ตามหาลูกหลานพญานาคที่มาเกิด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย MANENAKA WANGKATEKEAW, 13 มีนาคม 2013.

  1. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    เรื่องจากพี่ที่นับถือท่านหนึ่ง

    เหล็กไหลไม่ได้มีสีเดียว และไม่ได้มีมาตรฐานตายตัวอะไร ทดสอบได้หลายวิธี แต่เอาที่ง่ายๆที่มีคนชอบลองของคือ ใช้ปืน ใช้ไม้ขีด และใส่ในน้ำร้อนบนเตาไฟ

    ผมได้เข้าบุกป่าฝ่าดงในเทือกเขาใหญ่ของถ้ำวัวแดงในปี 2541 เพื่อพาเพื่อนต่างประเทศกลุ่มหนึ่งไปชมและขอบูชาเหล็กไหลโดยมีพรานและผู้มีวิชาดีพาไป ในคณะมีทั้งนายแพทย์ นายพลทหาร นายห้างใหญ่ในกรุงเทพ พระสงฆ์ และคนอยากรู้ อยากมีเช่นพวกผม รวมแล้ว 12 คนพอดี

    เมื่อทำพิธีแล้วครบถ้วนในยามดึกแล้ว หมอพิธีจึงได้ขออัญเชิญบารมีเหล็กไหลเพื่อให้ทุกคนชมว่าเป็นของมีจริง ซึ่งทุกคนก็ได้เห็นว่าในจุดที่เป็นโพรงถ้ำมีวัตถุเล็กๆค่อยๆยืดออกมาและโค้งเข้าหาถ้วยน้ำผึ้งที่อยู่บนพื้น เมื่อจะจับก็จะหายไปแบบทันทีในพริบตา

    หมอทำพิธีขอตัดบูชาสามองค์ แต่ได้เพียง 1 องค์ ก็ไม่มีการอนุญาตอีกต่อไป ทุกอย่างหายเข้าไปในผนังถ้ำหมดสิ้น การแย่งชิงด้วยปากก็มาถึงจุดที่ถกเถียงกันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนมาสรุปที่คณะฝรั่งขอเอาไปบูชาโดยมีข้อแม้เพียงคือ ขอทดลองยิงด้วยปืนในตอนเช้า 3 ครั้ง และหากผ่านการทดลองจะไห้ค่าตอบแทนฝ่ายคนไทยรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 300 ล้านบาท

    และในที่สุดเมื่อเมื่อแสงแรกของพระอาทิตย์ยามเช้าส่องเข้ามาที่ปากถ้ำท่ามกลางการรอทดสอบเสียงดังคล้ายสะบัดผ้าก็เกิดขึ้น เหล็กไหลที่ตัดได้และวางอยู่ในพานพิธีได้หายไปต่อหน้าคนนับสิบทันที ทั้งๆที่หมอพิธีได้ทำพิธีและสะกดไว้แล้ว ทุกคนทั้งไทยและฝรั่งต่างงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ไม่มีใครโทษใครอีกต่อไป ทุกคนหนาวยะเยือกในหัวใจ

    เราจึงสรุปกันได้ว่าเหล็กไหลมีจริง มีฤทธิ์จริงแต่ไม่อาจซื้อขายแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ เพื่อคุ้มครองและอำนวยผล เสริมอำนาจวาสนา ต่อผู้มีบุญกุศลเท่านั้น จนถึงบัดนี้ยังไม่เห็นใครสามารถซื้อขายเหล็กไหลกันได้แม้แต่รายเดียว
     
  2. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ลอกเขามาให้นะครับ ลองดูนะ
    สุดยอดสถานที่ปฏิบัติกรรมฐาน คู่มือสำหรับผู้แสวงหาที่ปฏิบัติธรรม

    ๑.วัดธรรมมงคล
    ซอยปุณณวิถี ๒๐ ถ. สุขุมวิท ๑๐๑ บางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ
    โทร.๗๔๑-๗๘๒๑-๒, ๓๓๒-๒๘๒๖-๗
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร
    แนวการปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    สถานที่ปฏิบัติมีหลายแห่ง คือ ๑. ศาลาปฏิบัติธรรม เป็นห้องมุ้งลวด
    ๒.ถ้ำวิปัสสนา (จำลอง) ๓. ศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ มี ๘๐ ห้องพักทุกห้องมีเครื่องปรับอากาศ
    ๔. ห้องสำหรับทำสมาธิ ๕. สถานปฏิบัติธรรม จ.เชียงราย ๖. สำนักสงฆ์น้ำตกแม่กลาง

    ๒. วัดอัมพวัน
    ๕๓ บ. อัมพวัน ถ.เอเชีย กม. ๑๓๐ หมู่ที่ ๔ ต. พรหมบุรี อ. พหรมบุรี จ.สิงห์บุรี
    โทร. (๐๓๖)๕๙๙-๓๘๑), (๐๓๖) ๕๙๙-๑๗๕
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม
    แนวการปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ บริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”

    ๓. ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์
    ๕๘/๘ ถ.เพชรเกษม ๕๔ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ๑๐๑๖๐
    โทร.๔๑๓-๑๗๐๖, ๘๐๕-๐๗๙๐-๔
    วิปัสสนาจารย์ คุณแม่สิริ กรินชัย
    แนวการปฏิบัติแนวสติปัฏฐาน ๔ เจริญสติอย่างต่อเนื่อง
    ตามแนวพระธีรราชมหามุนี วัดมหาธาตุ
    สถานที่เป็นตึกทันใหม่ทันสมัยหลายหลัง โดยทั่วไปการอบรมใช้เวลา ๘ วัน ๗ คืน

    ๔. สวนโมกขพลาราม
    ๖๘ หมู่ ๖ ต. เลเม็ด อ. ไชยา จ. สุราษฎร์ธานี ๘๔๑๑๐
    วิปัสสนาจารย์ ท่านพุทธทาสภิกขุ
    แนวการปฏิบัติ อานาปานสติภาวนา

    ๕.วัดป่าสุนันทวราราม
    บ้านลิ่นถิ่น ต. ท่าเตียน อ. ไทรโยค จ. กาญจนบุรี
    วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    แนวการปฏิบัติ อานาปานสติภาวนา
    เปิดอบรม “อานาปานสติภาวนา” แก่ผู้สนใจ ครั้งละ ๙ วัน
    เปิดรับครั้งละ๑๐๐-๑๕๐ คน เป็นการปฏิบัติที่เคร่งครัด กินอาหารวันละ ๑ มื้อ
    สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่คุณดารณี บุญช่วย (๐๒) ๓๒๑-๖๓๒๐

    ๖.วัดภูหล่น
    ๙ ต. สงยาง อ. ศรีเมืองใหม่ จ. อุบลราชธานี
    ปฐมวิปัสสนาหลวงปู่มั่นฯ (สถานที่หลวงปู่มั่นออกธุดงค์ครั้งแรกกับหลวงปู่เสาร์)
    วัดนี้ค่อนข้างจะห่างจากตัวเมือง บรรยากาศดีมาก เย็นสบาย และเงียบสงบ
    มีสิ่งปลูกสร้างที่อยู่บนเขาไม่สูงนักสามารถกางกลดอยู่ได้
    มีโบสถ์บนเขาและมีกุฏิโดยรอบ บ้างก็ซ่อนอยู่ตามซอกเขา
    ที่นี่เหมาะกับผู้เคยปฏิบัติธรรมมาแล้ว ต้องการมาปฏิบัติขั้นอุกฤษฎ์

    ๗.วัดถ้ำขาม
    บ้านคำข่า หมู่ที่ ๔ ตำบาลไร่ อ. พรรณานิคม จ. สกลนคร
    วิปัสสนาจารย์ อาจารย์ฝั้น อาจาโร
    วัดมีเนื้อที่ ๘๔๐ ไร่พื้นที่จรดเขตอุทยานป่าแนวเทือกเขาภูพาน วัดอยู่บนเขาสูง
    แต่ก็มีบันไดขึ้นลงสะดวก มีลิงป่า และไก่ป่า
    ที่พัก มีที่พักเป็นกุฏิ (กุฏิละ ๑ คน) หรือพักรวมบนศาลาก็ได้
    เหมาะสำหรับไปปฏิบัติแบบอุกฤษฎ์

    ๘. สำนักปฏิบัติกรรมฐาน วัดมเหยงคณ์
    ต. หันตรา อ. พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
    แนวปฏิบัติ เดินจงกรม นั่งสมาธิ กำหนดรู้ รูป-นาม

    ๙.สำนักปฏิบัติธรรมแสงธรรมส่องชีวิต
    ต. โคกแย้ อ. หนองแค จ. สระบุรี ๑๘๒๓๐
    โทร. (๐๓๖) ๓๗๙-๔๒๘
    แนวปฏิบัติ เน้นให้ผู้ฝึกมีสติรู้ในอิริยาบท
    ทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันสำคัญทางศาสนา
    จะมีการจัดอบรมฝึกวิปัสสนากรรมฐานบวชชีพราหมณ์ เนกขัมมะ
    ดูเพิ่มเติม:


    ๑๐. วัดสนามใน
    ๒๗ ต.วัดชลอ อ. บางกรวย จ. นนทบุรี
    โทร. ๔๒๙-๒๑๑๙, ๘๘๓-๗๒๕๑
    วิปัสสนาจารย์หลวงพ่อเทียน จิตตฺสุโภ
    แนวปฏิบัติ เน้นการเจริญสติวิธีที่เป็นที่นิยมคือวิธีสร้างจังหวะ
    เป็นวิธีสร้างสติแบบนั่งทำสมาธิแต่ไม่ต้องหลับตา
    ดูเพิ่มเติม:


    ๑๑. วัดป่านานาชาติ
    บ้านบุ่งหวาย หมู่ ๗ ต. บุ่งหวาย อ. วารินชำราบจ. อุบลราชธานี
    (สาขา ๑๑๙ ของวัดหนองป่าพง)
    เป็นวัดป่าที่มีต้นไม้ใหญ่มากมียุงและแมลงต่าง ๆ มาก
    คนที่แพ้ยุงก็ควรหายากันยุงไปด้วย อากาศเย็นสบายทานอาหารวันละ ๑ มื้อ
    การไป ให้เขียนจดหมายไปขออนุญาตจากเจ้าอาวาสแล้วจึงเดินทางไปอยู่

    ๑๒. วัดปทุมวนารามราชวรวิหาร
    ถ. พระราม ๑ ปทุมวันกรุงเทพฯ ๑๐๓๓๐
    โทร. ๒๕๑-๒๓๑๕, ๒๕๒-๕๔๖๕
    วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์ถาวรจิตฺตถาวโร
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    นั่งปฏิบัติในศาลาพระราชศรัทธา มีอาสนะและผ้าคลุมตักให้หยิบใช้ได้
    บริเวณโดยรอบมีการปลูกแต่งด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย ร่มรื่นสวยงาม
    กำหนดการปฏิบัติธรรมที่ศาลาฯ ประจำวันจันทร์ – ศุกร์ วันละ ๓ เวลา
    เช้า๗.๐๐ – ๘.๐๐ น. กลางวัน ๑๒.๐๐ – ๑๓.๐๐ น. เย็น ๑๗.๐๐ – ๒๐.๐๐ น.

    ๑๓.วัดปากน้ำภาษีเจริญ
    เลขที่ ๘ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
    วิปัสสนาจารย์ พระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อสด)
    แนวปฏิบัติ ตามแนวธรรมกายใช้คำบริกรรม “สัมมาอรหัง”
    สถานที่ปฏิบัติ ๑. หอเจริญวิปัสสนาฯ ชั้น ๒เป็นห้องแอร์ปูพรม
    ๒. หอสังเวชนีย์มงคลเทพนิมิต ๓. ตึกบวรเทพมุนี

    ๑๔.วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์
    เลขที่ ๓ ท่าพระจันทร์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนครกรุงเทพฯ
    แนวปฏิบัติ ตามแนวสติปัฏฐาน ๔ ใช้คำบริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
    สถานที่ปฏิบัติ คณะ ๕ สำนักงานกลาง กองการวิปัสสนาธุระ
    เปิดทุกวันสอนเดินจงกรมและนั่งสมาธิ
    เช้า ๐๗.๐๐ – ๑๐.๐๐ น. กลางวัน ๑๓.๐๐ – ๑๖.๐๐ น. เย็น๑๘.๐๐ – ๑๙.๐๐ น.

    ๑๕. วัดอินทรวิหาร
    อาคารปฏิบัติธรรม “เฉลิมพระเกียรติ” วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม
    กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐ โทร. ๖๒๘-๕๕๕๐-๒
    แนวการปฏิบัติ แนวหลักสูตรของคุณแม่สิริ กรินชัย ๘ วัน ๗ คืน หรือ ๔ วัน ๓ คืน
    เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมขยายผล จากผู้ปฏิบัติธรรมกับคุณแม่สิริ กรินชัย
    เป็นอาคารทันสมัย ๕ ชั้น จุได้ประมาณ ๕๐๐ คน

    ๑๖. สำนักงานพุทธมณฑล
    พุทธมณฑล ถ. พุทธมณฑลสาย ๔ ต. ศาลายา อ. พุทธมณฑล จ. นครปฐม
    โทร. ๔๔๑-๙๐๐๙, ๔๔๑-๙๐๑๒
    แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔ กำหนดรู้อารมณ์ บริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
    สถานที่ปฏิบัติ ชั้น ๒ ของหอประชุม มีเครื่องปรับอากาศ ห้องนอน
    มีเครื่องนอน เช่น หมอน มุ้ง ผ้าห่มให้พร้อม หรือนำไปเองก็ได้ ทานอาหาร ๒ มื้อ

    ๑๗. ศูนย์วิปัสสนายุวพุทธฯ เฉลิมพระเกียรติ
    คลองสาม จ. ปทุมธานี โทร.๙๘๖-๖๔๐๔-๕
    เป็นสาขาของยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย – ภาษีเจริญ

    ๑๘.วัดอโศการาม
    ๑๓๖ หมู่ ๒ กม. ๓๑ ถ. สุขุมวิท (สายเก่า) ต. ท้ายบ้าน อ. เมือง จ.สมุทรปราการ
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อลี ธมฺมชโช
    บริเวณกว้างขวางมีสระน้ำใหญ่ในบริเวณวัด
    กุฏิพระ แม่ชีและที่พักแยกเป็นสัดส่วนเรียงรายรอบวัดเป็นร้อย ๆ หลัง
    ส่วนมากอยู่ติดริมทะเลซึ่งเป็นป่าชายเลน

    ๑๙. วัดญาณสังวรารามวรวิหาร
    ต. ห้วยใหญ่ อ. บางละมุง จ. ชลบุรี โทร. (๐๓๘) ๒๓๗-๖๔๒
    สถานที่ปฏิบัติเป็นอาคารคอนกรีต ๒ ชั้น มีอาคาร ญส. ๗๒ ชาย และ ญส. ๗๒ หญิง
    ชั้นละ ๑๐ ห้องมีห้องน้ำในตัว เรือนปฏิบัติธรรมมี ๑๗ หลัง

    ๒๐. สำนักวิปัสสนาวิเวกอาศรม
    ซ. ประชานุกูล ๗ ถ. ชลบุรี-บ้านบึง ต. บ้านสวน อ. เมือง จ. ชลบุรี
    โทร (๐๓๘) ๒๘๓-๗๖๖
    วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์ภัททันตะ อาสภมหาเถระ
    แนวปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ ใช้คำบริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
    มีเรือนพักปฏิบัติธรรมทั้งหญิงชายแยกเป็นสัดส่วนอยู่จำนวนมาก
    การอยู่ปฏิบัติให้พักคนเดียว เน้นการเก็บอารมณ์ ไม่พูดคุยกัน อย่างเคร่งครัด
    การรับประทานอาหารจะมีปิ่นโตส่งถึงห้อง ๒ มื้อ
    ทุกวันจะมีการสอบอารมณ์กรรมฐานโดยพระอาจารย์
    ค่าน้ำไฟ อาหาร วันละ ๕๐ บาทหรือเดือนละ ๑,๕๐๐ บาท ห้ามอยู่เกิน ๙๐ วัน

    ๒๑. สำนักวิปัสสนาสมมิตร – ปราณี
    จ. ชลบุรี โทร. พระอาจารย์ใหญ่ (๐๑) ๙๒๑-๑๑๐๑
    เป็นสถานที่ซึ่งมีผู้บริจาคเพื่อขยับขยายมาจากวิเวกอาศรม
    แนวปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ ใช้คำบริกรรม “ยุบหนอ พองหนอ”
    สถานที่ล้อมรอบด้วยทุ่งและธรรมชาติมีกุฏิสงฆ์สร้างในแบบธรรมชาติมุงจาก
    อาคารปฏิบัติธรรมขนาดกลางและอุโบสถยังรับผู้ปฏิบัติธรรมได้ไม่มากนัก

    ๒๒. วัดเขาสุกิม
    ต. เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ. จันบุรี
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย
    แนวปฏิบัติแนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ใช้คำบริกรรม “พุทโธ”
    วัดตั้งอยู่สูงขึ้นไปบนเชิงเขา กว้างขวางกว่า ๓,๒๘๐ ไร่
    มีทางบันไดและรถรางขึ้นไปบนวัด บริเวณร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่น้อย
    มีศาลาที่พักที่สะดวกสบายเป็นห้องมุ้งลวด มีเตียง ที่นอน หมอนให้
    หรือพักที่กุฏิว่างต่าง ๆ

    ๒๓.วัดจันทาราม (วัดท่าซุง)
    ๖๐ บ้านท่าซุง หมู่ ๑ ต. น้ำซึม อ. เมือง จ. อุทัยธานี
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    แนวปฏิบัติ มโนมยิทธิ บริกรรม “นะ มะ พะธะ” และสอนอนุสติ บริกรรม “พุทโธ”

    ๒๔. สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง
    อ. เชียงดาวจ. เชียงใหม่
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่สิม พุทธจาโร
    สำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่บนดอยทางขึ้นลงเทปูนเป็นบันไดเดินได้สะดวกแต่ค่อนข้างสูง
    หลวงปู่เคยเล่าไว้ว่าที่ถ้ำผาปล่อง และถ้ำเชียงดาวนี้ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
    ให้สำรวมระวัง รักษาความสงบ ไม่ร้องรำทำเพลง เล่นตลกคะนอง
    เพราะเคยมีพระอรหันต์ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ากกุสันโธ
    พระอรหันต์สมัยพระพุทธเจ้าโกนาคม พระอรหันต์สมัยพระกัสสโป
    และพระอรหันต์สมัยพระพุทธโคดม มาบำเพ็ญเพียรและละสังขารอยู่หลายองค์
    การนั่งภาวนาที่นี่จะทำเหมือนสมัยที่หลวงปู่ยังอยู่ คือ
    ท่านจะให้ทุกคนที่ไปภาวนานั่งสมาธิเพชรฟังเทศน์ ด้วยเหตุผลว่า
    ”การนั่งสมาธิเพชรนั้นเป็นการฝึกฝนคนเราให้เกิดความตั้งใจมั่น”

    ๒๕.วัดป่าสาละวัน
    อ. เมือง จ. นครราชสีมา
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    วันที่ ๑-๕ ของทุกเดือน จะมีการอบรมการปฏิบัติแก่อุบาสกอุบาสิกา
    ที่ใต้ศาลาและบนวิหารชั้น ๒ โดยจะมีพระให้การอบรม

    ๒๖. วัดสมเด็จแดนสงบ (แสงธรรมเวฬุราราม)
    ๙๙ ซอย ๑๙ ถ. มิตรภาพ อ. เมือง จ. นครราชสีมา ๓๐๐๐๐
    โทร. (๐๔๔) ๒๑๔-๑๓๔, ๒๑๔-๘๖๙-๗๐
    วิปัสสนาจารย์ พระครูภาวนาวิสิฐ
    แนวปฏิบัติ สติปัฏฐาน ๔

    ๒๗. วัดป่าวะภูแก้ว
    ต. มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ. นครราชสีมา
    แนวปฏิบัติ แนวหลวงปู่เสาร์ - หลวงปู่มั่น ภาวนา “พุทโธ”
    วัดอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ มีต้นไม้ใหญ่น้อยมาก สถานที่เงียบสงบ สวยงาม
    มีอาคารอบรมขนาดใหญ่ สำหรับผู้มาทำสมาธิเป็นหมู่คณะ

    ๒๘. วัดหนองป่าพง
    ๔๖ หมู่ ๑๐ ต. โนนผึ้ง อ. วารินชำราบ จ. อุบลราชธานี
    วิปัสสนาจารย์หลวงพ่อชา สุภทฺโท
    แนวปฏิบัติ เน้นให้มีสติสม่ำเสมอ ฝึกสมาธิแบบอานาปานสติ

    ๒๙. ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน จ. ขอนแก่น
    บ้านเนินทาง ต. บ้านค้อ อ.เมือง จ. ขอนแก่น ๔๐๐๐๐
    โทร. (๐๔๓) ๒๓๗-๗๘๖, ๑๒๗-๗๙๐
    เป็นสถานปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานสาขา ของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน
    แนวปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ เช่นเดียวกับวัดอัมพวัน จ. สิงห์บุรี

    ๓๐.วัดป่าวิเวกธรรมวิทยาราม
    ซ. ศรีจันทร์ ๑๓ ถ. ศรีจันทร์ ต. ในเมือง อ. เมือง จ.ขอนแก่น ๔๐๐๐๐
    โทร. (๐๔๓) ๒๒๒-๐๔๒
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”

    ๓๑.วัดถ้ำผาบิ้ง
    ต. ทรายขาว อ. วังสะพุง จ. เลย
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่หลุยจันทสาโร
    เมื่อไปถึงจะพบศาลาสร้างด้วยไม้ที่โปร่งสะอาดน่านั่งสมาธิมีกุฏิหลายหลัง
    มีถ้ำอยู่ไม่สูงจากเชิงเขา มีบันได้ขึ้นสะดวกเป็นที่สงบวิเวกมาก
    เหมาะแก่การปฏิบัติอย่างอุกฤษฎ์พระในสายพระอาจารย์มั่นมักมากจำพรรษา
    และปฏิบัติธรรมที่นี่ เพราะเป็นที่สัปปายะบรรยากาศเงียบสงบ ห่างจากเมือง

    ๓๒. วัดถ้ำกองเพล
    ต. โนนทัน อ. เมือง จ.หนองบัวลำภู ๓๙๐๐๐
    โทร. (๐๔๒) ๓๑๒-๓๗๗
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่ขาว อนาลโย
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    เป็นวัดป่ากว้างขวางพร้อมศาลาปฏิบัติธรรมสร้างภายในถ้ำ
    ทางไปถ้ำสะดวกอยู่ริมถนน รถเข้าถึงปากถ้ำได้ไม่ต้องปีน
    บางกุฏิก็ซ่อนอยู่ตามเหลือบผาต่าง ๆ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม
    เมื่อไปถึงให้ติดต่อศาลาประชาสัมพันธ์เพื่อขออนุญาตก่อน ปฏิบัติธรรมอย่างเข้ม

    ๓๓. วัดป่าบ้านตาด
    ต. บ้านตาด อ. เมือง จ. อุดรธานี
    วิปัสสนาจารย์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    ในวัดมีกุฏิที่พักหลายกุฏิ มักจะมีลูกศิษย์มาอยู่ปฏิบัติกันมาก
    แต่ผู้มาปฏิบัติที่นี่ต้องกินน้อย นอนน้อย ปฏิบัติมาก
    กลางคืนมักจะเดินจงกรม นั่งสมาธิ จนดึก หรือโต้รุ่งก็มี
    ไม่ใช้ไฟฟ้าในตอนกลางคืน ผู้ปฏิบัติจึงควรจำไฟฉายหรือเทียนติดตัวไปด้วย
    เพื่อใช้ส่องทางเดิน ทางจงกรม ซึ่งมักจะเป็นทางดิน
    และอาจมีสัตว์ เช่น งูอยู่บ้าง ต้องเจริญเมตตาไม่เบียดเบียนต่อกัน

    ๓๔. วัดหินหมากเป้ง
    บ้านไทยเจริญ หมู่ ๔ ต. พระพุทธบาท อ. ศรีเชียงใหม่ จ. หนองคาย
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่นภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    ในวัดมีกุฏิเรือนรับรองอยู่มาก บริเวณกว้างขวางประกอบด้วยป่าโปร่ง ป่าไผ่
    ทะเลสาบใหญ่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงเหมาะแก่การอยู่ปฏิบัติ

    ๓๕. วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก)
    อ. บึงกาฬ จ.หนองคาย
    วิปัสสนาจารย์ พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
    แนวปฏิบัติแนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    วัดตั้งอยู่บนภูทอกทางขึ้นค่อนข้างชัน
    สร้างด้วยความอัศจรรย์และด้วยจิตที่เด็ดเดี่ยวของพระเณร
    ท่านพระอาจารย์จวนได้ทำทางขึ้นเป็นขั้นบันไดและทางเดินด้วยไม้รอบภูจนถึงยอด
    บริเวณหน้าผา ท่านใช้ไม้ ๒ ลำมัดให้แน่นยื่นออกไป ๔ เมตร
    เอาเชือกบังสุกุลผูกปลายไม้ที่ยื่นออกไป ตรึงใส่เสาที่ปักไว้แล้วไปนั่งที่ปลายไม้นั้น
    เพื่อตอกหินเจาะหลุมที่หน้าผา ปรากฏว่าถ้าให้ฆราวาสไปนั่งปลายไม้ครั้งใด
    ก็ไม่สามารถควบคุมสติสมาธิได้เพราะมองไปข้างบ่างก็เกิดความหวั่นไหว
    จนไม่สามารถตอกหินได้สำเร็จผู้สร้างจึงเป็นพระและเณร สิ่งปลูกสร้างนี้มี ๗ ชั้น
    มีกุฏิที่พักเชิงเขาที่ชั้น ๒ หรือจะพักกุฏิว่างรอบเขาก็ได้ (ต้องขออนุญาตก่อน)
    เหมาะกับผู้ปฏิบัติที่ฝึกมาดีพอสมควร มีความเข้มแข็งพึ่งตนเองได้
    เนื่องจากเปลี่ยวและสูงอยู่บนภูเขา แต่บรรยากาศเย็นสบาย เงียบสงบ

    ๓๖.วัดดอยธรรมเจดีย์
    บ้านทาสีนวล หมู่ ๓ ต. ตองโขบ อ. ศรีสุพรรณ จ. สกลนคร
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่กงมา จิรปุญโญ
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่นภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    ปกติจะปฏิบัติที่ศาลา ส่วนที่พักมีกุฏิและอาคารคึกสะอาดทันสมัย

    ๓๗. วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม
    ถนน รพช หมู่ ๑ ต.ปทุมวาปี อ. ส่องดาว จ. สกลนคร
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภาวนา “พุทโธ”
    ที่นี่มีหลายถ้ำ มีถ้ำหนึ่งชื่อถ้ำพวง ซึ่งพระอาจารย์มั่นเคยเล่าให้ฟังว่า
    เป็นถ้ำที่ศักดิ์สิทธิ์มาก เคยมีพระอรหันต์ชื่อ พระนรสีห์ มานิพพานที่นี่

    ๓๘. วัดป่าสุทธาวาส
    ๑๓๙๖ บ้านคำสะอาด หมู่ ๑๐ ต. ธาตุเชิงชุม อ. เมืองจ. สกลนคร
    แนวปฏิบัติ แนวพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ภาวนา “พุทโธ”
    มีอาคารเป็นตึกปูน ๓ ชั้นหลังใหญ่ จุคนได้หลายร้อยคน เย็นสบาย

    ๓๙.วัดคำประมง
    เลขที่ ๒๐ หมู่ ๔ บ้านคำประมง ต. สว่าง อ. พรรณนานิคม จ. สกลนคร๔๗๑๓๐
    วิปัสสนาจารย์ หลวงปู่สิม พุทธจาโร
    เนื่องจากเป็นวัดที่มีพระจำพรรษาอยู่น้อยในฤดูนอกพรรษา จึงเงียบสงบ
    มีเจ้าหน้าที่ตัดหญ้า ปลูกดอกไม้สวยงามอย่างดี
    มีพระพุทธรูปปางต่าง ๆและสิ่งก่อสร้างสวยงาม มีสระน้ำทะเลสาบใหญ่
    ฝูงปลามากมายมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาเยี่ยมและให้อาหารปลาอยู่เสมอ

    ๔๐.สำนักปฏิบัติธรรมศิริธรรม (ถ้ำชี)
    เขากิ่ว ต. ไร้ส้ม อ. เมือง จ. เพชรบุรี๗๖๐๐๐
    โทร. (๐๓๒) ๔๒๘-๕๒๒
    วิปัสสนาจารย์ หลวงพ่อกนฺตสิริ
    แนวปฏิบัติสติปัฏฐาน ๔ และอานาปานสติ
    เขากิ่วเป็นภูเขาเตี้ย ๆ มีต้นไม้หนาแน่นมากอยู่ใกล้เมือง เดินทางสะดวก
    บนเขามีลิงอยู่บ้าง แต่ไม่ทำร้ายคน บนสำนักฯมีเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
    ศาลา ถ้ำชี ซึ่งใช้เป็นอุโบสถ กุฏิที่พักห้องน้ำ-ส้วม พอสะดวกสบายแก่การปฏิบัติ ที่นี่เน้นการปฏิบัติเคร่งครัด กินน้อยนอนน้อย ปฏิบัติมาก
     
  3. บัวกลางชล

    บัวกลางชล Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +39
    เคยฝันเห็นองค์พญานาคสีเขียวครีบทอง พี่น้ำใสบอกว่าท่านคือพญาสัตตนาคา เคยเป็นพ่อค่ะ ท่านมาเตือนให้ถือศีล อืมมม แต่ไม่มีเซ้นส์อะไรเลยนะคะ แล้วก็อธิษฐานอีกว่าไม่อยากกลับไปเกิดเป็นพญานาคอีก แป่ว และรู้สึกกลัวเวลาไปจ้องรูปปั้นพญานาคทุกครั้งเลยค่ะ แต่ลึกๆก็ศรัทธาท่านนะคะ จนไปไหว้ท่านที่พระธาตุพนามมาเมื่อวันวิสาขบูชาปีนี้อ่ะค่ะ
     
  4. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    วันที่ 7 ธ.ค. 2556 ผมได้นำพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาแบบอจินไตยจำนวนหลายร้อยองค์และพระเจดีย์อะคลีลิคไปถวายพระอาจารย์ เพื่อให้ท่านนำไปบรรจุในพระเจดีย์ในวัดต่างๆ ในอนาคตนั้น หลังจากที่ได้สนทนาธรรมกันแล้ว พระอาจารย์ได้มอบพระเนื้อโลหะให้องค์หนึ่ง บอกว่าเก็บไว้บูชาโดยเล่าประวัติให้ฟังว่า

    สมัยท่านยังเด็ก...เรียนชั้นประถมหกในจังหวัดทางภาคใต้ ท่านนั้นจัดเป็นเด็กที่ชอบมีเรื่องต่อยตีอยู่เสมอ จนกระทั่งวันหนึ่งท่านได้ไปขอให้คุณตาท่านหนึ่งที่อยู่ใกล้ๆ บ้านท่านซึ่งเป็นที่รู้กันในหมู่บ้านว่าคุณตาท่านนี้มีวิชาอาคมมากมาย และจะขอให้คุณตาได้ช่วยเสกหรือทำให้ท่านหนังเหนียวไม่แตกเพราะจะออกไปต่อยตีกับเด็กโตกว่าจำนวนมาก คุณตาก็กล่าวว่าถ้าช่วยครั้งนี้แล้วท่านจะต้องเลิกเกเรและบวชเณรนะ ในเวลานั้นท่านก็รับปาก หลังจากคุณตาท่านทำพิธีให้แล้ว ท่านก็ออกไปต่อยตีกับเด็กโตกว่าถึงสิบกว่าคนและก็พบว่าตนเองนั้นไม่ได้เสียเลือดและหนังเหนียวอย่างที่หวังไว้

    หลังจากเหตุการณ์นั้น ท่านก็ได้กลับมาให้คุณตาบวชตามสัจจะ แต่ก่อนบวช คุณตาก็ได้พาท่านไปยังห้องพระของท่านแล้วกล่าวว่า ให้ท่านเลือกพระเครื่องได้องค์หนึ่งใช้ติดกายขณะบวชเรียน ซึ่งในห้องพระนั้นท่านเห็นพระเครื่อง เครื่องลางของขลังและศาสตราวุธมากมาย แต่ท่านยังเลือกไม่ได้ จนคุณตากล่าวว่าเลือกได้หรือยัง ท่านเลยตัดสินใจว่า ขอพระ..องค์ที่คุณตาห้อยอยู่ได้มั้ย คุณตาหัวเราะแล้วกล่าวว่าพระองค์นี้ติดตัวท่านไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำทุกที่ที่ท่านทำราชการอยู่ แต่อย่างไรก็ตามคุณตาก็มอบพระองค์นั้นให้ท่านไว้..

    หลังจากบวชเณรแล้ว คุณตาได้เป็นโยมอุปัฎฐากท่านขณะบวชอยู่ทางใต้และต่อมาท่านได้ขึ้นมาจำพรรษาอยู่ที่วัดในกรุงเทพ จนกระทั่งท่านทราบข่าวว่าคุณตาท่านนั้นได้ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อปีพ.ศ.2549

    หลังจากนั้นท่านได้ถามผมว่า...

    "โยมพอจะเดาได้มั้ยว่า คุณตาที่มอบพระองค์นั้นให้ท่านนั้นเป็นใคร"

    ผมเองก็เหลือที่จะเดาก็เลยกล่าวว่า

    "ผมไม่ทราบจริงๆ ครับพระอาจารย์"


    ท่านกล่าวว่า "คุณตาท่านนั้นชื่อว่า ขุนพันธรักษ์ราชเดช"

    และพระ..องค์ที่ท่านได้ขอคุณตาไว้นั้น ท่านได้มอบให้ผมไว้บูชาซึ่งผมจะนำบูชาติดกายไว้อย่างแน่นอน
     
  5. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    เมื่อวานก็อ่านประวัติของท่านขุนพันธรักษ์ราชเดชอยู่พอดี อ่านเกี่ยวกับดาบเหล็กน้ำพี้ บางวิชากว่าจะได้มาผู้รับต้องมีสัจจะ บางครั้งไม่สามารถถ่ายทอดให้ลูกหลานได้เพราะทำผิดก็มี ชั่วชีวิตหาศิษย์ได้คนเดียวก็มี เพราะที่เหลือไม่สนใจและทำไม่ได้ตามกฎเกณฑ์ ดีใจไปกับกระทู้นี้ที่มีผู้ติดตามมากมาย
     
  6. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    วันที่เสาร์ ที่14 ธค. 2556

    ทางวัดป่าประชาสามัคคีธรรม บรบือ
    จัดพิธีอัญเชิญฯ ลูกแก้ว


    ท่านใดที่สนใจสามารถ ไปที่วัดได้โดยตรง


    หรือสอบถามเส้นทาง รายละเอียด
    087-111-0916
    ติดต่อทีวัดโดยตรง 082-169-7865
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    องค์นี้ครับ
    [​IMG]
     
  8. phaenwong

    phaenwong เปียวคอมฯ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +791
    เหรียญหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลังท้าวเวสสุวรรณ วัดท่าซุง จังหวัด อุทัยธานี ปี 2521 สร้างโดย ตชด.เขต 8 (พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธี)

    สร้างโดย ผกก.ต.ช.ด.ค่ายศรีนครินทรา ทุ่งสง.โดยได้รับอนุญาตจากหลวงพ่ออย่างถูกต้อง พุทธาภิเษกที่วัด พระมหาธาตุวรวิหาร จ. นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2521ใต้รูปมีข้อความว่า ที่ระลึกวันค่ายศรีนครินทรา กก.ตชด.เขต ๘ ๒๕ ก.ย. ๒๕๒๑ เป็นเหรียญอีกรุ่นที่นิยมพิธีปลุกเสกดีมากมีเกจิย์ทางใต้หลายรูปร่วมปลุกเสกอาทิเช่น พ่อท่านแสง วัดคลองน้ำเจ็ด อาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา อาจารย์บุญทอง หลวงพ่อดำ วัดตุยง และท่านอื่นๆ เช่น พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ ลพ.จ้อย พระครูกาชาดบุญทอง วัดดอนศาลา พระอาจารย์ศรีเงิน วัดดอนศาลา ฯลฯ พร้อมด้วยเกจิดังแห่งภาคเหนือ คือ ครูบาธรรมไชย วัดทุ่งหลวง ,หลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    โดยมี พลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธี โลหะที่นำมาทำเหรียญ เป็นพวกตะกรุดเก่า ห่วงพระเครื่องเก่า ๆ หลายพันห่วง และโลหะมงคลต่าง ๆ ผสมอยู่มาก หลอมก่อนนำมาปั๊มเป็นเหรียญ สังเกตุเหรียญจะดูเหมือนโลหะผสม หลังเสร็จพิธี พุทธาภิเษก หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้ประกาศว่า ใครมีเหรียญนี้ติดตัวไว้ จะไม่มีการตายโหง (จะไม่ตายโหง) เป็นเหรียญที่มีประสบการณ์สูงมาก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    วันที่ศุกร์ที่ 20 ธค. 2556

    พระอาจารย์ มหาอาวรณ์ ภูริปัญโญ และคณะ
    จะมาร่วมอัญเชิญ ดวงแก้วพญานาค

    ณ.วัดป่าประชาสามัคคีธรรม บรบือ






    ท่านใดที่สนใจสามารถร่วมอัญเชิญฯ


    หรือสอบถามเส้นทาง รายละเอียด
    087-111-0916
    ติดต่อทีวัดโดยตรง 082-169-7865
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    ทางวัดป่าประชาสามัคคีธรรม บรบือ มหาสารคาม
    แจ้งมาว่า ตั้งแต่วันที่ 26 ธค. 56 - วันที่ 2 มค. 57
    หลวงปู่ท่านไม่อยู่ที่วัด นะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1.jpg
      1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      8.9 MB
      เปิดดู:
      116
  11. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    “อานันทะ..ดูก่อนอานนท์ พรุ่งนี้พวกเราจะเที่ยวบิณฑบาตที่หมู่บ้านพ่อค้าในแคว้นสุนาปรันตะ เธอจงให้สลากแก่ภิกษุ ๔๙๙ รูป..” เมื่อพระอานนท์รับพระพุทธบัญชาแล้วจึงได้ประกาศแก่ภิกษุทั้งหลาย และในวันนั้น พระกุณฑธานเถระ จับได้สลากเป็นองค์แรกในตอนเช้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งเข้าผลสมาบัติ บัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ของท้าวสักกะเกิดร้อนขึ้นมา พระองค์ทรงพิจารณาแล้วทราบว่า องค์สมเด็จพระบรมศาสดาจะเสด็จไป แคว้นสุนาปรันตะ ซึ่งเป็นระยะทางไกลมาก จึงรับสั่งให้วิษณุกรรมเทพบุตร เนรมิตเรือนยอด ๕๐๐ หลัง สำหรับพระผู้มีพระภาคเจ้ามี ๔ มุข (จตุรมุข) ของพระอัครสาวกทั้งสองมี ๒ มุข ที่เหลือมี มุขเดียว พระศาสดาทรงเข้าสู่เรือนยอด และ พระสาวก ๔๙๙ รูป ต่างเข้าสู่เรือนยอด ๔๙๙ หลังตามลำดับ

    โดยมีเรือนยอดว่างอยู่หลังหนึ่ง เรือนยอดทั้ง ๕๐๐ หลังนั้นลอยไปในอากาศ ครั้นถึงภูเขาชื่อ “สัจจพันธ์” แล้วทรงหยุดเรือนยอดไว้ในอากาศ ทรงเทศน์โปรดท่านสัจจพันธ์ฤาษี จนสำเร็จพระอรหันต์แล้ว จึงได้เข้าสู่เรือนยอดที่ว่างหลังนั้น ตามเสด็จไปพร้อมกับพระภิกษุทั้งหลายมายังหมู่บ้านพ่อค้า (เพชรบุรี) ที่เป็นน้องชาย พระปุณณะ ต่างก็ ได้ถวายทานเป็นอันมากแด่พระภิกษุทั้งหลาย อันมีองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมา สัมพุทธเจ้าทรงเป็นประธาน เมื่อพระศาสดาประทับในที่นั้น ๒-๓วัน จึงได้เสด็จไปโปรด “นัมทานาคราช”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    คำนมัสการรอยพระพุทธบาท 5 แห่ง

    วันทามิ พุทธัง ภะวะปาระติณณัง
    ติโลกะเกตุง ติภะเวกะนาถัง
    โย โลกะเสฏโฐ สะกะลังกิเลสัง
    เฉตะวานะ โพเธสิ ชะนัง อะนันตัง
    ยัง นัมมะทายะ นะทิยา ปุลิเน จะ ตีเร
    ยัง สัจจะพันธะคิริเก สุเมนา จะลัคเค
    ยัง ตัตถะ โยนะกะปุเร มุนิโน จะ ปาทัง
    ตัง ปาทะัลัญชะนะมะหังสิระสา นะมามิ
    สุวัณณะมาลิเก สุวัณณะปัพพะเต สุมะนะกูเฏ
    โยนะกะปุเร นัมมะทายะ นะทิยา
    ปัญจะปาทะวะรัง ฐานัง อะหัง วันทามิ ทูระโต ฯ
    อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง
    นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง
    ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง
    ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโยฯ
    อามันตะยามิ โว ภิกขะเว ปะฏิเวทะยามิ โว ภิกขะเว
    ขะยะวะยะธัมมา สังขารา อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถาติฯ


    คำแปล

    ข้าพเจ้าขอนมัสการพระพุทธเจ้าผู้ข้ามพ้นฝั่งแห่งภพ,
    ผู้เป็นธงชัยของไตรโลก ผู้เป็นนาถะเอกของไตรภพ,
    ผู้ประเสริฐในโลก ตัดกิเลสทั้งสิ้นได้แล้ว ช่วยปลุกชน
    หาที่สุดมิได้ให้ตรัสรู้มรรคผลและนิพพาน,
    รอยพระบาทใดอันพระพุทธองค์ ได้ทรงแสดงไว้,
    ในหาดทรายแทบฝั่งแม่น้ำนัมมะทา,
    รอยพระบาทใดอันพระพุทธองค์ ได้ทรงแสดงไว้,
    เหนือยอดเขาสัจจะพันธ์ และเหนือยอดเขาสุมะนา,
    รอยพระบาทใดอันพระพุทธองค์ ได้ทรงแสดงไว้,
    ในเมืองโยนะกะ ข้าพเจ้าขอนมัสการพระบาท และ
    รอยพระบาทนั้น ๆ ของพระมุนีด้วยเศียรเกล้า,
    ข้าพเจ้าขอนมัสการสถานที่มีรอยพระบาท,
    อันประเสริฐ ๕ สถานแต่ที่ไกล, คือที่เขาสุวรรณมาลิก ๑
    ที่เขาสุวรรณะบรรพต ๑, ที่ยอดเขาสุมะนะกูฏ ๑,
    ที่โยนะกะบุรี ๑, ที่แม่น้ำชื่อนัมมะทา ๑,
    ข้าพเจ้าขอนมัสการอยู่ซึ่งพระรัตนตรัยใดๆ อันบุคคล
    ควรไหว้โดยส่วนยิ่ง, อย่างนี้ด้วยประการฉะนี้,
    ได้แล้วซึ่งกองบุญอันไพบูลย์,
    ขออานุภาพแห่งพระรัตนตรัยนั้นจงขจัดภัยอันตราย เสียเถิด,
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือนท่านทั้งหลาย
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอให้ท่านทั้งหลายทราบไว้ว่า
    สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา,
    ขอให้ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ตน และประโยชน์ท่าน
    ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด,
    ด้วยประการฉะนี้แล ฯ

    จากบทสวดมนต์นี้มีรอยพระพุทธบาทห้าแห่ง คือ
    1) สุวัณณะมาลิเก 2) สุวัณณะปัพพะเต 3) สุมะนะกูเฏ 4) โยนะกะปุเร 5) นัมมะทายะ นะทิยา
    จากการค้นหาข้อมูลจากพระไตรปิฎกในปุณโณวาทสูตร อรรถกถา พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกายและแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่มีการค้นหา สุวรรณมาลิกและสุมนกูฏ อยู่ในประเทศศรีลังกา ส่วนอีกสามแห่งอยู่ในประเทศไทย ในพระไตรปิฎกเรียกว่า แคว้นสุนาปรันตะ ห่างจากเชตวันวิหาร 3000 โยชน์ (บางตำราว่า 300 โยชน์) ทรงเสด็จทางอากาศพร้อมภิกษุอรหันต์ 499 รูปไปโปรดดาบสที่เขาสัจจพันธ์ (สระบุรี) ให้บรรลุพระอรหันต์บวชแล้วตามเสด็จพระพุทธองค์ไปโปรดนิมมทานาคราช พระพุทธองค์ทรงประทับรอยพระบาทไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำนิมมทา (เชื่อกันว่าคือรอยพระพุทธบาทที่เกาะแก้วพิศดาร ปลายแหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต) จากนั้นโปรดให้พระสัจจพันธ์กลับไปพำนักที่เขาสัจพันธ์ตามเดิม พระสัจพันธ์ทูลขอเครื่องสักการะบูชา พระพุทธองค์จึงประทับรอยพระบาทไว้บนหลังแผ่นหินทึบเหมือนประทับตราไว้บนก้อนดินเหนียวสดเป็นตำนานที่มาของรอยพระพุทธบาทบนเขาสัจจพันธ์ จ.สระบุรี ส่วนรอยพระพุทธบาทที่โยนกบุรี คงหมายเอาชื่อโยนกนครอันเป็นชื่อเดิมของล้านนาตามที่กล่าวไว้ข้างบนที่ ส่วนที่ศรีลังกานั้นมีเจดีย์องค์หนึ่งบนเขาอภัยคีรี หรือ Abhayagiri Dagoba (ไทยเรียกว่า สุวรรณมาลิก หรือ สุวรรณมาลี) สันนิษฐานว่าเป็นเจดีย์ที่สร้างครอบรอยพระพุทธบาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2013
  13. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    พอเห็นภาพพระพุทธบาทหลายๆ แห่งแล้ว ย้อนมานึกถึงการไปสักการะรอยพระพุทธบาทของใครหลายๆ คนในปัจจุบันนี้มักจะกล่าวว่า ถ้าได้ไปสักการะที่เชียงใหม่บ้าง ที่จันทบุรีบ้าง ที่ภูเก็ตบ้าง ที่สกลนครบ้าง จะได้บุญมากเพราะเดินทางไปลำบาก กว่าจะได้กราบสักการะก็ต้องเดินทางเหนื่อยยากแทบแย่

    เืมื่อคิดย้อนไปในอดีต คุณยายผมเล่าให้ผมฟังว่า สมัยท่านจำความได้แล้ว ถ้าใครได้ไปกราบรอยพระพุทธบาทที่สระบุรีแล้วจะได้บุญมาก เพราะเดินทางไปยากมาก ต้องนั่งรถไฟไปลงที่สถานีสระบุรี เดินเข้าดงไปและต้องนอนค้างในดงหนึ่งคืน เช้าเดินต่อไปอีก กว่าจะถึงพระพุทธบาทก็ราวบ่ายๆ และยังตอนขากลับอีก ไปสักการะสักทีต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 วัน

    พอสมัยนี้..รถยนต์แทบจะวิ่งไปชนภูเขาที่มีรอยพระพุทธบาท จากกรุงเทพไปไม่ถึงสามชั่วโมง แต่ผู้คนไม่ค่อยไปกันแล้ว นัยว่าเดินทางสะดวกคงจะได้บุญน้อยมั้ง....

    เอามาเขียนระบายให้่อ่านเล่นๆ ครับ อย่าถือเป็นเรื่องจริงจังอะไรนะครับ


     
  14. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    มีนิทานมาเล่าให้ฟังครับ

    เกริ่นนำเรื่อง....
    เพื่อนธรรมผมผู้หนึ่งได้รับชานหมากจากที่บูชาไว้ที่รูปหลวงปู่เทพโลกอุดร ณ ห้องพระของนายแพทย์ท่านหนึ่งในต่างจังหวัด ซึ่งการได้ชานหมากมานี้ก็เป็นเรื่องอจินไตยคือว่าทางคุณหมอได้จัดหมากพลูสดถวายใส่พานไว้ที่หน้ารูปหลวงปู่ฯ ในห้องพระ แล้วคุณหมอก็ออกมาสนทนากับเพื่อนธรรมผม ผ่านไปสัก 15 นาที คุณหมอก็เข้าไปในห้องพระและพบว่าหมากพลูสดที่จัดถวายนั้นได้กลายเป็นชานหมากไปแล้ว ยังความปิติแก่คุณหมอและเพื่อนธรรมผมผู้นั้นมาก และได้แบ่งกลับมาบูชาที่กรุงเทพฯ

    ต่อมาผมได้พาเพื่อนธรรมท่านนี้ไปกราบพระอาจารย์ผมและเพื่อนธรรมผมได้แบ่้งชานหมากของหลวงปู่ฯ ไว้ให้พระอาจารย์จำนวนหนึ่ง ซึ่งพระอาจารย์ก็นำใส่พานบูชาไว้ที่โต๊ะพระในกุฏิของท่าน

    เรื่องอจินไตยก็มาเกิดขึ้นอีกเรื่องที่พระอาจารย์โทรศัพท์มาตามผมให้ไปฟังจากปากท่านเมื่อวันเสาร์ที่ 21 ธ.ค.นี้ โดยท่านบอกว่าให้ผมฟังเป็นนิทานไป เรื่องมีอยู่ว่า
    - วันพุธที่ 18 ธ.ค. เวลาประมาณเที่ยงคืน พระอาจารย์ได้กลับเข้ากุฏิของท่าน ซึ่งกุฏิของท่านอยู่ชั้นสอง ซึ่งได้ปิดหน้าต่างและล๊อคประตูใส่กุญแจไว้
    - พอท่านไขกุญแจเปิดประตูเข้าไป ก็ตกใจเมื่อพบพระภิกษุชราร่างใหญ่ เกศาท่านเป็นสีขาว ฝ่ามือเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าหนุ่ม
    - พระอาจารย์จึงถามไปว่า หลวงปู่มาที่กุฏิผมนี้มีกิจอันใดขอรับ
    - หลวงปู่ฯ ตอบว่า "แวะมาดูชานหมาก กับนำพระมาให้ญาติโยมของเธอ"
    - พระอาจารย์คิดในใจว่า "เอ..เข้ามาในกุฏิได้ยังไง นี่จะเป็นผีหรือเปล่าหนอ"
    - หลวงปู่ฯ หัวเราะแล้วบอกว่า "เอ้า..มาจับแขนฉันนี่ มีเนื้อหนังนะ"
    - พระอาจารย์ก็เดินเข้าไปจับแขนหลวงปู่ฯ แล้วก็พบว่ามีเนื้อหนังจริงๆ
    - หลวงปู่ฯ ได้กล่าวเทศน์สอนพระอาจารย์ผมเกี่ยวกับเรื่องการไม่ให้ยึดถือรูปและนาม ท่านสอนอยู่ประมาณ 10 นาที แล้วก็บอกว่าจะกลับแล้ว
    - หลวงปู่ฯ เดินทะลุหายออกไปทางหน้าต่าง แต่พักเดียวก็เดินกลับเข้ามา กล่าวว่า "ขอโทษที กลับผิดทาง" แล้วหลวงปู่ฯ ท่านก็เดินทะลุประตูออกหายวับไป สร้างความตะลึงแก่พระอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง
    - พระอาจารย์ได้นำพระที่หลวงปู่มอบไว้ให้ประมาณ 12 องค์ เก็บไว้ที่โต๊ะพระของท่าน ซึ่งรับมาครั้งแรกเป็นพระเนื้อดินสีแดงๆ 6 องค์พอผ่านมา 3 วันก็เปลี่ยนสภาพเป็นพระเนื้อเขียวเป็นแก้วใส
    - ยังมีพระพิมพ์อื่นๆ อีก มีพิมพ์รูปปู่ฤาษีเนื้อดินและเนื้อเหล็กไหลที่หลวงปู่ฯ มอบไว้ให้

    วันเสาร์ฺที่ 21 ธ.ค. ท่านก็ติดต่อให้ผมและเพื่อนธรรมไปรับพระที่หลวงปู่ฯ มอบให้นั้นมาไว้ติดตัวและบูชาไว้ที่บ้านเรือนเพื่อเป็นศิริมงคลต่อไปครับ

    สรุป - คิดว่าเป็นนิทานตามที่พระอาจารย์ผมท่านเล่าให้ฟังก็แล้วกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 ธันวาคม 2013
  15. kongpak

    kongpak เลื่อมใสอย่างยิ่งในตถาคต ถึงที่สุดโดยส่วนเดียว

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2009
    โพสต์:
    802
    ค่าพลัง:
    +6,118
    ไม่ว่าผมหรือใครจะมีของวิเศษหรือพระเครื่องพระพิมพ์ดีแค่ไหนก็ตาม ก็ไม่พ้นความเจ็บ ความตายไปได้ และยิ่งหากไม่มีศีล ไม่มีความกตัญญูกตเวที ก็อย่าได้หวังว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้มีวาสนารับมาบูชาแบบอจินไตยนี้จะอยู่ปกปักรักษาคุ้มครองเราได้

    ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

     
  16. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    ทางวัดป่าประชาสามัคคีธรรม บรบือ มหาสารคาม

    แจ้งมาว่า ตั้งแต่วันที่ 26 ธค. 56 - วันที่ 2 มค. 57
    หลวงปู่ท่านไม่อยู่ที่วัด นะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC04770.JPG
      DSC04770.JPG
      ขนาดไฟล์:
      4.7 MB
      เปิดดู:
      121
  17. Fongvin_kla

    Fongvin_kla สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +9
    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2013
  18. Fongvin_kla

    Fongvin_kla สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +9
    อดีตชาติมีอยู่จริง แต่ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น หากแต่เป็นเครื่องรู้ระลึก ให้พิจารณาถึงความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่ว่าจะเกิดเป็นอะไรก็ตาม อดีตเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดในการพิจารณาธรรม ผมเคยเป็นเด็กวัดมาก่อนอยู่รับใช้พระอาจารย์สายหลวงปู่มั่น และได้ฝึกหัดสมาธิ
    ตามคำแนะนำของครูบาอาจารย์มาก่อน ผมก็เป็นคนนึงที่ระลึกชาติได้หลายชาติ เคยเข้าไปยึดติด ถือตัว ถือตนว่าเราเคยเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ จนสมาธิเริ่มถอยหลัง ติดต่อกับเทวดา ต่างๆมากมาย จนลืมพิจารณาจิตของตน ออกรับรู้โลกภายนอกมากเกินไป จิตเร็วเกินไปก็ไม่ดี ให้หยุด
    พญานาคนั้นจากการระลึกชาติ ใช่ว่าพญานาคทุกตนจะสามารถขึ้นมาบนโลกมนุษย์ได้ทุกตน พญานาคบุญบารมีก็ต่างกันไป หากบำเพ็ญหรือญาณสมาบัติไม่แก่กล้าพอก็ไม่สามารถที่จะขึ้นมาบนโลกมนุษย์ได้ หรืออย่างต้น ขึ้นมาในลักษณะที่เป็นพญานาคเลย อย่างกลาง ครึ่งคนครึ่งพญานาค อย่างดีขึ้นมาหน่อย ก็สามารถแปลงกายเป็นคนได้ เป็นตามลำดับบารมีของแต่ละตน การเกิดใหม่ของผมได้ตั้งจิตอธิฐานก่อนจะมาเกิดเป็นมนุษย์คือขอให้ได้มาเกิดเป็นมนุษย์และใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาและเรียนรู้ให้ได้มากที่สุด เพื่อนำธรรมที่ได้ไปสอนมารดาผู้เป็นพญานาคที่บำเพ็ญเพียร ภาวนา ในถ้ำต่อไป ซึ่งจากการย้อนภพชาติมาหลายชาติ ผมมักจะได้เข้าปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์หลายท่าน ในอดีต อาจเป็นเพราะผมเคยตั้งจิตอธิฐานไว้ และไม่รู้ทำไมทำให้ผมต้องอธิฐานที่จะตัดขาดเนื้อคู่ทุกชาติทุกภพ เพื่อการปฏิบัติธรรมอย่างเดียว ผมจบกฎหมายได้นั้น เป็นผลมาจาก สมาธิ ที่เคยปฏิบัติด้านกสินมาก่อน เชื่อไหมว่าผมเรียนกฎหมาย จบ 3 ปีที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยไม่ได้จำอะไรมากมาย ผมแค่ตั้งสมาธิ กำหนดให้หน้าหนังสือ หน้านั้น ให้เข้ามาในสมาธิ หลับตาก็ชัด ลืมตาก็ชัด ปรากฏว่าผมจำได้ทั้งเล่มมาตรากฎหมายได้สบายๆ ทั้งที่คนอื่นๆ ต้องอ่านแล้วอ่านอีก ค่อยจะท่องจำได้ ผมใช้สมาธิกับการเรียนก็ได้ผมดีมากๆ
    ผมก็มานั่งนึกว่าตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยทำร้ายสัตว์แม้แต่ยุง ถือศีล 5 ครบถ้วน นั้นคือการตั้งจิตอธิฐานมาเป็นลำดับ และบุญที่เคยสะสมมา แต่ถึงอย่างไรก็ตามให้เราอย่าประมาท เพราะเราอาจจะเกิดเป็นอะไรก็ได้แม้จะสะสมบุญมามากเท่าไหร่ก็ตาม หากสมาธิไม่สามารถที่จะกำหนดได้ในเวลาจะหมดลมหายใจ เราก็อาจจะมีสิทธิที่จะเกิดเป็นอะไรก็ได้ แต่สิ่งที่เราเคยทำ เคยสะสมบุญมานั้น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ เป็นเทวดา ก็จะไม่หายไปไหน ยังคอยให้เราได้รับผลของมันเสนอ เราควรพิจารณาถึงพระนิพพาน ตลอดเวลาเป็นปกติอารมย์ กำหนดไว้ในทุกลมหายใจ หากเราทำได้เป็นปกติแล้ว การเจ็บ ปวด ทรมาน ก่อนตาย เมื่อเราทำจนเป็นปกติแล้ว เราก็จะสามารถกำหนดเป็นอารมย์พระนิพานได้
    *** เรื่องพวกนี้ อย่าเชื่อคนอื่น ลองปฏิบัติให้เห็นด้วยตนเอง กำหนดรู้ด้วยตนเอง
    การย้อนภพชาติใช่ว่าทุกคนจะย้อนได้หมดทุกภพทุกชาติ ยกเว้นแต่พระบรมศาสดา ที่สามารถทำได้ นอกนั้นก็อาศัย ญาณสมาบัติที่เคนสะสม มาเป็นกำลัง บางคนชาติเดียว 3 ชาติ 10 ชาติ ต่างกันไป ดังนั้นอย่าเชื่อใครมาทัก มาเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็ยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งนั้นมันเป็นเรื่องจริง ลองปฏิบัติให้เห็นจริง รู้แล้วพิจารณา พิจารณาได้แล้ววาง ***
     
  19. MANENAKA WANGKATEKEAW

    MANENAKA WANGKATEKEAW เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2013
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +4,848
    ครบถ้วน ตามด้านล่าง นะครับ
    สาธุ อนุโมทามิ ครับ
     
  20. กัญชาอารยะ

    กัญชาอารยะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +26
    แล้ว มังกรจีน นี่ถือเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับพยานาคหรือป่าว
    หรือพวกบาซิลิสก์ (Basilisk) ที่เป็นงูใหญ่ที่น่ากลัวและน่าสยดสยองในตำนานกรีกและยุโรป ซึ่งแค่มองผ่านเหยื่อก็ทำให้เหยื่อตายได้ ในทำนองเดียวกับ เมดูซ่า
    หรือพวก ลามิอา (lamia) อสูรกายที่มีรูปร่างส่วนบนเป็นมนุษย์ผู้หญิงลำตัวส่ว นล่างเป็นงู ชอบดูดเลือดเด็กๆ ตามตำนานของกรีกโบราณเล่าว่า แรกเริ่มเดิมทีเป็นเจ้าหญิงที่หลงรัก มหาเทพซีอุส

    แล้วถ้าสมมุติว่าลูกหลานพยานาคมีจริงแล้วลูกหลานครุฑจะมีจริงมั้ยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...