ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสรรพกิจบุญญาธิการวงแหวนควบคุมชะตา(ดึงกุศลกรรม) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    บุตรย่อมเป็นที่รักของบิดามารดา

    ลูกคือความหวังของพ่อแม่ เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วผมชอบและกินใจอีกเรื่องหนึ่ง ก็เลยก๊อปมาให้อ่านกัน


    ประสบการณ์ของพ่อครูที่ผมจะเล่านี้ เป็นเรื่องจุดเปี่ยนชีวิตความเป็นพ่อของผมเลยครับ
    ก่อนหน้านี้ส่วนตัวเป็นคนชอบวัตถุมงคลสายจักรพรรดิ์จึงเสาะหามาเรื่อยๆ
    แล้วก็มาเจอกับกระทู้พ่อครูเพราะคำวาจักรพรรดนี่แหละ ผมเลยได้จองตะกรุดจักรพรรดิไป
    ซึ่งตะกรุดนี้ผมก็เอาไปใช้งานตามที่พ่อครูท่านเมตตาแนะนำมาตามฝอย เป็นลายมือท่านที่เขียนกำกับมาให้เป็นพิเศษเพียงประโยคเดียวเท่านั้น คือคำว่า

    ให้แช่น้ำให้ลูกเธอกินเช้าเย็น ต่อไปเขาจะมีปัญญาดุจพระพุทธโฆษาจารย์ทีเดียว
    ก็มาได้คุณกรณ์ช่วยขยายความทีหลัง ว่าตะกรุดของผมพ่อครูท่านกำชับมา
    เหมือนท่านจะรู้ว่าบูชาไปให้ลูกใส่ แต่เขาไม่ใส่แน่นอน จึงให้ใช้วิธีนี้ทำไปเรื่อยๆไม่ต้องบอกเขา
    ซึ่งส่วนตัวไม่รู้ว่าท่านทราบได้อย่างไรเพราะผมคิดจะบูชามาให้ลูกจริงๆแล้วเค้าก็ไม่ใส่จริงๆเลยใช้วิธีที่ท่านบอก
    สำหรับลูกผมนั้นเค้าจบมาด้านบัญชีและทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นคนติดเที่ยวติดแฟนของเขา
    ผมจะเล่าตรงๆเลยคือแต่ก่อนตั้งแต่เรียนมัธยม เรียกว่าทั้งชีวิตเขาผลสอบไม่เคยมีเลขสามเลขสี่ให้เห็นให้เราชื่นใจหรือไปคุยกะใครได้เลย
    ตอนนั้นเขาก็เรียนจบทำงาน ใจเราก้อยากให้ลูกได้ดี ยังคิดน้อยใจว่าได้ตะกรุดมาช้าไป ลูกฉลาดมีปัญญาแล้วจะยังไงก็มันทำงานไปแล้ว
    แต่หลังจากที่ลูกผมดื่มน้ำแช่ตะกรุดทุกวันเวลากลับบ้านโดยที่เราไม่บอกเขา ทานอยู่ครึ่งปี
    ลูกผมเปลี่ยนเป็นคนละคนอย่างเห็นได้ชัด เด็กที่เวลาเรียนไม่เคยตั้งใจเรียนไม่เคยมีผลสอบเลขสวยๆให้เราภูมิใจ แต่นี่วัยทำงานอายุ24กลับไปซื้อหนังสือมานั่งอ่านเอง
    อ่านของเขาเงียบๆแล้วก็ไปสอบเงียบๆไม่ให้เรารู้ สอบเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี ผลที่ออกมาคือสอบปีแรกผ่านทุกวิชาติดในปีนั้นเลย จากเด็กที่ไม่เคยสอบได้ดีมาก่อนกลับมานั่งเงียบๆอ่านหนังสือเอง แล้วพอติดก็มาทำเซอไพร้เรา
    นี่เป็นประสบการณืจริงๆของผม ของลูกผมที่ตั้งใจจะประกาศเกียรติคุณพ่อครูท่านจริงๆ คำว่ามีปัญญาดุจพระพุทธโฆษาจารย์ของท่านนั้นมันเหมือนลิขิตหรือปกาศิตอะไรที่เปลี่ยนชีวิตเด็กคนนึงได้จริงๆ เปลี่ยนจากรากฐานเปี่ยนรวมไปถึงอนาคตของเขา
    ปัจจุบันนี้ลูกผมเปิดบริษัทตรวจสอบบัญชีเป็นของตัวเองได้ปีนึงแล้ว ถ้าไม่มีพ่อครูและตะกรุดดอกนี้ทุกวันนี้เขาจะเป็นยังไงผมก็ไม่รู้ ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งในพุทธคุณที่เปลี่ยนนิสัยเปลี่ยนชีวิตคนได้จริง นี่เป็นประสบการณ์ที่ผมอยากหาโอกาสบอกและกราบขอบคุณพ่อครูเสมอด้วยความจริงใจว่าขอบคุณมากๆครับจากทั้งหมดของใจคนเป็นพ่อคนหนึ่ง
     
  2. noomman2

    noomman2 จงสำเร็จทุกประการ เอวัง โหตุ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +69
    สาธุครับ
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ของแจกก็เจอก็มีประสบการณ์เรื่อยๆ ขอให้อาราธนาใช้จริงๆ จะรู้จะเห็นเอง

    สวัสดีครับ ติดเรื่องน้องก้อนทองไว้ตั้งแต่รอบก่อนนู่น ก็ขอยกมาเล่ารอบนี้เลยละกัน
    ขอบอกไว้ก่อนนะครับ ว่าประสบการณ์ไม่ได้หวือหวาอะไร แล้วก็ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อผมกันมั้ย
    เริ่มตั้งแต่ตอนได้รับน้องก้อนทองมา ผมก็จัดอาหารคาว หวาน ขนม น้ำโค๊กกระป๋อง เลี้ยงต้อนรับ
    พอถวายเสร็จก็วางทิ้งไว้ พอกลับมาดูอีกทีน้ำโค๊กนองอยู่บนฝากระป๋องจนปริ่ม
    เท่าที่ดูๆน่าจะล้นมาจากหลอด ตอนนั้นยังขำอยู่เลย ว่าเออกินเต็มที่จริงๆ ต่อมาไปเดินตลาดนัด
    ผมก็พกน้องก้อนทองไปด้วย ผมก็ถามในใจว่า น้องก้อนทองอยากกินอะไรมั้ย เสร็จก็เดินไปเรื่อยๆ
    จนไปสะดุดตาร้านขายไก่ป๊อบ เลยแวะซื้อ ตอนนั้นก็ยังงงอยู่ว่า ร้านขนมตั้งเยอะจะกินไก่ทอด
    จนตอนหลังคุณกรมาเล่าให้ฟังในกระทู้ เรื่องของพี่คนหนึ่งที่พาน้องก้อนทองไปกินไก่ทอดแล้วไก่กระจาย
    ผมนี่นั่งขำอยู่พักนึงเลย น้องก้อนทองรุ่นนี้น่าจะชอบกินไม่เบา โดยเฉพาะไก่ทอด

    เล่าต่อ อันนี้พูดยาก อธิบายยากแต่ก็จะพยายามเล่านะครับ
    ก่อนจะรับน้องก้อนทองมาอยู่ด้วย ปกติผมก็สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิบ้าง ทำบ้างไม่ทำบ้าง
    อยู่มาวันนึงก็เริ่มสัมผัสกับสิ่งที่มองไม่เห็นได้นิดๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
    พอรับน้องก้อนทองมาอยู่ด้วย เลยพอจะสัมผัสได้นิดๆหน่อยๆ
    ตอนนอนแรกๆนี่ เหมือนมีเด็กวิ่งเหยาะๆ แล้วก็นั่งอยู่ข้างๆ ต่อมาก็เริ่มกระเถิบๆเข้ามาเรื่อยๆ
    ทุกวันนี้นี่มุดแขนแอบสีข้างแล้ว 555 แล้วติดมากกก ผมไปไหนนี่ตามตลอด ทุกวันนี้ไปไหนมาไหน
    ต้องพกไปด้วยสงสาร น้องก้อนทองนี่ไม่ซนนะครับ ไม่กวน นั่งเล่นคอมนี่มาละ นั่งจุ๊กปุ๊กบนตัก
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    พอลงประสบการณ์ไปก็มีคุณพ่อหลายๆท่านถามหาตะกรุดแบบตะกรุดจักรพรรดิ์กันเข้ามามาก ว่ามีตัวไหนที่พุทธคุณแบบนี้มั๊ย พร้อมประโยคยอดฮิตว่าที่ราคาบูชาไม่สูงมาก อันนี้ก็ติดตามกันเอานะครับถ้ามีออกมา พูดได้คำเดียวว่าต้องไวเพราะช้าก็จะแห้วแน่นอน
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ปิดกิจกรรมนะครับรอบนี้

    สำหรับผู้ที่ได้สิทธิ์จะรีบทำการติดต่อpm กลับไปอีกที สาธุประสบการณ์ดีๆที่บอกเล่าทั้งที่นำมาเล่าต่อได้ เล่าต่อไม่ได้ ห้ามเผยเเผ่ก็ดี

    แล้วมาร่วมกิจกรรมกันอีกในวาระต่อไปนะครับ;)
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    พรุ่งนี้ติดตามกันต่อนะครับ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    วันนี้มาติดตามกันนะครับ

    ว่าจะลงรายละเอียดเกี่ยวกับตะกรุดที่ยิ่งใหญ่มากๆในตำนานซึ่งหาชื่อฟังยังยาก

    ถ้าจะถามว่าดีกว่าจักรพรรดิมั้ย ตัวนี้ต้องบอกเลยว่าอุปเท่ห์วิธีการใช้หลากหลายขยายความกว่า ถึงขนาดเล่นการพนันหรือปราถนาบ้านเมืองทีเดียว.....ห้ามพลาด

     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสร้อยสนกลบทเก้าเลิศภพจบแดน(ชุดประวัติศาสตร์พิฆาตไพรี)

    สืบตำนานครู ...พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตะกรุดมหาวิเสสอันมากด้วยอุปเท่ห์ในพระพุทธคุณขึ้น ด้วยท่านพิจารณาเห็นแล้วว่าตะกรุดสำคัญนี้มีกำลังมากและหากลงอักขระวิเสสเก้ากลบทนำมาปลุกด้วยพระคาถาศักดิ์สิทธิ์เฉพาะทั้งเก้าบทนั้น ตะกรุดนั้นจะมีคุณมากด้วยเป็นของค่าควรเมืองทีเดียว


    พ่ออาจารย์ท่านว่าแต่โบราณสืบมานั้นบทอิติปิโสสร้อยสนทั้งเก้า เป็นบทพุทธคุณที่มีคุณค่ามากหากจะนำมาภาวนา แต่ถึงกระนั้นในปัจจุบันก็หาผู้สืบทอดได้ยาก และเป็นการยากยิ่งกว่าเมื่อจะภาวนาให้เกิดมรรคเกิดผลตามคุณพระคาถา พ่ออาจารย์ท่านจึงเมตตานำมาทำให้เป็นตะกรุด เพื่อหวังให้ผู้บูชานั้นสามารถอธิษฐานใช้งานได้ง่ายขึ้น เป็นของสำเร็จที่ทำมาดีแล้ว สำเร็จแล้ว ใช้ได้เลยไม่ต้องภาวนาแต่อย่างใด


    อันวิชาอิติปิโสสร้อยสนมหายันต์ทั้งเก้ากลบทนั้นเป็นวิชาในตำนาน พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นเป็นตะกรุดโดดๆดอกเดียวเช่นนี้ แต่ด้านในนั้นมีถึงเก้าพระยันต์ไม่รวมตัวล้อมหรืออื่นๆอีก เอาว่าฉันทำมาไม่หนักคอเปล่า ซึ่งแต่ละแบบก็เรียกว่ามีอานุภาพมากเมื่อสำเร็จเป็นเครื่องมงคลที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจารและเสกอย่างดีจึงมั่นใจในพุทธคุณได้แน่นอน


    อันวิชาทั้งเก้านี้มีคุณและมีชื่อเป็นอเนกประการแตกต่างกันไป จำแนกได้ดังนี้
    - กระต่ายแฝงคอ ท่านว่าตัวนี้เป็นแคล้วคลาด ทำอะไรเสี่ยงภัย เสี่ยงอันตรายไม่เจ็บเนื้อเจ็บต้ว ไม่เดือดเนื้อร้อนตัว แม้มีอัยอันตรายบังเกิดแก่ชีวิตก็เข้าไม่ถึงตัว อุปมาดั่งว่าไปสงครามที่มีการรบพุ่งกัน แม้ปืนต่างๆยิงมาก็ไม่ถูกแ้ปลายเส่นขนเราเลย

    - ฝนแสนห่ารำเพย ท่านว่าตัวนี้ใช้สะเดาะ เวลาติดอยู่ในสถานการณ์ไม่พึงประสงค์หรือหาทางออกไม่ได้ ก็จะเจอช่องเจอลู่ทางโดยง่าย ไม่มีปัญหาเหนี่ยวรั้งฉุดดึงเราไว้นาน ประดุจแม้ว่าต้องพันธนาการอันโหดร้ายก็ยังสะเดาะให้คลายออกจากสถานการณ์นั้นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตคนถ้ามัวแต่ทับถมซ้ำซากกับปัญหาเก่าปัญหาใหม่ชีวิตมันจะหาที่เจริญไม่ได้

    - กลิ่นไตรภพจบสกล ท่านว่าตัวนี้เป็นมหาวิเสสอย่างแท้จริง แม้ชีวิตเต็มไปด้วยขวากหนามอุปสรรคอันตราย หรือต้องผจญด้วยศัตรูที่คิดร้ายมีพิษสงมากก็ทำอันตรายเราไม่ได้แพ้ภัยตัวเองทั้งสิ้น ดุจเดินเข้าหาเหยียบขวากหนามผจญด้วยสัตว์มีพิษมีคมทั้งหลายก็ล้วนทำอันตรายเนื้อตัวเราไม่ได้เลย ทั้งยังเป็นที่เสน่หาน่าชมเชยหลงใหล ถึงขั้นเสน่หาอาลัย ไม่เบื่อไม่คลาย ไม่ปรารถนาที่จะห่างไกลแก่ผูงชนและเพศตรงข้ามทั้งหลายซึ่งเราปรารถนา

    - ทำการใหญ่ ท่านว่าตัวนี้สำคัญศัตรูหมู่มารที่ผจญเราด้วยเวรกรรมกฏแห่งกรมหรือกฏแห่งปัจจุบันที่กระทำก็ดี จะทำร้ายเราไม่ได้ เสียรูปไม่นับเป็นขบวนทีเดียว มีอานุภาพมากดุจทำศึกแม้ศึกยังไม่เริ่มศัตรูก็ระส่ายระส่ำเช่นนั้น ท่านว่าชีวิตคนก็เหมือนศึกสงคราม เรื่องทางโลกมีแต่คู่แข่งทั้งนั้นตั้งแต่เรียนเป็นเด็กน้อยจนไปถึงเติบโตทำงานมีอาชีพสร้างครอบครัว ที่จะไม่แข่งขันดุจผจญศึกสงครามนั้นไม่มี ท่านว่าคิดเอาแล้วกันว่าถึงเวลาทำการใหญ่ ถึงเวลาเอาชัยประสบความสำเร็จแล้วรึยัง ท่านว่าชีวิตตัวเองก็ต้องคิดเอง นอกจากนี้ด้วยคุณวิชายังมีคุณถึงขนาดว่าแม้ผู้ใดก็ตามเป็นศัตรูเรา มีจิตคิดร้าย คิดไม่ซื่อกับเรา เพียงแค่เห็นตัวเราก็จะประหม่าสยองพองขนสยดสยอง พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอำนาจเป็นที่คร้ามเกรงแก่บุคคลทั้งหลาย บุคคลใดชีวิตมีจุดหมาย คิดจะทำการใหญ่ ผจญด้วยข้าศึกศัตรูในสงครามชีวิต สงครามธุรกิจต่างๆประดามีทั้งในวงสังคมหรือราชการ ควรยิ่งที่จะต้องบูชาไว้

    - กระทู้เจ็ดแบกฤทธิรณ
    ท่านว่าตัวนี้เหมือนคนอมตะดีๆนี่เอง ไม่ถึงที่ตายทำอย่างไรย่อมไม่ตาย ที่ว่าจะตายก่อนกรรมไปเป็นผีเป็นสัมภเวสีรอเวลานั้นไม่มี ต่อให้ทิ้งระเบิดมากลางอากาศ หรือใครจะสั่งจำสั่งฆ่าทุบตีอย่างไร ท่านว่าอันตรายมันพ้นร่างกายเราหมด เฉี่ยวไปพลาดไป ดุจเวรกรรมเคราะห์ร้ายหนักหนาอันใด แม้จะเกิดก็มีอันให้พลาดไปเช่นนั้นมาไม่ถึงไม่โดน ซ้ำยังมีคุณมากแม้ใครโกรธเคืองกันมาท่านว่าเห็นหน้าแล้วเมตตาโกรธไม่ลง ทำเป็นใช้เป็นพ่ออาจารย์ท่านว่านี่นับว่าอันตรายอย่างยิ่งทีเดียว เพราะสามารถนึกให้คนที่รักที่ชอบมาหาเราได้ แม้ไม่มาก็ให้เป็นไปถึงขนาดเป็นบ้าคลั่งไคล้ในจิตวิญญาณเสียสติดำรงค์ไว้ไม่ได้กลายเป็นคนวิกลจริตไป

    - กลืนอากาศ ท่านว่าตัวนี้มีฤทธาอานุภาพอย่างมาก ก็ถึงขนาดดำน้ำดำดินล่องหนหายตัวได้ ดุจว่าศัตรูคิดร้ายมองไม่เห็นตัวเรา แม้นจวนตัวจริงๆก็ย่อมผ่านเราเลยเราไปแบบมองหาอากาศธาตุ ท่านว่าใครไม่ได้เรียนลึกซึ้งแค่ถือตะกรุดดอกนึงจะให้ดำน้ำดำดินเดินอากาศได้นั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่เอาว่าศัตรูหรือภัยอันตรายที่จวนตัวจะมองเราเหมือนอากาศและผ่านเราไปแบบอากาศนั่นเอง แม้นเป็นถ้อยเป็นความกันอยู่ มีปากเสียงหรือถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ท่านว่าสูญความ ถ้อยความทั้งหลายปัญหาทั้งปวงบรรดามีย่อมสูญหายอย่างน่าอัศจรรย์ ดุจถามหาอากาศ เอาผิดกับอากาศเช่นนั้น

    - ปราบจักรวาล ตัวนี้สำคัญยิ่งยวด พ่ออาจารย์ว่าปราบได้ทั้งจักรวาลทำอะไรชนะหมดแพ้ไม่เป็น มีอำนาจเกรงขามดุจกระทำบรรลือสีหนาท แม้จะลงเล่นการพนัน เสี่ยงโชค เสี่ยงดวงทั้งหลาย ท่านว่าเล่นไปเถอะ เอาตะกรุดใส่น้ำมันหอมเจิมหน้าเจิมตัวพูดได้ว่าทั้งชีวิตมีแต่ความสุขสดชื่นเบิกบานใจ ที่จะเหนื่อยจะเสียพนันมานั่งกังวลนั้นเป็นไม่มี แม่ใครมีถ้อยมีความโกรธเกลียดกันอยู่ท่านว่าเอาตะกรุดทำน้ำมนต์พรมๆใส่หัวเขาเห็นหน้าเรา ล้วนมีแต่รอยยิ้มจะยินดีรักกันเสมอประดุจบุตรแลธิดาตัวเอง แม้อาราธนาตะกรุดใส่ในแป้งหอมหรือน้ำมันมาทาตัวท่านว่าเป็นเสน่ห์ยิ่งนักรักกันสิ้นทั้งบ้านหลงใหลเราทั้งครอบครัว ท่านว่าตัวนี้สำคัญนักแม้แต่จะชุบจะปลุกแต่งคนธรรพ์ให้มีฤทธานุภาพ ทำให้เป็นมหาปราบจักรวาล จะแต่งไปทำร้ายผู้ใดก็ล้วนทำได้

    - สูบมหาสมุทรอลวล ตัวนี้มีฤทธานุภาพมาก แม้อยู่บนแผ่นพื้นปฐพี หากมีไพรี มีใครคิดทำร้ายเราเขาจะฝันจะรู้สึกเหมือนโดนพยนต์ต่อแตนกัดต่อยอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ว่าเป็นคนจะไม่เหยียบดินนั้นเป็นไม่มี แม้จะผจญด้วยผู้ใดก็จะสูบเอาโชคลาภวาสนาเขามาเพิ่มพูนให้ตนเองสิ้น ท่านว่าตัวนี้มีฤทธิมากหากทำเป็น ใช้เสกหวายฟาดสมุทรสาครให้แห้งเหือดได้ จะเกิดทุกข์เข็ญแก่สัตว์ผู้ยากด้วยปราศจากธารากระแสสินธิ์อันเป็นบ่อเกิดแห่งชีวิตที่ใช้ดื่มกินจำนวนมาก ท่านว่าเป็นอันตรายและไม่มีความจำเป็นต้องทำ จำจะใช้เพียงอานุภาพทางดับล้างศัตรูเท่านั้นพอ

    - สมุทรเกลื่อนกระจาย ท่านว่าให้เอาตะกรุดนี้ปักไว้ในกองถั่วเขียว แล้วเอาถั่วนั้นโปรยไปเถิดปรารถนาที่ดินหรือบ้านเมืองล้วนเป็นของเราสิ้นได้บ้านได้เมืองแล ตัวนี้ท่านว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปคงไม่มีใครมายกบ้านยกเมืองให้เราฟรีๆ เอาว่าปรารถนาอยากได้ที่ใครเขาไม่ขายให้ก็ไปทำดังนี้ก็ได้ หรือแม้แต่ปรารถนาจะให้จิตวิญญาณในสถานที่นั้น ทั้งจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญาณปฐพีตลอดจนถึงจิตวิญญาณเจ้าของที่นั้น ตรงที่เราอยู่ เราทำงาน เราอาศัยอยู่ หรือเราต้องเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อผลประโยชน์ใดๆก็ดี ให้เขารักเรา เมตตาเรา จดจำเรา ให้คุณช่วยเหลือเฉพาะเราอย่างเต็มที่ ก็ให้เอาถั่วนั้นโปรยไปในสถานที่นั้นเถิด ผืนดินตรงนั้นจะตอบสนองให้คุณและเป็นสิริมงคลแก่การมาหา การอยู่อาศัย การประกอบกิจการ การทำงานของเราหนักหนา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าอันตะกรุดสร้อยสนกลบททั้งเก้านี้ แม้ข้อใดข้อหนึ่งก็ล้วนแต่มีอานุภาพเฉพาะด้านเฉพาะทางของเขาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ เมื่อมาประกอบรวมทั้งเก้าชนิด เก้าคุณวิเศษที่รวมกันอันหาได้ยากยิ่งในเครื่องมงคลใดๆจึงนับได้ว่าเป็นเอกเลิศภพจบแดน เป็นของวิเศษที่ยากจะหาใดมาเทียบพุทธคุณอย่างแท้จริง พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำให้เสร็จ ให้สำเร็จ ให้เอาไปใช้กันได้นี้ก็เสกมานานจนครบ ต้องไล่ไปทีละกลบท ทำไปเป็นอย่างๆไม่ใช่สักแต่หลับตาเสกแล้วมันจะเสร็จแต่อย่างใด ท่านว่าทำไว้ให้เป็นชุดประวัติศาสตร์ สร้างเพื่อเป็นตำนานอันชนที่ได้ไปต้องกล่าวขานถึงแบบไม่รู้จบ


    ท่านว่าแรกเริ่มเคยทำเป็นสังวาลย์เก้าสายอยู่เช่นกัน มีอิทธิคุณมากใช้ได้ทุกทางตามอุปเท่ห์นั้น ท่านเรียกว่าสังวาลย์พิฆาตไพรี แต่ท่านก็ไม่ได้ลงให้ใครมากเพราะท่านว่าเสกยากเหลือใจ ชั้นหลังนี้มาคิดจะทำให้ปรากฏเป็นทางการซักรุ่นหนึ่ง ท่านว่าจะให้ทำเป็นสังวาลย์คนก็จะไม่คาดกันเพราะมันหมดยุคสมัยจะสะพายแล่งออกไปนอกบ้านกันแล้ว ท่านจึงใช้ความเพียรจารกดอักขระให้สังวาลย์เก้าดอกนี้รวมอยู่ในดอกเดียวเพื่อความสะดวกและถนัดในการใช้ของผู้บูชา โดยท่านเรียกตะกรุดนี้สั้นๆว่าตะกรดพิฆาต ท่านว่าต่อไปหากกล่าวถึงตะกรุดพิฆาตคนจะต้องรู้จัก และเป็นยอดปรารถนาของคน เพราะพุทธคุณอเนกประการบรรดามีแต่ละอย่างนั้น ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ยากจะหา และสำคัญต่อชีวิตคนบูชาอย่างแท้จริง


    ซ้ำยังเป็นเมตตาอย่างสูงที่ท่านได้อธิษฐานจิตเสกปิดตะกรุดชุดนี้ให้ในฤกษ์พิเศษ นั่นคือเมื่อคืนซึ่งตรงกับขึ้น15ค่ำเดือน3 ที่มีเหตุการณ์จันทรคราสหรือราหูอมจันทร์เต็มดวง ท่านว่าจับยามไล่เสกไปตามลำดับตั้งแต่ตอนราหูจับจันทร์ ราหูกลืนจันทร์ ราหูคลายจันทร์ ท่านว่าการอธิษฐานจิตวาระนี้ทำให้เป็นพิเศษโดยกำลังโพธิสัตว์อันจะสงเคราะห์รื้อขนสัตว์โลกออกจากทุกข์ เพื่อเป็นสิริมงคล เสริมดวงชะตา ตะกรุดดอกนี้จะได้มีคุณวิเศษด้านหนุนดวง แก้ทางคนดวงตก แก้ทางคนทำมาหากินไม่ขึ้น ทำอะไรก็ไม่ขึ้น ใช้ของก็ไม่ขึ้น อะไรที่ติดขัดท่านว่ามันจะคลายออก บาปเคราะห์ ลางชั่วร้าย อวมงคลใดๆ อันใดจักมี อันนั้นจักหายไป ด้วยบารมีสงเคราะห์ของพระราหูผู้เป็นมหาโพธิสัตว์ใหญ่แห่งไตรภูมิ


    คาถาบูชา
    โอม นะโม สิทธิกาลังสะหุม เอตัง พุทธานะสาสะนัง ทิปะทุตะจะ วันนะ วัสสะ


    * พ่ออาจารย์ท่าตะกรุดนี้ทำยากและฤกษ์เสกปิดก็ไม่ได้มีบ่อยๆ ท่านทำไว้ทั้งหมด 7 ดอก สำหรับผู้ที่มีวาสนาทั้งเจ็ดคน ใครต้องการสั่งจองก็เปิดรับจองเฉพาะทาง PM โดยให้แจ้งชื่อนามสกุลกำกับไว้ด้วย ท่านจะเป่ามนต์พระราหูสำทับและคลุมตะกรุดชุดนี้ด้วยบารมีมหาโพธิสัตว์ใหญ่ให้อีกวาระหนึ่ง รายได้สมทบทุนอาหารและเครื่องนุ่งห่มตามวัดและชาวเขาในที่ทุรกันดารต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดสร้อยสนกลบทเก้าเลิศภพจบแดน(ชุดประวัติศาสตร์พิฆาตไพรี) บูชา 3,500 บาท


    image.jpg e0b89ae0b8b2e0b8a3e0b8a1e0b8b510e0b897e0b8b1e0b8a8e0b899e0b98c1.jpg
    27583791_207107593360885_653429537_n.jpg e0b8a0e0b8b2e0b89ee0b8a7e0b8b2e0b894e0b888e0b8b4e0b895e0b8a3e0b8.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    เรื่องกิจกรรมดูดวง

    วันนี้จะรอผลการจับฉลากและจะ PM ให้ส่งดวงของผู้ที่ได้ปลจับฉลากกลับไปนะครับ
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ฐิติวัช RR 2528 5098 9 TH

    พี่สุรวุฒิ EU 0505 9662 5 TH

    พี่ชัยวัฒน์ EU 0505 9663 4 TH

    พี่วีระพัฒน์ EU 0505 9664 8 TH
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    พูดคุยรอบเย็น

    สาระวันนี้จะกล่าวถึงเรื่องความทุกข์ในหมวดอริยสัจกันนะครับ เพราะความทุกข์ทั้งหลายล้วนเป็นไปตามความจริงอันประเสริฐ เป็นไปเพราะเราครอบครองขันธ์ทั้งห้า ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตใด ขอเพียงมีขันธ์ห้าย่อมหลีกเลี่ยงความทุกข์ไม่พ้นแน่นอน


    พระพุทธองค์ทรงตรัสถึงเรื่องความทุกข์ในอริยสัจทั้งสี่ไว้ตามหมวดต่างๆว่า

    “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ทุกขอริยสัจจ์ คือ ขันธ์ ๕ ที่คนเข้าไปยึดถือ เป็นทุกข์ ...
    สมุทัยอริยสัจจ์ คือ เหตุเกิดแห่งทุกข์ ... นิโรธอริยสัจจ์ คือ ความดับทุกข์ ...
    มรรคอริยสัจจ์ คือ ทางไปสู่ความดับทุกข์ ได้แก่ อริยมรรคอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ”


    "ดูกรสุภัททะ ! อริยมรรคประกอบด้วยองค์แปด เป็นทางประเสริฐ สามารถให้บุคคล ผู้เดินไปตามทางนี้ ถึงซึ่งความสุขสงบเย็นเต็มที่เป็นทางเดินไปสูอมตะ ดูกรสุภัททะ ! ถ้าภิกษุหรือใครก็ตามจะพึงอยู่โดยชอบ ปฏิบัติดำเนินตามมรรคอันประเสริฐประกอบด้วยองค์แปดนี้อยู่ โลกก็จะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์"

    "ความจริงอันประเสริฐคือทุกข์ (ทุกข์) เป็นอย่างไรเล่า?
    ความเกิดเป็นทุกข์ ความแก่เป็นทุกข์ ความตายเป็นทุกข์
    ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจ เป็นทุกข์
    ความประสพด้วยสิ่งไม่เป็นที่รัก เป็นทุกข์
    ความพลัดพรากจากสิ่งที่รัก เป็นทุกข์
    ความปรารภอยากได้อย่างใดแล้ว ไม่ได้อย่างนั้น เป็นทุกข์
    กล่าวโดยสรุปแล้ว ปัญจุปาทานักขันธ์ (ขันธ์ห้าอันเป็นที่ตั้งแห่งอุปาทาน)
    เป็นตัวทุกข์ นี้ เรียกว่า ความจริงอันประเสริฐคือทุกข์ "


    จุดหมายสูงสุด ของพระพุทธศาสนา พึงบรรลุได้ด้วยความสุขหรือด้วยข้อปฏิบัติที่มีความสุข มิใช่บรรลุด้วยความทุกข์ หรือด้วยข้อปฏิบัติที่เป็นทุกข์
    [​IMG] ผู้ปฏิบัติจะต้องไม่ติดใจหลงไหลในความสุขที่เกิดขึ้นแก่ตน ไม่ปล่อยให้ความสุขที่เกิดขึ้นนั้น ครอบงำจิตใจของตน ยังมีจิตใจเป็นอิสระ สามารถก้าวหน้าไปในธรรมเบื้องสูง ต่อๆ ไป จนบรรลุความเป็นอิสระหลุดพ้นโดยบริบูรณ์
    [​IMG] ซึ่งเมื่อบรรลุจุดหมายนั้นแล้ว ก็สามารถเสวยความสุขที่เคยเสวยมาแล้ว โดยที่ความสุขนั้น ไม่มีโอกาสครอบงำจิตใจ ทำให้ติดพันหลงไหลได้เลย


    017.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้มาติดตามกันนะครับ
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ช่วงนี้มีคนไปเจออะไรดีๆต้องการสั่งตะกรุดเจ้าจันทร์กันมามาก บางคนอยากได้สี่ห้าดอกยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน ที่สำคัญไม่มีของแล้วจริงๆไม่รู้จะหาที่ไหนให้ด้วย ใครที่ถามๆจะบูชาเผื่อใครก็คงต้องแบ่งกันไปใช้เอาเอง อันนี้ก็บอกตรงๆนะ เดี๋ยวติดตามเรื่องพูดคุยกันอีกที
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    เดี๋ยววันนี้รอบเย็นติดตามพูดคุยกันเรื่องของพี่ดุจดาว ใครชอบของแรงๆสายปาฏิหาริย์ห้ามพลาด บอกเกริ่นไว้เนื่องจากถามๆมากันเรื่องของพราย เลยจะยกมาพูดคุยเป็นตัวอย่างให้
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    จะฝากคำถามอะไรก็ PM ทิ้งไว้ได้เลยนะครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    พูดคุยยามเย็น

    พรายประกายดาว(ดุจดาว)

    หลังจากที่มีคนถามหาเจ้าจันทร์กันมาเรื่อยๆ บ้างก็ว่าอยากได้แบบที่อยู่ในรูปของพระเครื่องเพื่อความสะดวกในการห้อยอาราธนา เนื่องจากตะกรุดเจ้าจันทร์ได้หมดไปเมื่อเปิดจองใหม่ๆนั่นเอง

    หลายคนถามถึงพราย และอยากได้พรายที่ดีเป็นพรายครูพรายโบราณแบบเจ้าจันทร์ ทีนี้พรายที่แสนดีเป็นอย่างไร ทำไมวิชาสร้างพรายถึงกินตัว และพรายที่ปลอดภัยคนใช้ไม่มีอันตรายเป็นอย่างไร พรายที่ให้คุณมาก อธิษฐานใช้อะไรก็เร็วและไวดั่งลมพัด สำเร็จดั่งใจนึกเป็นอย่างไร การทำผงพรายจริงๆนั้นยากขนาดไหน พรายที่ดี ที่มีประวัติสูง กว่าจะกลายมาเป็นพระผงพรายนั้นเสกยากขนาดไหน

    เรื่องเหล่านี้ให้ติดตามกัน วันพรุ่งนี้จะยกมาพูดคุยเป็นกรณีตัวอย่าง ในหัวข้อของพรายประกายดาวหรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าแม่ดุจดาว ใครที่พลาดเจ้าจันทร์ไปก็ติดตามกันนะหนนี้


    va_XE9_EMo_S8.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    เดี๋ยววันนี้ส่งของแล้วมาติดตามเรื่องพูดคุยกันนะ ห้ามพลาด
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ธีรพจน์ EU 0506 1334 6 TH

    พี่วิศณุกร EU 0506 1335 0 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    พราย

    วันนี้ก็จะมาพูดทำความเข้าใจคร่าวๆในเรื่องของพรายก่อนจะอธิบายลงลึกกันนะครับ


    พรายก็คือผีจําพวกหนึ่ง (มักกล่าวกันว่าเป็นผีผู้หญิงที่ตายทั้งกลม)

    ความเชื่อโบราณของไทยล้านนา
    ผีพราย หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า "พราย" หมายถึงผีหรือวิญญาณที่ชอบแฝงเร้นสิงสู่ในร่างคนประเภทหนึ่ง อีกประเภทหนึ่ง หมายถึงวิญญาณของหญิงที่ตายเนื่องจากการคลอดลูก ทั้งสองประเภทนี้ต่างมีเรื่องราวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะข้อมูลเชิงวัฒนธรรมความเชื่อ

    ผีพรายประเภทแรก เชื่อกันว่าเป็นผีในสายตระกูลของคนที่ถูกสิง ผีนั้นไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จึงมาอาศัยร่างของลูกหลานหากิน สำหรับคนที่ถูกสิง บางท้องถิ่นระบุว่าเป็นหญิงตั้งแต่วัยเริ่มมีประจำเดือนจนถึงวัยชรา แต่โดยทั่วไปแล้วไม่ได้ระบุเพศ ส่วนวัยมักเป็นวันกลางคนจนถึงวัยชรา
    การเข้าสิงของผีพรายมีวัตถุประสงค์เพื่ออาศัยหากินของสดของคาว ขณะเดียวกันก็เกาะกินเลือดเนื้อและอวัยวะภายในของผู้ถูกสิง ทำให้ผู้ถูกสิงมีอาการอ่อนเพลีย ผอม สีผิวซีดเซียว วัน ๆ ได้แต่นอนซมอยู่เหมือนไร้เรี่ยวแรง แต่ถ้าปลอดคนจะมีแววตาแจ่มใสวาวโรจน์ มีเรี่ยวแรงกระฉับกระเฉง และลุกจากที่นอนไปหากินของสดของคาวตามในครัว ใต้ชานเรือน เป็นต้น หากหาของสดของคาวไม่ได้ จะควักกินกะปิ ปลาร้า เศษกระดูก ก้างปลา กระทั่งเลียครก เลียเขียง ถ้วยชาม ตามแต่จะทำได้ จากนั้นจึงรีบเข้าไปนอนที่เดิม ทำทีเหมือนไม่ได้ลุกไปไหน หากคราวใดที่บังเอิญมีคนพบเห็นขณะที่กำลังสาระวนการกิน การเลียอยู่ ผู้ถูกผีสิงจะมีอาการอ่อนแรงและทรุดอยู่ตรงนั้น
    พฤติกรรมของผู้ถูกสิงไม่สามารถบิดบังอยู่ได้นาน เมื่อญาติรู้ทัน บางครอบครัวจัดเวรยามเฝ้า บางครอบครัวถึงขั้นล่ามโซ่กักกัน เมื่อไม่ได้ออกไปไหน ผีพรายจะหันมาเกาะกินตับไตไส้พุง ดูดกินเลือด น้ำเมือก น้ำเหลืองไปทีละน้อย จนกระทั่งเจ้าของร่างเสียชีวิต บางรายผีพรายจะออกจากร่างไปเลย หรือบางรายยังอาศัยร่างคนไปอีกระยะหนึ่งจนร่างกายเริ่มมีกลิ่นเน่า ถึงจะออกไป
    เมื่อมีคนในครอบครัวถูกผีพรายสิง ญาติจะพยายามหาหมอมารักษา ซึ่งหมอก็จะรักษาตามพิธีหากไม่ได้ผลจะปรับเปลี่ยนวิธีการไปเรื่อย ๆ สำหรับพิธีของหมอจะเริ่มใช้วิธีที่อ่อนโยนด้วยการเจรจาชักชวนให้ผีออกมากินอาหารที่เรียกว่า "จอบพราย" โดยหมอจะพูดจาชักจูงเพื่อ "จอบ" คือล่อให้ผีออกมากินเนื้อสด ปลาสดที่เตรียมไว้แทนการแฝงในร่างของคน หากไม่สำเร็จเปลี่ยนเป็นวิธีอื่นได้แก่ การเต็กพราย สูตรกวม ตัดพราย และรมพราย
    เต็กพราย คำว่า "เต็ก"หมายถึงบังคับ ในที่นี้จะเป็นการบังคับแกมขอร้องด้วยอาคม โดยหมอจะจัดเตรียมอาหารที่ปรุงด้วยเนื้อสด ปลาสด พร้อมเครื่องบัดพลี แล้วร่ายอาคมเพื่อเรียกผีออกมาสิงในไข่สด ตัวอย่างอาคมเรียกผีบทหนึ่งว่า
    "โอม ปิ๊ดนะเลก กูจักเสกผีอันอยู่ในเนื้อ
    กูจักเสกเสืออันอยู่ในฅิง จุ่งจักออกมาร่ำงับจับใส่ไข่กูเนอ
    สามสิบเสือนางเนื้อ สามสิบเอ้ยนางพราย
    จุ่งจักออกร่ำงับจับใส่ไข่กูเนอ โอมสวาหาย ฯ
    นางเอ้ย นางอี นางยี่ นางสาม พรายขุมพรายดำ
    จุ่งออกมาร่ำงับยังเครื่องปูชา ทั้งหลายมวลฝูงนี้
    นางพรายอยู่ทิสะหนใด หื้อหนีไปทิสะหันนั้น บัดนี้เต๊อะ
    เมื่อร่ายอาคมครบสามจบ หมอจะนำไข่ไก่สดมาเสก แล้วเกลือกไปตามสรรพางค์กายของคนที่ถูกสิง ตัวอย่างอาคมที่ใช้เสกไข่บทหนึ่งว่า
    "สัพเพ เมตตัง กะโรถะ
    มะนุสิยา จะ รักขันโต จะ
    สันติ เย พะลิง ตัสสฺมา สิเน
    รักขะถะ อัปปะมัตตาฯ
    จากนั้นหมอจะเสกใบพลูด้วยอาคมดังกล่าว เอาไข่วางตั้งบนใบพลู ถ้าไข่ตั้งอยู่ได้แสดงว่าผีพรายออกมาอยู่ในไข่สดแล้ว แต่ถ้าไข่ล้มผีพรายยังไม่ออกมา กรณีที่ทราบว่าผีอยู่ในไข่แล้ว หมอจะนำไข่ไปใส่ภาชนะพร้อมเครื่องบัดพลีไปปล่อยให้ไหลลอยไปตามลำน้ำ และกรณีที่ผีไม่ออก หมอจะหาวิธีอื่นต่อไป

    ผีพราย อีกประเภทหนึ่ง คือวิญญาณของหญิงที่ตายเนื่องจากการคลอดลูก ไม่ว่าจะเป็นการตายทั้งกลมหรือตายหลังจากการคลอด จริงอยู่ชาวล้านนาเรียกผีตายทั้งกลมว่า "ผีตายกลม" แต่หลังจากที่ผ่าลูกออกจากท้องแล้วแยกกันฝัง ผีของหญิงผู้เป็นแม่จะเรียก "ผีพราย" ส่วนผู้ที่ตายหลังจากการคลอด หากกล่าวถึงระยะเวลาแล้ว นับเอาตั้งแต่ตายทันทีขณะคลอดลูกออกที่เรียกกันว่า "ลูกตกฟาก แม่ตากหงาย" ไปจนกระทั่งตายในช่วงที่อยู่ไฟ ถ้าตายในระยะเวลาดังกล่าวถือว่าวิญญาณเป็น "ผีพราย" เช่นกัน
    การตายของหญิงในสภาพนี้ เชื่อว่าวิญญาณของผู้ตายมีความรักและผูกพันต่อลูกและผัวเป็นอย่างยิ่ง จึงเฝ้าวนเวียนพยายามหาทางเอาลูกและผัวไปอยู่กับตนในเมืองผี ชาวบ้านได้คิดหาวิธีรักษาชีวิตลูกผัวคนตายไว้ อันดับแรกมักจะให้ผัวไปบวชอยู่วัดไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน ทันทีที่เมียตาย ส่วนลูก ชาวบ้านเชื่อว่ามี
    ผีพ่อเกิดแม่เกิดคอยคุ้มครองอยู่ คงมีแต่การใช้เครื่องรางป้องกันเท่านั้น และเพื่อตัดสายสัมพันธ์โดยเฉพาะระหว่างผัวกับเมีย จึงนิยมให้มีพิธี "ตัดพราย" ขึ้น
    ทันทีที่ผู้เป็นผัวลาสิกขา ญาติจะจัดเตรียมเครื่องประกอบพิธี อันมีกระบะบัดพลีใส่ผักสด ปลาสด เนื้อสด เครื่องสำอาง กระจก หวี เครื่องประดับพร้อมหุ่นปั้นรูปผู้หญิงไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำ แล้วเชิญพ่อหมอผู้ชำนาญในไสยเวทย์เป็นผู้ประกอบพิธี ซึ่งเริ่มด้วยการให้ผู้เป็นผัวนั่งเหยียดเท้าไปแตะกระบะบัดพลี พ่อหมอจะโยงสายสิญจน์จากศีรษะผู้เป็นผัวไปผูกกับหุ่นปั้นในกระบะ จากนั้นจึงร่ายอาคมแล้วใช้มีดหมอตัดสายสิญจน์ เมื่อตัดขาดแล้วนำกระบะไปลอยให้ไหลไปกับกระแสน้ำ ส่วนผู้เป็นผัว พ่อหมอจะทำพิธีปัดรังควาญพร้อมรดน้ำมนต์ เสร็จแล้วให้กลับไปนุ่งขาวห่มขาวรักษาศีลที่วัดไม่น้อยกว่าสามวัน
    ส่วนผีพรายที่มีการนำมาเลี้ยงเพื่อประโยชน์ต่าง ๆ อาทิ ทำให้หญิงหลงรัก ช่วยกระซิบบอกเหตุการณ์หรือทำนายทายทักนั้น เกิดจากการที่ผู้มีอาคมไปลนเอาน้ำมันจากคางและหัวนมของหญิงตายทั้งกลมจากหลุมฝังศพมาหุงปรุงเป็น "น้ำมันพราย"
    ผู้ที่ไปเอาน้ำมันพรายได้ต้องเป็นผู้แก่กล้าทางวิทยาคม เมื่อทราบว่ามีการตายทั้งกลมที่ไหน ฝังไว้ที่ใด จะจัดเครื่องพิธีไปขุดเอาศพให้นั่งพิงในหลุมแล้วทำพิธีลนเอาน้ำมันพราย พร้อมร่ายมนต์เรียกพรายไปด้วย เมื่อได้น้ำมันแล้วจะถอนผมศพเส้นหนึ่งใส่ในน้ำมันพราย จากนั้นจึงนำไปหุงรวมกับสีผึ้งและน้ำมันจากเมล็ดพืชอื่น ๆ แล้วเอาผสมน้ำมันจันทน์ไว้ใส่ในผอบ เสร็จแล้วกลบฝังศพไว้เรียบร้อย แล้วตอกหลักอาคมไขว้ไว้บนหลุมเพื่อสะกดวิญญาณที่เหลือมิให้ออกไปได้
    น้ำมันพรายที่ได้จะมีวิญญาณพรายสิงอยู่ ผู้มีน้ำมันพรายจะต้องปลูกศาลให้อยู่ พร้อมเลี้ยงดูด้วยเนื้อสด ปลาสด หรือไข่สด เป็นระยะ ๆ เวลาจะไปไหน หากต้องการให้พรายไปด้วย ก็จะบอกกล่าวให้พรายรู้ พรายจะติดตามไปเพื่อรับใช้ตามที่ต้องการจะใช้ ข้อสำคัญต้องเลี้ยงดู เซ่น วักอยู่เสมอ และผู้มีน้ำมันพรายจะต้องรักษาความเข้มขลังทางอาคมไว้ตลอด เมื่อใดที่ไม่ได้ดูแลเอาใจใส่หรือมีเหตุให้มนต์คลายความขลัง ผีพรายจะอาละวาดทำร้ายทั้งเจ้าของและครอบครัวให้เดือดร้อนถึงกับเอาชีวิตเลยทีเดียว ฉะนั้นเจ้าของต้องตระหนักและระวังตัวตลอดเวลา ในกรณีที่ผู้เลี้ยงเสียชีวิตลง ลูกเมียต้องไปเชิญผู้ทรงกฤตยาคมทำพิธีปล่อยพราย โดยจะใช้กระบะบัดพลีบรรจุเนื้อสด ปลาสด และไข่ดิบ เชิญพรายออกจากศาล แล้วนำกระบะไปลอยลงแม่น้ำ เป็นการปลดปล่อยวิญญาณล่องลอยไปให้พ้นจากห่วงมนตรา.

    น้ำมันผีพราย
    คนในสมัยโบราณต่างเชื่อในเรื่องการทำไสยศาสตร์ หนึ่งในจำนวนของที่ทำให้เกิดเรื่องมากที่สุดนั้นก็คือน้ำมันพรายน้ำมันพรายถือเป็นทั้งของสูงและของต่ำ แล้วแต่เจตนาในการปรุงแต่งไปใช้ อย่างเช่นในพิธีชุบพระแสงดาบของกษัตริย์ เพื่อให้มีเดชาประกาสิต พวกอาจารย์ใหญ่ๆทางอยุธยาจะเขียนอักขระด้วยผงฝุ่นที่ทำพิธีปลุกเสกลงบนพระแสงดาบเผาจนเหล็กแดงแล้วนำไปชุบในน้ำมันผี ตัวอักขระจะนูนขึ้น แล้วนำไปล้างออกด้วยน้ำที่เกิดขึ้นเองในเศียรพระวัดตูม
    การจะเอาน้ำมันผีก็คือ ผู้ทำจะจ้างวานสัปเหร่อแอบขุดผีตามหลุมในป่าช้า ตัดหัวผีออกเอาไต้จุดไฟลนที่คาง น้ำมันในสมองจะไหลลงมาที่คางแล้วรองใส่ขวด แต่ถ้าจะทำเสน่ห์ต้องผีตายโหงเท่านั้น
    น้ำมันพรายจะมีสองชนิด ชนิดหนึ่งใช้ทำเสน่ห์ ในสมัยก่อนใช้เป็นเครื่องมือของพวกไอ้หนุ่มคลั่งรักที่ไม่มีทางที่จะได้หญิงนั้นมาครอบครอง อีกอย่างใช้ทำให้คนเป็นบ้า ชนิดที่ทำเสน่ห์ผสมน้ำมันจันน์มากและเข้าพิธีคาถาอาคมทางไสยศาสตร์ครบครัน ส่วนทำให้เป็นบ้านั้นใช้น้ำมันผีมากๆใช้น้ำมันหอมน้อย และไม่ได้ลงเลขยันต์อะไรเลย น้ำมันพรายแท้ๆจะมีพิษร้าย
    หมอเขาว่าถ้าจะเอาไปทาเนื้อใครมันจะแทรกซึมเข้าขุมขนโดยเร็วแล้วเข้าเส้นโลหิต เส้นโลหิตนั้นต้องการโลหิตที่สะอาด ครั้นเมื่อน้ำมันพรายเข้าไปปะปน เลือดมันจะไม่บริสุทธิ แล้วคนคนนั้นจะมีอาการคุ้มคลั่ง คุมดีคุ้มร้ายตลอดไป นานเข้าอาจบ้าคลั่งจนถึงตาย คนที่จะใช้น้ำมันพรายจะต้องจัดการป้องกันตัวก่อนโดยใช้ปูนกินกับหมากละลายน้ำทามือ ทาแขนเพื่อปิดรูขุมขนก่อนจึงจะปลอดภัย
    ในปัจจุบันสังคมเจริญทางด้านวัตถุ ความมักได้ในกามทวีกำลังมากขึ้น ความเชื่อในเรื่องการทำน้ำมันพรายที่ซุกอยู่ในซอกหลืบของความเจริญ อาจกลับมาเป็นวิธีทางเลือกของไอ้หนุ่มคลั่งรักในปัจจุบัน พวกคุณจะเป็นผู้ตัดสินเองว่าน้ำมันผีพรายนั้นดีเลวแค่ไหน เมื่อวันใดที่มันตกมาอยู่ในมือคุณ


    เล่นพรายอย่างไรให้ได้ดี

    ปกตินั้นพ่ออาจารย์ท่านจะไม่ทำเครื่องรางสายพราย ดังนั้นหลายๆคนก็เลยสงสัยว่าพรายทั้งที่น่ากลัวและให้ผลร้ายนานาประการทำไมท่านจึงทำ โดยเฉพาะพรายพี่ดาว อันนี้ก็อยากให้ติดตามกัน แต่ขอบอกว่าพรายที่ว่านี้ไม่ใช่พรายมนุษย์ ไม่ใช่ผีไม่ใช่วิญญาณชั้นต่ำที่ให้โทษแน่นอน

    และเหตุที่ท่านทำไว้ก็เพราะพรายของท่านนั้นเป็นสิ่งที่ให้คุณมาก อธิษฐานใช้อะไรก็เร็วและไวดั่งลมพัด สำเร็จดั่งใจนึกเกินกว่าที่อำนาจพุทธคุณหรือเทพพรหมจะบันดาลได้ สำหรับคนที่ชอบของแรงและเร็ว ซึ่งการทำผงพรายจริงๆนั้นยากขนาดไหน เป็นอย่างไร พรายที่ดี ที่มีประวัติสูง กว่าจะกลายมาเป็นพระผงพรายนั้นเสกยากขนาดไหน และที่สำคัญพรายนั้นไม่ใช่ผีไม่ได้เกิดจากพรายมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่มีผลร้ายใดๆแบบที่จะเจออาถรรพ์ เจอพรายกินตัวตามปกติ

    * แล้วมาติดตามกันนะครับเกี่ยวกับเรื่องราวของพี่ดาว ห้ามพลาด

    va_XE9_EMo_S8.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันต่อ แย้มๆไว้เลยว่าเครื่องมงคลครั้งนี้มีทั้งองค์ครูและองค์พิเศษ ซึ่งท่านที่ศรัทธาจะได้พิจารณาตามกำลังทรัพย์ของตนและเข้าถึงได้ ไม่แพงเกินไปแน่นอนสำหรับรายการนี้;)
     

แชร์หน้านี้

Loading...