เทคนิคและประสพการณ์การเอาตัวรอดในต่างแดนยุคเก่า..ของคนรุ่นก่อน..

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย modpong, 29 เมษายน 2015.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .........................
    ....ทั้งไอ้ซิงก์..และ..ไอ้โก้..ยิ้มชอบใจ..ยกหัวแม่โป้งให้ผม...รีบเขย่าตัวไอ้โด้..แล้วคาดคั้น
    ให้มันเล่นด้วย..ซึ่งทีแรก..ไอ้โด้หัวเราะพร้อมกับ..ยกมือบายบายปฏิเสธ...แต่อย่างว่าครับ..
    สาม..รุม..หนึ่ง..ซักพัก..มันก็ยอมแพ้..ผมก็เริ่มรายละเอียด...ความจริงทั้งสามคน..นี่เรื่องไป
    เดินเที่ยวกลางคืนนี่..พวกมันยอมให้ผมเป็นหัวหน้าโดยตลอด..อยู่แล้ว..ผมฝึกมันให้ทุกครั้ง
    ..มีระเบียบปฏิบัติประจำ..และรูปแบบ..ชัดเจน..และทุกครั้งผมจะเช็คเสมอว่า..มันทำตาม
    ที่ผมบอกรึเปล่า..ถ้าไม่ทำมันก็จะโดนผมด่า..และ..ต้องทำตาม..ไม่งั้นไม่ให้ไปด้วย..
    ....รูปแบบก็คือ...
    .........๑. เมื่อถึงโรงแรมที่พัก..อย่างแรก..ขอ..นามบัตรของโรงแรม..พร้อม..กับแผนที่ของ
    เมืองนั้นๆ..โดยให้พนักงานโรงแรม..วงตำแหน่ง..ของโรงแรมในแผนที่..ก่อนที่จะเดินขึ้น
    ห้อง..ทุกครั้ง.....(..ที่พักทุกแห่งในญี่ปุ่น..จะมี..เช่นนี้เตรียมไว้พร้อม..)
    .........๒. ไม่ว่า..เราจะมีงานเลี้ยงต้อนรับ..ในคืนนั้นๆเลย..หรือ..ไม่ก็ตาม..ต้องพกนามบัตร
    ..และแผนที่ๆที่ขอมาทุกครั้ง...เพราะถ้ามีงานเลี้ยง..เมื่อเสร็จเราก็จะไม่กลับโรงแรมก่อน
    แบบคนอื่น..เพราะเสียเวลา..พวกเราจะไปเดินเที่ยวต่อกันเลย..และเช่นกัน..เราก็จะให้พนักงาน
    ของที่ๆจัดเลี้ยงนั้น..ช่วยวงตำแหน่งที่อยู่ตอนนั้น..ไว้ในแผนที่ด้วย....
    ..........๓. ต้องนำปากกาติดตัวไปด้วยทุกครั้ง...เพราะตัวเองจะได้วงจุดน่าสนใจของตัวเอง..
    ..และเขียนรายละเอียดลงไปได้...แต่ที่สำคัญกว่านั้น..ส่วนนี้ผมจะทำเอง..เพราะไอ้พวกเวรนี่
    มันขี้เกียจ..ทำตามอย่างที่ผมจะทำ..เพราะมันบอกว่ามึงทำแล้ว..กูต้องทำทำไม..เพราะกูยังไง
    ก็เดินตามตูดมึงอยู่แล้ว...(ไอ้เวร..เอ๊ย)....ผมนะมีความตั้งใจอยากฝึกให้มันเป็นนักเดินทางที่ดี
    รอบคอบ..แต่พวกมันไม่ชอบ..ชอบตามมากกว่า.............
    ..............สิ่งที่ว่านั้น..จำเป็นครับ..สำหรับเมืองใหญ่..ที่มีตึกมาก..มีซอกชอยมาก....อย่าง..
    โอซาก้า..นาโงย่า..ฮิโรชิม่า..เป็นต้น...นั่นคือ..การลากเส้นทางไว้ก่อน..จากจุดที่เราอยู่..
    ไปหา..โรงแรม..เพราะกรณีแผนที่เล็ก..หรือตึกซอกซอยมากแบบนั้น..การเดินไปดูแผนที่ไป
    โดยเฉพาะกลางคืน..อาจเบลอ..หรือ..สับสนได้....แล้วอาจจะทำให้หาตำแหน่งในแผนที่
    ของเราขณะนั้นไม่เจอได้..ยิ่งถ้าบริเวณดังกล่าวไม่มีอะไรเป็นจุดเด่น..และ..ไม่มีการระบุ
    อยู่ในแผนที่....และ..การเลือกเส้นทางนั้นมันขึ้นอยู่กับตัวเรา..และ..การวางแผน..อย่าง
    จุดน่าสนใจที่ควรไป(เดี๋ยวผมจะบอกว่า..หาได้ยังไง..)..เราก็ลากเส้นไปหาจุดนั้นเลย..
    ถ้ามีสองแห่ง..ก็ลากต่อไปแหล่งที่ ๒ ..ถ้าเวลาเราไม่ค่อยมี..คิดว่าแค่ ๒ แห่งพอ..ก็ลาก
    เส้นกลับ..โรงแรมที่พักเสียด้วย..ทำซะก่อนที่จะท่องราตรี..แค่นี้..ผมก็ไม่หลง..และ..ผม
    ไม่เคยหลงทางเลย..แม้แต่ครั้งเดียวในญี่ปุ่น..ไม่ว่าจุดที่ผมไป..มันจะอยู่ซอกหลืบอะไร
    ....................................
    .......มีอีกหัวข้อ..ที่ผมไม่ได้ให้พวกมันทำ..แต่ผมทำเองทุกครั้ง..ก็คือ..จุดน่าสนใจ..ในการเดิน
    เที่ยวดูยามค่ำคืน..ว่ามีจุดไหนบ้าง..เช่นแหล่งกิน..แหล่งช๊อปปิง..หรือ..แหล่งบันเทิง
    ..แสงสี...มีตรงไหน..ก็ให้วงในแผนที่ไว้ให้หมด..แล้วผมจะจดตามคำบอกว่า..ตรงนีชื่อ
    อะไร..มีอะไรบ้าง...เพราะไม่ต้องไปเสียเวลาเดินหา..หรือ..ถามไถ่..เราถามซะตรงนี้..เพราะ
    เขาพูดภาษาอังกฤษได้..เรามีเวลาน้อย..อาจพักแค่คืนเดียว..หรือ..สองคืน..เราจะได้เลือก
    ตัดสินใจเอาเอง..ว่าเราต้องการอยากไปที่ไหน...พนักงานโรงแรมเป็นคนพื้นถิ่น..อยู่ที่นั่น
    ..และต้องทำหน้าที่แนะนำให้ลูกค้าอยู่แล้ว..นี่เรียกว่า..การใช้ประโยชน์สูงสุด..ในการพัก
    ที่โรงแรม..แต่ละแห่ง....
    ............การทำแบบนี้..จะทำให้เราไม่มีทางหลง..แม้จะเป็นการมาครั้งแรกของเรา..ไม่ว่า
    ที่ไหน..ผมให้พวกผมทั้งสามคน..ทำแบบนี้ทุกคน..ไม่ใช่ให้ผมทำคนเดียว..เพราะจะได้ฝึก
    ความเคยชิน...เรียกว่า สองสามเดือนท้ายพวกนี้..จะทำกันเองเป็นอัตโนมัติ..ผมไม่ต้อง
    คอยบอกอีก......
    ..........ผมว่า..ท่านผู้อ่านอาจนำวิธีการของผมไปใช้..ได้นะครับ..และจะได้กำจัดความกลัว
    หลงทาง..ได้ด้วย..แถมคุณไม่ต้องหาไก๊ด์ให้นำทางไปให้..ไปเที่ยวได้เอง..ถ้าไปเป็นกลุ่ม
    และ..คุณต้องถูกมอบหมาย..ให้เป็นผู้นำ..ยิ่งสำคัญ.............
    ......จำไว้เลยครับ..ไม่ว่าที่ไหน..เมืองไหน..ประเทศไหน...กลางคืน..มันมีเสน่ห์ไม่เหมือน
    กลางวัน..ในทุกๆที่..บางที่กลางวันไม่มีอะไร..แต่กลางคืน..โอ้โห...สุดยอด...
    ....ดังนั้น..คนที่ไปเที่ยวเมืองนอก..ไปที่ไหน..แล้วพอกลางคืน..กลับจากกินข้าวแล้ว...
    กลับโรงแรม..ดูทีวี..แล้วเข้านอน..นั้น..เรียกว่า...เสียของจริงๆ......
    ...................
     
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    <iframe width="420" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/R1YuvBG0s4k" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

    ...มีเพลงมาฝากจ้า...
     
  3. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...................................
    ......ขอบคุณครับ..หลานสร้อยฟ้า.....
    ...ดูท่าแล้ว..คงไม่ใช่รุ่นไม่กี่ปีนี้..เป็นแน่..
     
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    ประมาณ ๒๐ กว่าปีอ่ะจ่ะ คุณลุง...
     
  5. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...................
    .....แต่ยุคนี้วิธีการของผมคงไม่ค่อยจำเป็นเพราะมีตัวช่วยเยอะ..จะใช้ได้ก็คือ..ไปประเทศที่
    ไม่ค่อยๆเจริญทางเทคโนโลยี..และ..ประชาชนอยู่กันหนาแน่น..นั่นคงพอได้ครับ...
    .........................
    .........อย่าลืมนะครับ..ยุคนั้นไม่มีมือถือ..ดังนั้น..เราจะติดต่อกันไม่ได้ระหว่าง..ผม..กับ..ไอ้โด้
    ...เพราะ..ต้องแยกกัน..ตามแผน..แต่ผมฝึกมันไว้แล้ว..ทางเทคนิคอย่างที่ผมบอกไป..และ..
    อุปกรณ์..ของตัวเอง..ก็มีดังนั้น..มันถึงยอมทำตาม..ถ้าเกิดไม่เป็นไปตามแผน..สาวไม่พาไป
    ส่งที่โรงแรม..มันก็สามารถกลับเองได้...
    ......โดยผมวางแผนให้..ตำแหน่งที่..ไอ้โด้..จะไปดักสาว..ต้องไม่อยู่ไกลโรงแรมมากเท่าไหร่
    ..คือไม่ให้ถึงขนาด..ถ้าสาวอยากจะพากลับ..แต่ระยะเดินมันไกลไป..คุณเธออาจเปลี่ยนใจ..
    ..หรือ..ต้องขนาดขึ้น แท๊กซี่ไปส่ง..อันนี้เกินไป..ไม่เอา...
    ..........ผมก็เลือกตำแหน่งที่มีคนเดินเยอะๆ....หน่อย..แล้วให้ไอ้โด้..ไปยืนอยู่ตำแหน่งที่เด่น..
    (..ผมลองแบบนี้หลายครั้ง..แต่เลือกโดย..ตำแหน่งยืนของไอ้โด้..ต้องเป็นตำแหน่ง..ที่ไม่
    สามารถมองเห็น..โรงแรมด้วยตา..ได้..เช่นยอดตึกโรงแรม..หรือ..ป้ายชื่อโรงแรม..ไม่งั้น..
    ไม่เนียน..เดี๋ยวเขาแค่ชี้ให้..ก็หมดท่า..ไม่หนุก..)...ผม.บอกกับไอ้โด้ว่า..มึงอย่าเผลอเอา..
    แผนที่โผล่มาให้เขาเห็นพับเก็บไว้ให้ดี..เอาแค่..นามบัตรโรงแรม..ให้เขาดูอย่างเดียว....
    ....มึงก็พูดภาษาอังกฤษ..ประกอบท่าทาง..เล่นละครไป..ให้เขารู้ว่ามึงหลงทาง..มึงจะกลับ
    ไปที่โรงแรมนี้..ให้เขาเดินพามึง...ไปให้ถึงโรงแรม..ให้ได้..ตีหน้ายิ้มเศร้าๆ..
    .......พอมันฟังรายละเอียด..มันชักไม่ดี..เริ่มถอดใจ..มันบอกยากไป..ผมกับไอ้๒ ตัวต้อง
    คอยปลอบ..และ..ยุส่งให้มันเชื่อมั่นในตัวเอง..มันถึงยอม....ผมบอกมันว่า..เลือกแบบที่มา
    เดี่ยว..หรือ..เป็นกลุ่มก็ได้..แต่อย่าเลือกเด็ก..เอาอย่างน้อยก็พวกเรียนมหาลัย......
    ......ผมบอกมันว่า...กูกับไอ้๒ตัวนี่..จะสุ่มคอยดูมึงห่างๆ....ผมบอกว่า..พอพวกกูเดินไป
    แล้ว..ซักพัก..และ..มึงมองไม่เห็นพวกกูแล้ว..ค่อยดำเนินการ...มันก็ทำหน้าฝืดๆ..แล้วก็
    โอเค........
    .........มันเป็น..ความสนุกและท้าทาย..ของพวกผม..ที่แอบมองมัน..แล้วก็ลุ้นว่าจะโอเค
    รึเปล่า....แป็บเดียวครับ..ผู้หญิงสาว..เป็นแบบสาวทำงานเดินมาคนเดียว..มองมันตั้งแต่
    ระยะไกลพอควร..เรียกว่า..สนใจว่างั้นเหอะ..ไอ้โด้มันก็สังเกตแล้ว...มันก็เดินเข้าไปหา..
    แล้วก็เริ่ม..ผมได้ยินเสียงแผ่วๆไม่รู้ว่ามันพูดอะไร..พูดไปก็ยกไม้ยกมือประกอบด้วย..แต่
    เห็นท่าทางผู้หญิง..ตั้งแต่..ไอ้โด้มันเริ่มเดินเข้าไปหาแล้ว..อมยิ้มเลย..และ..มีการโบกมือ
    ..ซึ่งผมเข้าใจอยู่แล้วว่า..คือ..การบอกว่าพูดภาษาอังกฤษ..ไม่ได้นั่นแหละ..แต่ตาเธอวาว
    และยิ้มตลอดเวลา..(เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน..เรียกว่า..การยิ้มของผู้หญิงญี่ปุ่น..นั้น..แทบ
    จะไม่เห็นฟันหรอกครับ..ถ้ายิ้มเปิดเผยได้..ก็จะเป็นแต่..ดารา..นักร้องดังๆ..และ..ลูกคนรวย
    ...เก้าสิบกว่าเปอร์เซนต์..ฟันมีปัญหาทุกคน..คือมีทั้ง..เก..และ..เหยิน..ห่าง....เนื่องจาก
    ค่าทำฟัน..ที่โน่นแพงมาก..ถ้าไม่รวยจริงๆ..ก็ไม่มีทางจัดฟัน..ตั้งแต่เด็กได้..และ..การจัดฟัน
    ในผู้ใหญ่..นั้น..ไม่มีใครกล้าทำกัน..แบบสมัยนี้..แถมเท่าที่ทราบ..ชาตืพันธุ์ญี่ปุ่นนั้น..เป็น
    ชาติที่มีปัญหาเรื่องฟัน..มากกว่าชาติพันธุ์อื่น...
    ...............ดังนั้น..คุณเธอทั้งหลาย..จะยิ้มแบบไม่เห็นฟัน..และยิ่งถ้าหัวเราะ..ก็เอามือปิดปาก
    หุ้มมิดเลย..ไม่ใช่แบบเด็กสาวๆไทย...)...แล้วไอ้โด้ก็เอานามบัตร..โรงแรมให้เธอดู..เธอก็ตั้งใจ
    ดู..อย่างดี..ระหว่างนั้น..มีกลุ่มสาวๆ..สามสี่คน..เดินมาเห็นไอ้โด้..ก็มองแล้วก็หัวเราะกันคิกคัก
    ....ทำให้ผมมั่นใจ..ได้เลยว่าครั้งหน้าก็ต้องประสพความสำเร็จอีกแน่นอน..พักเดียว..สาวน้อย
    ก็เริ่มเดินนำ..ไอ้โด้ไป..พวกเราพอเห็นมันลับสายตาแล้ว..ก็ออกมาจากที่ซุ่ม..ยกหัวแม่มือให้กัน
    ..หัวเราะกัน..งอ..หาย..ยิ่งไอ้ซิงก์นี่เครื่องติด..แล้ว..หยุดยาก..มันบอกไม่เคยได้ลุ้นสนุกๆแบบ
    นี้มานานมากแล้ว....
    .........พวกเราไม่ตาม..หรอกครับ..ปล่อยมัน..และผมก็เชื่อไอ้โด้อยู่แล้ว..ว่าจะไม่มีรายการแบบ
    ไอ้ละตินคนอื่น..ถึงจะมีโอกาศ..ก็ตาม..ก็คงแค่..ขอบคุณแค่นั้น..เพราะผู้หญิงพูดอังกฤษ
    ไม่ได้..แล้ว..ไอ้โด้ก็..ภาษาญี่ปุ่น..รู้น้อยมาก...มันอาจจะซื้อกาแฟแถวนั้นใส่ถ้วย..แบบ
    กลับบ้าน..ให้คุณเธอเป็นการขอบคุณ..และคงไม่ได้นั่งกิน..ถึงผู้หญิงอยากนั่งกิน..ก็ไม่รู้จะ
    คุยอะไร.......
    ..................................
     
  6. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................................
    ...........ผมกับพรรคพวกทั้ง๒ คน..ก็ไปเดินดูโน่นนี่ระหว่างทางไปเรื่อยๆ..ทิ้งระยะเวลา
    พอสมควร..เมื่อไปถึง..หน้าโรงแรม..ก็เห็นไอ้โด้นั้งอยู่ที่ม้านั่ง..หน้าโรงแรมเรียบร้อย..
    ..คนเดียว..ยิ้มเผล่อยู่..มันรีบพูดกับพวกเราก่อนที่เราจะถามมันด้วยซ้ำ..ว่า..พวกมึงนี่..
    สร้างความลำบากใจให้กูมากเลย..ที่ต้องมาเล่นละคร..ไอ้โก้คันปากยุบยิบ..รีบยิงคำถาม
    ก่อนเลย..แล้วมันเป็นยังไงมั่งวะ...ไอ้โด้มันก็เริ่มเล่า..ว่ามันก็ทำตามแผนนั่นแหละ..ไอ้
    ซิงก์..รีบแทรกถามก่อน..เฮ้ยแล้วเธอหน้าตาเป็นยังไง..พวกกูแอบมองอยู่ห่าง..เห็นน่าจะ
    เข้าท่า..รูปร่างก็ใช้ได้แต่งตัวทันสมัย...มันก็บอกว่า..สวยเลย..น่ารัก..หุ่นดี(..ของญี่ปุ่น)..
    ..แต่เธอพูด..อังกฤษ..ไม่ได้เลย..กูนะโคตรเมื่อยมือ..กว่าจะบอกความประสงค์..ได้..เธอ
    ก็ไม่มีอิดเอื้อนเลย..ยิ้มตลอดเวลา..( ก็มึงมันหล่อ..ก็แหงๆอยู่แล้ว)..ไอ้โก้รีบแซว..เฮ้ย
    มีเดินจับมือด้วยรึเปล่า..ไอ้โด้หัวเราะรีบโบกมือบอก..โนๆๆๆ...มันก็บอกว่าระหว่างทาง..
    ..เธอก็พยายามคุย..โดยชี้ที่โน่น...ชี้ที่นี่..แล้วก็พูดญี่ปุ่นอธิบายไปเรื่อย..แต่กูฟังไม่ออก
    หรอก...พูดจบประโยคก็หันมามองยิ้มให้กู..กูก็..”ไฮ้”..ทั้งๆที่ฟังไม่รู้เรื่องยิ้มตอบไป....
    ....แต่กูก็ว่าดีนะ..เปลี่ยนบรรยากาศ...พอเดินมาเห็นตัวตึกโรงแรม..ก่อนจะถึง..มีร้านกาแฟ
    ..เธอก็เดินนำ..เข้าไป..ก็ซื้อกาแฟใส่ถ้วยกลับบ้าน..เผื่อกูด้วย..แต่คราวนี้กู..ต้องยื้อหน่อย..
    ..ตอนเธอทำท่าจะควักเงินจ่ายค่ากาแฟ..กูเลยต้องเอามือไปแตะมือเธอ..เล่นเอาเธอตกใจ..
    ...แต่ยังยิ้ม..กูเอานิ้วชี้ที่ตัวกูเอง..พร้อมกับให้เงิน..พนักงานเลยเพราะ..กูควักมาก่อนหน้าอยู่
    แล้ว..เธอก็เลยหยุดแล้วยิ้มโค้งขอบคุณ..พอออกจากร้าน..ก็เดินไปถึงหน้าโรงแรม..กูก็ขอบ
    คุณ..ภาษาญี่ปุ่น..อย่างเต็มยศ..แล้วก็ขอจับมือเช็คแฮนด์..เธอก็ดูเศร้าๆทันที..โบกมือ..บ้าย
    บาย..เดินไป..แล้วก็กลับมาโบกมือบ๊ายบาย ๒ รอบ....
    ......พอฟังจบ..พวกเราก็ตบมือกันใหญ่...ผมก็เลยบอกนี่มันคือ..จุกเริ่มต้น..เพราะแค่ครั้งเดียว
    มันยังไม่ใช่ข้อพิสูจน์..ครับ..ทำกันต่อที่เมืองอื่นๆ..อีกซักสามครั้งได้..ได้ผลแน่นอน...
    ....มีอยู่รายพูดภาษาอังกฤษพอได้..โอ้โหคราวนี้ละไปกันใหญ่..ไปนั่งกินกาแฟคุยกันต่อ..แบบ
    ว่า..พวกผม..ไปถึงโรงแรม..ไอ้โด้ยังมาไม่ถึง..ไอ้โก้รีบชิงบอก..กูว่าสาวมันชวนไอ้โด้ไปนอน
    ด้วยแล้วแหงๆ....ผมก็ยืนยันว่า..นิสัยไอ้โด้มันไม่ทำอย่างนั้นแน่..ถึงมีโอกาศก็เหอะ...
    ....ก็สอบถาม..เรื่องนี้เมื่อไอ้โด้กลับมาแล้ว...มันก็บอกแค่กินกาแฟคุยกัน..สาวก็ขอที่อยู่ที่
    เซาเปาโล..ของมัน..บอกว่าถ้ามีโอกาศจะแวะไปหา....
    .....ผมมานึกตอนนี้..เมื่อการสื่อสารสะดวก..มันก็จะมีการติดต่อกันต่อเนื่องได้..เพราะมีมือถือ
    ..มี..LINE..มี..เฟสบุ้ค...จีบสาวต่างชาติ..ยุคนี้..มันง่าย..กว่ายุคโน้นเยอะ...
    .....................
    .......ครับ..ผลสรุปออกมาแน่นอนว่า..หน้าตา(ภาครวม)ของมัน..ช่วยในการเดินทาง..หาเส้น
    ทางได้ดี..ถือว่า..เป็นอุปกรณ์เพิ่มเติมพิเศษ..ส่วนตัว....
    ....................
    .........ผมมาสังเกตว่า..ไอ้พวกละตินนี่..หลายคนมาก(..เยอะกว่าชาติอื่น)...ที่สามารถพูดคุย
    ภาษาญี่ปุ่นอย่างคล่องแคล่ว...อย่างบางคยมาอยู่แค่..สามสี่เดือน..ก็ปร๋อเลย..ทำให้แปลกใจ..
    ..ผมก็ถามไอ้โด้เหมือนกันว่า..ทำไมเป็นแบบนั้น..มันหัวเราะแล้วก็ตอบว่า..ส่วนใหญ่ในพวกนั้น
    มีแรงจูงใจ..ก็เพราะ..การรับรู้ข้อมูล..จากพวกที่อยู่ก่อน..และ..บางส่วนก็ได้รับรู้จาก..คนชาติ
    เดียวกันที่เคยได้รับทุนมาญี่ปุ่น....นั่นคือ....
    ..........มันเป็นอาวุธ..ที่นำสู่การ..”ฟัน”..สาวญี่ปุ่น...............
    ...พวกที่ขี้หลี..เป็นโดยสันดาน..นั้น..จึงขยันเรียน..ขยันท่อง..เป็นพิเศษ...ความจริงโดยทั่วไป
    ..เขาก็มีการเปิดสอน..ภาษาญี่ปุ่นที่นั่น..ตอนเย็น..นะครับ..แต่แบบไปเรื่อยๆ..จึงไม่ค่อยมีคน
    สนใจเท่าไหร่..พวกนี้จะเรียนเอง..ทำการบ้านเอง..หัดพูดกับญี่ปุ่นบ่อยๆ..จนทำให้เป็นเร็ว..
    .....จากที่ผมเล่าไปว่า..พวกนี้ได้เปรียบคนอื่น..คือ..หน้าตา..รูปร่าง..และ..ผิวพรรณ..
    ....ลีลา..ของพวกมันนี่..ก็เหลือแดด...มือไวมาก..แล้วก็มี..อย่างพวกสาวๆญี่ปุ่น..ที่อยากเรียน
    รู้วัฒนธรรม..ต่างชาติ..บางทีเขาก็มาที่นี่..มีทั้งพวกพูดภาษาอังกฤษพอได้..และ..ไม่ได้..
    ...พวกนี้..พอมาเจอพวกละติน..ก็เจอเลย...นั่นก็คือ..การทักทายของพวกละติน..........
    ...พี่ Supatorn..อยู่อเมริกาคงทราบดี...หรือ..คนดูหนังฝรั่งบ่อยๆ..ก็จะทราบก็คือ...
    ................การแลกหอมแก้มกัน.................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2015
  7. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...........................................
    ....พอ..แค่แนะนำเบื้องต้น..สาวๆญี่ปุ่นที่ไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อน..ถึงกับยืนเซ่อ..รับไม่ทัน..
    ...เลยต้องถูกสอนว่า..วิธีที่ถูกต้องควรทำยังไง...ไอ้สาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่..ก็ทำแบบทั่วไปคือ..
    เอาแก้มข้างหนึ่งไปแนบกับแก้มอีกข้าง...แต่ไอ้พวกลาติน..นะหอมแก้มเลย..แล้วมันก็บอก
    ว่า..การจูบจริงๆนะเป็นการให้เกียรติ...พอคุยไปไม่นาน..(ผมเคยไปสังเกต..พฤติกรรมไอ้พวก
    นี้มาหลายหน..)..ซักพักเดียวมันก็เริ่มโอบไหล่แล้ว...
    ......แล้วก็ยังมีพวกสาวรักสนุกที่ไปเจอกับ..ไอ้ละตินที่คล่องญี่ปุ่น..พูดไปมา..ชักชวน..สาวๆมา
    เจอพวกมันกันอีกเป็น..ขโยง..สาวๆทั้งหลายนี่ก็พูดอังกฤษไม่เป็นหรอกครับ..แต่บอกแล้วว่า..
    ไอ้พวกละติน..นะมันพูดรู้เรื่อง...ไปๆมาๆ..ก็เรียบร้อย....
    .....................
    ......คนไทยหลายคนที่อยู่มา..สี่ห้าเดือน(..พวกนี้..ระยะเวลาเรียนนาน)..พูดคล่องปรื๋อ....
    ...แถมมีอยู่คน..ความจริงมันอยู่กรมเดียวกับผม..เทียบรุ่นแล้วหลังผมรุ่นนึง...ไอ้นี่..สมบูรณืแบบ
    ...คือ..ดาร์ก..ทอลล์..แอนด์..แฮนซั่ม...แถม..พูดภาษาญี่ปุ่นคล่องด้วย...แต่ตัวมันเองก็ไม่ได้
    มีเจตนา..แบบไอ้ละติน...แค่อยากสื่อสารกับคนญี่ปุ่นให้ได้...ก็เรียกว่า..หล่อขนาด..สาวๆเหลียว
    แล้วกัน....เล่นกีฬา..เก่ง..อย่างเทนนิส..เนื่องจากที่ผมเคยเล่าว่า..ที่มีสนามเทนนิสอย่างดี...
    ...ก็จะมี..พวกญี่ปุ่นที่รู้จักหรือเป็นญาติ..ของคนที่นี่มาดีด้วย...แต่เรื่องของเรื่องดันมีสาวไอ้ยุ่น..
    ...พันธุ์พิเศษ...ที่ชอบมาตีเทนนิส..ตอนเย็น..และ..เสาร์อาทิตย์..อยู่คนหนึ่ง...
    ..........ก่อนอื่น..ที่จะเล่ามานี้..ไม่ได้คิดดูถูกชาติพันธุ์ญี่ปุ่นนะครับ..แต่มันเป็นเรื่องจริง...
    .......คือ...คนญี่ปุ่นสายพันธุ์แท้..(ที่เห็นได้ในยุคเมื่อ สามสิบกว่าปีก่อน)..นั้น..นอกจาก..
    เรื่องฟันที่ผม..เคยเล่าไปแล้ว...มันยังมีจุดที่สังเกตได้ง่าย..คือ..
    .............การที่มีสัดส่วนของโครงสร้างร่างกายที่..ผิดจากชาติพันธุ์ทั่วไป.....
    ..........นั่นก็คือ..ที่เห็นชัดๆเลย...เราเรียกว่า...ตัวยาว-ขาสั้น.........
    ...................
    ..........ความจริงนะ..ขานั้นมี ๒ ช่วง..คือ..ท่อนบน(ต้นขา)..และ..ท่อนล่าง(น่อง)..
    ...ท่อนบน..นั้น..ปกติครับ..แต่..ท่อนล่างนั่นแหละ..คือ..ตัวปัญหา...เพราะมันสั้นอย่าง
    เห็นได้ชัด..ถ้านุ่งชุดว่ายน้ำ....
    ....อัตราส่วน..ท่อนล่างกับท่อนบน..ของคนเอเซีย..ทั่วไป..นั้นถือว่าใกล้เคียงกัน...
    ..เว้นแต่ชาติเดียวคือ..ญี่ปุ่น....เมื่อเป็นเช่นนี้..เวลาที่ไม่ว่าใส่อะไร..ที่คลุมขา...
    ...มันก็..จะทำให้..กลายเห็นเป็นขาสั้น...
    ....ถ้าขาท่อนล่าง..ยาวขึ้นจนมีอัตราส่วน..เทียบเคียงกับ..คนเอเซียทั่วไป...คนญี่ปุ่นก็จะไม่
    ดูเตี้ย...เรียกว่าก่อนปี ๒๕๐๐ ญี่ปุ่นยังไม่พัฒนา..ก็ยิ่งดูเตี้ยมากกว่า..ยุคหลัง...
    ....อย่างที่ ๒ ..ที่ทำให้คนญี่ปุ่น..แปลกกว่าคนทั่วไป..ก็คือ..เท้าครับ....
    ..ยิ่งสำหรับผู้หญิงยิ่งแล้ว...ปัญหามาจากการฝืนธรรมชาติ..อันสืบเนื่องมาจาก..วัฒนธรรม..
    .........ก็คือ..การนั่งนั่นเอง....การนั่งราบโดยเอาก้นทับส้นเท้าที่บิดออกด้านนอก....
    ...เรียกว่า..เด็กญี่ปุ่น..นั้นจะถูกสอน..ให้นั่งแบบนี้..ตั้งแต่..สามสี่ขวบ..เด็กผู้ชายถ้าไม่ใช่กิน
    ข้าว..หรือ..สวดมนต์..ชงชา..ทำพิธีรีตรอง..ก็จะนั่งขัดสมาธิได้..เขาอนุญาต..เพราะต้องเป็น
    ฝ่ายทำงานหนัก..สู้รบ..จำเป็นต้องทำให้เท้าอยู่ในสภาพปกติ..ไม่บิด..แต่ผู้หญิง..ต้องเรียบ
    ร้อยสำรวม..และ..ไม่ต้องออกไปรบ..การที่นั่งแบบนี้..ที่ทำให้..ปลายเท้าบิดเข้าหากัน..และ..
    ส้นเท้าเปิดออก..ทำให้การเดิน..ต้องระมัดระวัง..เพราะหลักจะไม่ดี..การเดินต้องค่อยๆเดิน..
    ..และ..ทำให้ก้าวขาได้ไม่กว้าง(นอกจากชุดที่ใส่จะบังคับแล้ว..การก้าวขากว้างจะทำให้เสีย
    ศูนย์ง่าย..เพราะเท้ามันบิดอยู่)....
    ......ก่อนยุค ๒๕๐๐ โรงเรียนประถมญี่ปุ่นตามต่างจังหวัด..นั้น..ก็ไม่ได้มีโต๊ะนักเรียนแบบ..
    เมืองไทย..เป็นแบบที่เรียกว่า..”โต๊ะญี่ปุ่น”..(ก็ไม่ต่างกับ..ที่เข้าใช้ทานข้าวกัน)..ดังนั้น..
    ..เด็กผู้หญิง..ซึ่งอย่างเก่งก็เรียนกันแค่ประถม..ก็เรียกว่า..วันๆ..ตังแต่วิ่งเป็น..ชีวิต..ไม่ว่า
    ..อยู่บ้าน..ทานข้าว..ช่วยแม่ทำงานบ้าน..ไปโรงเรียน...เรียกว่า..ไม่หนี ๘ ชั่วโมงต่อวัน..
    ..ที่ต้องนั่งทับส้นเท้าตัวเอง..ขณะที่ตัวเอง..โตขึ้นเรื่อยๆ...เมื่อร่างกายหยุดเติบโต..เป็นสาว
    แล้ว..เท้าจึง..ไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิม..ต่อให้ไปใส่รองเท้า..แบบผู้หญิงมีส้น..เขาก็ต้อง
    เดินแบบนั้น......
    ...............................


    ................[​IMG]



    ................[​IMG]



    ..................นี่ขนาดในยุคนี้..ยังมีเหลือให้เห็นแบบนี้..สมัยผมนี่..ยิ่งกว่านี้อีก..
    .


    .......[​IMG]

    ...แล้วดูในการ์ตูน..สิ่งที่เขียนออกมา..คือทุกอย่างที่..เด็ผู้หญิงญี่ปุ่นอยากได้...
    ...๑. ตาโตกลม..เพราะของจริง..ตาตี่เล็ก...
    ....๒. ช่วงขาที่ยาวตรงมากๆ...เพราะของจริงคือ..ขาสั้น..ต้อ..และ..โก่งช่วงน่อง..
    .....๓.หุ่นเพรียว....เพราะของจริง...มันไม่เพรียวออก...ตันๆ
    ....
    ..ขอโทษ..อย่าเอาสาวญี่ปุ่น..ที่เป็น..นักแสดง..นักร้อง..มาเป็นบรรทัดฐาน..ของจริง..ไม่ใช่
    ..อย่างนั้น..มันส่วนน้อยมาก..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2015
  8. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,542
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    สมัยก่อนถ้านุ่งกระโปรงเกินหัวเข่าจะโดนครูเอาไม้บรรทัดอันใหญ่เคาะ"นี่ๆเธอ เลาะลงมาอีก๒-๓นิ้วนะ "
     
  9. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ................................
    ...หวัดดีครับพี่...ตั้งแต่..สมัยผมไป..อิทธิพล..มินิสเกิร์ต...ก็ยังอยู่..ถ้าไม่ใช่โรงเรียนประจำคาธอลิก...
    ..ผมก็เห็น..เด็กม.ปลายมัน..ใส่สั้นกันอย่างนี้..แทบทั้งนั้น....ขามันห่วยเหมือนกัน..มันก็เลย..ไม่ค่อยรู้สึกแตกต่าง...แต่พี่รู้มั้ยว่า..ที่มันดึงถุงน่องกันยาวนะ
    ..เป็นการช่วยเหลือ..ปมด้อยเด็กที่เป็นสาวนะพี่....
    ...มากกว่าครึ่งของผู้หญิงญี่ปุ่น..ผมเคยลองจดสถิติ..จากที่เห็นผมว่า..ซัก ๒ ใน ๓ มั้ง....
    ..............................................
    ....ขนหน้าแข้งยาว..คล้ายผู้ชาย..แต่ไม่หยิกมาก...
    ...ไม่ใช่เป็น..ขนอ่อนยาวๆ..แบบเด็กบ้านเรา....
    ...แต่มัน..เส้นโต..ดำ....ต้องโกนขนหน้าแข้งกันทุกวัน....วันไหน..ขี้เกียโกน..คุณเธอก็ใส่ถุงน่องดำ...
    .............ให้สังเกต..ผู้หญิงสาวทำงาน..หรือ..เด็กมหาลัย..ที่ใส่กะโปรง....สวมถุงน่องดำ..มากกว่าชาติไหน..ใน..โลก..ก็เพราะสาเหตุนี้...
    (..และจำนวนไม่น้อย..ที่ไม่ยอมโกน..ก็ใส่ถุงน่องดำตลอด..ผมเห็นครั้งแรกจะ..จะ..นึกว่าคง
    เป็นส่วนน้อย
    ..ที่ไหนได้..ไม่ใช่..)

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2015
  10. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ................................
    ..........ขนาดในยุคที่ผมไปนั้น..ถึงแม้จะอยู่ในสมัยใหม่..คนส่วนใหญ่ของประเทศ..ไม่ว่าชั้น
    ล่าง..หรือ..ชั้นกลาง..บ้านนั้น..อย่างที่ผมไปทานข้าว..หรือ..ไปเยี่ยมเยียนมา...ห้าหลัง...
    ...๓ หลัง..นั้น..ห้องกินข้าว..โต๊ะกินข้าว..เขาก็ยังเป็นแบบ..ดั้งเดิม..คือ..โต๊ะญี่ปุ่นอยู่ดี...
    ..ไม่มีโต๊ะกินข้าว..นั่งกินข้าวแบบ..บ้านเรา..ในกรณีที่บ้านค่อนข้างเล็ก..โซฟาก็ไม่มี.....
    ....เจ้าของบ้าน..พาเข้าไปดูห้องต่างๆ..โต๊ะทำการบ้านของลูก..ก็เป็นแบบเดียวกัน...
    ..........ดังนั้น..ตั้งแต่วิ่งได้..ก็มีเวลาแค่..ที่โรงเรียน..ช่วงที่สอนวิชาปกติ(..วิชาที่เกี่ยวกับ..
    การบ้านการเรือน..ต้องนั่งทับเท้า..ทั้งสิ้น..)..ถึงจะได้มี..โอกาศให้เท้าอยู่ในสภาพปกติ...
    ..เมื่อกลับเข้าบ้าน..ก็ต้องนั่งทับส้นเหมือนเดิม....จนร่างกายหยุดการเจริญ..ดังนั้น...ผู้หญิง
    ญี่ปุ่น..ในยุคสามสิบกว่าปีก่อน...จึงรูปของเท้า..การเดิน..การบิดของเท้า..จึงยังมีความ
    คล้ายเดิมอยู่..แต่ดีกว่าเดิม..เพราะผมเห็นผู้หญิงกลางคนขึ้นไปในยุคนั้นแล้ว..การบิดของ
    เท้า..นั้นมากกว่า..พวกรุ่นสาวเยอะ......
    .....ท่านผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่า..เรื่องสัดส่วนของคนญี่ปุ่น..กับ..การนั่ง..นั้นมันตามหลอนใน
    ความคิดผมตลอด..แม้ว่าจะกลับมา..เวลาผ่านไปสิบปี..ยี่สิบปี..ข้อมูลสนับสนุนความคิดของ
    ผมเอง..ที่ก่อนหน้าไม่เคยคุยกับใคร..ก็ได้ไปคุยกับผู้รู้โดยตรง..และยิ่งตอกย้ำแนวคิด..
    ในยุค..ที่ผมไปอยู่ญี่ปุ่น....นั่นคือ....
    ................นอกเหนือจาก..เผ่าพันธุ์ของคนญี่ปุ่นเอง..ที่จะมีช่วงขาสั้นกว่าชาวบ้าน..ตัวการ
    ส่งเสริม..ที่ทำให้มันสั้นเข้าไปอีก..หรือ..มันไม่สามารถเจริญหรือยาวขึ้น..เท่าที่ควรก็คือ..
    .................ลักษณะการนั่ง...แบบทับส้นเท้า..(หริอ..นั่งทับน่อง(ขาช่วงล่าง)ตัวเอง)....
    ...นั่นแหละครับ...หลังจากกลับจากญี่ปุ่นได้สิบกว่าปี..บังเอิญโชคดี..ได้ไปพบผู้เชี่ยวชาญ
    ที่เป็นหมอเด็ก..และ..เชี่ยวชาญทางกระดูก...ผมได้ไปคุยเรื่องแนวความคิดของผม....
    ...แกก็บอกว่า..เป็นไปได้..เพราะการที่เอาน้ำหนักตัวไปกดทับ..ขาช่วงล่าง..นานๆ..ใน
    ช่วงวัน..ตั้งแต่วัยที่เริ่มเติบโต..โดยตลอด..จนถึง..กระดูกหยุดการเจริญเติบโตนั้น...
    ...มันก็มีส่วนจะทำให้..เกิดการยึดหรือบังคับ..ไม่ให้กระดูกน่องที่ควรจะยาวขึ้น..ตามปกติ
    ..เมื่อเทียบกับ..พฤติกรรมของคนชาติอื่น(..อย่างเด็กไทย..นั่งพับเพียบ..ก็ไม่ได้นั่งทับ
    ขาตัวเองโดยตรง..แถม..ยังเปลี่ยนข้างได้..)..
    ............................
    .......อย่างที่ ๓. ขนขา....ครับ..ที่ผมเคยเขียนเล่าให้พี่ Supatorn..ไป..ว่านั่นเป็นการสังเกต
    โดยบังเอิญ..ตอนไปอยู่ญี่ปุ่นได้ไม่ถึงเดือน..พอรู้ว่า..มันไม่ใช่แค่บางคน..เป้นส่วนใหญ่
    ..ก็ไปคุยเล่าให้..เพื่อนคนไทย..ที่โต๊ะอาหาร..ที่แคนทีน..ปรากฏว่า..คนที่อยู่ก่อนหน้าผม
    ..ไม่มีใครแปลกใจเลยครับ..ไม่ว่าผู้หญิง..ผู้ชาย..ทุกคนก็ยอมรับว่า..เป็นเรื่องจริง..ก็ค่อย
    ยังชั่วหน่อย..เพราะผมนึกว่า..ผมบ้าไปคนเดียว....
    ....เรื่องของ..ส่วนขา..และเท้า..ของคนญี่ปุ่นนั้น..มันมาจาก..รสนิยมส่วนตัวในการมอง..
    ผู้หญิง..เพราะเมื่อผมเริ่มเป็นหนุ่ม..วงการแฟชั่นสตรีไทย..ก็พลิกโฉมหน้า..เป็นครั้งแรก..
    คือ..มินิสเกิร์ต..ตามฝรั่ง..ที่ทำเอาขนบธรรมเนียมประเภณีไทย..หยุดไม่อยู่...สาวๆไทย..
    ..ถ้าคนไหน..ไม่ใส่มินิสเกิร์ต..แสดงว่า..ขามีปัญหา..ทุกคนใส่กันเกือบหมด..ไม่มีเว้น..
    ..ขนาด สุรพล สมบัติเจริญ ยังเอามาร้อง..” ขาขาวๆก็พอไหว แต่บางคนขาลาย...
    ..ไม่เอาไหนเลย..”...นั่นแหละครับ..ผมจึงชอบ..ดูขาผู้หญิง..ก่อนส่วนอื่น....
    .....แต่ที่ญี่ปุ่นนี่..มันดูใกล้มาก..เพราะสาเหตุแรกเริ่ม..มาจากการแย่งขึ้นรถไฟ..คือมันทั้ง
    เบียดทั้งเหยียบกันให้วุ่น..คนที่ขึ้นช่วง RUSH HOUR..คงทราบ..พอผมขึ้นไปได้นั่ง...
    ..ก้มลงดู..เชือกรองเท้าผมหลุดเลย..และเป็นบ่อยมาก..ไม่รู้ว่าผมผูกเชือกรองเท้าห่วย..
    หรือไงไม่ทราบ..ไอ้ตอนที่..ก้มลงไปผูกเชือกนี่แหละ..ถึงได้เห็น..ทั้งด้านหน้า..คนที่ยืนอยู่
    ..และที่นั่งข้าง...หลังจากนั้น..ก็กลายเป็นตั้งใจดู..เพื่อเช็คเป็นสถิติ...
    .....ครับ..บางคนใกล้เคียงกับ..ขาผมเลย..แต่อาศัยถุงน่องดำปิดไว้..ที่นี่ถุงน่องสีเนื้อ...
    ...อย่างบาง..ขายไม่ได้หรอกครับ..เพราะบางคนที่เลือกใส่..หรือ..จำเป็นต้องใส่...
    ต้องใช้อย่างหนาครับ..เพราะ..ถ้าลืมโกนสักวันสองวัน..ความหนามันยังพอบัง..ตอขน..ได้
    .....แค่เด็กมัธยมปลายนี่ก็ขึ้นกัน..พรึบแล้ว..ไม่ต้องรอเป็นสาวเต็มที่...
    .............................
     
  11. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,542
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    **************************
    ของพวกนี้ ยิ่งโกนยิ่งขึ้นค่ะ เขาว่ากันว่ามันหอมปลายมีดโกน เคยล้อเพื่อนประจําเพราะตัวเองไม่มี เขาว่ากันอีกแหละว่าคนมีขนมากเนี่ยย เซ็กซี่:'(
     
  12. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................................................
    ....สมัยก่อน..ผมก็งงว่า..คนไทยเรา..ทำไมบอกว่า..
    ...ยิ่งโกน..ยิ่งเส้นโตขึ้น..ขึ้นเร็ว....
    .....ผมก็มานึกว่า..ไอ้ฝรั่ง..มันก็..ก็ใช้โกนเป็นหลัก..
    ........ทำไม..ไม่เห็นเป็นแบบที่ว่า..ผมก็เลยได้คุยกับ..คนที่มีความรู้..ถึงได้ทราบว่า...
    (ผิดพลาด..ขออภัยนะพี่...)...
    ...คนไทยสมัยก่อน...ใช้วิธี..โกนแห้ง..หรือ..อย่างเก่งก็แค่ใช้น้ำลูบ..ไม่ว่าตาม..รักแร้..หรือ..ส่วนอื่น..
    ..และ..ค่อนข้างประหยัด..ไม่ค่อยเปลี่ยนใบมีด...
    ..ทำให้..เป็นการไปกระตุ้นต่อมขน..เพราะถูกรั้งมากไป............
    ........ตอนหลังถึงได้..รู้มากขึ้น..และแนะนำกันเอง..
    ...ว่า..ใบมีดต้องเปลี่ยนบ่อย..และ..ใช้..ครีมโกน..ทาก่อน..มันลด..การกระตุ้นไปได้มาก..เพราะ..นอกจากจะทำให้..ขนมันนุ่มขึ้น..(ผมใช้โกนหนวด..มันก็รู้สึกได้..เวลาที่โกนหนวด..ที่ปล่อยไว้ยาว)..แล้วมันก็ทำ..ให้ผิวบริเวณนั้นลื่น..คมมีดก็ไม่ทำอันตราย...
    ......
    .....ขอบคุณครับพี่...ที่มาช่วยชี้แจง..ที่ว่านะ..
    ..ถูกครับ..แต่ต้องเป็น"ขนเส้นบาง"..ถ้าเส้นหนาๆ..ยังไงมันก็..ไม่เซ็กชี่หรอกครับ....
     
  13. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    .............................
    ..........ขอย้อนกลับ..ไปเรื่อง..สาวยุ่นพันธุ์พิเศษ..ที่ผมว่าไว้นี่..ไม่ต้องแอบดูขาเลยครับ..
    ..เพราะ..ชุดตีเทนนิส..ของเธอ..คือ..กระโปรงพรีต..ที่สั้นมากๆ..สีขาวอย่างนักเทนนิส..มือ
    อาชีพ..เขาใส่กันเลย..ไม่ใส่ถุงน่องด้วย..ถุงเท้านี่พับสั้นลงไปติดกับรองเท้าเลย..เพราะ..
    ...นอกจากหน้าตา..ที่ถือว่า..เป็นคนสวยแล้ว..มีหน้าอก..หน้าใจ..พอให้รู้ได้ว่า..ของจริง..
    (..อันนี้..ยืนยันครับ..ผมแยกออก..)..คุณเธอ..เอาชายเสื้อโปโลขาวของเธอ..ยัดไว้ใน..
    ..ขอบกระโปรงพรีตโคตระสั้นของเธอ..เพื่อให้ชาวบ้านเห็นว่า..เธอนะรูปร่างระเบิดเถิดเทิง..
    ขนาดไหน..เอวคอดมาก..สะโพกดี....แต่ทีเธอ..ตั้งใจโชว์เป็นพิเศษ..และ..ทำให้ผู้หญิง
    ชาติเดียวกัน..ต้องริษยาเธอ..คือ.................ขา..และ..ช่วงขา...........ครับ...
    ........ราวกับว่า..เทพเจ้าสตรีผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น..เทพอมาเทราสุ..ประทานให้เธอ..
    ..คนเดียว.........ขนาดว่า..แบบที่ว่า..เมืองไทยก็..พอหาได้..แต่ก็หาลำบาก....
    ......แต่พอมาเป็น..ที่ญี่ปุ่น..เมืองที่ผู้หญิงขาห่วยที่สุดในโลก..มันเลยกลายเป็นของประหลาด
    ....และ..จากหน้าตาเธอ..นี่ก็รับรองว่า..ไม่มีเชื้อสายฝรั่งมาปนแน่..เธอไม่ใช่พวกน่ารัก..คิขุ..
    ..แบบ..สาวยุ่นทั่วไป..นะครับ..แต่เธอนั่นออกแววเซ็กซี่ๆนิดๆ..ไม่เกี่ยวกับชุด..หรือ..รูปร่าง..
    ..ผมว่าเป็น..อินเน่อร์ข้างใน..ของเธอ..พวกเราชาวไทยทุกคนที่นี่ยอมรับว่าเป็นแบบนี้กันหมด..
    ..ไม่ใช่ผมว่า..คนเดียว..นี่รวมถึง..ไอ้พวกละติน..ไอ้มืด..หรือ..เอเซียแถบบ้านเราด้วย....
    ......ผมว่า..คนส่วนใหญ่..ใน TBIC ..รู้จักหน้าตา..และ..ชื่อเสียงเธอดี...
    .............ผมเรียกชื่อเธอในที่นี้ว่า..”มะลิ”..ก็แล้วกันเพราะเป็นผิวเธอขาวจัด(อมชมพู)....
    ....ส่วนพระเอกของเรื่อง....เนื่องจากเรื่องมันเกิดมาจาก..สนามเทนนิส..ก็เรียกเขาว่า..”ชายพัด”
    (พี่..ชายพจน์..น้อง..ชายกลาง)..ก็แล้วกัน.....................เนื่องจากก่อนหน้า..
    นี้ผมพูดเรื่องขาของคนญี่ปุ่นมาก..และพอมาถึง”มะลิ”.....ที่ผมว่า..พิเศษ..ก็คือ......
    ......๑. ยาว..และ..ตรง..น่องไม่เป็นลูก(กล้ามเป็นก้อน)...ผมว่าสัดส่วนเมื่อเทียบกับช่วง
    ตัวเธอ..ผมว่า..น่าจะยาวกว่ามาตรฐาน..คนไทย..ด้วยซ้ำ..สัดส่วนของช่วงล่างกับช่วงบน
    ก็ลงตัว...เวลาเธอยืนตรงนี่..ต้นขาเกือบชิดสนิทเลยนะครับ..(ก็กระโปรงเธอสั้นจัด..ก็เลย
    เห็นชัด..)..น่องไม่โก่ง..หัวเข่าก็ไม่ใหญ่(..สาวเอเซียทั่วไป..หัวเข่าจะใหญ่..เพราะจะมี
    เนื้อพอกมาด้านข้าง..ไม่เหมือนฝรั่ง..)....ที่สำคัญที่บอกว่า..เธอต้องฐานะดีมากๆ...
    (..ชุดเทนนิสของเธอ..ก็ไม่ใช่ของญี่ปุ่นนะครับ..เป็นของฝรั่ง..ก็ยิ่งสนับสนุนเรื่องนี้..)..
    ..มีบ้านใหญ่โต..และ..พ่อ-แม่..ต้องเป็นคนทันสมัยมากๆ..ผมไม่ใช่หมอดูหรอกครับ..
    ..แต่มั่นใจได้เพราะ..เวลายืนปกติ..ปลายเท้า..ของเธอแบะออกเล็กน้อย..เหมือน..คนชาติ
    อื่นทั่วไป..และ..ขาตรงน่องไม่โก่ง...ก็แสดงว่า..ตั้งแต่เล็ก..พ่อแม่ต้องเตรียมตัวมาล่วงหน้า
    แล้ว..ว่าจะไม่ให้ลูกสาวน่องโก่งและปลายเท้าเอียงเข้าหากัน..ซึ่งวิธีก็ง่ายครับคือ..ตั้งแต่
    เล็ก..พ่อแม่..ไม่ให้เธอนั่งทับส้นเท้า..ก็แสดงว่า..ที่บ้านก็ต้องอยู่แบบฝรั่ง..อยู่แบบฝรั่งได้
    บ้านต้องใหญ่..เพราะต้องตั้ง..โต๊ะอาหารแบบบ้านเรา...ต้องมีโซฟา..คือ..ไม่มีการนั่งกับ
    พื้นกันละ..ห้องนอน..โต๊ะทำการบ้าน...โต๊ะกระจก..ต้องเป็นแบบนั่งเก้าอี้..ทั้งหมด...ดังนั้น
    ห้องต้องใหญ่..ก็แสดงว่าต้องมีฐานะแน่ๆ..ถึงจะเตรียมการให้ลูก..มีขาและเท้าเป็นปกติได้..
    ..อย่างที่ผมเล่าไปแล้ว..เมื่อกว่าสามสิบปีก่อนนั้น..มันหาแทบไม่ได้...
    ......๒. สำคัญมากอันนี้..กลายเป็นชื่อเล่นไปเลย..”พันธุ์กะทิ”..พี่อีกคนเป็นคนตั้ง..เพราะมัน
    เหมือนไก่กะทิ..คือ..นอกจากขาวผ่องอมชมพู..ขาเธอเรียกว่า..ไม่มีขน...คือ..มีแต่ขนอ่อน
    ธรรมดา..ผมเคยได้มีโอกาศแอบดูใกล้เพื่อพิสูจน์..เพราะครั้งแรกนึกว่า..เธอโกนมาดี...
    ..ปรากฏว่า..ไม่มี..ตอขนให้เห็น..หรือ..ตุ่มนูนที่ต่อมขน..(กรณีแว็กซ์..ขน)......จึงเชื่อ
    ถือได้ว่า..เป็น..”พันธุ์กะทิ”..ของแท้ครับ..ผมแอบดู..ยันข้อเท้าเลย..ก็คงเจตนา..เธอด้วย
    ..เพราะเล่น..พับถุงเท้าลงไปติดข้อเท้าเลยเป็นปกติ..เพื่อโชว์.....
    .....................
    ..........ไอ้จุดเริ่มของนิยาย...นี่ที่ผมจะเล่าก็มาจาก..เรื่องที่ผมเล่าเรื่อง..ว่า..คนไทยหลายคน
    ตอนนั้น..ที่พูดญี่ปุ่นคล่องปรื๋อ..คนแรก..พี่แกแก่กว่าผมหลายปี..แกจบจาก..แม่โจ้..เชียงใหม่..
    ..และ..ขณะนั้นก่อนมาญี่ปุ่นก็ยังสอนที่แม่โจ้อยู่..คนไทยทุกคนก็เรียกแกว่า..”อาจารย์”..มา
    เรียน..สายวิชาเกษตร...แกนี่แหละครับ..มือหนึ่ง..ของไทย..เรื่องเทนนิส..(ตอนช่วงที่ผมอยู่
    มีการแข่งขัน..เทนนิสภายใน TBIC คือใครก็ได้ลงมาสมัคร..และแกก็ได้..แชมป์..เป็นที่ภาค
    ภูมิใจของ..คนไทยที่นี่ทุกคน)..ภาษาญี่ปุ่น..แกไม่เป็นสองรองใคร...
    ..................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มิถุนายน 2015
  14. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    48,542
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,049
    แหมเล่าเสียเหมือนมองเห็นด้วยตาเลย วันนี้ท่านนอนดึกหรือคะ ตีสองกว่าเมืองไทยนะนี่ เอ้าเล่าต่อ ขออภัยที่ขัดจังหวะ
     
  15. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................
    .....ผมไม่เคยนอนก่อนตีสอง..เลยครับ..หลังจากที่เลิกทำงานแล้ว..
    ..................................
    .....อีกคน..เป็นพี่ผมหลายปีเช่นกัน..จบวิศวะขอนแก่น..ทำอยู่ชลประทานเหมือนผม..นี่น่า
    จะเป็นคนที่ภาษาลื่นไหลมากที่สุด..มาเรียนทางชลประทาน..
    ....คนสุดท้ายก็....”ชายพัด”..สุดหล่อ..นับรุ่นเรียนก็หลังผม..รุ่นนึง..แต่เราจบคนละที่กัน..
    ....มาเรียนทางชลประทานเช่นกัน..และเรียนอยู่กับ..พี่แก่น..ชอบเล่นเทนนิส..และเล่นเก่ง..แต่
    มือยังเป็นรอง..อาจารย์...
    .........ทั้งสามคนนี่..คอร์สเรียน..เป็นร่วมปี..ครับ..เขาอยู่ก่อนหน้าผม..หลายเดือน..เรียกว่า
    กว้างขวางที่นั่น..รู้จักพูดคุยทักทาย..กับเจ้าหน้าที่ๆนั่นเป็นอย่างดี...
    .....และทั้ง..อาจารย์และ..ชายพัด..นี่..ก็เป็นเจ้าประจำที่คอรต์เทนนิส..เล่นกันประจำ..แปลก
    ..เหมือนกัน..ที่ชาติอื่น..น้อยมากที่จะมาเล่น..ถึงมาเล่นก็ไม่ประจำ..แต่อย่างเสาร์-อาทิตย์นี่
    พวกเจ้าหน้าที่..ก็จะมาตีด้วย..สนามที่นี่เยี่ยมมากครับใหม่..และเนียน..ผมถามอาจารย์..แก
    บอกนี่..ระดับมาตรฐาน..จัดแข่งเป็นทางการเลย..แกบอกผมว่าดีกว่าที่เมืองไทย..ที่เคยตีมา
    ซะอีก..
    .............................
    ........ผมจำได้ว่า..เริ่มต้นเพราะขาตีเทนนิสของ..อาจารย์ที่เป็นญี่ปุ่นนี่แหละ..ที่พา”มะลิ”มา
    ..คงเนื่องจาก..สองคนไทย..ทั้ง..อาจารย์..และ..ชายพัด..ตีเทนนิสกันเก่ง..น่าจะเป็นญาติ..
    นะผมว่า...ก็เรียกว่า..พามาให้สอน..(ไอ้ยุ่น..คนนี้..ตีสู้อาจารย์แกไม่ได้หรอกครับ..)....
    ......มันก็..เหมือนละคร..หรือ..หนังเลยมั้ง....เพราะ..ใครๆก็ทราบว่า..การสอนเทนนิสนั้น..
    ..มันต้อง..ใกล้ชิด..สอนจับกริ๊บ..การวางท่า..เรียกว่า..จับไม้..จับมือ..นี่เป็นเรื่องปกติ..ต้องมี
    การเข้าด้านหลัง..แล้วปรับการวางท่าอะไรทำนองนี้..ก็ลองนึกถึงหนังทำนองนี้ดู...คราวนี้..
    ..เริ่มต้น..เบสิก..ก็คงไม่ต้องถึงกับอาจารย์(..ก็โชคดีไป..เพราะอาจารย์แกไม่ใช่คนขี้หลี..
    อะไรเท่าไหร่(ความจริง..แกบอกผมว่า..แกก็อยากเหมือนกันแต่เกรงใจ..และ..สายไปซะแล้ว)
    ...ดังนั้น..ชายพัด..ก็เลยต้องมาทำหน้าที่สอนเบสิก..ให้ตามรูปแบบที่ผมบอกไป...
    ..........ผมว่ามันคงเริ่มมาจากจุดนั้น..ชายพัด..นี่สูงใกล้ผม..อาจสูงกว่าหน่อย..เกือบ ๑๘๐
    ซม.มั้ง(ผมสูง ๑๗๘ )..แต่หุ่นพี่ท่านนี่เท่ห์มาก..หุ่นนักกีฬาขนานแท้..เพรียวแต่บึ้ก..มีกล้ามเนื้อ
    ..ผิวคล้ำ..แบบคนใต้..ไหล่กว้าง..ขนาดผมเป้นผู้ชาย..ผมยังว่า..หุ่นมันเท่ห์มาก..เสือกหล่อ
    อีกต่างหาก..คิ้วหนาเข้ม..จมูกโด่ง..ออกแขกนิดๆ...ผู้อ่านที่เป็นสตรีคิดดู..แล้วอย่างงี้มันจะ
    เหลือเรอะ...อาทิตย์นึง..มาตั้ง..สาม-สี่..วัน(เสาร์-อาทิตย์..ก็เต็มๆวัน)..แรก..ไอ้พวกละติน..กับ
    ไอ้มืด..นี่มานั่งดูเขาสอนเทนนิสกัน..เป็นกลุ่มๆ(..บางคนมันมาเฝ้า..หลายครั้ง..)..แต่คนไทย..
    ก็ตีเทนนิส..กันหลายคน(..ไม่ใช่ผมครับ..ผมตีไม่เป็น..แต่ชอบดู..ไอ้สิ่งที่ผมได้เห็น..ก็เพราะ
    ชอบไปดูเขาเล่นกัน..ไม่ได้มีเจตนาไปหลี..อะไรเพราะ..รู้อยู่แล้วว่า..อะไรเป็นอะไร..)...ดังนั้น
    เมื่อ..คนไทยอยู่เยอะ..แล้วสาว”มะลิ”..เธอก็ไม่สนใจไอ้พวกเวรนี่..เวลาเธอพัก..ก็นั่งคุยกับ
    คนที่ตีเทนนิส..อย่างอาจารย์และชายพัด(โดยเฉพาะ..ชายพัด)..ไอ้พวกที่คอยเฝ้ากะหาโอกาศ
    เสียบ..ก็คงรู้สภาพว่า..หมดโอกาศ..หลังๆก็ค่อยๆหายไปเอง...
    .....เหตุการณ์มันพาไปจากความใกล้ชิด..และคงเป็นเรื่องของลักษณะของชายไทยที่นิสัยดี..
    ...ไม่ออกอาการขี้หลี..และ..เป็นสุภาพบุรุษ..บวกกับ..ช่วงนั้น..ชายพัด..ไม่ต้องออกไปดูงาน
    ต่างจังหวัด..ก็เลยอยู่ที่TBIC..ไม่ได้ไปไหนเป็นเดือน..ความถี่ของการเจอ..และความต่อเนื่อง
    ......มันก็ทำให้...มะลิ....ซึ่งผมว่าอย่างเธอนะ..ผ่านคนมาตามจีบ..มากมายแน่นอน...ตัดสินใจ
    .....เลือก..หนุ่มไทย..เข้าไป..อยู่ในช่องของ..หัวใจเธอ....หลังจากนั้น.....
    .......ถ้าอาทิตย์ไหน..ชายพัด..ไปต่างจังหวัด..เธอ..ก็แทบจะไม่มา..หรือ..ไม่มาเลย..
    ..........มันก็บอกได้ชัดเจน...เรื่องของ..สาวมะลิ..กับ..ชายพัด..นี่มีเรื่องที่เอามาเม้าท์กันใน..
    โต๊ะกินข้าวกลุ่มคนไทย..ได้ตลอดเป็นเดือนๆ...หลายคนก็ลุ้นความคืบหน้า..แต่..ครั้งใด..พอมี
    คนแซว..เรื่องนี้กับชายพัด...ไม่ว่า..ผู้ชาย..ผู้หญิง..เขาก็ปฏิเสธเสมอ..ว่าเป็นแค่เพื่อนกันเฉยๆ
    ..เขาไม่ได้คิดอะไร..แล้วก็ได้คุยภาษาญี่ปุ่นได้เยอะด้วย..ก็ดี...แต่พอมีคนบอกว่า..เอ็งไม่คิดแต่
    รูปการณ์มันฟ้องว่า..มะลิเขาคิดแน่..ชายพัดก็ทำเขินๆและหัวเราะ....คนไทยเกินครึ่ง..ไม่เชื่อ
    ว่าชายพัดไม่คิดอะไร...เพราะโอ้โห..สวยหุ่นดี..นิสัยดี..อัธยาศัยดี..แบบนี้..ไม่ชอบก็ควายแล้ว
    ..อะไรทำนองนี้...(..แต่ผมเองก็ไม่เคย..แซว..เรื่องมะลิ..กับชายพัด..เลยเพราะสังเกตว่า...
    เวลาที่..คนอื่นแซว..เขาค่อนข้างอึดอัด..)............
    ..................
     
  16. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................
    ..........เรื่องข้อมูลต่างๆนี่..ไม่ต้องไปถามใครหรอกครับ..เก็บเอาข้อมูลจากโต๊ะทานข้าวมื้อ
    เย็น..ก็เพียบแล้ว..เพราะเป็นเรื่องเม้าท์หลัก..อย่างเรื่องที่..สองคนนี่ไปทานข้าวกัน..อะไร
    ทำนองนี้...ไอ้ความสนิทกันนี่..คนอื่นอาจว่าไม่น่าเกี่ยว..แต่ผมว่า..มันเสริม..เรื่องที่..
    .......ไอ้พวกละติน..มันหมั่นไส้..คนไทย...เพราะมันคิดว่า..ดอนฮวน..และ..คัสซาโนว่า..
    มีแต่พวกที่..พูดละติน..(..อิตาลี่..เสปน..โปรตุเกส..นี่ต้นตอคือ..ละติน..ภาษาของพวกคริสต์
    โรมันคาธอลิก..)...แต่มันต้องมาเสียแชมป์...ให้กับ..ชายพัด...ทั้งที่ก่อนหน้านี้ของมันมีแต่
    เรื่องเลวๆ..ทั้งนั้น..(..สาวบราซิล..กับ..เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น...ผล..ท้อง..แต่เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น..ยอมรับ
    ..(ก็มันเจตนาเลย..ก็สาวนี่ที่ผมบอกไปแล้วสวยมาก..ดีกว่าสาวญี่ปุ่นร้อยเท่า..ยังไงลูกมัน
    ต้องออกมาหน้าตา..ดีแน่..)..คาดว่า..คงแต่ง....แล้วก็ไอ้บราซิล..หรือ..อาร์เจนติน่าไม่ทราบ
    ..หมาหยอกไก่..กับเด็กมัธยมที่มาทำงานพิเศษ..เป็นเด็กเสิร์ฟอาหารในแคนทีน..ผมเห็นประจำ
    ..เดี๋ยวก็แกล้ง..จับก้นมั่ง..แกล้งโอบเอวมั่ง...ซักพักตอนหลังเด็กนี่หายไป..ทราบข่าวจากพวก
    ละตินว่า..เรียบร้อย..ท้อง..ไม่กล้าไปเรียนหนังสือ..แต่คราวนี้แสบ..เพราะไอ้เวรที่ทำไม่รับ...
    ต้องไปจ่ายค่าสินไหมกัน..และคาดว่า..คงจะต้องทำแท้งด้วย..เด็กยังไม่มัธยมปลายเลย..ซัก
    ๑๕ แต่ตัวโตเป็นสาว..แต่เจ้าหน้าที่JICA..ปวดหัวมาก..ไม่กล้าให้เป็นเรื่องเพราะ..ตัวเองจะซวย
    ไปด้วย...)......พวกมันก็คงยิ่งหมั่นไส้..พวกเรามากขึ้น..แถมพวกเรา..ก็รู้สันดานไอ้พวกเวรนี่..
    ..เวลาโผล่มาเลียบๆเคียงๆ..เวลาที่..สาวมะลิ..มานั่งกินน้ำ..ในล้อบบี้..ชายไทยทั้งหลาย..ก็ถือ
    วิสาสะไปเลย..ว่าเป็นหน้าปกป้อง..แทนช่ายพัดไปด้วย..เพราะถือว่า..เขามากับพวกเราคนไทย
    ..เราต้องรักษาเกียรติ..ก็จะไปนั่งแถวนั้นด้วย..เป็นปีเตอร์กัน...มันก็เลย..เขม่นกันกลายๆ...
    .........................
    ........ผ่านไปหลายเดือนครับ...ปรากฎว่า..ฝ่ายหญิงเองคงทนไม่ไหว..ที่ไอ้เสือนี่..จะทำอะไร
    ก็ไม่ทำ..ซักที..(ผมว่า..มะลิ..เองอาจไม่แน่ใจ..ว่าชายพัดคิดกับเธอ..เหมือนเธอคิดกับเขารึ
    เปล่า..ของ..มะลิ..นี่ชัดเจน..ใครๆก้รู้การแสดงออกว่า..เอาจริงแน่..แต่..สุดหล่อนี่..ผมก็ไม่ทราบ
    ว่าก่อนหน้า..เวลาอยู่กันสองคนเป็นแบบไหน..ไปให้ความหวัง..หรือทำให้เธอเข้าใจผิดรึเปล่า..
    ..จะบอกให้ทราบว่า..เรื่องรัก..กับสาวญี่ปุ่น..นี่เป็นอะไรที่..สาหัสกับชีวิตมาก..จะเห็นได้จาก..
    สถิติ..ฆ่าตัวตาย..เพราะเธอจะทุ่มกันสุดตัว..ถ้ารักจริงซะอย่าง..ส่วนใหญ่แล้วก็จะไม่ปฏิเสธ..ถ้า
    ผู้ชายจะขอนอนด้วย...)....ปรากฎว่า..เธอเอาจริงครับ..เอาให้มันรู้เรื่องไปเลย...
    .....พวกเรามารู้..หลังจาก..ที่..สาวมะลิ..หายไป..ไม่มาตีเทนนิสอีก..คือ..หายหลายวันจน..
    ผิดสังเกต...แล้วเรื่องก็มาเผยเอา..ที่โต๊ะกินข้าวอีกเช่นเคย...
    ........ซึ่งเรื่องนี้..พวกพี่อย่างพี่ขอนแก่นที่เรียนด้วยกัน..กับ..อาจารย์..คงคาดคั้นเอาความจริง..
    จนเจ้าตัว..ชายพัดเอง..ต้องมาเล่า..ก็คือ..ผมก็นานแล้วจำไม่ได้ว่า..เขาตีเทนนิส..แล้วออกไป
    กินอะไรข้างนอกกันต่อ..แล้ว..มะลิ..เขามาส่ง..ชายพัด..ที่ TBIC ปรากฏว่า..มะลิ..ตาม..ชายพัด
    เข้า..ห้องพักชายพัดเลย...ก็คือ..แสดงให้เห็นชัดๆเลยว่า..จะเอายังไง..ก็ว่ามา....
    .....(....ที่ TBIC นี่..ทุกคนพัก..เป็นห้องพักเดี่ยวนะครับ..ไม่ว่า..ชาย..หรือ..หญิง....)...
    ..ก็ทำนองว่า..มะลิบอกให้..ชายพัด..รับทราบชัดๆเลยว่าเธอ..รัก..ชายพัด..และ..เธอไม่ได้
    คบกับ..ชายพัดแบบเล่นๆ..เรียกว่า..ถ้า..เขาตอบรับ..ก็ลงเอยเลย..ตอนนั้น..มีบทอัศจรรย์
    ฟ้าลั่นโครมครามตามมา..แน่นอน...แต่ปรากฏว่า..สุดหล่อไทย..ก็บอกไปตรงๆเหมือนกันว่า...
    ...เขาคบกับ..มะลิ..ในฐานะ..เพื่อนที่ถูกอัธยาศัยกัน...แค่นั้นเอง..ต่อมน้ำตาของ..มะลิผู้
    น่าสงสาร..ก็แตกทันที....สวรรค์ล่มสลายหายวับไปกับตา...
    ....ผมมาคิดดูว่า..น่าจะจริง..เพราะมันเป็น..คนอัธยาศัยดี..และ..เวลาโดนแซว..หรือ..ถามไถ่
    เรื่องมะลิ..ก่อนหน้า..มันก็ไม่ออกอาการทางแววตา..และ..ความรู้สึกว่า..ชอบแบบแฟน...
    ...แต่เรื่องวัฒนธรรมบางอย่าง..ที่แสดงออกให้เห็นนี่..มันไปสร้างความสับสน..ให้มะลิ..รึเปล่า
    ..หรือ..เธอเอง..เข้าใจเอาเองว่า..เธอเลิศขนาดนี้..ถ้าเธอเสนอแล้ว..ชายพัดน่าจะยอมรับ..
    ..เพราะ..ในญี่ปุ่นนี่..ขนาดเธอผมว่า..ยากมาก..ที่ใครจะปฏิเสธ..ที่จะรับรักเธอ..
    ......หรือ..ชายพัดเอง..คิดไกลไปเยอะว่า..จะต้องพาเธอกลับเมืองไทย..ไปหาแม่.....
    ...เธออาจจะอยากแค่..มีความรัก..และได้รับการตอบสนอง..อนาคต..มันไม่แน่......
    .........หรือ..ไอ้ชายพัดเอง..มีแฟนอยู่แล้วที่เมืองไทย..แล้วดันไปบอกเขาเวลาถูกถามว่า..
    ..ไม่มี..(ผมเชื่อว่า..มะลิ..คงถามแน่ๆ..ก่อนหน้านั้นนานแล้ว..)...หรือ...หรือ....
    ....มันตีความได้เยอะครับ...แต่สรุปว่า..เธอกับชายพัด..อยู่ในห้องของเขา..มากกว่าชั่วโมง..
    ............................
     
  17. thongchat

    thongchat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +2,195
    ไม่ได้เข้ามาอ่านเสียหลายวัน เลยได้เก็บตกอ่านรวดเดียวหลายตอนแบบหนำใจ

    ส่งข่าวว่ายังติดตามอ่านอยู่ครับ
     
  18. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..............
    ....หวัดดีน้อง....ขอบคุณที่แจ้งข่าว...
    ................
    ............................
    ...........ไอ้ที่อยู่นานนะ..ชายพัดยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า..เขาไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น..นอกจาก
    ปลอบ..สาวมะลิ..ที่ร้องไห้ไม่หยุด..เธอเสียใจมาก..หัวใจร้าว..เขาบอกว่า..ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
    ..จึงค่อยยังชั่ว..แล้วถึงประคองเธอลงมาส่งเธอถึงรถเธอ......
    ...........แล้วหลังจากนั้น..เท่าที่ทราบ..เราก็ไม่ได้เห็นเธอ..อีกเลย...แต่ก็ไม่ทราบรายละเอียดว่า
    ..ทั้งสอง..ยังได้เจอหรือเปล่า....แต่ที่แน่ๆ..ชายพัด..ได้เปลี่ยนชื่อ..เป็น..ชายป่า..ไปเรียบร้อย..
    ....เพราะ..ปรากฏว่า..มีตนเห็นใจ..สาวมะลิ..มากว่า..เลยโดน..โห่หาป่า..เข้าป่าไปเลย...
    .....มีหลายพวกนะครับ...ยิ่งพวกผู้หญิง..นี่แน่นอน..เห็นใจผู้หญิง..และ..มีความเห็นว่า..ชายป่า
    นี่ต้องไปให้..ความหวังอะไร..หรือ..ออกอาการบางอย่างทำให้สาวเจ้าเข้าใจผิด...
    .....อีกพวกที่เป็นผู้ชาย..ที่รู้สึกว่าเสียฟอร์ม..ก็โห่ว่า..ก็น่าจะเออๆออๆไปก่อน..แล้วก็...ซะ..
    ..ไหนๆก็มาถึงที่แล้ว..ไม่น่าทำให้เสียของ..เสียชื่อชายไทย..ที่ไม่ทำตามความตั้งใจของสาวๆ..
    ....(..พวกนี้..ส่วนใหญ่จะเป็นพวก..พี่ๆ..ที่มีเมียแล้ว...)....
    ...ส่วนไอ้พวกหนุ่มๆ..ก็โห่หาป่า..เช่นกัน..เพราะ..หลายคนที่..อยู่ในกลุ่มตีเทนนิส..และ..ไม่ตี..
    ..ที่เหล่มาแต่แรก..แต่เห็นสาวเจ้าไปชอบ..ชายป่า..ก็เกรงใจ...ต่อว่า..ถ้ามาบอกว่า..ไม่ได้จีบ
    แค่คบเป็นเพื่อน..บ้านนี้..เสียบแทนไปตั้งหลายเดือนแล้ว..แถมพวกหนุ่มๆนี้..ก็ไม่ห่วงด้วยที่..จะ
    พาเธอ..กลับเมืองไทย....
    ....ฯลฯ.....
    ....งานนี้..เรียกว่า..เสียหมา..ไปเลย....สุดหล่อ....
    ....แล้วไอ้เรื่องนี้..ก็..กลายเป็นเรื่องเม้าท์..กันใน..โต๊ะทานข้าวเย็น..เป็นอาทิตย์...
    ..............................
    .....เออ..ไปเรื่องคนอื่นซะนาน..เพราะกลอนมันพาไป..ผมนะ..ภาษาญี่ปุ่นแค่...งูๆปลาๆ...
    ..คำง่ายๆ..แค่พอพูดกับ..เด็กอนุบาล..พอได้..แล้วก็กลายเป็นเรื่องเหนื่อย..แต่ก็กลายเป็น
    เรื่อง..ความซาบซึ้ง..ในน้ำใจ..ของคนญี่ปุน..แบบที่ว่า..ผมเองก็ต้อง..น้ำตาคลอเช่นกัน..
    .....ก็ที่ผมเคบบอกว่า..มีพวกแม่บ้านคนญี่ปุ่น..ที่อยู่ที่เมืองซูคูบะ..และ..ซูชิอูร่า(อยู่ใกล้กัน
    เป็นเมืองที่พวกเรา..ใช้ขึ้นรถไฟไปโน่นไปนี่กัน..)..พวกเธอรวมกลุ่มกัน..เป็นกิจกรรม..แบบ
    แลกเปลี่ยน..เรียนรู้..กับ..พวกต่างชาติที่..TBIC นี่..โดยพยายามไปเรียนภาษาอังกฤษมาบ้าง
    ..(..แต่ส่วนใหญ่..ได้แต่..เยส..กับ..โน..)....ส่วนใหญก็จะมากัน..เสาร์-อาทิตย์..มากันที่เป็น
    กลุ่มเป็นสิบคนขึ้นไป..ก็สามสิบกว่าขึ้นไป..ทั้งนั้น..แต่ส่วนใหญ่..พวกเธอชอบคนไทย..
    ......และ..สนิทกับคนไทย..เพราะพวกเรานี่ถ้านับเรื่องความมีน้ำใจ..และ..จิตใจงาม..ก็บอกได้
    เลยว่า..พี่ไทยเรานี่แหละครับ..ที่เป็นที่ ๑ ..อย่างแท้จริง..พวกเธอเหล่านี้..เธอมากัน..บางที..
    พวกเรา..ก็มีโปรแกรมกัน..แต่เมื่อเห็น..เขามาแบบตั้งใจ..และมีมิตรใจ..คนไทยก็พร้อมที่จะ..
    เสวนาด้วย...ต่างกับชาติอื่น...เรียกว่า..แม่มพยายามหนีกัน..เพราะเหมือนไปรบกวนเวลาพวก
    มัน..แถมอย่างพวกละติน..นี่แน่นอน..มามีแต่แก่..มีผัวแล้ว..ไอ้พวกนี้..คุยไม่กี่ทีก็หาเรื่องชิ่ง..
    ...ส่วนพวกไอ้มืดนี่..พวกแม่บ้านบอกกับพวกเราเอง..ว่าทีแรกพยายาม..จะไปคุยด้วย..แต่พออยู่
    ใกล้..พวกเธอทนไม่ไหว..เพราะไม่คุ้นกับ..”กลิ่น”..พวกนี้..และ..เช่นเดียวกัน..ไอ้มืดพวกนี้..ใจ
    มันก็ไม่อยาก..พวกเธอมาแย่งเวลามัน..แล้วพวกมัน..มีคนที่เก่งภาษาญี่ปุ่นนี่น้อยมาก..เรียกว่า..
    ..อึกอัดใจ..ทั้งสองฝ่าย....พวกปินส์..อินโด..พม่า..พวกนี้..ก็ไม่อยากสังคมด้วย..เพราะเหนื่อย..
    .......สิ่งที่เหนื่อย..นะ..ไม่ใช่แรงนะครับ...เหนื่อยใจ..เพราะ..เรียกว่า..ทุกคนภาษาอังกฤษ..
    ...............ใกล้..ศูนย์มากๆ..................
    ...พวกคนไทยเรา..เนื่องจาก..มีคนพูดญี่ปุ่นได้หลายคน..และ..อัธยาศัยดี..ดังนั้น..กลุ่มพวกนี้
    ...ก็เลย..สนิทกับ..คนไทย....ยิ่งสาวไทยนั้น..น้ำใจเยี่ยมทุกคน..ถึงส่วนใหญ่คุยกันแทบไม่รู้
    ก็..พยายามจะเข้าใจ..โดยอาศัยคนที่พูดญี่ปุ่นได้เป็นตัวกลางเชื่อม.....
    .......ส่วนผมนี่..จริงนะไม่ควรจะเข้าไปเกี่ยวเล้ย..เพราะพูดกับเขาไม่เป็น..และ..ตัวเองนะ..มี
    โปรแกรมที่วางไว้ของตัวเอง..ตลอดเวลา..ยิ่ง..เสาร์-อาทิตย์..ผมจะพยายามไปโน่นไปนี่..
    ตามภาษา..นักเดินทาง....แต่วันนั้น..ก็เป็นเหตุ..ผมลงมาที่ล็อบบี้..เตรียมจะยืมจักรยาน..
    เพื่อไปขี่ออกกำลังกาย..และขี่ชมวิว..กลุ่มแม่บ้านนี้..แกมานั่งคุยกับ..คนไทยที่..ล็อบบี้..
    พอดี...ปรากฎว่า..พี่คนไหน..ไม่ทราบ..ก็เรียกดักผมซะก่อน..ให้เข้าไปหา....
    ....................
     
  19. Mali Loi

    Mali Loi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    426
    ค่าพลัง:
    +1,218
    เรื่องรักรันทดของมะลินี้ ทำให้ทราบว่า ถิํงจะเป็นสาวสวย คุณสมบัติพร้อม ใช่ว่าจะสมหวังในเรื่องของความรักได้ ถ้าผู้ชายที่คบไม่ใช่เนื้อคู่ น่าเห็นใจเธอมากๆ ขอบคุณที่ได้เล่าเรื่องราวในหลายๆแง่มุมค่ะ
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ....................................
    ...หวัดดี..คุณมะลิลอย..(..แหม..ชื่อคล้ายนางเอก..ในเรื่องนี้เลยครับ...)....
    ..ก็คงคล้ายกับเรื่อง..โจโจ้ซัง...หรือ..ตำนานรักของทหารไทยในเกาหลี..ที่ผ่านมา..บ้างบางส่วนครับ...
    ...ขอบคุณที่post..ความเห็นมาครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...