พระกษิติครรภโพธิสัตว์

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย phuang, 1 สิงหาคม 2005.

  1. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,043
    <TABLE borderColorDark=#f3f3f3 width="80%" borderColorLight=#f3f3f3 border=1><TBODY><TR bgColor=#6699ff><TD class=white10bc width="100%">Religion : พระกษิติครรภโพธิสัตว์</TD></TR><TR><TD style="MARGIN-LEFT: auto; WIDTH: 99%; COLOR: #000000; MARGIN-RIGHT: auto" width="100%" bgColor=#ffffff>
    [​IMG]
    กษิติครรภ - โพธิสัตว์ โพธิสัตว์องค์หนึ่งในพระพุทธศาสนานิกายมหายาน เป็นพระโพธิสัตว์ที่มีผู้นับถือกันมากในประเทศจีน ญี่ปุ่น และญวณ จีนเรียกว่า ตี้จังพู่สะ ญี่ปุ่นเรียกว่า ยีโซ ญวนเรียกว่า เดียต่างโบต๊าก ในอนัมนิกายประเทศไทยเรียกโดยอนุโลมว่า พระมาลัย ในพิธีกงเต็กจะขาดฉากรูปพระกษิติครรภไม่ได้ ฉากรูปนี้จะประดิษฐานอยู่บนโต๊ะบูชาโต๊ะหนึ่งในพิธีมณฑลเพราะพระกษิติครรภ ทรงดับทุกข์ของผู้ที่ถูกทรมานอยู่ในเมืองนรก รูปของพระองค์เป็นหลวงจีนหนุ่มทรงกรอบหน้าเป็นรูปคล้ายใบไม้ห้าแฉก อันเป็นเครื่องหมายของพระโพธิสัตว์เสด็จอยู่เหนือแท่นคล้ายบุษบก ทรงไม้เท้ามีวงแหวนเรียกว่า ขักขระ ข้างล่างมักมีรูปชายแก่อยู่ข้างหนึ่ง อีกข้างหนึ่งเป็นรูปหลวงจีนหนุ่ม
    ตามประวัติของพระโพธิสัตว์องค์นี้ว่าเดิมมารดาของพราหมณีคนหนึ่งกล่าวผรุสวาจต่อพระไตรรัตน์ เมื่อตายไปก็ตกนรก พราหมณีผู้บุตรีประสงค์จะช่วยมารดาให้พ้นทุกข์ ได้ไปบูชาพระปฏิมากรพระพุทธเจ้าแต่ปางก่อนเป็นนิตย์ทุกวัน วันหนึ่งนางได้ยินเสียงแว่วบอกว่าให้ไปบ้าน และภาวนาระลึกถึงพระพุทธเจ้าแต่ปางก่อน นางทำตาม ขณะภาวนาระลึกถึงพระพุทธเจ้า ทันใดวิญญาณของนางก็ออกจากร่างไปถึงฝั่งมหาสมุทรได้เห็นสัตว์ร้ายตัวเป็นเหล็ก บ้างบินบ้างเดินอยู่ในมหาสมุทรในมหาสมุทรมีมนุษย์หญิงชายว่ายเวียนวนอยู่มากมาย ถูกสัตว์ร้ายตัวเหล็กโฉบกัดอยู่เสมออาศัยพุทธานุภาพ นางมิได้ตระหนกตกใจขณะนั้นมีอสูรตนหนึ่งมาไต่ถามว่านางมาที่นี่ทำไมเพราะที่นี่เป็นเขตสุดของจักรวาล มีภูเขากั้นไว้โดยรอบนางตอบว่าจะไปเมืองนรกแล้วถามว่า ผู้ที่ได้รับทุกข์อยู่ในทะเลคือใครอสูรตอบว่า พวกมนุษย์ทำบาป เมื่อตายไปพ้น 55 วัน ไม่มีใครทำบุญอุทิศผลให้ ก็จะถูกลงโทษรับทุกข์ทรมาน ณ ที่นี้ เมื่อนางถามถึงมารดาว่าอยู่ที่ไหน อสูรตอบว่าด้วยอำนาจกุศลอันสำเร็จด้วยการภาวนาและการบูชาของนางเป็นเหตุให้มารดาของนางพ้นทุกข์ออกจากนรกไปเสวยสวรรค์แล้ว แต่นางได้เห็นสัตว์ในนรกเป็นอันมากได้รับทุกข์ทรมานอย่างน่ากลัว ก็บังเกิดความสังเวช ตั้งปณิธานว่าจะขอบำเพ็ญกุศลไปทุกกัลป์ เพื่อช่วยสัตว์เหล่านี้ให้พ้นทุกข์ ต่อมาพราหมณ์กลับชาติเกิดเป็นชาย แล้วได้เป็นโพธิสัตว์มีนามว่า กษิติครรภหรือตี้จัง และได้เป็นใหญ่ในเมืองนรก แต่ไม่ต้องการลงโทษทรมานสัตว์บาป กลับซ้ำจะเป็นผู้เปิดทางแก่สัตว์นรก ที่รู้สึกสำนึกบาปแห่งตนให้พ้นจากนรกไป เพราะฉะนั้นการตัดสินลงโทษในนรกจึงตกแก่บดีสิบขุมนรก เป็นผู้ตัดสินและลงโทษสัตว์นรก (ดูกงเต็ก) กษิติครรภแปลว่า ห้วงดิน หรือ ห้องดิน คำตี้จังในภาษาจีน ก็แปลความเดียวกัน เพราะฉะนั้นพระตี้จัง จะต้องเป็นใหญ่ในนรก เพราะนรกอยู่ลึกลงไปในห้องใต้ดิน
    [​IMG]
    ประวัติพระตี้จังอีกประวัติหนึ่ง ซึ่งไม่เหมือนกับเรื่องที่เล่าข้างต้น ว่าพระตี้จังเป็นโอรสพระเจ้ากรุงเซียมหลอ (สยาม) มีนามตามแซ่หรือสกุลว่า กิมและมีฉายาว่าเกียวก้กเมื่อ พ.ศ.1297 ท่านผู้นี้สละโสดออกบรรพชาแล้วจาริกไปประเทศจีน ได้ลงเรือไปตามลำน้ำยางจื๊อเกียง ถึงตำบลเกาฮั่วซัวก็หยุดและเข้าณานบำเพ็ญภาวนา ณ ที่นั้นอยู่ถึง 75 ปี จึงบรรลุโพธิญาณและสิ้นสังขาร แต่ร่างกายไม่เปื่อยเน่า บนหลุมฝังศพมีเปลวเพลิงแลบขึ้นมาทั่ว แสดงให้เห็นว่าพระตี้จังลงไปช่วยเปลื้องทุกข์ของสัตว์ในนรก
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. โอมพุทโธกิเตศวร

    โอมพุทโธกิเตศวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    140
    ค่าพลัง:
    +198
    ..............................เคยขอบารมีท่านช่วยคนจากนรก
    .............แต่เพราะคนๆนั้น สร้างกรรมดี และบุญน้อย....ไฟนรกดับชั่วครู่และเขาก็ถูกดูดลงไปใหม่

    .............เป็นการตอกย้ำว่า........." บุญบารมีไม่สร้าง แล้วใครที่ไหนจะมาช่วยเจ้า "

    ซึ่งเป็นคำกล่าวแห่งญาณบารมีสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) พรหมรังสี ไว้จริงๆ
     
  3. lotte

    lotte เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    725
    ค่าพลัง:
    +4,545
    อานิสงค์การเอ่ยพระนามพระกษิติครรภ์

    นอกจากพญายมและยมฑูตจากแดนนรกแล้ว จ้าวแห่งปีศาจพร้อมด้วยเหล่าบริวารภูตผีใหญ่น้อย ซึ่งสิงสถิตอยู่ในโลกียโลก เป็นต้นว่า จ้าวแห่งอสูร จ้าวแห่งมายา จ้างแห่งโรคภัย จ้าวแห่งตัณหา จ้างแห่งมหันตภัย จ้าวแห่งความหายนะ ฯลฯ ทั้งหมดนี้ก็ล้วนได้รับพระพุทธานุญาติและพระกรุณาธิคุณจากพระกษิติครรภโพธิสัตว์ ให้ขึ้นมาร่วมชุมนุมสดับฟังพระธรรมเทศนาด้วยขณะนั้นพวกเขาต่างยืนสงบนิ่งและสำรวมกายอยู่อีกด้านหนึ่งของที่ประชุม

    ครั้นแล้วหนึ่งในจำนวนพญยมจากแดนนรกได้ก้าวออกมาคุกเข่าพนมมือกราบทูลพระพุทธองค์ว่า
    "ข่าแต่องค์สมเด็จพระผู้พิชิตมาร ในโอกาสที่เหล่าข้าบาทพร้อมด้วยบริวารทั้งหลายได้รับพระเมตตาบารมีจากพระองค์ให้มาร่วมสดับฟังพระธรรมเทศนาในแดนสวรรค์นี้ ก็ใคร่กราบทูลขอพระองค์ได้ทรงโปรดไขแสดงข้อปุจฉาของข้าบาทด้วย ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาเถิดพระเจ้าข้า"
    องค์พระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงตรัสว่า " ท่านสงสัยในข้อธรรมอันใดจงถามมาเถิด...เราอนุญาต"
    ขณะนั้นพญายมได้พนมมือกราบทูลถามด้วยใจอันนอบน้อมว่า "ข้าแต่พระจอมมุนี ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าบาทได้พบเห็นพระกษิติครรภโพธิสัตว์ใช้วิธีต่าง ๆ นานาฉุดช่วยสรรพสัตว์ที่หลงอยู่ในอบายภูมิทั้ง 6 โดยมิได้ทรงย่อท้อหรือหวั่นเกรงต่อความเหน็ดเหนื่อยทุกข์ยากเลย"

    "แต่ทว่าเมื่อสรรพสัตว์เหล่านั้นเขาถูกปลดปล่อยออกจากนรกภูมิมาได้ไม่นานก็กลับตกล่วงลงสู่ทางแห่งอบายภูมิอีก ข้าแต่พระตถาคตเจ้าด้วยอิทธิฤทธิ์อันสูงส่งและล้ำเลิศของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ เหตุไฉนจึงไม่อาจทำ
    ให้ปุถุชนทั้งหลายในโลกียโลกยอมหันมาประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อจะได้ออกจากห้วงทุกข์โดยสิ้นเชิงพระเจ้าข้า ?"
    พระพุทธองค์ทรงตรัสตอบว่า "นับเป็นเวลาหลายอสงไขยกัปป์แล้ว ที่พระกษิติครรภโพธิสัตว์สู้อุตส่าห์ค้นหาวิธีการต่าง ๆ มาฉุดช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลายให้พ้นจากห้วงแห่งบาปกรรมเสียแต่เนิ่น ๆ โดยที่ท่านจะพยายามชี้แนะตักเตือนให้ทุกคนได้รู้สึกสำนึกถึงเรื่องบาปเวร ตั้งแต่ตอนที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่"

    "แต่ทว่าสรรพสัตว์ในโลกส่วนใหญ่มีจิตใจที่แข็งกระด้างและยากที่จะสยบโดยเฉพาะสันดานชั่งที่พวกเขาได้พอกพูนสะสมไว้ มันหนาแน่นเหลือเกิน
    เพราะฉะนั้นคนเหล่านี้จึงประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย ประเดี๋ยวเข้า ประเดี๋ยวออก เฝ้าวน ๆ เวียน ๆ อยู่แต่ในเขตอบายภูมิไม่เคยห่าง เหตุนี้เองจึงทำให้พระกษิติครรภโพธิสัตว์ต้องเหนื่อยยากลำบากในการฉุดช่วยสรรพสัตว์ครั้งแล้วครั้งเล่า อย่างมิได้หยุดหย่อน เปรียบได้กับถ้ามีผู้หลงเช้าไปหนทางที่มืดมิดระหว่างทางจะต้องเผชิญกับเหล่าปีศาจและสัตว์ร้ายมากมาย
    เมื่อคนมีจิตใจเมตตาอารีพบเข้า ก็จะบอกแก่เขาว่า "ทำไมท่านจึงจะก้าวเดินเข้าไปในเส้นทางที่เต็มไปด้วยภัยอันตรายเล่า? แล้วตัวท่านจะสามารถหลบหลีกอันตรายเหล่านั้นได้หมดหรือ?"

    หากคนซึ่งกำลังเดินหลงทางได้ยินแล้วสำนึกได้ว่า หนทางที่มืดและเต็มไปด้วยภัยอันตรายนั้นไม่น่าเดินเลยเช่นนี้แล้วคนผู้มีใจเมตตาอารีก็จะนำทางให้พวกเขาออกไปสู่เส้นทางที่สว่างและปลอดภัย พร้อมกับตักเตือนว่า
    "ต่อไปพวกท่านจงอย่าเดินทางนี้อีกเลย

    หากท่านหวนกลับไปใช้เส้นทางเดิม ก็จะหาทางออกไม่ได้ และได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต
    ถ้าญาติพี่น้องของท่านคนใดจะเดินเข้าไปสู่เส้นทางมรณะนั้น ก็จงบอกกล่าวตักเตือนและอย่ายอมให้เขาเดินต่อไปอีกเลย"

    วิญญาณบาปทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน หากพวกเขาได้รู้ซึ้งถึงความทุกข์ยากในนรกเมื่อได้รับการปลดปล่อยออกมาแล้วก็มีจำนวนไม่น้อยเลยที่ไม่อยากตกลงสู่อบายภูมิอีกเปรียบเสมือนคนหลงทางที่ได้พบผู้ใจบุญมาชี้แนะนำพาแล้ว เขาก็จะไม่กลับไปเดินในเส้นทางอันตรายอีก
    นอกจากนั้นหากได้พบเพื่อนฝูง ญาติพี่น้องอันเป็นที่รัก เขาก็จะรีบกล่าวตักเตือนทันที ทั้งนี้เป็นเพราะตัวเขาเองได้เคยหลงเดินทางนั้นมาก่อนแล้วนั่นเอง

    อนิจจา.....ช่างน่าสังเวชเหลือเกิน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อคำเตือนของผู้มีจิตเมตตาไม่ต่างอะไรกับการที่พระกษิติครรภโพธิสัตว์ได้พยายามทำทุกวิถีทางจนสามารถปลดปล่อยสรรพสัตว์ทั้งหลายให้หลุดพ้นจากความทุกข์ยากได้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังดื้อรั้นโอหังอวดดีไม่ยอมเชื่อฟัง ต่างพากันตั้งอยู่ในความประมาทเป็นเหตุให้อีกไม่นานต่อมาต้องถลำลึกตกลงสู่นรกภูมิ จนไม่มีวันจะได้ผุดได้เกิดอีก"

    ในขณะนั้น จ้าวแห่งปีศาจตนหนึ่ง ได้พนมมือขึ้นกราบบังคมทูลพระพุทธองค์ว่า "ข้าแต่พระตถาคตเจ้าเหล่าข้าบาทพร้อมด้วยบริวารทั้งหลายซึ่งอยู่ในโลกียโลกบางเหล่าก็สร้างคุณประโยชน์แก่มนุษย์ บางเหล่าก็ให้โทษต่อมนุษย์ทั้งนี้เนื่องด้วยบุญกุศลกรือบาปกรรมที่พวกเขาทั้งหลายได้ก่อขึ้น
    เหล่าข้าบาทได้ตระเวนไปทั่วสาระทิศ แต่ก็ต้องพบกับการกระทำที่เลวทรามต่ำช้าของพวกมนุษย์ มากกว่าที่จะได้พบเห็นสิ่งดีงาม

    แท้จริงแล้ว หากเมื่อใดก็ตามที่พวกข้าบาทได้พบเห็นผู้คนในบ้านเรือนไหนทำความดี แม้ว่าจะเป็นความดีเพียงขั้นพื้นฐาน อย่างเช่น การจุดธูปประทีป หรือถวายภัตตาหารเจและดอกไม้แด่รูปเคารพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าพระองค์ใดหรือแม้แต่มีจิตศรัทธาสวดมนต์ภาวนาเพียงไม่กี่คำ เมื่อนั้นพวกข้าบาทและเหล่าภูตผีทั้งหลาย ก็จะให้ความนับถือบุคคลผู้นั้นเหมือนดังที่เราเคารพบูชาองค์พระพุทธะเช่นเดียวกัน ยิ่งกว่านั้นตัวข้าบาทเองยังจะบัญชาให้สมุนบริวารภูตผีทั้งหลายไปคอยปกป้องคุ้มกัน มิให้โรคภัยไข้เจ็บและสิ่งอัปมงคลเข้าไปกร้ำกรายในเขตบ้านเรือนของบุคคลผู้นั้นโดยเด็ดขาด เช่นนี้แล้ว ไฉนเลยพวกมนุษย์กลับจะมากล่าวหาว่าเหล่าข้าบาทเข้าไปเที่ยวระรานรังควานผู้คนถึงในบ้านโดยไร้เหตุผล"

    องค์สมเด็จพระบรมศาสดาได้ทรงตรัสแก่จ้าวแห่งภูตผีตนนั้นว่า "ดีแล้ว....ที่พวกท่านและบริวารได้ช่วยกันปกป้องเกื้อหนุนมนุษย์ที่ประพฤติดีปฏิบัติชอบทั้งหลาย เราจะกำชับให้พระยามารสอดส่องดูแลเอาใจใส่พวกท่านด้วย"

    เวลานั้นในที่ประชุม ท้าวเวสสุวรรณได้กราบบังคมทูลต่อพระพุทธองค์ว่า " ข้าแต่พระบรมโลกนาถเจ้า อันตัวข้าบาทนี้แม้จะมีหน้าที่ดูแลติดตามบัญชีวิญญาณของคนเกิดคนตายแล้วก็ยังอยากจะเกื้อหนุนอำนวยประโยชน์แก่พวกเขาด้วย แต่ช่างน่าเสียดายที่ปุถุชนในโลกียโลกไม่เข้าใจความปรารถนาดีของข้าบาท จึงทำให้พวกเขาต้องปราศจากความสุขทั้งในยามที่มีชีวิตอยู่และเมื่อตายไปแล้ว"

    ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าผู้ที่จะเกิดมาในโลกมนุษย์หากขณะที่มารดากำลังตั้งครรภ์อยู่ได้ทำบุญสร้างกุศลเอาไว้ ก็จะเป็นการเพิ่มบารมีธรรมและอำนวยความสมบูรณ์พูนสุขให้แก่ครอบครัว
    ประการสำคัญจะส่งผลให้บรรดาเทพพรหมพระภูมิเจ้าที่ บังเกิดเมตตาจิตมาคอยปกปักษ์รักษาทั้งแม่และลูกทำให้ทุก ๆ คนในบ้านพลอยได้รับความคุ้มครองไปด้วย

    เหตุฉะนี้บ้านเรือนใดมีทารกเกิดใหม่จงอย่าฆ่าสัตว์เอาเนื้อมาทำเป็นอาหารบำรุงมารดาและจงอย่าจัดงานเลี้ยงด้วยการกินเนื้อ ดื่มสุรา เต้นรำ ทำเพลงเพื่อฉลองวันเกิดโดยเด็ดขาด
    เพราะหากประพฤติเช่นนั้นจะทำให้ทั้งแม่และลูกที่เกิดมา ต่อไปภายหน้าชีวิตจะต้องปราศจากความสุข

    ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?....ก็เพราะในวันที่ทารกคลอดมักมีพวกภูตผีปีศาจ เปรตผีกระสือมากมาย ที่หิวกระหายและชอบกลิ่นคาวเลือดจะพากันมาคอยวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ
    แต่เพื่อที่จะปกป้องคุ้มครองมนุษย์ข้าบาทก็ได้ออกคำสั่งกำชับให้บรรดาเทพเบื้องล่าง ตลอดจนพระภูมิ เจ้าที่ทั้งหลายคอยคุ้มกันดูแลแม่และลูกให้ทั้งคู่ปลอดภัย
    เพราะฉะนั้นมนุษย์ทั้งหลายจึงสมควรสร้างความดี ทำบุญสุนทานให้มากเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจและขอบพระคุณต่อเทพยดาและพระภูมิเจ้าที่ในบ้านเรือนของตน
    แต่ช่างน่าอเน็จอนาถใจยิ่งนัก ที่พวกมนุษย์ทั้งหลายไม่เพียงแต่ไม่รู้จักสำนึกตอบแทนบุญคุณ ซ้ำร้ายยังฆ่าสัตว์ตัดชีวิตผู้อื่นเอาเนื้อมากินเลี้ยง ดื่มสุราร้องรำทำเพลงอย่างเมามายเป็นการฉลองด้วยบาปกรรมที่พวกเขาได้สร้างขึ้น จึงทำให้ตัวเอง ภรรยาและลูก ต้องพลอยมีหนี้สินบาปเวรติดตัวกันไปหมด

    ตลอดเวลาที่ผ่านมา ข้าบาทได้พบเห็นแล้วว่า โดยปกติมนุษย์ที่กำลังจะสิ้นใจ หากยามมีชีวิตอยู่เขาเคยสร้างทั้งกรรมดีและกรรมชั่วปะปนกัน ในขณะที่วิญญาณจะออกจากร่าง ก็จะมีพวกปีศาจ มาร อสุรกาย ปลอมแปลงเป็นบิดามารดาหรือคนที่ใกล้ชิดสนิทสนมรักใคร่มาลวงล่อให้วิญญาณของเขาผู้นั้นติดตามไปสู่อบายภูมิเพื่อเป็นพรรคพวกตน

    "ปุถุชนทั้งหลายในโลกเมื่อใกล้จะสิ้นใจ สติสัมปชัญญะของพวกเขาก็จะเลือนลาง อายตนะและประสาทสัมผัสก็จะดับวูบลง ไม่รับรู้แสงเสียงใด ๆ อีก
    ยามนั้นคนในครอบครัวของเขา ควรน้อมสักการะบูชาต่อพระพุทธปฏิมาพร้อมกับสวดภาวนาพระนามของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเคารพนับถือ
    ด้วยการกระทำอันประเสริฐยิ่งเช่นนี้ จะยังผลให้ดวงวิญญาณของผู้ที่ใกล้จะตายสามารถรอดพ้นจากการคุกคามของเหล่าภูตผีปีศาจและวิญญาณชั่วร้ายทั้งหลายซึ่งเฝ้าคอยจ้องจะจับเอาวิญญาณคนตายไปเป็นสมุนบริวาร
    ข้าแต่องค์สมเด็จพระบรมโลกนาถเจ้า อันบุคคลผู้ที่ใกล้จะสิ้นใจนั้น หากได้ยินพระนามของพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งหลายหรือได้สดับฟังบทสวดมนต์ด้วยจิตศรัทธา วิญญาณของบุคคลผู้นั้นก็จะไม่ต้องลงสู่นรกอเวจีและหากเป็นผู้ที่มีโทษทัณฑ์ติดตัวเพียงเล็กน้อยก็จะได้รับการปลดปล่อยเสียทันที....พระเจ้าข้า"

    พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสแก่ท้าวเวสสุวรรณว่า "ท่านได้มีเมตตาจิตคอยปกป้องและพยายามช่วยเหลือมนุษย์ที่หลงอยู่ในวัฏฏะสงสารมาแล้วถึงเพียงนี้ ต่อไปในภายหน้า ท่านจงช่วยเหลือผู้ที่กำลังจะสิ้นใจเหล่านั้น ให้ได้พบกับความสงบสุขในสัมปรายภพและจงรักษาปณิธานอันประเสริฐเช่นนี้สืบต่อไปอย่าได้ท้อถอยเลย"
    ท้าวเวสสุวรรณได้สดับฟังพุทธโอวาทแล้วจึงกราบทูลว่า "ขอพระพุทธองค์อย่าได้ทรงปริวิตกในข้อนั้นเลยพระเจ้าข้า ข้าบาทจะพยายามช่วยเหลือมนุษย์ทั้งหลายให้ถึงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในยามที่เขายังมีชีวิตหรือตายไปแล้วก็ตามเพื่อให้ทุกคนได้พบกับความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
    ขอแต่เพียงให้มนุษย์ทั้งหลาย ขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่ยอมรับฟังและปฏิบัติตามคำตักเตือนของข้าบาทเท่านั้น เช่นนี้แล้ว ...พวกเขาย่อมจะได้รับประโยชน์อย่างใหญ่หลวง และเมื่อตายจากโลกนี้ไป วิญญาณของพวกเขาก็จะเป็นอิสระอย่างแน่นอนพระเจ้าข้า"

    ครั้นแล้ว องค์สมเด็จพระบรมศาสดาได้ทรงหันมาตรัสแก่ พระกษิติครรภโพธิสัตว์ว่า "ท้าวเวสสุวรรณท่านนี้ ในอดีตเป็นผู้ที่เคยรักษาการณ์ในตำเหน่งพญายมมาทั้งนี้ก็เพื่อจะหกป้องคุ้มครองมนุษย์จำนวนมากมายมหาศาลที่ยังต้องเวียนว่าตายเกิดนี่คือ ข้ออธิษฐานบารมีของท่าน
    แท้ที่จริงท่านมิใช่จอมอสูร และนับจากนี้ไปเป็นเวลา 170 อสงไขย ท่านก็จะได้สำเร็จมรรคผลเข้าสู่พุทธภูมิ
    ดูก่อน...กษิติครรภโพธิสัตว์ อันความปรีชาสามารถของท้าวเวสสุวรรณนั้นลึกล้ำสุดจะหยั่ง และเหล่าเวไนยสัตว์ที่ท่านได้ฉุดช่วยมาแล้ว ก็มีจำนวนมากมายเกินกว่าจะประมาณได้เช่นกัน"

    โพธิสัตว์ ในกาลบัดนั้น องค์สมเด็จพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงชูพระหัตถ์ขึ้นฉายพระรัศมีออกเป็นฉัพพรรณรังสีแผ่รอบพระวรกาย ให้บังเกิดแสงเจิดจ้ากว่าดวงอาทิตย์นับแสนดวงสาดส่องไปทั่วปริมณฑลจนจบพิภพ และแล้วพระบรมโลกนาถเจ้าจึงทรงเปล่งพระสุรเสียงก้องไปในชั้นฟ้าประกาศแก่บรรดาเหล่าโพธิสัตว์ พระอรหันต์ เทพเทวา นาค ยักษ์ คนธรรพ์ อสูร กินนร มนุษย์ และอมนุษย์ทั้งหลายตลอดทั่งภพภูมิว่า
    "ณ บัดนี้ ทุกท่านจงตั้งใจสดับฟังเรากล่าวสรรเสริญกิตติคุณของพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ ผู้ซึ่งได้แผ่เดชานุภาพแห่งเมตตาอันสูงล้ำไปทั่งสากลพิภพจักรวาล เพื่อช่วยสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ต้องทนทุกข์ทรมานอันเนื่องด้วยวิบากกรรมของตน"

    "หลังจากที่เราเข้าสู่แดนนิพพานแล้ว ขอให้พวกท่านเหล่าโพธิสัตว์ เทพเทวา นาคา และอสูรทั้งหลายจงช่วยกันจดจำและปกปักษ์รักษาพระสูตรนี้ไว้ให้ดี เพื่อที่บรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายจะได้มีโอกาสบรรลุมรรคผลอันประเสริฐได้เสวยสุขนิรันดร์ในแดนนิพพาน"
    ขณะนั้น พระโพธิสัตว์ ผู่ ก่วง ได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า "ขอองค์พระตถาคตเจ้าทรงโปรดเมตตาประทานอรรถาธิบาย ถึงผลานิสงส์แห่งการถวายสักการะบูชาพระโพธิสัตว์กษิติครรภให้ปวงข้าบาทและสรรพสัตว์ทั้งหลายในอนาคตกาลได้รับรู้ด้วยเถิดพระเจ้าข้า"

    พระบรมศาสดาได้ทรงประทานวิสัชนาว่า "ในอนาคตกาลภายหน้า หากมีผู้ใดได้สดับฟังกิตติคุณอันประเสริฐของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ แล้วบังเกิดจิตศรัทธาเลื่อมใสปฏิบัติตามธรรมโอวาท อีกทั้งมีความสำนึกได้ถึงความผิดบาปที่ตนเคยก่อไว้อย่างจริงใจ ประกอบกับได้กราบไหว้ สวดภาวนาพระนามของทานได้ไปจุติในสรวงสวรรค์ ไม่มีวันตกล่วงลงสู่อบายภูมิอีก และหากเสวยผลบุญหมดสิ้นแล้วก็จะลงมาเกิดเป็นมนุษย์ผู้สูงศักดิ์ อุดมด้วยลาภยศ"

    "หากมีหญิงใดไม่ปรารถนาจะเกิดกายเป็นสตรีเพศอีก ถ้าชาตินี้ได้สักการะ บูชา พระกษิติครรภโพธิสัตว์ด้วยดอกไม้ ของหอม พร้อมทั้งถวายทานสร้างกุศลด้วยเครื่องอุปโภค บริโภค ในชาติหน้าหญิงผู้นั้นก็จะได้เกิดมาเป็นบุรุษผู้องอาจ สมดังเจตนารมณ์"

    "หญิงใดเกิดมาอาภัพ หน้าตาอัปลักษณ์ มีแต่โรคภัยคุกคามเบียดเบียนตลอดเวลา หากได้รู้จักกราบไหว้สักการะบูชาพระกษิติครรภโพธิสัตว์ด้วยใจศรัทธาที่บริสุทธิ์ หมั่นสร้างกุศลบริจาคทานและแผ่เมตตาอยู่เป็นประจำ หญิงผู้นั้นก็จะมีร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง ในชาติหน้าจะได้ไปเกิดอยู่ในขัตติยตระกูล ทีรูปโฉมงดงาม เจริญรุ่งเรืองมั่งคั่งด้วยโภคทรัพย์"

    "ดูก่อน....ผู่ก่วง โพธิสัตว์ หากบุคคลใดนำดอกไม้หอมมาสักการะบูชา และขับร้องบทสวดสรรเสริญถวายแด่พระกษิติครรภโพธิสัตว์ อีกทั้งยังกล่าวเชิญชวนให้ผู้อื่นได้กระทำการสักการะบูชาด้วย

    บุคคลเหล่านั้น จะได้รับการปกป้องคุ้มครองจาก บรรดาเทพพรหมทั้งหลายตลอดทุกทิวาราตรี มิให้ต้องพานพบกับเหตุการณ์เลวร้าย ไม่ว่าเรื่องอัปมงคล ใด ๆ แม้แต่เพียงได้ยินได้ฟังก็จะไม่มีเลย"

    "หากในอนาคตกาล มี ปีศาจ อสูร เทพบุตรมาร หรือ คนบาปเหล่าใด เมื่อพบเห็นสาธุชนชายหญิงทั้งหลายกราบไหว้สักการะ สวดภาวนาสรรเสริญรูปฏิมาของพระกษิติครรภโพธิสัตว์แล้วมีจิตสบประมาทกล่าวคำให้ร้ายลบหลู่ดูแคลนการกราบไหว้สักการะบูชาของสาธุชนนั้นว่าไม่มีบุญกุศล ทั้งคอยยุแหย่ทำลายศรัทธาของผู้อื่น หรือแม้แต่ยิ้มเยาะ พูดจาถากถางลับหลัง"

    บุคคลเหล่านั้นเมื่อตายไปแล้ววิญญาณต้องไปรับโทษทัณฑ์ในนรกอเวจี ไม่ได้ผุดได้เกิดอีกจนกว่าเวลาจะผ่านไปหลังจากที่มีพระพุทธเจ้าเสด็จมาอุบัติขึ้นในโลกจนครบ 1000 พระองค์แล้วจึงจะเกิดเป็นเปรตที่อดอยากหิวโหย ครั้นเวลาผ่านไปนานหลายชั่วกัปป์พวกเขายังต้องกลับมาเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอีกนับชีวิตไม่ถ้วน
    และเมื่อเวลาผ่านไปอีกหลายชั่วกัปป์วิญญาณบาปเหล่านั้นจึงจะได้เกิดเป็นมนุษย์ตืก็ต้องอัตคัตขัดสนยากจนค่นแค้นและพิกลพิการ มีร่างกายไม่สมประกอบ

    มิหนำซ้ำยังจะต้องถูกแรงแห่งอกุศลกรรมคอยรบกวนกลุ้มรุมจิตใจ ให้สร้างแต่บาปเวร ฉะนั้นไม่นานบุคคลเหล่านี้ก็ต้องหวนกลับลงสู่นรกอเวจีอีก
    "ดูก่อน...ท่านทั้งหลายเพียงแค่การสบประมาทสาธุชนที่กราบไหว้สักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ยังต้องได้รับโทษหนักถึงปานนี้จะกล่าวไปใยถึงผู้ที่มีจิตคิดทำลายล้างพระสัจจธรรมคำสั่งสอนโทษทัณฑ์ที่เขาต้องได้รับนั้นจะหนักหนาสาหัสเพียงใด"

    "ดูก่อน...ผู่ก่วงโพธิสัตว์ หากบุคคลใดเจ็บป่วยเรื้อรังมานาน ต้องนอนซมอยู่ทั้งวันทั้งคืน จะตายก็ไม่ตายจะฟื้นคืนดีก็ไม่ได้หรือผู้ที่ฝันเห็นญาติมิตรซึ่งตายไปแล้วมาหลอกหลอน ฝันว่าถูกภูตผีมารังควานไล่จับ ฝันว่าถูกปีศาจร้ายนำตัวไปไว้ในปรโลก ยามค่ำคืนกลางดึกเขามักส่งเสียงร้องละเมออยู่เป็นประจำเป็นเช่นนี้นับแรมเดือนแรมปีจนร่างกายทรุดโทรมหนัก แม้ในยามหลับก็ต้องหวาดผวาตื่นตระหนก ร่ำร้องครวญครางด้วยความทุกข์เวทนา"

    ทั้งนี้เพราะผู้ป่วยเหล่านั้นได้เคยสร้างบาปกรรมหนักไว้ในอดีตจึงเป็นเหตุให้เจ้าหนี้นายเวรที่อยู่ในนรกภูมิเบื้องล่าง เรียกร้องให้หยิบยกเอาคดีความขึ้นมาพิจารณาก่อนเวลาสิ้นอายุขัย ทำให้เขาต้องทุกข์มรมานอยู่บนโลกไม่อาจจบชีวิตลงได้ เรื่องเช่นนี้ วิสัยปุถุชนธรรมดาย่อมไม่อาจแยกแยะให้เห็นชัดแจ้งได้ด้วยตาเนื้อ

    ในกรณีที่บ้านเรือนใด มีคนป่วยอาการหนักหมดหนทางจะรักษาเยียวยา บุคคลใกล้ชิดในครอบครัวสมควรอย่างยิ่งที่จะร่วมใจกันกราบสักการะบูชาองค์พุทธะ สาดภาวนาขอพึ่งพระเมตตาบารมีของพระกษิติครรภและพระมหาโพธิสัตว์ทั้งหหลาย พร้อมกันนั้นควรนำทรัพย์สินเงินทอง ของคนป่วยมาให้เขายกทูนขึ้นเหนือศีรษะแล้วตั้งจิตอธิษฐานสละทรัพย์สมบัติของตนเองเพื่อสร้างกุศลทาน หากคนป่วยอยู่ในอาการสลึมสลือ ขาดสติไม่รู้สึกตัวให้ญาติพี่น้องที่ใกล้ชิดแจ้งนามของตนแล้วเปล่งวาจาด้วยเสียงอันดังต่อหน้าคนป่วยว่า
    "ข้าพเจ้า...ขอกระทำการแทน ผู้ซึ่งกำลังป่วยหนักโดยนำทรัพย์สิ่งของเหล่านี้ออกบริจาคเพื่อสร้างมหากุศลอันได้แก่ พิมพ์หนังสือธรรมะ บำรุงศาสนสถาน ถวายน้ำมันจุดประทีป ตลอดจนช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยากและสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ได้ประสบสุขสืบไป"
    จงกล่าวเช่นนี้ 3 ครั้ง เพื่อให้จิตญาณของผู้ป่วยรับรู้และได้ยินถนัดชัดเจนครบถ้วน

    ถ้าหากมีคนในบ้านถึงแก่กรรมลง ก็ให้ญาติพี่น้องใกล้ชิดกระทำการดังกล่าวภายใน 7 วัน ถ้าแต่เดิมบุคคลที่ตายไปได้ก่อกรรมทำบาปไว้จนต้องตกสู่นรกหากมีโอกาสสร้างกูศลทานเช่นนี้แล้ว วิญญาณของเขาก็จะได้รับการผ่อนผันให้กลับมาเกิดใหม่
    ดูก่อน...ผู่ก่วงโพธิสัตว์ การได้สร้างคัมภีร์พระสูตรเพื่อเผยแผ่หลักสัจจธรรมและชักชวนให้ผู้อื่นได้กระทำตามด้วย เป็นมหากุศลที่สูงส่งหาประมาณมิได้
    เหตุฉะนี้เหล่าโพธิสัตว์ทั้งหลาย หากท่านได้พบเห็นสาธุชนใดอ่านท่องหรือมีศรัทธาเพียงแค่ขณะจิตหนึ่งสรรเสริญพระสูตรนี้ ท่านจงคอยคุ้มครองให้กำลังใจเขา อย่าให้ได้ท้อถอย ทั้งนี้ก็เพราะสาธุชนเหล่านนั้นกำลังสร้างมหากุศลบารมีอันจะบังเกิดผลานิสงส์ยิ่งใหญ่ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

    ดูก่อน..ผู่ก่วงโพธิสัตว์หากบุคคลผู้ใดยามหลับฝันเห็นแตทภูผีในอัปกิริยาต่าง ๆ บ้างคร่ำครวญบ้างหวีดร้องโหยหวลบ้างดุร้ายทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นวิญญาณของบิดามารดา บุพการี สามี ภรรยา หรือเหล่าญาติพี่น้องทั้งในชาตินี้และอดีตชาติที่ได้ล่วงลับไปแล้ว

    พวกเขากำลังได้รับทุกขเวทนาอยู่ในนรกภูมิหมดสิ้นหนทางที่จะหลุดพ้นออกมาได้อันเนื่องมาจากขาดบุญกุศล
    ผู่ก่วงโพธิสัตว์....ขอท่านจงตักเตือนชี้แนะบุคคลผู้นั้นให้พยายามสร้างสมบุญกุศลไว้ให้มาก แล้วแผ่ส่วนบุญกุศลอุทิศให้แก่ดวงวิญญาณเหล่านั้น เพื่อพวกเขาจะได้พ้นจากทุกขเวทนาและขึ้นมาพบกับความสุข

    ดูก่อน...ผู่ก่วงโพธิสัตว์จงใช้บุญญาธิการของท่านที่มีอยู่ นำพาศรัทธาสาธุชนในโลกมนุษย์ให้พวกเขาได้หมั่นสาดท่องและศึกษาพระสูตรอันเป็นเรื่องราวของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ด้วยจิตศรัทธา
    เมื่อสามารถปฏิบัติเช่นนี้แล้วย่อมจะบังเกิดอานิสงส์ผลบุญช่วยให้วิญญาณบุพการีและญาติพี่น้องของบุคคลผู้นั้นได้หลุดพ้นออกจากนรกภูมิต่อไปตัวเขาเองก็จะไม่ฝันร้ายอีก

    หากบุคคลผู้ใดเกิดมาต่ำต้อย ต้องเป็นทาสขาดอิสระเมื่อสำนึกได้ว่าเป็นเพราะวิบากกรรมที่ตนเคยสร้างไว้และคิดจะปรับปรุงแก้ไขตัวเอง เพียงแต่บุคคลผู้นั้นตั้งใจกราบไหว้สักการะและสวดท่องพระนามของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ 10000 จบก็จะบังเกิดอานิสงส์ยิ่งใหญ่ส่งผลให้บุคคลผู้นั้นเมื่อสิ้นอายุขัยลงแล้ว จะได้ไปเกิดในตระกูลสูง สามารถรอดพ้นจากอบายภูมิ

    บ้านเรือนใดที่มีเด็กทารกเกิดใหม่ หากภายใน 7 วันบิดามารดาและญาติพี่น้องร่วมใจกันทำบุญสร้างกุศลและสวดภาวนาพระสูตรของพระกษิติครรภโพธิสัตว์พร้อมกับท่องพระนามของท่าน 10000 จบ
    เมื่อนั้นจะบังเกิดอานิสงส์ส่งผลให้ทารกน้อยนั้นมีอายุยืนยาวประสบแต่ความสุขสวัสดีสามารถรอดพ้นภยันตรายทั้งหลาย

    ในทุก ๆ วันธรรมสวนะขึ้น 1 ค่ำ 8 ค่ำ 15 ค่ำ เทพผู้ตรวจตราการกระทำของสรรพสัตว์จะเสด็จลงมาบนโลกเพื่อบันทึกบุญบาปของมนุษย์ทั้งหลาย

    การไม่สำรวมกาย ไม่สำรามวาจา ไม่สำรวมใจของเหล่าปุถุชนชายหญิงในโลกียโลก ล้วนเป็นมูลเหตุให้พวกเขาสร้างบาปกรรมขึ้นโดยไม่รู้ตัว
    จะกล่าวไปใยกับคนใจบาปที่ไม่ตั้งอยู่ในเบญจศีล เข่นฆ่าทำร้ายผู้อื่นลักขโมย พูดปดมดเท็จประพฤติผิดในกาม ลุ่มหลงสิ่งเสพติดมึนเมา คนเหล่านี้จะต้องได้รับโทษทัณฑ์ที่สาหัสสักเพียงใด

    หากคนทั้งหลายสามารถกลับใจ หันมากินเจปฏิบัติธรรมแม้เพียง 9 วัน 9 คืนนับตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำเดือนเก้า ก็จะบังเกิดอานิสงส์คุ้มครองบุคคลผู้นั้น มิให้มีภัยอันตรายมากร้ำกรายได้อีกทั้งจะส่งผลให้ทุกคนในครอบครัวปราศจากทุกข์ทั้งปวง

    ในวันและเวลาดังกล่าวหากครอบครัวใดพร้อมในกันถือศีลกินเจงดอาหารที่มีเลือดเนื้อของสัตว์และสวดภาวนาพระสูตรระลึกถึงพระโพธิสัตว์กษิติครรภแล้วก็จะส่งผลให้ทุกคนในครอบครัวนั้นปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ได้กินดีอยู่ดีมีความอุดมสมบูรณ์ประสบแต่ความร่มเย็นเป็นสุข

    ดูก่อน....ผู่ก่วงโพธิสัตว์แท้จริงแล้วสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลกียโลกต่างมีบุญสัมพันธ์กับพระกษิติครรภโพธิสัตว์อย่างลึกซึ้ง หากพวกเขาได้ยินพระนามได้เห็นพระรูปหรือได้ล่วงรู้เรื่องราวของท่านจากพระสูตรนี้แม้เพียงสักวรรคเดียว ประโยคเดียวก็จะส่งผลให้สรรพสัตว์เหล่านั้นมีความสุขไปตลอดชีวิต

    ขณะนั้น พระโพธิสัตว์ผู่ก่วง เมื่อได้สดับฟังสมเด็จพระบรมศาสดาตรัสพระกถาสรรเสริญกิตติคุณแห่งองค์พระกษิติครรภโพธิสัตว์จบลงแล้ว จึงคุกเข่าประณมกรกราบทูลว่า "ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า เหล่าข้าพระองค์ต่างก็ได้ประจักษ์แจ้งในพระสูตรที่พรรณาถึงการตั้งปณิธานอันยิ่งใหญ่ และเดชานุภาพที่สุดจะประมาณได้ของพระกษิติครรภโพธิสัตว์แล้ว แต่ทว่าเพื่อให้เวไนยสัตว์ทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตกาล ได้รับรู้เรื่องราวอันล้ำค่าซึ่งจะเป็นมหากุศลแก่พวกเขา บัดนี้ข้าพระองค์จึงใคร่กราบบังคมทูลขอองค์พระตถาคตเจ้าได้โปรดประทานนามแก่พระสูตรที่ได้ทรงแสดงไว้ดีแล้วนี้ด้วยเถิด....พระเจ้าข้า"
    พระพุทธองค์ทรงมีพระบรรหารแก่พระโพธิสัตว์ผู่ก่วงว่า
    "จงขนานนามพระสูตรนี้ว่า "พระกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร" และต่อไปภายหน้า ขอให้พวกท่านทั้งหลายจงร่วมใจกันเกื้อหนุนจริยากิจในการฉุดช่วยเวไนยสัตว์ของพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยเถิด" ครั้นจบพุทธบรรหารแล้ว พระโพธิสัตว์ผู่ก่วง ก็ได้ประณมหัตถ์กราบอภิวาทแล้วเสด็จถอยกลับเข้าสู่ที่ประทับ


    *****อานิสงส์ของการได้สดับพระนามของพระกษิติครรภโพธิสัตว์

    ครั้นพระพุทธดำรัสจบแล้ว ทันใดนั้นก็ปรากฏฉัพพรรณรังสีเปล่งประกายเจิดจ้าขึ้นโดยรอบพระเศียรแห่งองค์สมเด็จพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า และทุก ๆ อณูของรัศมีนั้นก็บังเกิดเสียงดนตรีทิพย์อันไพเราะเสนาะโสต บรรเลงแผ่ก้องไปทั่งประมณฑล
    และแล้วพระพุทธองค์จึงตรงตรัสแก่ผู้ที่มาชุมนุมทั้งหมดว่า
    " ดูก่อน....ท่านทั้งหลาย ความประเสริฐล้ำเลิศของการถึงที่สุดแห่งทุกข์สามารถสำเร็จมรรคผลได้ บรรลุสู่พระอนุตตรสัมโพธิญาณนั้นนับเป็นเรื่องที่เหนือวิสัยจิตญาณของสรรพสัตว์ผู้ยังข้องติดอยู่ในโลก จะหยั่งรู้ได้ แต่ทว่า การที่พระกษิติครรภโพธิสัตว์ มุ่งมั่นฉุดช่วยสรรพสัตว์และรอคอยให้พวกเขาเหล่านั้นสำเร็จเป็นพุทธะทั้งหมดเสียก่อน แล้วจึงจะยอมเข้าไปเสวยสุขในแดนนิพพาน ปณิธานแห่งการเสียสละเช่นนี้นับเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่และเกินกว่าจะหาสิ่งใดมาเปรียบได้"

    บัดนั้นท่ามกลางมหาสันนิบาตที่ประชุม พระโพธิสัตว์กวนอิมผู้เปี่ยมด้วยมหาเมตตาการุณย์ ได้ทรงประณมพระหัตถ์ถวายอภิวาท แล้วเสด็จลงจากพระแท่นอาสนะที่ประทับ
    พระโพธิสัตว์กวนอิมได้กราบทูลพระบรมศาสดาว่า
    "ข้าแต่พระสัพพัญญูเจ้า ข้าบาทได้สดับฟังธรรมกถาที่พระองค์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย แซ่ซ้องสรรเสริญพระกษิติครรภโพธิสัตว์แล้ว
    จึงสามารถกล่าวได้ว่า แม้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกพระองค์ทั่วหมื่นโลกธาตุมาพร้อมกันพรรณาพระกิตติคุณของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ ถึงกระนั้นก็ไม่มีวันจะจบสิ้น"

    "แลบัดนี้ ข้าบาทใคร่กราบอาราธนาทูลขอให้พระองค์ ได้พรรณาถึงเดชานุภาพของพระกษิติครรภโพธิสัตว์เพื่อจะยังศรัทธาปสาทะให้เกิดแก่ผู้ที่มาชุมนุมกันในที่นี่ทุกหมู่เหล่าด้วยเถิด พระเจ้าข้า"
    พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า
    "ดูก่อน...กวนซื่ออิม ท่านผู้เป็นนาวาธรรมแห่งเมตตา เวไนยสัตว์ทั้งหลายในโลก ไม่ว่าผู้ใดที่ได้เอ่ยนามของท่านด้วยใจศรัทธา เขาผู้นั้นย่อมสามารถพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
    วันนี้อาศัยจิตที่เปี่ยมด้วยมหาเมตตามหากรุณาไม่มีที่สิ้นสุดต่อสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่า
    ท่านจึงได้ขอให้เรากล่าวพรรณาถึงเดชานุภาพของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ฉะนั้นขอให้ทุกท่านจงตั้งใจฟังให้ดี"

    "ดูก่อน.....ชาวสวรรค์ทั้งหลาย หากผู้ใดได้เสวยผลบุญจนใหล้จะหมดสิ้นแล้วนิมิตหมายแห่งการต้องไปจุติใหม่ก็จะปรากฏ ได้แก่ ฉวีวรรณเกิดเศร้าหมอง ทิพยอาภรณ์ก็มัวหม่นลง เป็นต้น
    แต่หากชาวสวรรค์ผู้นั้นได้เพ่งจิตของตนจนบังเกิดรูปนิมิตพร้อมทั้งได้ยินพระนามของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ขึ้นแล้ว จงรีบน้อมจิตสำรวมใจเอ่ยบริกรรมนามท่านด้วยศรัทธาอันมั่นคง

    "ดูก่อน.....ชาวสวรรค์ทั้งหลาย หากผู้ใดได้เสวยผลบุญจนใหล้จะหมดสิ้นแล้วนิมิตหมายแห่งการต้องไปจุติใหม่ก็จะปรากฏ ได้แก่ ฉวีวรรณเกิดเศร้าหมอง ทิพยอาภรณ์ก็มัวหม่นลง เป็นต้น
    แต่หากชาวสวรรค์ผู้นั้นได้เพ่งจิตของตนจนบังเกิดรูปนิมิตพร้อมทั้งได้ยินพระนามของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ขึ้นแล้ว จงรีบน้อมจิตสำรวมใจเอ่ยบริกรรมนามท่านด้วยศรัทธาอันมั่นคง

    เช่นนี้แล้วเทพเทวาเหล่านั้นก็จะสามารถเสวยทิพยสุขสืบต่อไปอีกในแดนสวรรค์มิต้องล่วงลงสู่อบายภูมิชั้นต่ำอีก
    ฉะนั้น จะกล่าวไปใยถึงผู้ที่เลื่อมใสศรัทธา และกราบไหว้บูชาพระกษิติครรภโพธิสัตว์อยู่เป็นประจำ บุญกุศลของเขาย่อมจะสูงส่งมากล้นเหลือคณานับ"

    "เวไนยสัตว์ที่หลงเวียนว่ายอยู่ในอบายภูมิทั้ง 6 เมื่อถึงคราวละสังขารใกล้จะสิ้นใจตาย หากบุคคลผู้นั้นได้ยินพระนามของพระกษิติครรภโพธิสัตว์แม้เพียงผ่านหูสักครั้ง แล้วบังเกิดสติระลึกได้ถึงพระเมตตาคุณอันยิ่งใหญ่ของท่านวิญญาณของเขาก็จะไม่ตกลงสู่ภพภูมิเบื้องล่างอีก
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่บิดามารดาญาติพี่น้อง ได้นำเอาทรัพย์สินของผู้ตายออกมาบริจาคสร้างกุศล หากเขาผู้นั้นยังไม่หมดสิ้นอายุขัย แต่ต้องเจ็บหนักอันเนื่องจากมีหนี้สินเวรกรรมติดตามมาสนอง
    ด้วยอานิสงส์ผลบุญนั้นจะทำให้อาการของเขาทุเลาเบาบางลงได้
    หากเป็นบุคคลที่เคยก่อบาปสร้างเวรไว้ จนวิญญาณต้องไปรับโทษหนักแต่ด้วยอานิสงส์ผลบุญจะช่วยให้โทษนั้นได้ผ่อนหนักเป็นเบา
    ส่วนบุคคลใดที่มีบาปกรรมติดตัวเพียงเล็กน้อย ด้วยอานิสงส์ที่ญาติพี่น้องได้สร้างกุศลอุทิศให้ เขาผู้นั้นก็จะได้ไปสู่สุคติภพโดยง่าย"

    "บุคคลใดเป็นผู้ที่กำพร้าบิดามารดา ตั้งแต่เยาว์วัยขาดคนอุปการะดูแล พ่อแม่พี่น้องต้องมีอันล้มหายตายจากหรือพลัดพรากกันไป เมื่อโตขึ้นแล้วเกิดจิตสำนึกที่ดีอยากสร้างกุศลอุทิศให้และใคร่ได้รู้ถึงที่อยู่ของญาติพี่น้องที่พลัดพรากสูญหายไป
    หากเขาผู้นั้นมีจิตศรัทธาแรงกล้าและจริงใจ กราบไหว้สักการะพระกษิติครรภโพธิสัตว์ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วันโดยไม่ท้อถอย
    เช่นนี้แล้ว ถ้าหากเป็นผู้ที่พ่อแม่ญาติพี่น้องได้ตายไปแล้ววิญญาณตกลงสู่นรกภูมิถูกจองจำต้องโทษสถานหนักด้วยอานิสงส์จากการกราบไหว้สักการะพระกษิติครรภโพธิสัตว์ จะทำให้ดวงวิญญาณของพวกเขาได้รับการปลดปล่อยให้ไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่า แต่ถ้าพ่อแม่ญาติพี่น้องของบุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่ในโลกพวกเขาก็จะได้รับผลานิสงส์มีบุญญาบารมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น"

    บุคคลผู้ที่พลัดพรากจากบิดามารดาญาติพี่น้องหากสามารถควายสักการะบูชาและสวดภาวนาพระนามของพระกษิติครรภ 10000จบ ภายในเวลา 21 วันเขาผู้นั้นก็จะได้รับเมตตาจากพระองค์โดยจะได้รู้ถึงที่อยู่ของบิดามารดาญาติพี่น้องที่พลัดพรากและถ้าหากเป็นผู้มีบุญบารมีสูงพอ พระองค์จะทรงปรากฏในเห็นในนิมิตร

    สาธุชนผู้ใจบุญท่านใดสามารถสวดมนตภาวนาพระนามของพระกษิติครรภโพธิสัตว์วันละ 1000 จบเป็นเวลา 1000 วันโดยมิได้ขาด เมื่อนั้นองค์โพระโพธิสัตว์กษิติครรภก็จะทรงบัญชาให้เทพเทวาพระภูมิเจ้าที่มาคอยปกป้องดูแลบุคคลผู้นั้น เพื่อให้ชีวิตประสบแต่ความอุดมสมบูรณ์พูนสุขปราศจากโรคภัยไข้เจ็บและท้ายที่สุดเขาจะได้รับการปกแผ่พระหัตถ์ประสิทธิ์ประสาทพรอันถือเป็นนิมิตรหมายแห่งศิริมงคลสูงสุดว่า ต่อไปในอนาคตกาลบุคคลผู้นั้นย่อมสามารถสำเร็จมรรคผลได้อย่าง แน่นอน

    ดูก่อน....กวนซื่ออินโพธิสัตว์ สาธุชนใดบังเกิดมหาเมตตาตั้งอธิษฐานจิตอย่างแน่วแน่ว่า จะฉุดช่วยเวไนยสัตว์แล้วหันหน้าเข้าสู่วิถีธรรม บำเพ็ญเพียรโดยมุ่งหวังให้หลุดพ้นจาก 3 ภพ
    หากสาธุชนผู้นั้นได้สดับพระนามของพระกษิติครรภโพธิสัตว์แล้ว ถวายสักการะด้วยใจศรัทธา เขาก็จะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคที่ขวางกั้นและสามารถบรรลุถึงเป้าหมายสูงสุดได้เร็วยิ่งขึ้น
    ดูก่อน...กวนซื่ออินโพธิสัตว์ หากความปรารถนาของสาธุชนผู้ใดจำต้องใช้เวลาถึงร้อยหมื่นปีจึงจะสำเร็จได้ ขอแต่เพียงเขาผู้นั้นมีจิตใจมั่นคง ภาวนาระลึกถึงพระกษิติครรภโพธิสัตว์ สิ่งที่มุ่งหวังก็จะสัมฤทธิ์ผลได้ในเวลาอันรวดเร็ว

    หากสาธุชนใด มีจิตใจมุ่งมั่นศึกษาหลักธรรม แต่แม้ว่าจะได้รับการชี้แนะจากเกจิอาจารย์มามากมายแล้ว ก็ยังไม่สามารถเข้าใจในข้อพระธรรมอันลึกซึ้งได้
    ทั้งนี้เนื่องด้วยบุพกรรมแต่ปางก่อน เข้ามาริดรอนปิดบังดวงปัญญาให้เลอะเลือนหลงลืมง่าย ไม่สามารถเข้าใจในข้ออรรถาธรรมใด ๆ
    หากสธุชนผู้นั้นได้หดับฟังและตั้งใจสวดภาวนาพระนามของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ได้ถวายของหอมน้ำปรุงแค่รูปของท่านและกราบทูลความในใจ พร้อมกับจัดน้ำสะอาด 1 ถ้วย ถวายไว้ ณ เบื้องหน้าพระรูปของท่าน เป็นเวลา 1 วัน 1 คืน ในวันรุ่งขึ้นจึงอาราธนานำน้ำนั้นมาดื่มด้วยจิต ศรัทธา

    ขณะที่จะดื่มจงบ่ายหน้าไปทางทักษิณาทิศ แล้วอธิษฐานจิตตั้งปณิธานว่าหลังจากดื่มแล้วจะดำรงตนอยู่ในเบญจศีลไม่บริโภคเลือดเนื้อสัตว์ไม่เสพของคาวใด ๆ อีก หากสามารถปฏิบัติเช่นนี้ด้วยจิตศรัทธามั่นคง เขาก็จะได้เข้าเฝ้าพระกษิติครรภโพธิสัตว์ใน นิมิตร เมื่อนั้นท่านจะประพรมน้ำทิพย์ประสิทธิ์ประสาทพรเพื่อขจัดสิ่งอัปมงคลทั้งหลายให้สูญสิ้นไป
    และแล้วบุคคลผู้นั้นจะตื่นขึ้นมาด้วยจิตญาณอันผ่องใส มีสติปัญญาเพิ่มพูน มีความเฉียบแหลมสามารถจดจำพระธรรมทั้งหลายได้ด้วยการเห็นและอ่านเพียงครั้งเดียว
    ดูก่อน...กวนซื่ออินโพธิสัตว์ บุคคลผู้ใดที่ชีวิตและครอบครัวไม่เป็นสุข ประสพแต่เรื่องราวทุกข์ร้อนใจเป็นอาจิณกินอยู่อย่างแร้นแค้น ร่างกายมีแต่โรคภัยเบียดเบียนแม้ยามหลับ ก็ฝันเห็นแต่สิ่งเลวร้ายเป็นประจำ

    บุคคลเหล่านี้ หากได้กราบไหว้สักการบูชา และสวดท่องพระนามของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ครบ 10000 จบ สิ่งอัปมงคลทั้งหลายในชีวิตก็จะค่อย ๆ มลายหายไป ในยามหลับก็จะนิมิตรฝันเห็นแต่สิ่งที่ดีงาม ต่อไปบุคคลผู้นั้นจะพบแต่ความสมบูรณ์พูนสุข
    ดูก่อน...กวนซื่ออินโพธิสัตว์ บุคคลผู้ใดมีเหตุจำเป็นต้องเดินทาง ผ่านป่าเขาข้ามลำห้วย แม่น้ำหรือทะเลกว้างเขาผู้นั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะสวดภาวนาพระนามระลึกถึงพระกษิติครรภโพธิสัตว์เสียก่อน ทั้งนี้เพื่อว่าบุคคลเหล่านั้นจะได้รับความคุ้มครองจากเทพเทวาทั้งหลายตลอดการเดินทาง แม้ ต้องได้พบกับสัตว์ร้ายหรือ ภูตผีปีศาจ เขาก็จะแคล้วคลาดจาดภยันตรายทั้งปวง

    "ดูก่อน...พระโพธิสัตว์แห่งเมตตาอาศัยบุญสัมพันธ์ที่มีต่อสรรพสัตว์ในโลกียโลกขอจงใช้ฤทธานุภาพของท่าน เผยแผ่พระสูตรนี้ เพื่อให้เวไนยสัตว์ทั้งหลายมีโอกาสได้ศึกษาอันจะนำมาซึ่งผลานิสงส์ยิ่งใหญ่สืบต่อไปนับร้อยพันฏิปี"
    ครั้นแล้วองค์สมเด็จพระบรมศาสดาได้ทรงตรัสสัมโมทนียกถาความว่า
    "เดชานุภาพแห่งพระกษิติครรภโพธิสัตว์ แม้เม็ดทรายมากล้นในคงคามหานทีมิอาจนำมาเปรียบเปรย ขอได้จริงใจสักการะกราบไหว้เพียงชั่วขณะจิตหนึ่ง

    ผลานิสงส์นั้นสูงส่งสุดจะพรรณนา สาธุชนหญิงชาย มนุษย์ และเหล่าเทวา พญานาคราช
    เมื่อถึงคราวต้องตกลงสู่ภพภูมิเบื้องล่าง เพียงสำรามจิตน้อมระลึกถึงองค์โพธิสัตว์ผู้เรืองเดช
    กรรมเวรจะมลายสิ้น สิริอายุจะเพิ่มพูนสุขสมบูรณ์สวัสดี
    ผู้ใดต้องพลัดพรากขาดบุพการี
    วิญญาณสถิตอยู่แห่งหนใดใคร่อยากรู้
    อีกพี่น้องญาติสนิททั้งชายหญิง
    ตั้งแต่แรกเกิดมามิเคยได้พบหน้า
    หากวาดปั้นปฏิมาพระรูปองค์ผู้ทรงฤทธิ์
    ด้วยจิตศรัทธาแน่แน่วไม่แปรผัน
    พร่ำสวดท่องพระนามในสามเจ็ดทิวาวาร
    มหาโพธิสัตว์จะเสด็จมาประจักษ์ให้ได้พบ
    เพื่อชี้นำทางประสบพบญาติมิตรที่จากไกล


    เวไนยสำนึกตนฉุดช่วยพ้นนรกร้าย มาตรแม้นไม่ถดถอยจิตเดิมมั่น
    จะทรงประสาทพรเป็นนิมิตรหมายสำคัญ เพื่อให้ได้บำเพ็ญสู่พุทธภูมิ
    ได้หลุดพ้นไตรภพหมดทรมาน
    ผู้ใดจักมุ่งมั่นปณิธานเมตตาจิต ควรคารวะกราบองค์ท่านก่อน
    สิ่งที่หวังทั้งหลายสัมฤทธิ์ได้โดยเร็วพลัน กรรมเวรนั้นสิ้นพันผูกไม่ขวางกั้น
    ผู้ใดหมั่นพินิจใคร่ครวญธรรมบท ย่อมสามารถฉุดช่วยผู้ลอยคอกลางทะเลให้คืนฝั่ง
    หากตั้งจิตหมายมั่นพุทธภูมิอันเลิศล้ำ แต่ศึกษาธรรมกลับเวียนว่ายอ่านเวียนลืมไม่ได้ผล
    เหตุเพราะตนมีเวรกรรมปิดกั้นจากปางก่อน มาริดรอนปัญญายากจดจำ
    แม้นมีใจสักการะภาวนาด้วยเครื่องหอม ถวายทาน อุปโภค บริโภค ทรัพย์สิ่งของ
    พร้อมน้ำใสบริสุทธิ์แทนใจจริง ผ่านหนึ่งวันหนึ่งคืนตั้งสัจจาอธิษฐานดื่ม
    ด้วยจิตมุ่งรักษาศีลกินเจประพฤติธรรม สุรา กาเม มุสาวาท ไม่ประมาทเร่งถอยหนี
    เว้นฆ่าสัตว์บำเพ็ญตนบริสุทธิ์หยุดกินเนี้อ บารมีมั่นจะได้พบองค์โพธิสัตว์ในนิมิตร
    ครั้นฟื้นตื่นย่อมรู้แจ้งมงคลความสิ่งดีงาม บทพระธรรมเพียงผ่านโสดจดจำแม่นมิลบลืม
    ด้วยกฤษดาภิจิหารท่านสูงส่ง อำนวยผลส่งสว่างดวงปัญญา

    อีกปุถุชนคนยากไร้สุดเร้นแค้นและป่วยไข้ บ้านต้องแตกพี่น้องแยกพลัดพรากทั้งหลับฝันแต่เรื่องร้ายไม่เป็นสุข จะวอนขอจากที่ใดก็ไร้ผล
    เพียงมีจิตศรัทธามั่นสักการะรูปฉายาพระกษิติครรภ เพทภัยทั้งปวงพลันสิ้นสลายในบันพลยังผลให้นิมิตเห็นแต่สิ่งดีมีความสุข ทุกเทพไทเทวาร่วมรักษา อำนวยพรให้โภคทรัพย์ศฤงคารจำเริญเพิ่มพูนบริบูรณ์ผล แม้ยามดั้นด้นสู่ป่าพง หุบเขาลำเนาไพร ข้ามห้วงน้ำทะเลกว้างกระเสสินธุ์ต้องผจญลมฝน
    พยัคฆา อสรพิษ ภูตผีร้าย ทั้งเผชิญคนพาลใจทราม สันดานหยาบ แต่หากได้สักการบูชาพระองค์ท่าน เพท ภัยร้อยหมื่นพัน มีอันต้องราบคาบสยบสิ้นขอทุกท่านจงได้ใคร่ครวญสดับฟัง อัน เดชาฤทธาพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ แผ่กว้างไกลไพศาลทั่วไตรภพ ร้อยพันล้านโกฏิปี สุดจะกล่าวพรรณนาได้จบสิ้น แม้นผู้ใดได้ยินเพียงเอ่ยนามกราบสักการบูชา ปฏิบัติพร้อมกุศลบุญเนืองนอง สนองตอบหมื่นแสนเท่าทบทวี ขอองค์โพธิสัตว์กวนอิมโปรดรับรู้ เร่งประกาศทั่วพิภพจรดหล้า ใครได้พาตนคืนสู่วิถีแห่งธรรมมา จักสำเร็จหลุดพ้นเวียนว่ายเอย
     
  4. lotte

    lotte เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    725
    ค่าพลัง:
    +4,545
    ผลานิสงส์ของการสักการะ บูชาพระกษิติครรภโพธิสัตว์

    ในขณะนั้นองค์สมเด็จพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเอื้อมพระสุวรรณหัตถ์ไปปกแผ่พุทธบารมีลงเหนือพระเศียรของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ พร้อมกับทรงมีพระดำรัสว่า
    "กษิติครรภ ... กษิติครรภ....ผู้เปี่ยมด้วยฤทธาจุภาพและมหาเมตตาสุดจะหยั่งได้ในโอกาสที่บรรดาเหล่าพุทธะ พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ เทพพรหม พญานาคและสรรพสัตว์ทุกหมู่เหล่าอันมีจำนวนมากมายมหาศาล ได้มาร่วมชุมนุม ณ ดาวดึงส์เทวโลกแห่งนี้
    เราตถาคต...ขอฝากฝังพวกเขาตลอดจนเวไนยสัตว์ทั้งหลายในโลกียโลกผู้ซึ่งยังมิได้หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารไว้ในความดูแลของท่าน จงพยายามฉุดช่วยเขาเหล่านั้นแม้สักเพียง 1 วันก็อย่าให้ได้ตกล่วงลงสู่อบายภูมิ จนต้องประสบกับความทุกขเวทนาอีก

    "เวไนยสัตว์ในโลกียโลก จิตใจเรรวนไม่แน่นอน สันดานบาปมีมากในตน แม้จะมีใจคิดทำความดีอยู่บ้าง แต่ก็เป็นเพียงชั่วครู่ชั่วยาม เมื่อไปพบกับสิ่งชั่วร้ายอบายมุขทั้งหลาย อนุสัยสันดานบาปก็งอกเงยกำเริบขึ้นอีก
    เหตุฉะนี้ ตถาคตจึงต้องนิรมานกายออกนับหมื่นล้านรูปกายเพื่อโปรดฉุดช่วยพวกเขาเหล่านั้นตามควรแก่รากฐานแห่งบุญบารมีของแต่ละคน
    กษิติครรภโพธิสัตว์...บัดนี้เราขอฝากฝังสรรพสัตว์ทั้งเบื้องบนและเบื้องล่างไว้กับท่าน หากในอนาคตกาลเวไนยสัตว์เหล่าใดหวังให้พระธรรมเจริญในตนได้ปลูกฝังกุศลกรรมแม้เพียงเท่าเศษผงธุลี ก็ขอให้ท่านใช้กฤษดาภินิหารอันยิ่งใหญ่ของท่านออกปกป้องและอุ้มชูเกื้อหนุนให้เขาเหล่านั้นดำเนินอยู่ในสายธารแห่งสัจจธรรมตลอดไป"

    "ดูก่อน....กษิติครรภโพธิสัตว์ ในภายหน้าหากมีสรรพสัตว์เหล่าใดถูกวิบากกรรมตามสนอง อันเนื่องจากบาปเวรที่เขาได้กระทำเป็นเหตุให้ต้องตกล่วงลงสู่อบายภูมิเบื้องล่าง
    ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ประตูนรก หากสรรพสัตว์เหล่านั้น เพียงแต่รำลึกถึงพระนามของพระพุทธเจ้า หรือพระโพธิสัตว์องค์ใดองค์หนึ่ง หรือได้สวดภาวนาสักครั้งดียวก็ขอให้ท่านจงใช้ฤทธานุภาพลงไปทลายเครื่องจองจำอันได้แก่ โลภะ โทสะ โมหะ และกิเลสทั้งปวง ซึ่งพันธนาการร้อยรัดจิตวิญญาณของพวกเขาไว้ ให้ต้องได้รับทุกข์ทรมานอยู่ในอบายภูมิ
    ท้ายที่สุดจงนำแสงสว่างเข้าสู่พุทธจิตธรรมญาณของพวกเขาโดยการถ่ายทอดหลักสัจจธรรมอันเที่ยงแท้ให้ประจักษ์เพื่อเวไนยสัตว์ทั้งปวงทุกหมู่เหล่าจะได้กลับคืนสู่แดนนิพพาน อยู่เสวยบรมสุขชั่วนิรันดร์โดยพร้อมเพรียงกัน"

    ครั้นพระกษิติครรภโพธิสัตว์ได้สดับฟังพระพุทธดำรัสจบลงก็ทรงประณมหัตถ์ขึ้นน้อมรับพระบัญชาด้วยเศียรเกล้าล้าทูลว่า
    "ขอองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าอย่าได้ทรงพระประวิตาไปเลยพระเจ้าข้า ในอนาคตกาลมาตรแม้นว่ามีผู้ใดยึดมั่นในพระสัจจธรรมข้าบาทก็จะใช้กุศโลบายอันแยบยลและเหมาะสม ไปฉุดช่วยนำพาเขาผู้นั้นออกจากวัฏฏสงสารให้จงได้"

    "โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ประพฤติปฏิบัติธรรม มุ่งมั่นสร้างแต่ความดีมาโดยตลอดข้าบาทจะดูแลให้เขาได้อยู่ในวิถีแห่งธรรมไปตลอดกาล วันยอมให้ล่วงหล่นไปเป็นอันขาดพระเจ้าข้า"
    ในขณะนั้น มีพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งนามว่า " ซีคงจั่น" ได้กราบขอประทานพุทธานุญาติแล้วทูลถามว่า
    " ข้าแต่องค์สมเด็จพระบรมศาสดาในอนาคตกาลภายหน้าหากมีเวไนยสัตว์เหล่าใดที่ได้สดับฟังเรื่องราวของพระกษิติครรภโพธิสัตว์"

    แล้วตั้งใจพากเพียรบำเพ็ญธรรม ประพฤติดีปฏิบัติชอบ อีกทั้งได้พากันถวายสักการะ บูชา ภาวนาพระนามของท่านเป็นประจำจะบังเกิดผลานิสงส์ประการใดบ้างพระเจ้าข้า?

    แล้วตั้งใจพากเพียรบำเพ็ญธรรม ประพฤติดีปฏิบัติชอบ อีกทั้งได้พากันถวายสักการะ บูชา ภาวนาพระนามของท่านเป็นประจำจะบังเกิดผลานิสงส์ประการใดบ้างพระเจ้าข้า?

    พระพุทธองค์ทรงตรัสตอบว่า "ขอพวกท่านทั้งหลายจงตั้งใจฟังให้ดีผู้ใดก็ตามได้ยินได้ฟังเรื่องราวของ พระกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร นื้แล้วมีจิตศรัทธากราบไหว้สักการะบูชาระลึกถึงท่านเป็นประจำจะบังเกิดผลานิสงส์ขึ้น 28 ประการดังนี้คือ

    1. เทพนาคาปกปักษ์รักษาและระลึกอยู่เป็นนิจ
    2. กุศลผลบุญเจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นทุกทิวาราตรี
    3. สร้างสมแต่อริยมรรคเป็นสมุฏฐานทั้งก่อเหตุปัจจัยแห่งกุศลกรรม
    4. โพธิจิตย่อมไม่บังเกิดความท้อถอย
    5. สมบูรณ์ด้วยเครื่องบริโภคอุปโภคตลอดกาล
    6. แคล้วคลาดปราศจากโรคาพยาธิ
    7. รอดพ้นจากอุทกภัยและอัคคีภัย
    8. นิราศจากโจรภัยมาเบียดเบียน
    9. เป็นที่เคารพยกย่องของเหล่านรชนทั่วไป
    10. เทพารักษ์คุ้มครองอุ้มชูช่วยเหลือเสมอ
    11. สตรีปรารถนากลับเพศเป็นบุรุษ
    12. เกิดในตระกูลวงศ์ญาติแห่งพระมหากษัตริย์หรือราชอำมาตย์
    13. มีรูปอินทรีย์กายอินทรีย์สมบูรณ์
    14. จุติในแดนสวรรค์
    15. ภพหน้าจะบังเกิดเป็นพระมหาราชาธิราช
    16. สามารถหยั่งรู้ระลึกเหตุการณ์แห่งอดีตชาติ
    17. คิดประสงค์สิ่งใดย่อมได้ดังมโนปรารถนาทุกประการ
    18. วงศ์ญาติตระกูลอีกทั้งบริวาร เสพแต่ความสุขเกษมสำราญปราศทุกข์
    19. สิ่งอัปมงคลทั้งหลายย่อมสูญหายมลายสิ้น
    20. ไม่ไปบังเกิดในทุคติภูมิ
    21. หากสัญจรไป ณ แห่งใด ย่อมได้รับความสะดวก ผ่านพ้นจากอุปสรรคทั้งมวล
    22. ในยามราตรีย่อมสุบินในทางศุภมงคล ปราศจากนิมิตอันชั่วร้าย
    23. บรรพบุรุษและวงศ์ญาติที่ได้ล่วงลับแล้วนั้น ก็จะหลุดพ้นจากแดนทุคติภูมิ
    24. กำเนิดในภพหน้าก็จะเป็นผู้มีบุญวาสนา
    25. ได้รับการยกย่องจากอริยชนทั้งหลาย
    26. มีสติปัญญารอบรู้เป็นเลิศ
    27. มีใจอันเปี่ยมล้นด้วยเมตตาธรรมเป็นพื้นฐาน
    28. ปัจฉิมกาลจักสำเร็จพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ

    ดูก่อน...ซีคงจั่นโพธิสัตว์ หากในอนาคตกาลเวไนยสัตว์เหล่าใด ได้ประพฤติปฏิบัติตนตามธรรมโอวาทแห่งพระสูตรนี้แล้ว บุคคลเหล่านั้นยังจะได้รับมหากุศล 7 ประการคือ
    1. จะได้สำเร็จมรรคผลโดยเร็ว
    2. สามารถลบล้างหนี้เวรบาปกรรม
    3. เหล่าเทพเทวาจะปกป้องคุ้มครองทุกทิวาราตรี
    4. มีโพธิจิตที่มั่นคงไม่เสื่อมถอย
    5. บุญญาบารมีเพิ่มพูน
    6. มีสิริอายุยืนยาว
    7. จักได้สำเร็จพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณอย่างแน่นอน

    ครั้นเหล่าพุทธะ พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์ พร้อมทั้งบรรดาเทพพรหมและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากทั้วทศทิศในหมื่นจักรวาล ได้สดับฟังเรื่องราวของพระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์ซึ่งองค์สมเด็จพระบรมศาสดาอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงโปรดเมตตาแสดงวิสัชนาจบลง
    ทุกพระองค์ต่างก็ได้เปล่งเสียงแซ่ซ้องสาธุการขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกันว่า "ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินว่าผู้ใดมีปณิธานที่สูงล้ำ ดังองค์พระกษิติครรภโพธิสัตว์เจ้า พระองค์นี้เลย ช่างน่าอัศจรรย์....น่าอัศจรรย์จริง ๆ"
    ในกาลบัดนั้นเหล่าเทพยดาซึ่งอยู่ในฟากฟ้านภากาศเบื้องบนต่างก็ได้โปรยปรายข้าวตอกดอกไม้ และแก้วมณีรัตนชาติอันแวววาวระยิบระยับลงมา เพื่อน้อมนมัสการบูชาแต่องค์สมเด็จพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระกษิติครรภโพธิสัตว์ ทัศนาการดูประหนึ่งหยาดฝนทิพย์อันประพรมให้วิจิตรงดงามสว่างไสวเรืองรองไปทั้วชั้นดาวดึงส์เทวโลกนั้น
    แลบัดนี้จึงขอสมมุติยุติ "พระกษิติครรภโพธิสัตว์มูลปณิธานสูตร" ลงด้วยประการฉะนี้

    http://thai.mindcyber.com/modules.php?name=Sections&op=viewarticle&artid=116&page=14
     
  5. ปราณยาม

    ปราณยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    371
    ค่าพลัง:
    +2,638
    สาธุ สาธุ ตอนนี้ผมก็ตั้งใจครับ อธิษฐานว่าถ้าตายไปจะขอไปสวดมนต์ให้กับพวกที่อยู่ในนรก จนถึงศาสนาพระศรีอาริยเมตไตรครับ
     
  6. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +2,177
    ห่ตั้งนานกระทู้นี่
    อ่านว่าอย่างไรครับ กษิติครรภ์โพธิสัตว์ อ่านออกเสียงอย่างไร
    คาถาบูชาว่าอย่าไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...