ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    "แมทตริกซ์ของมิตินี้ (Matrix of This Dimension)"

    [​IMG]
    (credit the picture from internet)

    พวกเรามาอยู่ที่นี่เพื่อมาให้ความช่วยเหลือพวกคุณ เหมือนอย่างที่เคย
    และพวกเรามาอยู่ที่นี่ก็เพื่อที่จะมาช่วยให้พวกคุณมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า
    แท้ที่จริงแล้วพวกคุณเป็นใคร เพราะว่าพวกเราจะมาย้ำเตือนพวกคุณอีกครั้งว่า
    พวกคุณคือพลังงานและแสงสว่างอันบริสุทธิ์ที่มีจิตสำนึกรู้
    พวกคุณก็คือผู้ที่ไร้ขีดจำกัดและไร้ขอบเขต

    ซึ่งแนวคิดและหลักการณ์เหล่านี้ พวกเราได้เคยบอกพวกคุณไปหลายครั้งแล้ว
    ในหลายๆโอกาส นอกจากนี้พวกเรายังได้เคยส่งผู้นำสาส์นหลายๆคนลงมา
    เพื่อมาช่วยจุดประกายความตระหนักรู้ดังกล่าวนี้ของพวกคุณอีกด้วย
    เพื่อให้พวกคุณตื่นขึ้นมาสู่ความยิ่งใหญ่อลังการที่แท้จริงของตัวเอง

    ดังนั้น แม้ว่าพวกคุณจะอยู่ในร่างกายเนื้อแบบนี้ก็ตาม
    แต่พวกเราก็ยังเคารพและให้เกียรติพวกคุณเสมอ
    เพราะพวกเรารู้อยู่ว่าร่างกายเนื้อของพวกคุณนี้
    คือสิ่งที่พวกคุณกำลังจดจ่ออยู่มากที่สุด

    แต่อย่างไรก็ตาม บัดนี้..มันถึงเวลาแล้ว
    ที่พวกคุณจะต้องรับรู้และยอมรับความเป็นจริง
    เกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของตัวเองซะทีว่า
    พวกคุณคือรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง
    และคือจิตสำนึก/ความตระหนักรู้
    ที่มาอาศัยอยู่ในแมทตริกซ์ที่ถูกสร้างขึ้นมา
    จากกระแสความคิดแห่งนี้เท่านั้น

    เพราะว่าพวกคุณกำลังอาศัยอยู่ในจักรวาลแห่งความคิด!

    ลองจินตนาการดูสักครู่สิว่า ถ้าโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณแห่งนี้
    คือภาพโฮโลแกรมสามมิติที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความสั่นสะเทือน
    ของกระแสความคิดและแสงสว่างหละ มันจะเป็นอย่างไร?

    พวกเราอยากจะขอนำเอาคำพูดของนักปราชญ์คนหนึ่งของพวกคุณ
    ที่ชื่อว่าอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ มาให้พวกคุณอ่านซ้ำอีกครั้งหนึ่งว่า

    “โลกแห่งความเป็นจริง คือมายาการอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
    แม้ว่ามันจะเป็นมายาการที่ดูเป็นจริงเป็นจังอย่างมากก็ตาม”


    ด้วยเหตุนี้ พวกเราจึงเข้าใจพวกคุณดีว่า พวกคุณจะต้องพบกับความยากลำบากซักแค่ไหน
    ที่จะต้องประคองสนามพลังงานแห่งความตระหนักรู้ดังกล่าวนี้เอาไว้
    (เรื่องที่ว่าโลกแห่งความเป็นจริงแห่งนี้คือมายาการ – ผู้แปล)
    ในขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างรอบๆตัวพวกคุณ ก็ช่างทำให้พวกคุณรู้สึกว่ามันเป็นจริงเป็นจัง
    และน่าเชื่อว่าถือมากซะเหลือเกิน

    ลองพิจารณาดูสิว่า ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างคือคลื่นความถี่ และคือคลื่นความสั่นสะเทือนจริงๆหละ
    ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ และลองพิจารณาดูอีกสิว่า ถ้าสมองของพวกคุณ
    ถูกตั้งโปรแกรมมาให้แปลคลื่นความสั่นสะเทือนเหล่านี้ออกมาด้วยวิธีการใดวิธีการหนึ่งหละ
    มันก็จะมีความเป็นไปได้อยู่จริงๆว่า โปรแกรมที่มีข้อจำกัดทั้งหลาย
    และข้อมูลที่มีข้อจำกัดทั้งหลาย และความเชื่อที่มีข้อจำกัดทั้งหลาย
    ที่ถูกเข้ารหัสเอาไว้ใน DNA ของพวกคุณนั้น
    ก็จะกลายเป็นภัยคุกคามต่อกระบวนการตื่นรู้ของพวกคุณเองไปเสียนี่

    เพราะว่าสมองของพวกคุณจะถอดรหัส หรือแปลรหัสเหล่านี้ออกมา
    โดยใช้ความเชื่อที่มีข้อจำกัดและโดยใช้ข้อมูลข่าวสารผิดๆที่มันมีอยู่ มาใช้ในการถอดรหัส
    เพราะว่าสิ่งเหล่านี้ มันถูกถ่ายทอดต่อๆกันมาจากรุ่นสุ่รุ่นของพวกคุณ
    แล้วจากนั้น สมองของพวกคุณก็จะถ่ายทอดสิ่งที่มันถอดรหัสออกมาได้ หรือแปลออกมาได้
    เข้าไปในสนามพลังงานของโลก แล้วแมทตริกซ์พลังงานของโลกก็จะสร้างมายาการ
    ของโลกทางกายภาพขึ้นมาให้กับพวกคุณ โดยอาศัยข้อมูลข่าวสารที่ผิดเพี้ยนเหล่านั้น

    มิหนำซ้ำสื่อมวลชนของพวกคุณ, ศาสนาของพวกคุณ
    และกระบวนการสื่อสารรูปแบบอื่นๆของพวกคุณ
    ก็ยังคอยตอกย้ำให้การมีข้อจำกัดเหล่านี้มันมีพลังมากขึ้นและแข็งแกร่งมากขึ้นอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

    เพราะฉะนั้นแล้ว ตอนนี้พวกคุณเริ่มมองเห็นแล้วใช่ไหมว่า ทำไมโลกแห่งความเป็นจริงแห่งนี้
    มันถึงได้อยู่ในสภาพที่ผิดเพี้ยนเช่นนี้อยู่ตลอดเวลาได้
    นั่นก็เพราะว่า มนุษย์โลกทุกๆคนที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้
    ต่างก็พากันส่งความเชื่อที่มีข้อจำกัดของตัวเอง
    และส่งโปแกรมทางความคิดที่มีข้อจำกัดของตัวเอง เข้ามาในมายาการแห่งนี้อยู่ตลอดเวลาหนะสิ

    ในทันทีที่พวกคุณคลอดออกมาจากครรภ์มารดา และเริ่มหายใจได้เองเป็นครั้งแรกนั้น
    พวกคุณก็ได้เข้ามาอยู่ในแมทตริกซ์พลังงานของโลกเรียบร้อยแล้ว
    ซึ่งก็คือโฮโลแกรมแห่งนี้ หรือที่พวกเราชอบเรียกว่า “โฮโลเกม” (Hologame) นั่นเอง
    แล้วความรู้อันไร้ขีดจำกัดของพวกคุณ ก็ได้ถูกอำพรางเอาไว้
    เพื่อให้คุณได้เข้ามาเล่นในเกมแห่งโลก 3 มิติแห่งนี้ได้อย่างสมบทบาทมากที่สุด

    พวกคุณในฐานะที่เป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติอันศักดิ์สิทธิ์
    และเป็นจิตสำนึก/ความตระหนักรู้แห่งแสงสว่าง
    พากันมาอยู่ที่นี่..ในโลกแห่งความเป็นจริงที่ดูเหมือนว่าเป็นโลกทางกายภาพแห่งนี้
    ก็เพื่อที่จะมาเปลี่ยนรูปแบบพลังงานที่ไม่ดีไม่งามทั้งหลายของที่นี่ ให้มันดีขึ้น

    พวกคุณทุกๆคนมาอยู่ที่นี่
    ก็เพื่อที่จะมานำเอาแสงสว่างของตัวเองมาส่องสว่างให้กับที่นี่
    และเพื่อที่จะมากระจายแสงสว่างออกไปให้กว้างไกลมากที่สุด


    จงจำไว้ว่าความคิดของพวกคุณคือคลื่นความถี่ชนิดหนึ่ง
    ความคิดของพวกคุณคือคลื่นความสั่นสะเทือนชนิดหนึ่ง
    ส่วนคำพูดของพวกคุณก็คือความสั่นสะเทือนชนิดหนึ่งด้วยเหมือนกัน
    ที่ถูกสร้างขึ้นมาในแมทตริกซ์ของภาพลวงตาแห่งนี้
    และความสั่นสะเทือนแห่งความตระหนักรู้เหล่านี้ของพวกคุณ
    (ความคิด, อารมณ์ความรู้สึก, คำพูด เป็นต้น – ผู้แปล)
    ก็จะไปมีปฏิสัมพันธ์กับสนามพลังงานควอนตั้มของโลกใบนี้
    และแม้แต่สนามพลังออร่าของพวกคุณเอง ก็ยังเป็นสนามพลังงานงานแห่งแสงสว่างชนิดหนึ่งด้วย
    ซึ่งมันก็จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับสนามพลังออร่าของคนอื่นๆ
    ที่มาเกี่ยวข้องสัมผัสด้วยอยู่ตลอดเวลา

    พวกเราเรียกความสั่นสะเทือนต่างๆเหล่านี้
    ที่แผ่ส่งออกมาจากความคิด, อารมณ์ความรู้สึก,
    ความเชื่อ และโปแกรมต่างๆของพวกคุณว่า
    “ลายเซ็นต์ทางพลังงาน” ของพวกคุณ (your energy signature)

    และ “ลายเซ็นต์ทางพลังงาน” ของพวกคุณนี่เอง
    ที่พวกเรากำลังเชื้อเชิญพวกคุณให้มาเป็นเจ้าของมันด้วยจิตสำนึกแบบใหม่อยู่
    เพื่อที่จะได้เริ่มต้นก้าวออกมาจากโปรแกรมทางความเชื่อทั้งหลาย
    ที่พวกคุณถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเป็นโปรแกรมทางความเชื่อที่มีข้อจำกัด
    แบบใดแบบหนึ่งอยู่ ไม่มากก็น้อย

    พวกคุณจะต้องเริ่มต้นตั้งคำถามกับความเชื่อเหล่านี้ของตัวเอง
    และลองสืบสาวดูว่าพวกคุณได้รับพวกมันมาได้อย่างไร?

    และอะไรที่ทำให้พวกมันยังคงอยู่มาจนถึงบัดนี้ได้?

    พวกคุณจะต้องเริ่มต้นรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลได้แล้ว แล้วถามตัวเองดูว่า
    ความเชื่อที่มีข้อจำกัดเหล่านี้ สามารถที่จะส่งผลกระทบในแง่ร้ายต่อชีวิตของพวกคุณ
    ในด้านใดด้านหนึ่งได้หรือไม่?

    และมันยังอาจจะส่งผลกระทบต่อปณิธานที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของพวกคุณ
    เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้นด้วยหรือไม่?

    จงจำไว้ว่าร่างกายเนื้อของพวกคุณถูกสร้างขึ้นมาจากพลังงานที่ในรูปของแสงสว่างและอะตอมต่างๆ
    ซึ่งอะตอมของพลังงานเหล่านี้จะมีการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกันอยู่ตลอดเวลา
    เพราะว่าทุกๆส่วนของร่างกายเนื้อของพวกคุณจะมีการติดต่อสื่อสารกับส่วนรวมทั้งหมดอยู่ตลอดเวลา

    เพราะฉะนั้นแล้ว ลองถามตัวเองดูซิว่า ร่างกายเนื้อของพวกคุณกำลังพูดอะไรอยู่?
    และตลอดทั้งวันนี้ พวกคุณพูดกับร่างกายเนื้อของตัวเองว่าอย่างไรบ้าง?
    พวกคุณเคยกล่าวคำขอบคุณมัน ที่มันรับใช้พวกคุณมาด้วยดีตลอดหรือไม่?
    หรือว่าพวกคุณเอาแต่พูดถึง/นึกถึงข้อจำกัดของร่างกายเนื้อของตัวเองอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า?
    พวกคุณเคยยอมรับฟังคลื่นความถี่ต่างๆที่ถูกส่งออกมาจากส่วนต่างๆและอวัยวะต่างๆ
    ของร่างกายเนื้อ และของร่างกายทางพลังงานของตัวเองบ้างไหม?

    พวกเราขอเชิญพวกคุณให้ลองมาพิจารณาดูแบบนี้ว่า
    ร่างกายเนื้อของพวกคุณคือภาพสามมิติ
    ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความคิด, ความเชื่อ
    และโปรแกรมที่ถูกปลูกฝังมาทั้งหลายของพวกคุณเอง
    และถึงแม้ว่ามันอาจจะดูเหมือนว่าและรู้สึกว่าเป็นของแข็งอยู่จริงๆก็ตาม
    แต่ว่าความจริงแล้ว มันก็คือแมทตริกซ์ของอนุภาคของแสงสว่างชนิดหนึ่ง
    ที่กำลังมีปฏิสัมพันธ์กับและตอบสนองต่ออนุภาคของแสงสว่างชนิดอื่นๆ
    ที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นความถี่และระดับความสั่นสะเทือนอื่นๆอยู่ตลอดเวลานั่นเอง

    ลองพิจารณาดูสิว่า กระแสความคิดของพวกคุณ
    ก็คืออิฐบล็อกที่ใช้เพื่อก่อสร้างโฮโลแกรมหรือภาพสามมิตินี้ขึ้นมา
    ส่วนกระแสความคิดของพระผู้เป็นเจ้านั้น คือสิ่งที่สรรสร้างความเป็นหนึ่งเดียวขึ้นมา
    ซึ่งพวกคุณก็เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นหนึ่งเดียว (oneness) ดังกล่าวนี้ด้วย
    และก็เป็นเสมอมา และก็จะเป็นตลอดไปด้วย

    ประกายความคิดแห่งพระผู้เป็นเจ้า หรือประกายความสั่นสะเทือนแห่งพระผู้เป็นเจ้า
    ที่อยู่ภายในตัวของพวกคุณ คือผู้ที่สร้างประสบการณ์ชีวิตทุกๆชนิด
    ขึ้นมาให้กับพวกคุณ ซึ่งด้วยสัจธรรมนี้เพียงข้อเดียว
    ก็สามารถที่จะทำให้พวกคุณหลุดออกมาจากการมีข้อจำกัดต่างๆได้แล้ว

    พวกเราจะขอพูดซ้ำกับพวกคุณอีกครั้งหนึ่งว่า
    ประกายความคิดแห่งพระผู้เป็นเจ้า
    หรือประกายความสั่นสะเทือนแห่งพระผู้เป็นเจ้า
    ที่อยู่ภายในตัวของพวกคุณ
    คือผู้ที่สร้างประสบการณ์ชีวิตทุกๆชนิดขึ้นมาให้กับพวกคุณ

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงเริ่มต้นเล่นสนุกกับโฮโลเกมแห่งนี้ หรือโฮโลแกรมอันนี้
    ในแบบที่ไร้ขีดจำกัดกันเถอะ จงรู้ไว้ว่าพวกคุณสามารถที่จะเปลี่ยนการจดจ่อของตัวเองไปสู่ที่ไหนก็ได้
    และเปลี่ยนไปอย่างไรก็ได้ด้วย

    เพราะฉะนั้นแล้ว ลองถามตัวเองดูหน่อยสิว่า
    ทำไมพวกคุณถึงได้สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาในโฮโลเกมของตัวเองด้วย?
    ลองถามตัวเองดูสิว่า ทำไมพวกคุณถึงได้ช่วยกันสร้างแต่ปัญหาและสถานการณ์ต่างๆ
    ที่ไม่เป็นผลดีต่อการดำรงชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้เลย ขึ้นมาอยู่ตลอดเวลาด้วย?

    จงมีสติรับรู้ถึงสิ่งที่พวกคุณกำลังจดจ่ออยู่ให้ดี
    ว่าตอนนี้พวกคุณกำลังจดจ่ออยู่กับปัญหาต่างๆ
    หรือว่ากำลังจดจ่ออยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกคุณปราถนากันแน่?

    การเปลี่ยนแปลงระดับความคิดแบบนี้ (คือการคิดจดจ่ออยู่แต่กับสิ่งที่ปราถนา
    ไม่ใช่ไปจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย – ผู้แปล)
    คือสิ่งที่เหล่าคุรุผู้ที่เปี่ยมไปด้วยจิตสำนึกตัวจริงทั้งหลายทำกัน
    เพราะว่าพวกเขาเข้าใจแล้วว่า โลกแห่งความเป็นจริงแห่งนี้
    ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนกับว่าเป็นของแข็งมากแค่ไหนก็ตาม
    และดูน่าสนุกมากแค่ไหนก็ตาม และมีความท้าทายมากแค่ไหนก็ตาม
    แต่แท้ที่จริงแล้วมันก็คือมายาการอย่างหนึ่ง ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากพลังงานแสงสว่างชนิดหนึ่ง
    ที่อยู่ในรูปแบบของกระแสความคิด ที่ไปทำปฏิกิริยากับแมทตริกซ์ของมิตินี้เท่านั้นเอง

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงมาเล่นสนุกอย่างเต็มที่กับจักรวาลแห่งความคิดแห่งนี้กันเถอะ
    จงยินยอมให้ตัวเองมีความรู้และความเข้าใจที่แท้จริงอันนี้
    ที่เกี่ยวกับตัวตนหลากมิติของตัวพวกคุณเอง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของส่วนรวมทั้งหมด
    และเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นหนึ่งเดียว และก็เป็นผู้สร้างแห่งพระผู้เป็นเจ้าด้วย

    พวกเราเคยพูดถึงการคิดออกนอกกรอบไปแล้ว
    และก็เคยพูดถึงการสร้างสรรค์ออกนอกกรอบข้อจำกัดของพวกคุณไปแล้ว
    ดังนั้น ตอนนี้พวกเราจะมาให้ข้อมูลกับพวกคุณต่อ
    เพื่อช่วยให้พวกคุณรู้จัก และจดจำพลังอำนาจที่แท้จริงแห่งการสร้างสรรค์ของตัวเองให้ได้
    แล้วยอมรับเป็นเจ้ามันเสีย

    เพราะว่าพวกคุณคือรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างที่มีจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ภายใน
    และกำลังดำรงอยู่ในทุกๆกรอบกาลเวลา และในทุกๆมิติพร้อมๆกันหมดในเวลาเดียวกัน

    ซึ่งในฐานะที่พวกคุณเป็นรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง
    ที่มีจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ภายในนี้เอง
    พวกคุณก็ได้ยินยอมให้ส่วนหนึ่งของตัวเอง หรือยินยอมให้ช่องทางการจดจ่อของตัวเองช่องทางหนึ่ง
    ลงมาเล่นและมาสร้างสรรค์อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง 3 มิติแห่งนี้
    เพื่อมาผจญภัยและหาประสบการณ์

    แต่อย่างไรก็ตาม จงรู้ไว้ด้วยว่า ในความเป็นจริงแล้ว
    พวกคุณกำลังผลุบเข้าและผลุบออกจากการมีตัวตนอยู่
    ในโลกแห่งความเป็นจริงแห่งนี้ หรือในมิตินี้ อยู่ตลอดเวลา

    พวกเราเข้าใจดีว่าสิ่งที่พวกเราพูดมาทั้งหมดนี้
    อาจจะทำให้พวกคุณรู้สึกว่าถูกยืดขยายออกไปมากกว่าปกติเล็กน้อย
    แต่ว่าพวกเราก็รู้อีกว่า เพราะว่าแท้ที่จริงแล้ว พวกคุณคือพลังงานอันบริสุทธิ์
    ดังนั้นพวกคุณจึงค่อนข้างที่จะสามารถยืดขยายได้อยู่แล้ว

    จงจำไว้ว่าพวกเราพร้อมเสมอที่จะให้ความช่วยเหลือพวกคุณ
    และให้การสนับสนุนพวกคุณในทุกๆด้าน และพวกเราก็อยู่ใกล้ๆพวกคุณเสมอ
    และพร้อมเสมอที่จะมาให้ความช่วยเหลือพวกคุณ เมื่อพวกคุณร้องขอมา
    เฉกเช่นเดียวกันกับรูปธรรมชีวิตแห่งพระผู้เป็นเจ้ารูปธรรมอื่นๆทุกๆรูปธรรม เพราะว่าพวกเราคือทีมเดียวกัน


    The Team

    …………………................................................................
    ที่มา: ข้อความสื่อสารจาก The Team
    เรื่อง: แมทตริกซ์ของมิตินี้ (Matrix of This Dimension)
    ประจำเดือน : มิถุนายน 2015
    ผู้รับสาส์น: Peggy Black

    website: Morning Messages
    .....................................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • mind-upload.jpg
      mind-upload.jpg
      ขนาดไฟล์:
      120.2 KB
      เปิดดู:
      2,695
  2. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    "การเนรมิต และการสรรสร้างร่วม (Manifestation & Co-creation)"

    [​IMG]
    (credit the picture from internet)


    สวัสดีที่รักทั้งหลาย

    นี่คือมหาเทพ Zadkiel มาพร้อมด้วยพระแม่ Amethyst แห่งรังสีที่ 7
    ของการเปลี่ยนรูปแบบและการเนรมิต พวกเราขอสวัสดีพวกคุณด้วยความรักและแสงสว่าง
    วันนี้พวกเราจะมาพูดกับพวกคุณเรื่องของการเนรมติและการสรรสร้างร่วม

    ตอนนี้พวกคุณกำลังอาศัยอยู่ในยุคที่การเนรมิต
    จะสามารถเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วมาก
    เพราะว่าพลังงานมีระดับความสั่นสะเทือนสูงขึ้น
    จึงทำให้ความคิดใดๆของพวกคุณ
    สามารถที่จะถูกเนรมิตออกมา
    สู่โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพของพวกคุณ
    ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเร็วกว่าในยุคที่ผ่านมา
    คือก่อนวันที่ 21 ธันวาคม 2012 ซะอีก

    เพราะว่าก่อนหน้านั้น (ก่อนวันที่ 21 ธันวาคม 2012 – ผู้แปล)
    พลังงานยังสั่นสะเทือนด้วยระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำๆอยู่
    ดังนั้น การเนรมิตจึงจำเป็นจะต้องอาศัยการจดจ่อความคิดลงไปมากกว่า
    และใช้ความพยายามมากกว่าจึงจะเกิดเป็นผลสำเร็จได้

    แต่ในวันนี้ เพราะว่าระดับความสั่นสะเทือนของพลังงาน
    สูงขึ้นกว่าเดิมแล้ว และละเอียดปราณีตมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
    จึงทำให้กระแสความคิดทั้งหลายของมนุษย์
    สามารถที่จะถูกเนรมิตออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของมนุษย์
    ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม

    นอกจากนี้..ตอนนี้ระยะเวลาที่จำเป็นที่จะต้องใช้ในการเนรมิต
    นับตั้งแต่เริ่มต้นการจดจ่ออยู่กับความคิดใดๆ
    จนไปถึงได้ผลสำเร็จออกมานั้น ก็ยังสั้นลงกว่าเดิมอีกด้วย
    ซึ่งนี่นับว่าเป็นผลดีอย่างมากสำหรับมนุษยชาติ
    แต่ว่ามันก็มีข้อควรระวังอยู่ด้วย

    ข้อดีของมันก็คือ ความฝันทั้งหลายของพวกคุณ
    จะสามารถก่อรูปก่อร่างขึ้นในมิติทิพย์ได้อย่างรวดเร็วมากๆ
    ดังนั้น เมื่อใดที่พวกคุณจดจ่อความคิดของตัวเอง
    ลงไปในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้ว
    และใส่พลังงานของการจดจ่อนั้นลงไปในจินตนาการของตัวเองแล้ว
    แรงพลังทั้งหลายก็จะถูกดึงเข้ามาหากัน
    เพื่อเนรมิตให้สิ่งนั้นกลายเป็นความจริงขึ้นมา

    แต่ข้อเสียของมันที่มาพร้อมๆกันก็คือ
    เพราะว่ากระบวนการเนรมิตจะเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมมาก
    ดังนั้น พวกคุณจึงจำเป็นจะต้องระมัดระวังความคิดของตัวเองให้มากด้วย
    เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่พวกคุณหมกมุ่นอยู่กับความคิดใดๆแล้ว
    ความคิดนั้นๆมันก็จะเริ่มสะสมพลังงานขึ้นมาทันที
    และยิ่งพวกคุณหมกมุ่นอยู่กับความคิดที่ไร้ประโยชน์
    และคิดสะเปะสปะมากเท่าไร
    พวกมันก็จะยิ่งสะสมพลังงานมากขึ้นเท่านั้นด้วย
    ซึ่งหากสิ่งนี้เกิดขึ้นร่วมกับการจดจ่ออารมณ์ความรู้สึกลงไปด้วยแล้ว
    มันก็สามารถที่จะเนรมิตเอาสิ่งที่พวกคุณไม่ต้องการ
    ออกมาให้กับพวกคุณได้

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงพึงระวัง และคอยติดตามดูความคิดของตัวเองให้ดี
    เพราะว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมาก

    ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่มีความคิดใดๆผุดขึ้นมาในจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณ
    พวกคุณอาจจะจำเป็นต้องพิจารณาดูมันซะก่อน
    ด้วยมุมมองของผู้สังเกตการณ์ที่วางเฉย (detached observer)
    แล้วจากนั้น จึงค่อยกลับเข้าไปจดจ่อสติเอาไว้ในศูนย์กลางหัวใจของตัวเอง
    เพื่อดูว่าความคิดนั้นๆมันเหมาะสมหรือดีต่อพวกคุณหรือไม่

    ซึ่งถ้ามันไม่เหมาะสมหรือไม่ดีต่อพวกคุณ ก็ให้ทิ้งมันไปเสีย
    ให้เหมือนกับว่ามันเป็นลมหายใจที่ผ่านไปแล้วอย่างงั้นแหละ
    หรือไม่ก็..พวกคุณก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนเจตจำนงอันนั้นของตัวเองซะใหม่
    แล้วถ้าเจตจำนงอันนั้นของพวกคุณ มันทำให้หัวใจของพวกคุณร้องเพลงขึ้นมาหละก็
    พวกคุณก็สามารถที่จะให้ความสนใจกับมันมากขึ้นได้
    และตัดสินใจว่าจะเติมพลังงานให้กับมันมากขึ้นอีกหรือไม่ได้

    ด้วยพลังงานใหม่ ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงขึ้นกว่าเดิมแล้วนี้
    จึงทำให้พวกคุณมีภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้นด้วย ในฐานะที่พวกคุณเป็นผู้สร้างสรรค์ร่วม (co-creator)
    เพราะว่าพวกคุณจะไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตของพวกคุณอีกต่อไปแล้ว
    เพราะว่าตอนนี้พวกคุณมีภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว
    คือพวกคุณจะต้องตัดสินใจเลือกลงไปว่าพวกคุณต้องการอะไร
    แล้วจากนั้นก็จงลงมือเนรมิตมันออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองเสีย

    หนึ่งในขั้นตอนแรกๆในภาระกิจของพวกคุณ ในฐานะที่เป็นผู้สร้างสรรค์ร่วมคนหนึ่งก็คือ
    การตั้งเจตนารมณ์ของตัวเองขึ้นมาว่า พวกคุณต้องการที่จะเนรมิตอะไรออกมา
    ซึ่งความชัดเจนในการระบุลงไปว่าตัวเองต้องการอะไรนั้น
    คือสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก และก็จำเป็นจะต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจด้วย

    พวกคุณอาจจะพบว่าตัวเองไม่ต้องการสิ่งที่เคยต้องการเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว
    เพราะว่าสิ่งที่เคยต้องการก่อนหน้านี้ บัดนี้มันอาจจะไม่เหมาะสมกับ
    ระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นของพลังงานของตัวพวกคุณเองในตอนนี้แล้วก็ได้
    เพราะฉะนั้นแล้ว การอยู่ในความต้องการปัจจุบันของตัวเอง
    จะช่วยให้พวกคุณสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ด้วยเจตจำนงที่ชัดเจน

    ในยุคพลังงานใหม่นี้ ศูนย์กลางหัวใจของพวกคุณ
    จะมีบทบาทสำคัญอย่างมาก
    เพราะว่า ถ้าเจตจำนงของพวกคุณ
    สั่นสะเทือนไม่สอดคล้องกับศูนย์กลางหัวใจของพวกคุณเองแล้วหละก็
    พวกคุณก็อาจจะต้องทิ้งเจตจำนงอันนั้นไปเสีย

    และพวกคุณก็อาจจะต้องพิจารณาดูว่า ทำไมมันถึงไม่สอดคล้อง
    ซึ่งด้วยการทำเช่นนี้ก็อาจจะทำให้พวกคุณได้ข้อมูลที่ทรงคุณค่ามาก็ได้
    แล้วข้อมูลนี้ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการก้าวไปข้างหน้าของพวกคุณเองด้วย
    และจะช่วยให้พวกคุณคงอยู่ในกระแสของพลังงานแห่งการเลื่อนระดับขึ้นของตัวเองด้วย

    ถ้าเมื่อใดที่เจตจำนงที่พวกคุณตั้งขึ้นมานั้น
    มันสั่นสะเทือนไม่สอดคล้องกับศูนย์กลางหัวใจของพวกคุณ
    พวกคุณก็สามารถที่จะตรวจสอบดูมันได้ด้วยจิตใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเอง
    เพื่อหาเหตุผลที่มีเหตุมีผลมาอธิบาย

    เพราะฉะนั้นแล้ว ในขั้นตอนการตั้งเจตจำนงของตัวเองขึ้นมานี้
    หัวใจของพวกคุณ และจิตใจของพวกคุณก็จะต้องทำงานร่วมกัน

    แต่เมื่อใดที่เจตจำนงในการเนรมิตของพวกคุณ
    เป็นไปเพื่อประโยชน์สุงสุดของทุกผู้ทุกนามแล้ว
    ระดับความสั่นสะเทือนของมันก็จะสูงมากขึ้น
    ดังนั้น มันจึงเป็นการไม่เพียงพออีกต่อไปแล้ว
    ที่จะพิจารณาเพียงแค่ว่าการเนรมิตดังกล่าวนั้น
    จะเป็นประโยชน์ต่อตัวของพวกคุณเองหรือไม่
    เพราะว่าเป้าหมายที่สูงส่งกว่านั้นที่จะต้องพิจารณาก็คือ
    เพื่อประโยชน์สุงสุดของทุกผู้ทุกนาม (for highest good)

    หลังจากที่พวกคุณได้ตั้งเจตจำนงในการเนรมิตของตัวเองขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว
    พวกคุณก็จะต้องใช้การจดจ่ออยู่กับความคิดอันนั้น
    และใช้พลังงานจากหัวใจของตัวเอง เป็นตัวช่วยในการเนรมิตเอาเจตจำนง
    หรือความตั้งใจอันนั้นออกมา

    และเมื่อพวกคุณได้ส่งความคิดที่ถูกจดจ่อแล้วนั้นออกไป
    พร้อมๆกับส่งอารมณ์หรือความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกันนั้นออกไปแล้ว
    ก็เท่ากับว่าพวกคุณได้ส่งสัญญาณออกไปให้จักรวาลและให้มิติที่สูงๆกว่าทั้งหลาย
    ได้รู้แล้วว่าพวกคุณพร้อมแล้วที่จะก้าวต่อไป

    และโดยอาศัย “กฎแห่งการสั่นสะเทือน” (Law of Vibration)
    และ “กฎแห่งการดึงดูด” (Law of Attraction)
    พวกคุณก็จะดึงดูดเอาสิ่งต่างๆที่จะมาช่วยในการเนรมิตเจตจำนงของพวกคุณออกมา เข้ามาหาพวกคุณ

    เช่น พวกคุณอาจจะไปพบกับข้อมูลอะไรบางอย่างในนิตยสาร หรือในอินเตอร์เน็ต
    หรือพวกคุณอาจจะได้พบใครบางคนในร้านขายของชำ หรือในงานอะไรซักอย่างหนึ่ง
    ซึ่งเป็นผู้ที่สามารถจะช่วยเหลือพวกคุณได้ หรือทำให้พวกคุณเข้าใจอะไรมากขึ้นได้
    หรือพวกคุณอาจจะพบว่าตัวเองได้รับความเข้าใจ หรือได้รับแนวคิดอะไรบางอย่างมาจากมิติที่สูงๆกว่า
    ในระหว่างที่กำลังทำกิจธุระประจำวันของตัวเองอยู่ก็ได้

    ที่สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ก็เพราะว่าพวกคุณได้ตั้งเจตจำนงที่ชัดเจนเอาไว้แล้ว
    และพวกคุณก็ได้จดจ่อความคิด และอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองลงไปในมโนทัศน์ของตัวเองแล้ว

    ซึ่งเมื่อใดที่สิ่งนี้เกิดขึ้น ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังแสดงบทบาทหน้าที่ของตัวเอง
    ในกระบวนการเนรมิต และในการเป็นผู้สรรสร้างร่วมอยู่
    เพราะว่าพวกคุณได้ทำหน้าที่สำคัญในกระบวนการนี้แล้ว
    และพวกคุณก็ได้ก้าวเข้ามาในบทบาทหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่มากขึ้นแล้วด้วย
    ในฐานะที่เป็นผู้สร้างร่วม

    ที่รักทั้งหลาย พวกเรามีความสุขที่ได้เห็นพวกคุณก้าวเข้ามาทำบทบาทหน้าที่ของตัวเอง
    ในฐานะที่เป็นผู้สรรสร้างร่วม ในกระบวนการเนรมิตของตัวเองนี้
    จงรู้ไว้ว่าพวกเราจะอยู่ที่นี่เสมอ เพื่อทำงานร่วมกับพวกคุณ
    ในขณะที่พวกคุณเนรมิตเอาเจตจำนงของตัวเองออกมา เพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกผู้ทุกนาม

    และจงรู้ไว้ว่า พวกคุณคือผู้ที่เป็นที่รักยิ่งของพวกเรา

    พวกเราคือมหาเทพ Zadkiel และ พระแม่ Amethyst
    พวกเรากำลังห้อมล้อมพวกคุณอยู่ด้วยความรัก

    And so it is.

    ………………….................................................................................................
    Source: ข้อความสื่อสารจากมหาเทพ Zadkiel
    เรื่อง: การเนรมิต และการสรรสร้างร่วม (Manifestation & Co-creation)

    ประจำเดือนพฤษภาคม 2015
    ผู้รับสาส์น: Linda Robinson
    วันที่: 29 เมษายน 2015

    website: pleiadedolphininfos: Linda Robinson – Message From Archangel Zadkiel* May 2015 – Manifestation And Co-Creation – 29 April 2015
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ritual-11.jpg
      ritual-11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.6 KB
      เปิดดู:
      2,905
  3. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ข้อความจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)
    เรื่อง: ความงดงามทั้งหมดของมัน (The Beauty of It All)

    ผู้รับสาส์น: นาย Jame Tyberonn
    วันที่โพสต์: 3 กรกฎาคม 2015
    ที่มา:https://www.facebook.com/KeeperOfThePlatinumRay

    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    ที่รักทั้งหลาย ชีวิตของพวกคุณบนดาวเคราะห์โลก แห่งความเป็นทวิภาวะแห่งนี้
    ช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน ซึ่งพวกคุณที่อยู่ในวัยชราแล้ว
    ก็จะสามารถรู้ความหมายและเข้าใจลึกซึ้งถึงคำพูดนี้ได้เป็นอย่างดี

    แต่บ่อยครั้งที่บนเส้นทางแสวงหาสัจธรรมของพวกคุณ พวกคุณมองข้ามความสำคัญ
    ของการอยู่ดีมีสุข และการมีความสุขไป ดวงใจอันเป็นที่รักทั้งหลาย
    ลองหาเวลาสูดดมกลิ่นหอมของดอกกุหลาบดูบ้างเถิด,
    ลองหาเวลาเพื่อแสดงน้ำใจไมตรีต่อกันและกันดูบ้างเถิด,
    และลองหันมาทนุถนอมกล่อมเกลี้ยงทุกๆชั่วขณะอันศักดิ์สิทธิ์ของชีวิตที่ทรงคุณค่านี้ดูบ้างเถิด

    อย่าปล่อยให้ความวิตกกังวล และความคับข้องใจในโลกแห่งความเป็นทวิภาวะแห่งนี้
    มาทำให้พวกคุณมองไม่เห็นความสวยงามของชีวิตนี้เลย
    ลองหาเวลาเพื่อรู้สึกถึงความงดงามของทุกสิ่งทุกอย่างดุบ้างเถิด!
    ลองหาเวลาเพื่อรับรู้ความจริงที่ว่า พวกคุณคือรูปธรรมชีวิตที่ทรงพลังอำนาจ
    และเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ ที่กำลังสวมใส่เสื้อผ้าที่เป็นเนื้อหนังนี้อยู่ดูบ้างเถิด
    ลองเชื่อมต่อเข้าไปในพลังงานแห่งความรักอันบริสุทธิ์ หรือแสงสว่างอันประณีต
    ซึ่งเป็น “ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่” (All That Is) ดูบ้างเถิด
    ลองรู้สึกถึงพวกเรา ลองรู้สึกถึงความเป็นพระเจ้าที่อยู่ภายในตัวของพวกคุณเองดูบ้างเถิด
    และจงรู้เอาไว้เถิดว่า พวกคุณไม่เคยอยู่กันโดยลำพังเลย

    ท่านคุรุทั้งหลาย ได้โปรดอย่าลืมว่าระนาบแห่งโลกใบนี้
    คือมายาการที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างมีเป้าประสงค์
    มันเป็นมายาการที่มวลหมู่มนุษย์โลกทั้งมวลร่วมกันสร้างขึ้นมา
    และก็สร้างขึ้นมาอย่างมีความหมายด้วย!

    มนุษย์โลกที่อยู่ภายใต้ภาพลวงตาของโลกทางกายภาพนี้ ต่างก็กำลังสวมใส่ตัวกรอง
    ที่ทำหน้าที่แบ่งแยกพวกคุณออกจากตัวตนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณเองอยู่
    (your higher self) ดังนั้น บ่อยครั้งพวกคุณจึงรู้สึกสับสนเหลือเกิน
    หรือรู้สึกแปลกแยกเหลือเกิน หรือรู้สึกโดดเดี่ยวเหลือเกิน

    และในการค้นหาทั้งหมดของพวกคุณ
    สิ่งที่พวกคุณจะค้นพบในท้ายที่สุดก็คือ
    พวกคุณจะพบว่ามีเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้
    สามารถทนทานกับความรู้สึกที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ได้
    ก็คือการรักกัน..หรือคือความรักนั่นเอง!

    แต่ความรักก็จำเป็นจะต้องอาศัยความเข้มแข็งด้วย
    เพราะว่าความรักเป็นศาสตร์ที่ลึกลับซับซ้อนศาสตร์หนึ่ง
    ไม่ใช่เป็นแค่อารมณ์ความรู้สึกอย่างหนึ่งเท่านั้น
    ความรักคือกุญแจสำคัญ ความรักคือคลื่นความถี่ที่แสนมหัศจรรย์
    และคือน้ำทิพย์ที่จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยดีในท้ายที่สุด

    ความเป็นทวิภาวะคือสภาวะที่พิเศษ ไม่ใช่สภาวะที่เป็นกฎข้อบังคับโดยทั่วไป
    เพราะว่าในเอกภพแห่งนี้ มีสสารทางกายภาพอยู่เพียงไม่ถึง 7% เท่านั้นเอง
    และก็มีเพียงมิติที่ 3 ที่อยู่ในระบบทวิภาวะเท่านั้น ถึงจะมีสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกันได้
    แต่ว่าสิ่งที่พวกคุณกำลังทำกันอยู่ในจักรวาลแห่งความเป็นทวิภาวะแห่งนี้
    มันก็มีเป้าประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ และก็ยิ่งใหญ่มากๆอยู่ !

    ในโลกแห่งทางเลือกเสรีที่น่าสนใจแห่งนี้
    พวกคุณสามารถที่จะเลือกเนรมิตฝันที่สวยสดงดงามมากแค่ไหนขึ้นมาก็ได้
    หรือจะเลือกเนรมิตฝันร้ายที่น่าสยดสยองแค่ไหนขึ้นมาก็ได้
    แต่ว่านี่ก็คือวิธีการในการค้นหาความเป็นพระเจ้าที่อยู่ในตัวของพวกคุณเองให้เจอ
    และก็เป็นวิธีการค้นหาบทบาทหน้าที่ที่แท้จริงของตัวเอง
    ในฐานะที่เป็นผู้สร้างที่มีความรับผิดชอบของโลกแห่งความเป็นจริงอันน่าทึ่งของตัวเองด้วย

    ระนาบแห่งโลกใบนี้คือมายาการอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
    แต่ว่ามันก็เป็นมายาการที่ดูเป็นจริงเป็นจังมากๆซะด้วยสิ

    ดังนั้น พวกคุณถึงได้รู้สึกว่าอารมณ์ความรู้สึกทั้งหลาย,
    ความเจ็บปวดทั้งหลาย และบทเรียนทั้งหลาย
    มันช่างดูเป็นจริงเป็นจังมากเหลือเกินยังไงหละ
    เพราะว่าถ้ามันไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว พวกคุณก็อาจจะไม่เติบโตก็ได้
    (หมายถึงการเติบโตทางด้านจิตวิญญาณ – ผู้แปล)

    แต่ว่าช่วงเวลาที่อยู่บนโลกใบนี้ มันก็เป็นช่วงเวลาที่สวยสดงดงามด้วยเช่นเดียวกัน
    เพราะว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ความรักจะมาประทับ และฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของพวกคุณ
    และความรักนี้เองที่จะคงอยู่ชั่วนิจนิรันดร์

    ในช่วงเวลานี้ ของปี 2015 นี้ พวกคุณกำลังอยู่ในท่ามกลางช่วงเวลา
    ที่เป็น “เตาหลอม” ทางดาราศาสตร์อยู่
    ดังนั้น พลังงานที่ตกค้างอยู่หรืออุดตันอยู่ทั้งหมด ที่ยังไม่ได้รับการชำระสะสาง
    ก็เลยจะถูกกระตุ้นให้ลอยขึ้นมาสู่ระดับพื้นผิว
    เพื่อที่พวกมันจะได้ถูกชำระสะสางออกไป

    ดังนั้น ในระหว่างที่พวกคุณกำลังตกอยู่ในช่วงที่ยากลำบากอยู่นี้
    จงปลอบใจตัวเองเอาไว้ด้วยความจริงนี้เถิดว่า
    เมื่อถึงเวลาอันสมควรแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปในทางที่ดีเอง ไม่ช้าก็เร็ว

    ผู้แสวงบุญทั้งหลายเอ๋ย พวกคุณได้เดินทางมาไกลแล้ว
    และตอนนี้พวกคุณก็กำลังจะสำเร็จการศึกษาครั้งยิ่งใหญ่กันแล้ว
    ซึ่งเป็นการศึกษาในหลักสูตรที่พวกคุณได้พากันร่ำเรียนมานานหลายภพชาติแล้ว

    และไม่ว่าใครจะว่ายังไงก็ตาม โลกและมนุษย์โลกก็กำลังวิวัฒน์อยู่บนเส้นทางที่วางเอาไว้อยู่
    และพวกคุณก็มีเครื่องไม้เครื่องมือใหม่ๆอยู่อย่างมากมายแล้ว
    (หมายถึงความรู้และเทคนิคใหม่ๆที่รูปธรรมชีวิตจากต่างมิติทั้งหลาย
    ได้สอนเอาไว้ให้พวกเรามากมายแล้ว – ผู้แปล)
    ที่จะใช้เพื่อสร้างสรรค์โลกที่ดีกว่าขึ้นมาอย่างมีความรับผิดชอบ
    มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องรู้เรื่องนี้แล้วส่องแสงสว่างด้านบวกของตัวเองออกมา
    เพราะว่าแสงสว่างของพวกคุณจะทำให้โลกสว่างไสวขึ้นมาได้
    สว่างไสวเพราะแสงสว่างจากดวงใจของพวกคุณที่ละดวงๆ

    พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า
    เรื่องนี้มันจะมีจุดจบแบบ Happy Ending อย่างแน่นอน
    และพวกเราก็อยากจะขอรับประกันกับพวกคุณอีกครั้งหนึ่งว่า
    ด้วยความจริงแท้แน่นอน และก็แน่นอนอย่างที่สุดด้วย
    “ชีวิตเป็นของสิ่งศักดิ์สิทธิ์”
    และ “ทางเลือกเสรี” (free will) ก็เป็นวิถีทางอันสง่างาม
    ที่จะใช้เพื่อเจริญเติบโตไปสู่ความเป็นพระเจ้าในตัวเอง

    จงรู้ให้ถ่องแท้ว่า ตัวตนที่อยู่เหนือกาลเวลาของพวกคุณเอง
    หรือตัวตนที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าของพวกคุณเอง มีความรู้อย่างแจ่มแจ้งและชัดเจนว่า
    ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมจะมีเหตุผลในการเป็นอยู่หรือเป็นไปของมันเองทั้งสิ้น
    ใช่แล้ว..ทุกสิ่งทุกอย่างเลย!

    แล้วสักวันหนึ่งพวกคุณก็จะได้รู้ว่าประสบการณ์ชีวิตบนระนาบแห่งโลกใบนี้
    ได้มอบความสวยสดงดงามแบบสุดพิเศษให้กับพวกคุณมากเพียงใด

    เพราะว่าเมื่อบทเรียนหนึ่งผ่านไปแล้ว บทเรียนอื่นๆก็จะตามมา
    และตัวกรองก็จะหลุดลอกออกไป แล้วพวกคุณก็จะได้พบกับความรัก
    ซึ่งเป็นความรักและความใส่ใจอย่างทะนุถนอมแบบไร้เงื่อนไข
    ในทุกๆก้าวย่างของการเดินทางบนเส้นทางที่พิเศษสุดสายนี้

    แล้วพวกคุณก็จะคิดถึงความสวยสดงดงามของพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า
    และคิดถึงความสมมาตรกันของใบไม้บนต้นไม้,
    คิดถึงสีสันสดใสของฤดูใบไม้ผลิ และคิดถึงเสียงหัวเราะของเด็กๆ

    ความรักคือสิ่งที่จะคงอยู่ตลอดไป เพราะว่าในมิติที่สูงๆกว่าทั้งหลาย
    ซึ่งปราศจากความเป็นขั้วนั้น มีเพียงความรักเท่านั้นที่ดำรงอยู่จริง

    จงเพลิดเพลินกับทุกๆชั่วขณะของชีวิตพวกคุณ
    จงทะนุถนอมทุกๆประสบการณ์ของตัวเองเอาไว้
    เพราะว่าพวกคุณได้รับมันมามากมายเกินกว่าที่พวกคุณจะรู้ตัวซะอีก
    และเมื่อใดที่พวกคุณตายจากโลกนี้ไปแล้ว ซึ่งวันหนึ่งวันนั้นก็จะต้องมาถึง
    พวกคุณก็จะได้รู้ว่าโลกใบนี้ได้มอบประสบการณ์ชีวิตที่สวยสดงดงามให้กับพวกคุณมากเพียงใด
    และพวกคุณก็จะได้รู้อย่างฉับพลันทันทีว่า
    ทุกสิ่งทุกอย่างมันย่อมจะมีเหตุผลในการเป็นอยู่หรือเป็นไปของมันเองทั้งสิ้น

    มนุษย์โลกที่รักทั้งหลาย พวกเราให้เกียรติพวกคุณ
    และพวกเราก็อยากจะบอกพวกคุณว่า นี่คือวิถีแห่งความเป็นไปของมัน
    ซึ่งเป็นเช่นนี้มาโดยตลอด ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน
    คือบนเส้นทางกลับบ้านนั้น พวกคุณจะต้องค่อยๆก้าวเดินทีละก้าวๆ และก้าวเล็กๆก็พอ
    ซึ่งตอนนี้พวกคุณก็ได้เดินมาจนใกล้จะถึงบ้านกว่าที่พวกคุณรู้ตัวแล้ว
    และพวกเราซึ่งอยู่ในดินแดนแห่งทวยเทพทั้งหลายก็กำลังรอคอยพวกคุณอยู่ด้วยความรัก
    และพวกเราก็ได้เปิดไฟทิ้งเอาไว้ตลอดทาง เพื่อช่วยให้พวกคุณมองเห็นทางกลับมา
    (โอ..พระเจ้า! พอแปลมาถึงตรงนี้น้ำตาร่วงเลย – ผู้แปล)

    ท่านคุรุทั้งหลาย พวกเราให้เกียรติพวกคุณ และพวกเราขออวยพรให้พวกคุณมีความสุข
    และพวกเราก็อยู่กับพวกคุณเสมอ ในทุกๆก้าวย่างที่พวกคุณเดิน
    ลองใช้เวลาสักครู่เพื่อรับรู้ถึงพลังงานของพวกเราดูสิ

    กาลเวลาแบบที่เป็นเส้นตรงนั้นช่างสั้นนัก
    เพราะฉะนั้นแล้ว จงฉกฉวยชั่วขณะนี้เอาไว้ และจงรู้สึกถึงความรักด้วย!
    จงรักซึ่งกันและกัน และจงรักตัวเองด้วย

    เราคือเมตาตรอน พร้อมด้วย Tyberonn แห่งหน่วยบริการคริสตัลลีน
    และพวกเราขอแบ่งปันความจริงนี้แก่พวกคุณ เพราะพวกคุณคือผู้อันเป็นที่รักของพวกเรา


    And so it is...And it is So.

    Archangel Metatron w/ Tyberonn of Crystalline Service
    ...........................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กรกฎาคม 2015
  4. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    เราควรทำสมาธิสัปดาห์ละกี่ครั้ง ครั้งละกี่นาที ถ้าหากเราเข้าสมาธิแล้วไม่ต้องออกมาจากสมาธิอีกเลย มันจะเป็นอย่างไร ท่านใดสนใจลองแวะไปอ่านดูครับ



    ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat & Sun - July 11-12, 2015 : "Wo, The Linear Human" , "Changing Normal"
     
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มีกระทู้ใหม่ให้อ่านอีกแล้วนะครับ
    เป็นกระทู้รวมการตอบคำถามจากครายออนครับ

    ที่นี่นะครับ:

    http://palungjit.org/posts/9712773
    ......................................................
     
  6. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ส่วนกระทู้นี้โพสต์ไว้นานแล้ว แต่ก็ใหม่เหมือนกัน
    แต่ลืมแจ้งให้ทราบหนะครับ

    เผื่อใครที่ยังไม่เห็น ก็..ตรงนี้นะครับ

    http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-องค์ประกอบ-3-ส่วนของสมองมนุษย์-triad.552374/
    ...................................
     
  7. กะเหรี่ยง

    กะเหรี่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +111
    ขอบคุณคุณชยุตที่อุตส่าห์แปลมาให้อ่าน..เป็นบุญ
     
  8. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    เกิดมาชาติหน้า ไม่ต้องมาเรียนรู้จาก 0 แหมือนชาตินี้ เรียนรู้ต่อจากชาตินี้ไปเลย
    คอมพิวเตอร์ในอีก 50 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เวชกรรมและการรักษาโรคจะไปในหนทางไหน เรื่องสงครามจะเป็นอย่างไร
    ความเชื่อมีพลังอำนาจขนาดไหน พัฒนามันได้อย่างไร


    ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat & Sun - July 18-19, 2015 : "The Biggest Filter" , "The Power of Belief"
     
  9. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    **นวัตกรรมใหม่ในการยืดความยาวเทโลเมียร์
    (New Innovation in Telomere Extension)**


    [​IMG]
    (credit the picture from internet)
    …………………………………………………….............
    ที่มา:New Innovation in Telomere Extension - Global Healing Center

    ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธุ์ 2015, Update ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2015

    “เทโลเมียร์” (Telomere) คือฝาครอบที่อยู่ตรงปลายทั้ง 2 ข้างของเกลียว DNA ของมนุษย์
    ที่รู้จักกันในนามของโครโมโซม ซึ่งเทโลเมียร์นี้จะทำหน้าที่ปกป้องรหัส DNA ในสายพันธุกรรมเอาไว้

    แต่เมื่อมนุษย์มีอายุมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าเทโลเมียร์นี้ก็จะเริ่มลดขนาดความยาวลงเรื่อยๆด้วย
    ทำให้เซลต่างๆในร่างกายของมนุษย์แก่ตัวขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย
    และเมื่อใดที่ความยาวของมันหดสั้นลงจนถึงระดับหนึ่งแล้ว
    เซลๆนั้นก็จะไม่สามารถแบ่งเซลได้อีกต่อไป และมันก็จะตาย
    ซึ่งกระบวนการนี้จะโยงใยไปถึงการเจ็บไข้ได้ป่วย, การแก่ และการตายของมนุษย์ด้วย

    ดังนั้น สารต้านอนุมูลอิสระทั้งหลาย (antioxidants)
    จึงมักจะถูกนำมาใช้เพื่อเสริมคุณค่าทางโภชนาการให้แก่ร่างกายมนุษย์
    เพราะว่าพวกมันสามารถช่วยปกป้องขนาดและการทำงานของเทโลเมียร์เอาได้
    ให้คงความเป็นปกติอยู่ต่อไป

    *มันจะเป็นไปได้จริงหรือ ที่จะสามารถเพิ่มขนาดความยาวของเทโลเมียร์ขึ้นได้?*

    มีผลงานวิจัยหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่าวิถีการดำรงชีวิตที่ดี และการลดความเครียดลง
    จะสามารถส่งผลกระทบต่อเทโลเมียร์ได้อย่างมากมาย คือทำให้เทโลเมีย์มีขนาดความยาวเพิ่มขึ้น,
    และมีความเป็นไปได้แม้กระทั่งว่าจะทำให้คนๆนั้นมีชีวิตยืนยาวมากขึ้นด้วย

    เมื่อเร็วๆนี้ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University School of Medicine)
    ได้ค้นพบวิธีการใหม่ในการเพิ่มขนาดความยาวของเทโลเมียร์ขึ้นอย่างรวดเร็ว
    ในห้องปฏิบัติการ (1)

    ทีมนักวิทยาศาสตร์พบว่าเซลที่ถูกนำมาทดลองด้วยวิธีการนี้ (โดยใช้เอ็นไซม์ tolemerase - ผู้แปล)
    จะแสดงพฤติกรรมออกมาราวกับว่าพวกมันมีอายุน้อยกว่าเซลที่ไม่ได้ถูกทดลองอย่างนั้นแหละ
    เพราะว่าขนาดความยาวของเทโลเมียร์ของพวกมันจะยาวมากขึ้น
    และสามารถแบ่งเซลได้เร็วกว่าเซลที่ไม่ได้ถูกทดลองถึง 40 เท่า
    และเพราะว่าเซลสามารถแบ่งเซลได้หลายครั้งมากขึ้นนี้เอง
    จึงทำให้นาฬิกาความแก่ของเซลที่ถูกทดลองหมุนกลับอย่างมีนัยสำคัญ

    แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าวิธีการนี้จะทำให้ความยาวของเทโลเมียร์เพิ่มขึ้นได้จริงๆในเบื้องต้นก็ตาม
    แต่ว่าผลกระทบนี้ก็จะเป็นผลกระทบเพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะว่าหลังจาก 48 ชั่วโมงไปแล้ว
    เทโลเมียร์ก็จะกลับคืนไปสู่สภาวะตามปกติของมันเหมือนเดิม คือจะหดสั้นลงทุกๆครั้งที่มีการแบ่งเซลนั่นเอง

    แต่ว่าผลกระทบแบบชั่วคราวของเทคนิกใหม่นี้นี่แหละ ที่เป็นกุญแจสำคัญ
    เพราะว่ามันมีศักยภาพที่จะนำไปสู่ความสำเร็จได้มากกว่า
    เพราะว่าถ้าเซลมีการแบ่งตัวแบบไม่มีที่สิ้นสุดแล้วหละก็ และถ้านำมาใช้ในมนุษย์แล้วหละก็
    ก็อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งได้

    ผลการค้นพบนี้นับว่าเป็นประโยชน์อย่างมากต่อมนุษยชาติ
    เพราะว่ามันได้ช่วยปูทางไปสู่การป้องกันและรักษาโรคที่มาพร้อมกับความแก่ทั้งหลายให้แก่เรา
    ทั้งนี้รวมถึงโรคอื่นๆที่สืบเนื่องมาจากการหดตัวสั้นลงของเทโลเมียร์ด้วย

    ดังนั้น ด้วยการรักษาโดยใช้วิธีการทำให้เทโลเมียร์มีขนาดยาวขึ้นนี้
    นักวิทยาศาสตร์ก็จะสามารถพัฒนาวิธีการรักษาเซลแบบเก่าให้ดีขึ้นได้
    และยังอาจเป็นไปได้ว่าจะสามารถรักษาโรคที่มาพร้อมกับการแก่ได้อีกด้วย
    เช่น โรคหัวใจ และเบาหวาน เป็นต้น และแม้แต่เซลกล้ามเนื้อที่เป็นเป้าหมายบางชนิด
    ในกรณีที่เป็นโรคกล้ามเนื้อเจริญผิดเพื้ยน (muscular dystrophy)
    ก็ยังอาจจะสามารถรักษาได้อีกด้วย

    นอกจากนี้วิธีการนี้ยังอาจจะช่วยเพิ่มจำนวนของเซลที่จะใช้เพื่องานศึกษาและวิจัยได้
    เช่นการทดลองยา และการทำแบบจำลองของโรค (disease modeling) เป็นต้น

    *วิธีการปกป้องเทโลเมียร์ของคุณให้ยาวอยู่เสมอ*

    ปัจจุบันนี้ นักวิจัยกำลังใช้วิธีการนี้ทดสอบกับเซลชนิดต่างๆอยู่
    ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ก็หวังว่าจะสามารถทำให้วิธีการนี้
    สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น

    แต่ว่าตัวคุณเองก็สามารถที่จะปกป้องเทโลเมียร์ของคุณไม่ให้หดสั้นลงก่อนวัยอันควร
    ได้ ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การกินอาหารที่มี antioxidants, การลดความเครียดลง,
    การออกกำลังกาย, การเพิ่มการผลิตวิตามิน D ของร่างกาย
    และการเพิ่มคุณภาพของการนอนหลับ เป็นต้น

    และงานวิจัยบางชิ้นก็ยังแสดงให้เห็นอีกว่า ผู้ที่ดื่มชาเป็นประจำ
    จะมีเทโลเมียร์ยาวกว่าผู้ที่ไม่ดื่มชา (2)

    แล้วอะไรหละคือวิธีการต้านความแก่ของคุณ?
    พวกเรามีความยินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของคุณใน comment ข้างล่างนี้!

    -Dr. Edward F. Group III, DC, NP, DACBN, DCBCN, DABFM-

    เอกสารอ้างอิง:


    1.Ramunas J, Yakubov E, Brady JJ, et al. Transient delivery of modified mRNA
    encoding TERT rapidly extends telomeres in human cells. FASEB J. 2015 Jan 22. pii: fj.14-259531.

    2.Sheng R, Gu ZL, Xie ML. Epigallocatechin gallate,
    the major component of polyphenols in green tea,
    inhibits telomere attrition mediated cariomyocyte apoptosis
    in cardiac hypertrophy. Int J Cardiol. 2013 Jan 20;162(3)
    :199-209. doi: 10.1016/j.ijcard.2011.07.083.

    …………………………………………………………..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    เครื่องรางของขลังกับคนไทย อยู่คู่กันมายาวนาน อ่านการสัมมนาของครายออนครั้งนี้แล้ว ความคิดเกี่ยวกับเครื่องรางของขลังของเราจะเปลี่ยนไปได้มากแค่ไหนกันนะ

    Synchronicity เข้าใจง่าย ปฏิบัติยาก




    ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat & Sun July 25-26, 2015 : "Energy Update" , "The Cosmic Cook"
     
  11. Issara

    Issara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    505
    ค่าพลัง:
    +433

    แบบตัวอักษรภาษาอังกฤษขึ้นเว็บแล้วครับ

    The Biggest Filter
    Kryon Channelling - Totowa New Jersey - June 2015


    น่าทึ่งจริง ๆ ต่อไปอาวุธทั้งหลายทั้งแหล่ทั้งประดิษฐ์คิดค้นมาประหัตถ์ประหารกัน มันจะไม่สามารถใช้ได้แล้ว อนาคตต่อไปช่างน่าตื่นตาตื่นใจนัก


    :cool:
     
  12. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
    การสัมนาครั้งนี้ ครายออนพูดถึงความรักของแม่ บังเอิญจริงๆ ที่มาตรงกับเทศกาลวันแม่ของประเทศเรา ความรักของแม่ในแบบของครายออนยิ่งใหญ่แค่ไหนกันนะ

    สุริยะจักรวาลของเรากำลังโคจรเข้าสู่พื้นที่ใหม่ในอวกาศ นี่คือที่มาของคำว่าพลังงานใหม่ พลังงานใหม่มีผลกระทบต่อดีเอ็นเอของมนุษย์อย่างไร เด็กเกิดใหม่แตกต่างจากคุณอย่างไร พวกเขาจะมีพัฒนาการอย่างไร พวกเขาคิดและรู้สึกอย่างไร คุณพ่อ คุณแม่ เวลาที่พวกเขาถามคำถามแปลกๆกับคุณ เล่าเรื่องแปลกๆกับคุณ คุณจะตอบพวกเขายังไง ตอบพวกเขายังไงที่จะปิดพรสวรรค์ของพวกเขาให้สนิท แล้วพาพวกเขากลับมาเป็นมนุษย์ในค่าเฉลี่ย ตอบพวกเขายังไงที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าได้รับการสนับสนุน ให้พวกเขากล้าปลดปล่อยพรสวรรค์ของพวกเขาออกมา

    โลกวิญญาณกำลังมองเราอย่างมีความสุข กำลังฉลองให้กับเรา แต่เรายังรู้สึกมึนๆอยู่เลย 555



    ถอดเทปการสื่อข้อความต่างมิติ จาก การสัมมนาของ KRYON: Sat & Sun - August 1-2, 2015 : "Effect of the New Energy on DNA" , "One Foot in Each Energy"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2015
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    คอมพิวเตอร์ในอนาคตอีก 50 ข้างหน้า

    [​IMG]
    (credit the picture from internet)
    .......................................................................

    "...แต่ฉันอยากจะบอกใบ้ให้พวกคุณรู้กันสักหน่อยว่า
    สิ่งที่จะเกิดขึ้นนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นไปตามโมเดลใดๆ
    ที่เขาเคยมีอยู่ในประวัติศาสตร์อันสั้นของเขาเลย

    เพราะว่านับจากนี้ไปอีก 50 ปี มันก็ยังจะมีคอมพิวเตอร์ใช้กันอยู่
    แต่ว่าระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหลาย
    จะแตกต่างไปจากที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้อย่างสิ้นเชิง
    และอย่างสมบูรณ์แบบ

    เพราะว่าแทนที่ “ชิปอิเล็กทรอนิกส์” (electronic chips)
    ของพวกมันจะเปลี่ยนไป
    พวกคุณก็จะเปลี่ยนให้มันเป็น “ชิปชีวิต” แทน (life chips)
    เพราะว่าในอนาคตข้างหน้านั้น
    ชิ้นส่วนต่างๆของคอมพิวเตอร์จะต้อง “มีชีวิต”
    ถึงจะสามารถทำงานได้

    ดังนั้น “ชีวคอมพิวเตอร์” (Bio-computor)
    จึงคือคลื่นลูกใหม่ของคอมพิวเตอร์ในอนาคต

    และเพราะฉะนั้นแล้ว ความหมายของคำว่า
    “การติดไวรัส” ของคอมพิวเตอร์ของพวกคุณ
    ก็จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง [ผู้ฟังหัวเราะ]
    มันกำลังจะเกิดขึ้น เพราะว่ามันจะต้องเป็นเช่นนั้น!

    มันจะมีการผนวกรวมกันขึ้นของวงจรไฟฟ้าและชีวิต
    จนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตทางชีวภาพ
    ที่สามารถแพร่พันธุ์หรือเกิดขึ้นทดแทนได้
    ซึ่งจะเจริญเติบโตอยู่บนแผ่นชิปแผ่นหนึ่ง
    และก็จะทำให้พลังอำนาจในการประมวลผลข้อมูล
    และหน่วยความจำของมันเพิ่มขึ้นอย่างมาก

    และก็จะทำให้สิ่งที่พวกคุณเรียกกันว่า
    “คอมพิวเตอร์” นั้นมีความแตกต่างไปจากเดิมอย่างมาก

    และสิ่งที่พวกคุณขอให้คอมพิวเตอร์ทำในทุกวันนี้
    จะถูกหัวเราะเยาะเมื่อเทียบกับสิ่งที่พวกคุณ
    จะขอให้มันทำในอีก 50 ปีถัดไป

    และในอนาคตข้างหน้าพวกคุณ
    ก็อาจจะตั้งชื่อให้กับคอมพิวเตอร์ด้วยซ้ำไป
    เหมือนอย่างที่พวกคุณตั้งชื่อให้กับสัตว์เลี้ยงในตอนนี้แหละ!

    นอกจากนี้พวกคุณก็ยังจะต้อง “ให้อาหาร” มันด้วย!
    แต่ว่าคอมพิวเตอร์ก็ยังจะมีอยู่ต่อไป

    พวกคุณไม่รู้ในสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้
    เพราะฉะนั้นแล้ว มันจึงเป็นธรรมชาติของมนุษย์
    ที่จะยึดถือในสิ่งที่ตัวเองรู้อยู่ในตอนนี้
    แล้วคาดเดาเอาเองถึงสิ่งที่คิดว่าน่าจะเกิดขึ้นในอนาคต..."

    Kryon
    ...............................................................
    ที่มา: บางส่วนของข้อความสื่อสารจากครายออน
    เรื่อง: ตัวกรองที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาตัวกรองทั้งหมด (The Biggest Filter of All)
    วันที่: 18 กรกฎาคม 2015
    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    ที่มา:http://spiritlibrary.com/…/channe…/the-biggest-filter-of-all
    ...............................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    โรคความจำเสื่อม หรือ โรคอัลไซเมอร์

    [​IMG]
    (credit the picture from www.oknation.net)

    "...โรคความจำเสื่อม หรือโรคอัลไซเมอร์ นับว่าเป็นโรคที่น่าเศร้าใจโรคหนึ่ง
    ซึ่งในตอนนี้มีชาวโลกจำนวนหลายล้านคนที่กำลังป่วยเป็นโรคนี้อยู่ ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา

    เพราะเมื่อพวกคุณมีอายุมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว มันก็จะมีวัตถุที่มีลักษณะคล้ายๆกับคราบหรือแผ่นบางๆแผ่นหนึ่ง
    ก่อตัวสะสมมากขึ้นเรื่อยๆตามไปด้วย ซึ่งเจ้าวัตถุที่ว่านี้มันสามารถที่จะไปทำให้ความทรงจำในสมองของพวกคุณ
    เกิดความยุ่งเหยิงหรือมืดบอดลงได้

    มันจะไปเกาะติดอยู่กับส่วนต่างๆของสมองของพวกคุณ และไปทำให้สมองส่วนนั้นของพวกคุณมีเปลือกหุ้ม
    และถูกจำกัดขอบเขตเอาไว้ จนเป็นสาเหตุให้ความสามารถในการจดจำของมนุษย์ผู้นั้น
    และตลอดจนกระบวนการประมวลผลข้อมูลทั้งกระบวนการ ถูกกักขังเอาไว้ในท้ายที่สุด

    และผลลัพธ์ของมันก็คือการตาย ซึ่งเป็นการตายอย่างช้าๆ
    มันมีสาเหตุมาจากสิ่งแวดล้อมของพวกคุณนั่นแหละ
    นี่คือข้อเท็จจริงที่จะถูกค้นพบในท้ายที่สุด
    จะสังเกตได้ว่าบรรพบุรุษของพวกคุณผู้ที่มีอายุยืนยาวไม่เคยมีใครมีปัญหานี้เลย

    แต่มันกำลังจะถูกเยียวยารักษาด้วย “วิธีการทางฟิสิกส์” เพราะว่าตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ของพวกคุณ
    เริ่มที่จะค้นพบแล้วว่าเจ้าสิ่งที่มีลักษณะคล้ายกับคราบหรือแผ่นบางๆที่ว่านั้น (plaque-like substance)
    มันสามารถที่จะถูกทำให้อ่อนแอลงได้ด้วยคลื่นความถี่ของ “เสียง” ค่าหนึ่ง

    ดังนั้น ด้วยการใช้ “คลื่นเสียงความถี่สูง” ที่ถูกปรับจูนให้มีค่าความถี่ที่ถูกต้องค่าหนึ่ง
    และมีค่าความสูงของคลื่น (amplitude) ที่ถูกต้องค่าหนึ่งแล้ว
    ก็จะสามารถทำให้เจ้าแผ่นบางๆแผ่นนั้นมันอ่อนแอลง แล้วค่อยๆสลายตัวไป แล้วก็หลุดออกมาได้ในที่สุด

    แต่ว่ามันก็ยังจะมีงานวิจัยอีกมากมายที่พวกคุณยังจะต้องทำกันอยู่ต่อไป
    แต่ว่ามันก็จะมีสักวันหนึ่งที่พวกคุณจะร้องอุทานออกมาด้วยความดีใจว่า “ฉันเจอมันแล้ว!”
    แล้วเมื่อนั้นพวกคุณก็จะได้ประจักษ์ว่าแค่ใช้วิธีการทางฟิสิกส์อย่างเดียว
    โดยไม่มีการใช้สารเคมีใดๆเลย ก็สามารถที่จะทำให้โครงสร้างภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ
    เกิดการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว มิหนำซ้ำมันยังจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆเลยทั้งสิ้นอีกด้วย

    ... มันกำลังจะมาถึงแล้ว มันกำลังจะมาถึงแล้ว!

    มีชาวโลกบางคนที่ตอนนี้กำลังทำการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับสเต็มเซลของสายสะดือสดอยู่
    พวกเขากำลังใช้วิธีการทางฟิสิกส์ล้วนๆเพื่อชี้นำให้สเต็มเซลเหล่านั้น
    เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในร่างกายที่เฉพาะเจาะจงบางจุดอยู่
    เพื่อที่จะไปซ่อมแซมระบบที่ล้มเหลวเหล่านั้น

    ที่รักทั้งหลาย อนาคตของเรื่องสุขภาพและการบำบัดรักษาของพวกคุณ
    ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีการทางเคมีที่ดีกว่าเดิมอีกต่อไปแล้ว
    แม้ว่าวงการแพทย์ของพวกคุณยังคงตั้งตารอคอยตัวยาที่ดีขึ้นกว่าเดิมอยู่ก็ตาม!

    พวกคุณสามารถเชื่อมต่อจุดเหล่านี้เข้าด้วยกันได้ไหม และพวกคุณรู้ไหมว่า
    ร่างกายเนื้อของพวกคุณมีฟิสิกส์เป็นรากฐานอยู่?
    เพราะว่าภายในเซลร่างกายของพวกคุณนั้น มันจะมีพลังงานแม่เหล็ก, กำลังงัด (leverage),
    พลังงานของจิตสำนึก/ความตระหนักรู้, กระแสไฟฟ้า และพลังงานรูปแบบอื่นๆอยู่มากมาย

    ดังนั้น เพียงแค่ใช้วิธีการทางฟิสิกส์เพียงอย่างเดียว
    พวกคุณก็สามารถที่จะ “จูนเข้าหา” โรคภัยไข้เจ็บนั้นๆได้ แล้วทำลายมันไปได้แล้ว!..."

    Kryon
    .............................................................................
    ที่มา: บางส่วนของข้อความสื่อสารจากครายออน
    เรื่อง: ตัวกรองที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาตัวกรองทั้งหมด (The Biggest Filter of All)
    วันที่: 18 กรกฎาคม 2015
    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    ที่มา:http://spiritlibrary.com/…/channe…/the-biggest-filter-of-all
    ..............................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2015
  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    สงคราม – ไม่มีใครมองเห็นสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น

    [​IMG]
    (credit the picture from internet)

    "...เรามาพูดถึงเรื่องสงครามกันบ้างดีกว่า เราจะมาพูดถึงอะไรบางอย่างที่มีน้อยคนนักที่จะนึกถึงมัน
    เพราะว่าสิ่งที่พวกคุณคาดหมายกันเอาไว้นั้นไม่ได้อยู่ในขอบข่ายของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงๆเลยแม้แต่น้อยและโดยสิ้นเชิง
    เพราะว่าพวกคุณมีความรู้เกี่ยวกับสงครามอยู่แค่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

    การสงครามของพวกคุณนับวันก็ยิ่งพัฒนาก้าวหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้สามารถทำให้เกิดการระเบิดที่ใหญ่โตมากขึ้น,
    มีประสิทธิภาพมากขึ้น และอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหลายก็สามารถยิงด้วยความเร็วที่สูงขึ้นด้วย
    ทั้งอาวุธนิวเคลียร์, เลเซอร์, เสียง ล้วนแต่มีศักยภาพเกินกว่าที่จะสามารถทำลายล้างชีวิตได้ด้วยกันทั้งสิ้น

    นั่นแหละคือวิถีทางที่การสงครามของพวกคุณวิวัฒน์ไปหละ
    แต่ว่าพวกคุณยังไม่เคยมีสิ่งที่เรียกว่า
    “เครื่องต้านสงคราม” (anti-war devices) กันจริงๆเลย ใช่ไหม๊?


    ฉันกำลังจะมอบบัตรเชิญให้กับพวกคุณ เพื่อให้พวกคุณไปเริ่มต้นค้นหามัน
    ซึ่งพวกคุณบางคนก็กำลังอยู่ในขั้นตอนการตั้งสมมุติฐานเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว

    สนามพลังงานหลากมิติสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงความเป็นไปในโลกแห่งความเป็นจริง 3 มิติได้
    โดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น ฉันเคยบอกพวกคุณไปแล้วว่าสิ่งที่ซุ่มซ่อนอยู่ในอนาคตของพวกคุณ
    ก็คือการค้นพบต่างๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อทุกๆแง่มุมของชีวิตของพวกคุณเอง
    ซึ่งการค้นพบที่ว่านี้ส่วนใหญ่แล้วก็จะหมายถึงการค้นพบเกี่ยวกับ
    “สิ่งที่จะทำให้ฟิสิกส์พื้นฐาน กระทำในสิ่งที่มันกำลังกระทำอยู่ในขณะนี้ ในระดับอะตอม”

    ดังนั้น ถ้าพวกคุณสามารถเข้าใจความเป็นหลากมิติได้อย่างถ่องแท้แล้วหละก็
    พวกคุณก็จะสามารถควบคุมสูตรของมวลได้ และก็จะสามารถสร้าง “วัตถุไร้มวล” (massless objects) ขึ้นมาได้
    และพวกคุณก็ยังสามารถที่จะทำมันได้ด้วยเครื่องไม้เครื่องมือที่พวกคุณมีอยู่ในขณะนี้ด้วยซ้ำไป!

    มันมีความเป็นไปได้ทางฟิสิกส์ที่จะสามารถสร้างสนามพลังงานบางชนิดขึ้นมาได้อยู่
    ฟังให้ดีๆนะ เจ้าสนามพลังงานบางชนิดที่ว่านี้มันเป็นสนามพลังงานหลากมิติ
    ที่จนกระทั่งบัดนี้พวกคุณยังไม่เคยพบเห็นพวกมันมาก่อนเลย
    และพวกมันก็ไม่มีอันตรายใดๆต่อร่างกายเนื้อของพวกคุณด้วย
    แต่ว่าพวกมันสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติบางอย่างในมิติที่ 3 ได้

    สนามพลังงานดังกล่าวนี้ คือสนามพลังงานที่ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี
    และเหตุผลที่พวกมันถูกออกแบบมาเป็นพิเศษและไม่เหมือนใครแบบนี้
    ก็เพื่อวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
    ซึ่งนั่นก็คือ..เมื่ออยู่ภายในสนามพลังงานชนิดนี้แล้ว
    ปฏิกิริยาการระเบิดแบบธรรมดาจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้!


    พวกคุณนึกออกไหมว่าถ้านำเอาสนามพลังงานดังกล่าวนี้ไปใส่ไว้ในห้องๆหนึ่งแล้ว
    ไม่ว่าจะยิงอาวุธชนิดไหนขึ้นมาก็ตาม ไม่ว่ามันจะเป็นปืนกลหรือปืนพกก็ตาม
    มันก็จะไม่ระเบิดเอาดื้อยังงั้นแหละ! แล้วถ้าเป็นการโจมตีบนเครื่องบินหละ
    เมื่อทิ้งระเบิดลงไปแล้วมันไม่ระเบิด มันจะเป็นยังไงน๊า? นี่ก็เป็นฟิสิกส์ล้วนๆอีกเช่นกัน

    การเปลี่ยนแปลงความเป็นไปตามธรรมชาติของมิติที่ 3 โดยการใช้สนามพลังงานหลากมิติ
    ที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษดังกล่าวนี้ ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กก็ตาม กำลังจะมาถึงในไม่ช้านี้

    ฉันรู้ว่าพวกคุณไม่เชื่อฉันหรอก แต่ว่าคอยดูไปก็แล้วกัน
    เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่พวกคุณเริ่มค้นพบฟิสิกส์หลากมิติกันแล้ว
    และมีความสามารถที่จะควบคุมมันได้แล้ว
    พวกคุณก็จะค้นพบว่ามันมี “กุศลเจตนา” อยู่ในฟิสิกส์ประเภทนี้อยู่
    คือ..พวกคุณจะไม่สามารถนำมันไปใช้เพื่อ “เป็นอาวุธ” ได้
    เหมือนอย่างที่พวกคุณเคยทำได้อย่างง่ายดายกับฟิสิกส์ 3 มิติของพวกคุณ
    เพราะว่ามันเป็นโลกแห่งความเป็นจริงที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง


    ฉันจะบอกพวกคุณอีกครั้งหนึ่งว่า เมื่อใดที่พวกคุณสามารถเข้าใจลึกลงไปจนถึงในระดับอะตอมได้ว่า
    “มวล” (mass) ถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไรแล้ว เมื่อนั้นพวกคุณก็จะสามารถเรียนรู้วิธีการสร้าง “วัตถุไร้มวล” ขึ้นมาได้
    แต่ว่าเจ้าสิ่งนี้มันยังมีอีกชื่อหนึ่งนะ เพราะว่าพวกคุณเรียกมันว่า “วัตถุต้านแรงดึงดูด” (anti-gravity)
    แต่ว่ามันไม่มีของแบบนั้นอยู่จริงๆหรอกนะ เพราะว่ามันเป็นแค่ความสามารถของพวกคุณ
    ที่ในที่สุดแล้วก็สามารถควบคุมสูตรที่ใช้สร้างแรงดึงดูดขึ้นมาให้กับมวลได้เท่านั้นเอง

    พวกคุณเข้าใจใช่ไหม๊ว่านี่เป็นแค่ฟิสิกส์ง่ายๆเท่านั้นเอง? และมันก็ง่ายมากๆที่จะควบคุมการนำไปใช้งานเพื่อกุศลเจตนา
    โดยอาศัยสนามพลังงานชนิดอื่นๆที่พวกคุณรู้จักกันดีอยู่แล้วด้วย
    และก็เหมือนกับการที่พวกคุณสามารถเรียนรู้ที่จะควบคุมฟิสิกส์ชนิดอื่นๆที่อยู่ในมิติที่ 3 ของพวกคุณนี้ได้นั่นแหละ
    เพราะว่าพวกคุณก็จะสามารถควบคุมฟิสิกส์หลากมิติได้เช่นเดียวกัน

    ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าบนดาวเคราะห์ดวงหนึ่งๆ ไม่ว่ามันจะมีอาวุธยุทโธปกรณ์อะไรอยู่ก็ตาม
    มันก็จะไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป! พวกคุณคิดว่ามันจะเป็นยังไง?
    ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าฟิสิกส์มีความสามารถในการสลายโมเลกุลของอาวุธชีวภาพได้มันจะเป็นยังไง?
    พวกคุณคิดว่ามันจะทำให้นโยบายทางการเมืองของโลกเปลี่ยนไปไหม๊?

    มันกำลังเกิดขึ้นแล้ว มันกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!

    เพราะว่าในวันนี้มันกำลังอยู่ในห้องทดลองอยู่ เพราะว่าพวกคุณกำลังเริ่มที่จะค้นหาฟิสิกส์หลากมิติกันแล้ว
    ดังนั้น การสามารถควบคุมสิ่งที่พวกคุณคิดว่าไม่สามารถควบคุมได้ ก็คือสิ่งที่พวกคุณกำลังทำกันอยู่หละ
    เรื่องนี้มันกำลังจะทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก!

    แต่ว่าพวกคุณคงไม่เชื่อเรื่องนี้หรอก เพราะว่า “ความรู้” ของพวกคุณเกี่ยวกับว่าสิ่งต่างๆมันเป็นไปอย่างไร
    จะไม่ยินยอมให้พวกคุณเชื่อเรื่องแบบนี้หรอก นี่แหละคือตัวกรองของพวกคุณหละ..."

    Kryon
    .............................................................................
    ที่มา: บางส่วนของข้อความสื่อสารจากครายออน
    เรื่อง: ตัวกรองที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาตัวกรองทั้งหมด (The Biggest Filter of All)
    วันที่: 18 กรกฎาคม 2015
    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    ที่มา:http://spiritlibrary.com/…/channe…/the-biggest-filter-of-all
    ..............................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2015
  16. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947
    อีกนานขนาดไหนนะ กว่าเครื่องต้านสงครามนี้จะเสร็จ ?
    มีข่าวระเบิดโรงงานเคมีที่จีนอีกแล้วววววว
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    มีข้อความใหม่ของครายออนฉบับเต็มให้อ่านอีกแล้วนะครับ
    ตามไปที่กระทู้นี้นะครับ

    http://palungjit.org/posts/9751197

    ........................................
     
  18. Mr empty

    Mr empty เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    478
    ค่าพลัง:
    +3,374
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ช่วงปีหลังๆมานี่ผมไม่ค่อยได้เข้ามาโพสต์
    ในเวปพลังจิตบ่อยครั้งเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว
    เพราะว่าไปเน้นในเฟสบุ้คมากกว่าหนะครับ

    ดังนั้น ถ้าท่านใดที่ยังสนใจติดตามอ่านข้อความจากต่างมิติอยู่
    ก็สามารถที่จะเข้าไปตามอ่านในเฟสบุ้คของผมได้นะครับ

    ที่ Chayutt Naowarat ครับ

    [​IMG]

    เพราะว่าในนั้นจะมีอะไรมากกว่า และ update กว่า
    และมีตัวตนของพวกเรามากกว่าหนะครับ

    ส่วนในนี้ผมรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ รู้สึกว่ามันอาจจะหมดยุคของมันเร็วๆนี้

    .................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2015
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    การฝังเข็มในยุคพลังงานใหม่

    [​IMG]
    (credit the picture from internet)

    "...นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่พวกคุณอาจจะไม่เข้าใจก็ได้
    นักบำบัดทั้งหลายเอ๋ย ในเมื่อพวกคุณจะต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการรักษาของตัวเองอยู่แล้ว
    ก็จงมองหาวิธีการแปลกๆเอาไว้ด้วยนะ!

    มันมีหลักฐานอะไรบางอย่างที่กำลังรอคอยให้พวกคุณไปค้นหามันอยู่
    ในงานบำบัดรักษาของพวกคุณ ที่พวกคุณคิดว่าตัวเองรู้จักมันดีแล้วนั่นแหละ
    แต่ว่าพวกคุณยังค้นไม่พบมันเลย เพราะฉะนั้นแล้ว ก็ขอให้พวกคุณมองหาเรื่องแปลกๆดู
    ซึ่งเดี๋ยวฉันจะยกตัวอย่างให้พวกคุณฟังซักเรื่องหนึ่งก็แล้วกัน

    ผู้เชี่ยวชาญในการฝังเข็มทั้งหลายจะฝังเข็มตามแนวเส้นลมปราณ
    หรือเส้นเมอริเดียนทั้ง 12 เส้นของร่างกาย และมันก็จะมีอยู่แค่ 12 เส้นเท่านั้น
    นั่นแหละคือภูมิความรู้ของศาสตร์โบราณที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย
    และยังสืบทอดกันมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะว่ามันเป็นเส้นทางการไหลเวียนของพลังงาน
    ภายในร่างกายมนุษย์ นั่นแหละคือกระบวนการที่พวกเขาจะยึดถือกันหละ

    แต่ว่าตอนนี้ฉันกำลังจะบอกพวกคุณว่า ในยุคพลังงานใหม่นี้
    อันที่จริงแล้วเส้นลมปราณหรือเส้นเมอริเดียนนี้ มันมีอยู่ทั้งหมดกี่เส้นกันแน่
    เริ่มต้นจากปีนี้ก่อนก็แล้วกันนะ ในปีนี้มันมีอยู่ทั้งหมด 24 เส้นด้วยกัน!


    “ครายออน คุณกำลังจะบอกว่าพวกเรากำลังจะมีเส้นลมปราณเพิ่มมากขึ้นยังงั้นเหรอ?
    มันไม่ใช่อะไรที่จะมีอยู่เท่าไหร่แล้วก็จะมีอยู่เท่านั้นหรอกหรือ?
    แล้วแบบนี้ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสุขภาพอนามัยของผู้คนจะเริ่มต้นรักษาผู้คนได้อย่างไร
    ถ้ากฎเกณฑ์ต่างๆของวิธีการทำงานของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาแบบนี้?

    ถ้าพวกคุณถามคำถามแบบนี้ ก็แสดงว่าพวกคุณเป็นคนที่ฉลาดมากๆคนหนึ่งเลยทีเดียวหละ!

    ใช่แล้ว.. มนุษย์โลกกำลังมีการเปลี่ยนแปลงไปอยู่
    และคำตอบของคำถามที่ว่า “อย่างไร” นั้นก็คือ
    “ผู้บำบัดรักษาต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย” นั่นเอง!

    มันหมายความว่าอยู่ๆมนุษย์โลกก็มีเส้นลมปราณเพิ่มมากขึ้นอย่างนั้นหรือ?
    ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวหรอก เพราะว่าจริงๆแล้วมันมีของมันอยู่แล้วตลอดเวลา
    เพียงแต่ว่าตอนนี้ ในยุคพลังงานใหม่ที่พวกคุณกำลังจะมีความสมดุลมากขึ้น
    และมีความตระหนักรู้แบบหลากมิตินี้ สิ่งที่เคยมีอยู่ตรงนั้นมาโดยตลอดแต่ไม่สามารถมองเห็นได้
    จะค่อยๆเริ่มแสดงตัวตนของมันออกมาชัดเจนมากขึ้นเท่านั้นเอง

    แล้วผลลัพธ์ของมันหละ?
    ก็คือประสิทธิภาพของการบำบัดรักษาที่ดีขึ้นกว่าเดิมหนะสิ!
    แต่ว่ามันก็จำเป็นจะต้องใช้ผู้บำบัดรักษา
    ที่มีความตระหนักรู้แบบหลากมิติด้วย

    ความเป็นหลากมิติ คือสิ่งที่แปลกประหลาดสำหรับมนุษย์โลกที่อยู่ในมิติที่ 3 แห่งนี้!
    ดังนั้น อย่าปล่อยให้คำถามแบบ 3 มิติจากสมองของพวกคุณ ที่พวกคุณอาจจะมีอยู่
    มาทำให้การค้นหาของพวกคุณหยุดชะงักลงได้

    ตัวอย่างของคำถามเหล่านี้ก็เช่น
    แล้วเส้นลมปราณอีก 12 เส้นที่เหลือมันอยู่ที่ไหนบ้าง? เป็นต้น
    และก็..อย่าไปมองหาพวกมันในสถานที่ทางกายภาพ
    บนร่างกายเนื้อของพวกคุณด้วย
    เพราะว่าพวกมันลอยอยู่เหนือเส้นลมปราณเดิมทั้ง 12 เส้นนั่นแหละ!

    แล้วพวกคุณก็อาจจะพูดว่า “ว่าไงนะ?..แล้วพวกเราจะฝังเข็มถูกได้ยังไง
    และพวกเราจะสามารถแทงเข็มเข้าไปในช่องเปิดได้ถูกต้องได้อย่างไร?”
    แต่ว่าตรงนั้นแหละคือความแปลกประหลาดของมันหละ

    แล้วถ้าอาศัย “เจตจำนง” ของผู้บำบัดเองหละ มันจะเป็นอย่างไร?
    คือในขณะที่พวกคุณฝังเข็มเข้าไปเข็มหนึ่ง
    ให้พวกคุณตั้งใจว่าให้มันกลายเป็น 2 เข็มแทน!


    แล้วมันจะได้ผลเหรอ? แน่นอนสิ!

    ขอแค่ให้พวกคุณเข้าใจเอาไว้ว่าและจดจำเอาไว้ว่า
    เส้นเมอริเดียนใหม่เหล่านี้พวกมันลอยอยู่เหนือเส้นเก่าอยู่ก็พอแล้ว
    เท่านี้ก็เท่ากับว่าพวกคุณทำถูกวิธีแล้ว
    เพราะว่าเส้นลมปราณใหม่ที่ลอยอยู่เหนือเส้นเก่าที่ว่านี้
    มันเป็นเส้นลมปราณหลากมิติ
    ที่เพิ่งจะค่อยๆเริ่มปรับจูนร่างกายเนื้อและกายอื่นๆของพวกคุณ
    ด้วยวิธีการแบบหลากมิติอยู่ แต่ว่าหน้าที่ของพวกมัน
    ก็ยังจะเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันกับหน้าที่ของเส้นลมปราณเดิมที่อยู่ในโลกทางกายภาพอยู่

    ถ้าพวกคุณสามารถเข้าใจได้เช่นนี้แล้ว
    พวกคุณก็จะประสบผลสำเร็จในงานบำบัดรักษามากกว่าคนอื่นๆทั้งหมด

    จงจำไว้ว่าการฝังเข็มเป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานศาสตร์หนึ่ง
    มันเกี่ยวข้องกับการไหลเวียนของพลังงานภายในร่างกาย
    ดังนั้น เมื่อพลังงานภายในร่างกายของดาวเคราะห์โลกกำลังยกระดับขึ้นไปเรื่อยๆอยู่
    และก็กำลังส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่างอยู่
    พวกคุณคิดว่าร่างกายเนื้อของมนุษย์จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย
    ในแง่ของพลังงานเลยอย่างนั้นหรือ?

    ดังนั้น เพียงแค่พวกคุณตระหนักรู้ถึงเรื่องนี้ได้เท่านั้น
    พวกคุณก็จะสามารถมีความรู้และมีศักยภาพในการบำบัดรักษาเพิ่มมากขึ้นได้แล้ว
    ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่พวกคุณฝังเข็มลงไปบนเส้นลมปราณเหล่านี้อีก
    ตามปกติอย่างที่เคยทำอยู่แล้ว ก็ให้พวกคุณใส่ความตั้งใจลงไปด้วยว่า
    ให้มันกลายเป็น 2 เข็มแทน

    เอาหละคราวนี้ พวกคุณคงจะเข้าใจแล้วใช่ไหมว่า
    ทำไมสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้บำบัดรักษาเองจึงมีความสำคัญมาก?
    เพราะว่าผู้บำบัดที่เอาแต่ทำตามกระบวนการรักษาเพียงอย่างเดียว
    จะไม่สามารถไปไกลเกินกว่าขอบเขตของมิติที่ 3 ของมันได้เลย

    อนึ่ง วิธีการบำบัดรักษาทั้งหมดทั้งปวงนี้มีไว้เพื่ออะไร? เพื่อการบำบัดรักษาใช่ไหม๊?
    คำตอบก็คือไม่ใช่เลย! เพราะว่ามันมีไว้ “เพื่อการทำให้เกิดความสมดุลขึ้นมา” ต่างหากหละ

    การฝังเข็มคือระบบที่ทำให้เกิดความสมดุลขึ้นมา
    เพราะว่าการบำบัดรักษาทางพลังงาน (Energy healing)
    คือระบบแห่งความสมดุลอย่างหนึ่ง
    ดังนั้น ผู้บำบัดรักษาจึงไม่ได้รักษาให้ผู้ป่วยหายป่วยจริงๆเลย
    แต่เป็นการทำให้ระบบร่างกายของผู้ป่วยกลับเข้าสู่สมดุลเท่านั้นเอง
    (แล้วร่างกายของผู้ป่วยก็จะเยียวยารักษาตัวมันเอง – ผู้แปล)

    เพราะว่าปฏิกิริยาตอบสนองของผู้ป่วยที่มีต่อความสมดุล
    ที่ถูกนำกลับมาโดยผู้บำบัดรักษาที่มีความสมดุลในตัวเอง
    คือสิ่งที่ทำให้เกิดการบำบัดรักษาของร่างกายมนุษย์อย่างแท้จริง..."

    Kryon
    ................................................................................
    ที่มา: บางส่วนของข้อความสื่อสารจากครายออน
    เรื่อง: สุขภาพและการบำบัดรักษา – จงเลือกที่จะเต้นรำ (Health and Healing - "Choosing to Dance")

    ผู้รับสาส์น: นาย Lee Carroll
    วันที่รับสาส์น: วันที่ 5 ธันวาคม 2004

    ที่มา:
    KRYON -Health and Healing 04
    .................................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...