กัมมัฏฐานของตั้งฉาก VS กัมมัฏฐานแนวของมาจากดิน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มาจากดิน, 1 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    บทนำ

    จากการที่สนทนากับคุณตั้งฉากที่ http://palungjit.org/threads/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%A7.544954/page-8

    จึงตั้งกระทู้หนึ่งกัมมัฏฐาน 2 ชายนี้ :) ขี้น + ตัวอย่างตอนท้ายๆ

    เบื้องต้น ผู้จะปฏิบัติกัมมัฏฐาน, ปฏิบัติธรรม,ปฏิบัติทางจิต, ฝึกฝนพัฒนาจิต, เจริญจิตตภาวนา (หรือใช้ชื่ออื่นๆ) เริ่มแรก ต้องมีหลักหรืออุปกรณ์สำหรับให้จิตเกาะ อุปกรณ์นั่น เรียกว่า กัมมัฏฐาน
    จากการพูดคุยกัน ได้กัมมัฏฐานแนวคุณตั้งฉาก เช่นที่ถามตอบนี้

    ถาม: ท่านตั้งเล่าสิทำยังไง พิจารณาอะไร?

    ตอบ: พิจารณาไปตามสภาวะ ให้แจ่มแจ้ง

    ถาม: ใครทำตามที่คุณแนะนำได้พูดยังงั้นน่ะ อะไรสภาวะ ยกตัวอย่างสิครับ ?

    ตอบ: เช่น หลับตาใหม่ๆ แต่ละคนเห็นไม่เหมือนกัน นี่เริ่มจาก ศูนย์ เลย นะ
    บางคน เห็นแสง
    บางคน เห็นสี
    บางคน เห็นวิญญาน
    บางคนเห็น สถานที่
    ต่างๆนานา

    ท่านให้ดูตาม ไปจนถึงที่สุด

    ความละเอียดจะมากขึ้นๆ เรื่อยๆ จนวันนึง ถึงที่สุด ในสิ่งที่เห็น

    บางคนหลับตา สิบครั้ง เห็นเหมือนเดิม
    บางคนหลับตา สิบครั้ง เห็นไม่เหมือนเดิม ไม่ซ้ำกันสักครั้ง

    อย่างท่าน ครั้งแรกที่ท่านปฏิบัติ เริ่มอย่างไรมา บอกปุป เราก็รู้ทันที ว่า วิถึจิต ท่านเป็นอย่างไร

    "ใครทำตามที่คุณแนะนำได้พูดยังงั้นน่ะ " ถึงต้องมีการปรับสภาวะ กันไง ให้เป็นสัมมาทิฏฐิ


    ถาม: เริ่มก็หลับตาเลย กรรมฐานที่คุณใช้อะไร ยังไม่รู้เลย ?

    ตอบ: ช่าย เริ่มจาก 0 เริ่มจากไม่รู้อะไรเลย

    แล้วให้สภาวะจิต ของคนคนนั้น ชี้นำเอง ว่าต่อไปกรรมฐานของเขา คืออะไร
    จึงไม่เป็นสมมุติอุปาทาน เข้าไปบังคับ วิถีจิต ของพวกเขา
    วิถีจิต ของพวกเขา จะเป็นผู้เลือกเอง จึงเป็นธรรม
    เมื่อวิถีจิต ของเขาแสดงตัวออกมาแล้ว ผู้สอนจะเป็นผู้แนะนำ ควรกรรมฐานกองไหน ภายหลัง

    ตอบต่อ: แต่ที่เราเห็น ส่วนใหญ่ ตั้งกรรมฐาน แล้วเข้าไปลุย
    มีสักกี่คน ที่เจอจริตของตนเอง ในบัดดล
    ได้ยินแต่ ทำไม เราไม่ก้าวหน้าเอาเลย
    เอ้ย เอ๋งก้าวผิดแล้ว ซะเยอะ
    และเมื่อ อุปาทาน ถูกล๊อค ซะแล้ว แต่ต้น ยากแล้วที่จะ ฉีกออกมา
    เพราะจิตมันเสพคุ้นไปแล้ว
    มันถึงติดสภาวะกันเป็นโขยงเลยไง

    (กัมมัฏฐานของคุณตั้งฉากแนวๆนี้)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กุมภาพันธ์ 2015
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    กัมมัฏฐานตามแนวที่ผมรู้เข้าใจ “กัมมัฏฐาน” ง่ายๆสั้นๆ ได้แก่ อุปกรณ์สำหรับฝึกจิต (อะไรก็ได้ที่จิตเกาะจับแล้วสงบอยู่กับมันได้นานๆ)

    - ตัวอย่าง เช่น เราใช้ ลมหายใจเข้า กับ ลมหายใจออก วิธีฝึก ลมหายใจเข้า กำหนดจิตว่า “พุท” ลมหายใจออก กำหนดจิตว่า “โธ” เข้าพุท ออกโธ ว่าไปทุกลมเข้า-ออก ร้อยหน พันหนหมืนหน ฯลฯ

    - ใช้อาการท้องที่พองขึ้น กับ อาการยุบลงของท้อง นี่เรียกว่า “กัมมัฏฐาน” วิธีฝึกหัดพัฒนา ก็คือ ท้องพองขึ้น กำหนดจิตว่า “พองหนอ” ท้องยุบลง กำหนดจิตว่า “ยุบหนอ” พองหนอ ยุบหนอ ว่าไป ร้อยหนพันหนหมื่นหน ฯลฯ

    พูดๆกันเพื่อเข้าใจง่ายๆก็ว่ายังงั้น แต่ถ้าพูดตามหลักในคัมภีร์ เรียกกัมมัฏฐานนี้ว่า “อานาปานสติ” เป็น ข้อที่ 9 ในอนุสติ 10

    ดูที่มาของคำศัพท์

    อานาปานสติ แยกความหมายเป็นสามคำ คือ คำว่า อานะ แปลว่า ลมหายใจเข้า ตรงกับคำว่า อัสสาสะ

    คำว่า อาปานะ แปลว่า ลมหายใจออก ตรงกับคำว่า ปัสสาสะ และ
    คำว่า สติ ความกำหนดพิจารณา ความระลึกรู้ตาม (ตามรู้) สามคำเข้าด้วยกันเป็น

    อานาปานสติ แปลว่า ความกำหนดพิจารณาลมหายใจเข้า และลมหายใจออก หมายถึงการใช้สติเป็นตัวกำหนดดูลมหายใจเข้า และลมหายใจออก

    - หรือใช้ กสิณ สมมุติว่าใช้ กสิณดิน วงกสิณดิน เรียก กัมมัฏฐาน วิธีฝึกหัดทำ เพ่งดูวงกสิณพร้อมกำหนดจิตว่า “ปฐวี กสิณังๆๆ” ว่าไป ร้อยหน พันหน หมื่นหนฯลฯ

    (กัมมัฏฐานที่ผมรู้เข้าใจศึกษามาจะแนวนี้)
     
  3. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ต่อไป คือ ตัวอย่างจากบุคคลคนคนหนึ่ง เขาใช้อะไร ทำยังไง เกิดอะไร สังเกตดู (ยาวหน่อยนะครับ)

    - ตอนนี้ผมอยู่ที่ญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ไม่เคยปฏิบัติธรรมจริงๆจังๆเลย จนกระทั่งไม่นานมานี้ วาสนาพาให้ได้พบกับพระสงฆ์ไทยรูปหนึ่งที่ญี่ปุ่นนี่ ทราบว่าท่านน่าจะมาโปรดสัตว์ ผมได้ถามท่านว่า ทำอย่างไรจึงจะพ้นทุกข์ ท่านก็ไม่ตอบอะไร ยื่นหนังสือของท่านให้สามเล่ม เป็นหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติตามแนวทางในอานาปานสติสูตร แล้วผมก็กราบลาท่านมา

    หลังจากได้หนังสือสามเล่มนั้นมาแล้ว ผมอ่านแค่เล่มแรกก่อน ใจความในเล่มแรกคือ ให้กำหนดรู้ลมหายใจให้ตลอด ในชีวิตประจำวัน จะทำกิจกรรมอะไรก็ให้กำหนดรู้ลมหายใจไปด้วย ยกเว้นเวลาขับรถ หรือเวลาอ่านหนังสือ แต่ก็ให้มีสติรู้อยู่ว่าเราทำอะไรอยู่ ท่านว่าให้กำหนดรู้ลมหายใจเสมือนว่าลมหายใจเป็นกัลยาณมิตร ให้เรายึดกัลยาณมิตรนี้ไว้ หลังจากนั้นผมก็พยายามกำหนดรู้ลมหายใจในชีวิตประจำวัน เวลาเดิน ก็รู้สึกดีครับ รู้สึกเพลินกับการยึดลมหายใจ

    หลังจากนั้นมีวันหนึ่ง ผมเกิดนึกอยากนั่งสมาธิขึ้นมา ผมก็เลยนั่งสมาธิกำหนดลมหายใจ (ก่อนหน้านี้ตอน เด็กๆ เวลาคุณครูที่ รร. สั่งให้นั่งสมาธิในห้องเรียน ให้พยายามตามดูลมหายใจจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ น่าปวดหัวมาก แต่คาดว่าคงเป็นเพราะจากที่ได้ฝึกในชีวิตประจำวัน ทำให้ตั้งแต่นั่งครั้งนี้ก็ไม่รู้สึกเช่นนั้นอีก)

    - ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ สามารถรับรู้ลมหายใจได้ตลอดสายเป็นเวลานาน แต่ผมก็คิดว่าเวลาจิตเราสงบมากแล้ว แต่ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ายังไงเราลองเปลี่ยนวิธีกำหนดดูดีกว่า เลยเปลี่ยนวิธีกำหนดในใจเป็นสมถแบบอัปปมัญญา ๔ (ที่ผมเปลี่ยนเป็นวิธีนี้ เพราะก่อนหน้านี้เคยอ่านหนังสือเรื่องสมถ ๔o วิธีแล้วรู้สึกว่าเราน่าจะเหมาะกับวิธีนี้ คือเกิดความรู้สึกนี้ขึ้นเอง) แล้วกำหนดคำบริกรรมในใจแผ่เมตตาให้สัตว์ทั้งหลาย ไม่มีประมาณในทิศเบื้องหน้า จากนั้นก็เบื้องหลัง จากนั้นก็เบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องซ้าย แล้วก็เบื้องขวา พอครบทุกทิศแล้ว ก็กำหนดแผ่ไปในทุกทิศพร้อมกันไม่มีประมาณ กำหนดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

    จากนั้นผมก็รู้สึกเหมือนกายผมขยายตามที่กำหนดแผ่เมตตาไปด้วย รู้สึกว่ากายขยายไปทุกทิศ ความรู้สึกนี้มันเกิดในเวลาแค่แปปเดียว กายขยายไปทุกทิศ จนรู้สึกว่ากายหายไป คือ ไม่มีกาย เวลานี้รู้สึกว่า ความรู้สึกของเราเหมือนจุ่มอยู่ในปิติ มีแต่ความสุขไปหมด จากนั้นผมก็คิดขึ้นมาว่า

    "มีความสุขขนาดนี้ในโลกด้วยหรือ ความสุขนี้ดีกว่าความสุขในโลกที่เราเคยพบมาทั้งหมด โอ ความสุขนี้แค่นั่งก็ได้แล้ว คนทั้งโลก (ส่วนใหญ่) มัวแต่วุ่นวายทำอะไรกันอยู่ บางคนทำทุจริตต่างๆเพื่อหาเงินมาสนองความสุขตน ทำไปทำไมนะ มันเทียบกับความสุขที่เกิดจากความสงบนี้ไม่ได้เลย ความสุขนี้ ไม่ต้องไขว่คว้ามาก อยู่กับตัวเองแท้ๆ คน (ส่วนใหญ่) ในโลกกลับไม่รู้"

    จากนั้น สังเกตลมหายใจก็รู้สึกว่าลมหายใจตอนนี้มันละเอียดมาก ถึงค่อยเข้าใจ คำว่า ลมหายใจหยาบลมหายใจละเอียดว่าเป็นยังไง ก่อนหน้านี้เข้าใจว่าคือลมหายใจแรงๆเบาๆซะอีก

    ความรู้สึกจากการเกิดสมาธิครั้งแรกนี้ มันเหมือนจุ่มค้างอยู่ปิติ คือปิติเกิดค้างอยู่ แต่ไม่เห็นนิมิตอะไรทั้งสิ้น แต่รู้สึกจิตเวลานี้ไม่มีนิวรณ์ คือมีความรู้พร้อมอยู่

    จากนั้น ผมก็รู้สึกยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคิดไปเรื่อยว่า "นี่คือปฐมฌาณหรือเปล่านี่ ปฐมฌาณเกิดกับเราหรือ" จนจิตเริ่มไม่เป็นสมาธิ เริ่มปั่นป่วน หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงห้องข้างๆตะโกนเสียงดัง (คาดว่าน่าจะดูบอล) ผมก็เลยหลุดออกมาจากสภาวะนั้น

    แต่หลังจากนั้น ผมก็ไม่สามารถเข้าถึงสภาวะดังกล่าวได้อีกเลย คือทำได้มากสุดก็แค่ทำปิติให้เกิดขึ้นแวบหนึ่งเท่านั้น (แต่ก็สามารถทำให้เกิดได้ตลอดเวลา ตามที่ต้องการทันที) แต่ไม่สามารถทำให้เกิดค้างไว้ จนรู้สึกเหมือนจุ่มลงในปิติ แล้วมีลมหายใจละเอียดแบบครั้งแรกได้

    - คำถามแรก คือ สภาวะที่ผมพบในครั้งแรกนั้นคืออะไรครับ ใช่ปฐมฌาณหรือป่าวครับ แล้วทำไมในครั้งหลังๆผมถึงไม่สามารถเข้าถึงสภาวะนั้นได้ เป็นเพราะผม "หวัง" มันหรือป่าวครับ
     
  4. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    เวลา นำมาเขียนอ้างอิง

    นำมาให้ครบๆ

    อย่าพล่องในถ้อยคำ หากต้องยิบยกอ้างคนอื่นเขา

    อีกอย่างการสนทนา กับท่าน เป็นการใช้จิต คุยกะจิต
    ผู้เข้าถึงสภาวะธรรมนั้นๆ จะรู้ได้ทันที และเข้าถึงสิ่งที่สนทนานั้นด้วยจิต ณ เวลานั้นๆ

    การที่ท่าน นำการสนทนานี้ มาอ้างอิง ไม่ได้เกิดประโยชน์ ต่อผู้อื่น
    เพราะเขาอาจไม่มีสภาวะธรรมนี้เกิดขึ้น หรือไม่อยู่ในบรรยากาศเวลาที่เราสนทนากันอยุ่


    ปล่อยวางไปเถิด หากท่านถึงแล้ว เส้นทางไหนมันก็ไม่สำคัญ หรือ ท่านยังติดอยู่?


    เห้ยยยยย

    กล่าวเช่นนั้นได้ไง

    หลบหลู่คุณครูบาอาจารย์ กล่าวคำข้ามหัวครูบาอาจารย์ ได้ไง


    บอกตรงนี้เลย สิ่งที่ท่านเอาเรามาอ้างอิง
    เราไม่อนุญาติ


    เพราะท่านไม่มีความสามารถในการเรียบเรียง การคงไว้ซึ่งสาระสำคัญ การลำดับขั้นตอน เนื้อหาสาระจะบิดเบือนไป อาจโดยเจตนาหรือไม่เจตนา และ ยังเห็นธรรมะเป็นอัตตา

    ไม่ใช่ท่อนเดียว ตกไปทั้งเนื้อหา ใจความเลย
    ชี้ไปทิศตะวันออก ดันไปมองทิศตะวันตก

    ไม่ผิดแล้ว ต่างกันเยอะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2015
  5. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    คำตอบนี้เห็นแนวกัมมัฏฐานคุณตั้งแล้วนี่ หากต้องการอีกก็ไปที่ลิงค์นั้น

    ตอบ: ช่าย เริ่มจาก 0 เริ่มจากไม่รู้อะไรเลย

    แล้วให้สภาวะจิต ของคนคนนั้น ชี้นำเอง ว่าต่อไปกรรมฐานของเขา คืออะไร
    จึงไม่เป็นสมมุติอุปาทาน เข้าไปบังคับ วิถีจิต ของพวกเขา
    วิถีจิต ของพวกเขา จะเป็นผู้เลือกเอง จึงเป็นธรรม
    เมื่อวิถีจิต ของเขาแสดงตัวออกมาแล้ว ผู้สอนจะเป็นผู้แนะนำ ควรกรรมฐานกองไหน ภายหลัง

    ตอบต่อ: แต่ที่เราเห็น ส่วนใหญ่ ตั้งกรรมฐาน แล้วเข้าไปลุย
    มีสักกี่คน ที่เจอจริตของตนเอง ในบัดดล
    ได้ยินแต่ ทำไม เราไม่ก้าวหน้าเอาเลย
    เอ้ย เอ๋งก้าวผิดแล้ว ซะเยอะ
    และเมื่อ อุปาทาน ถูกล๊อค ซะแล้ว แต่ต้น ยากแล้วที่จะ ฉีกออกมา
    เพราะจิตมันเสพคุ้นไปแล้ว
    มันถึงติดสภาวะกันเป็นโขยงเลยไง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  6. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
  7. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    แล้ว ในส่วนของครูบาอาจารญื ที่ต้องคอยดูแล กำกับ อยู่ตรงไหน?

    ข้อความสำคัญ ขนาดนี้มองข้ามไปได้ยังไง?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  8. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    คิกๆๆ เปล่าเลย แต่จะให้ผู้ศึกษาธรรมภาคปฏิบัติ ได้รู้เข้าใจความหมายคำว่า กัมมัฏฐาน พอเห็นแนวอารมณ์ซึ่งเกิดจากการปฏิบัติกัมมัฏฐาน จึงตั้งไว้ต่างหาก เพื่อให้ผู้ศึกษาค้นได้ง่าย :)
     
  9. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    อันนี้ไม่เกี่ยวกับครูบาอาจารย์ พูดเรื่องกรรมฐาน

    ถ้ายังจำได้ ผมได้บอกกับผู้ตั้งกระทู้นั้น หยุดเถอะ เลิกเหอะ ฯลฯ :)
     
  10. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    กระทำไม่ได้ หาก ปราศจาก ครูบาอาจารย์กำกับ ดูแล

    ไม่ใช่ หาอ่าน แล้ว ทำตาม ได้ แนวทางเราไม่ใช่เช่นนั้น

    ปล่อยให้ไปฝึกกันเอง วิปัสสนูกิเลส หากเกิดละก้อ อันตรายมาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  11. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ผมไม่ชอบพูดอะไรคลุมๆเครือๆ ต้องชัดตรงไปตรงมา :)

    ผมแย่ยังไงครับ
     
  12. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    สิ่งที่กระทำอยู่ไง

    ลองสงบๆ แล้วสำรวจ ตัวเองดู ว่าอะไรทำให้เกิดการสืบต่อ
     
  13. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    เป็นบาป เป็นภัยยังไงครับ แล้วที่พูดๆกันไม่บาปไม่เป็นภัยหรือขอรับ
     
  14. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เพื่อต้องการทำความหมายกัมมัฏฐานให้ชัด ให้ผู้ศึกษาเห็นแนวทาง ครับผม
     
  15. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    น่านนน แหละ ยึดติด แหงก !!!

    ไม่ชอบอย่างงั้น อย่างงี้
    ต้องแบบนั้น แบบนี้

    อันนี้เรียก วิภาวะตัณหา และ ภาวะตัณหา หรือไม่?

    นี่หรือ คนบรรลุธรรม เป็น อรหันต์แล้ว?


    กูจะอาฆาตพยาบาท มัน จองเวรมัน เอาคืนมัน

    นี่หรือ ผู้ปฏิบัติธรรมมาดี บวชเรียนมาดี


    จากที่สนทนากันหลายประเด็น ชี้ให้เห็นว่า ศึลข้อ 1 ของท่านพร่อง

    และท่านไม่ได้สนใจศีลข้อนี้เลย แม้สักนิด สักแต่ว่า อ้างๆ ไป
    น่าแปลกที่ท่านไม่เห็นตนเองในศึลข้อนี้ .... ... อะไรบังตาท่าน หรือ
    สม นามแฝง จริงๆ มาจาก ดิน จริงๆ!!! เพิ่งสังเกตเห็น


    มานะกิเลสเพียบ


    ลองทำใจสงบๆ แล้วทบทวนด้วย อนุตตรสัมมาสัมโพธิญานของท่านดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015
  16. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    กระทู้นี้ก็ไม่เสียหายอะไร เพราะนำความคิดความเห็นภาคปฏิบัิติธรรมที่เราสนทนากันตามลิงค์นั้นมาแยกให้เห็นความต่างกันชัดขึ้นเท่านั้นเอง ผู้ศึกษารุ่นหลังๆจะได้เห็นง่ายๆ ตัดสินใจเลือกเอาแนวทางตามจริตของเขา ถูกไหมครับ
     
  17. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ว่าเข้าไปนั่น :) ถ้าผมจะแย่จะอะไรอีกเยอะแยะตามนั้น เพราะทำสิ่งที่คลุมเครือให้ชัดเจน แต่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นอีกหลายๆคน ผมยอมเลว ยอมแตกปลายครับ
     
  18. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    พอแล้วครับ พอสมควรแล้ว เดี๋ยวกระทู้จะเสียของ :)
     
  19. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    ท่านยังแยกไม่ออก ว่าอะไร ควร อะไร ไม่ควร นะ

    การสนทนานั้น ระหว่าง ท่าน กับ เรา เท่านั้น

    ให้ผู้อื่น ไปอ้างอิง คงไม่เป็นธรรม เพราะ เรารู้สภาวะของเราสองคน กันอยู่
    รึ ท่านไม่รู้ สภาวะ เรา
     
  20. ตั้งฉาก

    ตั้งฉาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2013
    โพสต์:
    495
    ค่าพลัง:
    +573
    เกริ่น มาท่านก็ตกแล้ว ยกสาระสำคัญทิ้งออกไป

    ครูบาอาจารย์คอยกำกับ อยู่ตรงไหน?


    ท่านมีเจตนาที่ไม่เป็นธรรมแฝงเร้น อันนี้ ถูกไม๊


    ให้ใครไปปฏิบัติ ลอยๆ ก็เละ นะสิ

    หรือท่านสอนกับคนอื่นแบบนี้มาตลอด
    ช้างหาย เลยนะนั่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2015

แชร์หน้านี้

Loading...