ถ้ำเขาแรงจริงๆ

เจ้าของถ้ำเขาแรง

ห่างหายจากโพสต์เรื่องการปฏิบัติธรรมมานาน

วันนี้ขอกลับไป กล่าวเรื่อง ผจญภัยบนภูลังกา ดินแดนที่ได้ชื่อจากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ว่า มหาวิทยาลัยพระอรหันต์

วันหนึ่งขณะอยู่บนภูลังกา ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่ง ก็แนะนำสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ค่อนข้างจะลี้ลับ หลังจากท่านได้บอกตำแหน่งที่ตั้งแล้ว ผมกับเพื่อนก็มาร่วมผจญภัยกัน ว่าจะมีอะไรหรือ ในถ้ำแห่งนี้

พอพระท่านบอก จิตผมก็พุ่งมาตรงนี้ทันที จึงชวนเพื่อนไปสำรวจ เดินมุ่งตรงดิ่ง ก็หาไม่ยากตามที่ท่านว่าเลยสักนิด

อาจเพราะท่านบอกตำแหน่งดี หรือจิตมันพุ่งตรงมาก่อนก็ไม่อาจทราบได้

พอถ้ำนี้ปรากฏต่อสายตา ก็ตะลึงพอสมควร เพราะทางเข้าถ้ำก็ลี้ลับมากแล้ว ยากที่ใครจะหาได้เจอ

พอเห็นโครงสร้างของถ้ำ ก็เห็นได้เลยว่า มีลักษณะเหมือนงู ขนาดใหญ่เลื้อยขดอยู่ตรงนี้ ทั้งหินก็แตกๆ เป็นลักษณะเหมือนเกล็ดงู

พอเดินลงไปถึงด้านล่าง ก็สัมผัสกับความเย็นยะเยือกอีกรอบ

ผมก็เดินสำรวจไปทั่ว ก็ไม่ใช่ถ้ำใหญ่ แต่เหมือนผมกับเพื่อนเดินลงไปอยู่ใต้ลำตัวงูขนาดยักษ์ที่ขดอยู่

ผมก็หาที่เหมาะๆ แล้วเจริญสมาธิภาวนา กันทันที

เจริญสมาธิไม่นาน ก็เกิดนิมิตขึ้น

เห็นเป็นงูจงอาง เลื้อยมาหา รูปร่างและสีสรรค์ เหมือนงูจงอาง แต่ทำไมถึงมีลำตัวใหญ่มาก ใหญ่มากกว่างูเหลือมเสียด้วย แต่จะว่าเป็นพญานาค ก็ไม่เห็นมีหงอนเหมือนตามรูปที่เขาบอกเล่ากัน

งูจงอางนี้ เลี้อยมาหา ไม่รู้ว่ามีความยาวขนาดเท่าไหร่ เพราะมองไม่เห็นหาง เพราะความใหญ่และยาว

ในนิมิต เขาก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรผมกับเพื่อนเลย

เขาส่งกระแสจิตมาว่า เขาอยู่ที่นี่มานานแล้ว เขาก็บอกแค่นั้น ผมก็รู้สึก กลัวกับขนาดขึ้นมาในทันทีกินเวลาพอสมควร สักครู่ สติก็เกิดขึ้น จิตดวงหนึ่งก็เห็นจิตอีกดวงหนึ่งที่มีความกลัว จิตที่มีความกลัวก็ดับลงไป เหลือความเฉย

เมื่อความกลัวดับ เขาก็เลื่อยไปอยู่ตรงหน้าเพื่อนสักครู่ แล้วก็เลื้อยไปอยู่ ณ มุมหนึ่งของถ้ำ

ผมก็นั่งอยู่อีกสักระยะ ก็ออกจากสมาธิ เห็นเพื่อนออกจากสมาธิแล้ว ผมก็เลยบอกว่า เมื่อกี่ผมเห็นงูจงอางขนาดยักษ์ในนิมิต

เพื่อนก็บอกว่า ผมก็สัมผัสได้ ว่างูใหญ่ น่ากลัวมาก ผมไม่กล้าบอกเพื่อนด้วยซ้ำว่า เจ้างูตัวนี้ พอมันมาหาผม และละจากผมไป มันก็ไปอยู่ตรงหน้าเพื่อนสักครู่ จึงเลื่อยออกไป

เพราะกลัวว่าเพื่อนจะไม่มาที่นี่อีก

แต่เมื่อเพื่อนสัมผัสได้ ว่าเจอเหมือนผม เพื่อนก็ชวนกลับ ผมก็ชวนมาอีก เพื่อนก็บอกว่าไม่เอา ไม่อยากไป เพราะเกรงใจงู และจิตมันไม่เป็นสมาธิ

ตอนแรกว่าจะหนีไปอีก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป

เราก็กลับมาเจริญภาวนากันในถ้ำชัยมงคล (ถ้ำหลวงปู่วัง)

หลังจากนั้น เราก็ไปเจออีกถ้ำที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน จะนำมาเล่าในภายหลัง และอีกวันสองวัน ญาติของเพื่อนก็ตามมาสมทบ และอยู่จนครบกำหนดเราก็เดินทางกลับ ยกเว้นเพื่อนอีกคน ที่บอกว่าจะขอปฏิบัติต่อคนเดียวอีก 7 วัน

เพื่อนผมก็เล่าให้เพื่อนที่จะอยู่ต่ออีก 7 วันว่า ถ้าอยู่คนเดียวตรงนี้ โดยไม่มีผม (กรณ์) อยู่ด้วย อาจจะเจอเรื่องราวต่างๆ เช่นแม่ชีที่ผูกคอตาย มาปรากฏ พรหมมาหา ผีมาเยือน ชาวบังบดมาเยี่ยม งูมาหา พญานาคมาหา และอีกหลายอย่าง

ซึ่งเพื่อนคนที่อยู่ ก็ไปเล่าให้เพื่อนอีกคนหนึ่งฟังว่า ที่เขาบอกมาทั้งหมดว่าจะเจออะไรบ้างนั้น ปรากฏว่า เขาเจอครบทุกอย่างที่เพื่อนเล่า และเจอตลอดเวลา ตลอด 7 วันนั้นเลยที่เดียว แต่เพื่อนคนนี้ก็ปฏิบัติผ่านไปได้อย่างสบาย

วันนี้ก็ขอแค่นี้ก่อน เชิญดูรูปตามอัธยาศรัย

We Are Buddhists
พวกเราคือชาวพุทธ

นายกรณ์ มีดี
นายกสมาคมทางสายกลาง
เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย
8 มิ.ย. 59

 

สนุกดีครับมีประสบการณ์อื่นๆมาเล่าต่อนะครับ

 

ถ้ำดูลึกลับ ลักษณะเหมือนงูนอนขด และลายที่ก้อนหินก็เหมือนเกล็ดงู แปลกประหลาด มหัศจรรย์ จริง ๆ ขอบคุณที่ถ่ายรูปมาให้ดู ไม่งั้นก็คงจินตนาการไม่ออก อนุโมทนาบุญด้วยน่ะค่ะ สาธุ รออ่านประสบการณ์ในการปฏิบัติธรรมต่อค่ะ