ถามเรื่องจะสังเกตุได้ไงว่าคำแผ่เมตตามีพลัง

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย The eyes, 2 พฤษภาคม 2014.

  1. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    คือถ้าไม่เอาลังเลสงสัยไปสังเวย ให้อาหารอวิชชา
    คนแผ่เมตตาจะรู้ว่า ทุกรูปนามเป็นเพื่อน และทุกข์
    แผ่ไปแล้วก็สงสัยโน่นนี่นั่น
    แสดงว่าไม่ใช่เพื่อน ไม่ร่วมทุกข์

    เพราะเอาเพื่อน ร่วมทุกข์ จริงๆ
    ไปสังเวยอวิชชา
    จริงมะหละ พรหมวิหารสี่ เมตตา พรหมวิหาร เป้นกรรมฐานปราณีต
    ถ้ามีผล เอาเพื่อร่วมทุกข์สังเวยอวิชชา ค่าโง่
    ก็ต้องมีผล
     
  2. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เราเห็นเนียะ สัตว์หนะ ไอ้สัตว์ เนียะๆๆๆ
    ทุกข์เป้นเพื่อน อยู่ร่วมทุกข์หงะ

    แผ่มะหละ

    ไอ้สัตว์ เมิงอย่าทิ้งกูนะอยู่ร่วมทุกข์กะกูนะ
    แผ่มะหละ
     
  3. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เห็นเพื่อนทุกข์เมิงไม่อยู่เป้นเพื่อน เตะแม่งซะต๊าบ
    ขโมยเงินมันซักหน่อย ข่มขืนมันซักนิด
    โกหกให้มันรู้ว่ามันโง่ กินเหล้าไม่ชวน ไอ้สัตว์
     
  4. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    หายสงสัยโดยการเห็นทุกข์ เห็นมันทุกข์เห้นง่าย
    เห็นเราทุกข์เห็นยาก

    ทำเราสุขทำง่าย
    ทำมันพ้นทุกข์ทำยาก
     
  5. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ถ้าสนใจเรื่องไสยศาสตร์หรืออาถรรพ์
    ถ้ามีเวลา จะอุทิศกุศลหรือแผ่เมตตากะว่าแผ่ทันอุทิศทัน
    ให้อาราธนาบารมี พระรัตนตรับแผ่
    เช่นข้าพเจ้าขออารธนาบารมี คุณพระพุทธรัตน ธรรมรัตน สังฆรัตน
    ให้กุศลที่ข้าพเจ้า มีใจอยากอุทิศกุศลนี้ สำเร็จแก่ ..."นาย ก" "นาง ง" "ผี ข" "เปรต จ"

    แค่กุศลที่เจนตนาจะอุทิศก็พอ
    ถ้าไม่หนำใจให้จดชื่อ หรือจำเอาก็ได้
    มาใช้คาถาจักรพรรดิ์ หรืออิติปิโส
    หรือคาถาอะไรก็ได้ที่สวดแล้วสะบายใจ
    สวดให้สะบายใจแล้วอธิษฐานอุทิศหรือแผ่เมตตา
    แล้วสวดต่อจนสะบายใจ อิติปิโส คาถาเงินล้าน ชินณปัญชร


    อย่าเอากำลังใจตนเองอุทิศเพียวๆเด็ดขาด

    เพื่อนหนะ
    ไอ้สัตว์
     
  6. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    สัด <== เนียะ ด่ามัน
    ทั้งหลาย <= เหมาด้วย
    ที่เป็นเพื่อน <= พวกกูล้มเจ้า
    ทุกข์ <= เพราะใคร
    เกิดแก่เจ็บตาย <== เมิงแช่งกู

    อย่าเอากำลังใจตนเองอุทิศเด็ดขาด
    ปรกติแล้วถ้าเป้าหมายที่เราจะอุทิศเล่นของ
    มีอาถรรพ์ มีไสยเวทย์

    โดนของ
    ชัวร์ๆ
    ไม่มีเว้น
     
  7. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    ปรกติแล้ว การแผ่เมตตามักไม่ถึงเป้าหมาย
    เพราะพรหมเทพเทวาเหล่านั้น
    จะกังวลว่าเด๊่ยวจะมีการเข้าใจผิด
    แล้วเกิดศึก ไศยศาสตร์

    แผ่เมตตา หรืออุทิศกุศล ไม่ถึงเป้าหมาย ก็แค่ไม่สมหวัง
    และกำหนดรู้ทุกข์ ที่ไม่สมหวังก็พอ
    เพื่อนร่วมทุกข์
     
  8. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,235
    เช่น ผมให้ความเห็นที่ชวนให้เกิดข้อสงสัย
    ว่าคนเราควรอุทิศ แผ่กุศล หรือไม่ควร

    ให้เห้ฯว่านิวรณ์ ที่ชื่อ วิจิกิจฉา แปลว่าลังเลสงสัยๆได้เกิด
    อย่าเอาไปสังเวยอวิชชาเด็ดขาด เพื่อนเอ๋ย
    ให้กำหนดรู้ทุกข์ที่สงสัยแล้วอุทิศกุศล
    ให้ผมก็ได้เพื่อนเอ๋ย
    ดูซิว่าโดนของมะ
     
  9. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ต่อจากสวดมนต์ ก็อุทิศผลค่ะ ^_^
     
  10. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +876
    กระทู้เอามาดันอีกรอบก็ดีค่ะ มาอ่านอีกก็เหมือนได้ทวนความรู้ความเข้าใจอีกรอบ สาธุกระคุณ dawlong
     
  11. skymatrix

    skymatrix สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2016
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +23
    การแผ่เมตตาในความเข้าใจของผมนะ เหมือนกับเราส่งความสุขไปให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลาย ในสากลโลกซึ่งมีเยอะมาก เราเลยไม่ค่อยจะรู้สึกอะไร เหมือนเราจุดเทียนใน
    ตอนกลาางคืน จะให้มันสว่างไปทั่วก็เป็นไปไม่ได้ การสะท้อนกลับของผู้ที่ได้รับความสว่าง ก็อยุ่ในวงแคบๆ ซึ่งกำลังบุญของเราไม่ได้ยิ่งใหญ่เหมือนกับแสงดวงอาทิตย์ มันไม่เหมือนกับเวลาเราตั้งจิตรอธิฐานอุทิศส่วนกุศลไปให้กับบางสิ่งโดยเฉพาะเจาะจงลงไป พอเราเอ่ยชื่อปุ๊ป เราจะรุ้สึกทันทีว่ามันมีผล ส่วนผลจะมีอาการมากน้อยแค่ใหนขึ้น
    อยู่กับกุศลที่ทำแล้วอุทิศไป และขึ้นอยู่กับสมาธิจิตรในขณะนั้นด้วยว่าจิตรของคุณอยู่ในระดับใหน (ปฐมฌาน ต่ำกว่าหรือสูงกว่า) ถ้ากุศลไม่มากก็แค่ขนลุกกราว แต่ถ้าเราเอ่ยชื่อแล้วเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไรก็แสดงว่า เขาไม่รับหรือเขาไม่ได้อยู่ในเวลาที่จะรับรู้ได้เช่นอยู่ในนรก แต่ถ้ากุศลมากและขณะนั้นจิตรเราเป็นกุศล ความรุ้สึกก็อาจจะมากว่าขนลุกเช่น มีลักษณะขนลุก ซาบซ่าน เหมือนมีไฟอ่อนๆ วิ่งวน ๆ รอบตัวเราและหมุนลอยออกไปทางศรีษะขึ้นสู่ท้องฟ้า อย่างพี่สาวผมเธอก็เห็นเป็นวงขาว ๆ หรือทองๆ ลอยออกจากตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า หลายๆ วง ซ้อนๆ กัน ซึ่งมันก็จะเกิดไม่เหมือนกันในแต่ละคน อ้อเวลาอธิฐานอุทิศส่วนกุศลให้ใคร อย่าสะดุด พอสะดุดแล้วมันเหมือนขาดตอน ขาดสมาธิ ความรู้สึกมันจะไม่ปรากฏ จนกว่าสมาธิจะกลับมา
    ผมเคยเป็นเจ้าภาพทอดกฐินวัดต่างจังหวัด ตอนที่พระสวดรับกฐินนั้นผมนั่งอยู่ด้านหน้า
    พนมมือใกล้ ๆ กับท่านเชื่อมั้ยว่ามือผมสั่นแบบหยุดไม่ได้ผมพยาจะหยุดเพราะกลัวคนอื่นเห็นว่ามือสั่นแต่มันก็หยุดไม่ได้จนท่านสวดจบ.
     
  12. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    เข้ามาติดตามอ่าน ด้วยคน หนอ..:cool:
     
  13. นทีบุญ

    นทีบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    939
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +796
    จากประสบการณ์นะคะ ถ้ากำหนดแผ่เมตตาไปกว้างๆให้ได้มากที่สุด เราจะรู้สึกอิ่มเอมใจ ใจสบาย ใจเบา เรารู้แล้วว่านี่แหละคือพลังของเมตตา เราเป็นคนทำ เราย่อมรู้สึกก่อนใครเสมอ คือความเป็นสุขใจ

    ทำเป็นประจำ ต้องมีฝันบ้างอะไรบ้างหละ เราเคยฝันว่า มีแสงไฟดวงเล็กๆขนาดเท่าแสงเทียน ปรากฎอยู่กลางหนองน้ำ แต่แสงไฟนั้นสว่างมาก มีกุ้งหอยปูปลาเข้ามาตอมแสงไฟเต็มไปหมด เราเข้าใจว่าแสงไฟนั่นคือพลังเมตตาที่เราแผ่ออกไป สัตวเล็กสัตว์น้อยได้รับหมด

    และเคยคืนหนึ่งได้แผ่เมตตาพรหมวิหารไปทั่วๆ ก็ฝันอีกว่า มีสัตว์ประหลาดต่างๆ โผล่ขึ้นมาจากแม่น้ำ คล้ายๆควายเผือกนะตัวหนึงเข้ามาหาเรา แล้วให้เราเกาหลังให้ บางทีก็ฝันเห็นฝูงปลาว่ายมาหาเหมือนเขารักเรา เราว่าเป็นผลจากเมตตา หรือแม้แต่การมาอนุโมทนาบุญของผีสางนางไม้ คนธรรพ์ ก็เกิดจากการสวดแผ่เมตตา เพราะเราจะแผ่บุญไปก่อนทุกครั้งแล้วก็แผ่เมตตาตาม

    สำคัญมากๆเลยแผ่เมตตา ยิ่งเวลาก่อนนอนนี่ ถ้าได้แผ่ไปแล้วใจสบาย ตื่นมาจะรู้สึกสดชื่น เป็นอานิสงส์ของการแผ่เมตตา คือ หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุขน่ะคะ สาธุกับเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มิถุนายน 2016
  14. พงษ์สนั่น

    พงษ์สนั่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +336
    ผมก็ไม่ค่อยเป็นคนที่มีเมตตาเท่าไหร่ เพราะกิเลสละก็ค่อนข้างจะเยอะ
    แต่เวลาแผ่เมตตา ผมก็จำเป็นที่จะต้องละกังวลที่เสมือน
    แม่ห่วงหวงลูกน้อยที่ออกจากบ้าน ที่ต้องคำนึงถึงสารทุกข์สุขดิบ ว่าเขานั้นขาดเหลืออะไร
    ของที่เราส่งไปให้ก่อนออกจากบ้านและของที่เขามีอยู่นั้นมีพอใช้จ่ายใหม
    ลูกน้อยนั้นก็คือรักแต่เป็นรักนอกตัว ส่วนในตัวผมนั้นคือกังวล พอระลึกว่าลูกน้อยนั้นก็มี
    ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย อยู่เป็นธรรมดา ละผมก็สบายใจ
    ก็เป็นอันว่าความสบายใจนั้นก็คือความไม่ผูกติดที่แผ่ไปนั้นเอง *-*
     
  15. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    เราเคยมีประสบการณ์ เรื่องอุทิศส่วนกุศลค่ะ สำหรับเรื่องแผ่เมตตายังไม่ชัดค่ะ
    ประสบการณ์ที่ว่า ก็คือ ทำบุญแล้ว กล่าวชื่อผู้ที่เราจะอุทิศบุญกุศลให้
    ก็จะรู้สึก ขนลุกซ่าาาาซ่านนนน แบบสบายๆๆ ค่ะ
    ก็นึกเอง ตามประสาผู้ปฏิบัติน้อย ว่าเขาคงได้รับบุญกุศลที่อุทิศให้
    เพราะมีสัญญาณตอบรับกันและกัน..แบบขนลุกซ่าาาซ่าน
    คล้ายๆ หลายๆ ท่านที่บอก สถานีส่งเลยมีอาการปีติ
    ส่วนสภาวะอาการ เราก็ไม่อาจยืนยันได้ ว่าเป็นสภาวะใคร
    เขาปีติ แล้วเราปีติตาม หรือเราปีติ แล้วเขาปีติตาม
    แต่อยากจะบอกว่า..แม่ดาวเรือง คิดดี มีเมตตา
    ก็ดีสำหรับตนแล้วค่ะ คิดเรื่องดี ตัวเราก็ย่อมกระทบพลังดีด้วยค่ะ

    ปล.บังเอิญผ่านมา..อิอิ
     
  16. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    ถ้าพูดถึง เรื่อง ความเมตตา
    เราก็พอจะนึกสภาวะได้ว่าเป็นแบบไหน อย่างไร
    ลองสังเกตค่ะ เวลาเราพบเจอพระที่เราเห็นแล้วสบายใจ
    เราก็จะบอกว่า พระท่านใจดี มีเมตตา
    สภาวะ กระแส นั่นแหล่ะ เราเดาว่า...เป็นลักษณะของความเมตตา
    สบายๆ เย็นๆ เย็นกาย เย็นใจ ชุ่มชื่นใจ แล้วเหมือนกระแสพลังงานนิ
    บางครั้งเห็นหน้า พูดคุยเจรจา อ่านข้อความ ของคนบางคน
    กระแสพลังงาน ก็จะออกมาด้วยให้ได้สัมผัสกัน
    ส่วนเรา..พรรคพวก มักบอกกันว่า มีกระแสอำมหิต..หุหุ :mad:
     
  17. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    อ๊ากกกกก!!! แม่เมืองมีกระแสอำมหิต :boo::boo::boo: อ๋อ เพราะแปลงเป็นเสือนี่เอง ก๊ากกกกก!!! (เรียนแบบอย่างแรง)
     
  18. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    เวลากล่าว..บอกบุญ..แผ่บุญ..อุทิศบุญ..ก็บอกกล่าวด้วยภาษา..คำ..ธรรมดาๆ
    บางครั้ง..ซ่าซ่าน..เป็นระลอก..บางครั้งเฉยๆ

    ก็คงเหมือน..เวลาเราอ่านข้อความของใครบางคน..บางครั้งซ่าซ่าน..อ่านจบ
    คลื่นสัญญาณหาย..อ่านซ้ำอีกที ก็ซ่าซ่านซ้ำ..แต่บางข้อความอ่านแล้วเฉยๆ อ่ะ
     
  19. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    อืม !!! 1.ถ้าสมมุติตัวเราปรับอารมณ์ให้เหมือนเด็กน้อยก่อนการอุทิศบุญ รึ แผ่บุญกุศล ตรงจุดนี้สามารถช่วยขยายวงบุญ รึ กระแสแผ่เมตตาได้ไหมคะ ???
    2.และระหว่างอารมณ์ปกติ กับ อารมณ์เด็กอย่างใดเหมาะสมกว่ากัน มันให้ผลแบบใดได้บ้าง
    ปล.โดยส่วนตัวคิดว่าได้และดีด้วย(พึ่งลองเมื่อคืน ถึงขนาดมีอาการไฟฟ้าวิ่งทั่วร่าง ขนลุกทั่วตัว สลับกันไปมา แต่น้ำตาไหลตลอดเวลา และปรากฎภาพบางท่านที่ไม่เคยเห็นมาโมทนาด้วย) แต่ต้องการฟังในรายละเอียดเพิ่มเติมค่ะ เพราะอาจจะเกิดจากเหตุอื่นก็ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มิถุนายน 2016
  20. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ในส่วนของการอ่านข้อความเป็นจริงตามคุณมิกบอกกล่าวค่ะ แต่ส่วนตัวคิดว่าเป็นอาการที่เกิดจากคนอ่านมีสัมผัสดี กับ อารมณ์ของคนเขียน ส่วนบางท่านที่จับอารมณ์ไม่ได้ก็อาจเป็นเพราะเขาไม่ถูกกระทบจนเกิดอารมณ์ในกายและ บางท่านอาจรู้จักเก็บกักอารมณ์ ทำให้คนอ่านสัมผัสไม่ได้ ไม่รู้ว่าความจริงเขารู้สึกแบบใด สำหรับนักปฎิบัติอาจหมายถึงการปิดกั้นจิตไม่ให้คนอื่นสัมผัสค่ะ (มีผลตามลำดับความสามารถในการปฎิบัติ)

    ยกตัวอย่างทางโลก คนรับรู้ความรู้สึกดี เวลาอ่านนิยายจะดราม่ามากกว่าคนปกติทั่วไป เพราะผู้รับ รับดี ส่วนนักเขียนต้องบีบคั้น ใส่ อารมณ์ในตัวละครในหนังสือ เพื่อสื่ออารมณ์ ให้มากที่สุด คือผู้ส่งใส่อารมณ์เต็มที่
    แต่ในทางธรรมผู้ปฎิบัติต้องปิดกั้น สลาย ไม่ให้อารมณ์กระทบ

    ไม่ให้มีอารมณ์ส่งเข้าและส่งออก จึงทำให้การอ่านในแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับหัวข้อและบทบาท สภาพแวดล้อมในที่นั้นๆด้วยค่ะ (เดาสะญานนะคะ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มิถุนายน 2016

แชร์หน้านี้

Loading...