เศรษฐกิจแย่มากๆแต่หวังว่าทุกๆคนยังทำความดีกันนะครับ

เนื่องจากเศรษฐกิจในยุคปัจจุบันเข้าขั้นวิกฤติขึ้นมาอีกระดับแล้ว โดยถ้าเป็นคนระดับชั้นล่างจะโดนพิษเศรษฐกิจมาได้ซักระยะแล้ว แต่ตอนนี้ในปัจจุบันนี้คนชนชั้นกลางต่างๆกำลังจะได้รับผลกระทบมากขึ้น .... ตอนนี้พิษเศรษฐกิจกำลังส่งผลกระทบไปยังทุกภาคส่วนแล้ว .... บริษัทต่างชาติย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นๆ การจ้างงานลดลงเพราะไม่มีการลงทุนที่เข้ามา SME ต่างๆก็ไม่สามารถขายสินค้าและบริการได้เพราะประชาชนต่างอยากเก็บเงินก้อนของตัวเองไว้กับตัว .................. แต่ไม่ว่าสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร อยากให้ทุกๆคนยังคงสู้ต่อไป และมีความหวังต่อไปนะครับ และยังเชื่อมั่นในความดีถึง เชื่อมั่นในการ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ....ต้องไม่ลืมการทำบุญนะครับ เพราะสิ่งที่จะช่วยเหลื่อเราได้นั้นคงมีแค่เรื่อง บุญ + ความตั้งใจ + การพัฒนาตนเอง

........... ผมเห็นว่าหลายๆคนหลงกับวัตถุนิยมจนลืมคุณค่าของตัวเอง คุณค่าของประเทศและคนรอบข้าง ผมเลยอยากตั้งกระทู้เพื่อให้ทุกคนระวังตัวกับเรื่องพวกนี้ในอนาคตครับ เพราะเมือ เศรษฐกิจไม่ดี อาชญากรรมจะเพิ่มขึ้น ปัญหายาเสพติดต่างๆ การค้าประเวณีจะเพิ่มขึ้น คนจะเริ่มเห็นผิดเป็นถูก จนหลงลืมเรื่อง นรก-สวรรค์ ผมอยากให้ทุกคน ยังคงเชื่อมั่นในการทำความดีนะครับ

 

เศรษฐกิจไม่ดีก็คือทุกข์อย่างหนึ่ง ซึ่งความทุกข์คือปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มนุษย์เข้าถึงธรรมได้ เพราะหากไม่มีทุกข์แล้ว มนุษย์ย่อมตั้งอยู่บนความประมาท

ถ้าจะพูดถึงเรื่องอาชญากรรมนั้นมันก็มีมาตลอดไม่ว่าจะเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี แต่การที่เศรษฐกิจไม่ดีในตอนนี้ผมมองอีกด้านว่ามันก็เป็นบททดสอบหรือการรับผลกรรมที่แต่ละคนเคยทำเอาไว้ บุคคลใดสั่งสมบุญบารมี ทำความดีมาตลอดก็จะสามารถผ่านพ้นมันไปได้ บุคคลใดทำสิ่งไม่ดีเอาไว้ กรรมบาปต่างๆก็จะได้โอกาสสนองซ้ำเติมบุคคลนั้นกลับคืน บุคคลนั้นก็อาจพ่ายแพ้ต่อกิเลสหันเหไปก่ออาชญากรรมตามที่ จขกท.กังวลก็เป็นได้

มนุษย์นั้นมีภัยหลากหลายรอบตัวทั้งภัยธรรมชาติ และภัยจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเอง ความดีและบุญบารมีที่กระทำสั่งสมมาจะปกป้องคุ้มครองคนผู้นั้นให้ปลอดภัยและรอดพ้นวิกฤติไปได้

 

ขอบคุณกับ ข้อคิดดีๆ ครับ ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาเลย ครับ

 

บ้านเราของแพงมากค่ะ คือหมายถึงของใช้ทั่วไปนะคะ เท่าที่ไปจับจ่ายมาและรวมถึงผลไม้ด้วยค่ะ ดิฉันตกใจจริงๆค่ะ เงิน 1 พันบาท เข้า 7(เซเว่น) จับจ่ายได้ของนิดเดียว ดิฉันไปห้างซื้อแอ๊ปเปิ้ลลูกละ 40 บาท ยังดีว่าที่ตลาดอาหารหรือกับข้าวและข้าวเหนียว ยังมีถุงละ 10 15 20
ทางเหนือเจอประเพณีเผาป่า นักท่องเที่ยวงี้ไปเที่ยวเดียวดิฉันว่าเข็ดไปอีกนาน ดิฉันอยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์ ทั้งแน่นหน้าอก ไอ น้ำมูกไหล เช้ามาเสมหะมีเลือดปนอยู่ด้วย หายใจแทบไม่ออก ทางเฟสฯเขาล้อเลียนคำขวัญทางเชียงใหม่ และมันก็ออกจะจริงนะคะ แต่ๆๆๆๆๆ .....
ขอสนับสนุนการตั้งใจในการตั้งกระทู้ค่ะ ไม่ว่าจะเกิดวิกฤตใดๆ ขอให้ยึดมั่นในคุณความดีเข้าไว้ ไม่ทราบว่าบังเอิญหรือเปล่า ไปทางไหนก็เจอแต่ข่าวฆ่าตัวตาย ....
ขอให้คนไทยอยู่รอดปลอดภัย และรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจในสภาพสังคมแบบนี้นะคะ
ของแพงหน้าไม่แดงค่ะ แต่ขาวซีดเลยอ่ะ :'''(

อ้อ .. ช่วงนี้ถ้าไม่มีเงินทำบุญและต้องรัดเข็มขัด ก็สวดมนต์ไหว้พระอยู่ที่บ้านนะคะ แต่ก็ต้องบำรุงพระพุทธศาสนาบ้างเป็นบางครั้ง ไม่ใช่ว่าจะวิ่งแต่เข้าวัดทำบุญอย่างเดียวจนตัวเองไม่เหลือ และก็ไม่ใช่จะไม่ต้องออกไปวัดกันเสียเลยก็ไม่ใช่ ทำแต่พอดีเท่าที่มีโอกาสได้ทำและไม่เดือดร้อนนะคะ ที่สำคัญกว่าการทำ ก็คือการละบาปอกุศลทั้งปวง
คนไทยรักกันๆเด้อๆ

 

ใครเมื่อเห็นคนทุกข์ กลับยินดี .. และพอใจในความทุกข์ของคนอื่น ..
บุคคลนั้นย่อมไม่ควรได้รับการยกย่อง แต่อย่างใด .. และควรที่จะได้รับกรรมและมีผลแห่งกรรมเชกเช่นคนทุกข์นั้น

(อนุโมทนากันเข้าไป กับคนที่มีความเห็นผิดๆ .. ระวังจะได้รับเศษแห่งบาปกรรมไปด้วย)

 

ข่าวก็พูดไป...เงินเดือนขึ้น...ขายของดี...
ผมบอกเลยเงียบ แถมไปถามพี่ๆ ก็บอกว่า ที่บอกเงินเดือนขึ้นนะมีแค่ข่าว...ทั้งนั้น
แต่ของต่างแพงขึ้นจริงเกินข่าวเสียอีก...
"หลายคนสับสน..ว่าทำดีได้ดีจริงรึ ทำไมชีวิตยังไม่ดีขึ้นเลย...แต่เชื่อเหอะไม่มีเรื่องบังเอิญหรอกครับ"
แต่ทำยังไงเราจะทน. อดทน. ทนอยู่ ในสภาวะเช่นนี้โดยจิตไม่ตก..."
ผมเคยหาได้เดือนละหลายหมื่นเกือบแสน...เดี๋ยวนี้หลักหมื่นสองหมื่นแทบตายแถมต้องจ่ายออกหมดเกลี้ยง
กลายเป็นสภาวะเพชร...เบื้องต้น ทนได้ก็เก่ง ไม่ผ่านก็จบ. บางวันมานั่งคิดว่า "วางทุกอย่างแล้วเดินไปเลย"
แต่พอคิดอีกทีก็ยังทิ้งทุกคนไปไม่ได้...........

 

ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

 

ถ้าใครพอใจอยากทุกข์แบบคนเหล่านี้ เพื่อทดสอบว่าตนเป็นคนดี ก็เชิญนะครับ ..
อธิษฐานให้โดนกับตัวเอาครับ. (ตามสบายครับ ผมไม่เอาด้วยนะ
หรืออยากจะอนุโมทนากับเขาก็เชิญคับ)

 

อืม....ผลจากการไปกู้ชาติ
ตอนนี้ คนใต้กำลังได้รับผลแห่งความดีนั้นคือ
โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา โรงไฟฟ้าถ่านหินที่กระบี่
และแว่วมาว่าจะตามมาด้วยโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ชุมพร
ที่จะทำลายทรัพยากร อากาศ ผืนดิน เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตคนใต้ให้พินาศ
การทำความดี จะออกดอกออกผลยังไงนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจในสังคมนั้นด้วย

 

ประเทศไทยมีการสนับสนุนไฟฟ้าจากธรรมชาติ เช่น โซลาร์เซลล์, กังหันลม
แต่ปัญหาคือ ไม่ค่อยมีแสงแดดแรงสม่ำเสมอ, ส่วนลมก็มีน้อยแถมยัง
มีเรื่องคดีตั้งบริษัทผลิตกังหันลมหลอกชาวบ้านมูลค่านับหลายหมื่นล้าน
(ขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์)

ส่วนแก๊สธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลัก ก็ประเมินแล้วว่า
จะหมดจากบ่อที่พบภายในไม่เกิน 10 ปีข้างหน้านี้

ดังนั้นพลังงานไฟฟ้าซึ่งต่อไปยิ่งมีความต้องการมาก จึงเป็นเรื่องสำคัญ
เพราะถ้าหาแหล่งผลิตไฟฟ้าไม่ทัน .. ประเทศเข้าสู่จุดดำมืดแน่
เศรษฐกิจจะเลวร้ายอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้
ลองนึกดูครับ ถ้าอยู่ๆ รัฐบาลประกาศว่าต้องดับไฟฟ้าบางจังหวัดลง
หลายๆเดือน จะอยู่กันได้ไหม?

ดังนั้นเรื่องแหล่งเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า เราไม่ได้มีตัวเลือกมากนัก
คงหนีไม่พ้นสิ่งที่เราทำได้ เช่น ถ่านหิน หรือ นิวเคลียร์ที่จะเป็นทางเลือกใหม่

ปัจจุบันเทคโนโลยีการทำความสะอาดฝุ่นที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้าถ่านหิน
น่าจะดีขึ้นมากแล้ว .. แต่ไม่ทราบว่าจะคุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่?
ซึ่งก็คงคุ้มค่าจึงได้มีแนวทางมาเช่นนั้น

ส่วนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ก็ควรอยู่ในการพิจารณาไว้แต่เนิ้นๆ

 

วันก่อน หน่วยงานใกล้เคียงได้ไปดูงานที่โรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ
ตอนกลับได้แวะดูบริเวณใกล้ๆ โรงงาน เป็นจุดที่ไม่ได้อยู่ในโปรแกรมให้เยี่ยมชม
เค้าบอกว่าพื้นที่บริเวณนั้น มีฝุ่น เขม่า จับตามใบไม้ใบหญ้า แต่ไม่ใช่ฝุ่นดินแน่นอน
ก็ไม่รู้นะว่าฝุ่นพวกนั้นมาจากไหน เดาเอาว่าอาจมาจากท่อไอเสียรถยนต์ก็ได้มั๊ง

นี้เป็นข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับถ่านหินที่จะใช้ทีโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา
โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพานี้ ใช้ถ่านหินต่อวัน 23,000 ตัน หรือกว่า 1000 รถบรรทุกต่อวัน
หรือเท่ากับ 23 ล้านกิโลกรัมต่อวัน เมื่อนำมาคำนวนสารโลหะหนักที่จะนำเข้ามาสู่พื้นที่และคำนวนเป็นปี จะพบว่าโรงงานไฟฟ้าถ่านหินเทพา จะมีการนำเข้าโลหะหนักสู่พื้นที่จำนวนมาก คือ
จะมีสารหนูปนเปื้อนนำเข้าพื้นที่ วันละ 207 กิโลกรัม/วัน ซึ่งเท่ากับ 75,555 กิโลกรัมต่อปี
จะมีแคดเมียมปนเปื้อนนำเข้าพื้นที่ วันละ 23 กิโลกรัม/วัน ซึ่งเท่ากับ 8,395 กิโลกรัมต่อปี
จะมีปรอทปนเปื้อนนำเข้าพื้นที่ วันละ 11.5 กิโลกรัม/วัน ซึ่งเท่ากับ 4,198 กิโลกรัมต่อปี
และจะมีตะกั่วปนเปื้อนนำเข้ามาในพื้นที่ 460 กิโลกรัม/วัน หรือเท่ากับ 167,900 กิโลกรัม/ปี

โดยรวมของโลหะหนักทั้ง 4 ชนิดนี้ มีปริมาณโลหะหนักซึ่งเป็นสารพิษที่รุนแรงปนเปือนเข้ามาในพื้นที่รวม 256,000 กิโลกรัม/ปี หรือคำนวนไปตลอด 30 ปีของอายุโรงงานไฟฟ้าถ่านหิน จะพบตัวเลขที่น่าตกใจมากถึง 7,681,000 กิโลกรัม
แบบนี้ยังจะเรียกว่า ถ่านหินสะอาดได้อีกเหรอ

ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการใช้ไฟฟ้า ณ ปัจจุบันของจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้สงขลาใช้ไฟ 500 เกมกาวัตต์ จังหวัดชายแดนใต้ใช้ไฟไม่เกิน 1000 เมกาวัตต์
โรงงานไฟฟ้าจะนะผลิตไฟฟ้าได้ถึง 1600 เมกาวัตต์ เหลือเฟือแล้ว

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ประเทศที่มีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบุคลากรอย่างรัสเซียและญี่ปุ่นยังระเบิดได้
แล้วอย่างเมืองไทยเทคโนโลยีไม่ต้องพูดถึง เอาของเค้ามาทั้งนั้น
ความชำนาญไม่มี คอรัปชั่นสูงซะทุกวงการ
แถมผู้ปฏิบัติงานยังมักง่ายอีก (ดูผลงานของข้าราชการไทยทุกวงการละกัน)
มันจะรอดเหรอเนี่ย

แค่นี้ละกัน เดี๊ยวกระทู้เค้าจะกลายเป็นกระทู้โรงไฟฟ้าถ่านหินซะ


ป.ล บรรยาการการทำประชาพิจารณ์ที่เทพา
http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9570000131411

 

ที่พูดมานี่ก็เห็นด้วยหลายอย่างนะ
ก็ต้องเสี่ยงเอาว่า ตอนไม่มีไฟฟ้าใช้กัน. กับมีแล้วเสี่ยงเกิดปัญหา
แบบไหนจะแย่น้อยกว่ากัน?

แต่ตัวเลข 23 ล้านกิโลต่อวัน. น่าจะเวอร์ไปนะ

 

ทำไมถึงคิดว่าเวอร์ละ
ข้อมูลนี้เอามาจากบทความของนายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจอีกทีนึง
แล้วข้อมูลของกฟผ. ที่ให้ข้อมูลแบบปิดๆ บังๆ ซ่อนเร้น แต่งข้อมูลให้ดูดีเกินจริง
ไม่เวอร์เหรอ
ถ้าหากว่าการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินดีจริง ปลอดภัยจริง
ทำไมกระบวนการในการทำประชาพิจารณ์ถึงต้องใช้เงินซื้อ

 

มันก็ดีอยู่นะ ประหยัดค่าไฟดี.. ถ้าจะกลับไปยุคใช้เทียน หุ้งข้าวจากเตาถ่าน

อันที่จริงคนจะปฏิบัติธรรมอยู่ป่า ก็ไม่มีปัญหามากอะไรหรอก อยู่ได้

 

พูดถึงสมัยก่อนก็มีความสุขดีนะคะ ไปไหนก็ใช้รถเมล์ ไม่ค่อยมีหนี้สินนอกจากสิ่งที่จําเป็นแก่ชีวิต สมัยนี้ต้องมีมือถือมีรถ มีเนต ไม่มีเงินก็กู้ กู้ เขามา อยากโน่นอยากนี่ ก็เลยมีแต่ความเครียดเพราะหาเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ ขอให้ทุกๆท่านโชคดีและมีความ"พอ"ค่ะ

 

วันก่อนเพิ่งอ่านคำทำนายของหลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม.. ที่ว่า

สงครามโลกครั้งที่3 นั้นท่านว่ามีแน่ และจะเกิดระหว่าง อเมริกากับจีน
และจะเป็นสงครามปรมาณู..

ซึ่งตอนท่านทำนายหลายคนงงเพราะจีนยังยากจนอยู่ ..
ตอนนี้จีนเริ่มไปอวกาสแล้ว คิดว่าอีกไปนานนับจากนี้ อาจจะราวๆ 20 -100 ปีนี้
หลายๆอย่างน่าจะถึงจุดพีค

ท่านว่าจีนโดนถล่มเละ ประชากรหายไปเยอะ .. ส่วนอเมริกาคนอยู่ป่า
โดนรังสีน้อยกว่าคนเมือง

และหลังจากสงครามโลกครั้งที่สาม ถ้าใครคิดว่ายังมีชีวิตอยู่
ก็ลองนึกดูว่า โลกตอนนั้นจะเหลืออะไร

 

ผมโดนครบเลยที่เดียว
ตกงาน
เงินหมด
หนี้สินต่างๆ
เจ้าหนี้ฟ้องร้อง
ธุรกิจส่วนตัวก็ทำท่าจะไปไม่รอด
บอกตรง ๆ เริ่มหมดแรง
ตอนนี้กำลังดิ้นเฮือกสุดท้าย ​

 

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ ทุกๆคนมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้นแต่ ทุกๆคนต้องอยู่โดยมีความหวังนะครับ เพราะความหวังจะเป็นพลังให้เราสามารถพัฒนาตนเองได้ เมื่อเราพัฒนาตนเองได้เราก็สามารถดูแลคนที่เรารัก หรือคนรอบข้างได้แล้วจากนั้นเราก็จะค่อยๆแบ่งปันสิ่งดีๆให้กันและกันนะครับ "ท้อได้.. แต่อย่าถอย"

 

เสี่ยงมากนะ ถ้าเป็นแบบนี้ ทุกคนย่อมมีเบื้องหลัง กว่าจะพบความสำเร็จ