อันตรายร้ายแรงที่เกิดจากความเห็นผิด

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย piman, 7 กุมภาพันธ์ 2008.

แท็ก: แก้ไข
  1. piman

    piman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +632
    อันตรายร้ายแรงที่เกิดจากความเห็นผิด โดยท่านอาจารย์บุญมี เมธางกูร

    ----------------------------------------------------------------

    ในครั้งพุทธกาล มีอาจารย์ที่เรียกว่า "เดียรถีย์" (ผู้ข้ามไม่ถูกท่า) ก็ตกอยู่ในฐานะมีความเห็นผิดทั้ง ๓ ประการนี้ ได้แก่

    อาจารย์อชิตตเกสกัมพล มีความเห็นผิดชนิดที่เป็น นัตถิกทิฏฐิ เห็นว่าการเวียนว่ายตายเกิดไม่มี

    อาจารย์มักขลิโคศาล มีความเห็นผิดชนิดที่เป็น อเหตุกทิฏฐิ เห็นว่าสัตว์ทั้งหลายเป็นไปโดยมิได้อาศัยเหตุ

    อาจารย์ปูรณกัสสป มีความเห็นผิดชนิดที่เป็น อกิริยทิฏฐิ เห็นว่าการกระทำทั้งหลายไม่สำเร็จเป็นบุญหรือเป็นบาปได้

    บุคคลผู้มีความเห็นผิดชั้นอาจารย์ ย่อมมีความเห็นผิดที่หนักแน่นมากที่สุด และบรรดาศิษย์ทั้งหลายก็หนักแน่นมากบ้างน้อยบ้างรองๆ กันลงมา บรรดาอาจารย์และศิษย์ทั้งหลายผู้ไม่เปลี่ยนใจเหล่านี้จะหลีกหนี นรก ไปไม่พ้นอย่างแน่นอนภายหลังจากจุติ คือดับหรือตายโดยไม่มีอะไรมาคั่น

    แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะได้ทรงทรมานอาจารย์เหล่านี้ด้วยวิธีการต่างๆเพื่อจะได้ละ ได้ถอนความเห็นที่แสนร้ายนี้ ออกไปจากจิตใจเสียแต่อาจารย์เหล่านี้ก็รับไม่ได้ ยกเว้นศิษย์ของอาจารย์เหล่านี้บางคนที่มีความเห็นผิดยังไม่เข้าขั้นหนักรุนแรง

    บรรดาบุคคลผู้มีความเห็นผิดดังกล่าวนี้ นอกจากจะไม่มีหนทางเดินไปสู่ความพ้นทุกข์ เพราะขาดปัญญาในปัญหาของชีวิตแล้ว ยังขึ้นๆลงๆ นรก ดังได้กล่าวมาแล้วอีก อาจจะมากครั้งทีเดียว จึงถือว่ามีโทษร้ายยิ่งกว่า อนันตริยกรรม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ในอังคุตตรพระบาลีว่า
    " ปรมานิ ภิกฺขเว วชฺชานิ" แปลความว่า " ดูกรภิกษุทั้งหลาย ความเห็นผิดชนิดที่เป็นนิยตมิจฉาทิฏฐินี้มีโทษอันยิ่งใหญ่ที่สุด"

    แม้ว่าอนันตริยกรรมที่หนักที่สุด เช่น ฆ่าพ่อ หรือ ฆ่าแม่ เป็นต้น อนันตริยกรรมจะนำไปเกิดในนรกแล้ว กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกเป็นต้น ก็คงจะไม่ได้ทำอนันตริยกรรมซ้ำๆอีก แต่ความเห็นผิดนั้นยากนักที่จะเปลี่ยนความคิดให้เป็นเห็นถูกได้ แม้จะเกิดเป็นมนุษย์หรือเกิดเป็นเทวดา ความเห็นผิดก็ยังติดตามตัวไป ดังนั้น จึงขึ้นๆลงๆ นรก ครั้งแล้วครั้งเล่าจึงน่ากลัวอย่างจะสุดพรรณา

    สมัยหนึ่ง พราหมณ์ผู้หนึ่งได้เข้ามาเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แล้วถามปัญหาเรื่องกรรม เรื่องการตายการเกิดเป็นสัตว์ในภพภูมิต่างๆ เช่น เป็นผีสางเทวดาได้ เป็นต้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงหลับพระเนตรเสียไม่ตอบ พราหมณ์ถามอยู่หลายครั้งไม่ได้รับคำตอบ จึงได้หลีกไป พระอานนท์จึงได้ถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า คำถามก็ดีๆทั้งสิ้น เหตุใดพระองค์จึงไม่ตอบเขา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสว่า อานนท์เธอยังไม่รู้ว่าพราหมณ์ผู้นี้เป็นมิจฉาทิฏฐิ ที่มีกำลังความเห็นผิดเหนียวแน่นมาก ผ่านนรกมาหลายชาติแล้ว ที่เข้ามาถามวันนี้ ก็มิได้ปรารถนาจะมาหาความรู้ หากแต่ต้องการจะมาโต้คารมแสดงความคิดเห็น จะได้ไปโอ้อวดกับคนทั้งหลายว่า ได้มาโต้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ต้องการสร้างพยานหลักฐานเพื่อจะให้คนทั้งหลายเชื่อในความคิดเห็นผิดๆ ของตน

    ความเห็นผิดชนิดที่ล่วงอกุศลกรรมบทคือ นิยตมิจฉาทิฏฐิ ๓ นั้นมีกำลังของการให้ผลมากจริงๆ ผู้ที่มิได้ศึกษาจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมิได้มีความคิดพิจารณาในปัญหาของชีวิตให้ลึกซึ้งแล้วจะเข้าถึงความจริงของการให้ผลไม่ได้ เป็นเรื่องที่น่าหวั่นไหวเกรงอันตรายที่ร้ายแรงนี้เหลือเกิน เพราะความเห็นผิดที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจ มันจะแสดงออกไปซึ่งความเห็นผิดนั้นอยู่เสมอในแต่ละชาติที่เกิดขึ้นมา ผลร้ายแรงที่จะได้รับจึงได้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า คือตกนรกบ่อยครั้งจนจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับชีวิตแล้วจึงจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงกลับเป็นตรงกันข้ามได้ เช่น เกิดเป็นมนุษย์แล้ว เพราะความยากจนมากจึงมัวยุ่งแต่การทำมาหากิน หรือเจ็บป่วยมากอยู่เสมอ มัวแต่ยุ่งเรื่องการรักษาพยาบาลตัวเอง หรือมีเรื่องเศร้าหมองเร่าร้อนอยู่ไม่สร่างซาจนไม่มีเวลาที่จะครุ่นคิดถึงปัญหาชีวิตอันลึกซึ้งที่ตนมีความเห็นผิดติดมา และเมื่อได้พบบัณฑิตย์ที่มีความสามารถเสนอความรู้ให้ ทั้งได้เกิดมาหลายชาติมิได้แสดงความเห็นผิดมากมายออกไป และกุศลของตนเพิ่มขึ้นจึงได้มีโอกาสเปลี่ยนความคิดเสียใหม่

    เปรียบเหมือนเสือโคร่งหนุ่มฉกรรจ์ย่อมจะหยิ่งผยองในศักดิ์ศรีของตน เพราะในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้มิได้มีผู้ใดที่จะมีความเก่งกาจหรือมีความสามารถเท่าตนได้ จึงยืนผงาดวาดลวดลายว่าข้านี้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ให้สัตว์ทั้งหลายเกรงขาม

    ครั้นในบั้นปลายของชีวิต เมื่อความชราได้เข้ามาเยือนจึงได้มีความรู้สึกสำนึกตัวว่าจะยิ่งใหญ่ต่อไปไม่ได้เสียแล้ว เพราะเขี้ยวอันแหลมคมราวกับเหล็กกล้าภายในปากนั้น บัดนี้ก็ได้หลุดถอน เล็บทุกเล็บอันทรงพลังก็โยกคลอน แม้ร่างกายก็อ่อนแอลงไปแล้วจะจับสัตว์ใหญ่กินได้อย่างไร และจะวิ่งตามสัตว์เล็กก็ไม่ไหว แล้วจะยืนผงาดโอ้อวดความยิ่งใหญ่อยู่ได้หรือ ด้วยเหตุนี้เองเพื่อจะยังชีวิตของตนให้คงอยู่ต่อไป จึงต้องค่อยๆย่องตามเสือหนุ่มสาวกัดกินสัตว์ทิ้งไว้แล้วไปนอนเฝ้าคอยอยู่ตามสุมทุมพุ่มไม้เพื่อจะได้กินในมื้อต่อไป เสือแก่ก็จะย่องเข้ามากินเศษอาหารที่ทิ้งไว้ ถ้าเสือหนุ่มสาวกระโชกเข้ามาขับไล่ ก็ถอยหลบไป ถ้าเสือหนุ่มสาวเผลอหรือนอนหลับ ก็จะย่องเข้าไปแทะกินใหม่ พอให้ชีวิตรอดไปได้วันหนึ่งๆจนกว่าจะตายลงไป

    http://larndham.net/index.php?showtopic=24493&per=1&st=5&
     
  2. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    เยี่ยมยอด
    อยากให้เตชปัญโญ และคนอื่นที่ยังหลงผิด คิดว่าเกิดตายชาติเดียว
    ได้อ่านจริงๆ ที่สำคัญถ้าสามารถปฏิบัติตนตามแนวทางพระศาสนาได้
    ถึงขั้นพิสูจน์ทราบตามความเป็นจริง ก็คงหายสงสัยไปได้

    แต่นี่เล่นไม่ทดลองปฏิบัติเลย ก็เลยพาลอย่างเดียวไม่มีๆ อยู่นั่นเอง

    เปรียบเหมือนหมอที่เขาส่องเห็นเชื้อโรค บอกว่าเรามีเชื้อโรค
    ตนเองไม่เห็นไม่ส่อง ก็ถามหาอยู่นั่นเองไหนๆ แล้วก็บอกไม่เห็นมีอะไร
    แต่ตัวเองก็ตายไปเพราะเชื้อโรคนั่นแหละ
     
  3. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    น่าเป็นห่วง

    <TABLE class=tborder id=threadslist cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY id=threadbits_forum_10><TR><TD class=alt2>[​IMG]</TD><TD class=alt1 id=td_threadtitle_25762 title="ข้อความด้านล่างผม copy & past บางส่วน
    ส่วนตรงไหนที่มีตัวอักษรสีแดงๆ คือ สัญลักษณ์เตือนว่า อย่าเพิ่งไปเชื่อ ให้ผู้อ่านคิดพิจารณาแล้วหาตำราจากพระอาจารย์อื่นๆหรือพระอริยะเจ้ามาเทียบเคียงหรือพระไตรปิฎกมาเทียบ

    ซึ่งความเชื่อแบบนี้ได้บรรจุลงไปฝนหลักสูตรให้นักเรียน..." style="CURSOR: default">[​IMG] แนะนำPoll:น่าเป็นห่วง หลักสูตรพุทธศาสนา จากบางอาจารย์ สอนตายแล้วสูญ ( หลักสูตร ม.1- ม.6) (2 คน กำลังดูอยู่) ([​IMG] 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)






    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    <TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=529 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=466 colSpan=3>ขออนุโมทนาบุญกับท่านเจ้าของบทความ ท่านผู้ตั้งกระทู้ และท่านที่อนุโมทนาบุญ ครับ
    สาาาาา...ธุ


    อกุศลกรรมบถ มีเท่าไร อะไรบ้าง




    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>ตอบ


    </TD><TD vAlign=top width=466 colSpan=3>มี ๑๐ ประการ คือ


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>


    </TD><TD vAlign=top width=26>(๑)


    </TD><TD vAlign=top width=107>ปาณาติบาต


    </TD><TD vAlign=top width=301>ทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วงไป ได้แก่ ฆ่าสัตว์


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>


    </TD><TD vAlign=top width=26>(๒)


    </TD><TD vAlign=top width=107>อทินนาทาน


    </TD><TD vAlign=top width=301>ลักสิ่งของๆ ผู้อื่นที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>


    </TD><TD vAlign=top width=26>(๓)


    </TD><TD vAlign=top width=107>กาเมสุ มิจฉาจาร


    </TD><TD vAlign=top width=301>ประพฤติผิดประเวณี


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>


    </TD><TD vAlign=top width=26>(๔)


    </TD><TD vAlign=top width=107>มุสาวาท


    </TD><TD vAlign=top width=301>พูดเท็จ พูดไม่จริง


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>


    </TD><TD vAlign=top width=26>(๕)


    </TD><TD vAlign=top width=107>ปิสุณาวาจา


    </TD><TD vAlign=top width=301>พูดส่อเสียด ยุยงคนให้แตกกัน


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>


    </TD><TD vAlign=top width=26>(๖)


    </TD><TD vAlign=top width=107>ผรุสวาจา


    </TD><TD vAlign=top width=301>พูดคำหยาบ


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>


    </TD><TD vAlign=top width=26>(๗)


    </TD><TD vAlign=top width=107>สัมผัปปลาปะ


    </TD><TD vAlign=top width=301>พูดเพ้อเจ้อ


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>


    </TD><TD vAlign=top width=26>(๘)


    </TD><TD vAlign=top width=107>อภิชฌา


    </TD><TD vAlign=top width=301>โลภอยากได้สิ่งของๆ ผู้อื่น


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>


    </TD><TD vAlign=top width=26>(๙)


    </TD><TD vAlign=top width=107>พยาบาท


    </TD><TD vAlign=top width=301>ปองร้ายผู้อื่น


    </TD></TR><TR><TD vAlign=top width=31>


    </TD><TD vAlign=top width=26>(๑๐)


    </TD><TD vAlign=top width=107>มิจฉาทิฏฐิ


    </TD><TD vAlign=top width=301>เห็นผิดจากทำนองคลองธรรม


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,210
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ในอริยมรรคมีองค์ 8 พระพุทธองค์ จึงทรงนำเอา สัมมาทิฏฐิ ขึ้นก่อน


    สัมมาทิฐิ แปลว่า ความเห็นถูกต้อง หมายถึงความเห็นที่ถูกคลองธรรม เห็นตามความเป็นจริงเป็นความเห็นที่เกิดจากโยนิโสมนสิการ ประกอบด้วยปัญญา ตามวัดส่วนใหญ่เขียนคำนี้ตามแบบภาษาบาลีว่า สัมมาทิฏฐิ

    สัมมาทิฐิ ที่เป็นอริยมรรคมีองค์ 8 หมายถึง ความเห็นในอริยสัจ คือเห็นทุกข์ เห็นสมุทัย เห็นนิโรธ เห็นมรรค

    สัมมาทิฐิ ที่เป็นมโนสุจริตหมายถึง ความเห็นถูกต้อง 10 อย่าง คือเห็นว่าการให้ทานมีผลจริง การบูชามีผลจริง การเคารพบูชามีผลจริง ผลวิบากของกรรมดีกรรมชั่วมีจริง คุณของมารดามีจริง คุณของบิดามีจริง พวกโอปปาติกะ (พวกเกิดทันทีเช่นเทวดา) มีจริง สมณพราหมณ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนบรรลุมรรคผลนิพพาน รู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเองแล้วสอนให้ผู้รู้ตามด้วยมีจริง
     
  6. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    สาธุ....ขออนุโมทนาครับ

    ตราบใดที่กรรมไม่ดียังไม่เผล็ดผลคนทำบาปกรรมย่อมไม่รู้ว่าตนทำบาป ต่อเมื่อผลแห่งกรรมไม่ดีนั้นเผล็ดผลคนทำบาปจึงได้รู้ว่าตนทำบาป(พระพุทธพจน์)
     
  7. lasomchai

    lasomchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +2,036
    ขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  8. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ...กล่าวได้ดีแล้วชอบแล้ว

    คนที่เห็นผิดจากพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ในเว็บพลังจิตก็น่าจะมีเยอะแต่จะรู้ตัวหรือเปล่า

    ใครพูดอะไรสอนอะไรถ้าขัดแย้งกับคนอื่น โปรดจงกลับไปดูพระไตรปิฎกฉบับหลวงของไทยเถิด

    หลวงพ่อสรวง อดีตเจ้าอาวาสวัดถ้ำขวัญเมือง จ.ชุมพร ซึ่งท่านได้ วิชชา ๓ อภิญญา ๖ เป็นพระอรหันต์ขีณาสพ ได้รับรองแล้วว่าพระไตรปิฎกฉบับหลวงของไทยมีความคลาดเคลื่อนเพียงแค่ ๓% เท่านั้นและ ๓% นั้นไม่ใช่สาระสำคัญเลย
     
  9. บัณฑิต ธัมโม

    บัณฑิต ธัมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +396
    ขออนุโมทนาครับ

    บุคคลที่มีความเห็นผิดต้อง สร้างสติ ปัญญาให้เกิดมีขึ้น จึงจะเห็น สัมมาทิฏฐิ ครับ

    ปัญญา โลกัสมิง ชาคะโร ปัญญา เป็นเครื่องตื่น ในโลก
     
  10. Dongky

    Dongky Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +84
    แม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะได้ทรงทรมานอาจารย์เหล่านี้ด้วยวิธีการต่างๆเพื่อจะได้ละ ได้ถอนความเห็นที่แสนร้ายนี้ ออกไปจากจิตใจเสียแต่อาจารย์เหล่านี้ก็รับไม่ได้ ยกเว้นศิษย์ของอาจารย์เหล่านี้บางคนที่มีความเห็นผิดยังไม่เข้าขั้นหนักรุนแรง


    ผมสงสัยครับทำไมต้องทรมานด้วยครับ ถ้าคำถามนี้เป็นการปรามาศ
    ขออโหสิกรรมด้วยครับ
     
  11. Fame

    Fame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +266
    แม้ว่าการที่พระพุทธเจ้าจะได้ทรงทรมานอาจารย์เหล่านี้ด้วยวิธีการต่างๆ

    ทรมาน ในที่นี้หมายถึง ทรงใช้กุศลอุบาย(กุศโลบาย)ในการพิสูจน์ให้อาจารย์เหลานี้เห็นว่าคำสอนของพระองค์นั้นเป็นความจริง เพื่อที่จะให้เหล่าอาจารย์ทั้งหลายคลายจากความเห็นว่าคำสอนของพระพุทธเจ้านั้นผิด และคลายจากความยึดมั่นในคำสอนของตนนั่นเอง
     
  12. prapayu thanava

    prapayu thanava Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +47
    ความเห็นผิดทั้งหมดมีกี่ประการกันแน่ครับ ใครรู้ช่วยตอบที จะได้เอาไว้แก้ไขความเห็นของตัวเองครับ
     
  13. manny_tong

    manny_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    514
    ค่าพลัง:
    +543
    <img src=http://dl9.glitter-graphics.net/pub/168/168369j9n5j93d55.gif width=150 height=107 border=0></a><br>
     
  14. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172


    นำนิยายดีๆ มาให้อ่าน เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับท่านที่มีมิจฉาทิฎฐิ

    หรือมีความเห็นคัดค้าน หรือสอนในสิ่งที่เป็นการคัดค้านกับคำสอน

    ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า



    .
     
  15. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,172


    นำนิทานดีๆ มาให้อ่านกันครับ



    .
     
  16. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    ขออนุโมทนา มหาโมทนา อย่างสุดใจ ธรรมที่คุณ tamsak และ คุณpiakgear24 นำมาแสดง
    เป็นจริงตามนั้นแน่ ไม่ต้องสงสัย
    เดี๋ยวผมจะหา ref. อ้างอิง ในพระไตรปิฎกมาให้
    เพื่อความสมบูรณ์ของบทความว่า เป็นพระพุทธวจนะจริง
     
  17. แรงกรรม

    แรงกรรม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +21
    ยายทองประสา
    นับถือคำสอนของพระพุทธองค์เป็นที่สุด น่าอนุโมทนา
    แต่ขนาดฟังธรรมจากพระอริยะเจ้ารูปอื่นไม่เข้าใจ แบบนี้เห็นผิดหรือถูก


    เที่ยวคิดว่าคนอื่นเห็นผิดหรือถูก ออก หรือ
    เคยเห็นนิพพานหรือ

    อ้างพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ สาบแช่งเขาไปดะ ไม่กลัวบาปหรือ
     
  18. tamayata

    tamayata สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +23
    ยายทองประสาแกยังเป็นเด็กอยู่ ยังไม่เติบโตเต็มที่ อาจจะคึกคะนองไปบ้าง ให้อภัยแกครับ อายุมากขึ้น ถ้าไม่เข้าสู่วงการไสยศาสตร์เต็มตัวไปเสียก่อน ก็น่าจะเดินกลับสู่เส้นทางที่ถูกต้องได้

    แต่พวกที่หากินกับความเชื่อของชาวพุทธนี่สิ อันนี้น่ากลัวจะกลับตัวยาก
    หวังว่ายายทองประสายังไม่ได้ไปร่วมแก๊งค์กับเขาโดยไม่รู้ตัวก็แล้วกัน

    อีกอย่าง คุณแรงกรรมเขาเตือนด้วยความหวังดี อย่าทะลึ่งไปแบนเขาอีกหล่ะ
     
  19. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    ผมไม่เคยสาปแช่งใคร อย่าพูดจาเลื่อนลอยขาดสติ
    และอโหสิให้ทุกคนที่เคยทำไม่ดีกับผม
    และขออโหสิให้ผมด้วย หากเคยทำไม่ดีกับใคร
     
  20. ยายทองประสา

    ยายทองประสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +3,069
    นี่ก็เป็นคำตอบของคุณแรงกรรมเอง
    และนี่ก็เป็นคำตอบคำถามของคุณด้วยเช่นกัน

    ก็คนรู้นี่นา ทำไมจึงจะไม่รู้ โอยยยยยยยยยประสาทจะกิน
    จะให้พูดยันตายก็ไม่จบสิ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...