^__^เหรียญหล่อประภามลฑล หนึ่งในวิชาที่หลวงปู่ศุขถ่ายทอดให้หลวงปุ่สุภา

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย ก๋ง สุญญตา, 29 เมษายน 2013.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. BodySiam

    BodySiam Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +26
    ยังไม่ได้คตสวาทตะกรุดเงินเลยครับ
     
  2. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    จัดส่งให้แล้วครับ น่าจะถึงพรุ่งนี้ เดี่ยวให้มลลี่แสดงผลการส่งหน้าบอร์ด ครับ..............
     
  3. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ตอนนี้รื้อค้น หาพระของหลวงปุ่สุภาที่ร้านครับ เจอ อะไรดีอย่างไร จะขายให้ แบบพอไปได้ตามเหตุตามผล ไม่แพง ตามกะแสพยายามจะ ขึ้นน้อยกว่าท้องตลาดแล้วกันครับ..................
     
  4. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ของดี อีกชิ้นหนึ่ง ที่สร้าง ชือ่เสียงให้หลวงปุ่สุภา อย่างมากมาย คือ " พระเสด็จกลับ " อ่าน เรื่องไปพลางๆ จบก่อนแล้ว จะมาเล่า ด้วยปาก ว่าดีอย่างไร


    ประวัติพระผงวิเศษ 84,000 องค์ ทรงขุนแผนเรือนแก้ว ทรงพระรอด รูปและลูกประคำหลวงปู่คง ของอาจารย์ชุม ไชยคีรี รูปเหรียญ หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ที่สร้างด้วยว่านยาแร่ธาตุ พญาว่าน มหาว่าน มหาว่าน น้ำพระพุทธมนต์อันศักดิ์ รวม 2,000 กว่าชนิด 84,000 องค์ ผ้ายันต์เสือ ผ้ายันต์สิงห์ ของอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ น้ำมันมหานิยมเลิกรบ ของอาจารย์ชุม ที่ทำพิธีสร้าง และพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดสารอด เขตราษฎร์บูรณะ ฝั่งธนบุรี โดยเจตนาช่วยกันสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาด้านรูปและวัตถุ มีนโยบายให้ผู้มีศรัทราน้อย รักนับถือในรูปแล้วเข้าถึงคุณเอาเอง และถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถตลอดจนถึงเจ้าฟ้าพระเจ้าลูกยาเธอทั้งอุทิศส่วนกุศล เป็นสาธารณะทั่วไปโดยคณะผู้ดำเนินการสร้างไม่หวังผลตอบแทนอย่างอื่นเป็นประโยชน์ส่วนตัวอกจากปรารถนาบุญกุศล

    1. วัน 24 ธันวาคม 2506 เวลา 6.30 น. ได้อุมดฤกษ์พุทธาพิเษกและปลุกเสก อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ทำพิธีบวงสรวงสังเวย เวลา 9.00 น. อาจารย์สุภา เจิมเทียนชัยแล้วอาจารย์ ทั้งสามรวมกันอธิษฐานเชิญครูอาจารย์ และวิญญาณเทพเข้าประจำในมลฑลพิธี วิญญาณขุนแผนเข้าประทับตรวจความเรียบร้อยของพิธีเสร็จแล้ว อาจารย์อุทัยเข้าบริกรรมเริ่มตั้งธาตุบรรจุธาตุ 8 ชั่วโมง พร้อมกันนั้นอาจารย์ชุม ไชยคีรี นำพระผงวิเศษที่สร้างรวม 108 องค์ ไปโดยเรือยนต์พร้อมด้วยพระสงฆ์ 5 รูป ไปทำพิธีสังเวยบวงสรวงกลางแม่น้ำ แล้วกลับมาทำพิธีศาลเทพารักษ์ที่สร้างไว้ที่แม่น้ำหน้าวัดสารอดอีกครั้งหนึ่ง

    เวลา 19.00 น. พระเถระผู้ใหญ่ 9 รูป จากพระอารามหลวง และอารามต่างๆ มีสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ เป็นประธาน เจริญพระพุทธมนต์เวลา 20.30 น. เชิญวิญญาณอาจารย์คง อาจารย์ขุนแผนเข้าประทรับทรง จุดเทียนชัย พระสงฆ์ชุดพุทธาภิเษก 4 รูป สวดคาถาจุดเทียนไชย พระอาจารย์สุภา นั่งปรก วิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรงอาจารย์ชุม อาจารย์อุทัย เข้าทำการปลุกเสก พระสวดพุทธาภิเษก เวลา 21.00 น. หยุด เปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่ที่มา ในพิธีเข้าพบวิญญาณขุนแผนได้จนถึงเวลา 22.00 น. เวลา 24.00 น. ขุนแผนพร้อมด้วยวิญญาณเทพทำพิธีตลอดพิธี มีพุทธาภิเษก และปลุกเสกบรรจุคุณ โดยพระอาจารย์ผู้ทรงคุณชุดละ 9 อาจารย์ และเชิญวิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรงปลุกเสกบรรจุคุณตลอดพิธี โดยมีระเบียบและแบ่งเวลาออกดังนี้

    ระยะที่ 1

    เสกตั้งธาตุ บรรจุธาตุแต่งธาตุ เสกพระคาถาจุติจากชั้นดุสิตลงสู่ พระครรภ์พระพุทธมารดา เสกพระคาถาประสูตรจากพระครรภ์เสกพระคาถาเสด็จย่าง 7 ก้าว พระอาการ 32 พระคาถาบำเพ็ญพระบารมี จนสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า 3 วัน
    เสกธาตุ 4 อาการ 32 อักขระ 16 หัวใจ ของหัวใจ 108 อย่างละ 108 จบ 3 วัน
    เสกธาตุ 4 อาการ 32 อักขระ 16 หัวใจ ของหัวใจ 108 คาถาชุดคงกระพัน อย่างละ 108 จบ 5 วัน
    ระยะที่ 2 เสกกันปืนมหาอุด กันวัตถุระเบิด ห้ามดินน้ำลมไฟเสกผูกเสกกัน 5 วัน

    ระยะที่ 3 เสกแคล้วคลาด เสกศักดิ์สิทธิ์ 1 เสกไปกลับ แปลงรูปหุ่นยนต์ เสกกำแพงเพ็ชร์ 7 ชั้น เสกมงกุฏ พระพุทธเจ้า 5 วัน

    ระยะที่ 4 เสกมหานิยม มหาเสน่ห์ มหาละลวย มหาลาภ เลิกรบเลิกเบียดเบียน 5 วัน

    ระยะที่ 5 เสกรวมเสกผูกกัน 4 วัน รวมเป็นเวลาพุทธาภิเษกและปลุกเสก 30 วัน วันละ 3 เวลา คือ เวลา 5.00 น 9.00 น. 21.00 น.

    พระอาจารย์ที่เป็นพระต้องปลงอาบัติ ทุกครั้งแล้วจึงต้องเข้ามลฑลพิธี อาจารย์ที่เป็นฆราวาสต้องนุ่งขาวห่มขาวสมาทานศีลห้า โดยถือพรมจรรย์เป็นวัตรอยู่ประจำในบริเวณพิธี และบริเวณวัดตลอดพิธี เมือเสกจบลงระยะหนึ่งๆ ก็ทำการพิสูจน์ทดลองต่อหน้าประชาชนให้ผู้สนใจชม เป็นการอบรมศึกษาวิธีทำจิตให้เข้าถึงคุณพระไปในตัว การทดลองก็เพื่อชี้ให้เห็นเป็นประจักษ์พยานว่า พระพุทธเจ้าแม้เสด็จเข้าสู่ปรินิพานไปนานแล้ว ยังทรงอยู่ แต่พระคุณทั้งหลาย ถ้าผู้ใดเข้าถึงพระพุทธคุณแล้ว ยกเอาพระพุทธคุณเป็นที่พึ่ง พระพุทธคุณย่อมเป็นที่พึ่งเป็นที่ระลึก และกำตัดภัยให้ผู้เข้าถึงได้จริง นอกจากนั้น พระพุทธคุณย่อมแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ เป็นอัศจรรย์ได้นานาประการ

    วันที่ 23 มกราคม 2507 เวลา 20.00 น. นิมนต์พระเถระผู้ทรงคุณทางวิปัสนากรรมฐาน 9 รูป สวดพระธรรมจักรกัปวัตนสูตร์พระสหาสมัยสูตร แล้วสวดพุทธาภิเษก และปลุกเสก ด้วยพระอาจารย์ชุดเดิม ถึงเวลา 23.30 น.

    วันที่ 24 มกราคม 2507 เวลา 03.00 น. นิมนต์พระอาจารย์ผู้ทรงคุณทางวิปัสนากรรมฐาน 9 รูป เข้านั่งปรก สงบเสียงอื่นๆ หมดจนถึงเวลา 04.00 น. ต่อจากนั้นสวดพุทธาภิเษกบทสุดท้าย พระอาจารย์ และอาจารย์ ชุดเดิมจุดเทียนมงคลเจิมเวียนเป็นทักษิณาวัตร 3 รอบ พระเถระ 9 รูปสวดชัยมงคลคาถา ย่ำคล้องย่ำกลองจนถึงเวลา 06.00 น พระสวดคาถาดับเทียนไชย พระอาจารย์และอาจารย์ชุดเดิมดับเทียนไชย และเทียนเจิมพร้อมกัน พระอาจารย์ อาจารย์ และคณะกรรมการนำพระผงปางที่สร้างขึ้นในพิธี และพระผลทุกรุ่นทุกปางของอาจารย์ชุม ไชยคีรี ที่เคยสร้างมาครั้งก่อนๆ พร้อมด้วยแบบพิมพ์อธิษฐาน เข้าบรรจุไว้ในกรุใต้ฐานพระประธานในพระอุโบสถวัดสารอด เสร็จแล้วถวายอาหารบิณฑบาตแก่พระอาจารย์ และพระสงฆ์ในวัดประมาณ 50 รูป

    เวลา 08.00 น. พระเถระ 9 รูป สวดไชยมงคลคาถา พระเถระผู้สูงอายุนั่งเป็นประธาน พระอาจารย์ และอาจารย์รวม 10 รูป บริกรรมนับพระ องค์ประธานให้คะแนนร้อยคะแนนพัน และคะแนนหมื่น เมื่อตรวจนับพระเสร็จแล้ว มอบให้คณะกรรมการ

    เวลา 10.30 น. นิมนต์พระเถระ 9 รูป มีสมเด็จพระวันรัต วัดพระเชตุพนฯ เป็นประธาน ทำพิธีสมโภชพระอาจารย์ อาจารย์ และคณะกรรมการพร้อมทั้งผู้พิมพ์พระ ทำบุญตักบาตรถวายเครื่องไทยทาน

    วันที่ 25 มกราคม 2507 เวลา 06.00 น. – 12.00 น. เปิดปฐมฤกษ์ อาจารย์ชุม ไชยคีรี แจกพระให้แก่ทหารบก , ทหารเรือ , ทหารอากาศ , และตำรวจในเครื่องแบบฟรีโดยมิต้องเสียเงิน วิญญาณขุนแผนเข้าประทับทรง ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ พระอาจารย์สุภา กนฺตสีโล และอาจารย์อุทัย อุจศรีวัตร แจกพระและผ้ายันต์แก่ทหาร ตำรวจ และประชาชนผู้บริจาคเงิน ไปจนถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507

    วันที่ 13 – 19 กุมภาพันธ์ 2507 แจกที่ วัดเกาะสีคิ้ว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

    วันที่ 23 – 29 กุมภาพันธ์ 2507 แจกที่ สำนักวิหารธรรมขุนแผนอุทิศ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส

    วันที่ 1 – 7 มีนาคม 2507 แจกที่ สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ จ.ภูเก็ต

    หลวงพ่อสุภา กนฺตสีโล อายุ 69 ปี 49 พรรษา ปกติท่านชอบถือธุดงค์เป็นวัตร ท่านอยู่ตามป่า ตามถ้ำมากกว่าอยู่ประจำตามวัดวาอาราม แต่ท่านชอบสร้างวัดไว้ตามท้องถิ่นหมู่บ้านที่ไกลจากความเจริญ สร้างแล้วท่านก็มอบให้ผู้อื่นเป็นเจ้าอาวาส รวมวัดที่ท่านสร้างมาแล้ว 33 วัด ตัวท่านเองชอบจาริกไปตามอัธยาศัยของท่าน นอกจากจาริกไปทั่วประเทศไทยแล้ว ยังจาริกไปประเทศอินเดีย ประเทศญวน ประเทศลาว ประเทศเขมร ประเทศพม่า เป็นต้น ทั้งมีความสนใจในว่านยา แร่ธาตุ ที่เป็นกายสิทธิ์ ท่านจึงรวบรวมไว้หลายชนิด เพื่อเป็นการศึกษาค้นคว้าหาความจริง เมื่อปี พ.ศ. 2502 ท่านได้เดินทางไปจังหวัดภูเก็ต พบเขาลูกหนึ่งอยู่ในทะเล เขาเรียกกันว่า เกาะสิเหร่ อยู่ทางทิศตะวันออกของตัวเมืองภูเก็ต ท่านก็ได้นั่งเจริญกรรมฐานอยู่บนเกาะนั้น ก็ได้พบกับมนุษย์จำพวกหนึ่งคือ พวกชาวทะเล (หรือพวกเงาะน้ำ) ซึ่งเป็นมนุษย์แต่ไม่รู้ภาษาของมนุษย์อย่างมนุษย์จำพวกอื่นๆ ท่านจึงเกิดเมตตาจิต จึงอยู่อบรมสั่งสอนมนุษย์จำพวกนั้น ให้รู้ภาษามนุษย์และให้รู้จักบาปบุญคุณโทษ จนมนุษย์จำพวกนั้น 600 กว่าคนเลื่อมใสศรัทธารู้จักทำบุญให้ทาน พ่อค้า คฤหบดี และประชาชนที่ทราบในเมตตาจิตของท่าน ก็เกิดศรัทธาเลื่อมใส พร้อมใจกันสร้างสำนักสงฆ์ ขึ้นบนเกาะนั้น และได้สร้างพระพุทธไสยาสน์ยาว 18.50 เมตร ประดิษฐานไว้บนยอดเขาที่เกาะนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2013
  5. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    เมื่อสร้างเสร็จแล้วท่านได้ทูลเกล้า ขอพระราชทานแววพระเนตร จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ล้นเกล้าล้นกระหม่อมก็ทรงพระกรุณา พระราชทานให้ตามความปรารถนา แต่พระพุทธไสยาสน์องนั้น ยังมิได้มีพระวิหาร เป็นแต่ทำเป็นโรงมุงสังกะสีไว้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น ท่านมีความปรารถนาจะสร้างพระวิหารให้ถาวรครอบพระพุทธไสยาสน์ โดยเสด็จพระราชกุศล ให้สมพระเกียรติ จึงได้เดินทางเข้ากรุงเทพฯ พบกับอาจารย์ชุม ไชยคีรี ซึ่งเป็นอาจารย์ที่มีความสามารถในการสร้างพระมาแล้วมากครั้ง ขอความร่วมมือเพื่อจะเอาว่านยาแร่ธาตุที่ท่านสะสมไว้ สร้างเป็นรูปพระไว้แจกสมนาคุณ แก่ศิษยานุศิษย์ผู้มีจิตศรัทธารวมทุนสร้างพระวิหาร อาจารย์ชุม ไชยคีรี ก็ยินดีอนุโมทนาในการกุศล พร้อมด้วยมอบแร่ธาตุว่านยาผงวิเศษ 1,000 กว่าชนิด ที่ท่านเคยสะสมไว้ประสมกับว่านของอาจารย์สุภา ท่านจะสละทุกสิ่งทุกอย่างช่วยจัดการดำเนินงานให้จนเสร็จ ต่อจากนั้นอาจารย์ชุม ไชยคีรี ก็เชิญวิญญาณขุนแผน ซึ่งท่านเคารพนับถืออย่างสูงในชีวิตของท่าน โดยถือเป็นวิญญาณวิเศษ เป็นเทพชั้นสูง เข้าประทับทรงเชิญเข้าร่วมกุศลวิญญาณขุนแผน ผู้ปรารถนาพระโพธิญาณ ก็ยินดีอนุโมทนา อนุญาตให้ทำเป็นพระทรง พระขุนแผนเรือนแก้ว บอกตำรา และวิธีสร้างพระตามตำราอาจารย์คง ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่าน ที่เคยสร้างพระทรงขุนแผนเรือนแก้วให้ท่าน ครั้งต้นสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อครั้งท่านเป็นแม่ทัพ ท่านรับรองเข้าประทับทรงเป็นประธานเข้าพิธีปลุกเสก บรรจุคุณให้มีคุณครบถ้วนตามคุณวิเศษของท่าน เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ต่อจากนั้นอาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้ไปเชิญพระอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ อายุ 74 ปี ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิความรู้ทางคุณพระ และทางไสยศาสตร์เป็นพิเศษมารวมด้วย อาจารย์อุทัยก็ยินดีอนุโมทนา และท่านอุทิศว่านยาแร่ธาตุผงวิเศษ ทำผ้ายันต์เสือ ผ้ายันต์สิงห์ ซึ่งเป็นผ้ายันต์ที่ท่านเคยใช้ได้ผลดีมาแล้ว เข้าสมทบในการกุศล ท่านเข้าร่วมปลุกเสกตลอดพิธี เฒ่าแก่ยู่ลิ้น แซ่เฮง ก็ได้ขอร้องให้ไปทำที่วัดสารอด โดยอ้างเหตุผลว่า เป็นวัดที่ชำรุดทรุดโทรม และกำลังอยู่ในช่วงบูรณะปฏิสังขรณ์อยู่ จึงได้นำหลวงพ่อสุภา กนฺตสีโล และอาจารย์ชุม ไชยคีรี ไปพบท่านอธิการชนาง เอี่ยมอุดม เจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัด ทุกคนเมื่อทราบเรื่องราวแล้วก็ยินดีร่วมมือ และให้ความสะดวกทุกประการ พิธีจึงสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

    ว่านที่ท่านอาจารย์หลวงพ่อสุภา กนฺตสีโล พยายามสะสมไว้ประมาณสามสิบกว่าปี มีประมาณ 100 กว่าชนิด ซึ่งมีชื่อตรงกันกับที่ท่านอาจารย์ชุม สะสมไว้ทุกอย่างจึงไม่กล่าวในที่นี้ นำมากล่าวในที่นี้แต่เฉพาะว่านที่มีคุณภาพอย่างยอดเยี่ยม และหายากไม่มีในประเทศไทย ซึ่งบางอย่างท่านได้ลงทุนซื้อ ราคาเป็นหมื่นบาท เช่น

    ว่านกระจายหัวควาย ว่านชนิดนี้ ทางประเทศลาว เรียกว่า กระจายหัวควาย ทางประเทศไทยเราเรียกว่า พญาว่าน ว่านนี้ท่านได้ลงทุนซื้อ จากเจ้าของเขาที่นำมาเลี้ยงไว้เป็นเงินหนึ่งหมื่นบาท ลักษณะหัวลำต้นและใบคล้ายต้นกล้วยญวน แต่มีใบเพียงสามใบเท่านั้น ก่อนที่จะไปเอาต้องบวงสรวงสังเวยก่อนจึงจะเข้าไปเอาได้ หากยังมิได้บวงสรวงสังเวย เข้าไปเอามีอันตรายถึงกับเสียชีวิต ว่านนี้ตามตำรามีเทวดารักษา วิเศษใช้ได้ทุกทาง
    ว่านกินเหล็ก ว่านกินเงิน ว่านกินทอง ว่านกินกระดาษ ว่านกินข้าวตอกแตก 5 อย่างนี้ ก่อนที่จะเข้าไปเอา จะต้องให้กินเหล็ก เงิน ทอง กระดาษ ข้าวตอก จนอิ่ม โดยให้เอาของที่เลี้ยงจี้ และทิ้งเข้าไปที่หัวว่าน ว่านกินจนกระทั่งของที่เราเอาไปเลี้ยงนั้นละลายหายไปหมดแล้ว จึงเข้าไปเอาได้ ไม่เช่นนั้นอันตราย ว่านชนิดนี้มีวิเศษทุกทาง เพราะมีรุกขเทวดารักษา ต้องทำพิธีบวงสรวงสังเวยให้กินของที่ต้องการปีละครั้ง
    ว่านเพชรกลับ ว่านชนิดนี้มีสองชื่อ คือทางประเทศลาว เรียกว่า ว่านน้ำ ทางประเทศไทย เรียกว่า ว่านเพชรกลับ เพราะว่านชนิดนี้ เวลาปลูกต้องใช้กระทงสามเหลี่ยม แล้วเอาดินมาใส่กระทงให้เต็ม แล้วเอาหัวว่านนั้นปลูกลงในกระทง แล้วอธิษฐานให้ปล่อยไปตามน้ำ เมื่อถึงเวลาครบรอบปีเราต้องการจะเอาขึ้น ก็ต้องทำพิธีเช่นเดียวกัน แล้วหนีไปให้ห่างสักครู่หนึ่ง แล้วย้อนกลับมาดูจะปรากฏว่า ว่านนั้นกลับมาอยู่ในกระทง ลำต้นและใบแห้งปรากฏเหมือนกับว่านที่เราปลูกที่บ้านของเราตามธรรมชาติ คุณวิเศษตามตำรา เมื่อนำติดตัวเรา เราจะต้องได้กลับมาบ้าน โดยไม่ไปตายนอกบ้าน กันอาวุธอุปัทวเหตุนาๆ ชนิด
    ว่านสบู่เลือด ว่านนี้ตามธรรมดาที่ประเทศไทยเรา มีผู้สนใจเอามาปลูกกันไว้มีมากเหมือนกัน แต่ก็ปรากฏว่าไม่เหมือนกับที่ท่านได้เอามาจากประเทศลาว ว่านสบู่เลือดที่ท่านนำมานี้มีลักษณะ มีลำต้น และหัวๆ เดียวจนตลอดไป โดยมากผู้ที่มีว่านชนิดนี้จะต้องเป็นคนที่มีทรัพย์สมบัติมาก ใบของมันสีแดงเหมือนกับเลือด มีใบคล้ายใบข้าว และมีเฉพาะสามใบเท่านั้น จะปลูกไว้กี่ปีก็ตาม มีเพียงสามใบเท่านั้น วิเศษในทางลาภและคงกระพัน
    ว่าไพลดำ ที่ในประเทศไทย ที่เราได้ยินได้เห็นกันนั้นมิใช่เป็นไพลดำที่แท้จริง ส่วนว่านไพลดำที่ท่านนำมานี้หาได้ยากที่สุด เพราะว่าดำทั้งหัวและดำทั้งใบ ว่านชนิดนี้เมื่อปลูกแล้วดินในบริเวณนั้นก็จะดำ และจะเอาอะไรไปขุดหรือตัดหัวของมันไม่ขาด เสียมก็ขุดไม่เข้า ต้องมีผู้เข้าใจในเรื่องว่านจึงจะเอาได้ และฝนตกน้ำลาดไปถึงไหนก็ดำไปถึงนั้น วิเศษทางคงกระพัน และทำให้เกิดตาทิพย์
    ว่านนางกวัก ทำยากที่สุด คือ จะเอาหัว หรือใบ อย่างที่เข้าใจกันนั้นไม่ได้ ถ้าเราต้องการเราต้องไปตกลงกับเจ้าของว่าจะเอาสักเท่าไร สมมติว่าจะเอาให้มาก จะต้องบอกเจ้าของว่า เอาสักร้อยบาท เมื่อเจ้าของเอามือเด็ดที่ปลายใบ ยางของมันก็จะหยดลงมาเพียงร้อยหยดเท่านั้น ถ้าจะเอาอีกก็ต้องเพิ่มเงินให้เขาอีก ถ้าไม่เพิ่มมันก็ไม่ย้อย และโดยมากต้องมีอยู่ตามภูเขา เมื่อจะไปเอาต้องไปบริกรรมแผ่เมตตาจิตอยู่อย่างน้อย 15 วัน จึงจะได้ของมา วิเศษทางเรียกลาภ
    ว่านเพชรหลีก ได้มาครั้งนี้เฉพาะใบเท่านั้น ต้องไปนั่งเข้าสมาธิแผ่เมตตาจิตขอบิณฑบาตจากรุกขเทวดา เจ้าของว่านชนิดนี้มีอยู่บนยอดภูเขาสูง เรียกว่าเขาพนมศักดิ์ในประเทศลาว ทางเดินไปถ้ำวัวแดงท่านได้พยายามทำความเพียรนั่งเจริญภาวนาอยู่ 15 วัน ใบว่านจึงร่วงลงมาให้เพียงสามใบเท่านั้น วิเศษในทางแคล้วคลาด จากภัยอันตรายและกำบัง
    ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี เป็นอาจารย์มีความสนใจในการปฏิบัติธรรมเจริญภาวนาทำจิตให้สงบ แล้วนำจิตให้เขาไปพบคุณพระ พิจารณาหาทางที่จะยกเอาพระขึ้นมาเป็นที่ระลึก และกำจัดภัยในปัจจุบัน จนเข้าถึงคุณพระด้วยตนเอง แล้วมีเมตตาปรารถนา จะให้เพื่อนที่เป็นมนุษย์ที่ยังไม่รู้ และยังไม่เข้าถึงให้รู้และให้เข้าถึง เพื่อเป็นการศึกษา เป็นการปลูกศรัทธา ให้ทุกคนรักในคุณพระ เมื่อมีศรัทธารักในคุณพระ ก็ย่อมมีความปรารถนา มีความอยากได้อยากเข้าถึงคุณพระเป็นธรรมดาของมนุษย์ ส่งใดที่รักที่ปรารถนาสิ่งนั้นก็ย่อมให้เกิดความเพียรความพยายามเป็นกำลัง ก็ย่อมเข้าถึงและสำเร็จสมความปรารถนาได้

    ฉะนั้นก่อนที่จะเข้าถึงคุณพระก็พบกับรูป พบกับนามเป็นบันไดขั้นแรกก็คือ รูปพระพุทธเจ้า และพระนามของพระพุทธเจ้า อาจารย์ชุม ไชยคีรี จึงนิยมสร้างรูปพระพุทธเจ้า ที่เราเรียกว่าพระเครื่องราง ชุดละ 84,000 องค์ มาหลายชุดด้วยกัน ท่านถือว่าเป็นการสร้างสมบารมี เป็นการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา เอาอย่างพระอาจารย์เจ้าครั้งโบราณกาลที่เคยกระทำสืบต่อกันมา การสร้างรูปของพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นศาสดาของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลายต้องประกอบด้วยองค์ 3 คือ 1.วัตถุวิเศษ 2.บุคคลวิเศษ 3.กาลวิเศษ จึงบังเกิดรูปวิเศษได้ เมื่อรูปวิเศษเกิดขึ้นแล้ว คุณวิเศษคือความขลัง และความศักดิ์สิทธิ์ก็ย่อมบังเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว ฉะนั้นการสร้างพระของอาจารย์ทั้งหลายและอาจารย์ชุม ไชยคีรี ทุกครั้งจึงมีความขลัง ความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่พึ่งที่ระลึกกำจัดภัยอันตรายนาๆ ชนิดแก่ผู้เชื่อและผู้เข้าถึงได้จริง ดังจะเห็นได้จากความเพียรความพยายามในการจัดหาแร่ธาตุ และว่านยาพร้อมด้วยวัตถุวิเศษ ที่อาจารย์ชุม ไชยคีรี ที่เคยรวบรวมสะสมไว้ดังนี้

    เมื่อปี พ.ศ. 2484 ได้ทำผงพระพุทธนิมิตรวมแร่ธาตุ 16 อย่าง สร้างพระโสฬธาตุที่วัดไชยมงคล จังหวัดสงขลา แจกให้ทหารของชาติครั้งสงครามอินโดจีน ประมาณ 84,000 องค์ ผงที่เหลือสะสมไว้
    ปี พ.ศ. 2494 ทำผงนะปถมังสร้างพระผงนะปถมัง ที่วัดดอนประดู่ อำเภอปากพยูน จังหวัดพัทลุง ได้พระหย่อนกว่า 84,000 องค์ ผงที่เหลือสะสมไว้
    ปี พ.ศ. 2496 จัดหาผงตามตำราอาจารย์คง อาจารย์ขุนแผนสร้างพระเทพนิมิตรถวาย วัดบรรพตนิมิต อำเภอเขาไชนสน จังหวัดพัทลุง 84,000 องค์ ผงที่เหลือสะสมไว้ ต้นปี พ.ศ. 2497 ได้เดินทางทั่วประเทศหาผงวิเศษจากพระหักป่น และผงกันกรุพร้อมด้วยว่าน 108 ชนิด สร้างพระผงวิเศษถวาย วัดญวณ สะพานขาวพระนคร 84,000 องค์ ในพรรษานั้น ได้รวบรวมผงทั้งหมดไปรวมกับผงว่านยาที่ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช สะสมไว้ ได้เชิญและนิมนต์อาจารย์ภาคใต้ ซึ่งเป็นอาจารย์ของอาจารย์ชุม และอาจารย์ของขุนพันธรักษ์ราชเดช จังหวัดนครศรีธรรมราชมารวมกันทำพิธีสร้างพระทีวิหารหลวง วัดพระบรมธาตุ ตลอด 3 เดือน ได้พระทั้งหมด 84,000 องค์ พร้อมเงิน 118,688 บาท ถวายให้เป็นสมบัติพระบรมธาตุ ผงที่เหลือสะสมไว้ ปี พ.ศ. 2498 สร้างพระปางประธานพรถวายวัดเวฬุราชิน ธนบุรี 84,000 องค์ และสร้างพระเทพนิมิต เนื้อทองคำ เนื้อเงิน เนื้อสัมฤทธิ์ ที่วัดประยุรวงศาวาส ธนบุรี นำไปแจกบูรณะพระเจดีย์ บรรจุบรมธาตุ ที่วัดไชยมงคล จังหวัดสงขลา หลังจากนั้นก็ได้รับเชิญไปร่วมสร้างพระในพิธีต่างๆ หลายพิธี มาเมื่อเดือนเมษายน 2506 รวบรวมว่านยาแร่ธาตุที่เคยทำ และสะสมไว้ทั้งหมดไปรวมสร้าง พระผงสมเด็จหลวงพ่อดำ หลวงพ่อขาว ที่วัดเสน่หา นครปฐมประมาณ 84,000 องค์ เพื่อเป็นการสร้างครั้งสุดยอด อาจารย์ชุม ไชยคีรี จึงได้รวบรวมผงว่านยา แร่ธาตุ ที่มีอยู่ และผงที่สร้างพระ ที่วัดเสน่หามารวมกับผงว่านยาแร่ธาตุ ที่อาจารย์สุภา กนฺตสีโล ได้รวบรวมไว้ดังกล่าวแล้วข้างต้น สรุปแล้วแยกเป็น 9 ประเภทดังนี้
     
  6. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ว่านยา 108 ชนิด เจาะจงเอาที่มีคุณวิเศษแต่ละอย่างไม่ซ้ำกัน
    ดอกไม้ 108 ชนิด มีชื่อไม่ซ้ำกัน (ดอกว่านขันหมากเงิน ขันหมากทอง ขาดไม่ได้)
    ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4
    ดอกไม้ที่พระสงฆ์ขอขมาโทษซึ่งกันและกัน วันเข้าพรรษาเฉพาะวัดที่มีชื่อเป็นมงคลทั่วประเทศวันเดียว 108 วัด
    ดอกไม้ที่ประชาชนนำไปบูชาพระประธาน ในพระอุโบสถ วันจตุรงคสันนิบาต (วันมาฆบูชา) 108 วัด เริ่มเก็บได้ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกแล้วจนถึงเที่ยงคืน นำมาให้ถึงที่เดียวกันในคืนนั้น
    น้ำในมหานที 9 สาย และน้ำพระพุทธมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ อายุ 1,000 กว่าปี
    ตะใคร่น้ำที่พระบรมมหาเจดีย์ 9 แห่ง
    ดินโป่ง 9 แห่ง
    แร่ธาตุ 9 ชนิด คือ 1.แร่จักรนารายณ์ 2.แร่สังฆวานร 3.แร่ดีบุก 4.แร่ตะกั่วเถื่อน 5.แร่พลวง 6.แร่เหล็กไหล 7.แร่หงอนไก่เหลือง 8.แร่วิเศษ 400 กว่าปี 9.ผงวิเศษกันกรุ วัดขวิด สุพรรณบุรี
    ว่านวิเศษ 108 ชนิด

    ว่านจักรนารายณ์
    พญาว่าน
    ว่านท้าวมหาพรหม
    ว่านพระตะบะ
    ว่ามหานิยม
    ว่านเพชรกลับ
    ว่านเสน่ห์จันทร์ทอง
    ว่านเสือโคร่ง
    ว่านเพชรสังฆาต
    ว่านหนุมานยกทัพ
    ว่านหนุมาน
    ว่านหนุมานนั่งแท่น
    ว่านดาบหัก
    ว่านม้าเหาะ
    ว่านร่อนทอง
    ว่านพระยาช้างเผือก
    ว่านทิพยเนตร
    ว่านสามพันตึง
    ว่านกระบี่ทอง
    ว่านพระยาไม้ผุ
    ว่านนางคำ
    ว่านมหาระงับ
    ว่านปราบสี่ทิศ
    ว่านแม่โพสพ
    ว่านเสือร้องไห้
    ว่านนะโมพุทธายะ
    ว่านพังพอนไฟ
    ว่านลูกล้อมแม่
    ว่านครอบจักรวาฬ
    ว่านกุมารทอง
    ว่านเพชรหลีก
    ว่านนารายณ์แปลงรูป
    ว่านหอมดำ
    ว่านทองคำ
    ว่านขุนแผน
    ว่านขอทอง
    ว่านหอมเสน่ห์จันทร์
    ว่านพญาลิ้นงู
    ว่านช้างประสมโขลง
    ว่านพฤหัสบดี
    ว่านพระยาหน้าศึก
    ว่านนางล้อมฯ
    ว่านเสน่ห์จันทร์ก้านแดง
    ว่านนางกวัก
    ว่านกะทู้เจ็ดแบก
    ว่านขมิ้นขาว
    ว่านมหาเมฆ
    ว่านสีหมอกม้า
    ว่านน้ำแห้งตัวเมีย
    ว่านเสน่ห์จันทร์ก้านเขียว
    ว่านดอกทอง
    ว่านลิงดำ
    ว่านพระอาทิตย์
    ว่านสบู่ทอง
    ว่านพระฉิม
    ว่านสามหวายไม่แตก
    ว่านเณรแก้ว
    ว่านนางพญา
    ว่านพิชัยดาบหัก
    ว่านอีโต้ดาบหัก
    ว่านกลิ้งกลางดง
    ว่านพระยาหงษ์ทอง
    ว่านสบู่เลือดอย่างขาว
    ว่านจอมมฤคคา
    ว่านสบู่หยวก
    ว่านแร้งคอดำ
    ว่านขันหมากเงิน
    ว่านขันหมากทอง
    ว่านวันทองห้ามทัพ
    ว่านฉัตรพระพรหม
    ว่านช้างงาอ่อน
    ว่านสารพัดพิษ
    ว่านพระเจ้าห้าองค์
    ว่านหน้าทั่งตัวผู้
    ว่านหนุมานเดินดง
    ว่านแมวซาง
    ว่านตาลปัตรฤาษี
    ว่านเพชรน้อย
    ว่าเพชรหึง
    ว่านหนังแห้งตัวเมีย
    ว่านเขียวมรกต
    ว่านปราบพระนคร
    ว่านคันทมาลา
    ว่านขามเครือ
    ว่านพระยาลิ้นดำ
    ว่านหอกหัก
    ว่านขุนแผนสะกดทัพ
    ว่านสมเด็จนางพญา
    ว่านมหาเสน่ห์
    ว่านหนังแห้ง
    ว่านนางคุ้ม
    ว่านแสงอาทิตย์
    ว่านนิลพัตร
    ว่านพระจันทร์
    ว่านกระชายดำ
    ว่านชัยมงคล
    ว่านคางคกเหล็ก
    ว่านหน้าทั่งตัวเมีย
    ว่านรางจืด
    ว่านขาใหญ่
    ว่านหนังเหนียว
    ว่านพนักทอง
    ว่านไพลดำ
    ว่านหัวเดียว
    ว่านลิ้นมังกร
    ว่านสบู่ตัน
    ว่านกงจักรพระอินทร์
    ว่านนางรำ


    ดอกไม้ต่างชื่อ ต่างสี 108 ชนิด

    ดอกว่านขันหมากเงิน
    ดอกว่านขันหมากทอง
    ดอกปทุมบัวหลวง
    ดอกชัยพฤกษ์
    ดอกพิกุล
    ดอกบุญนาค
    ดอกสาระภี
    ดอกกาหลง
    ดอกหญ้าเจ้าชู้
    ดอกจำปา
    ดอกจำปี
    ดอกบัวสวรรค์
    ดอกเสือหมอบ
    ดอกยูงทอง
    ดอกราชาวดี
    ดอกราตรี
    ดอกพิกุลทอง
    ดอกยี่โถ
    ดอกทองกวาว
    ดอกมะลิวัลย์
    ดอกผกามาส
    ดอกซ่อนกลิ่น
    ดอกว่านลิ้นมังกร
    ดอกลั่นทม
    ดอกชงโค
    ดอกเบญจมาส
    ดอกทรงบาดาล
    ดอกกระดังงา
    ดอกพุทธรักษา
    ดอกเข็มเหลือง
    ดอกบานไม่รู้โรย
    ดอกชบา
    ดอกแก้ว
    ดอกคัดเค้า
    ดอกสาวหยุด
    ดอกพุทธชาติ
    ดอกพุดซ้อน
    ดอกหงอนไก่
    ดอกรัก
    ดอกรักซ้อน
    ดอกว่านเสี่ยงโชค
    ดอกกล้วยไม้เขา
    ดอกปทุมบัวขาว
    ดอกยูงเล็ก
    ดอกชำมนาด
    ดอกสร้อยทอง
    ดอกมะลิลา
    ดอกมหาวงษ์
    ดอกชวนชม
    ดอกว่านงาช้าง
    ดอกกุหลาบ
    ดอกกินติ
    ดอกเขี้ยวแตก
    ดอกแคฝรั่ง
    ดอกเฟื่องฟ้า
    ดอกเสี่ยงทาย
    ดอกแจ่มจันทร์
    ดอกมะเขือพวง
    ดอกกะถินพิมาน
    ดอกแจง
    ดอกทุ้งฟ้า
    ดอกจานแดง
    ดอกบานบุรี
    ดอกแพงพวยฝรั่ง
    ดอกกล้วยไม้ดิน
    ดอกเฟื่องชมภู
    ดอกรักแดง
    ดอกว่านหางกระรอก
    ดอกทองอุไร
    ดอกเข็มขาว
    ดอกสุคนธรส
    ดอกเข็มแดง
    ดอกรักเร่
    ดอกดาวเรือง
    ดอกบานชื่น
    ดอกดาวกระจาย
    ดอกเข็มชมภู
    ดอกนางแย้ม
    ดอกเการัก
    ดอกแพงพวยบก
    ดอกอโศก
    ดอกแคทราย
    ดอกคณฑีสอ
    ดอกผกากรอง
    ดอกทองพันชั่ง
    ดอกมะลิซ้อน
    ดอกพุทราซ้อน
    ดอกการะเกด
    ดอกชุมเรียง
    ดอกทับทิมทอง
    ดอกถั่วหนัง
    ดอกกรรณิกา
    ดอกว่านเศรษฐี
    ดอกฝ้าย
    ดอกดาบนารายณ์
    ดอกลำเจียก
    ดอกทองหลางน้ำ
    ดอกปีกนกกระทา
    ดอกฤาษีผสม
    ดอกฉัตรมงคล
    ดอกทานตะวัน
    ดอกกระถินบ้าน
    ดอกอินทนิล
    ดอกเข็มเศรษฐี
    ดอกราชพฤกษ์
    ดอกนางตามชู้
    ดอกอย่าลืมฉัน
    ดอกรักไม่ลืม
     
  7. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ดอกไม้ วันจตุรงคสันนิบาต 108 วัด

    วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    วัดบวรนิเวศวิหาร
    วัดราชบพิธ
    วัดมกุฏกษัตริย์
    วัดเบญจมบพิตร
    วัดพระเชตุพน
    วัดสระเกศ
    วัดโสมนัสวิหาร
    วัดราษร์บูรณะ
    วัดบพิธภิมุข
    วัดชัยชนะสงคราม
    วัดสัตตาราม
    วัดปรินายก
    วัดสุนทรธรรมทาน
    วัดตรีทศเทพ
    วัดราชนัดดา
    วัดเทพธิดา
    วัดมหรรณ์
    วัดบูรณะศิริ
    วัดสุทัศน์
    วัดราชประดิษฐ์
    วัดราชผาติการาม
    วัดบรมนิวาส
    วัดปทุมคงคา
    วัดสัมพันธ์วงศ์
    วัดกันมาตุยาราม
    วัดไตรมิตร
    วัดดวงแข
    วัดชัยมงคล
    วัดชำนิหัตการ
    วัดสระบัว
    วัดราชาธิวาส
    วัดนรนารถ
    วัดเทวราชกุญชร
    วัดสังเวช
    วัดพลับพลาไชย
    วัดคณิกาผล
    วัดมหาพฤฒาราม
    วัดแก้วฟ้าล่าง
    วัดหัวลำโพง
    วัดสามพระยา
    วัดอนงคาราม
    วัดปุบผาราม
    วัดพิชัยยาติการาม
    วัดหิรัญรูจีวรวิหาร
    วัดทองนพคุณ
    วัดทองธรรมชาติ
    วัดขุนจันทร์
    วัดนวลนรดิษฐ์
    วัดปาน้ำภาษีเจริญ
    วัดเวฬุราชิน
    วัดราชคฤห์
    วัดเสวตฉัตร
    วัดโพธิ์นิมิตร
    วัดราชโอรส
    วัดนางรอง
    วัดหนัง
    วัดอัปสรสวรรค์
    วัดจันทาราม
    วัดสุขาราม
    วัดใหญ่ศรีสุพรรณ
    วัดอินทาราม
    วัดบางไส้ไก่
    วัดสังข์กระจาย
    วัดราชสิทธิราม
    วัดหงษ์
    วัดอรุณ
    วัดเครือวัลย์
    วัดนาคกลาง
    วัดพระยาทำ
    วัดอัมรินทร์
    วัดฉิม
    วัดวิเศษการ
    วัดระฆังโฆสิตาราม
    วัดช่องลม
    วัดละครทำ
    วัดชิโนรส
    วัดชนะสงคราม
    วัดอินทรวิหาร
    วัดมหาธาตุ
    วัดประยุรวงศาวาส
    วัดกัลยาณมิตร
    วัดดงมูลเหล็ก
    วัดเสน่หา นครปฐม
    วัดพระปฐมเจดีย์
    วัดไผ่ล้อม
    วัดพระงาม
    วัดท่าตำหนัก
    วัดทัพหลวง
    วัดธรรมศาลา
    วัดกลางบางแก้ว
    วัดพระประโทน
    วัดสรรเพชร
    วัดพระทรง เพชรบุรี
    วัดมหาสมณาราม
    วัดสนามพรหมณ์
    วัดลาด
    วัดคงคาราม
    วัดป้อม
    วัดยาง
    วัดข่อย
    วัดสัตตนาถปริวัติ
    วัดสีชมภู
    วัดพลับ เพชรบุรี
    วัดห้วยจระเข้
    วัดตุ๊กตา
    วัดชีประเสริฐ
    วัดศรีสุริวงศ์


    น้ำในมหานที 9 สาย

    แม่น้ำโขง
    แม่น้ำปิง
    แม่น้ำวัง
    แม่น้ำยม
    แม่น้ำน่าน
    แม่น้ำมูล
    แม่น้ำเจ้าพระยา
    แม่น้ำท่าจีน
    แม่น้ำตานี
     
  8. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ตะใคร่น้ำ ที่พระบรมมหาเจดีย์ 9 แห่ง

    พระบรมธาตุ นครปฐม
    พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
    พระบรมธาตุ นครพนม
    พระบรมธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่
    พระบรมธาตุ ลำปาง
    พระบรมธาตุ สุโขทัย
    พระบรมธาตุ จอมทองลำพูน
    พระบรมธาตุชะเวดากอง ประเทศพม่า
    พระบรมธาตุหงษารามัญ


    ดินโป่ง 9 แห่ง

    ดินโป่งรางกระถิน
    ดินโป่งหน้าเขาพิศดง
    ดินโป่งมักเม้า
    ดินโป่งใหญ่ในป่าลึก จังหวัดกาญจนบุรี
    ดินโป่งพุล้อ
    ดินโป่งหลังเขาพิศดง
    ดินโป่งทำโข่ง
    ดินไมยราพ
    ดินโป่งชุมนุมตาโหงพราย


    น้ำพระพุทธมนต์ และน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่นำมาประสมว่านยา

    น้ำมนต์หลวงพ่อเลื่อน วัดสามแก้ว จ.ชุมพร
    น้ำมนต์พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช
    น้ำมนต์หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    น้ำมนต์บนเขา สมเด็จปู่เจ้าเกาะไชโย สงขลา
    น้ำมนต์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี
    น้ำมนต์ในสระศักดิ์สิทธิ์ เพชรบุรี
    น้ำพระพุทธมนต์ 25 ศตวรรษ ท้องสนามหลวง
    น้ำพระพุทธมนต์ 100 ปี ของวัดบวรนิเวศวิหาร
    น้ำพระพุทธมนต์ ที่พระบรมธาตุนครพนม
    น้ำพระพุทธมนต์ ในพระอุโบสถ วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพ เชียงใหม่
    น้ำในสระศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ทั่วประเทศ มี สระแก้ว สระคา สระยมนา สระเกศ สระพังเงิน สระพังทอง สุพรรณบุรี สระน้ำจันทร์นครปฐม เป็นต้น
    น้ำพระพุทธมนต์ ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    น้ำพระพุทธมนต์ในวังหลวง 170 ปี
    น้ำพระพุทธมนต์ในวันทำสังคายนาประเทศพม่า ซึ่งพระเถระทั่วโลก 2,500 องค์ ประชุมกัน


    ขี้เถ้าธูปศักดิ์สิทธิ์

    ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์หินช้าง จ.ชุมพร
    ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์เข้าพับผ้า พัทลุง
    ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์ หลักเมืองสงขลา
    ขี้เถ้าธูปศาลเทพารักษ์ หลักเมืองปัตตานี
    ขี้เถ้าธูปศาลสมเด็จปู่เจ้า เกาะไชโย (เกาะยอ) สงขลา
    ขี้เถ้าธูปสมเด็จหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ปัตตานี
    ขี้เถ้าธูปที่บูชาพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
    ขี้ธูปศาลเจ้าพ่อประสาททอง องค์พระปฐมเจดีย์
    ขี้ธูปศาลเจ้าพ่อเขางู ราชบุรี (พระฤาษีสมาธิคุปต์)


    ผงวิเศษ ได้จากที่ต่างๆ

    ผงว่านวิเศษของหลวงพ่อเลื่อน วัดสามแก้ว จ.ชุมพร
    ผงของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) วัดระฆัง โฆสิตาราม ผงพระพุทธคุณ 1 ผงอิทธเจ ผงปถมัง 1 ผงมหาราช 1 ผงตรีนิสังเห 1
    ผงว่านวิเศษของท่านพระครูรักขิตวันมุนี วัดป่าเลไลย์ ให้มา
    ผงวิเศษในถ้ำพระยาแร้งสมัยศรีวิชัย ท่านเจ้าคุณพระศีลศารโสภณ จ.ตรัง ให้มา
    ผงพระป่นสมัยทวาราวดีที่องค์พระประโทน
    สะเก็ดพระบรมธาตุนครพนม ท่านเจ้าคุณพระเทพรัตนโมฬี ให้มา
    ผงพระหักป่นสมัยทวาราวดี นายณรงค์ สุปัญญรักษ์ ให้มา
    ผงพระกันกรุ สมัยทวาราวดี นายอุทัย ให้มา
    ผงผสมของอาจารย์ 108 องค์ ของ พระครูรักขิตวันมุนี ให้มา
    ผงพระธราราชกับผงพระคาถาชินบัญชร ของ พระเทพ ปียวฑโณ ให้มา
    ผงผสมของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ชลบุรี ท่านเจ้าคุณวรพรต คณาจารย์ ให้มา


    ดินที่สังเวชนีย์สถาน 4 ตำบล

    ที่ประสูติ
    ที่ตรัสรู้
    ที่แสดงพระธรรมจักร
    ที่นิพพาน
    จากท่านอาจารย์คง วัดบ้านสวน จ.พัทลุง ไปนำมาจากประเทศอินเดีย

    ผงวิเศษ 108 กรุ ที่อาจารย์ชุม ไชยคีรี จัดหาด้วยตัวท่านเอง

    ผงกระดูกอาจารย์เกตุ วัดขวิด
    ผงอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน วัดตาลฯ
    ผงแดงหุ่นพยนต์ อาจารย์เกตุ วัดขวิด
    ผงดำหุ่นยนต์ อาจารย์เกตุวัดขวิด
    ผงเขียวเนื้อชิน อาจารย์เกตุ วัดขวิด
    ผงผสมแร่ธาตุก้นกรุอาจารย์เกตุ วัดขวิด
    ผงพระประธานอาจารย์คลิ้ง วัดโสภา
    ผงพระมหานิยมในเจดีย์วัดโลกา
    ผงยาวัดดอนไก่เตี้ย
    ผงพระเนื้อชิน วัดกุฏิสงฆ์
    ผงขุนแผน เนื้อดินเผา วัดบ้านกร่าง
    ผงพระพลายเพชร พลายบัว วัดบ้านกร่าง
    ผงขุนแผนไข่ผ่าซีก วัดสุวรรณภูมิ
    ผงเนื้อชิน วัดพระธาตุ
    ผงก้นกรุอาจารย์คง วัดตาล
    ผงกระดูกอาจารย์คง วัดตาล
    ผงไม้มะกอกอาจารย์คง วัดตาล
    ผงพระหักป่น วัดตาล
    ผงพระดินก้นกรุ วัดไทร
    ผงพระเนื้อชิน วัดมหาธาตุ
    ผงพระดินเผานาคปรก วัดมหาธาตุ
    ผงพระดินเผา แบบโมคคัล ลาสาริบุตร วัดมหาธาตุ
    ผงพระดินเผา แบบพระ 55 วัดมหาธาตุ
    ผงอิฐคนโบราณในเจดีย์วัดมหาธาตุ
    ผงพระหักป่น กรุวัดพายหลวง
    ผงพระหักป่น กรุวัดมังกร
    ผงพระหักป่น กรุวัดศรีชุม
    ผงพระเนื้อชิน เนื้อดิน วัดหินทัง
    ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินวัดปากทัง
    ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินหลวงพ่อโตวัดป่าม่วง
    ผงพระเนื้อชินดิน วัดเขาตะพานหิน
    ผงพระเนื้อดินเผา วัดช้างล้อม
    ผงพระดินเผาวัดป่ากล้วย
    ผงพระดินเผาวัดป่ามะขาม
    ผงพระเนื้อชิน วัดป่าหญ้ากร่อน
    ผงพระอิฐพราหมณ์ วัดศรีสวาย ได้จาก จ.พิษณุโลก 17 กรุ
    ผงพระเนื้อชิ้น เนื้อดินวัดเชตุพน
    ผงพระเนื้อชิน เนื้อดิน วัดดินดำ
    ผงพระดินเผา วัดดอนลาม
    ผงพระดินเผาชินราช วัดโบสถ์
    ผงพระดินเผา วัดโป่งพยอม
    ผงพระเนื้อชิน เผาแบบนางพญา วัดต้นจันทร์
    ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินเผาเนื้อทองเหลือง วัดปากน้ำ
    ผงพระเนื้อดินเผา วัดสตือ
    ผงพระเนื้อดินเผา วัดจุฬามณี
    ผงพระเนื้อดินเผา วัดปราง
    ผงพระเนื้อดินเผา มีแร่ธาตุ วัดไก่เตี้ย
    ผงพระเนื้อชิน ดินเผา วัดปะขาวหาย
    ผงพระเนื้อดิน วัดวิหารทอง
    ผงพระเศียรหักพระหัก วัดพระพุทธชินราช
    ผงพระสมเด็จนางพญาสีขาว วัดนางพญา
    ผงพระเนื้อดินเผา วัดเจดีย์ทอง
    ผงพระเนื้อดินเผา วัดประตูชัย
    ผงพระเนื้อชิน เนื้อดินเผาเนื้อว่าน วัดอรัญญิก
    ผงพระเนื้อชินอ่อน วัดหูช้าง
    ผงพระเนื้อชิน วัดคลองเป็ด
    ผงพระหักป่นวิหารพระร่วง
    ผงสมเด็จนางพญาสีดำ วัดนางงำระยา
    พระเนื้อดิน เนื้อชิน วัดลั่นทม ได้จาก จ.นครศรีธรรมราช 10 กรุ
    ผงพระคัมภีร์พระไตรปิฎก วัดพระมหาธาตุ
    ผงพระพระพวย วัดพระมหาธาตุ
    ผงตะไคร่พระเจดีย์ทุกองค์ วัดพระมหาธาตุ
    ผงตะไคร่พระด้านทุกองค์ วัดพระมหาธาตุ
    ผงตะไคร่พระศรีมหาโพธิ์ วัดพระมหาธาตุ
    ผงพระหักป่น วัดท่าเรือ
    ผงพระดินเผา วัดนางตรา
    ผงอิฐพระเจดีย์ วัดท่าเรือ
    ผงวัดท้าวโคตร
    ผงว่าน 108 ของ พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช ได้จากกรุจังหวัดเพชรบูรณ์ (7 กรุ)
    ผงดินพระหักป่นศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
    ผงดินพระหักป่น วัดเสือ
    ผงดินพระหักป่น วัดช้างเผือก
    ผงดินพระหักป่น วัดพระแก้ว
    ผงดินพระหักป่น วัดหลวงพ่อกบ
    ผงดินพระหักป่น วัดมหาธาตุ
    ผงดินพระหักป่น วัดสิงห์ ได้จากกรุ จ.พัทลุง 7 กรุ
    ผงดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำคูหาสวรรค์
    ผงอิทธิเจของท่านพระครูสิทธิยาถิรัตน์ วัดดอนศาลา อาจารย์เฒ่า วัดเขาอ้อ
    ผงพระหักป่น วัดเขาเจียก
    ผงดินทองถ้ำ เขาไชยสน
    ผงกระดูกคนโบราณ ในถ้ำเขาไชยสน
    ผงดินดิบสมัยศรีวิชัย ถ้ำอกทะลุ
    ผงถ้ำยาหอม เขาไชยสน ได้จากกรุ จ.ลำพูน 5 กรุ
    ผงพระรอด วัดพระรอด
    ผงพระสิบสอง วัดพระธาตุ
    ผงพระสาม วัดพระธาตุ
    ผงพระเปิม วัดพระธาตุ
    ผงพระหักป่น วัดทับยั๋น และจังหวัดต่างๆ 18 กรุ รวม 108 กรุ
    ผงพระสมัยทวาราวดี วัดพระประโทน นครปฐม
    ผงเนื้อชิน วัดพระพิโทน
    ผงโทนพราหมณ์ สมัยทวาราวดี นครปฐม
    ผงพระดินดิบ สมัยศรีวิชัย ถ้ำเขาสาย จังหวัดตรัง
    ผงพระดินดิบ สมัยศรีวิชัยถ้ำคีรีวิหาร จังหวัดตรัง
    ผงสมเด็จวัดระฆัง ธนบุรี
    ผงอิทธิเจ วัดหิรัญรูจี ธนบุรี
    ผงเนื้อดิน เนื้อชิน วัดบึงสัมพันธ์ อุตรดิตถ์
    ผงทองแท่น วัดพระแท่นศิลาอาสน์ อุตรดิตถ์
    ผงในเจดีย์ ดอยสุเทพ เชียงใหม่
    ผงพระหักป่น วัดพระปรางสวรรคโลก
    ผงดินเผากำแพงเพชร
    ผงดินเนื้อชิน วัดมะละกอ พิจิตร
    ผงพระหูยานหน้ายักษ์ หลวงพ่อจุก ลพบุรี
    ผงสมเด็จวัดอินทร์ พระนคร
    ผงนะปถมัง วัดบางแพรกใต้ นนทบุรี
    ผงดอกไม้ 108 วัด
    ผงพญาว่านมหาว่าน ของอาจารย์เฒ่า วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง
    ผงพระเทพนิมิต ของอาจารย์ชุม ไชยคีรี
     
  9. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    พระคาถาชุมนุมเทวดา ในพิธีพุทธาภิเษก วัดสารอด

    สาธุ สัคเค ข้าพเจ้าขออัญเชิญ มวลเทพเจ้าซึ่งสิงสถิตย์อยู่ในฉกามาพจรสวรรค์ กาเม อยู่ในกามภพอนันต์จังหวัดวง จะรูเป เทพเจ้าดำรงอยู่ในห้วงมหรรณพสิงพรเขตยุคนธร จันตะลิกเข เทพเจ้าอันแน่นแนว อยู่ในอากาศ วิมาน อยู่ในวิมานมาศรัตมณเฑียร ทีเป เทพเจ้าอยู่ในเกาะเกียรน้อยและใหญ่ รัฏเจ ข้าขออัญเชิญเทพยาดาเจ้าที่อยู่ ในแว่นแคว้นทั่วประเทศทั้งท้าวสยามเทวราชอันเรืองฤทัย ทั้งพระจันทร์ พระอาทิตย์ ผู้ดำรงค์โลกราศรี ตะรุวะนะคะหะเน เทพเจ้าอยู่ในหม่ไม้ไพรพฤกษาศาล เคหะวัต ถุมหิ เขตเต เทพเจ้าอยู่ที่บ้านเรือน และไร่นา และที่พระอุโบสถนี้

    ภุมมา ข้าขอเชิญเทพยดาเจ้าที่อยู่ในภูมิประเทศทั่วขอบเขตจักรวาลมีพระภูมิเจ้าที่ ที่ประจำวัดสารอดเป็นประธาน ชะละถะละวิสะเม เทพเจ้าที่อยู่ในน้ำและบนบกมิได้เสมอกัน ยักขะคันทัพนาคา ทั้งยักษาคนธรรพ์นาคราชผู้เป็นใหญ่ ที่ท้าวภุชงค์พระยานาคราชกรุงบาดาล เป็นประธาน ดิฏฐันตาสันติเกยัง เทพเจ้าอยู่ที่เกาะแก่งแห่งตำบล มุนิวะระวะจะนัง ข้าพเจ้าขออัญเชิญพระฤาษีทุกแห่งหนอันศักดิ์สิทธิ์ ด้วยปรีชา มีพระฤาษีตาวัว พระฤาษีตาไฟ พระฤาษีนารอด พระฤาษีนาไลย พระฤาษีบัลลัยโกฏ พระฤาษีสิงหดาบส พระฤาษีสัจจะพันธ์คีรี พระฤาษีมุนิดาบส พร้อมด้วยคุณครู คุณอาจารย์ คุณบิดา มารดา คุณครูปัติยาย หลวงปู่คง หลวงปู่ทวด หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า วัดเขาอ้อจังหวัดพัทลุง และหลวงพ่อรอดในพระอุโบสถ เจ้าพ่อแผนเป็นประธาน สาธะโวเมสุณันตุ ข้าขอเชิญเทพยดาอันเรืองเดช ซึ่งสิงสถิตย์อยู่ในอมรพิมานเมศเมืองฟ้า ธัมมัสสะวะนะกาโ,อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโ,อะยัมภะทันตา ธัมมัสสะวะนะกาโลอะยัมภะทันตา ข้าพเจ้าขออัญเชิญท้าวเทเวศน์สิ้นขอบเขตจักรวาลจงมาสโมสรรับเครื่องบวงสรวงสังเวย อันข้าพเจ้าได้จัดไว้พร้อมเสร็จอย่างบรรจง แล้วขอเทพยดาพร้อมด้วยคุณครูคุณอาจารย์ที่ได้อัญเชิญมารับเครื่องสังเวยทุกองค์ จงกรุณาประจำอยู่ในพิธีทำการปลุกเสกพิทักษ์รักษา ป้องกันภัยอันตรายกันศัตรูหมู่มารภายนอก มารภายใน ช่วยดลบันดาลของจิตใจ ของข้าพเจ้าทั้งสามให้มีปัญญาสามารถ เฉลียวฉลาดในการปลุกเสกบรรจุคุณ ช่วยเกื้อหนุนบัญชาให้เทพยดารักษาอยู่ประจำองค์พระทุกองค์ ที่สร้างขึ้นในพิธี ขอท้าวภุชงค์นาคราชพร้อมด้วยบริวารในกรุงบาดาล จงกรุณาส่งเสริมอิทธิปาฏิหารย์ และพุทธานุภาพ จงนำพระทั้ง 108 องค์ ที่ข้าพเจ้านำไปทำพิธีอาราธนาลงในแม่น้ำ กลับคืนมาประดิษฐานไว้ที่ศาลเทพารักษ์ เพื่อให้เกิดผลเป็นประจักษ์พยานปรากฏเป็นอัศจรรย์ แก่มวลเทพยาดาและมนุษย์ทั้งหลาย พระผงวิเศษทั้ง 84,000 องค์ ใครนำไปสักการะบูชาก็ให้ปรากฏผลเป็นที่พึ่งเป็นที่ระลึก นึกอะไรก็ให้สมความปรารถนาทุกประการ ขอจงอยู่อย่ารู้เสื่อมคลายช่วยกันสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนถาวร ด้วยอำนาจบุญกุศลที่คณะข้าพเจ้าและมวลเทพยดาครูอาจารย์ช่วยกันบำเพ็ญในกาลครั้งนี้ จงเป็นปัจจัยส่งให้คณะข้าพเจ้าทุกคน ตลอดถึงคุณครู คุณอาจารย์ คุณเทพยดา จงประสพความสุขความเจริญ ประสพมนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ พระนิพพานสมบัติ เกิดพบพระพุทธศาสนาเข้าถึง คุณพระทุกชาติ กราบเท้าเข้าสู่พระนิพพานในอนาคตเบื้องหน้าโน้นเทอญ นิพพาน นะปัจจะโย โหตุ อนาคตเตกาเล ขอน้อมเกล้าถวายพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จเจ้าฟ้า พระเจ้าลูกยาเธอทุกพระองค์









    ปรากฏการเป็นพิเศษ เมื่อพุทธาภิเษกได้ 7 วัน

    ซึ่งนับว่าการสร้างพระ 84,000 องค์ ครั้งนี้เป็นนิมิตอันดียิ่ง และเป็นมงคลอันสูงสุด ทั้งมีความมั่นใจอย่างยิ่ง ว่าคงได้รับผลสมความปรารถนา อย่างคุณวิเศษของขุนแผน ครั้งเมื่อท่านมีชีวิตอยู่ทุกประการ เพราะแรงฤทธิ์อำนาจว่านยาแรงฤทธิ์เวทมนต์คาถา ประกอบด้วยความรู้ ความชำนาญ ความตั้งใจจริงของท่านอาจารย์ทั้งสาม

    1. พระอาจารย์สุภา กนฺตสีโล , อาจารย์ชุม ไชยคีรี , อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ทั้งสามอาจารย์ ไม่เคยรู้จักกัน บันดาลให้มาพบกัน มีความรักความสามัคคี มีเจตนาเสมอกัน

    2. วิญญาณอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน และวิญญาณขุนแผน มาเข้าประทับทรงบอกตำรา และเป็นประธานในการปลุกเสก บรรจุคุณตลอดพิธี

    3. วันที่ 24 พฤศจิกายน เวลาที่อาจารย์ทั้งสามกำลังทำพิธีบวงสรวงสังเวย และผสมผงแร่ธาตุว่านยาเข้ารวมกัน พระสงฆ์ 9 รูป กำลังสวดไชยมงคลคาถาอยู่นั้น อีกาฝูงใหญ่ไม่เคยมีมาแต่ครั้งก่อน บินมาวนเป็นทักษิณาวัตร ร้องส่งเสียงอยู่ประมาณ 30 นาทีแล้วหายไป

    4. วันที่ 31 ธันวาคม ปลุกเสกมาได้ 7 วัน เวลา 05.00 น. เกิดแสงสว่างขึ้นที่หน้าพระอุโบสถ ปรากฏแก่สายตาพระสงฆ์ ที่กำลังเตรียมตัวจะออกบิณฑบาตรนานประมาณ 1 นาที เวลา 06.30 น. พระผงรวม 108 องค์ ที่อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้นำไปอาราธนาลงในแม่น้ำดังกล่าวแล้ว แสดงอภินิหารเสด็จกลับมาต่อหน้าพระภิกษุสงฆ์ และประชาชนเป็นจำนวนมากซึ่งกำลังมุงดูกันอยู่ด้วยความแปลกใจ และกำลังย่ำฆ้องทะยอยกันเสด็จกลับมาประมาณ 3 ชั่วโมงจึงหยุด

    5. วันที่ 31 ธันวาคม เวลา 21.00 น. ทำพิธีตรวจนับพระที่เสด็จกลับปรากฏว่าพระเสด็จมาเพียง 106 องค์ ขาดไป 2 องค์ คณะศิษย์เรียนถามวิญญาณขุนแผนท่านบอกว่า พระที่เสด็จกลับมานั้นท้าวภุชงค์นาคราช พร้อมด้วยบริวารนำมาให้ และที่ขาดไป 2 องค์ วิญญาณขุนแผน บอกว่า หลวงปู่คง มอบให้ท้าวภุชงค์กับพระมเหสี คนละ 1 องค์ เวลา 22.00 น. ทดลองความขลังด้านคงกระพัน โดยอาจารย์ชุม อบรมผู้มีศรัทธา 7 คน แจกพระให้ถือไว้ในมือ และอมไว้ในปากคนละ 1 องค์ แล้เอามีดโกน ใบมีดดาบ ฟันเชือดเฉือน และให้ผู้อื่นเข้ามาเชือดเฉือนดู ปรากฏว่าเป็นคงกระพันตลอด จึงเอามีดตัดผมก็ไม่ขาดต่อหน้าประชาชน

    ตามตำรากล่าวไว้ว่า ผู้ที่มีพระว่านวิเศษนี้อยู่ที่ตัว มีความเลื่อมใสจริงๆ เมื่อถึงคราวคับขันหมดที่พึ่งอย่างอื่น เช่น ออกรบศึก ถูกข้าศึกจับเป็นเชลย ถูกจองจำไว้ด้วยเครื่องพันธนาการ ให้ตั้งใจนึกถึงบ้าน และระลึกถึงคุณบิดามารดา เครื่องพันธนาการต่างๆ จะหลุดออกหมดกลับมาบ้านไหว้บิดามารดาได้ หรือเมื่อเราเป็นหัวหน้านำทัพ ลูกน้องถูกจับเป็นเชลย เพื่อนหรือญาติถูกจับเป็นเชลย หรือคนที่เรารักสูญหายไปจากบ้าน ตั้งใจภาวนาเรียกให้กลับ เมื่อเรามีพระชนิดนี้อยู่ที่ตัวเรา และพระอยู่ที่ตัวผู้ที่หายไปเรียกให้กลับมาได้

    เมื่อคืนวันที่ 15 มกราคม 2507 เวลา 24.00 น. อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้เรียกสุภาพบุรุษมา 12 คน อบรมให้รู้จักคุณวิเศษของพระ แล้วให้ทุกคนอมพระรอดไว้ในปากคนละหนึ่งองค์ แล้วพร้อมกันเอาอีกคนหนึ่งไปใส่กุญแจมือคร่อมเสาไว้ในป่าช้า แล้วอีก 11 คน มานั่งบริกรรมเรียกอยู่ในพระอุโบสถ ประมาณ 5 นาที คนที่ใส่กุญแจไว้ กุญแจหลุดออกหมดทั้งสองข้างกลับมาได้ต่อหน้าประชาชน ชี้ให้เห็นประจักษ์พยานว่า มีพระว่านวิเศษชนิดนี้อยู่ไปแล้วกลับ แม้จะถูกจองจำด้วยพันธนาการใดๆ ก็กลับได้

    วัตถุมงคล พิธีเสด็จกลับ วัดสารอด มีดังนี้

    พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์ใหญ่ เนื้อดำ , เนื้อเหลือง , เนื้อแดง (มันปู)
    พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้วพิมพ์เล็ก เนื้อดำ , เนื้อเหลือง , เนื้อแดง (มันปู)
    พระรอด เนื้อดำ , เนื้อเหลือง , เนื้อแดง (มันปู)
    รูปเหมือนหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล เนื้อดำ , เนื้อเหลือง , เนื้อแดง (มันปู)
    ประคำ 108 และรูปหลวงปู่คง เนื้อว่าน
    เข็มกลัดรูปเหมือนหลวงปู่สุภา
    ผ้ายันต์เสือ อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์
    ผ้ายันต์สิงห์ อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์
    น้ำมันมหานิยมเลิกรบ อาจารย์ชุม ไชยคีรี


    วิธีใช้

    พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกกำจัดภัยได้จริง แก่ผู้เข้าถึง รูปพระพุทธเจ้าทรงขุนแผนเรือนแก้ว ทรงพระรอด ประคำ 108 และรูปหลวงปู่คง รูปหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ที่สร้างขึ้นด้วยว่านยาแร่ธษตุพญาว่าน มหาว่าน ดอกไม้ เกษรดอกไม้ น้ำพระพุทธมนต์จากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์รวม 2,000 กว่าชนิด จัดเป็นวัตถุพิเศษ พระอาจารย์และพระอาจารย์ที่มีเจตนาเป็นกุศล มีศีล สมาธิ ปัญญา ปล่อยวางภารกิจอุทิศกำลังกายกำลังใจ ให้เป็นทานอธิษฐานสร้างพระจนครบ 84,000 องค์ เป็นพุทธบูชาสืบต่ออายุพระ/พุทธศาสนา โดยไม่หวังผลตอบแทนแต่อย่างใด อันเป็นส่วนอามิต สมมติเป็นบุคคลวิเศษ วิญญาณเทพชั้นสูงผู้ปรารถนา พระโพธิญาณมารวมปลุกเสก ตลอดพิธีเป็นเทพวิเศษกาลเวลาที่ทำพิธี ประกอบด้วย ฤกษ์ดี ยามดี มงคลดี เป็นกำเนิดวิเศษ สร้างเป็นรูปพระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นพระศาสดาของเทวดา และมนุษย์ทั้งหลาย เป็นรูปวิเศษ ทำพิธีพุทธาภิเษกสวดอธิษฐานบรรจุคุณ ปลุกเสกทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดเวลา 30 วัน โดยวิญญาณขุนแผน อาจารย์สุภา อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ และศิษย์อาจารย์ทั้งสาม ตรวจสอบพิสูจน์ทดลองความขลังที่บรรจุไว้ทุกระยะ จนปรากฏประจักษ์แก่สายตาประชาชนมาแล้ว ด้วยอำนาจแรงฤทธิ์ขององค์คุณวิเศษครบองค์ 5 ดังกล่าวแล้วข้างต้น พุทธานุภาพของพระผงครั้งนี้จึงสูงสุด ผู้นับถือประสพผลดุจคุณวิเศษของขุนแผน เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ส่วนพระรอดก็มีคุณวิเศษเหมือนพระรอดที่พระฤาษีนารอดสร้างทุกประการ

    กายที่ละเว้นแล้วจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม ละเว้นจากการพูดเท็จ และจากการดื่มสุรายาเมาเป็นกายที่ควรแก่คุณพระ ใจที่ได้เจริญภาวนาแล้ว มีสติสัมปชัญญะมีหิริความละอาย โอตัปปะความเกรงกลัวต่อบาป เป็นใจที่ควรแก่คุณพระ ผู้สำรวมกายวาจาให้เป็นปกติ ปราศจากโทษ ชื่อว่าผู้เข้าถึงคุณพระ คุณพระที่เราเข้าถึงแล้วกำจัดภัยได้จริง

    วิธีทำจิตให้เข้าถึงคุณพระ และยกเอาคุณพระเป็นที่พึ่ง ต้องทำจิตให้บริสุทธิ์ หมดจดปราศจากความลังเลสงสัย ทำความนอบน้อมพร้อมด้วย กาย วาจา ใจ ตามองดูรูปจิตระลึกถึงคุณ ภาวนากำหนดลมหายใจเข้าว่า พุท กำหนดลมหายใจออกว่า โธ จนเกิดความสงบแล้วทำความปรารถนา หรือออกเดินทาง ถ้าจะให้วิเศษสำเร็จความปรารถนาชั้นสูงสุด ต้องนั่งบริกรรมภาวนากำหนดลมหายใจเข้าว่า พุท กำหนดลมหายใจออกว่า โธ ให้นาน แล้วจึงทำความปรารถนาความสำเร็จอยู่ที่แรงอธิษฐาน ความสงบที่บังเกิดขึ้นกับจิตนั้นแหละ คือคุณพระ เด็กๆ มีจิตว่างเปล่า คุณพระคุ้มครองได้ดีกว่าผู้ใหญ่ ผู้ไม่มีความเชื่อไม่ควรรับไปใช้ ผู้นำไปทดลองทำเป็นเล่นปราศจากความเคารพในรูปพระพุทธเจ้า ที่พระอาจารย์ และอาจารย์บรรจุคุณแล้วเป็นบาปกรรมอย่างหนัก เทพยดาและแรงครูอาจารย์ดลบันดาลให้เกิดโทษนานาชนิด เสื่อมลาภ เสื่อมยศ หมดที่พึ่ง

    พระผงว่านยาวิเศษครั้งนี้ บรรจุคุณไว้พร้อมแล้วทุกประการ มีไว้ประจำตัวไปแล้วได้กลับ ไม่ไปเจ็บและไปตายด้วยภัยนานา ชนิดนอกบ้าน เพื่อส่งเสริมการไปแล้วกลับ ควรนำพระผงว่านวิเศษตั้งไว้ที่บูชาประจำบ้าน 1 องค์ นำติดตัวไป 1 องค์ แล้วทุกคนภายในบ้านของเราไปแล้วกลับอย่างที่เคยพิสูจน์ทดลองมาแล้ว เช่น นำพระไปอาราธนาลงในแม่น้ำส่วนหนึ่ง ไว้ประจำพิธีส่วนหนึ่ง ส่วนที่อยู่ในแม่น้ำส่วนหนึ่งเสด็จกลับมาได้ เอาพระให้ผู้มีความเชื่อ 12 คน อมไว้ในปาก แล้วเอาอีกคนหนึ่งไปใส่กุญแจคร่อมเสาในป่าช้า เวลา 24.00 น. ให้พวกหนึ่งไปบริกรรมภาวนาเรียกอยู่ในอุโบสถ คนที่ถูกใส่กุญแจคร่อมเสาไว้ในป่าช้า กลับมาได้จึงรับรองว่าพระนี้วิเศษในทางไปกลับได้เป็นอย่างดียิ่ง

     
  10. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    วิธีภาวนาชักลูกประคำ ว่านวิเศษ 108 ของหลวงปู่คง

    ก่อนเข้านั่งภาวนาควรอาบน้ำ ชำระร่างกายให้สะอาด จัดดอกไม้ธูปเทียนบูชาพระ ทำกิจเบื้องต้นเสร็จแล้ว ให้ตั้งใจสมาทานวิรัชศีล 5 คือ ว่า นะโม 3 จบ แล้วว่า พุทธังสะระนังคัจฉามิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิ พุทธังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิพุทธังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ แล้วว่า… อิมานิ ปัญจะสิกยาปะธานิสมาธิยามิ 3 จบ แล้วว่า… ปานาติปาตา เวระมรี สิกขา ปะทัง สมาธิยามิ อทินนาทานาเวระมนีสิกขาปะทังสมาธิยามิ กาเมสุมิจฉาจาราเวระมนีสิกขาปะทังสมาธิยามิ มุสาวาทาเวระมนีสิกยาปะทังสมาธิยามิ สุราเมระยะมัชปะมาทัตถานาเวระมนีสิกขาปะทังสมาธิยามิ ผู้ถือศีล 8 ก็ให้สมาทานวิรัชศีล 5 แล้วนั่งสมาธิเท้าขวาทับเท้าซ้าย มือขวาทับมือซ้ายเอาลูกประคำวางไว้บนมือ หลับตาภาวนากำหนดลมหายใจเข้านึกว่า “พุท” หายใจออกนึกว่า “โธ” จนจิตสงบแล้วเอามือขวาจับลูกประคำยกขึ้นเสมออก ภาวนาคาถาพระธรรมราช ว่า พุทธังสะระนังคัจฉามิ ธัมมังสะระนังคัจฉามิ สังฆังสะระนังคัจฉามิ ทะทะทะ โรโรโร อะอะอะ สะสะสะ โสโสโส โณโณโณ นะโมพุทธายะ 1 จบ นับลูกประคำไป 1 ลูกจนครบ 108 แล้ววางลูกประคำลงข้างหน้า กราบสามครั้ง หรือถ้านำติดตัวไป ก็ให้เอาลูกประคำสวมคอไป ก่อนออกเดินทางก็กำหนดลมหายใจเข้านึกว่า “พุท” หายใจออกนึกว่า “โธ” ทำจิตให้สงบแล้วออกเดินทางไป หรือถ้าจะทำการปลุกเสกพระเครื่องราง หรือของขลังอื่นๆ ก็ทำได้ ทำตามพิธีดังกล่าวข้างต้น หรือจะเอาคาถา หรือพระกรรมฐานบทอันที่ชอบกับอารมย์มาภาวนาชักลูกประคำก็ได้ เป็นบุญเป็นกุศลอย่างประเสริฐ มีพลานิสงส์ นับเป็นกัปเป็นกัลป์ เป็นปัจจัยแก่มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ พระนิพพานสมบัติ สวรรค์สมบัติ พระนิพพานสมบัติ ขอให้ทุกคนพยายามทำอย่าประมาท อย่าให้เสียชาติที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์พบพระศาสนา

    ส่วนประโยชน์ที่จะพึงได้ในปัจจุบัน ก็มีมาก หลวงปู่ท่านบอกว่าใช้ได้ 108 แล้วแต่จะปรารถนา แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเชื่อ เชื่อมากได้ผลมาก เชื่อน้อยได้ผลน้อย ไม่เกิดประโยชน์อะไรแก่ผู้ที่ไม่มีความเชื่อเลยแม้แต่น้อย



    วิธีปฏิบัติให้เกิดผลตามตำรามีดังนี้

    ภาวนาชักลูกประคำด้วยพระคาถาธรรมราช 108 จบ แล้วตั้งไว้หัวนอน จะเกิดนิมิตดี กันผี กันโจร กันไฟ รู้เหตุการณ์ร้าย ดีล่วงหน้า โจรผู้ร้ายเข้ามาจะเห็นคนเดินอยู่รอบบ้าน
    ภาวนาชักลูกประคำ 108 จบ เวลาตื่นนอน จะเป็นผู้เจริญด้วยลาภ เจริญด้วยยศ ทำมาค้าขึ้น ทำให้กิจการที่กำลังคิดอยู่สำเร็จ ทำให้อายุยืน
    ภาวนาชักลูกประคำ 108 จบ แล้วเอาลูกประคำใส่ลงในน้ำ เอาน้ำล้างหน้าเป็นเมตตามหานิยม ถ้าเอาน้ำนั้นกิน ทุกวันเป็นคงกระพัน ถ้าเอาน้ำนั้นไปอาบ เป็นการสะเดาะเคราะห์ ทำให้โชคร้ายกลายเป็นดี มีสติปัญญา มีวาสนาเจริญก้าวหน้า
    ถ้าหากไปนอนในป่าในถ้ำ ก่อนจะนอนชักลูกประคำ 108 ด้วยคาถาพระธรรมราชแล้วนอน เทวดาจะมาคุ้มครองรักษา หรือมาบอกลาภให้ ถ้าหลงทางก็จะพบทาง ถ้าอดข้าวจะพบบ้านคน
    ชักลูกประคำ 108 จบ แล้วนำลูกประคำติดตัวไป กันเครื่องศัตราวุธ กันอุปัทวเหตุ กันสัตว์ร้าย คนร้าย กำบังตาผู้คิดร้าย หรือศัตรูเห็นเราคนเดียวเป็นหลายคน
    ก่อนออกปราบโจรผู้ร้าย หรือไปรบกับข้าศึกหรือไปในสถานที่ๆ ไม่ปลอดภัย ให้ตั้งใจภาวนาชักลูกประคำ 108 จบ แล้วเอาลูกประคำสวมคอไป กระสุนและวัตถุระเบิดใดๆ ไม่ถูกกายเราเลย หรือถ้าหากศัตรูล้อมเราไว้ ภาวนาคาถาพระธรรมราชเดินแหวกวงล้อมไป ศัตรูทำร้ายมิได้เลย ถ้าถูกจับก็ให้ภาวนาสะเดาะเครื่องพันธนาการได้ทุกชนิด
    ถ้าจะให้ลูกหลานหรือบุคคลอื่นเป็นคงกระพันก็ให้ภาวนาชักลูกประคำ 108 จบ แล้วเอาลูกประคำใส่ลงไปในน้ำเสกต่อไปอีกประมาณ 108 จบ เอาน้ำให้กิน คงกระพันทุกคน ถ้าเอาน้ำอาบให้ก็เป็นการสะเดาะเคราะห์ให้หมดไปได้เป็นอย่างดี หรืออธิษฐานให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บก็ได้ สุดแล้วแต่จะปรารถนา ก่อนจะทำทุกครั้งให้ระลึกถึงคุณพระ และหลวงปู่คง




    วิธีใช้น้ำมัน น้ำมันมหานิยม ของอาจารย์ชุม ไชยคีรี

    ก่อนใช้ต้องตั้งใจแผ่เมตตาว่า… ขอสัตว์ทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่มีเวรต่อกัน เป็นผู้ดำรงชีพอยู่เป็นสุขทุกเมื่อเทอญ ขอสัตว์ทั้งสิ้นนั้น จงได้เสวยผลบุญอันข้าพเจ้าได้กระทำแล้วนี้เทอญ

    นี้เป็นหลักการแผ่เมตตาจิต ของผู้นับถือพุทธศาสนาที่กระทำกันอยู่เป็นกิจวัตร เป็นธรรมชั้นสูงในศาสนานี้ แต่ไม่มีอะไรแสดงออกมาให้ผู้มีปัญญาน้อย และผู้ไม่ทำเห็นประจักษ์แก่สายตา เพราะเป็นเรื่องของจิต

    ข้าพเจ้ามีความปรารถนาให้ เพื่อนมนุษย์ทุกคนรักเมตตาจิตแผ่เมตตาจิตเข้าหากัน จะได้อยู่เป็นสุข เลิกรบเลิกเบียดเบียน ซึ่งกันและกัน จึงค้นคว้าหาคุณแห่งเมตตาจิต ที่พอจะแสดงออกเป็นเครื่องจูงให้ผู้พบเห็น เชื่อและรักในการเจริญภาวนา จึงแผ่เมตตาจิตอธิษฐานไว้ใน น้ำมันหอมให้เป็นน้ำมันมหานิยมทดลองให้ประชาชนเห็นจริง โดยหาสัตว์ที่เป็นศัตรูต่อกัน เช่น หนูกับแมว , สุนัขกับแมว มาทาน้ำมันแล้วขอให้เลิกรบ เลิกจองเวรต่อกัน สัตว์เหล่านั้นก็เลิกได้สมความปรารถนา



    ปัจฉิมลิขิต

    เนื่องจากคณะกรรมการของวัดสารอด มีความเห็นพ้องต้องกันว่า บริเวณของวัดค่อนข้างจะคับแคบ ไม่เพียงพอ การจัดงานที่พุทธศาสนิกชน ที่รวมกันบำเพ็ญกุศลสาธารณะแต่ละครั้ง และการสร้างกุฏิให้ภิกษุสงฆ์จำพรรษา จึงได้ตกลงซื้อที่ดินของเอกชนซึ่งอยู่ติดกับวัด ทางด้านตะวันออก เป็นเนื้อที่ 2 ไร่ 16 ตารางวา ในราคา 8 หมื่นบาท โดยบอกบุญจากท่านพุทธศาสนิกชนทั่วไป และกำหนดจะชำระเงินให้เสร็จสิ้นในวันที่ 1 มกราคม 2507 นอกจากนี้คณะกรรมการของวัดได้วางโครงการไว้ว่า จะรื้อย้ายกุฏิที่ชำรุดทรุดโทรมด้านตะวันออก ไปปลูกสร้างให้ได้ระเบียบ เป็นแนวเดียวกันเสียใหม่ วางแผนงานที่จะก่อสร้างเป็นฌาปนกิจสถานและสุสาน ให้เหมาะสมตามนโยบายของรัฐบาล

    แผนงานของคณะกรรมการที่ได้วางไว้นี้ บรรดาพุทธศาสนิกทั้งใกล้แลไกลต่างก็ปิติยินดี และอนุโมทนาตลอดมาจนกระทั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2506 พระอาจารย์หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล พร้อมด้วยอาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ซึ่งมีเจตนาจะบำเพ็ญกุศลสร้างพระ 84,000 องค์ เป็นพระพุทธบูชา ท่านอาจารย์ทั้งสาม ทราบว่า ที่วัดนี้มีโครงการบูรณะปฏิสังขรณ์ดังกล่าวแล้ว จึงมาปรึกษากับอาตมาภาพ อาตมาจึงได้เชิญคณะกรรมการของวัด ประชุมปรึกษาเรื่องการสร้างพระ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2506 คณะกรรมการของวัดต่างเห็นพ้องและตกลงพิมพ์แบบต่างๆ โดยวิธีรวมทุนกันคนละครึ่ง ส่วนว่านยาผงวิเศษทั้งหมดที่จัดสร้างพระขึ้นครั้งนี้ พระอาจารย์หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล , อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ออกให้เปล่าโดยไม่คิดค่าราคาแต่ประการใดทั้งสิ้น

    การพิมพ์พระจึงได้เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2506 และพิมพ์ครบ 84,000 องค์ เรียบร้อย เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2506 วันที่ 23 ธันวาคม 2506 จึงลงมือทำพิธีปลุกเสก และทำการสมโภชเสร็จเรียบร้อยในวันที่ 24 มกราคม 2507 เมื่อเวลา 06.00 น. รวมเวลา 2 เดือนเศษ ในการสร้างพระเครื่องครั้งนี้ได้ใช้ว่านยาวิเศษมากกว่า 2,000 ชนิด ประกอบด้วยกรรมพิธีอันถูกต้องเป็นระเบียบ ทั้งปรากฏผลเป็นที่แปลกประหลาด ซึ่งอาตมาไม่เคยพบเห็นมาก่อนฉะนั้น เพื่อจะให้ทราบชื่อว่านยา พร้อมทั้งคุณภาพของว่านที่นำมาประกอบ สร้างพระเครื่องครั้งนี้ อาตมาภาพจึงเรียนหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล พร้อมด้วยอาจารย์ชุม ไชยคีรี และอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร์ ท่านก็กรุณาชี้แจงให้อาตมาภาพทราบ และอาตมาภาพได้ประสบการด้วยสายตาของอาตมาเอง นำมาเสนอเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่ท่านพุทธศาสนิกชน และเป็นการศึกษาของอนุชนรุ่นหลังสืบไป เพราะพระอาจารย์และอาจารย์ทั้งสามเป็นผู้มีเจตนาอันประเสริฐ และมีความรู้สูงสุดมีเมตตาจิตอย่างแรงกล้า หาผู้เสมอเหมือนได้ยาก นอกจากนั้นพระอาจารย์และอาจารย์ซึ่งเป็นศิษย์ของอาจารย์ทั้งสาม ซึ่งมีศรัทธาถึงกับสละทุกสิ่งทุกอย่างมาตำผงประสมผง มานั่งเจริญภาวนาพิมพ์พระจนครบ 84,000 องค์ตลอด ถึงนั่งปลุกเสกวันละ 3 เวลาตลอดพิธี และท่านผู้มีเกียรติจำนวนมากที่มีศรัทธาเข้าเป็นคณะกรรมการจนงานทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี อาตมาภาพขออนุโมทนาในกุศลเจตนาของท่านทั้งหลาย และขออำนาจมหากุศลที่ท่านได้บำเพ็ญครั้งนี้ จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนส่งผลให้พระอาจารย์ และอาจารย์ ตลอดถึงคณะกรรมการทั้งสองคณะ และผู้ช่วยเหลือพิธี จงประสพความสุขความเจริญ และจงประสพจตุรพิธพรชัยทุกประการเทอญ… พระอธิการชนาง เอี่ยมอุดม เจ้าอาวาส วัดสารอด



    พระเสด็จกลับพิธีปี 2506 วัดสารอด สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่

    พระเครื่องที่พิมพ์เสร็จแล้วที่วัดสารอด กรุงเทพฯ หลังจากปลุกเสกแล้วตามวาระต่างๆ ก็เริ่มทำพิธีเสด็จกลับตามตำรับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยนำพระไปอาราธนาลงในแม่น้ำ แล้วบริกรรมเรียกพระให้กลับมาที่ วัดสารอด กรุงเทพฯ และที่ สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ จังหวัดภูเก็ต โดยนำไปอาราธนาในทะเลเป็นครั้งที่สอง

    เมื่อผ่านพิธีเสด็จกลับแล้ว ถือว่าพระทั้งหมดมีความศักดิ์สิทธิ์เท่ากันหมด ทั้งพระที่เสด็จกลับ และพระที่ไม่ได้นำไปทำพิธีเสด็จกลับ จำแนกเพียงพระที่ผ่านการเสด็จกลับ จะเรียกว่า พระเสด็จกลับ ส่วนพระที่ไม่ได้ผ่านการเสด็จกลับ เรียกว่าพระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก จำนวนพระที่สร้างทั้งหมดรวม 84,000 องค์ เท่าพระธรรมขันธ์

     
  11. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    มวลสารที่สำคัญ

    ประกอบไปด้วยว่านประเภทต่างๆ หลายชนิด โดยว่านที่สำคัญจากการสอบถาม หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล ท่านเล่าว่า ว่าที่หายากชื่อ ว่าโพรงกินเหล็ก ต้องเอาเหล็กให้หัวว่านกินจนอิ่มเสียก่อนจึงจะกู้เอาหัวว่านได้โดยต้องขอซื้อผู้ที่พาไปเป็นเงินถึง 30,000 กีบ ในสมัยนั้น ว่านชนิดนี้น่าจะมีผลทำให้พระพิมพ์ที่มีว่านนี้ผสมอยู่ดูดแม่เหล็กติด เพราะเป็นวิธีชี้ขาดว่าเป็นพระแท้ในปัจจุบัน โดยพระสีดำและแดงจะดูดแม่เหล็กติด ส่วนพระสีเหลืองจะดูดแม่เหล็กไม่ติด เพราะมวลสารหลักเป็นเกสรดอกไม้ 108 ซึ่งถือเป็นของเมตตาชั้นสูง และสะอาด คนสมัยก่อนจะเสาะหาน้ำผึ้งในเดือน 5 มาทำยารักษาโรค และนำมาทำยาอายุวัฒนะ เพราะส่วนผสมที่สำคัญที่มีอยู่ในน้ำผึ้งคือ เกสรดอกไม้ 108 ชนิด ที่ผึ้งนำมาสะสมไว้ในน้ำผึ้งจำนวนมาก ถือเป็นของดีอย่างหนึ่งนั้นเอง



    ลักษณะของพระที่พบ

    พระที่มีลักษณะพิเศษอีกกลุ่มหนึ่งที่พบคือ มีเลขหนึ่งไทยด้านหลังเรียกว่า พระคะแนนร้อย พระขุนแผนที่มียันต์ปั๊มอยู่ด้านหน้า พระขุนแผนที่หลังมีลายใบไม้เหมือนพิมพ์รูปเหมือน หลวงปู่สุภา ส่วนพระที่พบว่ามีการลงรักปิดทอง และทาบรอนซ์นั้นเพราะ พระที่นำไปที่ภูเก็ตนั้น การขนย้ายผ่านระยะทางไกล โดยใส่ในภาชนะเดียวจำนวนหลายองค์รวมกัน และองค์พระไม่ได้มีสิ่งห่อหุ้มป้องกัน ทำให้องค์พระกระทบเสียดสีกัน พระจึงชำรุดไม่สวย และยังนำมาทำพิธีเสด็จกลับในทะเลอีกครั้ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว และเพื่อเป็นการทำสัญลักษณ์จำแนกพระเสด็จกลับ จึงลงรักปิดทองและทาบรอนซ์เพื่อให้องค์พระดูสวยงาม พระองค์ที่ลงรักหนา ทองที่ปิดจะเรียบสวยงาม ส่วนองค์ที่ลงรักบาง ทองที่ปิดจะไม่เรียบร้อยสวยงามเหมือนพระที่ลงรักหนา ส่วนพระที่เสด็จกลับมาที่ชายหาดภายหลังจะมีลักษณะผิวร่อน เพราะอยู่ในทะเลเป็นวัน พระที่หลวงปู่สุภา กนฺตสีโล นำไปที่ภูเก็ตมีจำนวน 3 – 4 หมื่นองค์ แต่พระพิมพ์ขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว ทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก เมื่อคราวพิมพ์พระ ในจำนวน 84,000 องค์ มีจำนวนประมาณไม่ถึงครึ่ง ที่เหลือเป็นพิมพ์พระรอดเสียส่วนใหญ่ และพระจำนวนมากบรรจุอยู่ในวัดสารอด พระบางส่วนมีผู้นำไปอาราธนา คล้องจนชำรุดเสียหายไปเป็นจำนวนมาก เพราะเห็นเหตุการณ์พระเสด็จกลับด้วยตาเปล่า จึงพบพระพิมพ์ขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว ทั้งพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก จำนวนไม่มากนักในปัจจุบัน แต่จะพบพระพิมพ์พระรอดได้ง่ายกว่า







    พระเสด็จกลับมาอย่างไร?

    พิธีเสด็จกลับโดยย่อ เริ่มจากการบวงสรวง สร้างศาลเทพารักษ์คาดด้วยผ้าขาว นำพระไปปล่อยลงทะเล และพระเกจิพระทรงคุณ นั่งบริกรรมเรียกพระ จนพระเสด็จกลับมาที่ศาลเทพารักษ์จนหมดเป็นอันเสร็จพิธี การทำพิธีเสด็จกลับดังกล่าวมีหลักฐานเป็นรูปถ่ายตลอดพิธี และผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในพิธีนี้หลายคนทั้งที่อยู่กรุงเทพฯ คราวทำพิธีที่ วัดสารอดและที่สำนักสงฆ์ เกาะสิเหร่ เล่าตรงกันคือขณะที่พระกำลังเสด็จกลับนั้น ตอนที่เห็นเป็นเวลากลางวัน จะเห็นสายรุ้งพาดมายังศาลเทพารักษ์อยู่ตลอดเป็นเวลานาน และที่เพดานคาดด้วยผ้าขาว เริ่มมีน้ำหยดและผ้าขาวเริ่มหย่อนตัวลงทีละนิดเหมือนมีวัตุถุหนักชิ้นเล็ก บางอย่างรวมกันอยู่ตรงกลางจนผ้าตกท้องช้างลงมา ตามน้ำหนักของวัตถุเล็กๆ เหล่านั้น และยังมีรูปถ่ายวัตถุมงคลที่เป็นหลักฐานในคราวนั้นยืนยัน นอกจากพระเครื่องที่นำไปทำพิธีเสด็จกลับ ยังมีประคำ 108 ทั้งเส้นซึ่งก็เสด็จกลับมาด้วยทั้งเส้นเป็นที่น่าอัศจรรย์แก่สายตาผู้อยู่ร่วมในพิธี และผู้สังเกตการณ์



    พิมพ์พระที่พบ

    พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว

    พิมพ์ใหญ่ พระพิมพ์ลึก 2 พิมพ์ , พระพิมพ์ตื้น 1 พิมพ์

    ลักษณะพิมพ์ เป็นรูปพระพุทธห่มจีวร ประทับนั่งปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว ยันต์ประทับด้านหลังมี 2 ลักษณะ เส้นยันต์เล็กคมชัด เส้นยันต์หนา

    พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว

    พิมพ์เล็ก พระพิมพ์ลึก 2 พิมพ์ , พระพิมพ์ตื้น 1 พิมพ์

    ลักษณะพิมพ์ เป็นรูปพระพุทธห่มจีวรประทับนั่งปางสมาธิในซุ้มเรือนแก้ว ยันต์ประทับด้านหลัง มี 2 ลักษณะ เส้นยันต์เล็กคมชัด เส้นยันต์หนา

    พระรอด มี 2 พิมพ์ พระพิมพ์ลึก , พระพิมพ์ตื้น

    ลักษณะพิมพ์ เป็นรูปพระพุทธประทับนั่งมารวิชัยในซุ้มใบโพธิ์

    รูปเหมือนหลวงพ่อคง พิมพ์หนา (หากเป็นกะโหลกประคำจะเจาะรูทะลุด้านบน) พิมพ์บาง (หากเป็นกะโหลกประคำจะเจาะรูทะลุด้านบน)

    ลักษณะพิมพ์ เป็นรูปหลวงปู่คงนั่งเต็มองค์ในซุ้มพิมพ์สามเหลี่ยมมน

    รูปเหมือนหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล รูปไข่ครึ่งองค์ พระมีพิมพ์เดียว

    ลักษณะพิมพ์ ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงปู่ครึ่งองค์ มีชื่อ หลวงพ่อสุภา กนฺตสีโล ด้านหลังมีรอยใบไม้ประทับหลังพอสังเกตเห็นได้ชัด

    พระเทพนิมิต พิมพ์นาคปรก พิมพ์นาคปรกใหญ่ พิมพ์นาคปรกเล็ก

    ลักษณะพิมพ์ พระประทับนั่งบนบัลลังก์นาคปรก 7 เศียร หลังยันต์ห้า

    พระเทพนิมิต พิมพ์กลีบบัว พระมีพิมพ์เดียว

    ลักษณะพิมพ์ กลีบบัวสามเหลี่ยม พระพุทธปางสมาธิประทับนั่งบนฐานบัวหลังเรียบ

    หมายเหตุ : สำหรับพระพิมพ์เทพนิมิต ทั้งสองพิมพ์นี้เป็นพระที่นำพิมพ์พระเทพนิมิตปี 2496 มาตกแต่งพิมพ์และพิมพ์พระร่วมพิธีปลุกเสกจนเกิดการเข้าใจผิดว่า เป็นพระนอกพิธีและนำเข้ามาปลอมปนส่วนใหญ่ในหมู่คณะศิษย์ยุคหลังของ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ก็เข้าใจผิดว่าเป็นพระเทพนิมิตปลอม เพราะเนื้อหาผิดไป แต่ความเป็นจริงคือ พระในพิธีเสด็จกลับ พ.ศ. 2506 และเป็นส่วนที่แจกแก่คณะศิษย์รุ่นแรกๆ ที่มาช่วยงานพิธีนี้ในยุคนั้น

    สีของเนื้อพระทุกพิมพ์เท่าที่พบ

    สีแดง (มันปู) , สีเหลือง , สีดำ

    นอกจากสีหลักที่พบ 3 สี ในแต่ละสีก็จะมีสีที่เข้มและอ่อนแตกต่างกันไม่มาก เช่น พระเนื้อสีดำ ก็จะพบพระเนื้อสีเทา พระเนื้อแดงก็พบทั้งสีแดงและสีแดงเข้มอมน้ำตาล ส่วนสีเหลืองพบสีเหลืองอมเขียวด้วย แต่จำนวนมีน้อยมาก ในเนื้อพระยังมีลักษณะพิเศษ คือดูดด้วยแม่เหล็กติดในพระสีดำและแดง ในเนื้อพระทุกสี จะมีเม็ดสีขาวแทรกอยู่ประปรายทั่วไป สังเกตเห็นได้ชัด



    พระลักษณะพิเศษที่พบ

    พระหน้าทองคำ

    ลักษณะของพระจะมีแผ่นปั๊มด้วยทองคำครอบองค์พระด้านหน้า มีลักษณะสวยงามมีจำนวนน้อย พบในพระทั้งสามพิมพ์ คือ พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว พิมพ์ใหญ่ และพิมพ์เล็ก รูปเหมือนหลวงปู่สุภา รูปไข่ พระรอด

    พระหน้าเงิน (พระคะแนนพัน)

    ลักษณะของพระจะมีแผ่นปั๊มด้วยเงินครอบองค์พระด้านหน้า มีลักษณะสวยงาม มีจำนวนน้อย พบในพระทั้งสามพิมพ์คือ พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้วพิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก รูปเหมือนหลวงปู่สุภา รูปไข่ พระรอดบางองค์พบว่ามีการ กะไหล่ทอง ที่แผ่นเงินด้วย

    พระคะแนนร้อย

    พบในพระขุนแผนพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็ก รูปเหมือนหลวงปู่สุภา กนฺตสีโล รูปไข่ครึ่งองค์ และพระรอดทุกพิมพ์เป็นพระที่มีลักษณะพิเศษ พบได้น้อย เพราะพระคะแนนร้อยคือ พระที่มีเลข ๑ ไทย ประทับหลัง มี 2 แบบ คือ เลข ๑ ใหญ่ , เลข ๑ เล็ก พระคะแนนร้อยคือ พระที่แทนจำนวนการนับ พระทุก 100 องค์จะมีพระคะแนนร้อย 1 องค์ เพื่อช่วยการนับจำนวนให้ง่ายขึ้น พระคะแนนร้อยจะพบในพระที่มีสีเหลืองมากที่สุด รองลงมาคือ สีแดง ส่วนสีดำจนถึงปัจจุบันยังไม่ปรากฏว่ามี จึงอนุมานว่าไม่มีพระสีดำที่เป็นพระคะแนนร้อย

    พระขุนแผนซุ้มเรือนแก้ว

    พิมพ์ใหญ่ (หลังใบไม้)

    พระหลังใบไม้เหมือนพิมพ์รูปเหมือนครึ่งองค์รูปไข่หลวงปู่สุภา นอกจากนี้ยังพบพระที่มียันต์กลับ และบางองค์มียันต์มาประทับซ้อนอยู่กับพระพุทธด้านหน้า ถือเป็นลักษณะพิเศษที่ควรเก็บสะสม

    พระปิดทองเดิม ด้านหน้า

    การปิดทอง แบ่งเป็น 2 ลักษณะ

    ลงรักแล้วจึงปิดทอง ส่วนมากพระที่พบมักมีลักษณะที่ไม่สวยงาม เนื่องจากการขนย้ายจากกรุงเทพฯ เพื่อไปทำพิธีเสด็จกลับที่ภูเก็ต และเมื่อหลังพิธีเสด็จกลับ องค์พระมีคราบขึ้นปกคลุม ไม่สวยงามจึงลงรักก่อนปิดทอง ลักษณะแผ่นทองคำเปลวที่ปิดเรียบตึงสวยงาม แตกต่างจากการปิดทองใหม่อย่างเห็นได้ชัด

    ปิดทองโดยใช้แลคเกอร์ทาบางๆ พระที่ปิดทองลักษณะนี้ส่วนมากเป็นพระที่สวยมีหน้ามีตา หากลงรักทับจะทำให้รายละเอียดเสียไป จึงใช้วัสดุอื่นแทนรักซึ่งดูสวยงามอีกแบบ และเป็นอีกลักษณะหนึ่งที่พบ



    พระเสด็จกลับจากทะเล

    เมื่อทำพิธีบวงสรวง และนำพระพิมพ์ต่างๆ อาราธนาลงในทะเล สำหรับพระที่เสด็จกลับมามีลักษณะอย่างไร ? และพระองค์ไหน จึงจะเรียกว่าพระเสด็จกลับอย่างแท้จริง ในความจริงแล้วพิธีเสด็จกลับทำเพื่อพิสูจน์พุทธคุณขององค์พระ ว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ถูกต้องตามพิธีกรรมและเจตนาอันบริสุทธิ์ของคณาจารย์ที่ทำพิธีหรือไม่ ? หากถูกต้องแล้ว พระจะเสด็จกลับมายังปะรำพิธีที่จัดเตรียมไว้ ถือเป็นเคล็ดวิชาอันศักดิ์สิทธิ์ของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และเป็นที่มาของคำว่า “พระเสด็จกลับ” ส่วนองค์ที่ไม่ได้นำลงไปทำพิธีเสด็จกลับ ก็มีความศักดิ์สิทธิ์เท่าเทียมเสมอกัน เพราะถือว่าทำพิธีปลุกเสกในครั้งเดียวกัน สำหรับพระองค์ที่เสด็จกลับจากทะเลมีวิธีพิจารณา 2 ลักษณะ ดังนี้

    พระหน้าปิดทองเดิม

    ด้วยเหตุผลที่ว่าหลังจากที่ พระเสด็จกลับมาแล้วเพื่อทำสัญลักษณ์ให้แตกต่าง จากพระที่ไม่ได้นำมาทำพิธีเสด็จกลับ จึงปิดทองด้านหน้าไว้เป็นสัญลักษณ์ ปัจจุบันสามารถแยกพระปิดทองเก่าและใหม่ได้ด้วยสีของทองที่ปิดทอง ที่ปิดทองในอดีตจะเป็นทองคำเปลวแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และมีสีทองอมส้มแตกต่างจากสีทองคำเปลวในปัจจุบัน พระที่ลงรักปิดทอง จะพิจารณาได้ง่ายกว่าเพราะสีของทองจะปรากฏให้เห็นได้ชัด

    พระที่มีคราบเกลือ

    ลักษณะของคราบที่ปกคลุมองค์พระอยู่ เกิดจากการที่พระถูกเก็บในภาชนะเป็นระยะเวลาหนึ่งส่วนที่อยู่ด้านบนปรากฏคราบดังกล่าวปกคลุมน้อย ส่วนด้านล่างมีคราบมากกว่าคราบที่เข้าใจกันเป็นคราบเกลือ ในความเป็นจริงคือ คราบที่เกิดจากออกไซด์ของหินปูนในน้ำทะเลที่องค์พระดูดซึมน้ำทะเลไว้ในขณะที่จมอยู่ในทะเล จะสังเกตว่าเป็นคราบที่ติดแน่น ต้องใช้แปลงขัดจึงจะหลุดออก

    พระเสด็จกลับ แม้จะถูกจำแนกออกจากพระที่ไม่ได้นำลงไปทำพิธีเสด็จกลับเป็นที่เสาะหากัน พอจะมีข้อมูลเพิ่มเติมดังนี้ พระทุกพิมพ์รวมกันแล้วมี 84,000 องค์ แบ่งจากวัดสารอด ลงมาที่ สำนักสงฆ์เกาะสิเหร่ ครึ่งหนึ่ง คือ 40,000 องค์ และทั้งสองส่วนยังนำไปบรรจุกรุอีกอย่างส่วนละกว่าครึ่งเป็นมูลเหตุให้ไม่สามารถพบพระได้ง่ายนัก อีกทั้งมีผู้ที่รู้และเห็นพิธีกรรมโดยตลอด หลายท่านเก็บสะสมพระชุดนี้มาโดยตลอดก็มีอยู่มาก เพราะการทำพิธีกรรมนี้ ไม่ได้ปิดเป็นความลับแต่ประการใด ส่วนพระที่นำไปแจกที่ วัดเกาะสีคิ้ว ก็มีจำนวนหลายพันองค์ แต่ก็ตกอยู่กับผู้ที่รู้ และเชื่อถือกันเป็นส่วนมากเพราะมีการทดลองเรื่องคงกระพัน และเมตตาให้เห็นกันด้วยตาเปล่าโดยมีรูปถ่าย ที่สามารถสืบค้นได้จนตลอดพิธีการสร้าง พิธีปลุกเสกไปจนถึงการทำพิธีเสด็จกลับ เป็นหลักฐานสำคัญที่น่าชื่อถือได้
     
  12. naru sut

    naru sut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2013
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +1,411
    แจ้งเลขพัสดุวันที่ 6/9/56

    - คุณวีระวัฒน์
    EK 2134 8987 0 TH

    วันจันทร์ถ้ายังไม่ได้จะไปตามที่ต้นทางให้นะคะ ขออภัยในความผิดพลาดมา
    ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
     
  13. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ตอนนี้ คงเถึยงไม่ได้ว่า หลังจากคนเริ่มรู้ว่ามีพระอรหันต์ ห้าแผ่นดินอายุ 119 ปีเสียชีวิตไป ไม่นาน คนเริ่มเสาะหาพระเก่าๆ ของท่าน เสด็จกลับ รุ่นแรก 06 นะไม่ต้องไปตามแล้ว ทะลุหลายๆ หมื่นไปแล้ว และกำลังแสนในอนาคต แต่ มีเสด็จกลับ อีกรุ่น ปี 2511 ครับ ที่ ลอยทะเลทิ้งที่หลังสวน มี อ ชุมเป็นเจ้าพิธี และหลวงปู่สุภาปรก ซึ่งหลวงปู่ กล่าวไว้เองว่า ขุนแผนก็มาในพิธี ดังนั้น เรื่องเมตตามหาเสน่ห์ไม่เป็นรองใคร สองพลังในหนึ่งเดียว ครับ และที่สำคัญ องเสด็จกลับมาเร็ว ยันต์จะคมชัด องค์ที่ ยันต์หายคืออยุ่ในทะเลเป็นอาทิตย์ พระมีคราบเกลือฝังอยู่สวยมากๆๆ ที่สำคัญเป็น พิมพ์สบู่เลือดหายากสุดๆ สร้างน้อยครับ........แท้ที่จริง ก็คือ พระปี 2506 ครับ เพราะว่า ภริยา อ ชุมสร้างไว้คราเดียวกันแต่ ด้วย อ อยากจะลองลองเลย ทำพิมพ์ด้านหลังยันต์ ที่แตกต่างกันแค่นั้นแต่ ผง เอย ว่านเอย เหมือนปี 2506 ที่ราคากำลังจะแตะ ๆๆ หลายๆหมื่นแล้ว ดังนั้น ใช้ดี เหมือนกัน จ่ายแพงกว่าทำไม พุทธคุณอ่านจากข้างบนแล้วไม่ต้องบรรยาย เอาเป็นว่าไม่มีตายข้างทางแล้วกันและ ความดี ความเฮง ความร่ำรวย มาเสด็จมาสมชื่อ พระอะไร จะกลับมาฝั่งได้ ในเมืองไทย ไม่มีใครทำได้ นอกจากหลวงปู่สุภาองค์เดียวครับ และผมแบ่งให้นั้นเป็นพิมพ์ใหญ่เสียด้วยครับ หายาก สวยคมทุกองค์ ..............2800 บาทครับ ก่อนที่จะแพงกว่านี้และ หาซื้อราคานี้ไม่ได้ครับ ............สิบองค์..ครับ..............จองแล้วโอน เท่านั้นนะครับ เพราะของดี ราคาเบาๆ แบบนี้ ไม่เหลือครับ รับรองได้ ..............ไว้ให้ใช้จริงๆ เลยจาก สิบองค์นี้แล้ว ขอปรับราคาตามกลไกตลาด ณ ตอนนั้นนะครับ .........





    1267096776 (1).jpg หนึ่งเดียวในเมืองไทย กับสุดยอด วิเศษวัตถุมงคล ซึ่งแม้แต่องค์พญานาคยังขอไว้ใช้ หนึ่งองค์ กล่าวคือ ลอยไป 84000 แต่ว่า หายไปองค์เดียว นาคา มานิมิตว่า ขอไว้ใช้ คิดเองแล้วกันครับ ................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2013
  14. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    P1015003 (490x654).jpg

    P1015004 (490x655).jpg

    สวยคม มียันต์ นะเข้าหาชัดเจน คราบน้ำทะเล ติดหนึบสวยคาสสิค ว่านขึ้น สวยมากๆ สีแดงหายากที่สุดในตะกูล พระทั้งหมดครับ อย่าช้า แม้กะพริบตา .......................
     
  15. hi-kick07

    hi-kick07 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2013
    โพสต์:
    871
    ค่าพลัง:
    +1,180
    โอนแล้วค่ะจาน:z13:z13:z13จานขอจองเสด็จกลับ สาม องค์ค่ะ:z16:z16:z16
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 กันยายน 2013
  16. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    1278250_10151890112527442_900727783_n (1).jpg

    เสด็จกลับ 06 หน้าวัด ขยับไป 45000 แล้ว เดี๋ยวของหมด 11 ก็ต้องขึ้น หมื่นกว่า ไม่เชื่อคอยดู แล้วจะ มาหาว่า หล่อไม่เตือน .............
     
  17. บังรอน

    บังรอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,368
    ค่าพลัง:
    +1,788
    ขออนุญาตจองหนึ่งองค์คับ
    ไม่ทราบมีข้อห้ามอะไรบ้าง ไม่ให้พระท่านเสด็จไป
     
  18. albusthai

    albusthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2009
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +623
    จอง เสด็จกลับ 1องค์ครับ
     
  19. บังรอน

    บังรอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,368
    ค่าพลัง:
    +1,788
    โอนแล้วคับ 2,800.89 บาท
    08/09/56 01:30
     
  20. Sod

    Sod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2006
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +471
    ตกค้างแหวนยันต์ข้อมือครับ

    ผมยังไม่ได้รับแหวนยันต์ข้อมือเลยครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...