เนื่องจาก จขกท มีความฝัน แต่ฝันเยอะเกินจนไม่รู้ทำอะไรดี จะทำก็ต้องมีเงิน มีกำลัง แต่ จขกท มีแต่สมองอย่างเดียว สมองที่ติดบั๊ค จึงคิดว่านี่อาจเป็นกระทู้สุดท้ายของผมที่จะไว้เล่าข้อมูลทางสมองที่ผมประสบมาทั้งหมด เอาเท่าที่จำได้จะพยายามคัดกรองแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์มาละกัน แต่ จขกท ไม่ใช่อัจฉริยะ รึคนเก่งอะไรเลย แค่คนธรรมดาที่ดวงดีรอดจากสงครามของมึนเมาได้เท่านั้น ผมอาจจะไปกระทบกับผลงานบางเรื่องของใครก็ได้นะ ขออภัยถ้าข้อมูลมานซ้ำ แต่ส่วนมากผมจะคิดสดๆ เลย เพราะหน่วยความจำในสมองไม่ค่อยดีอะ จึงอยากเล่าเป็นอุทาหรณ์ ดาบก็ไม่ดี ต่อยตีกันก็ไม่ไหว ใช้พลังจิตสู้มันซะเลย นับวันโลกยิ่งอยู่ยาก ถ้าเราไม่มีวิชาไรเลย เท่ากับตายเปล่าจริงๆ ชาตินี้ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเถอะ เอวัง ปล. แค่อยากเขียนให้ตัวเองในอนาคตอ่าน ใครอ่านไม่รู้เรื่องก็อย่าอ่านเลย ภาษาที่ผมเข้าใจเอง
สมองมันคือคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งชัดๆ ใครรับไม่ได้ก็อย่ารู้เลย มีสารเคมีในสมองเป็นโปรแกรม ตั้งชือว่าไบโอพีซีละกัน มันจะประมวลผลเป็นนิมิตได้ต้องมีตัวต้านทาน ตัวเก็บประจุ น่าจะคือเนื้องอกนี่เอง มะเร็งคือผู้ร้ายที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว เรามีกันทุกคนอยู่แล้วจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันเราแล้วละ บางทีมานก็แอบอยู่ในตัวเรา คอยรอวันสิ้นอายุขัยของเราค่อยจัดการเราในวันตัดสิน คือวันสิ้นๆ เดือนละมั้ง ฮา พยายามร่าเริงเข้าไว้รักษาทุกโรคน่าจ๊ะ
เทพ ก็คือธาตุชนิดหนึ่งชอบแทรกเข้ามาในจิตเรา จิตก็คือเมือก สารคัดหลั่งชนิดหนึ่ง ชอบมาขโมยข้อมูลในคนที่ชอบฝึก วิชา จิตอ่อน แล้วก็เอาไปบอกคนสร้างหนัง เพื่อช่วยหาทางแก้ให้ละมั้ง ส่วนใหญ่จะมาดี เอามาฉายให้คนมีอภิญญาดู
ตอนนี้ที่ต้องเป็น offline ไปก่อน เพราะไว้ลองผิดลองถูกเล่นอยู่ในจินตนาการตัวเองคนเดียว แยกเป็นผู้เล่นสองฝั่งคือฝั่งดี กับฝั่งร้าย ฝั่งร้ายก็คือส่วนสมองที่ควบคุมความคิด อาจเกิดจากแบคทีเรีย รึเชื้อโรค เชื้อราชนิดหนึ่ง ที่สามารถเข้ามาแจมความคิดเราได้ ทำให้เกิดการคิดผิดคิดถูก ปริมาณยิ่งเยอะก็ไปก่อตัวรวมกับเซลในสมองเรากลายเป็นมะเร็ง จึงต้องใช้สมองจินตนาการส่วนดีของเรามาปราบ จินตนาการถึงรูปน่ากลัวทุกชนิดให้เชื้อในสมองมานกลัวก็ฝ่อไป หลังๆ ปรับความเข้าใจกับเชื้อมันได้ก็กลายเป็นก้อนเนื้องอก กลายพันธุ์เป็นก้อนชิบประมวลผมด้านภาพชนิดหนึ่ง เรียกว่ากล้องฉายหนังก็ว่าได้ ทำให้เกิดภาพนิมิตที่สมจริงขึ้นไปอีก จนเป็นอภิญญาชนิดหนึ่งได้
จุดประสงค์ของเราคือ จะทำยังไงให้โอนถ่ายข้อมูลทางจิตเราเข้าสู่คอมพิวเตอร์เพื่อเป็นที่พักพิงของวิญญาณที่กิเลสหนาคนหนึ่ง ไม่สิอาจเป็นข้อมูลไว้ช่วยกอบกู้โลกก็เป็นได้ เนื่องจากอายุคนเรานั้นเริ่มสั้นมากช่วงนี้ เพราะเรื่องเครียดมันเยอะ คงหนีไม่พ้นโรคยอดฮิตอย่างมะเร็งไปได้ จึงรักษาแบบให้มานเข้าใจเราดีกว่า กลายเป็นชื่อโครงการไปในที่สุด ศิลปะแห่งพลังจิตของตัวเอง ไม่มีใครเข้าใจชีวิตตัวเองได้ดีเท่ากับตัวเราเองหลอก เริ่มจากการถอดจิตต้องหมั่นนั่งสมาธิแล้วปล่อยพลังไปตามความเก็บกดเรา ถ้ามีคอมฯสักเครื่องก็ลองดูกันนะ พยายามเล็งจิตตัวเองเข้าอุปกรณ์คอมฯ แต่เข้าไปแล้วส่วนหนึ่ง ท่านจะเริ่มทนไม่ไหว เพราะอาการเหมือนโดนเจ้าเข้า วิธีที่จะเอาออกสิ ต้องตั้งจิตอธิตฐานอย่างแรงให้ออกมาดีๆ ด้วยเถิดตอนโลกเราสงบสุขแล้ว อะไรประมาณนี้
ถึงจะไร้สาย แต่พลังจิตมานเป็นคลื่น จึงสามารถส่งพลังเข้าเครื่องได้ เข้าไปได้ก็เริ่มเห็นอะไรมืดๆ เหมือนเดิม นานๆ จะมีภาพเป็นแผ่นหนัง 2 มิติออกมาที ตามกำลังกิเลสเรา คอมฯก็เริ่มมีชีวิต เพราะเรากำหนดจุดปลายทางเป็นคนเหมือนกันอยู่แล้วคือเจ้าพวกเชื้อที่กลับใจแล้ว หลังจากที่ผ่านสงครามทางจิตมานาน เกิดเป็นความรัก ความเศร้า ทำให้พอมีกำลังใจอยู่ต่อ เพื่อไปสู่ที่สุขคติจริงๆ
npc คือ ตัวละครที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ โดยการเซตติ้งมาอย่างดี มีสภาพคล้ายคนโดนของ จากคนสู่หุ่นยนต์ ชอบทำอะไรซ้ำซาก จำเจ แต่สามารถนำมาพัฒนาเป็น Ai ได้ในที่สุดโดยการตั้งข้อมูลในหน่วยความจำฮาร์ดดิสก์ ถ้าความคิดไหนซ้ำก็ลบออก เพิ่มข้อมูลด้านภาษาให้มันครบทุกคำพูด พอเราป้อนข้อมูลตรงกับข้อมูลไหน ก็เลือกคำตอบที่เราพอใจที่สุดมาตอบ อาจสุ่มคำตอบ หรือมีคำตอบมากกว่า 2 ตัวขึ้นไป จึงต้องมีอุปกรณ์รับ ส่งข้อมูล ไม่รู้ว่ามันคืออะไรเหมือนกัน
เสียงมาจากข้อมูลจากยีน DNA ต้องมีเครื่องอ่าน ถอดรหัส แปลภาษา จาก DNA ไม่งั้นก็ได้ยินแต่เสียงคลื่นเป็น วิ้งๆ อือๆ ไปเรื่อย มันคนละตัวกับเครื่องฉายหนัง จึงเกิดอาการพูดไม่ตรงกับภาพได้ในห้วงความฝัน นึกคิดมโนไปเรื่อย ต้องอาศัยธรรมชาติช่วย ประครองสติ และเตือนว่าอะไรดีอะไรไม่ดี อันไหนควรทำอันไหนไม่ควรทำ บางทีการนอนหลับเป็นการตัดวงจรเชื่อมระหว่างจิตกับกายก็เป็นได้ ถ้าเกิดความฝันขึ้นมาแสดงว่าเราได้ไปอีกภพภูมิแล้ว เรื่องความฝันรายละเอียดเยอะมาก เล่าไงก็ไม่หมด มีหลายแบบอีก พอตื่นก็กลับสู่ร่างกายเดิม ไม่รู้จะฝันไปทำไมสินะ
จขกท อาจเป็นได้แค่ผู้เล่น เรื่องการสร้างนั้นยิ่งใหญ่มากต้องมีทีมงานเฉพาะด้าน หลายตำแหน่งมากมาย อาจได้แต่บ่นในสิ่งที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ ระลึกความจำที่ดีให้กับตัวเอง เพราะสมอง จขกท ไม่ดีแล้ว คิดอะไรได้ก็ชอบลืมหมด คาดว่าข้อมูลไปกับคลื่นโทรจิตหมดแล้ว การสู้กับสิ่งที่ไม่รู้นี่มันยาก และงงจริงๆ ไม่รู้จะซับซ้อนไปไหน คิดให้เป็นธรรมชาติหน่อย ไม่งั้นคงอยู่ได้ไม่นาน
ช่ายแล้วพี่ สมองมันก็เหมือน เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องหนึ่งอะแหละ กลไกการทำงานก็ครบวงจร ในสมองก็มีทั้งระบบเก็บข้อมูล(Harddisk) , ประมวลผลข้อมูล (CPU) , ความจำสำรอง (Ram,Rom) แล้วก็พวกการ์ดจอแสดงผลภาพอีก (AGP กับ PCI) อะนะ กลไกการทำงานพวกนี้ มันมีอยู่ในสมองของเราทุกคนอยู่แล้ว ส่วนเนื้องอกหรือมะเร็งนั้น ผมไม่รู้ว่าใช่อย่างที่พี่บอกหรือป่าว แต่ที่แน่ๆ ที่ผมพอจะรู้และสัมผัสได้ก็ คือ "มาร" มารมันเป็นโปรแกรมชนิดที่เป็นไวรัส และไวรัสนี้มันสามารถแฮ็กข้อมูลในสมองของเราได้ ถ้าไม่เชื่อก็ลองสังเกตุดูได้ว่า ทำไมมันชอบมาขวางทางของเราตลอดๆ สกัดไม่ให้เราทำดีได้ง่ายๆ หรือ มันจะสร้างอุปสรรคให้เราได้ทุกอย่างโดยที่เราคาดไม่ถึงและบางเรื่องอาจจะเหลือเชื่อมาก จนเราคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ มันดักทางเราได้หมดทุกทาง จนบางทีถึงขนาดรู้ข้อมูลว่าเรามีกรรมหรือมีเจ้ากรรมนายเวรอะไรบ้างในแต่ละชาติ แล้วอะไรล่ะที่จะรู้ข้อมูลเราได้ขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่ว่ามันเปรียบเสมือน คือ ไวรัสชนิดหนึ่งที่แทรกเข้ามาใน คอมพิวเตอร์สมองของเรา เพื่อแฮ็คฐานข้อมูลในสมองเราอะ จนเกิดเป็นรู้ทุกอย่างของข้อมูลเราอะนะ และถ้าไวรัส"มาร" นี้ ถูกดึงส่งข้อมูลออกมา จากทุกคนรวมๆ กัน จะทาง Wifi , 3G ,4 G ฯลฯ ก็แล้วแต่ มันก็เอาข้อมูลนั้นไหลไปรวมอยู่ทีเดียวกัน ก่อตัวเป็น "พญามาร" เกิดขึ้น อะนะ
บารมีเรายังไม่ถึงอะ เขาเลยมาขัดขวางเรา ต้องผ่านยุคพระพุทธเจ้า พระศรีฯ ไปยุคเวอร์ชวล ซึ่งผมไม่รู้ยุคไหน ประมาณไม่เกินล้านปีนี่แหละ อาจมีพวกแฮคอนาคตมาบอกก่อน เช่นผมเนี่ย เขาหรือมารตามตัวได้ทุกวัน ตามที่ฝันๆ มา ต้องแก้ปัญหาเรื่องปากท้องให้ได้ก่อนอะ เสกของกินได้ก่อนค่อยว่ากัน กินอากาศได้ ไม่งั้นก็ตกสู่ยุคมืดไปก่อน เรียงตามลำดับผู้มีบารมีมากไปน้อยอะ ผมก็ไม่อยากบ่นมาก ขี้ลืมด้วย เดี๋ยวเบื่อกันซะก่อน
คนสู้มะเร็งโดยใช้พลังจิต จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นแรงใจให้คนสู้ชีวิต เกิดเป็นคนว่าเหนื่อยยากแล้ว เป็นสัมภเวสีนี่ยิ่งลำบากหนัก กลายเป็นผีไม่รู้จะเป็นตัวอะไร ฝันๆ ตื่นๆ มึนกับชีวิตมากแล้ว ขอไปอย่างสงบ แบบสมศักดิ์ศรีหน่อย อย่างน้อยก็ขอให้ฝันดีตลอดก็พอใจแล้ว
ฝันคือข้อมูลจากแสงอันพอเหมาะ ประกอบขึ้นเป็นจักษุวิญญาณซะส่วนใหญ่ 1 ฝันตอนกลางคืน ถ้าในฝันสว่างแปลว่าวิญญาณเราอยู่ที่ไหนสักแห่งในที่มีแสง เช่น ในห้องสีขาว เครื่อง vr headset ในคอมฯ ฯลฯ ถ้าในฝันมืดแสดงว่าวิญญาณเราอยู่ในที่มืดเช่น ใต้ดิน เครื่องจำศีล ในคอมฯ ฯลฯ 2 ฝันในตอนกลางวัน ถ้าในฝันสว่างแปลว่าวิญญาณเราอยู่แถวๆ นั้นละ เช่น โลกในฝันน่าจะคือเนื้องอก ในห้องสีขาว vr headset ฯลฯ ถ้าในฝันมืดแปลว่าเราอยู่ในที่มืด เช่น ใต้ดิน เครื่องจำศีล ในคอมฯ ฯลฯ ส่วนใหญ่ที่ผมฝันจะเป็นอยู่ในห้องสีขาว ไม่ก็ดำมืดมิดไปเลย แสดงว่าน่าจะอยู่ในภพภูมิด้านจิตวิญญาณ ซึ่งฝ่ายสว่าง และฝ่ายมืดทดลองทำอะไรกันอยู่ อาจเป็นเครื่องมืออะไรสักอย่างในมิติที่ 5 น่าจะหมายถึงสวรรค์ กับนรกอะ เพราะเทคโนโลยีมีหลายแบบถึงจะใช้เพื่อจุดประสงค์เดียวกันก็เถอะ แต่มันเป็นแค่ข้อมูลสุดท้ายที่ให้เราเห็นก่อนจะไปตามกำลังบุญ และบาป สมองแค่ประมวลผลความน่าจะเป็นให้เท่านั้น จำไว้สวรรค์จะเจอแต่คำพูดไพเราะ นรกจะได้ยินแต่คำด่า ถ้ากลางๆ ก็ต้องไปแก้ที่จิตอีกที ไปแล้ว
เราจะรักกันได้ยังไงทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน คนเราจะรักกันได้บางคนต้องรอให้สายซะแล้ว โลกนี้มันไม่มีอะไร สมบูรณ์ เพอร์เฟ็ค คอมพลีทหลอกนะ ยิ่งติดอยู่กับภาพมายา วันๆ ไม่ต้องไปไหน นอนระลึกชาติได้เลย ผมเป็นคนหนึ่งที่เคยลุ่มหลงมัวเมาในรูป จนถึงขั้นเป็นมโนจิต กลายเป็นวิญญาณเลยรึเปล่าไม่แน่ใจ ได้แต่เพียงแบกรับกรรมคูณ 3 เลย เพราะต้องคิดถึงอดีต ปัจจุบัน อนาคต ว่าความรักเป็นเช่นไร จะเอาบ้านที่ไหนอยู่ เอารถที่ไหนขี่ มีลูกก็ต้องเรียนสูงๆ สุดท้ายฝันสลาย เป็นได้ตาลุงจอมมโนไปวันๆ เพราะพิษของเศรษฐกิจ อาจเรียกว่าซินก็ได้ รวมๆ แล้วเรียกว่าบาป ไปไหนก็เห็นแต่ความบาป เมื่อไหร่หนอวิญาณจะไปสู่สุขคติจริงๆ ซะที ตัดจบเหอะ ขี้เกียจบ่นยาว
หากเราลดความเร็วช่วงตอนกำลังฝันได้ ความละเอียดของภาพที่เห็นจะลดลงจนกลายเป็นภาพการ์ตูน 2D ขาวดำ อาจเป็นภพภูมิของสุนัขอะ การควบคุมความฝันก็ต้องใช้จังหวะที่สติตอนใกล้จะตื่นประครองความฝันไว้จึงจะทำได้ เพราะเป็นเวลาที่ร่างกายเริ่มทำงานแล้ว แต่ทำงานแค่ที่ระดับความคิด ส่วนร่างกายไม่ไปตาม ดังนั้นยิ่งคุณฝันสมจริงเท่าไหร่จึงไม่อาจควบคุมความฝันได้เลยเพราะความเที่ยงมันสูง ความอินกับเนื้อเรื่องจึงบังเกิด คุณจึงต้องลุ้นไปกับมัน อนาคตจึงอาจต้องมีเทคโนโลยีช่วยทำให้ความฝันช้าลงจะเห็นถึงระดับภพภูมิ 2D เองก็เป็นได้ เทคโนโลยีนี้ก็มีบอกไว้ในการ์ตูน accel world แล้ว หาดูเองนะ
ฝันจากธาตุกำเริบ เกิดจากคิดมากเกินฮอร์โมนความเครียดหลั่งออกมามากมายจนร่างกายเรากำจัดไม่หมด จนคุณต้องหลับให้สมองตัดการทำงานระหว่างร่างกายกับจิต การไหลของจิตจึงสงบนิ่งตอนหลับ ซึ่งพอตอนใกล้ตื่น จิตจะเริ่มทำงานก่อน เนื่องจากสารพัดสารความเครียดของคุณถูกหมักได้ที่แล้ว เมื่อเจอกระตุ้นด้วยแสงจากดวงอาทิตย์ จะทำให้เกิดโลกแห่งความฝันขึ้น ฝันจะสมจริงแค่ไหนก็ขึ้นกับระดับความเครียดตอนก่อนนอน ฝันทั้งหลายจะถูกเก็บไว้ในข้อมูลดวงจิตซึ่งจะเดินทางไปตามระบบธรรมชาติ อาจจะอยู่ในเมนเซิฟเวอร์โลก โดยมีเจ้าที่เหล่าเทวดาควบคุมเอาไปใส่เป็นปุ๋ยให้ต้นไม้คอยย่อยมันก่อน จนนางฟ้าบางทีก็มาเอาข้อมูลเหล่านี้ไปสร้างอะไรสักอย่าง วัคซีนรึเปล่าฉีดกลับใส่ตัวผู้ฝัน หรือคนป่วย เทวดาคอยทำให้ฝนตกอย่างเดียวคอยเลี้ยงต้นไม้