อริยบุคคล ตั้งแต่ชั้น โสดาบัน ไปจนถึง นิพพาน

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย telwada, 23 สิงหาคม 2013.

  1. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อริยบุคคล ตั้งแต่ชั้น โสดาบันไปจนถึงนิพพาน

    ในบทความหรือกระทู้นี้ มีเจตนาที่จะทำความเข้าใจให้ความรู้ ในทางที่เป็นความจริง สามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง ถึงการที่บุคคลจะสามารถบรรลุเข้าสู่ชั้นอริยบุคคลได้ แต่อาจจะเป็นการไปขัดหรือคัดค้านสิ่งที่มีอยู่เดิม เนื่องเพราะสิ่งที่มีอยู่เดิมนั้น เป็นการแยกแยะรายละเอียด จะว่าถูกต้องก็ไม่ใช่ จะว่าไม่ถูกต้องก็ไม่ใช่ เหตุเพราะขัดต่อหลักความจริงและหลักความเป็นไปได้ของระบบการทำงานแห่งร่างกายของมนุษย์ในหลายๆด้าน

    อันบุคคลผู้ปฏิบัติจนบรรลุสู่ชั้นอริยบุคคลนั้น จะไม่สามารถจำแนกแยกรายละเอียดว่า ต้องละธรรมนั้น ต้องละธรรมนี้ ต้องละอันนั้น ต้องละอันนี้ เหตุเพราะ บุคคลผู้ปฏิบัติจนสามารถบรรลุสู่ชั้นอริยบุคคลได้ จักต้อง รู้ มรรค รู้ผล

    คำว่า รู้มรรค รู้ผล ในที่นี้ หมายถึง การที่บุคคลนั้นจักสามารถรู้ เหตุ รู้ ผลที่เกิดจาก เหตุ และ ฯลฯ ในการดำรงชีวิตของสรรพสิ่ง เมื่อบุคคลนั้นรู้จัก เหตุ รู้จักผล จนเกิดความชำนาญในสมองสติปัญญาแล้ว กลไกของร่างกาย ก็จะสามารถขจัดอาสวะบางอย่างออกจากร่างกายได้

    อาสวะ คือ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก การระลึกนึกถึง ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย บ้างก็เป็นไฟฟ้า บ้างก็เป็น ปฏิกิริยาทางเคมี

    เมื่อบุคคลนั้น รู้มรรครู้ผลจนดียิ่งแล้ว ระบบของร่างกายจะรู้จักขับดัน(ขจัด)เอาอาสวะทั้งหลายเหล่านั้นออกมาจากร่างกาย และแปรสภาพเป็นแสงสีแตกต่างกันไป ตามสภาพ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก การระลึกนึกถึง และสามารถมองเห็นแสงสีเหล่านั้นได้ด้วยตาเปล่า แต่การขับดัน หรือขจัดอาสวะในชั้นมรรคผลนั้น จะขจัดได้เป็นบางส่วน หรือขจัดได้มากกว่าครึ่ง ขึ้นอยู่กับ สมองสติปัญญาที่ได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับมรรคผล และยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย
    เมื่อบุคคลรู้มรรคผลหรือสำเร็จมรรคผลดีแล้ว ก็จะคาบเกี่ยวกับชั้นโสดาบัน เมื่อฝึกปฏิบัติเกิดความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น ก็จะบรรลุสู่ชั้น สกทาคามี ,อนาคามี,อรหันต์ และ นิพพาน ซึ่งข้าพเจ้ายังค้นพบอีกว่า ยังมีชั้นที่สูงกว่า นิพพาน หรือปรินิพพาน อีกอย่างน้อยหนึ่งชั้น

    ในเรื่องของธรรมทั้งหลายที่มีผู้ได้นำมาจากตำราก็ดี หรือเอามาจากแหล่งใดก็ดี ซึ่งกล่าวว่า บุคคลผู้บรรลุชั้นอริยบุคคล จะต้องละธรรมนั้น ละธรรมนี้ ละสิ่งนั้นได้ ละสิ่งนี้ได้ จะไม่มีในร่างกายของบุคคลเลย เพราะในร่างกายของบุคคล จะมีแต่ ความคิด อารมณ์ ความรู้สึก การระลึกนึกถึง

    ยังมีสิ่งที่พวกท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะอยู่ในเพศใดใดก็ตามยังไม่รู้ ยังไม่เข้าใจยังมีอีกมาก ข้าพเจ้าไม่สามารถเขียนสอนได้ เพราะติดขัดในหลายสาเหตุ ในหลายประการด้วยกัน
    ข้าพเจ้าเคยบอกไว้เมื่อหลายปีก่อนแล้วว่า หาก คณะสงฆ์ มาหาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะสอนให้ ข้าพเจ้าไม่ได้โอ้อวดว่ารุ้ หรือโอ้อวดว่าเก่งนะขอรับ ที่จะสอนให้ ก็เพราะ คณะสงฆ์ จะได้มีความรู้ ความเข้าใจ ในหลักธรรมทั้งหลาย ไม่ใช่ไปตามตำราจนไม่ได้คิดถึงหลักความจริง ไม่ได้รู้เพราะไม่ได้ปฏิบัติให้รุ้แจ้งเห็นจริง
    ข้าพเจ้ากล่าวไปข้างต้นแล้ว ก็ขอให้ท่านทั้งหลาย ทุกเพศ ทุกสถานะ ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา จงนำไปคิดพิจารณาให้ดี เพราะสิ่งที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไป ไม่ใช่สิ่งที่ข้าพเจ้ามานั่งเทียนเขียนเอาเอง แต่เป็นประสบการณ์ของข้าพเจ้า

    จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ ทูลพันธ์ (ผู้เขียน)
    ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๖
     
  2. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    อ่านจบแแล้วคับ!!!
    ท่านเทวดาเป็นทหารช่างหรือครับ???
     
  3. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ขั้นที่สูงกว่าขั้นปรินิพพานที่กล่าวถึง
    มีคนไปอยู่หลานคนหรือยังคับ???

    ถามดูเฉยๆ ขั้นนิพพานผมก็เต็มกลืน
    ไม่รู้อีก ๗ ชาติจะไปถึงหรือเปส่า

    แต่ก็ไม่แน่อาจชาตินี้เลยก็ได้
    กะลังหาอุบายสร้างความเสถียร
    ให้ความคิดเป็นกุศลตลอดเวลา
    ท่านเมตตาชี้แนะให้บ้างก็ได้ครับ???
     
  4. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,509
    ค่าพลัง:
    +1,817

    ไม่ทราบขอรับ เพราะขั้นที่สูงกว่าปรินิพพาน เป็นชั้นการฝึก ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยขอรับ แต่ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าจะใช้ชื่อว่ากระไรจึงจะถูกต้องขอรับ

    ความคิดเป็นกุศลตลอดเวลาคงไม่ได้ดอกขอรับ เหตุเพราะมีปัจจัยหลายสิ่งหลายประการที่จะทำให้เกิดความคิดในทางอกุศลบ้าง เป็นธรรมดา
    คุณก็พยายามหลีกเลี่ยงการคิดอกุศล ก็เท่ากับว่าคิดเป็นกุศล คำว่าหลีกเลี่ยงก็คือ ไม่คิดอะไรมากจนเกินไปขอรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...