อาการเคลิ้มและวิธีจัดการในขณะทำสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย samartdo, 12 มีนาคม 2014.

  1. samartdo

    samartdo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +12
    ขออนุญาตสอบถามผู้รู้ทุกท่านครับ

    1. อาการที่ทำสมาธิไปได้สักครู่แล้วมีอาการวูบคล้ายหลับ เห็นภาพต่างๆเหมือนฝัน (ไม่มีนรก สวรรค์ นิมิต) แต่สั่งถอยออกมาได้ เหมือนมี 3 ห้องคือ ห้องหนึ่ง หลับตาภาวนา ห้องสอง หมดภาวนาไปรู้สึกบางอย่างหว่างคิ้ว ห้องสาม อย่างที่ว่า เหมือนหลับนั่นละครับ วิ่งไปวิ่งมา 3 ห้องนี้เลย ลืมตาก็ไม่ง่วงงัวเงีย อย่างนี้ หลับหรือเปล่าครับ

    2. การที่มักมีภาพไปในทางกามราคะขณะทำสมาธิ มีวิธีจัดการไหมครับ หรือควรพิจารณาอะไร รำคาญมาก โผล่มาที ก็ถอยออกมา กว่าจะเข้าไปใหม่ รบกวนมากๆ

    ขอถามเท่านี้ก่อนนะครับ ถ้ามีข้อสงสัยอะไรอีกจะมารบกวนใหม่

    ขอบคุณครับ
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    555555555+ ขอขำหน่อยนะ

    ตอบข้อ 2. ก่อน

    ต้องแยกให้ออกนะครับ ว่า ภาพ กับ อารมณ์ทางกาม

    ถ้าเป็นภาพพวกนั้น เค้าให้ วิปัสสนา นะครับ

    ถ้าเห็นภาพเฉยๆ ไม่ต้องไปถอยอะไร ให้วิปัสสนาครับ

    มันเป็น นิมิต ของตัวบุคคลนั้นๆ ครับ

    พิจารณาไปเรื่อยๆ จนปล่อย จิตไม่ยึดติดครับ
    จะยังไงก็แล้วแต่ ยกตัวอย่างเช่น กำหนดให้หายไป หรือกำหนดไฟเผาทิ้ง หรือ ให้เสื่อมกลายเป็นกระดูก หรืออื่นๆก็แล้วแต่ตัวบุคคล

    ปัญหาของ จขกท ข้อ2. คือ มัวแต่ไปยึดติดกับภาพนั้น แล้วคิดไปเองถอยออกมาเอง -.-


    เว้นแต่ว่า ถ้ากำลังจิตไม่มีกำลัง ภาพมาให้เห็นแล้ว ฟุ้งซ่าน เราเกิดอารมณ์ทางเพศ เพราะจิตไม่มีกำลัง จนหลุดออกจากสมาธิ นี่ วิธีแก้ก็คือ ให้ตั้งสติให้ดีๆ นะครับ อย่าให้กิเลสเกิดตอนจิตเป็นสมาธิ ไม่อย่างนั้นก็จะหลุดออกจากสมาธิครับ


    แต่ถ้าไม่ต้องการจะเห็น นิมิตพวกนั้น ก็ให้ใช้วิธี ตัดภาพนิมิต ออกไปแทนครับ เราภาวนาอยู่ เผลอหลุดจากคำภาวนาในกรรมฐานที่ปฏิบัติอยู่ หรือ มี นิมิตต่างๆแทรกเข้ามา ก็ให้รับรู้ แล้วปล่อยวาง กำหนดตัดภาพนิมิตพวกนั้นออกไป ให้กลับมาจดจ่ออยู่กับคำภาวนาครับ

    เราภาวนา รักษาอารมณ์หนึ่ง จดจ่ออยู่กับคำภาวนา เห็นภาพ แล้วเราไป วิตกวิจาร กับภาพนิมิตนั้น แทนที่จะกลับมาที่คำภาวนา มันก็เลยกลายเป็น ลืมภาวนา แทน ไปจับภาพนิมิตแทนคำภาวนา ดังนั้นแนะนำว่า จะนิมิตอะไรก็แล้วแต่ ภาพอะไรก็แล้วแต่ ปรากฏขึ้นมา ก็ให้วางกำลังใจ สักแต่ว่ารู้ รับรู้ แล้วปล่อยวาง จดจ่ออยู่กับคำภาวนา ถ้าต้องการปฏิบัติเพื่อ สมถะ นะครับ



    .


    .
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2014
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819

    ส่วนข้อ1.

    วูบคล้ายหลับ คือ ขาดสติ ครับ

    แล้วทีนี้ จะตัดไปเข้าฝัน หรือ ฟุ้งซ่าน ฟุ้งซ่านนิมิตต่างๆเข้ามา เพราะกำลังสติอ่อน ตามไม่ทันก็เลยไหลไปเรื่อย จนรู้ตัวทีหลัง ก็เลยมีสติสั่งถอยออกมาได้นะครับ

    จะห้องไหนก็แล้วแต่ จิตมีหนึ่ง เท่าานั้นครับ ที่เหลือมันอาการของจิตที่เป็น

    แนะนำว่า ถ้ารู้ตัวว่าหลุดจากคำภาวนา ก็ให้กลับมา จดจ่ออยู่กับคำภาวนาเหมือนเดิม ตามกรรมฐานที่ปฏิบัติ นะครับ

    .
     
  4. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    ไม่ต้องทำไร
    แค่คุณยอมแล้ว รู้แล้ว ว่าเรากำลังเคลิ้ม มันคือนิวรณ์
    ดีกว่าคนภาวนาเอานิวรณ์บูชานิวรณ์ โกฏล้านเท่า แล้ว
    คราวนี้ยอมมะว่าเนียะทุกข์ เพราะทะยานอยากในใอะไร
    ก็ไม่รู้
    ถ้ายอมอุทิศกุศลเลย ในการทำ ธรรมวิจายะนี้
    ทำวนไปวนมา
    ไม่ต้องเอาสมาธิกดให้หายเคลิ้ม ให้ภาพกามฉันทะ
    หายไป แค่นอมรับว่าทุกข์ เพราะทะยานอย่ก
    ในอะไรก็ได้ ที่เรา ไม่รู้
    นั้นอหละอสิชชา
    ไดบุญแล้ว ทุกครั้วที่ระลึกได้อุทิศกุศล
    ถ้าอกุศลดลไม่ได้คุณเดินมรรคได้เองเลย
     
  5. samartdo

    samartdo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +12
    :cool:

    ขอขอบพระคุณในทุกคำตอบที่ถาโถมเข้ามานะครับ

    แล้วการที่ผมจับลมหายใจไว้สักพัก แล้วอยู่ๆก็ลืมแต่เกิดอาการใหม่คือรู้สึกเสียวแว๊บที่หว่างคิ้ว ปกติแล้วผมบางครั้งก็ถอยมาจับลมหายใจใหม่ บางครั้งก็ตามดูอาการที่ว่าต่อเลย อย่างไหนสมควรกว่ากันครับ

    ปล. ภาพกามราคะส่วนมากที่โผล่มาไม่เกิดอารมณ์ทางเพศนะครับ แต่ทำให้เกิดความรู้สึกรำคาญ ด่าตัวเองว่าทำไมคิดเลวๆอย่างนี้ และเกิดความรู้สึกกลัวว่าผลของความคิด(หรือเปล่า)เหล่านั้นมันจะทำให้ตัวเองตกไปนรก เพราะมันไม่เกี่ยวกับผมน่ะสิครับ แต่ว่า แต่ละภาพนี่ นรกเลยครับ บาปหนาสุดๆ คิดแล้วก็หวั่นๆว่าจะไปขุมไหน :(
     
  6. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    มีวิธีเดียว คือ เป็นยังไง รู้สึกยังไง ก็กำหนดยังงั้น ตามที่มันเป็น ตามที่รู้สึก นี่คือวิธีเจริญสติสัมปชัญญะ เ็ป็นต้น คือเป็นการปลุกความรู้สึกให้อยู่เรื่องกับสิ่งที่เป็นปัจจุบัน เมื่อสติเป็นต้นแข็งแรงแล้ว คำถามทั้งข้อ 1 ข้อ 2 ก็จางคลายไป แค่นี้เอง
     
  7. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    มีแต่รูปแต่ไม่เกิดอารมณ์ ดีแล้วครับ ถือว่า สำรวมใจอยู่ในสมาธิ เพราะถ้าเผลอให้กิเลสกำเริญนี่ หลุดจากสมาธิแน่ๆ ครับ

    ส่วนจะไปนรกนั้น ก็ให้เปรียบดูว่า คุณเล่นเว็บอยู่ อยู่ๆมีโฆษณาเว็บโป้ขึ้นมาแบบนี้ให้เห็น จะลงนรกหรือไม่ อยู่ที่ จิตในขณะนั้น เป็น กุศลกรรม หรือ อกุศลกรรม นั้นเองครับ

    เรื่องภาพกามราคะ นี่ไม่ต้องไปแปลกใจหรอกครับ ไม่ใช่ว่า จขกท เป็นแค่คนเดียว

    ในหมู่นักปฏิบัติ ก็เป็นกันหลายคน มีวิธีแก้ไข แล้วแต่ ครูบาอาจารย์ที่สอนครับ

    ในหมู่วงในกรรมฐาน ก็จะเล่าให้ฟังนะครับ ปรกติคุยกับพระอาจารย์ตัวต่อตัวหรือในวง ไม่เอามาพูดข้างนอกหรอก เพราะบุคคลอื่นที่ไม่เคยฝึกฟังไปก็ไม่เข้าใจ เดี่ยวก็ประเภทหากรรมเข้าตัวเอง

    ครูบาอาจารย์เล่าว่า ถ้าฝึกมาถึงขึ้นนึง บางคนที่เป็น มันต้องไปพิจารณา อวัยวะ นี่ละครับ บางรูป ก็ปรากฏ นิมิตอวัยวะเพศญ ขึ้นมา ก็ต้องพิจารณาให้ผ่าน ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นแบบนั้นติดอยู่ตรงนั้น ดังนั้น จขกท ไม่ต้องไปแปลกใจอะไรหรอก เรื่องปรกติ เพียงแต่ว่า ถ้าไม่เป็นไม่เคยเจอก็ไม่เข้าใจ และถ้าพวกคนที่ไม่เคยปฏิบัติเดี่ยวก็จะไปหาว่า ปฏิบัติบ้าอะไรนิมิตให้ไปเพ่งอวัยวะ 5555555+ เดี่ยวจะกลายเป็นแปลกปลาด


    ส่วนเรื่องอาการทางกาย นั้น ไม่ต้องไปสนใจครับ

    อย่าลืมว่า เราภาวนา เพื่อต้องการให้จิตสงบเป็นสมาธินะครับ

    ไม่ใช่ว่า ภาวนาเพื่อไปดูเสวยอารมณ์ทางกายต่างๆนาๆ

    ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่าเผลอหลุดจากคำภาวนาก็ให้กลับไปภาวนเหมือนเดิมครับ

    .
     
  8. samartdo

    samartdo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +12
    แล้วถ้าผมตามไปดูอาการทางกายที่เกิดแล้วมันดับ เกิดอันอื่นอีกตามไปดูจนมันดับอีกเรื่อยๆ อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่ครับ เคยทำอยู่ 2 - 3 ครั้ง ก็ไม่รู้ว่าผิดไหม แค่ลองทำดู
     
  9. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    มันก็จะวนไปไม่รู้จบครับ อยากลองก็ลองได้ทดสอบได้ครับ

    อาการมันก็จะอยู่แบบนั้นละ ติดขัดอยู่แค่ตรงนี้เวลาปฏิบัติ

    หรือง่ายๆก็คือ ทำให้เสียเวลา ไม่ก้าวหน้านั้นเองครับ


    ถามว่าไม่รู้ว่าผิดไหม ตามความเห็นผม ผิด ครับ

    เพราะหลุดจากคำภาวนา ไปแล้วนะครับ

    กรรมฐาน 40 ห้อง หาอ่านดูนะครับ ว่ามีกรรมฐานกองไหนมั่งที่สอนแบบนี้วิธีแบบนี้ ว่ามีมั้งไหมนะครับ แล้วจะเข้าใจนะครับ

    .

    อย่าลืมนะครับ ภาวนา ต้องการจิตเป็นสมาธิ ไม่ใช่ไปจับอาการทางกาย หรือ กายหยาบ ร่างกายนั้นเอง มันก็จะติดอยู่ตรงนี้ แค่กายหยาบ ไม่ไปถึงกายทิพย์ภายใน กายละเอียด ไม่ไปถึง จิต ผู้รู้ นะครับ

    มันเป็นแค่อาการทางกายหยาบ อาการทางจิตที่ไปเสวยอารมณ์วิญญาณสัญญาทางกาย เท่านั้นเอง ขวางผลการปฏิบัติ.

    .
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2014
  10. samartdo

    samartdo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +12
    กระจ่างมากครับ ขอบพระคุณอย่างสูง

    อีกไม่กี่วันถ้ายังหางานไม่ได้ คงได้มีเวลาปฏิบัติเยอะมาก

    แต่จะทุกข์ใจเพราะต้องกลับไปรบกวนพ่อแม่

    มารเยอะจริงๆ
     
  11. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    ก็เวลาออกจากสมาธิก็เลิกเข้าเวปโป๊ หรือดูหนังโป๋ อ่านการ์ตูนลามก
    แค่นี้ มันก็ไม่มารบกวนแล้วล่ะ
     
  12. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    มีอาการวูบคล้ายหลับ .. มันก็คือหลับล่ะค่ะ

    ลองนั่งใหม่
    อยากไปไหน ให้ตั้งใจเอาไว้ก่อน
    เช่น อยากไปป่าหิมพานต์
    ถ้าไม่ตั้งใจ จะไปแบบสะเปะสะปะ

    แล้วทำใจนิ่งๆเฉยๆ
    กำหนดภาวนา นะมะ พะธะ

    หายใจเข้าว่า นะมะ
    หายใจออกว่า พะธะ
    ไม่ต้องตามลม
    ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ

    ลองดู
     
  13. samartdo

    samartdo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +12
    สรุปคือ สมาธิจะไม่วูบ ใช่ไหมครับ
     
  14. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    จิตตั้งมั่น มีสติ รู้อยู่ตลอด

    ถ้าขาดสติ ไม่รู้ตัว ก็ไม่ใช่สมาธิ นะคับ

    อย่าว่าแต่ สมาธิเลย ฌาน หรือ อรูปฌาน ก็ยังมี สติ รู้ นะครับ

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2014
  15. samartdo

    samartdo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +12
    อย่างนั้นแปลว่าผมหลับบ่อยแล้วละครับ :d:d:d

    นั่ง ครึ่ง ชั่วโมง นี่ วูบนับครั้งไม่ถ้วนเลย
     
  16. tsukino2012

    tsukino2012 หยุดจึงพบ สงบจึงเกิด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    1,311
    ค่าพลัง:
    +3,090
    นั่งต่อไปครับ ทำไปเรื่อยๆ ให้ชิน จนผ่านไปได้เอง
    ของแบบนี้คนอื่นบอกไป ก็เท่านั้น
    ทนไป ทนจนจับจุดได้เอง ของแบบนี้ใช้ความถี่ในการฝึกฝน
    เรื่องของฌานไม่ใช่เรื่องความเก่งกาจ
    เรื่องของฌานเป็นเรื่องของการฝึกสม่ำเสมอ มีความอดทน ก้าวหน้าได้ทุกคน
     
  17. samartdo

    samartdo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +12
    ขอบพระคุณครับ

    ตอนนี้ ใจยังไม่สงบง่ายๆแน่

    1. ขวนขวายหางาน ตกงานมา 2 เดือนละครับ

    2. ใกล้วันเกิด อายุ 32 ละครับ เส้นตายที่มีใครบางคนบอกไว้ ว่าจะทำอะไรก็รีบทำ
     
  18. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ยืน เดิน นั่ง นอน ปฏิบัติได้หมดนะครับ


    นั่งทำสมาธิ วูบ

    แต่นั่งดูหนัง นั่งเล่นเน็ต นั่งทำอย่างอื่น ไม่วูบ

    ระวัง กิเลส อุปทานหลอก ขวางการปฏิบัตินะครับ นะครับ :d
     
  19. samartdo

    samartdo สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +12
    นั่นละครับ ปัญหา

    เพราะอาการวูบนี่แหละ ทำให้ลังเลสงสัย

    ทำแป๊บเดียววูบ

    ยกตัวอย่างล่าสุด นั่งดักลมเข้าออก ภาวนาไปด้วย

    เหมือนจะราบลื่น พลันก็มีภาพต่างๆโผล่มา

    ก็คิดว่า เอาอีกละ แล้วก็คิดว่าให้ไปลืมตาใหม่บ้าง ไปดักลมหายใจใหม่บ้าง

    เพราะไม่รู้ว่าไอ้อาการอย่างนี้ มันหลับไหม ก็คิดเสมอว่าคงหลับจึงถอยมา

    จึงมาปรึกษาท่านทั้งหลาย
     
  20. บุญยง โคกกระทา

    บุญยง โคกกระทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    2,709
    ค่าพลัง:
    +3,236
    สมาธิแบบไม่เอานิวรณ์จะไม่วูบครับ
    ไม่อยากจะทักว่ามีอาการเหมือนไสยะ
    เพราะมันแล้วแต่รสนิยม ลองภาวนาคาถาชินปัญชร
    ไม่เอาฌานไม่เอาสมาธิอะไรทั้งสิ้นเอาแต่ค่ถาขินปัญชร
    ถ้ามีอากาเหมือนจิตโดนดึงไปจะยื้อกับแบบแทบตาย
    อันนี้โดนของ
    ให้ลองหัดภาวนา คาถาจักรพรรดิ์แบบภาวนาให้สงบสงัดจากนิวรณ์ที่สุด
    ลองเข้า เวบวัดถ้ำเมืองนะ อาจจะต้องหัดสวดอยู่หลายเดือนอาจจะ
    หรือหัดสวดอยู่วันเดียวก็อธิษฐานจิต ได้ผล
    ก็ได้แล้วแต่คน มห้เอาคาถาจักรพรรดิ์อธิฐานมิ ค่าถาขินปัญชร
    ครั้งละไม่ต่ำกว่าเก้าจบ แล้วไล่ไสยศาสตร์ภด้ให้ระวังตัว
    หาวัตถุมงคลมาห้อย มาพกแล้วเอาคาถาจักพรรดิ์นั้นแหบะอธิษฐาน
    วัตถุมงคล
    อ่การวูบนั้นๆคือโดนอำนาจ ของอาถรรพ์ดึงจิต
    ไม่ต้องไปหาหมอผี คาถาชินปัญชร พร้องคาถาจัดรพรรดิ์ัเอาอยู่
     

แชร์หน้านี้

Loading...