ชี้ทางคนที่จะเรียนวิชาอาคม

วิธีทดสอบของคุณ ทดสอบเห็นผลชัดก็จริง แต่ความเชื่อมั่นเพียงอย่างเดียว ไม่มีทางสำเร็จ การจะทำระดับนี้ ต้องใช้เวลาฝึกฝนมากพอจนมีพลังคาถา ถึงจุดที่จะทำได้ แต่การจะฝึกฝนให้ได้ระดับคุณว่าต้อง ใช้เคล็ดวิชาที่ได้ผลจริงๆ แล้วจึงฝึกฝนจนได้พลังคาถา ที่มากพอ แต่ถ้าเคล็ดวิชาผิด นั่นหมายถึงระยะเวลาที่มากมายในการทุ่มเท นั้นสูญ เปล่า ไม่ว่าจะกี่ สิบปีก็ไม่สามารถ ทำให้เป็นได้ เพราะฉนั้น การใช้วิชาด้านรักษาจึงเป็นทางเลือกทาง 1 ที่จะทำให้เรารู้ตัวได้ทั้น ไม่ต้องเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์


และ โดยเฉพาะเทคนิคกลวิธี ที่เรามั่นใจว่าถูกต้อง เคยทำได้ ในครั้งนี้ ครั้งต่อกลับไม่สามารถ ผม ศึกษามานานปี นี่คือเรื่องจริง เพราะการที่เราจะใช้วิชาได้จริงไม่ใช่รู้แค่วิธีใช้เพียงอย่างเดียวแต่มันต้องมีองค์ประกอบอื่นด้วย เหมือนดังการขับรถ ที่เราใช้ประจำ เราขับเป็นเราขับเก่งแต่เราไม่สามารถขับไปไหนได้ เพราะไม่มีน้ำมัน นั่นเอง


เรื่องเหล่านี้ ที่ผมนำมาเล่า ล้วนมาจากประสพการณ์ การฝึกฝน ค้นคว้า ทดสอบทดลองจากของจริง ผมไม่ได้มีอาจารย์ชื่อดังมาสั่งสอน อาจารย์ผมเป็นเพียงแค่หมอไสย์ศาสตร์ชาวบ้าน ธรรมดา แต่ก็เป็นโชคดีสำหรับผม ที่ทำให้ต้องมาเรียนรู้จริงด้วยตัวเอง การตั้งสมมุติฐาน ทดลองค้นคว้าแต่ละอย่างต้องใช้เวลาพิสูจน์ โดยมากมักล้มเหลว แต่ก็ได้ส่วนน้อยที่ คุ้มค่า ที่ใช้งานได้จริง
ไม่ต้องเสียเวลาฝึกแบบหัวชนฝา ที่สักแต่ท่องเป็น1000เป็น10000รอบ แบบ20ปีก่อน ที่สูญเปล่า

 

ึด้วยความเคารพเลยนะคับทุกๆท่าน ผมขี้เกียจมานั่งพิมพ์มานั่งหาเหตุผลอะไรหนือข้ออ้างอะไรมาพูดและ....เอาเปนว่าถ้าจะรู้ว่าใครจิงใครจริงปลอมใครคุย...ผมพร้อมพิสูจน์เคับที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้...ของแท้ย้อมไม่เคยกลัวกสรพิสูจน์อยู่แล้ว...ไม่ต่อความยาวสาวความยืกแล้วนะคับถ้า....จบนะคับผมชอบคนจิงไม่ชอบอะไรไก่กา..,ประเภทอาจารย์ทางตำราผมเจอเยอะแล้ว....จะฝึกกี่ปีไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าใครจิงไม่จิง เข้าใจครงกันนะคับ ต่อไปผมไม่พิมตอบแล้วนะคับ...ถ้าพร้อมก็พิสูจน์กันเลย เท่านี้คับ

 

เอาเป็นว่า สิ่งที่ผมพูดมาเป็นการลบหลู่ ทำให้คุณรู้สึก
ไม่ดี ต้องขอโทษ ด้วยอย่างสูง
แต่ใจจริงแล้ว ผมแค่นำประสพการณ์อันต่ำต้อย มาเล่า
สูกันฟังเท่านั้น ด้วยความสัตย์จริง ไม่ได้คิดร้ายต่อคุณ
และผู้มีพระคุณ แต่ประการใด

 

ด้วยความเคารพ ขอพูดหน่อยนะ
Pollamet0524 คุณเริ่มต้นดีมาตั้งแต่แรก มีมารยาทงาม อย่าเอาแต่ใส่อารมณ มันจะเสียชื่อถึงอาจารย์ที่คุณเคารพเอาได้นะ เพราะ คนที่ผ่านมาอ่านๆดูแล้ว สิ่งที่เขาพูดก็มีเหตุผล ไม่ได้ด่าว่าคุณเลย แต่คุณกลับไรมารยาท ว่าดูถูกถึงอาจารย์ เขาว่าเป็นคนไรอาจารย์ ซะ ทั้งที่เขาก็บอกแล้วว่ามีอาจารย์เป็นหมอชาวบ้าน ไรชื่อเสียง
เพียงแค่นี้ก็วัดผล ได้แล้วว่า คนไหนจริงคนไหนไม่จริง นะ เพราะสภาพจิตมันแตกต่างกันมากอย่างเห็นได้ชัด

 

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เรียนวิชาจากอาจารย์มาแถมครอบครูเป็นอย่างดี เรียนมาก็หลายปีอยู่แต่ก็เหมือนอย่างเขาว่า ตอนแรกฟังเขาพูดก็หมั่นไสเหลือประมาณ แต่พอได้หยุดคิดวิเคราะห์ดี ก็เข้าใจว่าไอ้ที่เค้าพูดๆมันก็มีส่วนจริง ใครจะคิดอย่างไรผมไม่ว่า แต่สำหรับตัวผมเองบอกได้เลยว่ารองทำตามเค้าซักระยะก่อน แล้วไม่ดียังไงค่อยมาว่าเค้าที่หลังก็ได้

 

ไก่กา ไม่ไก่กา หลายคนอ่านคงดูออกนะคะ
ของใครเก่งจิง ของใครดีแต่คุย แต่ หาสาระไม่มี
ใครที่ชอบตีหัวสุนัขแล้วหนี้เข้าบ้าน
คนเก่งจริงไม่พูดมากนิ่งเป็นสาก หรือ คนที่เก่งไม่จริง
ถูกคนจริงเขาจับเท็จได้ กันแน่ ก็ไม่รุ ตีความได้หลาย
รูปแบบ ไม่เข้าใจจริงๆมาตราฐานของคนเหล่านี้วัดว่า
ใครเก่งจิง เก่งไม่จิง งงงงงงงงมักๆ

 

ผมว่าจบแค่นี้ดีกว่านะครับ
เขาอาจจะเจออาจจะรู้อะไรดีๆมาจริงๆก็ได้
แต่เขาไม่สามารถนำมาถกเถียงแลกเปลี่ยน
ใดๆได้ เพราะ วิชาของคนรุ่นเก่าดั่งเดิมมักมีข้อห้าม
ที่ไม่อาจเปิดเผย โดยเฉพาะเรื่องเคล็ดวิชา


ของแต่ละสำนักห้ามเปิดเผยโดยเด็จขาด

 

สวัสดีคับเพื่อนๆและท่านสมาชิกในบอร์ดนี้นะคับ ก่อนอื่นเลยผมต้องกล่าวคำขอโทษกับคำพูด และข้อความที่ใช้วาจาไม่สุภาพด้วยนะคับ หวังว่าเพื่อนๆและสมาชิกทุกๆท่านจะให้อภัยผมด้วยนะคับ คำว่าขอโทษนี้มันอาจจะน้อยเกินไปแต่ก็ออกมาจากใจและรู้สึกสำนึกผิดอย่างจิงใจอย่างไรผมต้องอภัยทุกๆท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยคับ ขอให้บอร์ดนี้เปนที่แลกเปลี่ยนความรู้แชร์ประสบการณ์กันดีกว่านะคับ เอาล่ะคับผมขอแลกเปลี่ยนความรู้กันเลยนะคับผมจะได้ไม่เสียเวลา
การใช้คาถาอาคมให้ขลังนั้นครูบาอาจารย์ท่านก็จะมีเคล็ดลับที่ถ่ายทอดแตกต่างกันออกไป ซึ่งสรุปก็คือการฝึกใช้อำนาจจิตนั่นเอง(ตรงนี้ขออนุญาติไม่ขอบอกกล่าวนะคับ) การเรียนคาถาอาคมให้ได้ผลหรือฝึกใช้อำนาจจิตนั้น พื้นฐานจะต้องทำความเข้าใจ-วิธีรวมอำนาจจิต-วิธีส่งอำนาจจิตออกไป และวิธีตรวจสอบว่าใช้ได้หรือยัง การเรียนวิชาคาถาอาคมนั้นแน่นอนว่าจะต้องมีความเชื่อมั่น ไม่ระแวงสงสัย ซึ่งสิ่งที่จะทำให้ศิษย์หมดสิ่งเหล่านี้ไปจากใจได้ คือครูอาจารย์ต้องทำให้ดูให้เห็นกับตาของลูกศิษย์เอง แล้วให้ศิษย์ทำตาม
การสอนในแนวลักษณะแบบนี้ ผู้ที่ไม่เคยฝึกสมาธิหรือพลังจิตอำนาจจิตมาก่อนเลยจะสามารถทำได้1-2ชั่วโมง ขั้นต้อนจะทำการเรียนวิชาหรือการส่งอำนาจจิตง่ายๆก่อน โดยให้ฝึกหัดส่งกระแสจิตในระยะใกล้ๆเช่นทำให้ปูนที่กินกับหมากหรือใบพลูมาถือไว้ในมือแล้วเสกให้ปูนหรือใบพลูเปลี่ยนรส เมื่อเปลี่ยนรสแล้วก็นำมาใช้ในทางคงกระพันฟันแทงไม่เข้า ต่อมาก็จะเรียนวิชาหรือส่งอำนาจจิตที่ไกลขึ้นเช่น เสกน้ำมันที่กำลังเดือดให้หมดพิษร้อนแล้วเอามือจุ่มหรือตักกินได้(วิชานี้หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน ได้เคยเรียนจากหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก) ขั้นต่อไปก็จะให้ดับพิษร้อนเหล็กแดงๆแล้วเอามือหยิบมาขึ้นมาได้โดยที่มือไม่พองไม่เปนอันตราย (ทั้งหมดนี้จะใช้หลักการวิธีการเสกโดยกำหนดคาบเสก)และวิชาดังกล่าวนี้ก็จะมีเคล็ดวิธีการทดสอบว่าใช้ได้แล้วหรือยัง ไม่ใช่ตั้งหน้าตั้งตาเสกๆไปแล้วกระทำกันเลย หากเปรียบเทียบก็เหมือนกับจารตระกรุดเสร็จก็ต้องมีการลองว่ายิงออกหรือได้ผลประการใดจึงจะนำไปพกติดตัวกัน ทีนี้เมื่อเริ่มสามารถกระทำวิชาหรือส่งอำนาจจิตดังกล่าวได้แล้วก็จะเรียนวิชาที่สูงขึ้นไปอีก แต่คราวนี้จะมีการฝึกสมาธิเพื่อฝึกจิตให้มีอำนาจที่สูงขึ้นตามไปด้วย เช่นวิชาสะเดาะกุญแจ วิชาล่องหนหายตัวฯลฯ
ซึ่งพื้นฐานเคล็ดลับของการฝึกวิชาคาถาอาคมต่างๆดังกล่าว ก็คือการกำหนดคาบนั่นเอง อันแนวทางการเรียนการฝึกหัดนี้ผมฝึกหัดเรียนกระทำตามแนวทางที่คนทั่วๆไปที่เรียนกันเรียกว่าท่านพระอาจารย์ในดง คนที่เปนศิษย์ในสายท่านเท่าที่ผมพอจะทราบก็มี ท่านอาจารย์ชม ท่านอาจารย์พัวและท่านพระอาจารย์อภิชิโตแลและตามแนวทางหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน รวมทั้งอาจารย์ฟ้อนและอาจารย์ท่านต่างๆ และที่รู้จักกันแทบจะทุกคนก็คือท่านอาจารย์เทพย์ สาริกบุตรแต่ผมไม่ได้เรียนกับตัวพวกท่านโดยตรงนะคับ แต่ผมก็นับถือท่านเปนครูบาอาจารย์ มีคุณปู่ผมเท่านั้นที่มีโอกาสได้เรียนกับตัวท่านเลย และผู้หลักผู้ใหญ่บางท่านก็สอนให้ ซึ่งโดยมากท่านก็หัดก็สอนให้ทำให้บริกรรมภาวนาโดยการกำหนดคาบในการส่งอำนาจจิตหรือเสกเป่าวัตถุแทบทุกท่าน แต่อาจมีบางท่านที่ถูกสอนมาไม่เหมือนผมอันนี้แล้วแต่เคล็ดของแต่ละอาจารย์กระมังคับ
การเรียนคาถาอาคมให้ได้ผล ขอให้เรารู้หลักและวิธีการที่ถูกต้องจิงๆ จะทำได้ขึ้นได้ขลังแน่นอน ที่สำคัญหากมีสมาธิที่สูงแก่กล้าก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีกหลายเท่าสำหรับในเรื่องของการตรวจสอบว่าสมาธิเราก้าวหน้าดีขึ้นเพียงใดเท่าที่ผมเคยศึกษามามีวิธีการดังนี้คับ
1.ให้นับลมหายใจเข้าออกโดยให้ผู้อื่นช่วยดู โดยนับดูว่าหนึ่งนาทีเราหายใจเข้าออกกี่ครั้ง ถ้าน้อยครั้งแสดงว่าสมาธิดีขึ้น
2.ทดลองให้ใช้อำนาจจิต ใช้คาถาอาคม
แต่วิธีการที่ผมว่าง่ายที่สุดคือให้สังเกตุลมหายใจดู ตามปกติคนทั่วไปหรือคนที่นอนหลับจะหายใจ20ครั้งต่อ1นาที แต่ถ้าเราฝึกสมาธิเราหายใจ10ครั้งใน1นาทีแล้วลมหายใจยาว เบา สมำเสมอ นับว่าดีพอสามารถใช้อำนาจจิตขั้นต้นได้แล้ว ถ้าหากสมาธิเราก้าวหน้าจนหายใจเบา ยาว สบาย ได้3ครั้งต่อ1นาที สม่ำเสมอต่อเนื่องเปนเวลา15 นาทีขึ้นไป แบบนี้นับว่าได้สมาธิขั้นกลาง มีอำนาจมากพอสามารถทำอะไรใช้คาถาต่างๆได้หลายอย่าง เช่น สะเดาะกุญแจให้หลุด หายตัวล่องหนได้หนึ่งอึดใจหรือทำอะไรก็ได้หลายอย่าง
นี่ก็เปนความรู้ที่เอามาแชร์มาแลกเปลี่ยนกัน หากท่านใดมีประสบการณ์ความคิดเห็นอย่างไรก็เอามาคุยกันนะคับ
ยังไงก็ต้องขอโทษทุกๆอีกครั้งนึงด้วยคับ หากวาจาคำพูดใดไม่ดีทำให้ท่านไม่พอใจต้องขออภัยไว้ด้วยคับ

 

หลักการใช้คาถาจากการค้นคว้าทดลองและฝึกอย่างหนัก จนกลั่นกรองสรุปได้ดังนี้
1.รวมจิต
2.ท่อง
3.ใช้
ทั้ง3ขั้นต้อนนี้ ทำให้ดีที่สุด ยิ่งเข้าถึงมากก็จะได้ผลมาก
แต่มันจะได้ผลกับคนที่ใช้เคล็ดวิชานี้ช่วงแรกเท่านั้น ถ้า
อยากใช้ได้อีกต้องรอระยะเวลา3วัน7วัน1เดือน
แต่ถ้าใช้ร่วมกับเคล็ด วิชาการฝึก จะใช้ได้เรื่อยๆ อย่างเช่น
วิชาทางด้านรักษา จะเห็นผลได้เป็นอย่างดี

แต่สำหรับวิชาที่ต้องการ พลังคาถามากๆก็ต้องอาศัยระยะเวลา
ฝึกฝนตามเคล็ดการฝึกนี้

แต่แค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้ คนทั่วไปได้รู้ว่าพลังเวทย์มนต์คาถา
มีอยู่จริง เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็ค่อยขยายผลให้กับวิชาอื่นๆที่ต้องการพลัง
คาถาและเวลาความเชื่อที่มั่นคงมากพอในการพัฒนาให้สำเร็จในวิชานั้นๆ
ส่วนเคล็ดวิชาในการฝึกเพิ่มพลังคาถาท่านต้องพยายามทำความเข้าใจเอา
เอง ผมเชื่อว่าถ้าท่านตั้งใจทำความเข้าใจทดสอบทดลองจริงๆจังๆโดยไม่
เอาความเชื่อมาปิดหูปิดตาตามคนอื่นๆภายใน3ปีท่านจะเข้าใจและรู้เองได้
อย่างแน่นอน โดยที่ท่านไม่จำเป็นต้องไปขนขวายค้นหาอาจารย์ที่รู้จริงอีก
10ปีให้เสียเวลา

 

แวะเข้ามาเพื่อแบ่งปันสิ่งที่ได้รับรู้มา เคยเจออาจารย์ที่รับทำแบบฝังรูปฝังรอย ท่านหนึ่ง แต่ท่านไม่ได้ทำพร่ำเพรื่อ ท่านบอกว่า "ถ้าหากครูบาอาจารย์ของเราทางไสยศาสตร์ทำผิดอะไรก็ตาม เราเป็นลูกศิษย์ท่านแล้วจะไม่ตำหนิท่านเลย ผิดหรือถูกท่านก็เป็นครูของเราแล้ว ไม่งั้นวิชาอาคมของเราจะไม่ขลัง"ตามความเข้าใจของข้าพเจ้าแล้วเข้าใจว่าคงเป็นการให้เกียรติครูบาอาจารย์ เพราะถ้าหากลูกศิษย์ยังเอาเรื่องราวไปเที่ยวพูด เที่ยวนินทาแล้ว ครูอาจารย์รวมทั้งตัวลูกศิษย์สำนักวิชานั้นๆก็จะพลอยเสียชื่อเสียง เสื่อมความนิยมนับถือจากคนอื่นๆลงไปด้วยกระมัง

 

....................

 

......

 

หวัดดีคับทุกท่านผมอยากรู้และ
อยากศึกษาศาสนี้มากผมตาม
หาอาจารที่รู้จริงๆมา5ปีแล้ว
ยังไม่เจอซักคนเรยถ้ามีผู้รู้จริง
ได้อ่านกระทู้ของผมแล้วช่วย
แนะนำผมด้วย
ฝากเมลหรือเฟสไว้ก็ได้
เดียวผมติดต่อกลับไป

 

เรื่องคาถา หลวงพี่ ท่านว่า "อุปจารสมาธิ" ขึ้นไปก็เริ่ม เห็นผลแล้ว

 

ถ้าอยากเรียนต้องเรียนที่ไหน

 

https://www.youtube.com/watch?v=edaBrKUhuhY

https://www.youtube.com/watch?v=CsBnR-uPX4c

https://www.youtube.com/watch?v=KkKvGa1N-aU

https://www.youtube.com/watch?v=1sJ1NkWTOfk

รวมคลิบของกลุ่มคนที่ไม่เชื่อ
https://www.youtube.com/watch?v=LmoSMN16GcM
https://www.youtube.com/watch?v=zekhXA7mwwU
https://www.youtube.com/watch?v=MQMfCB7XzXQ
https://www.youtube.com/watch?v=9notr43yxxA
https://www.youtube.com/watch?v=lkNpgxRCK4s
https://www.youtube.com/watch?v=3E82_Bl4Sjg
https://www.youtube.com/watch?v=_r_WKUxtRU8

 

ที่เอาคลิบคนพวกนี้มาไม่ใช่เพื่อพยายามหักล้าง ลบหลู ความเชื่อเก่าๆ
แต่อยากให้เปิดใจและยอมรับความจริง และ ตัดสินใจ
ว่าจะฝึกวิชาแบบความเชื่อต่อไปหรือจะเริ่มฝึกวิชาด้วยการเรียนรู้และความเข้าใจ
อย่างแท้จริง
40ปีก่อนความสามารถของคนเรียนวิชารุ่นเก่าเป็นเช่นไร
40ปีให้หลัง ความสามารถของคนเรียนวิชา ก็อยู่แค่นั้น

 

ตามความเข้าใจของผม คำว่าไสยศาสตร์นั้น ได้แก่คัมภีร์ อถรรพณ์เวท อย่างเดียว

 

กาฝากรัก

คุณกาฝากรัก ผมสนใจครับ ตอนยังสอนอยู่ไหมครับ ถ้ายังสอนอยู่ก็ตอบกลับด้วยนะครับ อยากเรียนไว้ป้องกันตัวครับ ขอบคุณครับ

 

กราบเลยครับอาจารช่วยสอนคาถาผมที ผมอ่านมาเจอเว็บนี้แต่ใช้ไม่ค่อยเป็นกรุณาตอบกับมาทีนะครับขอบคุนครับ