ปิดรับบริจาค (เชิญฝากชื่อเขียนลงแผ่นทอง)หล่อองค์ปฐมประจำวันเกิดองค์ๆละ10,000บาท!!!

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย เก๋ณัฐา, 7 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     
  2. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
  3. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ฝากบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกกันไว้ด้วยนะค่ะ บุญบารมีเป็นสิ่งที่ไม่สามารถสร้างได้สำเร็จภายในวันเดียวเฉกเช่นกรุงโรม ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้นการสร้างบารมีก็เช่นเดียวกัน อนุโมทนาสาธุการค่ะ
     
  4. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    หนีนรกด้วยการสร้างสมเด็จองค์ปฐม

    สมเด็จองค์ปฐมคือ พระพุทธเจ้าองค์แรกของโลก (อ่านประวัติสมเด็จองค์ปฐม)
    วัดที่สร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมวัดแรก คือ วัดท่าซุง(วัดจันทาราม) จ.อุทัยธานี
    จัดสร้างโดย พระราชพรหมยาน หรือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    หลวงพ่อเคยพูดถึงอานิสงส์ของการสร้างสมเด็จองค์ปฐมไว้ว่า มีอานิสงส์มากสามารถกันนรกได้
    เพราะอะไร เพราะเวลาสร้างสมเด็จองค์ปฐม พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์จะมาโมทนาด้วย ดังนั้นอานิสงส์จึงมาก

    ท่านพญายมราช บอกกับหลวงพ่อว่า คนที่จะมีโอกาสได้สร้างสมเด็จองค์ปฐมเป็นคนมีบุญมาก
    และใครก็ตามที่ได้ร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐม บัญชีในเมืองนรก(หมายถึงบัญชีที่ท่านพญายมราช เอาไว้ดูบันทึกบาปบุญต่างๆ)
    บัญชีจะเป็นสีทอง หมายถึงบัญชีพิเศษ ปกติ หากใครทำทั้งบุญทั้งบาปและตอนตายต้องไปที่สำนักพญายม
    ที่สำนักนี้จะให้วิญญาณนึกถึงความดีที่เคยทำไว้ ถ้านึกได้ ก็ให้ไปสวรรค์ทันที
    แต่ถ้านึกไม่ได้ แต่พอให้นึกถึงกรรมชั่วนี่นึกได้ อย่างนี้ก็ต้องลงนรก..

    ทีนี้สำหรับคนที่มีบัญชีทอง ท่านพญายมว่า ท่านไม่ให้ตกนรก หากใครนึกกรรมดีไม่ออก
    ท่านจะเขกกบาลให้นึกออกเอง..

    ที่มา : เว็ปพลังจิต ดอท คอม
    http://palungjit.org/threads/รวมวิธีหนีนรกแบบต่างๆ.296934/
     
  5. ธรรมสถิต

    ธรรมสถิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,261
    ค่าพลัง:
    +15,736
    เชิญร่วมสร้างพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลก
    หรือพระพุทธรูปประจำวันเกิด
    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร

    เจ้าภาพองค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพองค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
    หรือร่วมบุญตามกำลังศรัทธา
    ขออนุโมทนาบุญครับ​
     
  6. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    อนุโมทนาสาธุการเช่นกันจร้า อันใดที่ติดขัดขอให้คลี่คลายอันใดปรารถนาขอให้สำเร็จโดยฉับพลัน
    สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม การบรรเทาวิบากกรรมนั้นทำได้โดย การปฏิบัติธรรมกรรมฐาน
    เราทุกคนเกิดมาเพื่อรับผลของบุญและกรรม และตราบใดจิตของยังไม่หลุดพ้นวัฏฏะสงสารการเวียนว่ายตายเกิดเป็นไปเช่นนั้นเป็นวงจร แม้สำหรับผู้ที่ปฏิบัติตราบใดจิตเรายังไม่ถึงภูมิธรรมแห่งพระอริยะเจ้าคือ ตราบนั้นผลแห่งกรรมยังมีผู้รับผลยังทำให้จิตเราเป็นทุกข์ ณ เวลาที่ทุกข์เกิดยิ่งทุกข์ยกระดับเข้มข้นขึ้นเท่าไหร่ เรายิ่งต้องปฏิบัติเข้มข้นขึ้นเท่านั้น วิบากกรรมในบางเรื่องเป็นกิเลสแบบละเอียดตัดกันไม่ขาดด้วยคำอธิษฐานหรือสัญญา ดังนั้นหากจิตเรายังไม่เป็นจิตออโต้คือทุกข์มามันหายมาอีกมันหายอีก สิ่งที่ทำได้คือ ปฏิบัติต่อไปไม่อ่อนข้อให้ความทุกข์ที่เข้ามา และสิ่งสำคัญ คือ การให้อภัย ทั้งกับตัวเราเอง (กับสิ่งที่เราเคยทำผิดพลาด) และกับเจ้ากรรมนายเวร อันนี้สำคัญมาก เพราะตราบใดเราไม่ให้อภัยใครเค้าจะติดอยู่ในใจเรา และเราจะไม่มีวันเริ่มต้นใหม่ได้ ความรักความคิดถึงผูกคนไว้ด้วยกันเช่นไร ความอาฆาตแค้นความพยาบาทก็ผูกคนไว้ด้วยกันเช่นนั้น ลองนำไปปฏิบัติดูให้ถึงทึ่สุดแล้ววิบากกรรมจะค่อยๆคลี่คลายออกเอง วิบากกรรม เจ้ากรรมนายเวร ความผิดพลาดในอดีตก็เหมือนกับบาดแผลตามร่างกายพร้อมจะปริจะกำเริบขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นการรักษาใจตัวเองจากสิ่งเหล่าน้ั้นแบบภายขาด คือ การให้อภัย การให้อภัยจะเหมือนกันการตัดแผลเป็น แผลพุพองเหล่านั้นออกจากตัวเราได้แบบถาวร เพราะต่อให้แผลเหล่านั้นจะพุจะพองจะเกิดกำเริบก็ไม่อาจส่งผลอะไรต่อใจคนๆนึงได้อีกต่อไป เมื่อคนๆนึงอภัยและเราได้วางมันลงสิ่งนั่นไม่อาจส่งผลๆใดต่อคนๆนั้นอีกต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2014
  7. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
  8. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ก่อนจะไปเข้าวิปัสสนากรรมฐานนำธรรมะมาฝากกันค่ะ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      180.6 KB
      เปิดดู:
      168
  9. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     
  10. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    อย่าลืมมาร่วมบุญสร้างบารมีร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกให้สำเร็จไปด้วยกันนะค่ะ การสร้างพระพุทธรูปแม้เพียง 1 องค์มีอานิสงส์มากมายประมาณมิได้ แต่เราจะไม่สร้างกันหนึ่งองค์ค่ะเราจะสรัางกันตราบมีลมหายใจ มาร่วมสร้างไปด้วยกันให้สำเร็จไปด้วยกันนะค่ะ เหนื่อยเราก็ช้าหน่อย ท้อเราก็เดินต่อไปตราบมีลมหายใจ วันนึงต้องถึง อนุโมทนาสาธุการค่ะ
     
  11. Sir-Pai

    Sir-Pai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,157
    ค่าพลัง:
    +3,358
    โอนเงินเข้าบัญชีแล้วนะครับจำนวน 80.00 บาท
    From A/C 5898 ครับ

    ขอให้บิดามารดาของข้าพเจ้ามีความสุขและขอให้ทุกท่านในเว็บนี้

    ผู้นำบุญมาบอกมีความสุขนะครับ

    และขออุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้านะครับ สาธุๆๆ ครับ

    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านนะครับ
     
  12. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    อนุโมทนาสาธุการค่ะคุณ Sir-Pai ขอให้ได้สำเร็จสมปรารถนาตามที่อธิษฐานโดยฉับพลันนะค่ะ
    และขอบคุณสำหรับคำอวยพรดีๆสำหรับผู้นำบุญนะค่ะ ความสุขของผู้นำบุญ คือ การช่วยเหลือผู้คนและการนำบุญไปฝากให้ผู้คนได้สร้างบุญกุศลเพื่อบุญนั้นจะเป็นดั่งเสบียงหล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนเหล่านั้นเอง ซึ่งได้ทำอยู่ในตอนนี้ เวลาเราได่ช่วยเหลือผู้คนนี่ความสุขเกิดขึ้นค่ะ
    คนเราหากได้ทำบุญร่วมกันถึงไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวแต่แสดงว่าต้องเคยได้ร่วมทำบุญกันมาก่อน ยังไงมีโอกาสก็อย่าลืมแวะเวียนมาสร้างบุญร่วมกันอีกนะค่ะ อนุโมทนาสาธุนะค่ะ ขอให้เจริญในฉับพลัน
     
  13. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ทำบุญทำไมต้องอธิษฐาน โดย หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง

    ทำบุญทำไมต้องอธิษฐาน

    ถาม : "หลวงพ่อคะ การทำบุญทุกอย่าง แต่ไม่ได้ปรารถนาอะไรเลย จะได้ไหมคะ...?"

    ตอบ : ได้โยม ทำไมจะไม่ได้ คือถ้าไม่ตั้งมโนปณิธานปรารถนา บุญมันก็ต้องเป็นบุญ แต่ว่าอานิสงส์เบื้องปลายมันไม่เหมือนกัน

    ถาม : "เป็นไงคะ...?"

    ตอบ : การปรารถนาจัดเป็นอธิษฐานบารมีนะ ตั้งใจว่าการทำบุญอย่างนี้เพื่อผลอะไร อย่างที่ไม่ปรารถนาพุทธภูมิ ไม่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ไม่ปรารถนาเป็นอัครสาวก แต่ปรารถนาเพื่อการหมดกิเลส ก็ชื่อว่ายังปรารถนาอยู่

    ถาม : "ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ เล่าคะ...?"

    ตอบ : ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ ไม่ปรารถนาอะไรเลย ตัวอย่างก็มีท่าน อาฬวีเศรษฐี

    คือว่าท่านอาฬวีเศรษฐีพ่อท่านเป็นมหาเศรษฐี พอพ่อท่านตายลงท่านก็เป็นเศรษฐีแทน

    เศรษฐีสมัยนั้นพระราชาต้องแต่งตั้ง แล้ว ต่อมาพวกขี้เมาก็ชวนกินเหล้าเมายา ในที่สุดทรัพย์สินก็หมดไป จนกระทั่งกลายเป็นขอทาน

    วันหนึ่งพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์เสด็จไปที่เมืองอาฬวี เห็นอาฬวีเศรษฐีนั่งขอทานอยู่ข้างฝาเรือนชาวบ้าน พระพุทธเจ้าก็ทรงแย้มพระโอษฐ์

    พระพุทธเจ้าตามปกติจะไม่แย้มพระโอษฐ์ ถ้ายิ้มแล้วต้องมีเรื่อง

    พระอานนท์จึงทูลถามว่า

    "พระองค์ยิ้มด้วยเรื่องอะไร พระพุทธเจ้าข้า...?"

    พระพุทธเจ้าถามว่า

    "อานนท์ เธอเห็นอาฬวีเศรษฐีไหม...?"

    พระอานนท์มองไปมองมาไม่เห็น เห็นแต่ขอทาน พระพุทธเจ้าก็บอกว่า ขอทานนั่นแหล่ะคืออาฬวีเศรษฐี

    แล้วพระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า

    ถ้าอาฬวีเศรษฐีสมัยเมื่อเป็นเศรษฐี ถ้าฟังเทศน์ของเราเพียงจบเดียวจะได้บรรลุพระอนาคามี

    เมื่อเงินน้อยลงมาเป็นอนุเศรษฐี ถ้าฟังเทศน์จากเราเพียงจบเดียวจะได้เป็นพระสกิทาคามี

    เมื่อมีฐานะเป็นคหบดี ถ้าฟังเทศน์จากเราเพียงจบเดียวจะได้เป็นพระโสดาบัน

    แต่ว่านี่อาฬวีเศรษฐีเป็นขอทานเสียแล้ว เราเทสน์จึงไม่มีผล

    ตอนนี้พระอานนท์ทูลถามว่า

    "ตามธรรมดาคนจะบรรลุมรรคผล องค์สมเด็จพระทศพลเคยตรัสว่าจะตายก่อนก็ยังไม่ได้ ต้องบรรลุมรรคผลก่อนนี่ พระพุทธเจ้าข้า...?"

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    "นั่นเขามี อธิษฐานบารมี"

    ตอบ : เป็นอันว่าอาฬวีเศรษฐี ไม่มีอธิษฐานบารมีใช่ไหมโยม

    ถาม : "ใช่ค่ะ"

    ตอบ : คนจะได้ดี เลยไม่ได้ดี ต่อไปอธิษฐานเสียนะ.

    คำอุทิศส่วนกุศล

    "อิทัง ปุญญะผะลัง" ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

    บทอุทิศส่วนกุศลท่อนแรกนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร หลวงปู่โตท่านมาบอก และบทอุทิศส่วนกุศลอีก ๓ ท่อน ท่านพระยายมราชท่านมาบอก มีดังนี้

    ท่อนที่สอง


    และข้าพเจ้าทั้งหลายขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลายที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลายทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด

    ท่อนที่สาม

    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่ท่านทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    ท่อนที่สี่

    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว ณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้เถิด.

    เวลาอุทิศส่วนกุศล บอกให้พระยายมราชเป็นพยาน

    เวลาอุทิศส่วนกุศล ขอบอกให้ผม(พระยายม)เป็นพยานด้วย….ถ้าทำทั้งบุญทั้งบาป บางทีกรรมมันปกปิด เวลาถามเรื่องบุญนี่มันนึกไม่ออก ถ้านึกไม่ออกก็มีความจำเป็นอย่างยิ่ง จะต้องปล่อยให้ตกนรก หากว่าถาม 3 เที่ยว นึกไม่ออก…..

    ถ้าเขาถามเรื่องบุญกุศลถ้าบังเอิญนึกไม่ออก ผมจะเป็นพยานอ้างเองว่าทำอย่างนั้นๆไว้ แล้วก็ไล่ไปสวรรค์เป็นอย่างต่ำ

    ….ตำแหน่งพระยายม ท่านเป็นพรหม แต่เขตที่ท่านตั้งอยู่ในเขตของจาตุมหาราช ไม่ใช่เขตนรก
     
  14. ชาวฟ้า

    ชาวฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +1,493
    โอนเงินร่วมทำบุญหล่อพระ 100 บาท
    วันที่ 5/3/57 เวลา 14.11 น.
    โมทนาสาธุค่ะ
     
  15. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    อนุโมทนาสาธุการเช่นกันค่ะคุณ Vipawadee ขอให้สมปรารถนาตามทีีอธิษฐานโดยฉับพลันนะค่ะสาธุๆๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • image.jpg
      image.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.5 KB
      เปิดดู:
      34
  16. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ทำบุญทำไมต้องอธิษฐาน

    ถาม : "หลวงพ่อคะ การทำบุญทุกอย่าง แต่ไม่ได้ปรารถนาอะไรเลย จะได้ไหมคะ...?"

    ตอบ : ได้โยม ทำไมจะไม่ได้ คือถ้าไม่ตั้งมโนปณิธานปรารถนา บุญมันก็ต้องเป็นบุญ แต่ว่าอานิสงส์เบื้องปลายมันไม่เหมือนกัน

    ถาม : "เป็นไงคะ...?"

    ตอบ : การปรารถนาจัดเป็นอธิษฐานบารมีนะ ตั้งใจว่าการทำบุญอย่างนี้เพื่อผลอะไร อย่างที่ไม่ปรารถนาพุทธภูมิ ไม่ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ไม่ปรารถนาเป็นอัครสาวก แต่ปรารถนาเพื่อการหมดกิเลส ก็ชื่อว่ายังปรารถนาอยู่

    ถาม : "ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ เล่าคะ...?"

    ตอบ : ถ้าหากว่าทำเฉย ๆ ไม่ปรารถนาอะไรเลย ตัวอย่างก็มีท่าน อาฬวีเศรษฐี

    คือว่าท่านอาฬวีเศรษฐีพ่อท่านเป็นมหาเศรษฐี พอพ่อท่านตายลงท่านก็เป็นเศรษฐีแทน

    เศรษฐีสมัยนั้นพระราชาต้องแต่งตั้ง แล้ว ต่อมาพวกขี้เมาก็ชวนกินเหล้าเมายา ในที่สุดทรัพย์สินก็หมดไป จนกระทั่งกลายเป็นขอทาน

    วันหนึ่งพระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสงฆ์เสด็จไปที่เมืองอาฬวี เห็นอาฬวีเศรษฐีนั่งขอทานอยู่ข้างฝาเรือนชาวบ้าน พระพุทธเจ้าก็ทรงแย้มพระโอษฐ์

    พระพุทธเจ้าตามปกติจะไม่แย้มพระโอษฐ์ ถ้ายิ้มแล้วต้องมีเรื่อง

    พระอานนท์จึงทูลถามว่า

    "พระองค์ยิ้มด้วยเรื่องอะไร พระพุทธเจ้าข้า...?"

    พระพุทธเจ้าถามว่า

    "อานนท์ เธอเห็นอาฬวีเศรษฐีไหม...?"

    พระอานนท์มองไปมองมาไม่เห็น เห็นแต่ขอทาน พระพุทธเจ้าก็บอกว่า ขอทานนั่นแหล่ะคืออาฬวีเศรษฐี

    แล้วพระพุทธเจ้าก็ตรัสว่า

    ถ้าอาฬวีเศรษฐีสมัยเมื่อเป็นเศรษฐี ถ้าฟังเทศน์ของเราเพียงจบเดียวจะได้บรรลุพระอนาคามี

    เมื่อเงินน้อยลงมาเป็นอนุเศรษฐี ถ้าฟังเทศน์จากเราเพียงจบเดียวจะได้เป็นพระสกิทาคามี

    เมื่อมีฐานะเป็นคหบดี ถ้าฟังเทศน์จากเราเพียงจบเดียวจะได้เป็นพระโสดาบัน

    แต่ว่านี่อาฬวีเศรษฐีเป็นขอทานเสียแล้ว เราเทสน์จึงไม่มีผล

    ตอนนี้พระอานนท์ทูลถามว่า

    "ตามธรรมดาคนจะบรรลุมรรคผล องค์สมเด็จพระทศพลเคยตรัสว่าจะตายก่อนก็ยังไม่ได้ ต้องบรรลุมรรคผลก่อนนี่ พระพุทธเจ้าข้า...?"

    พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    "นั่นเขามี อธิษฐานบารมี"

    ตอบ : เป็นอันว่าอาฬวีเศรษฐี ไม่มีอธิษฐานบารมีใช่ไหมโยม

    ถาม : "ใช่ค่ะ"

    ตอบ : คนจะได้ดี เลยไม่ได้ดี ต่อไปอธิษฐานเสียนะ.
     
  17. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    ขาดอธิษฐานบารมี โดย พระราชพรหมยาน

    ขาดอธิษฐานบารมี



    แต่ว่าการก้าวไปของบรรดาท่านพุทธบริษัทต้องมีการตั้งใจไว้ด้วย ที่เรียกว่าอธิษฐานบารมี ถ้าขาดการตั้งอธิษฐานบารมี คือการตั้งใจไว้ พอวาระที่จะถึงจริงๆ มันจะเป๋ มันหมายความว่าถ้าบารมีเต็มชาติไหนมีบารมีเต็มพอที่จะเป็นพระอริยเจ้าได้ กรรมบางอย่างจะเข้าแทรกจะเป็นเหตุให้ไม่ได้เป็นพระอริยเจ้า จะเป็นเหตุให้ไม่ได้ไปพระนิพพาน ต้องเกิดอีกต่อไป

    ตัวอย่างท่านอาฬวีเศรษฐี ท่านผู้นี้พระพุทธเจ้าตรัสว่า ถ้าขณะที่เป็นมหาเศรษฐีฟังเทศน์จากพระองค์จบเดียวจะเป็นพระอนาคามี ต่อมาทรัพย์เหลือน้อยลงเป็นอนุเศรษฐี พระพุทธเจ้าบอกว่าตอนนั้นถ้าฟังเทศน์จบเดียวได้เป็นพระสกิทาคามี ต่อมาทรัพย์น้อยลงมาถึงคหบดี พระพุทธเจ้าตรัสว่า เวลานั้นฟังเทศน์จบเดียวจะเป็นพระโสดาบัน

    แต่พระพุทธเจ้าไปพบอาฬวีเศรษฐีเมื่อเป็นขอทานไปแล้ว จึงตรัสกับพระอานนท์ว่าเราเทศน์อย่างไรก็ตามไม่มีผลกับอาฬวีเศรษฐี พระอานนท์ก็ถามว่า ตามธรรมดาพระองค์ตรัสว่าคนที่มีบารมีสมบูรณ์แบบจะต้องเป็นพระอริยเจ้า จะตายก่อนไม่ได้ ต้องเป็นพระอริยเจ้าก่อน พระพุทธเจ้าตรัสว่า นั่นเขามีอธิษฐานบารมี คือการตั้งใจไว้

    การทำบุญของบรรดาท่านพุทธบริษัทจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม ก็ถือว่าทุกคนก้าวเข้าไปหานิพพาน ต้องมีอธิษฐานบารมี คือตั้งใจไว้เสมอ ว่าการทำแบบนี้เราต้องการพระนิพพานจุดเดียว ที่เตือนไว้แบบนี้ก็เพราะเกรงว่าท่านทั้งหลายเวลาที่เจริญพระกรรมฐานเวลาที่ภาวนาไปๆ นึกว่าหวยมันจะออกตัวอะไรดีหว่า อีตอนนี้ทิ้งไว้ก่อนชั่วคราวนะ เอาไว้เวลาเลิกค่อยปรึกษาหารือกันใหม่นะ อีตอนนี้พุทโธก็พุทโธ ธัมโมก็ธัมโม สังโฆก็สังโฆ คิดเป็นหวยหนอๆ อันนี้ไม่ถูก ตั้งใจไว้ชั่วขณะหนึ่ง

    รวมความว่าการปฏิบัติของบรรดาท่านพุทธบริษัท อันดับแรกก่อนภาวนาให้ตั้งใจไว้เพื่อนิพพานทีนี้ในตอนต้น การที่ภาวนาเขาทำแบบไหนกัน ที่บอกว่าในตอนต้นจงอย่านึกถึงนิวรณ์ทั้ง ๕ ประการ เวลานี้เราทิ้งมันทุกอย่างทั้ง ๕ อย่าง คือ

    ๑. ความรักในระหว่างเพศ เฉพาะเวลาที่ภาวนา
    ๒. อารมณ์ไม่พอใจ
    ๓. ความง่วง
    ๔. จิตคิดในเรื่องอื่น
    ๕. สงสัยในผลของการปฏิบัติ
    วิธีที่จะทิ้งนิวรณ์ได้จริงๆ ถ้าทิ้งนิวรณ์ได้เมื่อไรจิตก็เป็นฌานเมื่อนั้น วิธีทิ้งได้จริงๆ ก็คือตั้งใจรู้ลมหายใจเข้าหายใจออก เวลา ๒๐ นาทีจะให้ภาวนากันหรือพิจารณามันอาจจะว่างจริงๆ ๓ นาทีก็ควรจะพอใจ เวลาไหนรู้ลมหายใจเข้า ลมหายใจออกเวลาไหนรู้คำภาวนาเวลานั้นจิตว่างจากนิวรณ์ มีอานิสงส์ใหญ่

    ทีนี้ต่อไปก็ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทที่นั่งที่นี่ส่วนใหญ่ให้ถือว่าเป็นการปฏิบัติในหมวดที่ ๓ คือหมวดของอภิญญา ฉะนั้นการภาวนาเบื้องต้นในสุกขวิปัสสโกนี้จะไม่บังคับ ทุกคนจะภาวนาว่าอย่างไรก็ได้ ถ้าหากว่าบังเอิญท่านทั้งหลายไม่เคยปฏิบัติมาก่อน ให้ใช้คำภาวนาว่า พุทโธ เวลาหายใจเข้านึกตามว่า พุท เวลาหายใจออกนึกตามว่า โธ เวลาหายใจเข้าก็ดี หายใจออกก็ดี จงอย่าบังคับลมหายใจ ปล่อยลมหายใจไปตามปกติ จะหายใจเบาหรือสั้นหรือยาว หรือเบาก็ตาม หรือหนัก ปล่อยเป็นเรื่องของร่างกาย เอาจิตเข้าไปรับทราบเพราะต้องการให้จิตมีสมาธิในลมหายใจเข้าออก ขณะใดที่รู้ลมหายใจเข้าลมหายใจออก ขณะนั้นชื่อว่าจิตเป็นสมาธิในอานาปานุสสติกรรมฐาน

    ถ้าภาวนาว่าพุทโธเวลานั้นจิตเป็นสมาธิในพุทธานุสสติกรรมฐาน ถ้าภาวนาว่า ธัมโม จิตก็มีสมาธิในธัมมานุสสติกรรมฐาน ถ้าภาวนาว่าสังโฆ จิตก็มีสมาธิในสังฆานุสสติกรรมฐาน หรือบางครั้งจิตฟุ้งซ่านมาก ไม่ภาวนาเลยก็ได้ รู้แต่ลมหายใจเข้าออกอย่างนี้ใช้ได้ นี่สำหรับคำภาวนา

    จากหนังสือคำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๑๕

    ข้อมูลและภาพจาก :
     
  18. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     
  19. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    เชิญร่วมหล่อ
    พระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐมปางเปิดโลกหรือ
    พระพุทธรูปประจำวันเกิด

    พระปางถวายเนตร
    ความสูงรวมฐานพระสูง 2.5 เมตร
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระองค์ละ 10,000 บาท
    เจ้าภาพหล่อ องค์พระ+ฐานพระ+ทาสีองค์พระ+ทาสีฐานพระ องค์ละ 15,000 บาท
     
  20. เก๋ณัฐา

    เก๋ณัฐา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    5,680
    ค่าพลัง:
    +57,773
    การสร้างบุญต้องทำโดยสม่ำเสมอ เพื่อให้กรรมตามไม่ทัน

    การสร้างบุญต้องทำโดยสม่ำเสมอ เพื่อให้กรรมตามไม่ทัน


    ถาม : เราทำบุญ ถวายผ้าไตร ๑ ชุด พระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักขนาด ๙ นิ้ว ๑ องค์ และอาหารให้พระภิกษุสงฆ์แล้ว จะสามารถไม่ให้เจ้ากรรมนายเวรมายุ่งกับเราอีกเลย ใช่หรือไม่ครับ ?

    ตอบ : ต่อให้ถวายพระ ๒๑ ศอกหน้าวัดท่าขนุน เจ้ากรรมนายเวรก็ยังเล่นงานอยู่ดี การสร้างบุญเราสามารถห่างกรรมได้แค่ชั่วคราว ถ้าไม่ได้ทำโดยสม่ำเสมอ วาระบุญขาดลงเมื่อไร วาระกรรมจะเข้าแทรกทันที


    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    ณ บ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๗

    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...ead.php?t=3967
     

แชร์หน้านี้

Loading...