนหายไปด้วย
    FB_IMG_1523101268270.jpg FB_IMG_1523101271898.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2018
  17. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 118 : ลูกอมเนื้อชินตะกั่ว เลี่ยมรัดเงิน เเบบโบราณ งานมือ
    หลวงพ่อเนียม วัดน้อย อาจารย์ใหญ่แห่งเมืองสุพรรณ
    แห้งย่น อายุ เกิน 100 ปี
    รับประกัน
    ปิด
    ราคา 3,850 บาท
    30127745_189516395106174_1132190461153145745_n.jpg 30414750_189516438439503_3942946900575384979_n.jpg 30412475_189529238438223_3882205400140640882_n.jpg 30127631_189516418439505_7122877536435464459_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2018
  18. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 119 : ปลัดขิกไม้เก่า แห้ง ธรรมขาติ
    หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ ยุคต้น
    เจ้าของอดีตทหารเรือ

    ราคา 2,000 บาท
    20180408_092921.jpg 20180408_092938.jpg
    20180408_093250.jpg 20180408_093258.jpg
    20180408_093304.jpg 20180408_093328.jpg 20180408_093338.jpg

    อัศจรรย์.. ปลัดขิก วิ่งบนผิวน้ำได้ "หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ"สั่งให้จมก็จม.. ครูหนุ่มโดนควายขวิดกระเด็น เสื้อผ้าขาดกระจุย แต่ไร้ร่องรอย..


    หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ชลบุรี

    หลวงพ่ออี๋ พระมหาเถราจารย์ยุคสงครามอินโดจีนผู้เรืองเวทย์ ผู้มีพุทธาคมอันเข้มขลัง มากด้วยอิทธิคุณและบุญฤทธิ์ ในท้องถิ่น อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ท่านดังเรื่องปลัดขิก ลูกศิษย์ของท่านที่เป็นทหารเรือ และชาวประมงมีมากมาย เขาพากันเรียกปลัดขิกของท่านว่า ปลัดฉลามเมิน (เพราะเคยมีคนพกปลัดของท่าน ลอยคออยู่กลางดงฉลามแล้วรอดมาได้) แต่ความจริงท่านไม่ได้เก่งเรื่องนี้อย่างเดียว แต่คนจดจำได้แม่นในเรื่องนี้เพราะมีอภินิหารมาก

    หลังจากบวชเป็นพระภิกษุแล้ว หลวงพ่ออี๋ได้อยู่เรียนวิชาการ และศึกษาพระธรรม กับ พระอาจารย์แดง วัดอ่างศิลานอก ซึ่งเป็นพระเถระที่มีภูมิธรรมสูง ทั้งยังมีวิชาอาคม แก้อาถรรพ์คุณไสย ตลอดถึงการสักยันต์ พระอาจารย์จั่น พระอาจารย์แดง และพระอาจารย์เหมือน ได้สอนศาสตร์วิชาต่างๆ ให้แก่ลูกศิษย์ของท่านจนหมดสิ้น เป็นเวลา ๖ พรรษาเต็มๆ การที่หลวงพ่ออี๋ ท่านมุมานะศึกษาเล่าเรียน จุดประสงค์ก็เพื่อจะนำมาสงเคราะห์ ญาติโยม ชาวบ้านผู้เดือดร้อนโดยทั่วไป

    ต่อมาท่านได้ยินกิตติศัพท์ ของพระอาจารย์สำคัญ อีกองค์หนึ่ง คือพระครูนิโรธาจารย์ หรือ หลวงพ่อปานแห่งวัดคลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งท่านเป็นพระที่เชี่ยวชาญทางด้านสมถะกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน ถือธุดงควัตร ท่านเป็นพระภิกษุที่พระเจ้าอยู่หัว ร.๕ ทรงพระศรัทธาเลื่อมใสเป็นอันมาก อีกองค์หนึ่ง ภายหลังจากหลวงพ่อปานได้รับตัวเป็นศิษย์แล้ว ท่านก็ได้อบรมและทดสอบจิตใจว่ามั่นคงดีแล้ว ก็พาออกป่าไปเรียนรู้ความจริงของธรรมะ เพราะจิตใจจะได้กล้าแข็ง แข็งแกร่งกล้าหาญเมื่อเผชิญภัยในป่าลึก

    หลวงพ่ออี๋แม้ว่าท่านจะมีรูปร่าง บอบบาง แต่ด้วยความมานะพากเพียรเป็นเลิศ หลวงปานจึงประสิทธิ์ประสาทวิชาต่างๆ ให้หลวงพ่ออี๋จนหมดสิ้น

    ท่านพระครูศรีสัตคุณ เจ้าอาวาส วัดสัตหีบ ได้เล่าให้ฟังว่า

    สมัยที่หลวงพ่ออี๋ พุทธสโร ท่านได้ติดตามหลวงพ่อปาน เดินธุดงค์ ไปถึงพระพุทธบาท สระบุรี เพื่อจักนมัสการรอยพระพุทธบาทที่นั่น ขณะผ่านไปนั้น หลวงพ่ออี๋ได้ทำสมาธิ เห็นพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ ประดิษฐานอยู่ใต้ก้นเหวลึก ในแถบจังหวัดสระบุรีนั่นเอง และได้เรียนให้หลวงพ่อปานทราบ ท่านจึงให้ไปอัญเชิญขึ้นมาจากก้นเหวนั้น เพื่อนำไปประดิษฐานในสถานที่อันสมควรต่อไป

    หลวงพ่ออี๋ ได้ลงไปยังก้นเหว ด้วยการใช้ไม้ไผ่ ๓ ลำ ต่อลูกสลักทำเป็นขั้นบันได ผูกมัดแน่นหนา แล้วก็ไต่ลงไปจนถึงก้นเหวลึก และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ ขึ้นมาได้สำเร็จ หลวงพ่อปานมีความพึงพอใจในตัวของลูกศิษย์เป็นอันมาก เพราะขณะนั้นหลวงพ่ออี๋ บวชได้เพียง ๕ พรรษา เท่านั้น คณะพระธุดงค์เมื่อได้นมัสการพระพุทธบาทแล้ว ก็ออกเดินธุดงค์ต่อไป เพื่อหาประสบการณ์

    ต่อมาหลวงพ่ออี๋ได้กราบลาพระอาจารย์ ออกเดินธุดงค์กรรมฐานด้วยตนเอง ท่านได้ตั้งจิตอธิษฐาน ถือการเดินธุดงค์เป็นวัตร ท่านเดินธุดงค์ไปทั่วทุกภาคของประเทศไทย เหนือจรดใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก และภาคอีสาน แต่เป็นที่น่าเสียดายที่เหตุการณ์ระหว่างการธุดงค์ของท่าน ไม่ได้รับการถ่ายทอดบอกเล่าจากท่าน และบรรดาลูกศิษย์ก็ไม่ได้สนใจไต่ถามแต่อย่างใด ทำให้เราไม่ทราบอะไรมากนักในเรื่องของการธุดงค์ของหลวงพ่อ

    หลวงพ่ออี๋ไม่ได้กลับบ้านเลย เป็นเวลา ๑๑ พรรษา เพื่อเล่าเรียนวิชาต่างๆ จนพอสมควรแล้ว ท่านจึงได้กราบลาหลวงพ่อปาน วัดคลองด่าน กลับไป อำเภอสัตหีบ เมื่อไปถึงบ้าน โยมบิดาได้นิมนต์ให้ท่านอยู่เสียในที่สงบแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ชายทะเล ปลูกกระต๊อบเล็กๆ ให้อยู่ปฏิบัติภาวนาธรรม และได้เห็นปฏิปทาของพระลูกชาย ดูน่าเลื่อมใสศรัทธา จึงคิดว่าท่านคงไม่สึกหาลาเพศเป็นแน่

    ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๕๐ โยมบิดาของท่านมีโอกาส ไปกรุงเทพฯ และได้เข้าไปยังสำนัก พระบรมมหาราชวังด้วย ได้มีโอกาสกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.๕) เพื่อขอพระบรมราชานุญาต สร้างวัดสัตหีบ ภายในบริเวณที่ดินว่างเปล่า เมื่อได้รับพระกรุณา โยมบิดาแสนจะดีใจ รีบเดินทางกลับมานมัสการให้พระลูกชายทราบ

    ช่วงปี พ.ศ.๒๔๕๐ – ๒๔๕๑ หลวงพ่ออี๋ โยมบิดา ตลอดถึงชาวบ้าน ได้ทำการก่อสร้างวัด โดยไปหาไม้สวยๆ ในบริเวณใกล้เคียง มาทำเสา ทำฝา และหาดินเหนียวที่บางปะกง ไปเผาทำกระเบื้องมุงหลังคา การสร้างวัดของท่าน ไม่ถึง ๕ ปีก็แล้วเสร็จ เว้น พระอุโบสถ วิหาร และศาลาการเปรียญ มีการสร้าง ในเวลาต่อๆ มา และได้วิสุงคามสีมา ในปีพ.ศ. ๒๔๖๓ ในปีที่หลวงพ่ออี๋ท่านสร้างวัดใหม่ๆ นั้น กิตติศัพท์ของท่าน ได้ขจรขจายไป ในด้านความศักดิ์สิทธิ์ และอภินิหาร ผู้คนพากันหลั่งไหลไปมากมาย มีทั้งที่ต้องการฟังธรรมะ และ การปฏิบัติสมาธิกับท่าน บางคนต้องการวัตถุมงคล ก็ได้สมความปรารถนาทุกประการ

    ต่อมา หลวงพ่ออี๋ท่านก็ยังออกรุกขมูลอยู่เป็นประจำ เหมือนครูบาอาจารย์ของท่าน และนี่เองเป็นมูลเหตุ ในการสร้างปลัดขิกของท่าน

    ครั้งหนึ่ง หลวงพ่ออี๋เดินทางไปรุกขมูล ท่านได้พบบ่อน้ำแห่งหนึ่ง จึงได้หยุดพักปักกลด เพื่อโปรดทายกทายิกา ในระหว่างนั้น ท่านได้ไปนั่งมองดูบ่อน้ำทุกวัน เพราะหลวงพ่อได้เห็นปลัด ผุดขึ้นมาจากผิวน้ำ เหมือนปลาผุดขึ้นมาหายใจ หลวงพ่อพยายามช้อนปลัด ก็ช้อนไม่ติดสักอัน (ท่านคงมีความรู้จากตำรา ที่ได้เคยศึกษามา) ในขณะที่กำลังช้อนอยู่นั้น มีโยมแก่คนหนึ่งเดินมาถามหลวงพ่อว่า

    “ทำอะไร”

    หลวงพ่อตอบว่า “ช้อนปลัดขิก”

    โยมแก่คนนั้นก็หัวเราะ และพูดว่า

    “อย่าช้อนเลย ท่านช้อนไม่ได้ดอก ถ้าท่านอยากได้จริงๆ ก็ให้หาหญิงพรหมจารีมาช้อน จึงจะช้อนได้”
    หลวงพ่อก็ได้เที่ยวตามหาหญิงพรหมจารี มาได้คนหนึ่ง ได้ขอให้หญิงพรหมจารีนั้นช้อนปลัดให้หลวงพ่อ หญิงนั้นก็ช้อนให้หลวงพ่ออันหนึ่ง ถึงแม้จะพยายามช้อนอันที่สองก็ช้อนไม่ได้ เมื่อหลวงพ่อได้ปลัดแล้ว ก็เดินทางกลับวัด

    ขณะที่อยู่วัด ท่านพยายามหาวิธีสร้างปลัด โดยจำลองจากที่ท่านได้มา ในการสร้างครั้งแรก เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะต้องสร้างขึ้นถึง ๑๐๘ ตัว เพื่อคัดเลือกหัวโจก หรือจ่าฝูง ครั้นได้จ่าฝูงมาแล้ว การสร้างครั้งต่อไปไม่จำเป็นต้องจำกัดจำนวน ที่ว่าจ่าฝูงนั้น ก็คือตัวที่บินเก่งที่สุด และมันชอบนำลูกฝูงบินเป็นการสมานตัวของพลังปราณ

    เมื่อได้ปลัดขิกตัวจ่าฝูงแล้ว อยู่มาวันหนึ่งหลวงพ่อจึงได้นำปลัดขิกมาทดลองในบ่อน้ำ ซึ่งอยู่ในบริเวณวัด ปลัดขิกของท่านได้วิ่งอยู่บนผิวน้ำ สั่งให้จมน้ำปลัดขิกของท่านก็จมน้ำ สั่งให้โผล่ก็โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ทำความประหลาดใจให้แก่พระภิกษุและญาติโยมมาก นับตั้งแต่นั้นมา ชื่อเสียงของหลวงพ่ออี๋ก็เป็นที่รู้จักกันทั่วไป การปลุกเสกนั้น หลวงพ่ออี๋จะนำปลัดทั้งหมดใส่ลงในบาตร ปลุกเสกจนวิ่งเกรียวกราว และต้องกระโดดออกมาจากบาตรอีกด้วย จึงจะถือว่าขลังและใช้การได้ จึงจะทำการแจกแก่ลูกศิษย์ลูกหา อันว่าปลัดหลวงพ่ออี๋นี้ มีสรรพคุณมากมายหลายประการ ใช้ผูกเอวป้องกันเขี้ยวงาสารพัด ป้องกันเสนียดจัญไร โรคภัยไข้เจ็บ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม คลาดแคล้วจากภยันตรายทั้งปวง ดังตัวอย่างประสบการณ์ จากผู้ที่มีปลัดหลวงพ่ออี๋ ดังนี้

    วิ่งแข่งกับเรือ

    ครั้งหนึ่งมีงานฉลองกุฏิที่วัด บรรดาสาวแก่แม่ค้าชาวสัตหีบที่มีศรัทธาปสาทะ ก็มาช่วยงานโรงครัวหรือไม่ก็งานเบ็ดเตล็ด ครั้นเสร็จงานหลวงพ่อก็หาของที่ระลึกมาแจก โดยท่านห่อกระดาษไว้ บอกให้ไปแกะดูที่บ้าน ปรากฏว่าแม่ครัวเหล่านั้นมาถึงกลางทาง อยากรู้จนอดใจไม่ได้ ก็แกะห่อออกดู เห็นเป็นปลัดขิกแกะจากแก่นกัลปังหาตัวเล็กๆ น่ารัก น่าเอ็นดู แจกให้เพียงคนละตัว ทำให้บรรดาสาวแก่แม่นางเหล่านั้น หัวเราะกันคิกคักด้วยความเหนียมอาย ก็พากันโยนลงทะเลหมด แต่ปลัด ของวิเศษ คิดว่าเขาท้าแข่ง ก็เลยว่ายแข่งไปกับเรือไม่ยอมแพ้ จนเป็นเหตุให้สาวแก่แม่นางเกิดความเสียดาย ต้องหยุดเรือเก็บไว้อย่างเดิม ทั้งเกิดการตื่นเต้นในอภินิหาร ซึ่งไม่เคยประสบพบเห็นมาก่อน

    ควายขวิดไม่เข้า

    ครูบุญช่วย รร.วัดสัตหีบ ได้ปลัดหลวงพ่อมา มักไม่ชอบนำติดตัว ได้เก็บไว้ที่บ้าน พอตกกลางคืนเวลาดึกสงัดจะมีเสียงเหมือนคนเดินอยู่เสมอก็นึกว่าขโมยขึ้นบ้าน จึงได้ลุกขึ้นคอยนั่งจับขโมย แต่ก็มองไม่เห็นมีขโมยสักคน นอกจากเสียงฝีเท้าคนเดิน ใจหนึ่งก็กลัวนึกว่าผีหลอก จึงตัดสินใจฉายไฟดู ก็ไม่พบเห็นอะไร นอกจากปลัดวางอยู่ข้างหน้า ห่างประมาณ ๑ ศอก จึงหยิบขึ้นมาแล้วนำไปไว้ใต้หมอนหนุนศีรษะ รุ่งเช้าครูบุญช่วยจึงได้นำปลัดติดตัวไปโรงเรียนด้วย ในระหว่างเดินมาตามทาง เห็นควายสองตัวกำลังขวิดกันอยู่ในทุ่งนา ที่จะต้องเดินผ่าน พอดีควายตัวหนึ่งวิ่งหนี อีกตัวก็ไล่ขวิด ตัวที่ไล่แลเห็นครูบุญช่วยมายืนขวางหน้า ก็ตรงรี่เข้าขวิดครูบุญช่วยจนกระทั่งล้มลง แล้วก็เข้ามาขวิดอีกจนครูบุญช่วยกลิ้งไปกลิ้งมา ตามแรงเขาควายที่ขวิด จนเสื้อกางเกงขาดหมด เนื้อตัวเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่นและดิน ครูบุญช่วยจึงร้องขอความช่วยเหลือ จากชาวบ้านแถวนั้น มาช่วยไล่ควายให้หนีไป แต่น่าอัศจรรย์ที่ตัวครูบุญช่วย ไม่ได้มีบาดแผลจากเขาควายตัวนั้นเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2018
  19. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    รายการที่ 120 : ปลัดขิกไม้เก่า แห้งกร่อนธรรมชาติ
    หลวงพ่อเหลือ วัดเขาชะโงก ฉะเชิงเทรา ยุคต้น
    เจ้าของเดียวกับ รายการ 119
    ปิดครับ
    ราคา 2,000 บาท
    20180408_093121.jpg 20180408_093132.jpg
    20180408_093216.jpg 20180408_093157.jpg

    สุดยอดปลัดขิก อันดับ ๑ ของเมืองไทย!! "หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก" เสกจนกระโดด เวียนว่ายดั่งมีชีวิต ป้องกันได้สารพัดอย่าง!!!

    อนุภาพของปลักขิกหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ฉะเชิงเทรา

    พระครูนันทธีราจารย์ (หลวงพ่อเหลือ) ท่านมีความเชี่ยวชาญ และแตกฉานในวิชาเสกปลัดขิกเป็นอย่างมาก ทำให้ในปัจจุบันนี้ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือได้รับความนิยมโด่งดังเป็นอย่างมาก จนมีผู้ขนานนามปลัดขิกของท่านว่า เป็นปลัดขิกอันดับ ๑ ของเมืองไทย

    การทำปลัดขิกนั้นท่านจะให้ลูกศิษย์เหลาปลัดขิกมาให้ท่านปลุกเสกตัวใหญ่บ้างตัวเล็กบ้าง แล้วแต่จะเหลามาให้ บางคนฝีมือดีก็เหลาเป็นรูปขาลิงหางเลื้อยก็มี ปลัดขิกส่วนใหญ่จะทำด้วยไม้คูณ ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือนั้นท่านจะลง กันหะ เนหะ ตรงกลางตัวปลัดขิก ด้านข้างซ้ายขวาจะลง อุมะอุมิ และอิติกัตตา และหลวงพ่อเหลือจะจารอักขระตัว อุ ที่หัวปลัดขิก โดยส่วนใหญ่ท่านจะจารที่หัวปลัดขิก ๓ อุ แต่ก็มี อุ หนึ่งตัวบ้างในกรณีที่ปลัดขิกตัวเล็กมาก และกรณีพิเศษวันไหว้ครูปลัดขิก ท่านจะลงเป็นพิเศษคือลงทั้งหมด ๕ อุ ในวันไหว้ครูนั้น หลวงพ่อเหลือจะนำหัวหมูบายศรี เครื่องบัดพลีต่างๆ และท่านจะเขียนผ้ายันต์เทพรำพึงหรือผ้ายันต์องค์ครูเพื่อทำพิธีไหว้ครูบาอาจารย์เป็นประจำทุกปี

    paragraph_3_745(1).jpg

    หลวงพ่อเหลือปลุกเสกปลัดขิกในยามดึกเงียบสงัดโดยจะใส่ปลัดขิกไว้ในบาตรแล้ว ใช้สมาธิบริกรรมคาถาจนกว่าปลัดขิกจะขึ้นมากระโดดโลดเต้น ว่ายวนอยู่ในบาตร ดุจดั่งมีชีวิตแหวกว่ายไล่ตามเสมือนปลาในน้ำ ตัวไหนปลุกเสกมีกำลังดีแล้วจะกระโดดออกมานอกบาตรถือเป็นอันใช้ได้ ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือจะมีอนุภาพเด่น ทางด้านคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม ป้องกันภูตผีปีศาจ และขับเสนียดจัญไร ชาวบ้านหลายท่านนำปลัดขิกไปคาดเอวถูกหมากัดแต่กัดไม่เข้า บางท่านใช้ปลัดขิกฝนเป็นยา แล้วนำไปรับประทานเวลาป่วยไข้จะหายโดยเร็วพลัน ใช้ทำน้ำมนต์โดยการนำปลัดขิกไปครนในขันใส่น้ำฝน เพื่อนำไปรดหัว ล้างหน้า และอาบกิน เพื่อขับเสนียดจัญไร และคุณไสยต่างๆ

    บางท่านโดนต่อ แตน ตะขาบ หรือสัตว์มีพิษกัดต่อย ให้อาราธนาปลัดขิกโดยนึกถึงหลวงพ่อเหลือแล้วใช้ปลายปลัดขิกนั้นจิ้มไปที่โดนต่อยจะดับพิษของสัตว์ร้ายเหล่านั้นได้ บางท่านใส่ไว้ในตะกร้าเงินเวลาขายของจะนำปลัดขิกหลวงพ่อเหลือมาอาราธนาจิ้ม ไปที่ของที่จะนำไปขายจะทำให้ขายของดีเป็นอย่างมาก ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือนั้นท่านนิยมจะแจกให้ ญาติโยมในงานประจำปีสมโภชกลางเดือน ๔ โดยหลวงพ่อจะมอบให้แก่ญาติโยมที่มีจิตศรัทธามาทำบุญปิดทองเป็นประจำทุกปี นอกจากนั้นท่านยังมีเมตตาปลุกเสกปลัดขิกให้ชาวบ้านที่มีความศรัทธาเหลามาให้ ท่านลง โดยส่วนใหญ่ท่านจะปลุกเสกในช่วงเข้าพรรษาของทุกปี เมื่อออกพรรษาแล้วท่านจะมอบปลัดขิกให้แก่ญาติโยมที่นำมาฝากปลุกเสก
    ไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 เมษายน 2018
  20. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ปิดครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...