ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

รอฟังต่ออยู่นะครับ

เรื่องเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

และอยากให้ช่วยอธิบายเพิ่มเกี่ยวกับ
การตัดออกเป็น 3 คู่ ที่พี่สุดใจ
เคยอธิบายให้ผมฟังแล้วหนะครับ

ขอกราบอนุโมทนาด้วยนะครับ

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ที่พี่สุดใจเล่ามา หลายเรื่องผมเองก็เพิ่งทราบเพิ่งเคยได้ยินนี่แหละครับ ตอนฝึกต่างคนต่างก็ระทมทุกข์ของตัวเอง ก็เลยไม่ค่อยมีใครมาคุยกับใครกันซักเท่าไร ก็มาเป็นคนรออ่านอีกคน นั่งเรียงกับคุณชยุตนี่แหละครับ

 

รอฟังอีกหนึ่งเสียงครับ

และอยากทราบว่า ระบบเค้ามีเครื่องมีที่ทำให้เราเข้าสมาธิเข้าฌานได้ง่ายๆหรือเปล่าครับ หรือว่าการทำสมาธิลึกๆนี้เราต้องไปผู้กระทำเองใช้เครื่องมือไม่ได้

 

ขอบคุณค่ะ ที่มีหลายท่านให้ความสนใจ

พี่สุดใจ ไม่ค่อยได้กล่าวถึงเรื่องการฝึกในระดับที่ลึกมากนักนั้น ก็เพราะรูปแบบในการฝึกจะเป็นการฝึกเฉพาะกิจ มุ่งเน้นให้ลด ละ เลิก แบบเอาจริง เอาจัง และต้องเห็นผลตามเวลาที่กำหนดไว้ แต่ถ้าใครผ่านช่วงนั้นมาได้ก็ถือว่าคุณได้ผ่านการยกระดับจิตเข้าสู่ในระดับสากลจักรวาลแล้ว และสามารถที่จะทำงานกับมนุษย์ต่างดาว เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มสากลในระดับจักรวาล และผู้ที่ยังไม่ผ่านในช่วงนั้น ก็มีการมาเรียนเพิ่มเติมและได้รับรองให้ผ่านเข้าร่วมงานแล้วอีกจำนวนหนึ่ง

ดังนั้น การที่จะทำงานในระดับจักรวาลได้นั้น ไม่ได้ให้ไปเรียนรู้อย่างอื่นเลย ให้แค่เรียนรู้ขันธ์ห้าของตัวเองเท่านั้น เพราะมนุษย์ต่างดาวเน้นให้ใช้ขันธ์ห้านี้เป็นห้องเรียน เรียนเพื่อให้รู้ ให้ออกจากขันธ์ห้าที่ยึดติดกันอยู่ เมื่อเรียนรู้มากขึ้น ก็จะเบื่อหน่ายเห็นความเป็นเช่นนั้นเองของขันธ์ห้า ไม่น่าเอาน่าเป็นจริงๆ

ห้องเรียนมีอยู่แค่นี้เอง เมื่อเราปล่อยวางได้ในระดับหนึ่ง ก็คือการได้ประโยชน์ตนคือมรรคผลในระดับที่สามารถทำงานได้แล้ว มนุษย์ต่างดาวก็สามารถไว้วางใจให้เป็นตัวแทนช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์บนโลกนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทำงานอย่างไม่ยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ย่อมทำได้มาก เป็นผู้ให้ผู้อื่นได้มาก และเมื่อมีความว่างมากขึ้น ความทุกข์จากอุปาทานก็น้อยลงตามลำดับด้วย

สิ่งที่พี่สุดใจ จะเล่าต่อไปนี้ ก็คือเรื่องที่ได้รับการฝึกให้รู้จักขันธ์ห้าของมนุษย์ตามความเป็นจริงของธรรมชาติ และถูกถ่ายทอดโดยมนุษย์จากดวงดาวอื่น ดังนั้น ผู้ที่อ่านข้อความนี้อาจมีความสงสัย ข้องใจในศัพท์หลาย ๆ คำ ก็ขอให้ถามได้นะคะ แต่ถ้าท่านได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธองค์อย่างลึกซึ้งแล้ว ท่านอาจเข้าใจได้โดยง่ายเช่นกัน


แต่ก่อนอื่น พี่สุดใจจะขอนำข้อความจากหนังสือธรรมะ มาให้อ่านเพื่อทำความเข้าใจในมุมมองของกฏธรรมชาติ ให้มากขึ้นอีกสักนิดนะคะ เพราะว่า ระหว่างการฝึกจะมีการนำหนังสือธรรมะ พระไตรปิฎก หรือหนังสือที่เขียนเกี่ยวเนื่องกับกฏของธรรมชาติจำนวนมาก นำมาอ้างอิง นำมาอธิบายประกอบการสอนเรื่องขันธ์ห้าในช่วงฝึก ก็เพื่อให้มนุษย์เข้าใจในกฎของธรรมชาติตามความเป็นจริง และเพื่อให้ผู้ฝึกมีความเข้าใจ สามารถนำไปเทียบเคียงได้ว่า การสอนนั้นมิได้นอกเหนือไปจากพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเลย เพียงแต่อาจจะมีการอธิบายเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจที่ง่ายขึ้น เห็นความจริงของธรรมชาติได้มากขึ้น นั่นเอง<O</O
<O</O
มีอยู่ครั้งหนึ่งได้นำหนังสือเรื่อง เกิดมาทำไม? ของท่านพุทธทาสภิกขุ มาให้อ่านในช่วงฝึก โดยหนังสือเล่มนี้ มนุษย์ต่างดาวกล่าวว่า ท่านพุทธทาส ท่านเขียนหนังสือเล่มนี้ด้วยความรู้ในกฎของธรรมชาติอย่างแท้จริง รู้ตามในสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงค้นพบ และนำออกมาเผยแพร่ โดยเขียนออกมาเป็นหนังสือธรรมะชื่อ เกิดมาทำไม? ให้ผู้ที่ศึกษาธรรมะมีความเข้าใจในระดับลึกซึ้ง ในระดับการปล่อยวางตัวตนได้ เพราะโดยความจริงแล้ว ตัวตนมันไม่ได้มีมาตั้งแต่ทีแรก และในช่วงฝึก ผู้ที่ถูกคัดเลือกให้อ่านข้อความนี้ ก็คือคุณ no.9 นั่นเอง
<O</O</O
พี่สุดใจขอนำข้อความจากหนังสือนี้มาให้อ่านกันก่อน เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญ ในการชี้ให้เห็นความเป็นจริงของธรรมชาติ แล้วพี่สุดใจจะขยายข้อความในมุมมองของระบบอีกครั้งค่ะ
<O</O

 

จากหนังสือ เกิดมาทำไม ? <O</O
ของ พุทธทาสภิกขุ<O</O
<O</O
ตอนที่ 3 ที่แท้คนเรามิได้เกิดมา<O</O

(แสดง ณ โรงธรรมวัดธาตุน้ำไหล 5 สิงหาคม 2508)<O</O
<O</O

สังขารทั้งปวงเป็นอนัตตา<O</O
<O</O

แต่ในที่สุดก็ไม่มีใครเคยนึกไปถึงข้อที่ว่า โดยที่แท้นั้น เรามิได้เกิดอยู่ เพราะว่าไม่มีสติปัญญาเพียงพอที่จะรู้ได้เองเช่นนั้น แม้พระอริยเจ้า และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะได้ตรัสรู้ ได้สอนเป็นประจำอยู่แล้วว่า โดยที่แท้นั้น คนเรามิได้เกิดมา คือมิได้มีสัตว์ ตัวตน บุคคล เราเขาอะไรทำนองนี้อยู่เสมอ คนเหล่านั้นก็ไม่เชื่อ ไม่ยอมเชื่อ แม้จะต้องเชื่อเพราะความเกรงใจ หรือด้วยความเคารพ ก็เป็นความเชื่อแต่ปาก ความรู้สึกที่แท้จริงที่รู้สึกอยู่ในใจนั้น มันพัลวันด้วยเรื่องของการเกิด เราเกิดอยู่ มีตัวเราอยู่ มีตัวเราเป็นปัญหาเฉพาะหน้าอยู่อย่างนี้เรื่อยไป<O</O
<O</O
เป็นอันว่าความรู้ที่จะเกิดขึ้นมาว่า โดยเนื้อแท้คนไม่ได้เกิดอยู่ หรือไม่ได้มีตัวเราที่เกิดมานี้เป็นสิ่งที่มีได้ยาก แต่ในที่สุดเรื่องก็ไปจบลงตรงที่ว่า คนเราโดยเนื้อแท้นั้นมิได้เกิดมาหรือมิได้มีอยู่ หรือมิได้ตายไป อยู่นั่นเอง เพราะตามความจริงนั้นสังขารทั้งปวงเป็นอนัตตา คือ ไม่เป็นตัวคนตัวใคร จึงไม่มีใครเกิดมา หรือใครเป็นอยู่ หรือใครตายไป มีแต่ธรรมชาติล้วน ๆ เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเราทุกคนจะต้องจำความข้อนี้ไว้ให้แม่นยำที่สุด โดยพระบาลีว่า

 

ธรรมชาติเปลี่ยนแปลงตามกฎไตรลักษณ์
<O</O
<O</O
ดังนั้น จึงกล่าวว่าธรรมชาติล้วน ๆ เท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่มีอะไร ไม่มีส่วนไหนที่จะเป็นสัตว์ เป็นบุคคล เป็นตัวเป็นตน เป็นเราเป็นเขา ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับว่า เรารื้อรถยนต์คันหนึ่งออกไปจนถึงที่สุด เป็นส่วน ๆ แล้วยังแยกออกไปอีก เช่น ส่วนที่เป็นเหล็กก็ยังแยกออกไปให้แหลกละเอียดจนไม่เป็นเหล็ก แต่เป็นเพียงส่วนประกอบของเหล็กที่เป็นทองเหลือง ทองแดง เป็นไม้ เป็นยาง เป็นอะไรต่าง ๆ ก็ยังถูกแยกให้แหลกลงไปอีก จนไม่อยู่ในรูปที่เรียกว่าทองเหลือง ทองแดง เป็นไม้เป็นยางหรือเป็นอะไรได้ต่อไป คือไปอยู่ในรูปที่เรียกกันว่าอณู หรือปรมาณูในที่สุด ก็จะเห็นได้ว่า รถยนต์นั้นมิได้มีอยู่จริง เป็นเพียงการประกอบกันเข้า การกุมกันเข้าของส่วนต่าง ๆ ที่ละเอียดเหล่านั้น แล้วมันต้องเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ คือ วัตถุนี้ หรือสิ่งนี้เมื่อถูกกระทำอย่างนี้ มันก็มีปฏิกิริยาเกิดขึ้นอย่างนั้น<O</O
<O</O
สิ่งที่เรียกว่าน้ำมันเชื้อเพลิงก็ดี สิ่งที่เรียกว่าอากาศก็ดี สิ่งที่เรียกว่าการกดดันก็ดี การเผาไหม้ก็ดี วัตถุต่าง ๆ เหล่านั้นก็ดี มันมีกฏเกณฑ์ตามธรรมชาติที่ว่า เมื่อถูกกระทำเข้าอย่างนั้น ก็ย่อมเกิดปฏิกิริยาอย่างนั้น และปฏิกิริยานั้นเองที่เป็นตัวแสดงออกมาให้เห็นเป็นว่า เป็นรูปเป็นร่างเป็นรถยนต์ขึ้นมาแล้ววิ่งไปได้ ถ้าเราดูไปในทางสมมุติจะเห็นว่า รถยนต์นั้นมีอยู่จริง แต่ถ้าเราดูไปในทางปรมัตถ์คือด้วยสติปัญญาที่ละเอียดแล้วก็เห็นว่า รถยนต์นั้นมิได้มีอยู่จริง เป็นแต่เพียงสิ่งที่ประชุมกุมกันเข้าของส่วนย่อย ๆ ต่าง ๆ ถูกต้องตามเรื่องตามราวของธรรมชาติแล้ว มันก็วิ่งไปได้ ไม่มีส่วนไหนที่จะเป็นตัวตนของรถยนต์เลย มีแต่ส่วนประกอบต่างๆ ที่เป็นไปตามกฏเกณฑ์ของสิ่งเหล่านั้น หรือของธรรมชาติ<O</O
<O</O
เมื่อเรามองเห็นในชั้นแรกอย่างนี้ว่า สิ่งที่เรารู้สึกคล้าย ๆ กับว่าเป็นตัวเป็นตนนั้น มันเป็นเพียงการประชุมกุมกันเข้า หรือที่เรียกว่าการปรุงแต่งนั้นเป็นไปถูกต้องตามวิธีการเท่านั้นเอง<O</O
<O</O
ชีวิตสังขารร่างกายของคนเราคนหนึ่ง ๆ นั้น ก็มีลักษณะอย่างเดียวกันนั้น หากแต่ว่ามันมีส่วนประกอบที่ประณีตกว่า ลึกซึ้งกว่า ประเสริฐกว่า เมื่อประชุมกุมกันเข้าแล้ว มันจึงยิ่งกว่ารถยนต์ มีลักษณะเป็นอย่างที่เราเรียกกันว่า คน ๆ หนึ่ง หรือสัตว์ตัวหนึ่ง มีความรู้สึกนึกคิดได้ มีการกระทำตามความรู้สึกนึกคิดได้ และมีความยินดียินร้ายในการเสวยผลแห่งการกระทำนั้น ๆ มันสำคัญตรงที่มีความรู้สึกนึกคิดได้ นี่เองจึงทำให้เกิดความรู้สึกไปในทำนองที่ว่า ตัวเรามีอยู่. <O</O</O<!-- / message --><!-- edit note -->

 

เริ่มจะกลายเป็นกระทู้เผยแพร่ธรรมะไปซะแล้วล่ะนี่ ..
(แต่ก็ดีนะครับ)

เอาเรื่องเอเลี่ยนมาอัพเดตหน่อยดีกว่า..

ค.ศ. 1976 เมื่อ<WBR>ยาน<WBR>ไวกิง<WBR>ได้<WBR>ทำ<WBR>การ<WBR>โคจร<WBR>สำรวจ<WBR>และ<WBR>ถ่าย<WBR>ภาพ<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>ส่ง<WBR>กลับ<WBR>มา<WBR>ยัง<WBR>โลก<WBR>นั้น องค์<WBR>การ<WBR>นา<WBR>ซา<WBR>ได้<WBR>รับ<WBR>ข้อ<WBR>มูล<WBR>ภาพ<WBR>กว่า 60,000 ภาพ และ<WBR>ใน<WBR>ภาพ<WBR>เหล่า<WBR>นั้น<WBR>มี<WBR>อยู่<WBR>ภาพ<WBR>หนึ่ง<WBR>ซึ่ง<WBR>เป็น<WBR>ภาพ<WBR>ของ<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>ใน<WBR>แถบ<WBR>ที่<WBR>เรียก<WBR>ว่า<WBR>ไซ<WBR>โดเนีย (Cydonia) ซึ่ง<WBR>อยู่<WBR>ทาง<WBR>ตอน<WBR>เหนือ<WBR>ของ<WBR>ดาว<WBR>อังคาร ถ่าย<WBR>จาก<WBR>ระยะ<WBR>ความ<WBR>สูง<WBR>ประมาณ 1,500 กม. ถ้า<WBR>เทียบ<WBR>กับ<WBR>ตำแหน่ง<WBR>ที่<WBR>ยาน<WBR>พาท<WBR>ไฟน์เดอร์<WBR>ลง<WBR>จอด<WBR>ก็<WBR>จะ<WBR>อยู่<WBR>เหนือ<WBR>ขึ้น<WBR>ไป<WBR>อีก<WBR>นับ<WBR>พัน<WBR>กิโลเมตร ภาพ<WBR>นั้น<WBR>เป็น<WBR>ภาพ<WBR>พื้น<WBR>ผิว<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>ที่<WBR>เต็ม<WBR>ไป<WBR>ด้วย<WBR>ภู<WBR>เขา<WBR>และ<WBR>มี<WBR>วัตถุ<WBR>ประหลาด<WBR>ขนาด<WBR>ใหญ่ ดู<WBR>แล้ว<WBR>คล้าย<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>คน นัก<WBR>วิทยา<WBR>ศาสตร์<WBR>ของ<WBR>องค์<WBR>การ<WBR>นา<WBR>ซา<WBR>ได้<WBR>เผย<WBR>แพร่<WBR>ภาพ<WBR>นี้<WBR>แก่<WBR>สา<WBR>ธาร<WBR>ณ<WBR>ชน<WBR>เพราะ<WBR>เห็น<WBR>ว่า<WBR>เป็น<WBR>เรื่อง<WBR>ตลก<WBR>ที่<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>มี<WBR>ภู<WBR>เขา<WBR>ที่<WBR>สัณฐาน<WBR>ละม้าย<WBR>คล้าย<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>คน แล้ว<WBR>ก็<WBR>ลืม<WBR>เรื่อง<WBR>นี้<WBR>ไป<WBR>เสีย<WBR>สนิท เพราะ<WBR>ภาพ<WBR>ที่<WBR>ส่ง<WBR>มา<WBR>จาก<WBR>ยาน<WBR>ไวกิง<WBR>มี<WBR>จำนวน<WBR>มาก<WBR>เหลือ<WBR>เกิน

<TABLE cellPadding=5><TBODY><TR><TD><DT> </DT></TD><TD><DT>[FONT=EucrosiaUPC,BrowalliaUPC,DB ThaiText]ภาพ<WBR>การ<WBR>ปล่อย<WBR>จรวด<WBR>ซึ่ง[/FONT] <DT>[FONT=EucrosiaUPC,BrowalliaUPC,DB ThaiText]บรรจุ<WBR>ยาน<WBR>ไวกิง 2 เมื่อ[/FONT] <DT>[FONT=EucrosiaUPC,BrowalliaUPC,DB ThaiText]วัน<WBR>ที่ 9 กันยายน ค.ศ. 1975[/FONT] </DT></TD></TR></TBODY></TABLE>
แต่<WBR>ปรากฏ<WBR>ว่า<WBR>นัก<WBR>วิทยา<WBR>ศาสตร์<WBR>บาง<WBR>ส่วน<WBR>รวม<WBR>ทั้ง<WBR>ผู้<WBR>ที่<WBR>สน<WBR>ใจ<WBR>ค้น<WBR>คว้า<WBR>เกี่ยว<WBR>กับ<WBR>สิ่ง<WBR>มี<WBR>ชีวิต<WBR>นอก<WBR>พิภพ<WBR>กลับ<WBR>ไม่<WBR>รู้<WBR>สึก<WBR>ว่า<WBR>เป็น<WBR>เรื่อง<WBR>ตลก ตรง<WBR>กัน<WBR>ข้าม กลับ<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>เห็น<WBR>ว่า<WBR>ภาพ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>ลึก<WBR>ลับ<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>นั้น<WBR>ไม่<WBR>น่า<WBR>จะ<WBR>เกิด<WBR>จาก<WBR>ปรากฏ<WBR>การณ์<WBR>ธรรม<WBR>ชาติ แต่<WBR>เป็น<WBR>ผล<WBR>งาน<WBR>ทาง<WBR>สถาปัตยกรรม<WBR>มาก<WBR>กว่า ซึ่ง<WBR>นั่น<WBR>ก็<WBR>หมาย<WBR>ความ<WBR>ว่า<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>มี<WBR>สิ่ง<WBR>มี<WBR>ชีวิต<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>วิทยา<WBR>การ<WBR>สูง<WBR>อาศัย<WBR>อยู่!

<TABLE cellPadding=5><TBODY><TR><TD>

<DT>ภาพ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>ยิ้ม<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร</DT>
<DT>ภาพ<WBR>นี้<WBR>เกิด<WBR>จาก<WBR>ปล่อง<WBR>ภู<WBR>เขา<WBR>ไฟ</DT>
<DT>ที่<WBR>บังเอิญ<WBR>ดู<WBR>คล้าย<WBR>หน้า<WBR>คน<WBR>ยิ้ม</DT>
<DT>นา<WBR>ซา<WBR>เชื่อ<WBR>ว่า<WBR>ภาพ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>ลึก<WBR>ลับ</DT>
<DT>ก็<WBR>คง<WBR>เป็น<WBR>เรื่อง<WBR>ตลก<WBR>ทำนอง</DT>
<DT>เดียว<WBR>กัน</DT>​

</TD><TD><DT> </DT></TD></TR></TBODY></TABLE>​

ใน<WBR>ปี ค.ศ. 1979 วิศวกร 2 นาย<WBR>แห่ง<WBR>ศูนย์<WBR>อวกาศ<WBR>กอด<WBR>ดาร์ด สหรัฐ<WBR>อเมริกา คือ ดีเ<WBR>พีย<WBR>โตร (DiPietro) และ<WBR>มอล<WBR>เลน<WBR>นาร์ (Molenaar) ได้<WBR>มา<WBR>พบ<WBR>ภาพ<WBR>ดัง<WBR>กล่าว<WBR>นี้<WBR>อีก<WBR>ครั้ง<WBR>โดย<WBR>บังเอิญ รวม<WBR>ทั้ง<WBR>ยัง<WBR>พบ<WBR>ภาพ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>ลึก<WBR>ลับ<WBR>ที่<WBR>ถ่าย<WBR>ด้วย<WBR>ทิศ<WBR>ทาง<WBR>แสง<WBR>อีก<WBR>แบบ<WBR>หนึ่ง<WBR>ที่<WBR>ทำ<WBR>ให้<WBR>เห็น<WBR>ราย<WBR>ละเอียด<WBR>ได้<WBR>มาก<WBR>ขึ้น ทั้ง<WBR>สอง<WBR>จึง<WBR>นำ<WBR>ข้อ<WBR>มูล<WBR>ภาพ<WBR>ถ่าย<WBR>ทั้ง 2 ภาพ<WBR>นี้<WBR>ไป<WBR>วิเคราะห์ ผล<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ด้วย<WBR>คอมพิวเตอร์<WBR>เห็น<WBR>ได้<WBR>อย่าง<WBR>ชัดเจน<WBR>ว่า<WBR>วัตถุ<WBR>ลึก<WBR>ลับ<WBR>นั้น<WBR>เป็น<WBR>รูป<WBR>ทรง<WBR>ใบ<WBR>หน้า รวม<WBR>ทั้ง<WBR>ยัง<WBR>ได้<WBR>พบ<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ลักษณะ<WBR>คล้าย<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>เกาะ<WBR>กลุ่ม<WBR>กัน<WBR>อยู่<WBR>ทาง<WBR>ด้าน<WBR>ตะวัน<WBR>ตก<WBR>เฉียง<WBR>ใต้<WBR>ของ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>โดย<WBR>อยู่<WBR>ห่าง<WBR>ออก<WBR>ไป<WBR>ราว 20 กิโลเมตร<WBR>อีก<WBR>ด้วย ซึ่ง<WBR>ต่อ<WBR>มา<WBR>ได้<WBR>มี<WBR>การ<WBR>ตั้ง<WBR>ชื่อ<WBR>สิ่ง<WBR>ที<WBR>มี<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>คล้าย<WBR>เป็น<WBR>สถาปัตยกรรม<WBR>นี้ กล่าว<WBR>คือ ส่วน<WBR>ที่<WBR>เป็น<WBR>กลุ่ม<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>จะ<WBR>เรียก<WBR>ว่า<WBR>เป็น เมือง (The City) ใกล้ๆ<WBR>กับ<WBR>เมือง<WBR>เป็น<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>คล้าย<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>ห้า<WBR>เหลี่ยม<WBR>ซึ่ง<WBR>เรียก<WBR>ว่า ป้อม<WBR>ปราการ (The Fortress) นอก<WBR>จาก<WBR>นี้<WBR>ยัง<WBR>มี<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>ที่<WBR>อยู่<WBR>ห่าง<WBR>ออก<WBR>ไป<WBR>อีก เรียก<WBR>ว่า พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>ดี<WBR>และ<WBR>เอ็ม (D&M Pyramid) ซึ่ง<WBR>ชื่อ<WBR>ดี<WBR>และ<WBR>เอ็ม<WBR>นี้<WBR>มา<WBR>จาก<WBR>ชื่อ<WBR>ของ<WBR>ดีเ<WBR>พีย<WBR>โตร<WBR>และ<WBR>มอล<WBR>เลน<WBR>นาร์<WBR>นั่น<WBR>เอง
<CENTER><TABLE cellPadding=5><TBODY><TR><TD><DT> </DT></TD><TD><DT> </DT></TD></TR><TR><TD colSpan=2><CENTER><DT>ภาพ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>ลึก<WBR>ลับ<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร 2 ภาพ<WBR>ที่<WBR>วิศวกร</CENTER><CENTER><DT>แห่ง<WBR>ศูนย์<WBR>อวกาศ<WBR>กอด<WBR>ดาร์ด<WBR>ค้น<WBR>พบ<WBR>และ<WBR>นำ<WBR>มา</CENTER><CENTER><DT>ศึกษา 2 ภาพ<WBR>นี้<WBR>ถ่าย<WBR>คน<WBR>ละ<WBR>เวลา<WBR>กัน<WBR>จึง<WBR>เห็น<WBR>ทิศ<WBR>ทาง</CENTER><CENTER><DT>แสง<WBR>แตก<WBR>ต่าง<WBR>กัน<WBR>และ<WBR>ทำ<WBR>ให้<WBR>เห็น<WBR>ราย<WBR>ละเอียด<WBR>ได้<WBR>ไม่<WBR>เท่า<WBR>กัน</CENTER></DT></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>

<CENTER><TABLE cellPadding=5><TBODY><TR><TD><DT> </DT></TD><TD><DT>ภาพ<WBR>พื้น<WBR>ที่<WBR>แถบ<WBR>ไซ<WBR>โดเนีย จะ<WBR>เห็น<WBR>วัตถุ<WBR>รูป <DT>ทรง<WBR>คล้าย<WBR>สิ่ง<WBR>ก่อ<WBR>สร้าง<WBR>หลาย<WBR>อย่าง<WBR>ซึ่ง<WBR>ทำ<WBR>ให้ <DT>นัก<WBR>วิทยา<WBR>ศาสตร์<WBR>บาง<WBR>ส่วน<WBR>เชื่อ<WBR>ว่า<WBR>น่า<WBR>จะ<WBR>เคย <DT>มี<WBR>สิ่ง<WBR>มี<WBR>ชีวิต<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>อารยธรรม<WBR>และ<WBR>วิทยา<WBR>การ <DT>อัน<WBR>สูง<WBR>ส่ง<WBR>อาศัย<WBR>อยู่ (ค<WBR>ลิก<WBR>ที่<WBR>ตัว<WBR>ภาพ<WBR>เพื่อ <DT>ดู<WBR>ภาพ<WBR>ขยาย) </DT></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>ต่อ<WBR>มา<WBR>ใน<WBR>ปี ค.ศ. 1986 คาร์ลอต<WBR>โต นัก<WBR>วิจัย<WBR>ชาว<WBR>อเมริกัน<WBR>ได้<WBR>ทำ<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ข้อ<WBR>มูล<WBR>ภาพ<WBR>ถ่าย<WBR>จาก<WBR>ยาน<WBR>ไวกิง<WBR>ซ้ำ<WBR>อีก แต่<WBR>ใช้<WBR>วิธี<WBR>การ<WBR>ทาง<WBR>คณิต<WBR>ศาสตร์<WBR>ใหม่ๆ<WBR>ใน<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ซึ่ง<WBR>ต้อง<WBR>ใช้<WBR>คอมพิวเตอร์<WBR>ช่วย คาร์ลอต<WBR>โต<WBR>ใช้<WBR>เทคนิค<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>แบบแฟ<WBR>รกทัล (fractal) และ<WBR>พบ<WBR>ว่า ใบ<WBR>หน้า ที่<WBR>เห็น<WBR>นั้น<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>กว้าง<WBR>ถึง 2 กม. ยาว 2.5 กม. และ<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>สูง<WBR>จาก<WBR>พื้น<WBR>ผิว<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>ถึง 400 เมตร จาก<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์ คาร์ลอต<WBR>โต<WBR>ได้<WBR>พบ<WBR>ร่อง<WBR>รอย<WBR>ของ ฟัน ใน<WBR>ปาก<WBR>ของ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>ลึก<WBR>ลับ<WBR>ด้วย รวม<WBR>ทั้ง<WBR>จาก<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>ของ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>พบ<WBR>ว่า<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>ซีก<WBR>ซ้าย<WBR>และ<WBR>ขวา<WBR>สมมาตร<WBR>กัน นอก<WBR>จาก<WBR>นี้ ยัง<WBR>พบ<WBR>ร่อง<WBR>รอย<WBR>ซึ่ง<WBR>น่า<WBR>จะ<WBR>เป็น<WBR>ส่วน<WBR>ที่<WBR>เป็น ตา<WBR>ดำ ของ<WBR>ใบ<WBR>หน้า นั่น<WBR>แสดง<WBR>ว่า<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>นั้น<WBR>ไม่<WBR>ใช่<WBR>เกิด<WBR>จาก<WBR>ภู<WBR>เขา<WBR>ที่<WBR>โดน<WBR>ลม<WBR>พายุ<WBR>พัด<WBR>จน<WBR>สึก<WBR>กร่อน<WBR>กอปร<WBR>กับ<WBR>ทิศ<WBR>ทาง<WBR>แสง<WBR>ใน<WBR>การ<WBR>ถ่าย<WBR>ภาพ<WBR>ทำ<WBR>ให้<WBR>เห็น<WBR>เป็น<WBR>รูป<WBR>ร่าง<WBR>คล้าย<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>มนุษย์<WBR>อย่าง<WBR>ที่<WBR>นา<WBR>ซา<WBR>เชื่อ<WBR>เป็น<WBR>แน่ แต่<WBR>เป็น<WBR>สิ่ง<WBR>ก่อ<WBR>สร้าง<WBR>ของ<WBR>อารยธรรม<WBR>บน<WBR>โลก<WBR>อื่น
<CENTER></CENTER>

 

<CENTER><TABLE cellPadding=5><TBODY><TR><TD><DT> </DT></TD></TR><TR><TD><CENTER>
</CENTER></TD></TR><TR><TD><CENTER><DT>ภาพ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>ที่<WBR>เห็น<WBR>ร่อง<WBR>รอย<WBR>ของ<WBR>ตา<WBR>ดำ ฟัน รวม<WBR>ทั้ง</CENTER><CENTER><DT>ใบ<WBR>หน้า<WBR>ยัง<WBR>มี<WBR>สมมาตร<WBR>ระหว่าง<WBR>ซีก<WBR>ซ้าย<WBR>กับ<WBR>ซีก<WBR>ขวา</CENTER></DT></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>นอก<WBR>จาก<WBR>นี้ คาร์ลอต<WBR>โต<WBR>ยัง<WBR>เสนอ<WBR>วิธี<WBR>วิเคราะห์<WBR>ข้อ<WBR>มูล<WBR>ภาพ<WBR>ถ่าย<WBR>ผิว<WBR>ดาว<WBR>เคราะห์<WBR>โดย<WBR>ใช้<WBR>เทคนิคแฟ<WBR>รกทัล<WBR>นี้<WBR>เพื่อ<WBR>แยก<WBR>แยะ<WBR>สิ่ง<WBR>ที่<WBR>เป็น<WBR>สิ่ง<WBR>ก่อ<WBR>สร้าง<WBR>และ<WBR>สิ่ง<WBR>ที่<WBR>เกิด<WBR>ขึ้น<WBR>ตาม<WBR>ธรรม<WBR>ชาติ<WBR>อีก<WBR>ด้วย ทั้ง<WBR>นี้ โดย<WBR>มี<WBR>สมมติ<WBR>ฐาน<WBR>ว่า<WBR>สิ่ง<WBR>ก่อ<WBR>สร้าง<WBR>นั้น<WBR>จะ<WBR>มี<WBR>ลักษณะ<WBR>แตก<WBR>ต่าง<WBR>จาก<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>ตาม<WBR>ธรรม<WBR>ชาติ เช่น มี<WBR>เหลี่ยม<WBR>มี<WBR>มุม มี<WBR>ช่วง<WBR>และ<WBR>จังหวะ มี<WBR>สมมาตร ฯลฯ โครง<WBR>สร้าง 2 ประเภท<WBR>นี้<WBR>เมื่อ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ด้วย<WBR>เทคนิคแฟ<WBR>รกทัล<WBR>แล้ว<WBR>จะ<WBR>ให้<WBR>ค่า<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ที่<WBR>แตก<WBR>ต่าง<WBR>กัน<WBR>อย่าง<WBR>เห็น<WBR>ได้<WBR>ชัด ซึ่ง<WBR>จาก<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ภาพ<WBR>ถ่าย<WBR>แถบ<WBR>ไซ<WBR>โดเนีย คาร์ลอต<WBR>โต<WBR>พบ<WBR>ว่า<WBR>มี<WBR>อยู่ 4 ตำแหน่ง<WBR>ที่<WBR>ไม่<WBR>ได้<WBR>เกิด<WBR>ขึ้น<WBR>ตาม<WBR>ธรรม<WBR>ชาติ นั่น<WBR>คือ ตำแหน่ง<WBR>ที่<WBR>เป็น<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>ลึก<WBR>ลับ เมือง พื้น<WBR>ที่<WBR>ใกล้<WBR>เมือง และ<WBR>ป้อม<WBR>ปราการ ส่วน<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>ดี<WBR>และ<WBR>เอ็ม<WBR>นั้น<WBR>ไม่<WBR>พบ<WBR>สิ่ง<WBR>ผิด<WBR>สังเกต
<TABLE cellPadding=5><TBODY><TR><TD><DT> </DT></TD><TD><DT>พื้น<WBR>ที่ 4 จุด<WBR>ที่<WBR>ไม่<WBR>ได้<WBR>เกิด<WBR>ขึ้น<WBR>ตาม<WBR>ธรรม<WBR>ชาติ <DT>ตาม<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ของ<WBR>คาร์ลอต<WBR>โต </DT></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellPadding=5><TBODY><TR><TD>

<DT>ภาพ<WBR>ขยาย<WBR>บริเวณ<WBR>เมือง</DT>​

</TD><TD><DT></DT></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellPadding=5><TBODY><TR><TD><DT> </DT></TD><TD><DT>ภาพ 3 มิติ<WBR>ที่<WBR>สร้าง <DT>ด้วย<WBR>คอมพิวเตอร์ <DT>จาก<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ของ <DT>เดเ<WBR>มอร์ โอเลจาร์ </DT></TD></TR></TBODY></TABLE>​

ต่อ<WBR>มา<WBR>ใน<WBR>ปี ค.ศ. 1988 เออ<WBR>รอล ทอ<WBR>รัน นัก<WBR>วิจัย<WBR>ชาว<WBR>อเมริกัน<WBR>ได้<WBR>ทำ<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ข้อ<WBR>มูล<WBR>ภาพ<WBR>ถ่าย<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>ดี<WBR>และ<WBR>เอ็ม ทอ<WBR>รัน<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>เห็น<WBR>ว่า<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>ที่<WBR>เห็น<WBR>นั้น<WBR>น่า<WBR>จะ<WBR>เกิด<WBR>จาก<WBR>การ<WBR>ก่อ<WBR>สร้าง มิ<WBR>ใช่<WBR>เกิด<WBR>จาก<WBR>ปรากฏ<WBR>การณ์<WBR>ธรรม<WBR>ชาติ จาก<WBR>นั้น ไร<WBR>แลนด์ บาค<WBR>แมน<WBR>ก็<WBR>ทำ<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ซ้ำ<WBR>เช่น<WBR>กัน<WBR>และ<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>เห็น<WBR>เช่น<WBR>เดียว<WBR>กับ<WBR>ทอ<WBR>รัน แต่<WBR>ราย<WBR>ละเอียด<WBR>นั้น<WBR>แตก<WBR>ต่าง<WBR>กัน กล่าว<WBR>คือ ทอ<WBR>รัน<WBR>วิเคราะห์<WBR>พบ<WBR>ว่า<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>ของ<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>นี้<WBR>สัด<WBR>ส่วน<WBR>ระหว่าง<WBR>ด้าน<WBR>ต่างๆ<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>สัมพันธ์<WBR>กับ<WBR>ค่า<WBR>คง<WBR>ที่<WBR>ไพ (Pi มี<WBR>ค่า<WBR>ประมาณ 2.14) และ<WBR>ค่า<WBR>ลอกา<WBR>ริ<WBR>ทึม<WBR>ฐาน<WBR>ธรรม<WBR>ชาติ (natural logarithm เขียน<WBR>แทน<WBR>ด้วย e มี<WBR>ค่า 2.71828) แต่<WBR>บาค<WBR>แมน<WBR>กลับ<WBR>พบ<WBR>ว่า<WBR>สัด<WBR>ส่วน<WBR>ระหว่าง<WBR>ด้าน<WBR>ต่างๆ<WBR>นั้น<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>สัมพันธ์<WBR>กับ<WBR>ค่า<WBR>กรณฑ์<WBR>ที่ 2 ของ 2 ซึ่ง<WBR>มี<WBR>ค่า<WBR>ประมาณ 1.414
<CENTER>
</CENTER><CENTER>
</CENTER><CENTER><DT>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>ดี<WBR>และ<WBR>เอ็ม<WBR>มี<WBR>สัณฐาน<WBR>ทรง<WBR>ห้า<WBR>เหลี่ยม<WBR>และ<WBR>มี<WBR>การ<WBR>วาง<WBR>ตัว<WBR>ใน<WBR>แนว<WBR>เหนือ<WBR>ใต้<WBR>อย่าง</CENTER><CENTER><DT>เที่ยง<WBR>ตรง<WBR>น่า<WBR>ประหลาด</CENTER></DT>

 

<DT>
<CENTER><DT></CENTER><CENTER><DT>บาค<WBR>แมน<WBR>พบ<WBR>ว่า<WBR>สัด<WBR>ส่วน<WBR>ระหว่าง<WBR>ด้าน<WBR>ต่างๆ<WBR>ของ<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>มี</CENTER><CENTER><DT>ความ<WBR>สัมพันธ์<WBR>กับ<WBR>ค่า<WBR>กรณฑ์<WBR>ที่ 2 ของ 2 ซึ่ง<WBR>มี<WBR>ค่า<WBR>ประมาณ 1.414 </CENTER>จวบ<WBR>จน<WBR>ถึง<WBR>ปัจจุบัน เป็น<WBR>เวลา<WBR>เกือบ 20 ปี<WBR>ที่<WBR>ภาพ<WBR>ถ่าย<WBR>ประหลาด<WBR>แถบ<WBR>ไซ<WBR>โดเนีย<WBR>ของ<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>ถูก<WBR>นำ<WBR>มา<WBR>วิเคราะห์<WBR>ด้วย<WBR>เทคนิค<WBR>ต่างๆ<WBR>เพื่อ<WBR>หา<WBR>ข้อ<WBR>สรุป<WBR>ว่า<WBR>สิ่ง<WBR>ต่างๆ<WBR>เหล่า<WBR>นี้<WBR>เป็น<WBR>ผล<WBR>งาน<WBR>ของ<WBR>ธรรม<WBR>ชาติ<WBR>หรือ<WBR>เป็น<WBR>สถาปัตยกรรม<WBR>ของ<WBR>สิ่ง<WBR>มี<WBR>ชีวิต<WBR>นอก<WBR>พิภพ ซึ่ง<WBR>น้ำ<WBR>หนัก<WBR>ของ<WBR>การ<WBR>เป็น<WBR>สถาปัตยกรรม<WBR>นอก<WBR>โลก<WBR>ก็<WBR>ยิ่ง<WBR>มี<WBR>มาก<WBR>ขึ้น<WBR>เรื่อยๆ ถ้า<WBR>แนว<WBR>คิด<WBR>นั้น<WBR>เป็น<WBR>ความ<WBR>จริง นั่น<WBR>ก็<WBR>ย่อม<WBR>แสดง<WBR>ว่า<WBR>มี<WBR>สิ่ง<WBR>มี<WBR>ชีวิต<WBR>ที่<WBR>เรา<WBR>ไม่<WBR>รู้<WBR>จัก<WBR>นี้<WBR>ต้อง<WBR>มี<WBR>อารยธรรม<WBR>อัน<WBR>สูง<WBR>ส่ง ไม่<WBR>เช่น<WBR>นั้น<WBR>คง<WBR>ไม่<WBR>อาจ<WBR>สร้าง<WBR>สถาปัตยกรรม<WBR>ที่<WBR>ใหญ่<WBR>โต<WBR>ขนาด<WBR>นั้น<WBR>ได้ รวม<WBR>ทั้ง<WBR>บาง<WBR>คน<WBR>ยัง<WBR>เชื่อ<WBR>ว่า<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>มี<WBR>ส่วน<WBR>สัมพันธ์<WBR>กับ<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>ใน<WBR>ประเทศ<WBR>อียิปต์<WBR>อีก<WBR>ด้วย เพราะ<WBR>ไม่<WBR>น่า<WBR>เป็น<WBR>ไป<WBR>ได้<WBR>ที่<WBR>สิ่ง<WBR>ก่อ<WBR>สร้าง<WBR>ของ 2 โลก<WBR>จะ<WBR>เหมือน<WBR>กัน<WBR>ได้<WBR>โดย<WBR>บังเอิญ และ<WBR>มนุษย์<WBR>ก็<WBR>สงสัย<WBR>กัน<WBR>มา<WBR>นาน<WBR>แล้ว<WBR>ว่า<WBR>ชาว<WBR>อียิปต์<WBR>โบราณ<WBR>สร้าง<WBR>สถาปัตยกรรม<WBR>อัน<WBR>ยิ่ง<WBR>ใหญ่<WBR>เช่น<WBR>นี้<WBR>ได้<WBR>อย่าง<WBR>ไร<WBR>ทั้งๆ<WBR>ที่<WBR>ไม่<WBR>น่า<WBR>จะ<WBR>มี<WBR>วิทยา<WBR>การ<WBR>เพียง<WBR>พอ คำ<WBR>ตอบ<WBR>ก็<WBR>อาจ<WBR>จะ<WBR>อยู่<WBR>ที่<WBR>วิทยา<WBR>การ<WBR>ของ<WBR>ชาว<WBR>โลก<WBR>อื่น<WBR>นั่น<WBR>เอง
<CENTER>
</CENTER><CENTER>เปรียบ<WBR>เทียบ<WBR>ภาพ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>กับ<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>ทรง<WBR>รี<WBR>ใน<WBR>เขต<WBR>เมือง<WBR>โดย<WBR>ไม่<WBR>มี<WBR>การ<WBR>ปรับ<WBR>ขนาด<WBR>และ<WBR>ทิศ<WBR>ทาง<WBR>ของ<WBR>ภาพ<WBR>แต่<WBR>อย่าง<WBR>ใด จะ<WBR>เห็น<WBR>ว่า<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>ทั้ง 2 แห่ง<WBR>นี้<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>คล้าย<WBR>คลึง<WBR>กัน<WBR>มาก ไม่<WBR>ว่า<WBR>จะ<WBR>เป็น<WBR>ขนาด ทิศ<WBR>ทาง และ<WBR>รูป<WBR>ทรง จน<WBR>น่า<WBR>สงสัย<WBR>ว่า<WBR>ทั้ง 2 โครง<WBR>สร้าง<WBR>นี้<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>เกี่ยว<WBR>ข้อง<WBR>กัน<WBR>หรือ<WBR>ไม่
</CENTER><CENTER>

</CENTER><CENTER>
</CENTER><CENTER>เปรียบ<WBR>เทียบ<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>ของ<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>กับ<WBR>ป้อม<WBR>ปราการ โครง<WBR>สร้าง<WBR>คู่<WBR>นี้<WBR>ก็<WBR>มี<WBR>ความ<WBR>คล้าย<WBR>คลึง<WBR>กัน<WBR>ทั้ง<WBR>ขนาด ทิศ<WBR>ทาง และ<WBR>รูป<WBR>ทรง<WBR>เช่น<WBR>เดียว<WBR>กับ<WBR>ของ<WBR>คู่<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>และ<WBR>โครง<WBR>สร้าง<WBR>ทรง<WBR>รี
</CENTER>แต่<WBR>จาก<WBR>ข้อ<WBR>มูล<WBR>ใน<WBR>ปัจจุบัน<WBR>ก็<WBR>เป็น<WBR>ที่<WBR>ทราบ<WBR>กัน<WBR>ดี<WBR>แล้ว<WBR>ว่า<WBR>สภาพ<WBR>แวด<WBR>ล้อม<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>ไม่<WBR>น่า<WBR>จะ<WBR>มี<WBR>สิ่ง<WBR>มี<WBR>ชีวิต<WBR>อาศัย<WBR>อยู่<WBR>ได้
ถ้า<WBR>เช่น<WBR>นั้น<WBR>อารยธรรม<WBR>เหล่า<WBR>นี้<WBR>มา<WBR>จาก<WBR>ที่<WBR>ใด?
นัก<WBR>วิเคราะห์<WBR>ได้<WBR>ตั้ง<WBR>สมมติ<WBR>ฐาน<WBR>ไว้<WBR>หลาย<WBR>ประการ แต่<WBR>ที่<WBR>น่า<WBR>สน<WBR>ใจ<WBR>มี<WBR>อยู่ 2 สมมติ<WBR>ฐาน คือ
สมมติ<WBR>ฐาน<WBR>แรก มี<WBR>อารยธรรม<WBR>อัน<WBR>สูง<WBR>ส่ง<WBR>เจริญ<WBR>รุ่ง<WBR>เรือง<WBR>อยู่<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>มา<WBR>นาน<WBR>หลาย<WBR>พัน<WBR>ล้าน<WBR>ปี<WBR>แล้ว แต่<WBR>ต่อ<WBR>มาส<WBR>ภาพ<WBR>แวด<WBR>ล้อม<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>เปลี่ยน<WBR>แปลง<WBR>ไป<WBR>จน<WBR>ชีวิต<WBR>เหล่า<WBR>นั้น<WBR>ไม่<WBR>อาจ<WBR>ปรับ<WBR>ตัว<WBR>ได้<WBR>จึง<WBR>สูญ<WBR>พันธุ์<WBR>ไป<WBR>จน<WBR>หมด
สมมติ<WBR>ฐาน<WBR>ที่<WBR>สอง มี<WBR>อารยธรรม<WBR>อื่น<WBR>ที่<WBR>มา<WBR>จาก<WBR>นอก<WBR>ระบบ<WBR>สุริยะ<WBR>มา<WBR>ตั้ง<WBR>รก<WBR>ราก<WBR>อยู่<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>เมื่อ<WBR>นาน<WBR>มา<WBR>แล้ว<WBR>ใน<WBR>ยุค<WBR>ที่<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>มี<WBR>สภาพ<WBR>แวด<WBR>ล้อม<WBR>เหมาะ<WBR>ที่<WBR>จะ<WBR>อาศัย<WBR>อยู่<WBR>ได้ ต่อ<WBR>มา<WBR>เมื่อ<WBR>สภาพ<WBR>แวด<WBR>ล้อม<WBR>เปลี่ยน<WBR>แปลง<WBR>ไป สิ่ง<WBR>มี<WBR>ชีวิต<WBR>เหล่า<WBR>นี้<WBR>จึง<WBR>อพยพ<WBR>ไป<WBR>ตั้ง<WBR>ถิ่น<WBR>ฐาน<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>ดวง<WBR>อื่น<WBR>แทน เหลือ<WBR>ทิ้ง<WBR>ไว้<WBR>แต่<WBR>ซาก<WBR>แห่ง<WBR>ความ<WBR>รุ่ง<WBR>เรือง<WBR>ใน<WBR>อดีต
<TABLE cellPadding=5><TBODY><TR><TD><DT> </DT></TD><TD><DT>ภาพ<WBR>วาด<WBR>จินตนาการ<WBR>ถึง<WBR>สภาพ<WBR>ของ <DT>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>ใน<WBR>ยุค<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>ผู้<WBR>ที่<WBR>เจริญ<WBR>ด้วย <DT>วิทยา<WBR>การ<WBR>อาศัย<WBR>อยู่<WBR>โดย<WBR>มี<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด <DT>เป็น<WBR>สถาน<WBR>ที่<WBR>ประกอบ<WBR>พิธี<WBR>กรรม </DT></TD></TR></TBODY></TABLE>นอก<WBR>จาก<WBR>นี้ นัก<WBR>วิเคราะห์<WBR>ยัง<WBR>ตั้ง<WBR>ข้อ<WBR>สังเกต<WBR>เพิ่ม<WBR>เติม<WBR>อีก<WBR>ว่า หลัง<WBR>จาก<WBR>ที่<WBR>มี<WBR>การ<WBR>วิเคราะห์<WBR>ภาพ<WBR>ถ่าย<WBR>แถบ<WBR>ไซ<WBR>โดเนีย<WBR>และ<WBR>ตี<WBR>พิมพ์<WBR>ใน<WBR>วาร<WBR>สาร<WBR>ทาง<WBR>วิทยา<WBR>ศาสตร์<WBR>หลาย<WBR>ต่อ<WBR>หลาย<WBR>ครั้ง รวม<WBR>ทั้ง<WBR>องค์<WBR>การ<WBR>นา<WBR>ซา<WBR>เอง<WBR>ก็<WBR>กระวีกระวาด<WBR>แถลง<WBR>ผล<WBR>การ<WBR>ค้น<WBR>พบ<WBR>จุลินทรีย์<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>จาก<WBR>ก้อน<WBR>อุกกาบาต<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>ที่<WBR>พบ<WBR>ใน<WBR>โลก และ<WBR>ยัง<WBR>มี<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>สำรวจ<WBR>สิ่ง<WBR>มี<WBR>ชีวิต<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>ใน<WBR>โอกาส<WBR>ต่อ<WBR>ไป<WBR>อีก<WBR>โดย<WBR>ให้<WBR>ยาน<WBR>พาท<WBR>ไฟน์เดอร์<WBR>ไป<WBR>นำ<WBR>ร่อง<WBR>ก่อน แต่<WBR>กับ<WBR>เรื่อง<WBR>สถาปัตยกรรม<WBR>อัน<WBR>ใหญ่<WBR>โต<WBR>มโหฬาร<WBR>หลาย<WBR>แห่ง<WBR>บน<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>นี้<WBR>องค์<WBR>การ<WBR>นา<WBR>ซาก<WBR>ลับ<WBR>วาง<WBR>เฉย<WBR>จน<WBR>ผิด<WBR>สังเกต ยิ่ง<WBR>ไป<WBR>กว่า<WBR>นั้น โครง<WBR>การ<WBR>สำรวจ<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>ของ<WBR>ยาน<WBR>มารส์<WBR>ออป<WBR>เซอร์<WBR>เวอร์ (Mars Observer) ที่<WBR>ถูก<WBR>ส่ง<WBR>ไป<WBR>โคจร<WBR>รอบ<WBR>ดาว<WBR>อังคาร<WBR>เมื่อ<WBR>ปี ค.ศ. 1993 ก็<WBR>ไม่<WBR>มี<WBR>การ<WBR>ถ่าย<WBR>ภาพ<WBR>ใบ<WBR>หน้า<WBR>และ<WBR>พี<WBR>ระ<WBR>มิด<WBR>เหล่า<WBR>นี้<WBR>มา<WBR>เลย<WBR>ทั้งๆ<WBR>ที่<WBR>พื้น<WBR>ที่<WBR>แถบ<WBR>ไซ<WBR>โดเนี<WBR>ยอ<WBR>ยู่<WBR>ใน<WBR>แผน<WBR>การ<WBR>ถ่าย<WBR>ภาพ แต่<WBR>นา<WBR>ซาก<WBR>ลับ<WBR>อ้าง<WBR>เหตุ<WBR>ขัด<WBR>ข้อง<WBR>ทาง<WBR>เทคนิค<WBR>ว่า<WBR>ใน<WBR>ขณะ<WBR>ยาน<WBR>โคจร<WBR>เพื่อ<WBR>จะ<WBR>ถ่าย<WBR>ภาพ<WBR>ใน<WBR>แถบ<WBR>นั้น<WBR>เกิด<WBR>เสีย<WBR>การ<WBR>ควบ<WBR>คุม<WBR>พอ<WBR>ดี จึง<WBR>ไม่<WBR>ได้<WBR>ถ่าย<WBR>ภาพ<WBR>ไว้ รวม<WBR>ทั้ง<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>มารส์<WBR>โก<WBR>ลบอล<WBR>เซอร์เว<WBR>เยอร์ (Mars Globol Servayor) และ<WBR>โครง<WBR>การ<WBR>พาท<WBR>ไฟน์เดอร์ (Pathfinder) ก็<WBR>ไม่<WBR>มี<WBR>แผน<WBR>การ<WBR>ที่<WBR>จะ<WBR>ถ่าย<WBR>ภาพ<WBR>แถบ<WBR>ไซ<WBR>โดเนีย<WBR>เช่น<WBR>กัน ยิ่ง<WBR>สร้าง<WBR>ความ<WBR>สงสัย<WBR>แก่<WBR>ผู้<WBR>สน<WBR>ใจ<WBR>ติด<WBR>ตาม<WBR>ข่าว<WBR>การ<WBR>สำรวจ<WBR>ดาว<WBR>อังคาร ว่า<WBR>นา<WBR>ซา<WBR>กำลัง<WBR>เก็บ<WBR>งำ<WBR>ความ<WBR>ลับ<WBR>อะไร<WBR>ไว้<WBR>เพราะ<WBR>แสดง<WBR>อาการ<WBR>ไม่<WBR>สน<WBR>ใจ<WBR>จน<WBR>ผิด<WBR>ปกติ จน<WBR>ถึง<WBR>กระทั่ง<WBR>มี<WBR>การ<WBR>ล่า<WBR>ราย<WBR>ชื่อ<WBR>เพื่อ<WBR>แสดง<WBR>ประชา<WBR>มติ<WBR>ของ<WBR>มหา<WBR>ชน<WBR>เพื่อ<WBR>กด<WBR>ดัน<WBR>ให้<WBR>นา<WBR>ซา<WBR>บรรจุ<WBR>แผน<WBR>การ<WBR>ถ่าย<WBR>ภาพ<WBR>ใบ<WBR>หน้า พี<WBR>ระ<WBR>มิด และ<WBR>บริเวณ<WBR>ใกล้<WBR>เคียง<WBR>ให้<WBR>ได้
</DT>ที่มาhttp://www.yupparaj.ac.th/special/mar_face/fom_p2.htm


ถาม-ถ้าพระผู้สร้างมีจริง และเป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิตขึ้นมาจริงอย่างที่ท่านบอก สิ่งนี้ขัดแย้งกับกฎแห่งกรรมของพุทธศาสนาหรือไม่?

ตอบ- พระผู้สร้าง ได้สร้างทุกอย่างในจักรวาลขึ้นมา แต่ท่านได้ให้อิสระเสรีภาพกับมนุษย์ทุกคน ที่จะทำดี หรือทำชั่วก็ได้ หากทำดี ก็ได้รับผบตอบแทนที่ดี ทำชั่ว ก็ได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดี นับว่ายุติธรรมที่สุดแล้วไม่ใช่หรือ? ฉะนั้น ไม่ขัดแย้งกับกฎแห่งกรรมของพุทธศาสนาเลย และนี่คือ ความจริงของกฎจักรวาล........


ถาม-สิ่งมีชีวิตในจักรวาลอันกว้างใหญ่นี้ แบ่งเป็นระดับอย่างไรบ้าง? และพวกท่าน(มนุษย์ต่างดาว)เป็นผี หรือเทวดา หรืออะไรกันแน่?

ตอบ-พลังงานชีวิต หรือจิตวิญญาณในจักรวาลนี้ แบ่งเป็นระดับต่างๆมากมาย จะเรียกว่า "ภพภูมิ" หรือ"มิติ"ก็ได้ มนุษย์อยู่ในมิติที่ 3 มีความกว้าง ยาว ลึก แต่ไม่สามารถควบคุม"เวลา"ได้ พวกเราอยู่ในมิติสูงกว่าพวกท่านหลายมิติ เราอยู่สูงกว่ามิติ"ผี" แต่เราก็ยังไม่ใช่พวกเทพ หรือพรหม อย่างที่พวกท่านเชื่อว่ามี เราเป็น"มนุษย์"อีกชนิดหนึ่ง ที่อยู่ยังดาวดวงอื่น มีความเจริญทางวิทยาศาสตร์ และศีลธรรมสูงกว่าพวกท่านมาก ความโกรธ โลภ หลง ในพวกเรา แทบไม่มีเหลืออยู่เลย เรามีจิตวิญญาณที่เป็นอมตะแบบพวกท่าน แต่เราก็มี"ร่าง" ที่ไม่คล้ายกับพวกท่านนัก และมี"ยานบิน" ที่ทำให้เราเดินทางไปยังดาวต่างๆได้อย่างรวดเร็วกว่าแสง พวกเราเป็นสมาชิกของสมาคมระหว่างดวงดาว ซึ่งมนุษย์ยังไม่ได้เป็น แต่คาดว่า มนุษย์คงสามารถพัฒนาตัวเองให้เข้าเป็นสมาชิกได้ในศตวรรษที่ 21 นี้ หากมนุษย์สามารถลดกิเลส โกรธ โลภ หลง ลงได้ เทวดาและพรหมนั้นมีจริง เราสามารถติดต่อได้ทางจิต แต่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกัน พวกเขามักเรียกพวกเราว่า"มนุษย์พิเศษ" ส่วนผีนั้น ไม่มีร่างถาวร มีแต่จิต และส่วนมาก ไม่สามารถออกไปจากโลกนี้ได้เกิน 50 กม. เพราะมีสิ่งที่บังคับควบคุมไว้ แต่"มนุษย์ต่างดาว"ไม่มีข้อจำกัดนี้......


ถาม-โลกดาวอังคารของท่าน ทำไมสหรัฐอเมริกา ส่งจรวดไปแล้ว ไม่เจอผู้คนเลย และท่านมีระบบการปกครองอย่างไร?

ตอบ-โลกของเรา เคยมีบรรยากาศ มีน้ำ เช่นโลกของท่าน แต่พวกเรากันเอง ก็ทำลายสิ่งแวดล้อมจนหมดสิ้น และทำสงครามกันด้วย คนต้องหนีลงไปอยู่ใต้ดินสำหรับผู้ที่รอดตาย เราอยู่ลึกลงไปหลายกิโลเมตร เรายังใช้ระบบบการปกครอง ที่มีหัวหน้า คล้ายพระเจ้าแผ่นดิน ทุกคนก่อนเกิด ถูกกำหนดไว้แล้วว่า ต้องเกิดมาเป็นเพศอะไร? และโตขึ้นทำอาชีพอะไร? เช่น เราถูกกำหนดให้เกิดเป็นทหาร จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ โลกของท่านดีกว่า ที่เกิดแล้วเลือกเรียนอะไรก็ได้ตามใจชอบ จะเป็นคนดีหรือคนชั่ว ก็ขึ้นอยู่กับตัวเอง โลกของเราต้องเป็นคนดีเท่านั้น เป็นคนเลวไม่ได้ คนเลวจะถูกกำจัดออกไปทันที และไม่ได้เกิดอีกเลย......

จากบทสัมภาษณ์อ.เทพนม เมืองแมน ในหนังสือจานบินในประเทศไทย

 

ขอบคุณค่ะที่ยังติดตามอ่านอยู่ ถือว่าเป็นกำลังใจให้กับพี่สุดใจ ในการที่จะนำประสบการณ์อื่นๆ มาเล่าให้ฟังกันอีก เพราะยังมีผู้สนใจติดตามอ่านอย่างต่อเนื่อง

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ คุณชยุต ที่รอฟังเรื่องของขันธ์ห้าต่อเนื่อง

ความจริงคุณชยุตได้รับฟังเรื่องราวต่าง ๆ จากระบบมากมายในวันนั้น ซึ่งคุณชยุตก็สามารถเทียบเคียงและทำความเข้าใจได้เร็ว และจำข้อความต่าง ๆ ได้แม่นเสียด้วย

ก็ดีค่ะที่ถาม เพราะพี่สุดใจก็ไม่รู้จะเล่าเรื่องไหนให้ฟัง มีมากเหลือเกิน แต่เมื่อถามมาเช่นนี้ พี่สุดใจจะได้นำมาขยายความแต่ละเรื่องให้ท่านอื่น ๆ ที่สนใจได้รับฟังด้วยเลย ขอบคุณมากค่ะ

 

อ้าว.....คุณ no.9

มาต่อคิวรออ่านเสียแล้ว พี่สุดใจนึกว่าเวลาที่ยังว่างอีก 2 วันนี้ จะมาช่วยกันเล่าประสบการณ์ให้เพื่อน ๆ น้อง ๆ ได้รับฟังเพื่อเอาไว้เทียบเคียงเสียอีก กลับมานั่งเรียงกับคุณชยุตรออ่านอยู่นี่เอง นึกว่าหายไปไหน

ปล่อยให้พี่สุดใจโชว์เดี่ยวเลยนะ

 

ขอบคุณค่ะที่ติดตามอ่านอย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับคำถามนี้ มีคำตอบที่ค่อนข้างยาว พี่สุดใจก็คงขอไปตอบในช่วงหลังจากรับงานใหม่ไปแล้ว และมีเวลาเข้ามาโพสต์อีกในโอกาสต่อไป

ก็อยากให้อ่านในเรื่องของขันธ์ห้าไปก่อนนะคะ เพราะบางทีหากเข้าใจจริง ๆ แล้ว คำถามนี้อาจไม่ต้องการคำตอบอีกก็เป็นได้ค่ะ

 

เป็นอันว่าความรู้ที่จะเกิดขึ้นมาว่า โดยเนื้อแท้คนไม่ได้เกิดอยู่ หรือไม่ได้มีตัวเราที่เกิดมานี้เป็นสิ่งที่มีได้ยาก แต่ในที่สุดเรื่องก็ไปจบลงตรงที่ว่า คนเราโดยเนื้อแท้นั้นมิได้เกิดมาหรือมิได้มีอยู่ หรือมิได้ตายไป อยู่นั่นเอง เพราะตามความจริงนั้นสังขารทั้งปวงเป็นอนัตตา คือ ไม่เป็นตัวคนตัวใคร จึงไม่มีใครเกิดมา หรือใครเป็นอยู่ หรือใครตายไป มีแต่ธรรมชาติล้วน ๆ เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเราทุกคนจะต้องจำความข้อนี้ไว้ให้แม่นยำที่สุด โดยพระบาลีว่า

 

ผมเข้าใจว่า ระบบเป็นผู้กำหนดแบบทดสอบให้ แต่ผู้ที่ถูกทดสอบจะผ่านได้หรือไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับตัวเจ้าของเอง ดังนั้น กาำรทำสมาธิก็เช่นเดียวกัน เจ้าของต้องเป็นผู้กระทำเอง คงไม่สามารถใช้เครื่องมือใดๆมาช่วยได้ ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องหรือเปล่าครับ

 

ค่ะ ก็เห็นคุณ apichan ต้องการคำตอบที่ค่อนข้างรวดเร็วเพื่อกระบวนการบางอย่างที่ยังสงสัยอยู่ พี่สุดใจก็ขอลัดคิวตอบให้ก่อนเลยนะคะ


ถูกต้องค่ะ อย่างที่คุณ apichan เข้าใจ ระบบเป็นผู้จัดแบบทดสอบให้ และให้ผู้ฝึกต้องทำในจิตกันเอาเอง เพราะการปล่อยวางไม่สามารถทำให้กันได้ ได้แต่ช่วยชี้ทาง ช่วยบอก ช่วยจัดสถานการณ์ให้ แล้วอธิบายให้เข้าใจในกลไกของธรรมชาติ ที่เหลือผู้ที่ฝึกต้องทำเอาเอง จะได้ไว หรือได้ช้า ก็แล้วแต่ปัญญา และความเพียรของแต่ละบุคคล แต่เพราะระบบได้เลือกไว้แล้ว ดังนั้นการทำความเข้าใจก็จะง่ายกว่าคนปกติ เพราะจะมีการทำตัวอย่างไว้ให้เทียบเคียงบ้างแล้ว พอฟังเพียงเล็กน้อย ก็จะเข้าใจได้ไม่ยากเลย อย่างที่คุณชยุตได้รับฟังเป็นต้น พี่สุดใจเพิ่งเจอ เพิ่งพูดให้ฟัง แต่คุณชยุตถูกทำตัวอย่างมามากมายจึงเข้าใจได้โดยง่าย เพราะเป็นคนหนึ่งที่ระบบได้วางไว้แล้วนั่นเอง<O</O
<O</O
แต่อย่างที่พี่สุดใจบอก และพยายามที่จะกล่าวไว้ในหลาย ๆ ครั้งก็คือ การที่ระบบมนุษย์ต่างดาวมาฝึกให้กับกลุ่มบุคคลหนึ่งนั้น เป็นการมาฝึกเฉพาะกิจ เพื่อทำงานในเรื่องของภัยพิบัติ ดังนั้นรูปแบบในการฝึกจึงไม่เหมือนกับการปฏิบัติธรรมทั่วๆ ไป เพราะจะต้องถูกภาวะกดดันอย่างหนัก เรียกว่าทิ้งชีวิตกันทีเดียว เพื่อให้ได้มีการพัฒนาดวงจิตให้สูงขึ้นในระดับที่เร็วมาก ดังนั้นการใช้วิธีค่อย ๆทำไป ต้องใช้เวลาถึง 10 ปี 20 ปี มันไม่ทันกับภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น จึงต้องมีการใช้อุปกรณ์ในการช่วยฝึกที่เร่งรัดให้ปฏิบัติจิตตลอดเวลา ไม่ปล่อยวางก็ทุกข์ ปล่อยวางขันธ์ห้าได้ ก็ไม่ทุกข์ เหมือนกับว่า เป็นการที่ต้องปฏิบัติธรรม ทำสมาธิ มีสติดูจิตตลอดเวลาที่ยังตื่นอยู่นั่นเอง <O</O
<O</O
ดังนั้น ทำไมทุกคนจึงต้องออกจากงาน ออกจากงานไปทำอะไรกัน ปฏิบัติธรรมแล้วทำงานไปด้วยไม่ได้หรือ ?
<O</O
นี่แหละที่เป็นคำตอบ ถ้าหากยังต้องไปทำงานอยู่ เวลาที่จะใช้ในการสังเกตขันธ์ห้า ในการฝึกจิต ก็จะเหลือน้อยลงแค่วันละ 1

 

ก็เห็นพี่เล่าเก่ง พิมพ์ก็ไว แล้วอีกอย่างเรื่องตอนฝึกผมก็เคยเล่าจนหมดมุขแล้ว อิอิ.. เรื่องกำลังใจจากผู้ฟัง ผมว่าแม้มีเพียงคนเดียวที่รับฟังแล้วตรึกตรองตาม ดวงจิตได้พัฒนาขึ้น ก็ถือว่าสุดคุ้มแล้วละครับ

 

ถ่ายที่วัดท่าซุงนี่นาใช่ใหมครับ เย้เราลูกหลวงพ่อเหมือนกันเลย