เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ขอบคุณมากๆครับคุณอา
สองท่อน
ยามค่ำ
ดึกดื่นเที่ยงคืน
พี่สุภาฯ (us)
อ่านสบายๆ
ประวัติศาสตร์
ได้คุณอาสังเคราะห์
ยิ่งสนุก อ่านเพลิน
ยืดยาวหน่อย ก็ชอบ

 

สวัสดียามเช้าค่ะคุณลุง

ขอแสดงความยินดีค่ะที่กระทู้เกิน ๕๐๐ หน้านะคะ

เมื่อวานมุไปบอกกล่าวครูบาอาจารย์และผู้ชี้แนะ ว่าจะบวชปฏิบัติธรรมที่อุทัยธานี ตอนที่ได้ยินเสียงพระอาจารย์พูดว่า "อาตมาอนุโมทนาด้วย" ส่วนอีกท่าน สังขารไม่ค่อยดีนักด้วยวัยแปดสิบสามปีก็เมตตาเป่ากะหม่อมให้ ทำเอาหัวใจพองโตจริงๆ

การจัดส่งหนังสือธรรมะสามที่ สำเร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ แล้วก็มุกำลังรอฟังผลว่าทางต่างประเทศจะตอบรับบทความวิจัยมุไหม จะได้ทำดุษฎีนิพนธ์ให้เสร็จเสียที คราวนี้ลุงไล่มุยังไงไม่ได้ผลนะคะ มุจะนั่งไล่อ่านแบบสะใจ

วันเกิดปีนี้มุตัดสินใจทำเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิต ขอให้เพื่อนสนิทที่รู้จักมุและครอบครัวเซ็นเป็นพยานรับทราบการตัดสินใจครั้ง ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก คุณลุงเดาได้ไหมเอ่ย

 

มีทุกรสชาติจริงๆคุ้มค่าที่เฝ้าติดตาม ติดหนึบมาตลอด ประวัติศาสตร์ก็กำลังมันเชียวคับ จัดหลายๆตอนเลยนะคับ ยังเป็นกำลังใจเช่นเดิมครับ

 

ธรรมมะสวัสดีวันนี้ นำมาฝากสี่บทด้วยกันครับ
สาธุธรรมมะรักษาเพื่อนสมาชิกทุกท่านครับ

 

หลายวันก่อนได้อ่านนิตยสารเกี่ยวกับสุขภาพมีอยู่หน้าหนึ่งพูดถึงเรื่องราวของการออกกำลังด้วยโยคะ อ่านแล้วทำให้นึกถึงคุณประโยชน์มหาศาลที่เขียนไว้โดยพระอรหันต์กลางกรุงฯ ท่านเริ่มรับราชการจากมหาดเล็กได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากในหลวงรัชกาลที่ 6 ให้เลื่อนมาเป็นผู้รับใช้ใกล้ชิด จนเป็นองค์มนตรีในที่สุด และเมื่อบวชเพื่ออุทิศถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านก็หมดเชื้อทางโลก ด้วยมีบุญในผ้าเหลืองบวชแล้วก็ไม่สึกอีกเลย

ท่านเป็นพระทรงอภิญญา เคยอ่านเจอว่าท่านไปรักษามหาเศรษฐีชาวอเมริกัน ด้วยญาณจนหายป่วยบินข้ามทวีปตามมาขอบคุณท่านมีคนถามท่านว่า
จริงหรือเปล่าที่ท่านไปอเมริกาท่านบอกท่านแผ่เมตตาไปทั้งจักรวาลอยู่ที่ใครจะรับได้
เรื่องวินัยสงฆ์ท่านเคร่งครัดเช่นกัน เมื่อมีพระบวชใหม่มาพักกุฏิใกล้กับท่านแล้วจะหยิบไวโอลินขึ้นมาเล่นท่านเดินไปเคาะประตูแล้วบอกพระใหม่ว่าที่ท่านจะทำผิดวินัยสงฆ์ที่บัญญัติไว้ห้ามพระเล่นดนตรีนะพระบวชใหม่ถึงกับอึ้งไปเลยว่าท่านรู้ได้ยังไงอยู่ในกุฏิแท้ๆ

ว่ากันถึงศีลบัญญัติอีกข้อที่ห้ามพระเล่นกีฬาเหมือนชาวบ้าน พระจึงมีทางเลือกออกกำลังไม่มากเช่น กวาดลานวัด ซึ่งการออกกำลังนับว่าเป็นพื้นฐานของสุขภาพดี ผมจึงเอาข้อคิดประโยชน์จากการ ออกกำลังด้วยโยคะที่ท่านเจ้าคุณนรฯ ท่านได้เขียนไว้ด้วยลายมือท่านมาลงไว้ให้ดู น่าจะเขียนด้วยปากกาคอแร้ง พี่วันและผู้อาวุโสหลายท่านคงทันใช้คัดลายมือสมัยเด็กเป็นแน่ 55

นอกจากพระจะเล่นโยคะไม่ผิดวินัยแล้ว ผมเองเคยเล่นเมื่อหลายปีก่อนประมาณร่วมปีได้หลายท่าอาสนะนอกจากจะผอมลงไปแล้วเมื่อไปตรวจสุขภาพประจำปีพบว่าความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อดีมากจากที่เคยนั่งวัดแล้วเหยียดนิ้วไม่ถึงปลายเท้าทำ ได้เกินปลายเท้าไปถึงข้อมือ อาการปวดตามเมื่อยร่างกายช่วงนั้นไม่มีเลย

เดี่ยวนี้คนทำงานออฟฟิตนั่งติดหน้าจอเป็นโรคออฟฟิตซินโดรมกันมาก พรรคพวกหลายคนบ่นปวดหลังใหล่สบักจม บางคนไปนวด บางคนเป็นจนต้องฝังเข็มก็ยังไม่หายขาดซะที่ถ้าลองมาเล่นโยคะไม่ถึงเดือนจะบรรเทาและหายได้

ผมคุย กับ ศจ.เกญียรแล้วท่านหนึ่งเป็นเจ้าของหอพักหลายแห่งอายุเจ็ดสิบบอกว่าเล่นโยคะได้มาสองปี จากเมื่อก่อนเดินไปไหนก็ปวดเมื่อยหาทางรักษาหลายอย่างไม่หายจนมีคนแนะนำให้เล่นโยคะแล้วดีจริงเดี่ยวนี้เล่นทุกวันครับ

มีคุณหมอผ่าตัดอีกท่านหนึ่งที่เลิกเป็นหมอแล้วเหตุเพราะครั้งล่าสุดท่านยืนผ่าตัดสามชั่วโมงพอเสร็จแล้วท่านขยับไม่ได้ต้องรอร่วมห้านาทีจึงจะบังคับขาตัวเองได้ท่านนี้ไม่ได้เล่นโยคะแต่ผันตัวมาเป็นอาจารย์สอนไอกิโด การต่อสู้ผสมผสานปรัชญาและศาสนา เน้นการป้องกันตัวไม่ทำร้ายคู่ต่อสู้ ท่าร่างกายยืดหยุ่นคล้ายๆกันครับ

โยคะมีท่ามาตราฐานที่จะต้องพับตัวเข้าหากันฟังมาว่าท่าแบบนี้เป็นการบำบัดอวัยวะภายในช่องท้องที่หาวิธีออกกำลังอวัยวะภายในได้ยาก และบางท่าต้องยกเท้าสูงให้เลือดมาเลี้ยงสมองมากๆ ซึ่งปกติการยกเท้าสูงกว่าหัวในชีวิตประจำวันทั่วไปจะไม่มี ครูผู้สอนบอกว่าช่วยรักษาสมองได้ดี แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ทุกคนเพราะผมเคยแนะนำเพื่อนคนหนึ่งไปเล่นโยคะ เธอบอกว่าอะไรเนี่ยช้ามาก น่าเบื่อสุดๆ เธอได้แต่เต้นแอโรบิคครับทั้งนี้เพราะท่าการเล่นโยคะต้องนิ่ง คนเล่นโยคะจึงได้ ขณิกสมาธิ เป็นกำไรไปในตัวอีกต่อนึงด้วย

ข้อด้อยของการออกกำลังแบบโยคะคือระบบหัวใจทำงานไม่เต็มที่ต้องออกกำลังที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วอย่างเต้นแอร์โรบิค , วิ่ง , ว่ายน้ำ , ปั่นจักรยาน จึงจะดี
ที่ว่ามานี่เผื่อใครไปหาพระแล้วอาจติดหนังสือโยคะไปให้ท่านออกกำลัง เอาแบบที่ผู้ชายสอนนะครับครูผู้หญิงสวยหุ่นดีเกรงหลวงพี่จะตะบะแตกเอาครับ 55

 

กราบสวัสดีท่านอ.wanwi และสมาชิกห้องนักขุดฯทุกๆท่าน
ขออนุญาติขุดเรื่องดีๆมาเล่าสั้นๆครับ
ก่อนอื่น"ขอเชิดชูเหล่าทหารหาญ ที่เสียสละเพื่อผืนแผ่นดินไทย ที่ทำให้เราได้มีที่อยู่จนถึงทุกวันนี้"
หลายๆท่านคงเคยได้ยินเรื่อง" ทหารผี" กันบ้างแล้วใช่มั้ยครับ
ที่มีเรื่องเล่าของเหล่าทหารหาญของไทยในสมรภูมิ สงครามเอเชียบูรพา(อินโดจีน) ที่ถูกขนานนามว่า เป็นกองทัพนักรบ " ทหารผี " ฆ่าแล้วไม่ตาย ยิงฟันแทงไม่เข้า ล้มแล้วก็รุกขึ้นมาวิ่งเข้าใส่ใหม่ ที่เป็นอย่างนี้เพราะได้รับมนต์ตราปลุกเสกในเครื่องลางของขลัง โดยเฉพาะผ้าประเจียดจากยอดเกจิอาจารย์ทั้ง4รูปในสมัยนั้น กลายเป็นที่โจษจันถึงความเก่งกาจและมนต์ขลังแห่งอำนาจมนต์ตรา เวทมนตร์..คาถา การปลุกเสก อยู่ยงคงกระพัน ที่ลงในเครื่องลางของขลัง


ณ ฐานที่มั่นทหารเสือพรานของไทยแห่งหนึ่งที่เวียตนามใต้ ทหารเวียตนามเหนือพยายามตีฐานนี้หลายสิบครั้งแต่ก็ไม่แตก จึงส่งกองพันกล้าตายที่ 21 ให้มาตีซึ่งเป็นกองพันเดียวของทหารเวียตนามเหนือที่ไม่เคยพ่ายแพ้ต่อกองกำลังใดๆทั้ง อเมริกันและเวีตนามใต้ และกองพันนี้ขึ้นชื่อที่สุดด้านความโหดร้ายและการทารุณเชลยโดยวิธีลูเรต (ใส่กระสุนหนึ่งนัดในลูกโม่แล้วผลัดกันยิง) จนเป็นที่กล่าวขานกันทั่ว
เช้าวันหนึ่งอากาศแจ่มใส.......ทหารเวียตานามเหนือกองพันกล้าตายที่ 21 จำนวน 600 นาย ได้เข้าตีฐานที่มั่นทหารไทย......โดยทหารไทยมิได้ตั้งตัว.....ทหารไทยมีกำลังเพียง 150 นาย เห็นได้ชัดว่าถูกรุมแบบ 5 ต่อ 1........
ปะทะกันนานกว่า 1 ชั่วโมงทหารเวียตนามเหนือแตกพ่ายไป ผลจากการสู้รบฝ่ายข้าศึกตาย 453 ศพและบาดเจ็บสาหัสจนไม่สามารถหนีได้ 16 นาย.......ฝ่ายเราตายเพียง 1 ศพและบาดเจ็บเล็กน้อย 5 นาย......การปะทะครั้งนี้........เป็นที่กล่าวขวัญไปทั่ว จน ผบ.ทหารเวียตนามใต้และทหารอเมริกันประกาศทางวิทยุ.........สดุดีวีรกรรมของทหารไทยครั้งนี้นาน1อาทิตย์
ต่อมาผู้บังคับกองพันกล้าตายที่ 21 ของเวียตนามยิงตัวตายในบังเกอร์.....เพื่อหนีความอับอาย ส่วนทางด้านนายทหารเสือพรานไทยได้รับเหรียญกล้าหาญ 35 คน.........
ปล.
เราคนรุ่นหลัง.....ขอน้อมคารวะทหารกล้าไทยที่ปกปัก รักษาผืนแผ่นดินไทยให้เราอยู่ทุกวันนี้......เรื่องราว.....แด่ท่านผู้ชนะ.......เหล่าชนเสือพรานไทยนักรบชุดดำ

4 เกจิอาจารย์ มีรูปใดบ้างครับ

 

เดาๆ หลวงพ่อจงใช่ไหมคะ

 

ท่านอัคร ท่านนรเคยมาเข้าฝันนะคะว่าท่านมาเยี่ยมที่บ้านเป็นกระไดสูงทางหน้าบ้านเยื้องทางซ้ายมือ แต่ตัวเองยืนอยู่ข้างล่างคุยกับเพื่อนบ้าน เพื่อนบ้านเลยบอกว่า"นั่นไงท่านเจ้าคุณนร" เห็นท่านก้าวขึ้นกระไดแสงแดดส่องจีวรทั้งองค์และขาที่ก้าวขึ้นกระได พอตื่นมาก็หาประวัติท่านครบเลยค่ะ สาธุค่ะ Goodnight everyone

 

จาด จง คง อี๋ 4 จตุรเทพอินโดจีนใช่ไหมครับ ในรูปคือรูปหบ่อหลวงปู่จาด ที่วัดบางกระเบาครับ

 

ดีใจกับคุณศุภฯ ด้วยครับ ฝันดี มีบุญสัมพันธ์ กับพระผู้ทรงอภิญญา ถือเป็นนิมิตรดี น่าจะส่งผลดีในทางโลกและการปฏิบัติธรรมด้วยครับ

 

เขาว่า นี่คือพระเกจิ1 ใน4

หลวงพ่อโอภาสี(พระมหาชวน) จากอาศรมบางมด กรุงเทพฯ

 

พระคุณเจ้ารูปที่2

หลวงพ่อแฉ่ง ศีลปัญญา วัดบางพัง(ศรีรัตนาราม)

 

หลวงพ่อจง พุทธสโร วัดหน้าต่างนอก พระนครศรีอยุธยา

 

หลวงพ่อจาด คังคะสะโร วัดบางกระเบา ปราจีนบุรี

 

โดยทั้ง4รูปนี้ถูกนิมนต์มาปลุกเสกที่วัดบวรฯ
เป็นพิธีปลุกเสกระดับชาติ.......โดยเริ่มพิธีตั้งแต่อาทิตย์เริ่มอัสดง.....จนถึงรุ่งอรุณของวันใหม่ เป็นพิธีที่ใหญ่โตมโหราฬ.......ท่ามกลางเหล่าทหารหาญที่คอยป้องกันอยู่รอบนอก ไม่ให้ผู้ใดรบกวนสมาธิของเกจิอาจารย์ทั้งสี่ ภายในห้ามออกภายนอกห้ามเข้ากันทีเดียว
..........การปลุกเสกใช้เวลา 12 ชั่วโมง........... โดยพระทั้งสี่รูปจะนั่งนิ่งอยู่ในท่าเดิมไม่ขยับเขยื้อนเป็นการรวมพลังจิต....ให้มีอนุภาพที่แก่กล้าแล้วรวมเพ่งไปที่ผ้าประเจียดที่วางอยู่บนพานทอง เพื่อให้ได้ผลเต็มร้อย........หลังเสร็จพิธีหลวงพ่อทั้งสี่ จึงมอบผ้าประเจียดให้กับพลตรี หลวงเกรียงศักดิ์พิชิต เพื่อนำไปใช้ปกป้องทหารในสงครามต่อไป ก่อนนำออกแจกจ่าย ยังมีการทดลอง ความอยู่ยงคงกระพัน โดยการนำผ้าประเจียดไปลองยิงดู...... ซึ่งถ้าไม่ได้ผลหลวงพ่อทั้งสี่องค์ ท่านจะทำพิธีให้ใหม่ แต่ปรากฏว่างานแรกครั้งเดียวขลังทันใด..ใช้ได้ทันที เครื่องลางของขลังจากการปลุกเสก ทำให้ทหารไทยชนะสงครามอินโดจีนกับถูกตราหน้าว่าเป็นทหารผี...อันนี้พิสูจน์ กันชัดๆอีกอย่างของคลื่นพลังจิตที่รวมกันเข้าจากเกจิอาจารย์ทั้งสี่...ไร้เทียมทานจริงๆ………….

 

เมื่อวานถึง283วันนี้น้องพีฯ
คงตะกุยไปอีกเป็นร้อย
อ่านไวแบบนี้500หน้าทานไม่อยู่แน่
คงโดนพิชิตเรียบร้อยในสัปดาห์นี้-ฮ่า

 

น้องชาติจะเริ่มรู้ไปเรื่อยว่า"การให้"ทำให้กายเบา
แล้ว อีกไม่นาน ความรู้สึกที่ดีจากการเป็นผู้ให้จะส่ง
"ใจ"จะเบาจนสัมผัสรู้ได้ถึงสุขภายใน-โมทนาครับ

 

ขออภัยน้องตั้ม ตอบช้านิด งานมากหัวฟู
ขั้นตอนจุดธูปก่อน-หลังทำได้ตามสบาย
ขอจิตมั่น-ใจศรัทธาเต็มเปี่ยม ไม่คลอนแคลน
ความขลัง ความสำเร็จ ก็บังเกิดในไม่เนิ่นช้า