มีคำถาม ยิบย่อย ครับ

ยิบย่อย 2​

1 ท่านทราบว่าชาญ 4 สมบูรณ์ มีอาการใดที่จะวัดได้บ้างครับ

+++ แก้จากคำว่า "ชาญ เป็น ฌาน"

+++ ฌาน ทั้งหมด คือ "การครองอารมณ์เดียว" เหมือนกันทั้งหมด ที่เรียกว่า "เอกัคตารมณ์" หรือ "อัปปนาสมาธิ"

+++ ส่วนจะเป็น เฉย สุข ซาบซ่าน รวมทั้งอาการต่าง ๆ หากเป็น "อารมณ์เดียว" ถือว่าเป็น "ฌาน ในศาสนาพุทธ" ทั้งหมด

+++ เอกัคตารมณ์ มีความ "สมบูรณ์" เท่ากัน แต่อาการอาจไม่เหมือนกันก็ได้ คำว่า "ฌาน 4" เป็นแค่การระบุ "อาการเฉยใน อัปปนาสมาธิ" เท่านั้น

2 การวัดฌาณ4สมบูรณ์ โดยใช้เวลาในการนั่งสมาธิ ท่านคิดว่า อย่างน้อยต้องนั่งได้กี่ชมถึงจะบอกว่า ใกล้ฌาณ4 สมบูรณ์ เช่น 3-4 ชม(นั่งไม่ขยับ)

+++ ถ้าใช้ "การนั่งทน" เป็นเครื่องวัดระดับ ฌาน แล้วละก็ สำนักปฏิบัตินั้น ๆ ไม่อาจสู้กับพวก "เล่นไพ่ช่วงตรุษจีน" ได้เลยแม้แต่สำนักเดียว

+++ ถ้า "นั่งทน" 4 ชม = ฌาน 4 แล้วพวกเล่นไพ่ 3 วัน 3 คืนย่อม = 24X3 = ฌานที่ ? ก็ลองนับกันเองนะ

+++ ลัทธิ "นั่งทน" นี้น่าจะมาจากพวก ฌานฤษี เข้ามาเบียดบังศาสนาพุทธมากกว่า

+++ ฌาน ตัวจริงในศาสนาพุทธ ให้อ่านทวน ข้อ 1 ใหม่อีกที

3 เราสามารถใช้กำลังฌาณ 4 จาก อานาปา เพื่ออธิฐานจิตในธาตุทั้งสี่ หรือ อื่นๆได้หรือไม่โดยไม่ได้กำหนดกสิณไปสู่ฌาณ4

+++ คำถามนี้ "ปนกันแยะเกินไป" มีทั้ง อานาปาน อฐิษฐาน ฌาน ธาตุ "ไม่ได้กำหนดกสิณไปสู่ฌาณ4" ผู้ถาม "กำลังสับสนอะไรอยู่หรือ"

+++ อานาปาน + อฐิษฐาน ภายใน ฌาน (ตรงนี้ จิตวางลมหายใจไปแล้ว) ส่วน อฐิษฐานภายในฌาน นั่นคือ "การเดินจิตล้วน ๆ" ที่แปลงสภาพ "เนื้อฌานให้เข้ากับเนื้อธาตุ" ตรงนี้หากจะนำมาเกี่ยวกับ หมวดกสิณแล้ว "การเดินฌานให้เป็นเนื้อธาตุ ก็คือ การเดินพลังกสินให้เป็นธาตุ" ภาษาต่างกัน แต่อาการเดียวกันนั่นแหละ

4 อรูปฌาณ จำเป็นหรือไม่สำหรับนิพพาน ครับ

+++ อรูปฌาน มีสภาวะคล้ายนิพพาน แต่ นิพพานไม่ใช่ฌาน รวมถึง ฌานตั้งอยู่ในนิพพาน "ไม่ได้" เป็นสภาพที่ "พ้นจากฌาน" ทั้งปวงไปแล้ว ทั้งหมด "แล้วแต่จริตของผู้ฝึก"

5 เมื่อต้องการ อธิฐานจิต ต้องเข้าฌาณ4ให้สุดหรือไม่ เเละต้องสุดนานแค่ไหนถึงจะดีครับ

+++ อฐิษฐานให้เสร็จก่อน แล้วจึงเข้า บางคนวาระจิตเดียวก็เสร็จแล้ว แต่หลายคนเข้าตั้งตรึ่งค่อนวันก็ไม่เสร็จ ตรงนี้เป็น "อจินไตย" ของผู้ที่ยังไม่ถึงซึ่ง ความเป็นฌาน

6 ถ้าอธิฐานจิต ของใหญ่ ของเยอะ กับของเล็ก ของน้อย ผลต่างกันหรือไม่ ถ้าเเตกต่างกัน มีอะไรที่จะใช้ทดสอบแบบง่ายๆหรือไม่ครับ

+++ ไม่ต่างกัน อฐิษฐานจิตเป็น "รูป" ส่วนการเดินจิตเป็น "นาม" ของใหญ่เล็ก มากน้อย เป็น "รูป" เหมือนกันทั้งหมด

+++ ในข้อนี้หากทำ อธิปัตติปัจจัยโย ได้ ก็จะรู้จัก อนันตะระปัจจะโย ได้ (มหาปัฏฐานสูตร) ขั้นต่ำสุดต้อง "เดินจิต" เป็นเสียก่อนนะ

+++ เมื่ออยากรู้ ก็ ตอบให้ไป ส่วนจะเข้าใจได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้อง "ทำให้ถึง" เท่านั้น มีอยู่หลายข้อที่ ผู้ถามยังมาไม่ถึง แต่ก็ให้คำตอบไว้ "เพื่อเป็นเกณฑ์" เท่านั้น

+++ ให้อ่านในโพสท์ต่อไป จะเริ่มเข้าใจได้ดีขึ้น

 

+++ จริง ๆ แล้วตรงนี้คือ "ฌาน 2 ตัวจริง" เริ่มมาจาก "อยู่อย่างนี้ก็อยู่ได้" ทุกอย่างของ ฌานตัวจริง เริ่มต้นที่นี่

+++ เอกัคตา "เข้าใจถูกแล้ว" คนที่ทำถึงเท่านั้น จึงรู้ได้

+++ จากนั้นให้ "อยู่" ในเอกัคตาไปเรื่อย ๆ จะเริ่มเห็น "เนื้อสภาพของเอกัคตา" จากเนื้อหนึ่ง "แปรสภาพ" ไปเป็นอีกเนื้อหนึ่ง หากชำนาญเมื่อไรก็จะ สามารถเดินจิตได้เอง เรียกว่า "การเดินจิตแบบ เอกัคตา สู่ เอกัคตา" จากนั้นจึงค่อยเปรียบเทียบ "เนื้อของเอกัคตาไหน คือ เนื้อธาตุอะไร" ตรงนี้ก็จะเริ่มเข้าใจ "ความเป็นธาตุ" ได้มากยิ่งขึ้น

+++ หากถึง เอกัคตา แล้ว "หากอาการของแสงสว่างนั้น ไม่มีเนื้อ" ตรงนี้ถือว่า "จิตกำลังจะถอน" ออกจากเอกัคตาแล้ว

+++ หากอาการของ แสงสว่าง "มีเนื้อธาตุอยู่ด้วย" ก็ให้เข้าไปอยู่ในนั้นเลย จะได้เริ่มรู้ได้ว่า "ฌาน" ที่นอกเหนือจากตำรานั้น ยังมีอยู่

+++ ทำไปเรื่อย ๆ เก็บประสพการณ์ไปเรื่อย ๆ ก็จะเข้าใจอาการต่าง ๆ ได้ชัดเจนขึ้นเอง นะครับ

 

เครื่องวัดความละเอียดของจิต

1 จะรู้ได้อย่างไรว่าจิตเราจะละเอียดขั้นไหน ถึงจะเห็นผี เทวดา พรม นิพพาน ได้

2 ขีดจำกัดของอภิญญา คือจุดใด เช่น ขอให้อากาศเเข็ง จะเเข็งได้กว้างขนาดไหนทั่วโลกได้ไหม หรือ ใช้เนรมิตสถานที่ได้หรือไม่ เเล้วจะอยู่ได้นานแค่ไหน หรืออยู่ได้ตลอดไปครับ

3 อภิญญาที่ให้ผู้อื่น เห็นเหมือนเรา หรือการเข้าฝันผู้อื่น จัดอยู่ในประเภทความสามารถใด ควรอฐิฐานจิตอย่างไร

ขอบพระคุณครับ

 

+++ สัมปะยุตตาธรรมา = สภาวะธรรมที่เข้ากัน หรือ เท่าเทียมกันได้ จึงจะเห็นกันได้

+++ ผู้ใดเห็นธรรม (นิพพาน) = ผู้นั้นเห็นเรา (ตามความเป็นจริง)

+++ ขีดจำกัดของ "การใช้ขันธ์" คือจุดใด ขีดจำกัดของอภิญญา ก็คือ จุดนั้น

+++ อากาศแข็ง ไม่ดีเท่า "ทำน้ำแข็ง" เพราะอย่างต่ำ ในยามหน้าร้อน ก็จะขายได้ดี มีกำไรงดงามมาก

+++ ทำได้เมื่อไรก็ "บอกมาด้วยนะ" ผมจะ เนรมิต แผนกฝ่ายขาย และ ฝ่ายการขนส่ง ให้พร้อมสรรพ "เซ็งลี้ฮ้อ ๆ ด้วยกันได้เลยนะ OK?"

+++ ไม่มี "ปาฏิหาริย์" ใดเกินไปกว่า "อนุสาสนีปาฏิหาริย์" ที่คำสอนเป็นอัศจรรย์ ทำให้ชนหมู่เหล่าที่ เดินจิตตาม สามารถล่วงรู้ธรรมอันเป็นเครื่องพ้นทุกข์ได้

+++ ส่วนใครมี "ปาฏิหาริย์อื่น ๆ" ก็บอกมาด้วย เอาเฉพาะของจริงนะ ผมสามารถเนรมิต ฝ่ายจัดการแสดง ฝ่ายโฆษณา ได้ทันที "มาเซ็งลี้ฮ้อ ๆ ร่วมกันนะ" OK?

+++ ถ้าเจอเมื่อไรก็ช่วยแจ้งมาด้วย "มีส่วนแบ่งแน่นอน" OK ม่ะ ขอบคุณล่วงหน้าด้วยคนนะ