ถือศีล 5 ก็เป็นผู้หลุดพ้นได้

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย oatspace, 25 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. oatspace

    oatspace เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +339
    มุตโตทัย วิสัชนาธรรมโดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย

    ถาม : ธรรมะของอาจารย์มั่น ซึ่งเรียกว่า มุตโตทัย แปลหรือมีความหมายว่าอย่างไร และมีความสำคัญอย่างไร

    หลวงพ่อ : เราปฏิบัติธรรมเพื่อความวิมุตติ วิมุตติ คือความหลุดพ้น ทย แปลว่า หัวใจ มุตโต แปลว่า พ้น ธรรมะของอาจารย์มั่นที่ว่า มุตโตทัย ก็แปลว่า ธรรมะเป็นเครื่องพ้น มีความสำคัญสำหรับผู้ปฏิบัติ เพราะผู้ปฏิบัติมุ่งต่อความหลุดพ้น เราทำ ศีล สมาธิ ปัญญา ให้เกิดขึ้นพร้อมในจิตเรียกว่า การประชุมพร้อมกันของอริยมรรค แต่เราไม่ได้ปฏิบัติเอา ศีล สมาธิ ปัญญา เราปฏิบัติเอาความหลุดพ้น คือ พ้นจากกิเลส ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นแต่เพียงอุบายธรรมให้เราพ้นจากกิเลส

    ถาม : เมื่อรับศีลจากพระไปแล้ว ไปกระทำผิดศีลเข้า มีทั้งเจตนาบ้าง และไม่เจตนาบ้าง อย่างนี้จะเป็นบาปกรรมมากกว่าการที่ไม่ได้มารับศีลจากพระไปแล้วกระทำผิดศีลหรือไม่

    หลวงพ่อ : การรับศีลไปแล้ว ทำผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่ว่าไม่ได้เจตนา เป็นแต่เพียงขาดการสำรวม ขาดสติ ทำให้ศีลเศร้าหมองนิดหน่อย ทีนี้การที่มารับศีลแล้วรักษาให้บริสุทธิ์ บริบูรณ์ไม่ได้ มีขาดตกบกพร่องบ้าง ถ้าข้อเปรียบเทียบก็เหมือนกันกับว่า ผู้ที่มีเสื้อใส่แต่เป็นเสื้อขาด ก็ยังดีกว่าผู้ที่ไม่มีเสื้อจะใส่เสียเลย การสมาทานศีลนี้ ถึงแม้ว่าจะขาดตกบกพร่องบ้างก็ยังดี อันนั้นเป็นเรื่องวิสัยธรรมดาของปุถุชน ก็ย่อมมีการบกพร่องบ้าง ในเมื่อฝึกไปจนคล่องตัวแล้วมันก็สมบูรณ์ไปเอง ดีกว่าไม่ทำเลย

    ถาม : ผู้ที่สมาทานศีล 8 แล้ว ไปตอกไข่ทำกับข้าว จะผิดศีลหรือไม่

    หลวงพ่อ : สมัยนี้ไข่ที่ฟักเป็นตัวก็มี ไม่เป็นตัวก็มี แต่ถ้าไข่ที่เขาทำลายโดยหลักวิทยาศาสตร์ ของเขาแล้ว ซึ่งมันจะไม่ฟักออกมาเป็นตัว ก็ไม่ผิดศีล แต่ถ้าไข่นั้นมันยังจะเป็นตัวอยู่ ไปต่อยเข้า ก็ผิดศีล

    ถาม : หากไม่รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ได้ทุกวัน จะปฏิบัติสมาธิให้เกิดมหาสติได้หรือไม่

    หลวงพ่อ : สมาธิที่จะให้เกิดเป็นมหาสติปัฏฐาน ต้องอาศัยศีลเป็นประการสำคัญ แต่สมาธิที่จะทำ เพียงแค่ว่า ให้เกิดพลังจิต หรือให้เกิดอำนาจอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ นี้ไม่จำเป็นต้องมีศีล เช่น สมาธิของพวกที่เรียนไสยศาสตร์ พวกพอกหนังบังฟันอะไรต่าง ๆ นี้ เขาก็อาศัยสมาธิเหมือนกัน แต่สมาธิจะให้เป็นมหาสติปัฏฐาน ต้องมีศีลเป็นพื้นฐาน ไม่มีศีลเป็นมหาสติไม่ได้

    ถาม : ศีล 5 หรือศีลอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับการทำสมาธิมากน้อยอย่างไร หรือไม่

    หลวงพ่อ : ศีล 5 หรือศีลอื่น ๆ มีความเกี่ยวพันต่อการปฏิบัติสมาธิอย่างมากทีเดียว ทีนี้ถ้าหากจะถามว่า คนที่มีศีล 5 จะสามารถปฏิบัติให้ถึง มรรค ผล นิพพาน ได้ไหม เป็นข้อที่ควรสงสัย อย่างพระเจ้าสุทโธทนะ นางวิสาขา ก็มีศีล 5 แล้วปฏิบัติก็บรรลุ มรรค ผล นิพพาน ได้ นางวิสาขา บรรลุพระโสดาบันตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ยังไม่ได้สมาทานศีลเลย ส่วนพระเจ้าสุทโธทนะฟังเทศน์พระพุทธเจ้าจบลง ก็ได้สำเร็จพระอรหันต์อยู่ในภูมิศีล 5 เพราะฉะนั้น ศีล 5 นั้นก็เป็นพื้นฐานให้เกิดนิพพาน สมาธิ เกิดสติปัญญา เกิดมรรค ผล ได้ ผู้ที่อยู่ฆราวาสนี้ปฏิบัติสมาธิสะดวกกว่าผู้บวช ๆ นี้มีศีลหลายตัว พะรุง พะรัง ไม่ทราบว่าจะสำรวมอันใดบ้าง ในเมื่อภาระที่จะต้องสำรวมมาก ๆ อย่างนั้น ถ้าสติสัมปชัญญะไม่เพียงพอ ทำผิดอยู่เรื่อย ๆ ศีลย่อมมัวหมอง ภาวนาสู้คฤหัสถ์ไม่ได้

    ถาม : ผู้ที่ไม่สามารถจะรักษาศีล 8 ได้ ด้วยเหตุร่างกายมีโรคประจำ เนื่องจากจำเป็นต้องรับประทานอาหารบ่อย ๆ เพราะเป็นโรคกระเพาะ ได้แต่รักษาศีล 8 การปฎิบัติจะได้ผล หรือไม่

    หลวงพ่อ : ได้แต่ศีล 5 ก็ดีแล้ว เพราะการรักษาศีล 5 ได้บริสุทธิ์ ก็เป็นเหตุปัจจัยให้ได้สมาธิ ได้ปัญญาเหมือนกัน บรรลุ มรรค ผล นิพพาน ตัวอย่างเช่น นางวิสาขามีศีล 5 สำเร็จพระโสดาบัน ตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ยังไปแต่งงานอยู่ ก็แสดงว่ามีศีล 5 เท่านั้น เพราะฉะนั้น นางวิสาขาเป็นพระโสดาบัน
    เป็นอริยบุคคล ผู้มีแต่เพียงศีล 5 เท่านั้น ไม่เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุมรรคผล

    ถาม : ไม่เข้าใจในศีลบางข้อ อยากจะเรียนถามว่า ศีลข้อที่ 6 วิกาลโภชนาคือ ห้ามทานอาหารเกินเที่ยง หนูทำงานพักเที่ยง กว่าจะทานเสร็จก็เกือบเที่ยงครึ่ง ถ้าหนูถือศีล 8 หนูอยากถามว่า ศีลข้อนี้จะขาด หรือเปล่า

    หลวงพ่อ : การกำหนดวิกาลโภชนานั้น ถือเอาเวลารุ่งอรุณไป ถึงตะวันเที่ยงตะวันคล้อยไปเพียง 2 องคุลี ถือว่าเป็นวิกาลโภชนา เป็นเวลาบ่าย อันนี้การถือศีล หรือการรักษาศีลนี้ ถ้าเรามีความจำเป็น หรือไม่มีโอกาสที่จะทำได้สะดวก เรื่องศีล 8 นี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปยึดให้มันมากนัก เพียงแต่เคร่งในศีล 5 ข้อ เท่านั้น สามารถบำเพ็ญสมาธิบรรลุ มรรค ผล นิพพานได้ แล้วก็กลับจะสบายเสียอีก การถือศีลเกินกว่า 5 นี้ ถ้าหากว่าเราปฏิบัติไม่ได้ จริง ๆ แล้ว มันจะเป็นการสร้างบาปให้กับตัวเองอย่างไม่มีเหตุผล ชาวบ้านธรรมดาที่เคร่งอยู่ในศีล 5 เขาทานข้าวเย็นได้ มีครอบครัวได้ ใช้เครื่องประดับตกแต่งได้ จะทำอะไรก็ได้ ถ้าไม่ละเมิดศีล 5 ข้อ และการละเมิดนั้นไม่เป็นบาปไม่เป็นกรรม แต่ถ้าเราตั้งเจตนาลงไปว่าเราจะรักษา แต่รักษาไม่ได้แล้ว เป็นการสร้างนรกให้กับตัวเอง เพราะฉะนั้น ถ้ายังไม่สามารถ หรือมีเวลาโอกาสไม่เพียงพอแล้วอย่าริ มันจะเป็นการสร้างบาปให้กับตัวเอง

    ยกตัวอย่างเช่น ในสมัยครั้งอดีต มีพระภิกษุมือบอนไม่สำรวม ล่องเรือไปในลำแม่น้ำ บังเอิญเอื้อมมือไปจับใบไม้ เรือวิ่งไปโดยความเร็ว เพราะน้ำมันเชี่ยว ใบไม้ขาดไป พระต้องอาบัติปาจิตตีย์ แล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่ได้แสดงอาบัติ พระองค์นั้นบำเพ็ญเพียร อยู่ตั้ง 2 หมื่นปี ไม่สำเร็จ มรรค ผล นิพพานใด ๆ ไม่รู้ธรรม ไม่เห็นธรรม

    แต่เป็นฆราวาสแล้วจะถางป่า ขุดดิน แล้วก็ไปภาวนายังสำเร็จ มรรค ผล นพพาน ได้ พระถือศีล 227 ไปเด็ดใบไม้ใบเดียว ภาวนาไม่รู้ธรรม ไม่เห็นธรรม เพราะฉะนั้น การที่เราจะเพิ่มศีลของเราให้มากขึ้น ๆ นี้ ต้องพิจารณาดูสมรรถภาพของเราเสียก่อน สิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือ ให้เคร่งในศีล 5 ข้อ เมื่อเคร่งในศีล 5 ข้อแล้ว ศีลอื่น ๆ มันจะค่อยกระเถิบขึ้นมาเอง

    ถาม : ตายเร็วหรือช้าเกี่ยวกับบุญกรรม หรือไม่

    หลวงพ่อ : อันนี้เกี่ยวกับบุญกรรม เพราะมีเหตุ ผู้ที่ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่รังแกสัตว์ ไม่ทรมานสัตว์ จะมีอายุยืน ส่วนคนที่ฆ่าสัตว์ จะมีอายุสั้น อันนี้ท่านว่าไว้ในพระสูตร

    ถาม : สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมดับเป็นธรรมดา คำว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง คือสังขารใช่ไหม

    หลวงพ่อ : สิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นก็คือ สังขาร สิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ปรากฏขึ้นในจิตหรือธรรมที่เกิดขึ้นในจิตนี้ เป็นเรื่องจิตสังขาร ปรุงแต่งขึ้นมา เป็นเครื่องรู้ของตัวเอง เป็นอุบายฝึกฝนตนเอง ซึ่งเราเรียกว่า ปัญญา หลักการมีอยู่ว่า ศีลอบรมสมาธิ สมาธิอบรมปัญญา ปัญญาอบรมจิต ถ้าความรู้หรือสิ่งใด สิ่งหนึ่งเกิดมาถี่ยิบเท่าไร จิตดวงนี้ยิ่งใสสะอาด ยิ่งขึ้นเท่านั้น มีพลังแรงกล้าขึ้นเท่านั้น
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ...ดีแล้ว ชอบแล้ว
     
  3. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ที่หลวงพ่อพุธฯอธิบาย
    วิเคราะห์ได้ว่า ฆาราวาสที่ถือศีลห้านั้น สภาวะทางจิต เปี่ยมล้นบริสุทธิ์แล้ว
    ถือเพียงศีลห้า แต่จิตไปถึงศีล227ข้อของพระแล้ว ปฏิบัติไปตามนั้นแล้ว จึงนิพพานได้
    แต่ฆาราวาสทั่วไป แม้รับศีลห้า แต่จิตพะวง รักษาเพียงศีลห้าเท่านั้น แต่ก็ละเมิด ศีลแปด หรือ ศีล227ข้อของพระ ก็ไม่สามารถบรรลุนิพพานได้ เก่งสุดน่าจะได้แค่โสดาบัน
     
  4. {ผู้ชนะสิบๆทิศ}

    {ผู้ชนะสิบๆทิศ} เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +917
    บางคนถือศีล5แค่เบื้องต้น ยังไม่ถึงขั้นปรมัตถ์คือถือที่จิต แม้จะถือแค่ไหนก็ไม่บรรลุได้เพราะถือศีล5 ก็ได้แค่ศีล5 เพราะถือศีลแค่เปลือกศีล

    ส่วนบางคนถือศีล5 ก็เหมือนถือศีล 227 ไปโดยปริยาย เพราะถือศีลถึงแก่นธรรม แบบที่หลวงพ่อพุธฯท่านเทศน์ไว้ คนประเภทหลังที่ถือศีลแบบนี้ล่ะจะบรรลุได้

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ NARKA [​IMG]
    ที่หลวงพ่อพุธฯอธิบาย
    วิเคราะห์ได้ว่า ฆาราวาสที่ถือศีลห้านั้น สภาวะทางจิต เปี่ยมล้นบริสุทธิ์แล้ว
    ถือเพียงศีลห้า แต่จิตไปถึงศีล227ข้อของพระแล้ว ปฏิบัติไปตามนั้นแล้ว จึงนิพพานได้
    แต่ฆาราวาสทั่วไป แม้รับศีลห้า แต่จิตพะวง รักษาเพียงศีลห้าเท่านั้น แต่ก็ละเมิด ศีลแปด หรือ ศีล227ข้อของพระ ก็ไม่สามารถบรรลุนิพพานได้ เก่งสุดน่าจะได้แค่โสดาบัน
    </td> </tr> </tbody></table>
    คุณNARKA กล่าวได้ชอบแล้ว นับว่าเข้าใจแก่น ไม่ติดเปลือก


    แล้วท่านละถือศีลด้วยใจ หรือ แค่อนุพยัญชนะ(ตัวอักษร)ที่ท่านได้กล่าวไป ?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 กุมภาพันธ์ 2008
  5. Hikikomori

    Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    ยอมรับความจริงเถอะว่าคนเราเกิดมาก็มีทุกข์แล้ว ไม่มีทางหลุดพ้นหลอก ตราบใดที่ไม่รู้จักเลิกเล่นเกมส์นี้ อย่าฝืนสู้กับธรรมชาตินักเลย แค่นี้ก็ร้อนมากพอแล้ว
     
  6. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ทางน่ะมีอยู่แล้ว เพียบพร้อมด้วยคำสอนจากศาสดา เหลือเพียงลงมือทำแค่นั้นเอง
    ท่านทั้งหลายจะไม่ลองดูสักหน่อยเหรอ ชีวิตจะได้มีเรื่องท้าทายบ้าง
     

แชร์หน้านี้

Loading...