ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

12/08/13 เวลา 17.39

ร่วมทำบุญ ด้วยครับ กับ ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร
เดือน สค 56

baya 348 123 2459

200 บาท

โมทนาบุญกับผู้ร่วมบุญทุกท่าน

 

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น



กราบพระบาทสมณเจ้า โคดม
องค์พุทธบรม เลิศหล้า
ชี้ทางขึ้นจากตม สู่ห้วง อริยะ
ข้าฯขอถวายสัตยา มุ่งเข้านิพพาน

ขอบูชาพระธรรม มงคล
ธรรมที่จักพาดล สิ้นหล้า
คำสอนองค์ภูวดล มอบให้ สัตว์เอย
จักเพียรมิยอมล้า เพื่อเผยแผ่ธรรม

ขอวันทานอบน้อม พระสงฆ์
อีกทั้งผู้ธำรง ศาสนา
ให้พระศาสน์อยู่คง เอื้อสัตว์ โลกเอย
ขอพรคุ้มเกล้าข้าฯ แกร่งกล้าลุธรรม

ขอกราบพ่อแม่ผู้ กรุณา
ด้วยโคลงแทนมาลา. ดอกไม้
ขอทวยเทพเทวา มอบพร ท่านเฮย
อีกครูมอบความรู้ให้ . ยิ่งแท้กตัญญู

กราบบาทยะมุนีผู้ การุณ
ผู้ปกป้องค้ำจุณ ศาสน์ยิ่ง
พาข้าฯสู่ธรรมสุน- ทรยิ่ง ไตรธรรม
อีกท่านอิทธิฯผู้ยิ่ง แกร่งกล้าธรรมงาม

สองมือข้าต่างธูปเทียน มาลา
ขอก้มกราบวันทา ผู้เกื้อ
มวลเหล่ามิตรกัลยา ณธรรมยิ่ง มิตรเอย
ขอกราบขมาเผื้อ ข้าฯล่วงเกินไป
​

บทกวีจาก Dhammathai.org

​

 

สืบหาพระเครื่องพระอริยสงฆ์ดีวันนี้ ต้องขอแนะนำพระเกจิรูปหนึ่งแถบชลบุรีตามที่สัญญาไว้ครับ เพราะตอนแรกก็ได้มีโอกาสสนทนากับครูอาจารย์ที่น่ากราบใกล้ๆ กรุงเทพฯ เพื่อที่จะได้แนะนำให้ไปกราบไหว้กันได้อย่างสนิทใจ โดยเริ่มแรกไปที่ทางสมุทรสาคร สมุทรสงคราม นั่งนึกรายชื่อไปทีละองค์ๆ แล้วให้ครูอาจารย์กำหนดดูเพื่อที่จะได้นำมาเขียนได้ถูกต้อง ก็คงต้องบอกว่าน้อยเต็มที สำหรับครูอาจารย์ที่เก่งๆ เพราะบางรูปท่านติดฤทธิ์เดชแบบไสยเวทย์ หากแนะนำไปแขวนแล้วบางรายก็จะร้อนรน อยากมีเรื่องมีราวซะมากกว่าทางสงบเย็น ดังนั้น จึงขอแนะนำพระสงฆ์อภิญญาจารย์ที่เป็นสายเย็นให้ก่อนและจะได้เริ่มทยอยลงไปเรื่อยๆ ตามโอกาสจะอำนวยครับ

สัปดาห์นี้เลยย้ายมาที่ จ.ชลบุรี เพราะท่านรูปนี้เป็นหลวงปู่แล้ว มีเมตตาสูงมาก อายุท่านก็กว่า 87 ปี แล้ว ท่านชื่อหลวงปู่ฮก รตินฺธโร วัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ครับ ไปเถอะครับไปกราบท่าน เห็นท่านอายุเยอะแล้ว แต่ท่านก็ยังทำกิจวัตรประจำวัดเป็นประจำเช่นกวาดลานวัดด้วยตนเองทุกอย่าง มาลองดูประวัติของท่านกันครับ น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

หลวงปู่ฮก รตินฺธโร วัดราษฎร์เรืองสุข

พระแท้น่ากราบไหว้องค์หนึ่งในภาคตะวันออก
​

หลวงปู่ฮก รตินฺธโร วัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี พื้นเพเป็นคนจังหวัดฉะเชิงเทรา นามเดิมชื่อ ฮก แซ่เตียว เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2470 ตรงกับปีขาล เป็นลูกคนจีน โยมพ่อท่านเป็นคนจีนแท้ส่วนโยมแม่เป็นลูกครึ่งไทยจีน โดยโยมบิดาชื่อบู๊ แซ่เตียว โยมมารดาชื่อไน้ แซ่เตียว มีพี่น้องร่วมท้อง 10 กว่าคน ปัจจุบันเหลือน้องชาย 1 คน อยู่บ้านมาบตาพุด เมื่ออายุได้ 14 ปี ประมาณ พ.ศ.2484 ช่วงเริ่มต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงปู่ได้ย้ายมาอยู่ที่ชลบุรี หลวงปู่ฮกอุปสมบทเมื่ออายุได้ 48 ปี ที่วัดบุญญฤทธยาราม (วัดบึงบน) ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ในปี พ.ศ.2518 โดยมี พระครูพิบูลย์สังฆกิจ วัดกุณฑีธาร (วัดหัวกุญแจ) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูโสรัจธรรมคุณ วัดบุญญฤทธยาราม (วัดบึงบน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระใบฎีกาฮง วัดบึงบวรสถิตย์ (วัดบึงล่าง) เป็นอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาว่า รตินฺธโร เมื่อบวชแล้วได้จำพรรษาที่วัดบุญญฤทธยาราม (วัดบึงบน) เพื่อดูแลอุปัฏฐากสนองคุณพระกรรมวาจาจารย์

ตั้งแต่พรรษาแรกที่ท่านอุปสมบทก็มุ่งมั่นในทางธรรมฝึกฝน ปฏิบัติฝึกจิต เพื่อหวังความหลุดพ้นโดยท่านบอกว่าท่านเป็นครูของตัวเองนั่นคือท่าน ฝึกด้วยตัวของท่านเอง โดยอาศัยการอ่านตำรา แนวทางการปฏิบัติต่างๆ จนพบแนวปฏิบัติที่ตรงกับจริตของท่านเมื่อล่วงพรรษาที่ 3 ท่านก็เดินทางไปมาจำพรรษาระหว่างวัดบุญญฤทธยาราม (วัดบึงบน) กับวัดเขาน้อยคีรีวัน อีกวัดหนึ่งซึ่งมีสุดยอดเกจิอาจารย์แห่งเมืองชล ที่เป็นผู้บุกเบิกสร้างวัดเขาน้อยคีรีวันต์ขึ้นมา ซึ่งก็คือหลวงปู่โทน กนฺตสีโล เพราะท่านเป็นเพื่อนกับหลวงปู่โทนตั้งแต่ทำงานที่โรงไม้ แถวชลบุรีด้วยกันมาก่อนเมื่อตอนท่านอายุ 17-18 ปีก่อนที่หลวงปู่จะมาอยู่บ้านบึง หลวงปู่ได้มาอยู่ที่ตัวเมืองชลบุรีโดยมาทำงานอยู่โรงไม้กับพี่ชายของท่าน และที่นี่เองที่ทำให้หลวงปู่ได้รู้จักกับหนุ่มเมืองพนัสนิคมคนหนึ่งชื่อโทน หรือในเวลาต่อมาก็คือหลวงปู่โทน กนฺตสีโล แห่งวัดเขาน้อยคีรีวันต์ เกจิชื่อดังแห่งเมืองชลอีกรูปหนึ่ง

และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นเพื่อนในทางธรรมในเวลาต่อมาของหลวงปู่ฮก หลังหลวงปู่มาทำงานที่โรงไม้ได้ 2 ปี ก็กลับไปเกณฑ์ทหารที่จังหวัดฉะเชิงเทราเมื่อปี 2490 เมื่อไม่ได้เป็นทหารจึงกลับมาที่เมืองชลอีกครั้งแต่ไม่ได้ไปอยู่โรงไม้ที่เดิม แต่มาอาศัยอยู่ที่ อ.บ้านบึง และทำอาชีพรับจ้างเลื่อยไม้ทั่วไป แล้วแต่ใครจะจ้าง จนหมดภาระเมื่ออายุได้ 48 ปี จึงสละชีวิตทางโลกมุ่งสู่ทางธรรม หลวงปู่บวชที่วัดบุญญฤทธยารามหรือวัดบึงบนและจำพรรษาที่นั่น จนล่วง 38 พรรษา แม้จะเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่โทน แต่หลวงปู่ฮกก็ไม่เคยเรียนวิชาอาคมอะไรกับหลวงปู่โทนเลย เพราะท่านมุ่งมั่นเพียงความสงบและหลุดพ้นจากกิเลสเพียงอย่างเดียวเท่านั้น มีเพียงแต่ออกธุดงค์กับหลวงปู่โทนอยู่เสมอเพราะท่านกับหลวงปู่โทนสนิทกันมาก จนหลวงปู่บอกว่า ท่านกับหลวงปู่โทนสนิทกันมาก อยู่ที่ไหนก็ไม่เหมือนอยู่กับหลวงปู่โทน ท่านจะเรียกหลวงปู่โทนว่า “พี่โทน” เมื่อล่วงเลย 10 กว่าพรรษา ท่านได้รับมอบหมายจาก พระครูโสรัจธรรมคุณ เจ้าอาวาสวัดบุญญฤทธยาราม (วัดบึงบน) เจ้าคณะตำบลคลองกิ่วในตอนนั้น ปัจจุบันเป็นรองเจ้าคณะอำเภอบ้านบึงให้มาจำพรรษาที่วัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) เนื่องจากขาดผู้ปกครองวัด ท่านจึงได้มาจำพรรษาที่วัดราษฎร์เรืองสุขตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ปัจจุบันท่านอายุ 87 ปี พรรษา 39 ท่านเป็นพระที่สมถะ ไม่หวังลาภ ยศ สรรเสริญใดๆ และมีเมตตามาก ทุกวันหลังจากตื่นจากจำวัดในโบสถ์หลังเก่าท่านจะมากวาดใบไม้รอบกุฏิ เมื่อกวาดเสร็จก็จะไปให้อาหารแมวซึ่งท่านเมตตาเลี้ยงไว้ที่บนกุฏิจำนวนหลายตัว และฉันเช้าและรอรับลูกศิษย์ลูกหาที่แวะเวียนมากราบท่านเพราะท่านไม่รับกิจนิมนต์ที่ไหนอีกแล้วเนื่องด้วยอายุที่เยอะ ถ้าวันไหนลูกศิษย์ไม่มากท่านก็จะเข้าอุโบสถในช่วงหลังฉันภัตราหารเพลแล้ว เพื่อปฏิบัติและฝึกจิตของท่านถ้าวันไหนลูกศิษย์มากราบขอพรกันเป็นจำนวนมากก็จะเข้าอุโบสถเกือบ 18.00 น.

หลวงปู่ฮก นับว่าท่านเป็นพระแท้อีกรูปที่น่ากราบไหว้จริงๆ ท่านไม่เคยพูดโอ้อวดถึงความเก่งของท่านให้ลูกศิษย์หรือใครๆ ฟัง เมื่อถามท่านถึงอิทธิปาฏิหาริย์ต่างๆ ที่ลูกศิษย์หลายคนเจอมากับวัตถุมงคลของท่านก็จะได้คำตอบว่ามันเป็นอย่างนั้น อย่างนี้ของมัน ซึ่งในตอนนี้หลวงปู่ฮกเป็นห่วงเรื่องอุโบสถหลังเก่าของวัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) ชำรุดทรุดโทรมไปมากและหลังคารั่ว ทำให้การทำศาสนกิจของวัดเป็นไปด้วยความยากลำบาก หลวงปู่จึงมีดำริสร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่า เพราะท่านบอกว่าถ้าท่านไม่อยู่แล้วอุโบสถหลังใหม่จะไม่ได้สร้าง จึงอนุญาตให้ทางเจ้าอาวาสจัดสร้างพระเครื่องเพื่อหาทุนในการสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้น และทางวัดก็ได้ออกเหรียญมาหลายรุ่นโดยทางวัดดำเนินการจัดสร้างเอง แต่ด้วยจำนวนการสร้างแต่ละรุ่นนั้นมีจำนวนที่น้อยเพราะค่าดำเนินการจัดสร้างวัตถุมงคลนั้นมีราคาแพงทางวัดไม่มีทุนทรัพย์มากพอ แต่ด้วยประสบการณ์ที่มีมากทำให้เหรียญแต่ละรุ่นที่ทางวัดได้จัดสร้างให้ลูกศิษย์ลูกหาได้เช่าบูชาออกมาแต่ละรุ่นหมดไปอย่างรวดเร็ว หากใครแสวงหาพระแท้อยู่ก็ไปกราบท่านหรืออยากไปบูชาพระเครื่องของท่านเพื่อสมทบทุนสร้างพระอุโบสถได้ทุกวันที่วัดราษฎร์เรืองสุข (มาบลำบิด) ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี การเดินทางไปที่วัดก็หาไม่ยาก แล้วท่านก็จะเห็นว่า หลวงปู่ฮก รตินฺธโร คือพระแท้ที่น่ากราบไหว้อีกองค์หนึ่งในพื้นที่ภาคตะวันออก

ครับ นี่คือประวัติท่านที่ลงในหนังสือพิมพ์บ้านเมือง แต่ในความเป็นจริงท่านเป็นพระที่คมในฝักครับ หากมีเวลา ไปกราบท่านกันครับ

​

 

เนื่องด้วยวันนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดของข้าพเจ้า (๑๘ สิงหาคม) ได้โอนเงินที่ข้าพเจ้าหาได้มาด้วยความสุจริต จำนวน ๕๐๐ บาท จากตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย สาขาสระแก้ว เพื่อร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ กับทางทุนนิธิฯ ของผลบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำ ในครั้งนี้ จงบังเกิดแด่บิดา มารดา บรรพบุรุษ ผู้มีพระคุณ เจ้ากรรมนายเวร ทั้งภพก่อนและภพนี้ ตลอดจนเทวดารักษาตัวของข้าพเจ้า ขอให้พบความสุข หากมีทุกข์ขอให้พ้นจากทุกข์ หากมีสุขขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป สาธุ

 

กิจกรรมที่ รพ.สงฆ์ ประจำเดือนนี้คือวันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2556 โดยนัดพบเพื่อจัดเตรียมสังฆทานอาหารที่โรงอาหารด้านข้าง รพ.สงฆ์ในเวลา 7.30 น.-8.00 น. เหมือนเช่นเคย

จึงขอแจ้งให้ผู้ที่สนใจได้ทราบทั่วกัน โดยผมและกรรมการของทุนนิธิฯ ได้เบิกเงินจากบัญชีของทุนนิธิฯ มาแล้วและจะได้ทยอยบริจาคไปยัง รพ.ต่างๆ ภายในสัปดาห์หน้า โดยมีรายละเอียดการบริจาคสำหรับเดือนสิงหาคม 2556 ดังนี้ (สำเนาการโอนเงินจะได้นำมาลงให้อนุโมทนากันต่อไปครับ)

1 รพ.สงฆ์
- ถวายค่าสังฆทานอาหาร 6,000.- (ประมาณการพระสงฆ์ไว้200 รูป โดยจะถวายเป็นอาหารกล่องๆ ละ 30.-)
- ถวายค่าเวชภัณฑ์ส่วนกลาง 5,000.-
- ถวายค่าโลหิต 5,000.-

รวม 16,000.-

2 รพ.ภูมิภาค
- รพ.แม่สอด จ.ตาก 8,000.-
- รพ.สมเด็จพระยุพราชปัว 5,000.- จ.น่าน
- รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย 8,000.- จ.เลย
- รพ.มหาราช จ.เชียงใหม่ 8,000.-
- รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น 8,000
- รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล 5,000.-
- รพ.สงขลา จ.สงขลา 8,000.-
- รพ.ปัตตานี จ.ปัตตานี 5,000.-

รวม 55,000.-

รวมประมาณการเงินบริจาคของทุนนิธิฯ ตามข้อ 1.+2.+ = 71,000.- (เจ็ดหมื่นหนึ่งพันบาทถ้วน)

ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆ จะได้นำมาโพสท์แจ้งให้ทราบกันต่อไปครับ

พันวฤทธิ์
18/8/56

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/x1WGD4s1NO1Nrykf" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/cc6/tkqE5B.jpeg" /></a>​

 

หากระทู้ไม่เจอค่ะ เลยต้องพึ่ง google ถึงเข้ามาอ่านและติดตามเดือนละครั้งก็ยังรู้สึกคุ้นเคย มาแจ้งการร่วมบุญกับทุนนิธิ เพื่อสงเคราะห์พระสงฆ์อาพาธ
เดือนมิถุนายน 27/06/2556 ร่วมบุญ 500 บาท
เดือนสิงหาคม ชวนคุณแม่ทำบุญด้วยกัน 13/08/2556 ร่วมบุญ 500 บาทค่ะ

ยินดีในบุญกุศลกับทุกคนค่ะ

 

เห็นแล้วชื่นใจครับ ผมและครอบครัว ได้ร่วมกุศล มาทุกสัปดาห์เป็นเวลานานมากเป็นหลายปีแล้วกระมัง

แต่ไม่ได้แจ้งนะครับ

ขอพี่ๆ ทุนนิธิ อ.ประถม อยู่ด้วยกันนานๆ นะครับ

เพราะ ผมเป็นตัวแทนครอบครัว จักร่วมบุญไปตลอดจนหมดลมหายใจเลยครับ

 

ผมและครอบครัวร่วมทำบุญทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร เดือน สค 56 จำนวน 300 บาท 22/08/56 อนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ

 

เรียน ท่านกรรมการทุนนิธิ
นายคงภัค ตรีสารศรี ร่วมบุญ 500 บาทเพื่อสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ
คุณปนัดดา ทองศรี ร่วมบุญ 500 บาทเพื่อสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ

จึงเรียนมาเพื่อทราบและน้อมนำบุญให้ทุกท่านได้ร่วมโมทนากันครับ

 

แจ้งโอนเงินทำบุญครับ ^_^ 100 บาท

โอนเงินต่างธนาคาร - สถานะการทำรายการ
สถานะการทำรายการ ธนาคารได้ทำรายการของท่านเรียบร้อยแล้ว
หมายเลขอ้างอิง KBKR130823536535521
รายละเอียดการทำรายการ
วิธีโอนเงิน ออนไลน์ (ตลอด 24 ชั่วโมง)

ธนาคารเจ้าของบัญชี ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
เพื่อเข้าบัญชี 348-1-23245-9 ศ. ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร
ชื่อเจ้าของบัญชีในฐานข้อมูล PRATOM F.
จำนวนเงิน (บาท) 100.00
ค่าธรรมเนียม (บาท) 25.00
วันที่โอนเงิน 23/08/2013 [19:36:07]
บันทึกช่วยจำ ร่วมทำบุญและร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ รวมถึงร่วมทำบุญทุกอย่าง รวมร่วมบุญจำนวน 100 บาท




แจ้งโอนเงินทำบุญครับ ^_^ 100 บาท

ร่วมทำบุญและร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ
รวมถึงร่วมทำบุญทุกอย่าง
รวมร่วมบุญจำนวน 100 บาท

และขอร่วมทำบุญเป็นสังฆทาน และเพื่อชำระหนี้สงฆ์ นับตั้งแต่อดีตชาติถึงปัจจุบันชาติ
ขออนุโมทนาบุญ ทั้งหลายทั้งปวงให้พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทพ เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายที่มีตั้งแต่ต้น บิดามารดาของข้าพเจ้าทั้งชาตินี้และทุกๆชาติ
พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์
พระโพธิสัตว์ทุกๆพระองค์ พระยายมราช เจ้าการบัญชี ลุงพุฒิ
พระศรีอารียเมตไตรย และสมเด็จองค์ปฐมอันเป็นที่สุด

ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุขสมหวังในเรื่องความรักทุกประการ นับตั้งแต่บัดนี้ตลอดเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
ขอให้ข้าพเจ้ามีดวงตาเห็นธรรม และเป็นคนดีนับตั้งแต่บัดนี้ตลอดเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
ขอให้ ความไม่มี ความไม่รู้ และความไม่ได้ จงอย่าได้บังเกิดกับข้าพเจ้านับตั้งแต่บัดนี้ตลอดเท่าเข้าสู่พระนิพพานด้วย เถิด สาธุ สาธุ สาธุ ...

ขอร่วมอนุโมทนาบุญกับผู้ร่วมทำบุญทุกท่านด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ...
อนุโมทนาบุญครับ,
SilentSoar

 

จำนวนพระสงฆ์ที่อาพาธที่จะถวายสังฆทานภัตตาหารเช้าที่ รพ.สงฆ์ในวันพรุ่งนี้มีประมาณ 120 รูป พร้อมนี้ ผมขอนำหลักฐานการโอนเงินผ่านธนาคารและไปรษณีย์ธนาณัติ พร้อมทั้งใบอนุโมทนาบัตร รายงานการใช้จ่ายเงินของ รพ.ปัตตานี และของ รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย มาให้ทราบและให้อนุโมทนาบุญตามรายละเอียดข้างล่างนี้ด้วยครับ

พันวฤทธิ์
24/8/56

 

ภาพบรรยายทุนนิธิ ฯ ประจำเดือนสิงหาคม 2556 ตอนที่ 1



















สาธุครับ

 

ภาพบรรยายทุนนิธิ ฯ ประจำเดือนสิงหาคม 2556 ตอนที่ 2

















สาธุครับ

 

ภาพบรรยายทุนนิธิ ฯ ประจำเดือนสิงหาคม 2556 ตอนที่ 3









สาธุครับ

 

ภาพบรรยายทุนนิธิ ฯ ประจำเดือนสิงหาคม 2556 ตอนที่ 4

















สาธุครับ

 

ภาพบรรยายทุนนิธิ ฯ ประจำเดือนสิงหาคม 2556 ตอนที่ 5



























สาธุครับ

 

ภาพบรรยายทุนนิธิ ฯ ประจำเดือนสิงหาคม 2556 ตอนที่ 6









พบกันใหม่ 29 กันยายน 2556 ครับ

ขอบุญหนุนนำ ไปพบสุขครับ

สาธุครับ

 

ร่วมทำบุญด้วยครับประจำเดือน กย 56 โอนวันที่ 1 กย 56
จำนวน 555.55 บาทครับ
อนุโมทนา ครับ

 

สืบหาพระเครื่องดีสัปดาห์นี้มาวันอาทิตย์ครับ สาเหตุก็เพราะคืนวันเสาร์เมื่อคืนนี้ พอไหว้พระสวดมนต์เสร็จ รู้สึกปวดศรีษะเลยทานไทลินอลไปหน่อย เลยแวบไปนอนกะว่า จะลงมาอัพเดทให้ เกิดหลับไปจริงๆ ซะเลย ต้องขอประทานโทษเป็นอย่างยิ่งครับ แต่วันนี้ มาไม่พลาดครับ พระขลังชนิดที่เรียกว่ายิงไม่ออก มหาอุด เป็นอย่างยิ่ง สมกับเป็นพระเกจิแห่งเมืองผู้กล้า เมืองนักสู้บรรพบุรุษของเราจริงๆ ครับ เหรียญนี้ทำเอาผมปวดแสบปวดร้อนมือนานโขอยู่เหมือนกัน พอยื่นให้ครูอาจารย์ดู ท่านก็เลยอุปมาว่า แปลกว่ะ พระแถบอยุธยา อ่างทอง ชัยนาท นี่หนักไปทางบู๊ ส่วนพระทางภาคตะวันออก เช่นฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ตราด นี่หนักไปทางเมตตา

เกริ่นมานาน แนะนำเลยครับ ท่านรูปนี้ ท่านเป็นเกจิที่มีอภิญญาด้านบู๊จริงๆ ท่านอยู่ที่ จ.อยุธยา ครับ เหรียญของท่านถูกอย่างไม่น่าเชื่อ ร้อยกว่าบาทเอง แต่คุณภาพชนิดทดลองยิงกันได้เลย ส่วนที่ผมนำมาตรวจนี้ ได้มาโดยบังเอิญ เพราะเป็นคนรู้จักกันแต่นานๆ เจอกันที พูดคุยกัน ทราบว่าเป็นคนอยุธยา เลยขอไปว่า แล้วพกพระอะไรมาแจกล่ะ เค้าก็ใจดี บอกนี่ มีมาองค์เดียว รับมากับมือเลยน๊ะเนี่ย พอจับเหรียญขึ้นมาดู บอกว่าดีจังครับ เค้าเลยบอกว่า เอาไปเลย ว่างๆ ลองมานั่งนึกถึงท่านดู เลยเป็นอาการอย่างข้างต้น ท่านชื่อ หลวงพ่อเือื้อนครับ เป็นหลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ อ.ท่าเรือ จ.อยุธยา ซึ่งปัจจุบันท่านมีอายุ 74 ปี พรรษา 52 แล้ว โดยเหรียญที่ผมได้มาเป็นรุ่นนี้ครับ

​

ทีนี้มาดูประวัติท่านกันบ้าง

ประวัติ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ จ.พระนครศรีอยุธยา

ชีวประวัติ หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้
รายละเอียด : หลวงพ่อเอื้อน อตตมโน มีนามเดิม เอื้อน นามสกุล พันธุมิตร เกิดเมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๓ ที่บ้านเลขที่ ๑ หมู่ ๖ ตำบลวังแดง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ่อแม่ของท่านประกอบอาชีพในการทำนา และพ่อของท่านยังเป็นหมอแผนโบราณมีความเชี่ยวชาญรักษาโรค ปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ เล่าเรียนด้านมนต์คาถาศักดิ์สิทธิ์ ทั้งการดูฤกษ์พานาที ทำนายทายทักก็ถือว่าค่อนข้างมีคนให้ความเลื่อมใสอย่างมาก

หลวงพ่อเอื้อนมี พี่น้องด้วยกัน ๗ คน ครอบครัวของท่านเป็นครอบครัวชาวนาเหมือนชาวบ้านในละแวกเดียวกัน ชีวิตในวัยเยาว์ ท่านก็ช่วยเหลือครอบครัวเท่าที่ช่วยได้ นิสัยตอนเด็กของท่านนั้นเปี่ยมไปด้วยเมตตา ไม่เคยเอาเปรียบใคร ๆ ช่วยเหลือคนอื่น ไม่ชอบการรังแกกลั่นแกล้ง

ถึงท่านจะเป็นเด็กที่ มีรูปร่างค่อนข้างสูงใหญ่กว่าคนอื่น เมื่อเข้าเรียนหนังสือท่านยิ่งไม่ชอบการเอาเปรียบและกลั่นแกล้ง ใครจะมาแกล้งท่าน ท่านก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน อยู่ไปนานวันเข้าก็ไม่มีใครมารังแก เพราะใจมันสู้ซะอย่าง

พอจบชั้นประถมปีที่สี่แล้วก็ออกมาช่วยพ่อแม่ทำนา ทั้งเลี้ยงวัว เกี่ยวหญ้า บางคราวก็ไปหาปลามาประกอบอาหาร เพราะในสมัยนั้นทำนาได้ปีละครั้ง หมดหน้าทำนาแล้วก็ไม่มีอะไร อยู่กับบ้านทำงาน ต่าง ๆ ไป ด้วยความเป็นคนที่ชอบความสงบ

สมัยนั้นชอบมากที่สุดคือในช่วงคืนเดือนหงาย พระจันทร์สาดส่อง สว่างไสวเป็นสีเหลืองที่งดงามมาก ท่านบอกดูแล้วมีความสุข ด้วยการที่เราไปเที่ยวบ้านเหนือบ้านใต้ก็ต้องระวังตัว เจ้าถิ่นเขาคอยจะหาเรื่องทะเลาะวิวาท ยิ่งถ้าไปจีบสาวในหมู่บ้านนั้นด้วยยิ่งแล้วเลยต้องเจอดีแน่นอน ท่านเองจึงไม่ค่อยชอบไปเที่ยวที่ไหน

ช่วงที่เริ่มเป็นหนุ่มนั้นก็ ถือว่าพอตัวเหมือนกัน คือไม่ยอมให้ใครมารังแก แต่ก็ไม่เคยไปรังแกใคร ไปบ้านไหนก็อ่อนน้อมถ่อมตน แล้วอีกอย่างหนึ่งก็เล่าเรียนวิชามาเหมือนกัน โยมพ่อได้ถ่ายทอดให้ ตอนนั้นที่ว่าแน่นั้นต้องเสกปูนคาดคอ ขอดชายผ้าติดตัว บางครั้งก็เสกใบพลูกิน เรียกว่าพอเสกอะไรแล้ว ต้องลองกันได้เลย ถึงจะมั่นใจว่าไปแล้วไม่มีคำว่าเลือดไหลให้แมลงวันกิน ชีวิตเริ่มเป็นหนุ่มมากขึ้น ท่านกลับต้องช่วยโยมพ่อ

บาง ครั้งโยมพ่อจะสอนให้ทำกรรมฐาน ทำให้มีจิตใจสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน ตอนแรก ๆ นั้นก็ทำไม่ค่อยได้ ใจคิดอะไรต่ออะไรไปเรื่อยเปื่อย แต่พอบอกว่าเรียนมนต์คาถาต่าง ๆ ทำให้มีความสนใจ ตอนหลังถึงเข้าใจว่านั่นคือสมาธิ แต่การฝึกฝนทำสมาธิให้สงบ เมื่อนั่งแล้วต้องเห็นอะไร เมื่อจิตมีความสงบ มีสติ ก็ทำให้เกิดปัญญา มีความคิดรอบคอบ จะทำอะไรก็ไม่ผิดพลาด ต้องใช้การพิจารณาก่อน

ชีวิตตอนเป็นหนุ่มของท่าน ไม่มีเรื่องที่ต้องทำให้พ่อแม่ต้องทุกข์ร้อนใจ มีแต่คอยให้ความช่วยเหลือเพื่อน ๆ ช่วยงานทางบ้านทุกอย่าง หลวงพ่อท่านเล่าให้ฟังว่า ตอนใกล้บวชพระนั้น มีความเบื่อหน่ายมาก เบื่อชีวิตในการครองเรือน เพราะเห็นเพื่อน ๆ มีความเดือดร้อนหลายคน บางคนมีลูกเมียแล้วก็ต้องพลัดพรากกัน ป่วยไข้ทรมาน แม้คนในหมู่บ้านที่ป่วยตายนั้นก็หลายคน ยิ่งมาพบเห็นชาวบ้านตายตอนโรคห่าระบาด ท่านบอกตอนนั้นกลัวเหมือนกัน พอเย็นลงมันวังเวงที่สุด บ้านของท่านมีคนแวะเวียนมาไม่เคยขาด เขามาขอให้ช่วยเหลือปัดเป่าให้โรคร้ายนั้นหายไป พ่อของท่านก็ทำน้ำมนต์ใส่กระถางใบโต เสกนานเป็นชั่วโมง

ท่านมาคิดได้ว่าชีวิตคนเรานี้ เมื่อเกิดแล้วก็ต้องป่วยไข้ หากไม่ป่วยไข้อาจถูกคนทำร้ายตาย บางคนยากจนแสนเข็ญหากินจนตาย ทำให้ปลงว่า ชีวิตนี้ต้องตายทุกคน บางรายนอนป่วยนานเป็นเดือนถึงตาย บางรายกว่าจะตายทรมานมาก อันนี้เกิดขึ้นด้วยผลแห่งกรรม

ต่อมา เมื่ออายุ ๒๒ ปี จึงได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบึง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีโอกาสศึกษาวิชาวิปัสสนากรรมฐานตามแบบอย่างหลวงพ่อตาบ แห่งวัดมะขามเรียง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี รวมทั้งศึกษาการเขียนยันต์ตะกรุดจากหลวงพ่อตาบ จน พ.ศ. ๒๕๑๔ จึงได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังแดงใต้ ได้พัฒนาวัดแห่งนี้จนมีความเจริญรุ่งเรืองมาโดยลำดับ

ปัจจุบัน ชื่อเสียงท่านโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ ทั้ง มาเลเซีย สิงคโปร์ เดินทางมากราบท่านถึงวัด ท่านสร้างวัตถุมงคลแต่ละชนิดออกมาน้อย แต่มีประสบการณ์สูง ทั้งด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย วัตถุมงคล พระเครื่องของท่านจึงเป็นที่ต้องการในหมู่ลูกศิษย์อย่างมาก

เพิ่มเติมประวัติหลวงพ่อเอื้อน อตตมโน วัดวังแดงใต้ ต.วังแดง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา

หนึ่งในพระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม่น้ำป่าสัก ของขลังยอดเยี่ยมในด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ทั้งเมตตามหานิยม มีประสบการณ์ให้ประจักษ์มาแล้ว
หลวงพ่อเอื้อน อตตมโน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งในอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวบ้าน และจะได้พบเห็นในงาน
ปลุกเสกพระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆที่ตามวัดนิมนต์ท่านไปร่วมปลุกเสกให้บังเกิดความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ให้มีความขลังในด้านต่างๆ เรียกว่างานไหนไม่มี หลวงพ่อเอื้อนแล้ว ดูเหมือนว่าการปลุกเสกจะไม่สมบูรณ์เอาเลย ก่อนที่จะทราบเรื่องราวความเป็นมาของท่านและอภินิหารต่างๆ มารู้ความเป็นมาของวัด ความเป็นมาของวัดวังแดงใต้ วัดนี้เป็นวัดเล็กๆสร้างขึ้นในต้นรัชสมัยของกรุงรัตนโกสินทร์ อยู่ริมแม่น้ำป่าสักด้านทิศเหนือ บ้านวังแดงเป็นหมู่บ้านที่จัดแต่งผลหมากรากไม้และเครื่องใช้ต่างๆส่งเข้าวัง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวังเก่ามากนักปัจจุบันคือบริเวณใกล้วัดร้อยไร่หรือโรงเรียนท่าช้างพิทยาซึ่งมีโครงสร้างฐานอิฐเก่าแก่มากมาย จากการสันนิษฐานของนักโบราณคดีบอกว่า เป็นที่ตั้งของวังเล็กๆและสถานที่เก็บสิ่งของ ที่พักช้าง ที่พักม้า แต่ก่อนตรงวัดร้อยไร่นั้นทางเดิน ข้ามแม่น้ำจะเป็นก้อนหินก้อนโตๆมากมาย ต่อมาการขนส่งสินค้าต้องใช้ทางเรือ จึงมีการลอกล่องน้ำ แต่การสร้างวัดวังแดงใต้ อาจสร้างขึ้นที่หลังแน่นอน เพราะไม่มีหลักฐานว่าเป็นวัดที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ลำดับเจ้าอาวาสนั้นมีมาแล้วกี่รูปไม่แน่ชัด ปัจจบันหลวงพ่อเอื้อนท่านเป็นเจ้าอาวาส


ใครพบหาเจอะเจอเหรียญข้างต้น อย่าให้หลุดมือไปน๊ะครับ เขียนว่าอายุยืน เข้าใจว่าแขวนท่านแล้วคงไม่ตายด้วยอาวุธแน่ๆ แต่ทางที่ดีแล้ว อย่าประมาทดีกว่าครับ

พันวฤทธิ์
1/9/56

 

โอวาทธรรม
ของ
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีร์เมธาจารย์
(พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

แสดงพระธรรมเทศนา ณ อำเภออำนาจเจริญ
เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๖
(ในสมัยนั้นเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี)


ทำสิ่งใดสำเร็จเพราะมี “ฤทธิ์” : พระอาจารย์ลี ธมฺมธโร

จิตใจเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ
ศาสนาเป็นเรื่องของจิตใจ
ถ้าใจสูง..ศาสนาก็สูง
ถ้าใจต่ำ..ศาสนาก็ต่ำ

"ฤทธิ์" ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า เหาะเหินเดินอากาศได้
"ฤทธิ์" แปลว่า "สิ่งที่สำเร็จได้ด้วยความเจตนา"

"อิทธิฤทธิ์" เป็นเรื่องของร่างกาย
คือ สิ่งที่เห็นได้ด้วยตา

"ปุณณฤทธิ์" เป็นเรื่องของจิตใจ
สำเร็จได้ด้วยความเป็นเองบันดาล

คนที่ทำอะไรไม่สำเร็จ คิดอะไรไม่สำเร็จ
ก็เพราะไม่มีฤทธิ์ ไม่มีอำนาจ

ฉะนั้น เราจึงต้องฝึกฝนจิตให้ดี ให้มีอำนาจ
ถ้าไม่ฝึกฝนมันก็ไม่ดีขึ้น เหมือนพื้นแผ่นดินไม่มีคนดัดแปลง
มันก็เป็นที่สำหรับคนเหยียบย่ำ
เป็นป่า เป็นพง เป็นที่อาศัยของสัตว์

ถ้าใจของเรามี "มนุษยธรรม" มันก็เจริญ
มี "เทวธรรม" มันก็เจริญ ​