อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

Discussion in 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' started by ปู ท่าพระ, Dec 26, 2013.

Tags: Add Tags
  1. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Oct 16, 2011
    Messages:
    8,851
    Featured Threads:
    125
    Ratings:
    +225,815
    สวัสดียามดึกคืนวันเสาร์ครับคุณปู คุณโญ พี่ตี๋ใหญ่ พี่รุ่ง คุณเอ๊ะ คุณชาญ คุณบอย คุณภัทร์ คุณตุ้ม คุณเอ็ม คุณนาย คุณเคี้ยว คุณโอ๊ต น้องนิก และทุกๆท่านครับ


    [​IMG]
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 7
    • List
  2. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Oct 16, 2011
    Messages:
    8,851
    Featured Threads:
    125
    Ratings:
    +225,815
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    (จากธัมมวิโมกข์ ฉบ้บรวมเล่ม ปีที่ 2 ฉบับที่ 9-18 หน้า 661-664)
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 8
    • List
  3. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 4, 2009
    Messages:
    5,822
    Ratings:
    +60,326
    [​IMG]

    หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (16)

    ครูบาศรีวิชัยมรณภาพ

    เมื่อท่านได้ ๒๘ ปี ขณะนั้นท่านได้จาริกธุดงค์สั่งสอนชาวป่าชาวเขาตามดอยต่างๆ
    ท่านได้ทราบข่าวการมรณภาพของครูบาศรีวิชัย จึงได้เดินทางลงจากเขาเพื่อไปนมัสการพระศพ
    และช่วยจัดทำพิธีศพของครูบาศรีวิชัย ร่วมกับครูบาขาวปีและคณะศิษย์ของครูบาศรีวิชัย
    ที่วัดบ้านปาง เมื่อเสร็จจากพิธีบรรจุศพครูบาศรีวิชัยแล้ว
    กรมทางได้นิมนต์ให้ท่านไปช่วยสร้างเส้นทางบ้านห้วยกาน-บ้านห้วยหละ
    ซึ่งในตอนนั้นท่านก็ยังห่มผ้าสีขาวอยู่ เมื่อการสร้างทางได้สำเร็จลงแล้ว
    ชาวบ้านห้วยหละ จึงได้มานิมนต์ท่านไปจำพรรษา
    และอบรมสั่งสอนพุทธบริษัทที่สำนักสงฆ์ห้วยหละ อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน

    ห่มเหลืองอีกครั้งหนึ่ง

    ขณะนั้นหลวงพ่ออายุได้ ๒๘ ปี ครูบาย
    (ซึ่งเป็นศิษย์คนหนึ่งของครูบาศรีวิชัย และเป็นเพื่อนสงฆ์กลุ่มเดียวกับหลวงพ่อ,
    ครูบาขาวปี วัดผาหนาม จังหวัดลำพูน, ครูบาบุญทืม วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน,
    ครูบาศรีนวล วัดเจริญเมือง จังหวัดเชียงราย, ครูบาก้อน จังหวัดลำปาง ฯลฯ เป็นต้น)
    และชาวบ้านป่าพลูได้มานิมนต์ให้ท่านไปอยู่ช่วยบูรณะวัดป่าพลู
    และในปีนี้ท่านได้มีโอกาสห่มเหลืองเช่นพระสงฆ์ทั่วไปอีกครั้งหนึ่ง
    โดยมีครูบาบุญมา วัดบ้านโฮ่ง เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับฉายาใหม่ว่า "จันทวังโส"
    (ในคราวนี้หลวงปู่แก้วอุบาลี วัดห้วยแทง จังหวัดลำพูนเป็นพระสงฆ์ที่อยู่ในพิธีด้วยองค์หนึ่ง)

    ในการห่มเหลืองในครั้งนี้ คณะสงฆ์ได้ออกญัตติให้ท่านต้องจำพรรษาที่วัดป่าพลู
    เป็นเวลา ๕ พรรษา เมื่อออกพรรษาในแต่ละปีท่านจะเดินทางไปธุดงค์
    และจาริกสั่งสอนธรรมะให้กับชาวป่าชาวเขาในที่ต่างๆ เสมอเหมือนที่ท่านเคยปฏิบัติมาในอดีต
    และบ่อยครั้งท่านจะไปช่วยครูบาขาวปีบูรณะวัดพระพุทธบาทตะเมาะ อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่


    ที่มา: ธรรมจักร
     
    Last edited: Mar 9, 2014
    • ถูกใจ ถูกใจ x 7
    • List
  4. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 4, 2009
    Messages:
    5,822
    Ratings:
    +60,326
    ขอบคุณพี่ตี๋เช่นกันคร๊าบบ วันนี้พี่ตี๋โชว์พระให้ชมกันจุใจเลย
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 5
    • List
  5. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 4, 2009
    Messages:
    5,822
    Ratings:
    +60,326
    ยินดีต้อนรับครับพี่อ้วน ความรู้ของพี่อ้วนจะเป็นประโยชน์กับพี่ๆน้องๆเราอย่างมากเลยครร๊าบบ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 6
    • List
  6. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 3, 2012
    Messages:
    5,812
    Ratings:
    +97,448
    ;aa44 อรุณสวัสดิ์ครับพี่ตี๋ พี่วรรณ พี่ปู และทุก ๆ ท่าน
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 6
    • List
  7. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 4, 2009
    Messages:
    5,822
    Ratings:
    +60,326
    [​IMG]

    ครูบาสร้อย ขันติสาโร เทพเจ้าแห่งท่าสองยาง

    หลวงพ่อสร้อยท่านถือกำเนิดเมื่อวันจันทร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ.2472 ตรงกับวันขึ้น 7 ค่ำ เดือน 10 ปีมะเส็ง พื้นที่เขตตำบลละหานทราย(ปัจจุบันเป็นอำเภอแล้ว) อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ โยมบิดาของท่านมีนามว่า วัน และโยมมารดาของท่าน มีนามว่ากรด (ส่วนท่านกำเนิดในสกุลใดนั้นในหนังสือเขียนไว้ไม่กระจ่าง ผมจึงขอละเว้นที่จะนำเสนอเพื่อป้องกันความสับสนต่อไป ) ท่านมีพี่สาวเพียงคนเดียวมีนามว่า คิด ภายหลังท่านกำเนิดมาได้ 7วัน โยมบิดาของท่านก็ได้ถึงแก่กรรม และเมื่อท่านอายุได้ 7 ขวบ โยมมารดาของท่านก็ได้ถึงแก่กรรม ซึ่งท่านก็ได้อยู่ในความดูแลของคุณยายท่านมานับแต่นั้น ซึ่งคุณยายของท่านนับเป็นบุคคลที่ชอบเข้าวัดฟังธรรมตามวิถีชีวิตชนบท ซึ่งจะพาท่านไปด้วยเสมอ ทำให้ท่านได้ใกล้ชิดกับวัดมาตลอดนับแต่วัยเด็ก

    สามเณรสร้อย

    ด้วยในวัยเด็กท่านได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับวัดมาตลอด และในช่วงหนึ่งท่านได้มีโอกาสถวายน้ำตาลแด่พระธุดงค์ โดยพระรูปนั้นได้กล่าวกับท่านว่า เมื่อใหญ่แล้วให้บวชนะ ซึ่งท่านได้ระลึกถึงคำนี้มาตลอด จนท่านเรียนจบประถม 4 จึงได้ขออนุญาตคุณยายของท่านบวชเป็นสามเณร โดยคุณยายของท่านได้เห็นชอบด้วยจึงพาท่านไปบวชที่วัดชุมพร ซึ่งอยู่ในละหานทรายนั่นเอง โดยมีหลวงพ่อมั่น เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากที่ท่านบรรพชาเรียบร้อยแล้วท่านก็ได้อยู่กับหลวงพ่อมั่นนั่นเอง โดยหลวงพ่อมั่นท่านได้สอนให้สามเณรรูปใหม่(หลวงพ่อสร้อย) หัดบริกรรมด้วยการตกลูกประคำเป็นการฝึกสมาธิ และปฎิบัติวัตรถากท่านเช่นการบีบนวด หลวงพ่อมั่นก็จะกล่าวบรรยายอบรมข้อธรรมต่างๆไปพร้อมกัน จนหลวงพ่อมั่นเห็นว่าสามเณรสร้อยมีจิตใจที่นิ่งมั่นคงดีแล้ว ท่านจึงได้สอนอาคมต่างๆควบคู่ไปกับการปฏิบัติสมาธิด้วย และยังได้พาท่านออกธุดงค์ รุกขมูลเพื่อให้ได้รับข้อธรรมต่างให้เพิ่มพูน(เรื่อง ราวการธุดงค์ ผมขอละเว้นไว้นะครับ)



    พระสร้อย ขันติสาโร

    ท่านได้อยู่เป็นสามเณรกับหลวงพ่อมั่นมา จนล่วงได้อายุ 22 ปี จึงได้ทำการอุปสมบทโดยมีหลวงพ่อมั่นเป็นพระอุปัชฌาย์ มีหลวงพ่อสุข วัดโพธิ์ทรายทองเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อสุตเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ขันติสาโร หลังจากที่เสร็จสิ้นการอุปสมบท หลวงพ่อสุขได้กล่าวชวนท่านไปด้วย ยังความดีใจแก่ท่านเป็นที่สุด ได้กราบลาหลวงพ่อมั่นขออนุญาตตามหลวงพ่อสุขไป โดยเริ่มแรกหลวงพ่อสุขได้ให้ท่านขึ้นครูกรรมฐาน โดยในช่วงต้นหลวงพ่อสุขได้เน้นหนักท่านในเรื่องการปฏิบัติกรรมฐาน ท่านเล่าว่าท่านปฏิบัติจนมีความสุขบางทีถึงกับไม่ได้ หลับได้นอนเลย แต่ก็ไม่มีความง่วงเหงาหาวนอนแต่อย่างใด ในพรรษาถัดมาหลวงพ่อมั่นซึ่งเปรียบดังบิดาของท่านก็ไ ด้มรณภาพลง ท่านจึงได้กลับไปจัดงานถวายแก่หลวงพ่อมั่น เสร็จสิ้นแล้วจึงกลับมายังวัดหลวงพ่อสุขดังเดิม โดยหลวงพ่อสุขได้เริ่มสอนวิชาต่างๆแก่ท่านซึ่งวิชาที่สำคัญคือการตรวจดูบุญวาสนา และเวรกรรมของผู้ป่วย เพื่อช่วยในการรักษาโรคภัยต่างๆ อยู่ต่อมาในระหว่างอยู่ศึกษากับหลวงพ่อสุขอยู่นั้น(ในหนังสือไม่ได้บอกว่าช่วงพรรษาใด)ท่านได้เกิดอาการปวดศีรษะ อย่างแรงขณะปฏิบัติสมาธิอยู่บนศาลาจึงขอหลวงพ่อสุขไปพัก โดยระหว่างนั้นเองขณะนอนลงพัก วิญญาณของท่านก็ได้หลุดจากร่าง (ช่วง ระหว่างวิญญาณท่านออกไปนี้ ผมขอละไว้นะครับ) ซึ่งการมรณะครั้งนี้ท่านได้สิ้นลมไป 7 วันเต็มๆ ซึ่งในระหว่างนั้นหลวงพ่อสุขได้ทำพิธีเพื่อตามท่านนำ ท่านกลับมา (ซึ่งวิชาเดียวกันนี้ท่านได้ใช้ช่วยชีวิตเ ด็กชาวกระเหรียงให้ฟื้นคืนมาแล้ว)

    เข้าสู่ปี พ.ศ.2497 หลวงพ่อสร้อยได้ขอลาหลวงปู่สุขเข้าสู่กรุงเทพ โวยจุดหมายคือวัดมหาธาตุ ด้วยขณะนั้นขึ้นชื่อในเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐ าน ท่านได้อยู้ศึกษาเป็นเวลา 7 เดือนท่านจึงลาพระอาจารย์ชาดกผู้สอนท่านกลับคืนยังบุรีรัมย์ เมื่อญาติโยมได้รู้ข่าวการกลับมาของท่าน จึงได้ทำการต้อนรับและนิมนต์ให้ท่านอยู่ที่วัดกลางนา รองเป็นเจ้าอาวาสดูแลวัด ท่านได้นำพาหมู่คณะปฏิบัติตามที่ท่านได้ศึกษามา

    แต่หลังจากออกพรรษาท่านได้ตัดสินใจออกรุกขมูลโดยท่าน ได้ล่ำลาญาติโยมแล้วก็ออกเดินรุกขมูลลัดเลาะไปตามจัง หวัดสุรินทร์ ศรีสะเกษ ต่อไปยังอุบล จนยาวไปถึงนครพนม ข้ามไปยังฝั่งลาวแล้วข้ามกลับมายังมุกดาหาร ต่อเรื่อยไปจนเข้าสู่เทือกเขาภูพาน เขตสกลนครซึ่งท่านได้พบกับพระเถระรูปหนึ่งและได้ขอร่ำเรียนวิชาด้วย เรื่อยไปจนเข้าหล่มสักเข้าพิษณุโลก ซึ่งช่วงนี้ท่านหลงป่าอยู่ จนทะลุออกมายังอุตรดิตถ์ จากการหลงป่าครั้งนี้ท่านจึงเปลี่ยนมาเดินโดนใช้เส้น ทางรถไฟช่วย ล่วงได้ 7 วัน ท่านก็ล่วงถึงดอยสะเก็ด เชียงใหม่ โดยพบกับหลวงปู่แหวน และได้ขอศึกษาข้อธรรมต่างๆจากหลวงปู่แหวนโดยช่วงนั้น หลวงปู่แหวนท่านกำลังเน้นไปทางอสุภะกรรมฐาน ซึ่งช่วงนี้ท่านว่าท่านได้พบกับข้อธรรมที่ลึกซึ้งมาก ขึ้น จากนั้นท่านได้ลาหลวงปู่แหวน ออกรุกขมูลต่อรอนแรมไปจนถึงแม่สะเรียง พักที่วัดศรีบุญเรืองท่านตั้งใจจะไปหาเพื่อนที่แม่ฮ่องสอนแต่ด้วยติดกาลพรรษาท่านจึงได้ประจำพรรษาที่วัดศรีบุญเรือง จนล่วงกาลพรรษา ท่านจะออกเดินทางต่อ พอดีได้ทราบจากญาติโยมว่าที่ท่าสองยางมีวัดร้างอยู่ ท่านจึงคิดอยากไปที่นั่นดูด้วยคิดว่าคงเหมาะแก่การปฏิบัติธรรม สร้างวัดมงคลคีรีเขตร์

    เส้นทางการมายังท่าสองยางนี่นับว่าลำบากเอาการ โดยจากแม่สะเรียง ผ่านไปยังแม่กระตวนจนสุดที่แม่ระมาด ต่อเรือไปยังแม่วะ แล้วเดินต่อไปยังแม่กะ จนลุถึงท่าสองยางชาวบ้านก็ดีใจที่ได้พบพระสงฆ์ ได้ให้ท่านอยู่โปรดโดยช่วยกันสร้างกุฏิให้ท่านด้วยใบ ตองตึง โดยพรรษานั้นท่านได้อธิฐานอยู่พรรษาแต่รูปเดียว ซึ่งระหว่างนั้นได้มีลูกหลานชาวบ้านนามว่าเด็กชายสม แสนไชย คอยอยู่วัตรถากท่าน ต่อมาด้วยท่านมุ่งที่จะใช้เวลาในการปฏิบัติให้มากขึ้น จึงหลบการพบผู้คนด้วยการลงไปกางกลด อยู่ในบริเวณป่าช้า ซึ่งเด็กชายสมก็ได้ตามไปด้วย โดยเลือกอยู่ใต้ต้นตะเคียนต้นหนึ่ง(เรื่องราวต่างๆใน ช่วงการอยู่ป่าช้าผมขอละเว้นไว้นะครับ)

    ต่อมาชาวบ้านได้นิมนต์ท่านกลับไปยังวัดตามเดิม โดยได้ร่วมใจปรับปรุงวัดให้ท่าน ในวันที่ท่านย้ายกลับเข้าวัดนั้นปรากฏว่าตะเคียนต้นที่ท่านใช้อยู่ระหว่างปฏิบัติที่ป่าช้าถึงกับโค่นลง
    ต่อมาในปี พ.ศ. 2500 ท่านได้จัดให้มีการบวชพระ และสามเณรขึ้น ทำให้วัดมีพระอยู่จำพรรษาขึ้น รวมได้ 11 รูป ล่วงมาปี พ.ศ.2503 ช่วงพรรษาหลังฉันเช้าแล้วท่านมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว จึงได้นอนพัก ปรากฏว่าวิญญาณท่านได้ออกจากร่างไปอีกครั้งเหมือนดัง เช่นเคยเกิดกับท่านสมัยอยู่กับหลวงปู่สุข แต่ครั้งนี้ท่านหายไปเพียง 1 วัน(รายละเอียดช่วงนี้ขอละไว้นะครับ ความจริงแล้วน่าสนใจมากเพราะสอนให้เราได้เห็นถึงบาปบุญคุณโทษอีกด้วย มีโอกาสจะนำมาพิมพ์อีกทีครับ) ล่วงมาปี พ.ศ. 2505 ท่านมีดำริจะสร้างวัดให้ดีขึ้น ให้ถูกต้องมี วิสุงคามวาสี เหมือนกับเทวดาที่รักษาวัดจะทราบเรื่องราว คืนนั้นในสมาธิเทวดาซึ่งเดิมเป็นเจ้าของที่แห่งนั้น ได้มาปรากฎ และถามถึงความต้องการของท่าน ท่านก็บอกไปว่าจะบูรณะปรับปรุงวัดให้ดีขึ้น ท่านเจ้าของที่ได้อนุโมทนายกที่ให้ท่าน แล้วลาท่านไปอยู่ที่แห่งใหม่ ยังเทือกเขาแถบนั้น โดยในสมาธินั้น ได้มีการพูดคุยเกี่ยวกับตำแหน่งต่างๆในบริเวณวัดที่ ะทำการปลูกสร้างถาวรวัตถุ แต่มาติดที่บริเวณหนึ่งซึ่งกำหนดจะเป็นที่ตั้งของศาลา มีหินก้อนใหญ่ สองก้อนกีดขวางอยู่ซึ่งท่านคิดว่าลำพังกำลังชาวบ้านคนยากที่จะเอาออกได้ ในสมาธินั้นท่านว่าเจ้าที่ท่านได้ช่วยเอาออกให้ ปรากฎเป็นควายตัวใหญ่สองตัวเอาเขาขวิดจนหินสองก้อนนั้นกลิ้งหายไป จนต่อมาได้สบโอกาสที่จะทำการสร้างศาลา ท่านก็มาติดปัญหาที่หินสองก้อนนี้ ซึ่งทำให้ท่านหวนคิดถึงนิมิตในครั้งนั้นว่าเจ้าที่ท่ านช่วยเอาหินออกแล้วนี่ จนช่างผู้คุมงานเสนอให้ท่านย้ายที่ตั้งศาลา แต่ปรากฏว่าในขณะนั้นได้มีรถที่ใช้ก่อสร้างทางของกรมทางมาจอดที่วัด เจ้าหน้าที่ทั้งสองคนได้มาบอกหลวงพ่อว่าได้รับคำสั่ง ให้มาช่วยยกหินสองก้อนนั้นออกไป ทำให้การสร้างศาลาลุล่วงไปด้วยดี จนแล้วเสร็จในราวเดือนห้าของปี 2506

    และท่านก็ได้พัฒนาปรับปรุงวัดเรื่อยมา และในระหว่างนั้นท่านก็ได้ให้การอุปถัมภ์ทั้งวัดต่าง ๆ และหน่วยงานของราชการเช่นโรงพยาบาล เสียดายที่รายละเอียดส่วนนี้ไม่มีบันทึกไว้ แต่ที่แน่ๆทั้งละหานทราย และนางรอง ท่านก็ได้ให้การช่วยเหลือหลายแห่งเหมือนกัน

    ชีวิตบั้นปลาย

    หลวงพ่อสร้อยท่านได้ตรากตรำ อย่างนักในช่วงชรา ผมเองจำได้ว่าครั้งนึงก่อนท่านมรณะไม่เท่าไหร่ ท่านยังมีเมตตาช่วยเททองวัตถุมงคล ให้กับวัดที่หลวงปู่สุขให้ให้การทำนุบำรุงมาก่อนอย่า งเต็มใจ แม้ช่วงนั้นท่านจะไม่แข็งแรงเท่าไหร่ ซึ่งหลังจากเททองเสร็จ ไม่เท่าไหร่ท่านก็มรณภาพ ไม่ทันได้กลับมาปลุกเสก (อาจนับได้ว่าเป็นวัตถุมงคลชุดสุดท้ายของท่านก็ว่าได้)

    จนในวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2540 ลูกศิษย์ได้นำท่านเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลนครธนพระราม 2 จนวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2541 หลวงปู่หงษ์ท่านได้มาเยี่ยมหลวงพ่อสร้อย ด้วยหลวงปู่หงษ์ท่านว่าท่านฝัน (นิมิตของท่านแหละครับ แต่ท่านชอบพูดว่าฝัน) หลวงพ่อสร้อยท่านกระโดดลงจากเตียง เมื่อพบกัน หลวงปู่หงส์ท่านได้ทำด้ายคล้องคอให้แก่หลวงพ่อสร้อย และหลวงพ่อสร้อยท่านได้กล่าวกับหลวงปู่หงส์ในทำนองว่า ?จะขอลาแล้ว ขอลามรณภาพจะได้ไหม? ซึ่งหลวงปู่หงส์ท่านก็นิ่ง แล้วก็เดินทางกลับ จากนั้น วันที่ 17 มกราคา พ.ศ. 2541 หลวงพ่อสร้อยท่านได้เรียกพระลูกวัดที่อยู่ที่นั้นมาร วมกัน ได้จับมือจับแขนพระทุกรูป และได้กล่าวอบรบเป็นครั้งสุดท้าย ในลักษณะว่า ?ต่อไปเราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ ให้ปฏิบัติตัวกันให้ดี ขยันทำงาน มีอะไรก็ทำไป ให้ประหยัดและอดทนทุกคนนะ? มาวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2541 หลวงพ่อสร้อยได้สั่งให้ลูกศิษย์นับเงินที่ลูกศิษย์มาร่วมทำบุญกับท่านเพื่อเตรียมเป็นค่าใช้จ่ายแก่โรงพยาบาล ยังความตกใจและหวั่นใจของลุกศิษย์เป็นอย่างมากเนื่อง ด้วยท่านเองยังไม่หาย และอาการก็ทรุดหนัก แต่ท่านเตรียมออกจากโรงพยาบาล เข้าช่วงกลางคืนของวันที่18 มกราคม พ.ศ.2541ท่านได้สำลักเสมหะ และท่านได้เข้าสมาธิจนถึงราวตีสามย่างตีสี่ ได้เรียกให้พระมาช่วยพลิกตัวท่าน ถึงนาทีนั้นพระทุกรูปได้รวมกันนั่งสมาธิภาวนาอยู่หน้าห้องหลวงพ่อ จนล่วงเข้าเวลา 07.19น. ของวันที่19 ธันวาคม พ.ศ. 2541 ท่านก็ได้หยุดดับธาตุขันธ์ ทิ้งเหลือไว้แต่คุณงามความดี ที่ยังคงประทับอยู่ในหัวใจของลูกศิษย์ทุกคน สิริอายุ ๖๙ ปี ครับ

    ข้อมูลจากเว็บไซต์คนรักมีด
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 7
    • List
  8. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 4, 2009
    Messages:
    5,822
    Ratings:
    +60,326
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ครูบาสร้อย เทพเจ้าแห่งท่าสองยาง
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 7
    • List
  9. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 4, 2009
    Messages:
    5,822
    Ratings:
    +60,326
    [​IMG]

    สวัสดียามเช้าครับพี่วรรณ พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่ช้าง พี่รุ่ง พี่อ้วน คุณบอย น้องโอ๊ต น้องเอ็ม น้องเขี้ยว คุณหนุ่ม น้องเอ๋ คุณวุฒิ น้องนิก คุณตั้น คุณกันตปัญโญ คุณหมอ คุณhmoomoo คุณsellcat คุณEYEOFVENUS และพี่ๆน้องทุกท่าน ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 6
    • List
  10. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Dec 4, 2009
    Messages:
    5,822
    Ratings:
    +60,326
    สวัสดียามเช้าครับพี่โญ เดี๋ยวคงต้องแปลงร่างเป็นแจ๋วแล้วคร๊าบบ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 5
    • List
  11. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jan 5, 2012
    Messages:
    6,518
    Ratings:
    +68,125
    สวัสดียามเช้าครับ สมช.อัลบั้มพระทุกท่าน
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 6
    • List
  12. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jan 5, 2012
    Messages:
    6,518
    Ratings:
    +68,125
    ต้อนรับพี่อ้วนครับ...
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 5
    • List
  13. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Jan 5, 2012
    Messages:
    6,518
    Ratings:
    +68,125
    พระเยอะมากครับ...ตอนนี้อยู่ที่ไหนบ้าง..?
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 4
    • List
  14. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Apr 26, 2009
    Messages:
    5,779
    Ratings:
    +18,374
    พระสวย คม ชัด ลึกจริงๆ ครับคุณบอย
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 4
    • List
  15. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 3, 2012
    Messages:
    5,812
    Ratings:
    +97,448

    ;aa44 สวัสดีครับคุณเอ๊ะ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 5
    • List
  16. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 4, 2013
    Messages:
    7,468
    Ratings:
    +38,819
    สวัสดียามเช้า คุณปู คุณวัน อ.โญ คุณเคี้ยว คุณวุฒิ คุณเอ๊ะ คุณอ้วน คุณเอ็ม คุณรุ่ง คุณโอ็ต คุณหนุม คุณเอ๋และทุกๆท่าน
    วันนี้วันอาทิตย์ ขอให้จิตแจ่มใส ผักผ่อนให้สบายกาย สบายใจ กันนะครับ
     
    Last edited: Mar 9, 2014
    • ถูกใจ ถูกใจ x 5
    • List
  17. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 3, 2012
    Messages:
    5,812
    Ratings:
    +97,448

    บรรจุไว้ประมาณ ๒๐๐๐ องค์ เหลือสมบูรณ์เพียง ๘๐๐ องค์


    สายอุุดรรับมาประมาณ ๕๐๐ องค์ นำออกให้ร่วมทำบุญผ้าป่าให้วัดกันทรอมใต้ ๓๐๐ องค์

    ที่เหลือนำกลับไปมอบไว้ที่วัดกันทรอมใต้ครับคุณเอ๊ะ


    [​IMG]
     
    Last edited: Mar 9, 2014
    • ถูกใจ ถูกใจ x 8
    • List
  18. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 4, 2013
    Messages:
    7,468
    Ratings:
    +38,819
    พระ กทม.
    ลพ. ศุข สิริวัฒฑโน รุ่นเงินมา วัดสุทัศฯ

    [​IMG]
    [​IMG]
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 6
    • List
  19. tee_tores

    tee_tores กะยิราเจ กะยิราเถนัง สมาชิก Premium

    Joined:
    Dec 1, 2010
    Messages:
    13,361
    Ratings:
    +53,082
    สวัสดีสมาชิกอัลบั้มพระ ทุกๆท่านด้วยครับผม

    เอาภาพที่วัดโนนกุ่มมาฝากครับ ได้เจอพระเอกตัวจริงดั่งใจ ปลื้มมากๆ แถมได้ทำบุญด้วยครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 8
    • List
  20. ddd445

    ddd445 เป็นที่รู้จักกันดี

    Joined:
    Sep 4, 2013
    Messages:
    7,468
    Ratings:
    +38,819
    ขอบคุณข้อมูลของคุณปูและอ.โญ ที่นำมาให้รับรู้ทุกๆเช้าเลย ครับ
     
    • ถูกใจ ถูกใจ x 6
    • List

Share This Page

Loading...