เรื่องเด่น การรู้นี้จะทะลุหมดทั้งสามโลก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย สติจงมา, 15 พฤษภาคม 2017.

  1. สติจงมา

    สติจงมา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2017
    โพสต์:
    47
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +191
    ocleu5hstdW2v1Ho30R-o.jpg


    ประสบการณ์ของนักปฏิบัติธรรม​


    การที่เราพยายามปล่อยวาง ไม่ให้มีตัวมีตนเกิดขึ้นในจิตในใจ ถ้าเราสามารถทำได้มากเท่าไร เราจะชนะใจตนเองมากเท่านั้น ผลที่พยายามไม่ยึดถือในตัวตนนี่เอง คือจุดหลุดพ้น

    สภาพร่างกายในขณะนี้ ถึงแม้จะถูกเวทนามันรุมเร้าเอาอย่างมากก็ตาม แต่เมื่อเราทำความเข้าใจในสภาพที่แท้จริงแล้ว มันจะกลับเป็นประโยชน์และเป็นตัวปัญญาให้เราคิดแก้ไขเอาชนะสิ่งนั้นให้ได้ในที่สุด ได้มาพิจารณาถึงความเจ็บปวดในขณะที่เกิดจงกรม ใช้สติตามรู้อยู่ตลอดว่ามันปวดที่ส้นเท้าและข้อเท้ามาก แต่รู้เฉย ๆ ไม่ปรุงมัน ดูมันไป จนกลายเป็นสภาพที่มีตัวรู้เด่นอยู่เหนือความเจ็บปวดทั้งมวล แต่ในสิ่งที่กำลังรู้อยู่นี้ มิใช่ว่าอาการเจ็บปวดนั้นจะอันตรธานไป หรือลดน้อยถอยไป มันยังแสดงปฏิกิริยาของมันอย่างปกติ แต่สิ่งที่เรียกว่า รู้ นั้น ก็ยังรู้อยู่ แต่แยกกันไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่มีอาการตอบสนองหรือปรุงแต่งต่อเนื่องแต่อย่างใด เพียงแต่รับรู้ไว้เท่านั้น

    นี่คือผลที่เราไม่นำเอาตัวตนของเรา เข้าไปร่วมในเหตุการณ์นั้น เมื่อมันขาดผู้กระทำและผู้ถูกกระทำ มันมีเพียงกิริยาอย่างเดียว มันจึงเป็นประโยคที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อไม่สมบูรณ์ การปรุงแต่งต่อไปจึงไม่มี และขาดกันตรงนี้เอง และอาการเช่นนี้ ถ้าเราสามารถทำจิตได้ต่อเนื่องตลอดทุกลมหายใจเข้าออก จนกลายเป็นมีสติรอบเป็นวงแหวน มันก็หมดการเกิดดับตรงนี้เองเช่นกัน

    เมื่อสิ่งที่รู้นั้น ไม่แสดงปฏิกิริยาปรุงแต่ง เพียงแต่มีสติรู้อยู่เฉย ๆ นี่เอง จึงทำให้เกิดปัญญาต่อไปว่า สิ่งที่รู้นี้ มันไม่ใช่ตัวที่เราเรียกว่าจิตหรอก มันไม่ใช่ทั้งกายและจิต แต่มันเป็นตัวรู้ ที่ธรรมชาติให้มา หรืออีกนัยหนึ่ง เรียกว่าตัวรู้นี้คือธรรมชาติหรือธรรมชาติคือตัวรู้นี้ ตัวรู้หรือสิ่งที่รู้นี้จะมีอยู่ทั้งในคนและสัตว์ แต่สิ่งที่เรียกว่ารู้นี้มันลึกลับที่เวไนยสัตว์จะหยั่งเข้าไปถึง

    เราจะต้องหยุดการเคลื่อนไหวของจิตในรูปที่ไม่คิดปรุงแต่งทั้งหลายให้หมด เหลือไว้เพียงแต่ “รู้” เด่นอยู่เฉย ๆ เท่านั้น แล้วสิ่งที่ปรากฏออกมาตามสภาพที่แท้จริงจึงปรากฏขึ้น การรู้นี้จะทะลุหมดทั้งสามโลก เพราะตัวรู้ที่ว่านี้ มันเป็นธรรมชาติเดิมแท้ และเดินทางกลับสู่สภาพเดิม จึงรู้แจ้งแทงตลอดหมด ไม่มีสิ่งอื่นเคลือบแฝง สามารถดับความคิดปรุงแต่งทั้งมวล ดับกิเลสตัณหาอุปาทานทั้งหลาย ในจิตในใจให้หมดไป

    “รู้” นี้มันอยู่เหนือคำพูดที่จะพรรณาเป็นตัวอักษรได้ รู้นี้ที่แท้แล้วมันเป็นธรรมชาติเดิมที่มีอยู่แล้ว ไม่ต้องไปค้นหาที่ไหน มันอยู่ในจิตในใจเรานั่นเอง แต่เวไนยสัตว์หลงติดอยู่กับของปลอม จึงยากที่จะเข้าถึงตัวรู้นี้ได้

    สิ่งที่รู้นี้แปลก จะไม่เจือปนด้วยอะไรทั้งสิ้น ความสุขหรือทุกข์ ความกลัวหรือความกล้า ก็ไม่มีอยู่ในสิ่งรู้นั้น มันขาดจากสิ่งแปลกปลอมทั้งหลายจะเข้าไปอยู่ในขณะนั้น มันโพร่งเด่นตระหง่านอยู่กลางจิตกลางใจ ไม่มีอาการปวดเมื่อยในการเดินหรือเกิดเวทนาใด ๆ เลย ซึ่งการใช้เวลาเดินตั้งเกือบสามชั่วโมง มันเสมือนเราเดินกลับเข้าสู่สภาพธรรมชาติเดิมที่แท้ ที่มีอยู่แล้วในตัวเราและเรากำลังเดินเข้าสู่ธรรมชาติของเดิมนั่นทีเดียว

    มันเป็นสิ่งเดียวกันกับที่ปู่พูดไว้ไม่มีผิด คือ จิตของเรากับสิ่งต่าง ๆ ซึ่งแวดล้อมเราอยู่นั้น มันเป็นสิ่ง ๆ เดียวกัน จากคำพูดของปู่ที่ว่า จิตของเราเหนือกว่ามนุษย์หรืออมุษย์ ทำอะไรเราไม่ได้ มันไม่ใช่คุณธรรมที่เรามีเหนือกว่าสิ่งทั้งหลายพวกนี้หรอกจึงทำอะไรเราไม่ได้ แต่ที่แท้จริงแล้ว มันเป็นเพราะจิตเดิมแท้หรือ รู้ นี่ต่างหาก ที่มันกลับไปสู่สภาพเดิมตามธรรมชาติที่เขามีอยู่แล้ว คือ “ความว่าง”

    เมื่อมันกลับเข้าสู่สภาพจิตเดิมแท้ อภิธรรมชาติทั้งหลายจึงทำอะไรเราไม่ได้ ไม่ใช่คุณธรรมในแง่ใดทั้งนั้น เมื่อของเดิมเป็นเช่นนี้ และเราสามารถยกปัจจุบันจิตให้เข้าสู่สภาพระดับเดิมเดียวกัน จนเป็นผืนเดียวกันอย่างปู่ว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวงในจิตในใจก็ดับหมด อยู่ตรงนี้นั่นเอง มันไม่ไกลเกินไปจริง ๆ ทีเดียว

    จริงอย่างปู่ว่า “จิต ตัวมันเอก็ไม่ใช่จิต ถ้าเราทำความสงบเงียบอยู่จริง ๆ เว้นขาดจากการนึกคิด ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวของจิตแม้แต่น้อยที่สุดเสียให้ได้จริง ๆ ตัวแท้ของมันก็จะปรากฏออกมาเป็นความว่าง” ตรงดังที่ปู่พูดทุกแง่ทุกมุม และเข้าใจตลอดในขั้นตอนที่ผ่านมา เมื่อนำหนังสือ จิตคือพุทธะ ของปู่มาอ่านทวนจากสิ่งที่เกิดในวันนี้ ซึ่งเป็นเวลานานแล้วที่ไม่ได้อ่านหนังสืออันมีค่าเหนือชีวิตเล่มนี้.


    mao19.png
     
  2. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    พาหิยสูตรครับ

    ดูกรพาหิยะ เพราะเหตุนั้นแล ท่านพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเห็น จักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง เมื่อทราบจักเป็นสักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ดูกรพาหิยะ ท่านพึงศึกษาอย่างนี้แล

    ดูกรพาหิยะ ในกาลใดแล เมื่อท่านเห็นจักเป็นสักว่าเห็น เมื่อฟังจักเป็นสักว่าฟัง เมื่อทราบจักเป็นสักว่าทราบ เมื่อรู้แจ้งจักเป็นสักว่ารู้แจ้ง ในกาลนั้นท่านย่อมไม่มี ในกาลใด ท่านไม่มี ในกาลนั้น ท่านย่อมไม่มีในโลกนี้ ย่อมไม่มีในโลกหน้า ย่อมไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ

    ความสำคัญคือ การไม่หลงฉวยปรากฏการณ์ใดๆ มาเป็นตนเป็นของตนอีก (สักแต่ว่า..เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยเช่นนั้นเอง ใช้คำว่าไม่มงคลตื่นข่าวก็น่าจะได้ครับ) สัพเพธัมมานาลัง อภินิเวสายะ - ธรรมทั้งปวงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2017
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    สิ่งที่นักภาวนา จะต้อง. วิจัยขณะปฏิบัติให้เจอคือ. สันตติ

    ความสืบเนื่องของ. อาการรู้

    ถ้าภาวนาไปแล้ว. สันตติ คืออะไร แบะแบะ. ผู้รู้เที่ยง

    ก้ไร้ สามัญผล

    แต่ถ้าวิจัย. สันตติ ผู้รู้ดับ. หลังจากนั้น ผู้รู้ฉวยอะไร
    เข้าไปสืบต่อ. การรู้ เพื่อให ผู้รู้ ไพบูลย์อยู่

    ก้จะอ๋อ. อาหารสี่ อาหารก้คือวิญญาน. รู้อยู่ที่รู้(ไม่เหนผู้รู้ดับวนกลับไปรู้) ดักดาน


    รู้ทะลุสามโลก. สร้างกรง โยนจรเข้ กลัวลิง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2017
    • ถูกใจ ถูกใจ x 1
    • อนุโมทนา อนุโมทนา x 1
    • เศร้า เศร้า x 1
    • ไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย x 1
    • ดูรายการ
  4. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    จิต รู้ ก็แค่......การสมุทัย ออกไปรู้....ส่งออก
    จิตก็อนัตตา.....ไอ้เรื่องจักรวาล จะรู้หรือไม่รู้...สำหรับผม เรื่องธรรมดา เพราะ ชีวิตที่แท้จริง ของเราคือมีร่างกาย เป็นมนุษย์ เป็นสัตว์โลก...มีอายตนะรู้ ของกายใจ ครบสมบูรณ์อยู่แล้ว

    ไม่จำเป็นต้อง..ไปมีจิตรู้ หรือไม่จำเป็นต้องรู้ตามจิต หรือรู้เรื่องอะไรที่ เกินกว่าเรื่องของโลก...หรอก....เพราะมัน คือเรื่อง.ที่ไร้สาระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2017
  5. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    การรู้ทะลุสามโลก หมายถึง...ทะลุ เข้าใจ ใน โลกอดีต ปัจจุบัน อนาคต....เมื่อรู้ทั้งสามโลก เมื่อจิตรู้มันรู้ครบอยู่กับ ทั้งสามโลกแล้ว...ทำอย่างไร อะไรคือความจริงที่สุด โลกไหนคือโลกจริงที่สุด

    โลกที่จริงที่สุดคือโลกปัจจุบัน...เอาอะไรมาสัดว่าเป็นโลกปัจจุบันล่ะ..ก็เอาร่าวกายใจ ที่ยังมีชีวิตมีลมหายใจอยู่ของเรานี่แหล่ะเป็นตัววัด.....ดังนั้น จิตรู้นี้ มันจะต้อง ปล่อยวาง รู้ทั้งหมดทั้งสามโลกทิ้งไป จะต้องทำจิตรู้ให้เข้าถึง อนัตตาธรรม เพื่อปล่อยวางจิตอวิชชานี้...เพื่อให้ สัมปะชัญญะที่รู้ตาม มันกลับไปอยู่กับปัจจุบันของร่างกายที่อยู่ในโลกให้ได้

    แม้จิตรู้จะอนัตตาไป...แต่รู้นั้น ก็ยังรู้แล้ว แม้สัมปชัญญะจะกลับมารวมกับร่างกายในโลก แต่รู้แล้วนั้รก็ยังอยู่...แต่ข้อดีก็คือ..ความจริงของกายใจ ที่ ได้กลับมาอยู่ในโลกปัจจุบัน ต่างหาก คือ....อริยะสัจ...ของชีวิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤษภาคม 2017
  6. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    กายใจ..รู้ ด้วย สัมปชัญญะ....ของความเป็นมนุษย์
    สติรู้....รู้ด้วยจิต...อวิชชาหรือ จิตอุปทานของกองขันธ์5

    รู้ไหน..ล่ะคือ รู้ที่...แท้จริงที่สุด
     
  7. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ในการรู้....

    รู้ว่ารู้อยู่ทั้งสามโลก รู้ทั้งจักรวาล....กับ....รู้ว่าพ้นแล้วจากสมมุติทั้งปวง

    อันไหนควรรู้..กว่ากัน
     
  8. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ศาสนาแห่งพุทธะ...คือ ศึกษาให้รู้ทั้งหมด เพื่อให้รู้ความจริง...อริยสัจ....ทุกรู้ รู้เพื่อละ วาง ...เพื่อให้ตนเองได้ รู้ถึงความจริงที่สุด และ กลับมาอยู่กับความจริงได้ ในที่สุด

    ผู้รู้.....รู้แล้ว ทุกเรื่อง
    ผู้ตื่น......ตื่นตัว อันไหนคือความจริง คือ อริยสัจ
    ผู้เบิกบาน...คือ พ้นแล้วจาก จิตอดีต จากจิตอนาคต..มาอยู่กับ กายใจปัจจุบัน..ให้ได้
     
  9. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ทำไม ส่วนมาก ชอบอยู่ใน โลกของจิตรู้
    เพราะมัน พ้นจากความวุ่นวาย ของ ผัสสะ อายตนะ กายใจ...นั่นเอง
    เพราะ รับมือกับ ผัสสะ อายตนะของกายใจของตน และของคนอื่น ในความเป็น มนุษย์โลกไม่ได้ นั่นเอง....เป็นได้แค่.ผู้แพ้โลกปัจจุบัน

    โดยเฉพาะ เรื่องการดูจิต ดูความคิด รู้เห็นความเป็นจริง ของ อายตนะใจ
    ส่วนมาก จะ ...พ่ายแพ้ ต่อ ความคิด ใจ ชองตนเอง...จึงนิยม ...อยู่กับ จิตรู้นอกโลก อ้างว่า....เป็น จิตเหนือโลก ติงต๊อง..นั่นเอง
     
  10. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ที่ฝึกกันคือ นั่งสมาธิ ช้ามเรื่อง การดู กาย เวทนา จิต ตามจริง...ข้ามเรื่อง การดูรู้ ผัสสะ อายตนะ กายใจ ตามจริง

    หรืออาจฝึกเป็น ดู อสุภะ ...เห็นร่างกายเป็นของ เน่าเปื่อย ผุพัง ..ซึ่งเป็นเหมือนการ รังเกียจ ร่างกายและความคิดใจ...ทั้งที่ พระไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา...ทุกสิ่ง ไม่เที่ยงอยู่แล้ว...พระพุทธเจ้าสอนให้เห็น ในความจริงของ อริยสัจ ว่า เป็นของไม่เที่ยง ควบคุมไม่ได้ ยึดมั่นถือมั่นไม่ได้..ไม่ไช่ให้ รังเกียจ กายใจ

    ดังนั้น การกลับมาอยู่กับกายใจ ที่เป็นปัจจุบัน...จึงเป็นเรื่อง..ที่ ยากจะเข้าใจ
     
  11. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ดังนั้น...สรุปแว่.....ว่า

    คนที่ อยู่กับโลกของจิตรู้...แต่ไม่รู้ การกลับมาอยู่กับ ปัจจุบันของกายใจของตนเองไม่ได้..แปลว่า...ไม่มี สัมมาทิฐิ..ที่แท้จริง...จึงเป็นบุคคลที่ มีมรรคา ไม่ครบ แปดข้อ...นั่นเอง..
    พูดง่ายๆว่า..แม่สัมมาทิฐิ ยังไม่มี...แล้ว..มรรคข้ออื่นๆ..ยังจะถือว่า..มีหรือ

    ก็แค่ พวกหลงโลก พวกหลงตัวเอง...พวกมิจฉาทิฐิ
     
  12. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    ไหนๆก็ไหนๆ ไม่เอาให้ครบ 5 โลกไปเลยหละ ?:)
    โลก - เทวโลก - ยมโลก - มารโลก - พรหมโลก
     
  13. bigtoo

    bigtoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,345
    ค่าพลัง:
    +1,448
    รู้เพื่อจะได้ละกิเลส ต้นเหตุทั้งหมด
     

แชร์หน้านี้

Loading...