ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ทำบุญกันเยอะๆนะครับ รักษาศีล ภาวนาให้รอดพ้น ภัยครั้งใหญ่ครั้งนี้

(b-glass) ทำบุญกันเยอะๆนะครับ รักษาศีล ภาวนาให้รอดพ้น ภัยครั้งใหญ่ครั้งนี้ คนมีบุญเท่านั้นนะถึงจะรอดพ้นสู่ยุคใหม่ ยุคที่มีแต่ศีลธรรม ไม่มีขโมย ไม่มีคนชั่ว เป็นยุคของศีลธรรมอันดี คนที่จะรอดใช่ทำดีแค่ชาตินี้จะรอดนะแต่เขาเอาทุกๆภพทุกๆชาติมาบวกลบคูณหารกัน ใครดีพอจึงอยู่รอด แต่เราก็ต้องทำดี ให้มากมากเวลาเหลือน้อย อย่างน้อยก็อาจจะลดโทษจากหนักให้เบาบางลงได้บ้างก็ยังดี....(555)

 

ทำบุญ รักษาจิตใจของเราให้บริสุทธ์งดงาม ทำสมาธิปฏิบัติธรรมเจริญพรหมวิหารสี่เอาไว้ให้เป็นปกติ

เป็นหนทางรอดพ้นครับ

 

<TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: 0px" width=175>ลุงคนเชียงใหม่<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:13 AM
วันที่สมัคร: Nov 2004
ข้อความ: 63 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 94 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 991 ครั้ง ใน 57 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 141


</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->สวัสดีครับ
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->สวัสดีครับ พี่คณานันณ์
ผมหลานพระคุณลุงครับ
ช่วงนี้ผมอาการดีขึ้นมากสามารถปฏิบัติสมาธิจิตได้ตามปกติแล้ว
ในช่วงที่ผ่านมาผม ไปอนุโมทนากฐินที่ชาวบ้านซิเล (หมู่บ้านเล็กๆ
ชาวจินข่า)ตอนเหนือสุดของพม่าติดเขตจีนตอนใต้ ด้วยร่างจิต
โดยอธิฐานขอบุญบารมีของพระคุณลุงคุ้มครอง
กฐินที่นั้น ต่างจากบ้านเราครับ
ภาพที่แปลกใจบ้านเรามักจะถวายกฐินเป็นเงิน
แต่ที่โน้นเขาช่วยกันทั้งวันทั้งคืนในการ ตัดเย็บย้อม และเตรียมอัฐบริขาล เพื่อถวายแก่พระโดยไม่หลับไม่นอนจนกว่างานจะเสร็จ
โดยเชื่อว่าถ้าทำไม่เสร็จ ต่อไปจะไม่ได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีก
ซึ่ง เป็นกุสโลบายที่ดีในการในการให้จิตครองบุญนาน
และชาวบ้านที่มีประมาณ 20 หลังคาเรือน ทุกคนช่วยกันปั่นไหม
ทอผ้าฝ้ายนำมาเย็บต่อกัน ย้อมสีผ้า
ปั้นบาตร (ดิน) เย็บรองเท้า
ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกดิน จนเช้าจะต้องเสร็จ
และจะมีการฉลองบุญเผาบาตร ก่อน 1 วัน
และถวายในวันที่9 ที่ผ่านมา วันที่ภาษาเหนือเรียกวันเก้ากอง
หรือวันเก้ายอดครับ
ซึ่งเขาบอกว่าปีนี้ชาวบ้านบอกว่า
เป็นบุญที่พระอาจารณ์โสณะกลับมาจำพรรษาที่นี่อีก
เพราะพระอาจารย์เคยมาจำพรรษาที่นี่ตอนที่เขายังหนุ่มๆ
และเพิ่งกลับมาอีกรอบ โดยชาวบ้านก็ยังดูแลสถานที่ ศาลา
ที่พระอาจารย์ กับพระคุณลุง มาโดยตลอด (คนที่บอกผมอายุรูปร่างประมาณ 50กว่า พอถามอายุแล้วปรากฏว่าอายุ 80+กว่าแล้วครับ )
ที่หมู่บ้านนี้คนอายุ ร้อยกว่าๆ ยังทำงานได้เป็นปกติเหมือนคนบ้านเราอายุประมาณ 60-70 ปี ครับ ถือศีลปฏิบัติธรรมกันทุกบ้านครับ
*******************
ในช่วงกลับผมอธิฐานกลับมาช้าๆเพื่ออยากเห็นภาพที่ทางผ่านด้วย
สิ่งที่พบเห็นสวยดีครับ แต่ที่น่าแปลกใจ คือความเงียบของสัมภเวสี
หรือเจตภูติต่างๆ แทบไม่พบเห็น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมกลับมาถามพระอาจารยอำนวย พระอาจารย์หัวเราะบอกว่าเสือมาหมาก็เผ่นหมด หมายถึงมีสิ่งที่มีพลังอำนาจสูงกว่าใหญ่กว่าเข้ามา
จะมีการหลีกหนีของวิญญานที่เล็กกว่านั่นเอง
********************************
พี่คณานันณ์ มีภูมิจิตสูงกว่าผมหรือสมาชิกอื่นๆลองเข้าไปดูในพื้นที่
นะครับ
********************************
ผมมีข่าวดีสำหรับพวกเรานะครับ พระคุณลุงเมตตา บอกผมว่า
มีพระปัจเจกพุทธเจ้าและอรหันต์ มาอยู่ที่ตอนเหนือของบ้านเรา(จีนตอนใต้ พม่าตอนบน)หลายองค์ เพื่อมาคอนก้อนดินสุวรรณภูมิ
อันเป็นแหล่งศูนย์กลางแห่งพุทธศาสนา ไม่ให้ลื่นหลุดจากก้อนที่พาดไว้ จนด้ามขวานจมลงไป อย่างรวดเร็ว ซึงหายนะยิ่งใหญ่แน่นอนครับ
แต่อย่างไรก็ตามกรรมหนักที่เกิดขึ้นก็ยังคงเป็นไปตามกรรมครับ
แต่คนที่เตรียมตัวทางจิต และใจกายพร้อม ไม่ตื่นตูม
รอดแน่นอนครับ แต่คนที่มีกรรมที่ละเมิดศีลข้อปาณา นั้น
จะมีอาการป่วยอย่างรุนแรงครับ ของให้เร่งที่ความดี เป็นครุกรรม
จนเกิดผล อโหสิกรรมจากเจ้ากรรม ก็จะช่วยได้ครับ
********************************
ช่วงนี้ผมอธิฐานจิต ไปกราบพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว
ที่วัดป่าดาราภิรมย์ ทุกวันพระครับ
ใครที่มีภูมิจิตเท่ากันหรือสูงกว่าเชิญพบกันได้
แต่ภูมิจิตผม ในร่างจิตยังไม่สามารถพูดคุยได้โดยตรงครับ
ยกเว้นมีท่านที่มีภูมิจิตสูงกว่า ช่วยครับ
หวังว่าจะได้พบพวกเราชาว พลังจิตนะครับ
*******************************
ขอบารมี พระพุทธพระธรรม พระอริยสงฆ์ คุ้มครอง
พี่คณานันท์และชาวพลังจิตทุกคนครับ
สวัสสดีครับ
หลานพระคุณุลง

*******************************
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

โทษของมิจฉาทิฎฐิ
โดยคุณ ไชยานุภาพ ​

พระเทวทัตโดนธรณีสูบ​

มิจฉาทิฏฐิ หมายถึง ความเห็นที่วิปริตผิดแผกไปจากความเป็นจริง (ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม) ซึ่งมิจฉาทิฏฐิที่สำเร็จเป็นอกุศลกรรมบถนั้น เรียกว่า "นิยตมิจฉาทิฏฐิ" ดังปรากฏอยู่ในสามัญผลสูตร ฑีฆนิกาย สีลขันธวรรค มี ๓ ประการดังต่อไปนี้คือ

๑. นัตถิกทิฏฐิ มีความเห็นผิดว่า จะทำสิ่งใดก็ตาม ทำแล้วก็แล้วกันไป ไม่มีผลเกิดขึ้น (ปฏิเสธผล)
๒. อเหตุกทิฏฐิ มีความเห็นผิดว่า วิถีแห่งสรรพสัตว์ทั้งหลายที่กำลังเป็นไปอยู่ มิได้มีเหตุนำ เหตุหนุน เหตุเนื่องอยู่เบื้องหลัง ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเกิดและเป็นขึ้นได้เอง (ปฏิเสธเหตุ)
๓. อกิริยทิฏฐิ มีความเห็นผิดว่า การกระทำของสรรพสัตว์ทั้งหลายไม่สำเร็จเป็นบุญ-บาปแต่อย่างใด เป็นสักแต่ว่ากิริยาอาการเท่านั้น (ปฏิเสธทั้งเหตุและผล)

ในบรรดานิยตมิจฉาทิฏฐิทั้ง ๓ ประการนั้น ผู้ที่มีนัตถิกทิฏฐิย่อมมีความเห็นผิดดังต่อไปนี้

๑. <!--coloro:#990000--><!--/coloro-->นตฺถิ ทินฺนํ<!--colorc--><!--/colorc--> เชื่อว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล
๒. <!--coloro:#990000--><!--/coloro-->นตฺถิ ยิฏฺฐํ<!--colorc--><!--/colorc--> เชื่อว่า การบูชาบุคคลที่ควรแก่การบูชา มีบิดามารดา อุปัชฌาย์อาจารย์ และอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย เป็นต้น ไม่มีผล
๓. <!--coloro:#990000--><!--/coloro-->นตฺถิ หุตํ<!--colorc--><!--/colorc--> เชื่อว่า การปฏิสันถารบุคคลที่ควรแก่การต้อนรับเชื้อเชิญไม่มีผล
๔. <!--coloro:#990000--><!--/coloro-->นตฺถิ สุกตทุกฺกฏานํ กมฺมานํ ผลํวิปาโก<!--colorc--><!--/colorc--> เชื่อว่า กฎแห่งกรรมไม่มีจริง
๕. <!--coloro:#990000--><!--/coloro-->นตฺถิ อยํ โลโก นตฺถิ ปโร โลโก<!--colorc--><!--/colorc--> เชื่อว่า โลกนี้ โลกหน้าไม่มี (เชื่อว่า "ตายแล้วสูญ" นั่นเอง)
๖. <!--coloro:#990000--><!--/coloro-->นตฺถิ มาตา นตฺถิ ปิตา<!--colorc--><!--/colorc--> เชื่อว่า พระคุณของบิดามารดาไม่มี
๗. <!--coloro:#990000--><!--/coloro-->นตฺถิ สตฺตา โอปปาติกา<!--colorc--><!--/colorc--> เชื่อว่า สัตว์โลกที่เกิดขึ้นแล้วโตทันที (โอปปาติกะ) อาทิ เทวดาและสัตว์นรก เป็นต้น ไม่มีจริง
๘. <!--coloro:#990000--><!--/coloro-->นตฺถิ โลเก สมณพฺรหฺมณา สมฺมคฺคตา สมฺมาปฏิปนฺนา เย อิมญฺจ โลกํ ปรญฺจ โลกํ สยํ อภิญฺญา สจฺฉิกตฺวา ปเวเทนติ<!--colorc--><!--/colorc--> เชื่อว่า สมณะผู้สามารถบำเพ็ญเพียรเพื่อเผาผลาญอาสวะกิเลสให้หมดสิ้นได้ อาทิ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และเหล่าพระอรหันตสาวกไม่มีจริง

ในบรรดาโทษของอกุศลกรรมทุกชนิดนั้น โทษอันเกี่ยวเนื่องกับนิยตมิจฉาทิฏฐิ จัดเป็นโทษที่ร้ายแรงที่สุด สมดังมีพระพุทธดำรัสไว้ ในอังคุตตรพระบาลีว่า

<!--coloro:#990000--><!--/coloro-->"ปรมานิ ภิกฺขเว วชฺชานิ"​

ดูกร! ภิกษุทั้งหลาย ความเห็นผิดที่เป็นนิยตมิจฉาทิฏฐินี้ มีโทษภัยอันใหญ่หลวงที่สุด<!--colorc-->

<!--/colorc-->​

<!--coloro:#FF0000--><!--/coloro-->ปล. อนันตริยกรรม ๕ ลงมหานรกขุมอเวจี แต่สำหรับนิยตมิจฉาทิฏฐินั้น มีโทษถึงลงโลกันตร์ครับ

ที่มา http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=3733

<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec-->

 

บางแง่มุมที่น่าคิดจากหนังดัง
Spider-Man3 ​

​

...แต่แล้วพายุครั้งใหม่ก็เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ... เมื่อชุดฟอร์มสไปเดอร์แมนของปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ โดนสารสีดำ(พลังฝ่ายมาร)ครอบงำ กลายเป็นสีดำทมึน และทวีพลังรุนแรงยิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลให้ความโกรธแค้นที่ฝังลึก ระเบิดออกกลายเป็นพลังด้านมืดมหาศาลซึ่งปีเตอร์ ไม่อาจควบคุมมันได้ ปีเตอร์กลายเป็นคนแข็งกร้าว มั่นใจเกินไป และเพิกเฉยต่อคนที่รักเขามากที่สุด เขาต้องเลือกเอาระหว่างพลังอำนาจมหาศาล กับการเป็นวีรบุรุษผู้เคยเป็นที่รักของประชาชนในแบบเดิม มันเป็นการต่อสู้เพื่อพิชิตอำนาจมืดในตัวเอง.....

​

สิ่งที่ควรสังวรก่อนฝึกอิทธิฤทธิ์

ใครที่บังอาจใช้อำนาจพลังจิต ในทางผิดศีลธรรม ไม่ว่าจะทำด้วย ความโลภ โกรธ หลง ขอให้พลังจิตที่ฝึกได้นั้น เสื่อมสลายโดยฉับไวและกรรมจงตามทัน

ท่านควรสังวรว่า การที่ท่านมีพรสวรรค์ในฌาน-ญาณอันวิเศษมากนี้ จงสงวนความดีเหล่านี้ไว้ให้อยู่เพื่อความดี อย่าให้จิตใจหลงตกอยู่ภายใต้พลังอำนาจมืดที่จะใช้พรสวรรค์ในทางที่ผิด

จิตใจเราสิเป็นใหญ่ ความคิดอันชั่วร้ายจะบดบังเบียดเข้ามาที่จิตใจนั้น ท่านจะต้องตั้งสติด้วยดวงจิตอันบริสุทธิ์ที่แกร่งด้วยความดี ติดตามอย่างใกล้ชิดกับภาวะของความชั่วร้ายที่จะเข้าแทรก ในดวงจิตของเราอยู่เสมอ เมื่อรู้ทันต่อเหตุการณ์นั้นแล้ว จิตย่อมคงทนต่อการบังคับของพลังความชั่วร้าย สามารถชนะกิเลสมารเหล่านั้นได้

โดยคุณกระเจียว สมาชิก
ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=105

 

อดคิดไปไม่ได้นะครับ ว่า คนที่สร้าง Spider-Man3 นี้ เขาเข้าใจหลักธรรมบางอย่างของพุทธศาสนา เอ!!! หรือเขานับถือพุทธครับ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ขอ สาธุ ครับ

 

เหยื่อพายุไซโคลนถล่มบังกลาเทศพุ่งกว่า1,000 ศพ กู้ภัยรุดช่วยด่วน

​

​

​

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าเหตุพายุไซโคลนซีดร์ เป็นไซโคลนระดับ 4 กำลังลม 240 กม./ชม. พัดจากอ่าวเบงกอลเข้าถล่มภาคตะวันตกเฉียงใต้ของบังกลาเทศ ล่าสุดมีการยืนยันยอดผู้เสียชีวิตว่าอยู่ที่กว่า 1,000 ศพ และประเมินว่าตัวเลขน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 1,100-2,000 ศพ ขณะที่ 400,000 คน ได้รับผลกระทบจากพายุ และบ้านเรือนกว่า 20,000 หลังพังเสียหาย

สำนักงานประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ (OCHA) ได้รับรายงานว่ามีเรือประมงราว 150 ลำ และลูกเรือประมงประมาณ 1,000 คน สูญหายในทะเล อิทธิพลของไซโคลนซีดร์ทำให้บางหมู่บ้านพังราบเป็นหน้ากลอง ขณะที่กรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ และอีกหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศ กระแสไฟฟ้าขัดข้อง อย่างไรก็ตาม เมื่อ 17 พ.ย. ท่าเรือใหญ่ในจิตตะกองและมองกลา และสนามบินในกรุงธากาและจิตตะกองเปิดใช้งานได้ตามปกติแล้ว
รายงานระบุเมื่อปี 2513 บังกลาเทศเคยเผชิญวาตภัยครั้งรุนแรงสุดในโลกเนื่องจากมีผู้เสียชีวิต 300,000-500,000 ศพ นายซามาเรนดรา การ์มาการ์ หัวหน้ากรมอุตุนิยมวิทยาของบังกลาเทศ กล่าวว่า ได้มีการส่งอาสาสมัครเตือนภัยชาวบ้านให้อพยพออกจากพื้นที่ก่อนแล้ว ไม่เช่นนั้นอาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้ ทั้งนี้ สภาเสี้ยววงเดือนแดงได้ส่งอาสาสมัครราว 30,000 คน ออกเตือนประชาชนตามหมู่บ้าน
นายจอห์น โฮล์มส์ รองเลขาธิการยูเอ็นฝ่ายมนุษยชน เผยได้เตรียมงบหลายล้านดอลลาร์เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในบังกลาเทศ ขณะที่สภาเสี้ยววงเดือนแดงเองก็ส่งหน่วยกู้ภัยกว่า 10 ทีมลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ นอกจากนั้น ยังมีอาสาสมัครจากที่ต่างๆมาร่วมช่วยด้วย อาทิ จากโครงการอาหารโลกยูเอ็น กลุ่มเซฟ เดอะ ชิลเดรน และกลุ่มเวิลด์ วิชั่น

ด้านประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย รมว.บรรเทาสาธารณภัยรัฐเบงกอลตะวันตก ระบุอินเดียไม่ได้รับผลกระทบรุนแรง มีกระท่อมสร้างจากโคลนถล่มราว 1,000 หลัง และมีผู้เสียชีวิตเพียงรายเดียว.

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [18 พ.ย. 50 - 04:24]

ระทึก!แผ่นดินไหว 7.7 ริกเตอร์เขย่าชิลี​

​

เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 14 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนระดับ 7.7 ริกเตอร์ ทางภาคเหนือของชิลี ห่างจากกรุงซันติอาโก เมืองหลวงประมาณ 1,260 กม. โดยศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ทะเลทรายอะตาคามา และอยู่ลึกจากใต้พื้นดิน 60 กม. ถึงกระนั้น แรงสั่นสะเทือนยังรับรู้ไกลถึงกรุงลาปาซ เมืองหลวงของประเทศโบลิเวีย ซึ่งมีพรมแดนติดกัน รวมถึงประเทศบราซิลซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป

ขณะเดียวกัน มีรายงานแผ่นดินไหวต่อเนื่องระดับ 5 ริกเตอร์ ตามมาอีก 3 ระลอก แรงสั่นสะเทือนได้เขย่าตึกรามบ้านช่องในชิลีอย่างรุนแรง ส่งผลให้บ้านเรือนพังถล่มลงมาหลายพันหลัง มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ศพ เป็นหญิงชราวัย 88 ปี ซึ่งถูกกำแพงพังถล่มทับ อีกรายเป็นหญิงวัย 54 ปี และมีผู้บาดเจ็บ 117 ราย โดย 2 เมือง ที่ได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือนมากที่สุด คือ เมืองมาเรีย เอเลนา และเมืองโทโคพิลลา ซึ่งเมืองโทโคพิลลาได้รับความเสียหายรุนแรงที่สุด โดยบ้านเรือนอย่างน้อย 1,200 หลัง พังทลายราบคาบ ชาวบ้าน 4,000 คน ไร้ที่อยู่อาศัย
ผลพวงของธรณีกัมปนาทครั้งนี้ ส่งผลให้ถนนหลายสิบสายในเมืองโทโคพิลลาติดขัดเป็นอัมพาต กระแสไฟฟ้าดับทั้งภูมิภาคนานหลายชั่วโมง มีคนงานติดอยู่ในอุโมงค์นับ 10 คน ขณะเข้าไปซ่อมแซมถนนแต่ทั้งหมดปลอดภัยดี โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เคลียร์ถนน 16 สาย ให้สามารถใช้การได้ และกระแสไฟฟ้ากลับสู่สภาวะเกือบปกติแล้ว ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทางการได้ประกาศเตือนภัยสึนามิ แต่เนื่องจากแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากฝั่งทะเลแปซิฟิกมาก จึงยกเลิกการประกาศเตือน.

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ [16 พ.ย. 50 - 04:18]

เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.7 ริคเตอร์ บริเวณพรมแดนเปรู-เอกวาดอร์ เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือความเสียหาย

​

แผ่นดินไหวดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อคืนวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลาประมาณ 10นาฬิกาวันนี้ตามเวลาในบ้านเรา สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของสหรัฐเผยว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้พื้นดิน 119 กิโลเมตร ห่างจากกรุงกิโต เมืองหลวงของเอกวาดอร์ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ 245 กิโลเมตร โดยวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.7 ริคเตอร์ ​

แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ไกลถึงเมืองชายฝั่งกัวยากิล แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ผู้บาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต นักธรณีวิทยาชาวเปรู เผยว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นบริเวณพรมแดนเปรู-เอกวาดอร์ ครั้งนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในเปรู เมื่อ 2 เดือนก่อน​

โดยทีมข่าว INN News <!-- Show Date -->16 พฤศจิกายน 2550 14:16:00 น.​

เกิดแผ่นดินไหว 5.3 ริกเตอร์ระดับปานกลางบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีวิทยาของอินโดนีเซียรายงานว่า แผ่นดินไหวดังกล่าวมีขนาด 5.3 ริกเตอร์ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าตรู่ โดยจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 10 ก.ม. ตรงจุดที่ห่างจากเมืองสินาบังในจังหวัดอาเจะห์ บนเกาะสุมาตราราว 212 กม. ​

ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาไทย แจ้งว่าเมื่อเวลา 12.06 น. วันนี้ (17 พ.ย.) ตรวจพบแผ่นดินไหวความรุนแรง 5.0 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางที่ KEP. MENTAWAI REGION ประเทศอินโดนีเซีย ความลึกจากระดับผิวดิน 45 กม.​

โดยทีมข่าว INN News <!-- Show Date -->17 พฤศจิกายน 2550 16:01:13 น.​

 

โอ๊ย ทำไมมันน่ากลัวยังงี้ล่ะ

 

ไป ๆ มา ๆ นี่เอาแน่นอนไม่ได้สักอย่าง สะสมนิพพานสมบัติดีกว่า กำไรที่สุด
เตรียมพร้อมรับ คลื่นแถวตะวันออก แต่ไม่ใช่คลื่นทะเล แต่อาจเป็นคลื่นมหาชนก็ได้

ฮา ฮา ฮา...


ความไม่แน่นอน คือ ความแน่นอน

ลุงคนเชียงใหม่<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
สมาชิก ( หลาน ) ผมมีข่าวดีสำหรับพวกเรานะครับ พระคุณลุงเมตตา บอกผมว่า
มีพระปัจเจกพุทธเจ้าและอรหันต์ มาอยู่ที่ตอนเหนือของบ้านเรา(จีนตอนใต้ พม่าตอนบน)หลายองค์ เพื่อมาคอนก้อนดินสุวรรณภูมิ
อันเป็นแหล่งศูนย์กลางแห่งพุทธศาสนา ไม่ให้ลื่นหลุดจากก้อนที่พาดไว้ จนด้ามขวานจมลงไป อย่างรวดเร็ว ซึงหายนะยิ่งใหญ่แน่นอนครับ
แต่อย่างไรก็ตามกรรมหนักที่เกิดขึ้นก็ยังคงเป็นไปตามกรรมครับ

แต่คนที่เตรียมตัวทางจิต และใจกายพร้อม ไม่ตื่นตูม

รอดแน่นอนครับ แต่คนที่มีกรรมที่ละเมิดศีลข้อปาณา นั้น
จะมีอาการป่วยอย่างรุนแรงครับ ของให้เร่งที่ความดี เป็นครุกรรม
จนเกิดผล อโหสิกรรมจากเจ้ากรรม ก็จะช่วยได้ครับ


--ไม่เกินกรรม กรรม คือ การกระทำ--
------------------------------
นาคา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_819256", true); </SCRIPT>
สมาชิก ไม่ใช่ ความฝัน ครับ

---หลายเช้า ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ( ที่มีเวลา ว่างจากการหยุดงานทางโลก )---

พระอาจารย์ ปู่ ท่านหนึ่ง ( หลายท่าน เรียกว่า หลวงปู่ ) ผมนิมนต์ ท่าน บิญฑบาตร ทุกวันเสาร์ ..ท่านจะบอกกล่าว เฉพาะ ในสิ่ง ที่เกี่ยวข้อง กับ ลางสังหรณ์.. อาจจะ นาคา คนนี้ เพราะ การที่ บอกในสิ่ง ที่พิสูจน์ ไม่ใด้ พระ ท่านอาจจะ...

เมื่อวานนี้ ผมกราบเรียน ท่านเรื่อง ช่วงนี้ อากาศ ชักยังไร ๆๆๆ ไม่รู้..ท่านกล่าว ว่า..ธรรมดา น่ะ เพราะความที่โลก เกิด อะไร หลาย อย่างเข้ามากระทบ

เมื่อเช้า นี้ ท่านเห็น บาง สิ่ง ที่ มากระทบ รอบๆ ตัว เรา ท่าน ขณะ กำลังโปรด สัพพเว...มนุษย์ ที่กำลัง ทำบุญ ใส่บาตร ...

ท่านกล่าว่า...

ระวัง กันใว้ บ้าง เน้อ....กลางคืน ที่ดึก คนหลับกันแล้ว น่ะ มันจะมาอีก... วันที่ระวัง วันศุกร์..

ทางไหน....ภาคใต้ ....ดินแดน เมืองสำคัญ ...ท่านบอก จังหวัด../ ...และ ที่เกิด เมื่อ ปลายปี 47 ..

ซึ่ง นาคา เอง ยัง คิด ว่า ทาง ชายฝั่งอ่าวไทย อาจจะไม่แน่ เหมือนกัน

หลายครั้ง แล้ว ที่ นาคา นั่งธรรมะ แล้ว มองดู บางอย่าง มัน มี ตึกร้าง ขณะ กำลัง จะซ้อน กาย เข้ามา..

แต่ ยัง หวัง ว่า....คงยังไม่ถึง มั้ง..

ประกอบ หลายกระแส ....ที่เข้ามา ...ปลาย 50 กลาง 51 ระวัง ใว้ 51 , 52 , 53

เบื้องบน ท่านกำหนด ใว้ แล้ว ..อยู่ ที่ข้างล่าง ท่านผู้ทรงอภิญญา / หลวงปู่ หลายท่าน ขอกันเอาใว้..


เพื่อน มุสลิม ที่ ทำงาน เค้า เขียน ระบุ ว่า...
ธันวา 55 ระวัง อาจจะเกิดอาเพศ+ ภัยพิบัติ กับโลก มีเหตุการณ์ ทุกมุมโลก ทั่ง กาแลคซี่ เกิด พายุ สุริยะ ..

แค่ ขอบอกกล่าว ทุกท่าน ที่มาอ่าน กันครับ ..ให้ เตรียม ความพร้อม ความไม่ประมาท ในสิ่งทั้งปวง...


สิ่งที่แน่นอน คือ ความไม่แน่นอน


นาคา คนนี้ อาจจะ จม ลงใต้ ผืน ดิน น้ำ ...ลม ไฟ ..

กิ๊ก / สื่อลามก / เล่นชู้ / เด็ก อายุน้อย 10 กว่าปี ฆ่าข่มขืน / เกย์ เลดี้ / ลูกฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ / ลูก- พ่อข่มขืนลูกในไส้--- ฯลฯ

สิ่งที่วิปริต --เข้ามาในสังคมพุทธ--- วัตถุ เจริญ จิตใจ ชนเสื่อม--

ชิ้นส่วน เรือ โนอาร์ บนเขาหิมาลัย --ที่ทาง discovery ถ่ายทำสารคดี เป็นข่าว ---เหมือน ที่ ทาง มุสลิม กล่าว ว่าใน คัมภีร์--

แผ่นดิน ทวีปแอตแลนติส ที่จมหายไป เพราะความเจริญ / และ มิจฉา... ปากทวีป ที่อ่าวแหลมปะการัง (ตะกั่วป่า ที่โดน สึนามิ ซ้ำ รอบที่ 2...)

เมือง ทุ่งตึก ( เมืองเก่า เกาะคอเขา อ.คุระบุรี จ.พังงา โดนสึนามิ รอบ 2 ปี 47 ( พิสูจน์ ใด้ เพราะซาก กำแพงเมือง บางส่วน จมใต้ทะเล )


บาง คน กล้า แม้ กระทั่ง โกหก ต่อหน้า พระแก้ว...


กุสลา ธัมมา
อกุสลา ธัมมา

กุศล / อกุศล ที่ทำมา ...ตั้งแต่ อดีต ถึงปัจจุบัน..

เหตุดี ผลดี
เหตุชั่ว ผลชั่ว ...เหตุโป...



ใกล้ วันลอยกระทง แล้ว เพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 12 ดวงจันทร์ เต็มดวง น้ำเต็มตลิ่ง.....ฯลฯ..

พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ

สัพพุทธานุภาเวนะ
สัพธัมมานุภาเวนะ
สัพสังฆานุภาเวนะ

พุทธรัตนะ
ธรรมรัตนะ
สังฆรัตนะ
สัทธา โสถี ภะวันตุเต ฯ

 

เห็นว่า แรกๆคิดกันว่าน่าจะเกิดประมาณภายใน 20 ปี เอาไปเอามา ลดลงเหลือภายใน8 ปี แต่ตอนนี้ภายใน 3 ปีนี้เห็นผลแน่

แต่ยังไงก็ไม่ต้องกลัว อย่าไปห่วงบ้าน อย่าไปห่วงครอบครัว อย่าไปห่วงสมบัติ อย่าไปห่วงพ่อแม่ลูกแม่(แค่แนะนำ บอกและตักเตือนให้พวกเค้าหมั่นทำดีให้มากๆ ) มามองตัวเอง หมั่นทำบุญทำกุศล ทาน ศีล ภาวนาให้พร้อม เผื่อมันเกิดจริงๆ แล้วพลาดตายไป จะได้กลับมาเกิดใหม่ หลังวิบัติมันสิ้นแล้ว เราก็ไม่ต้องมาเดือดร้อนอะไร เพราะเรามีบุญบารมี เลือกเกิดได้

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุไซโคลนมรณะถล่มบังกลาเทศ พุ่งถึง 2,000 ศพแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 พฤศจิกายน 2550 14:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

เอเอฟพี​

 

หนักขนาดนั้นเลยหรือครับ คุณวาวา ชีวิตคนทั้งโลกขึ้นอยู่กับ คนเพียงคนเดียวมันไม่เกินเหตุไปหน่อยหรือครับ

สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม ผมอยากทราบชื่อมหาโพธฺสัตว์ท่านนั้นที่คุณว่าซะแล้ว

รบกวนบอกได้ไหมครับ

 

แผ่นดิน ทวีปแอตแลนติส ที่จมหายไป เพราะความเจริญ / และ มิจฉา... ปากทวีป ที่อ่าวแหลมปะการัง (ตะกั่วป่า ที่โดน สึนามิ ซ้ำ รอบที่ 2...)


ข้อความจากคุณนาคา


เรื่องนี้ได้คุยกันไปกับกลุ่มของพวกเราเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จุดใกล้เคียงก็คือ"บ้านปาก(ท)วีป" ปากทางสู่แอตแลนติส

 

ข่าวสำคัญจากมนุษย์ต่างดาว
โดยคุณ ajmin<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_819092", true); </SCRIPT> สมาชิก​

ทางมนุษย์ต่างดาว (ที่ผมติดต่ออยู่ ใครที่ไปงานรวมพลคนพลังจิตติดต่อ ufo บางคนอาจรู้จักผม) ได้มีข่าวมาบอกว่าใกล้จะสรุปเวลาที่โลกจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ (มหกรรมล้างโลก) ได้แล้วโดยที่ภัยพิบัตินี้เมื่อรวมไปแล้วจะกินเวลาประมาณ ๖ เดือนเศษ เพราะฉะนั้นเตรียมตัว "ไม่มีใครหลุดพ้นภัยครั้งนี้ได้ แม้แต่ผู้ที่มีบุญมากที่สุดในโลก" เขาบอกมาว่าอย่างนี้

สำหรับบางคนที่รู้ตัวเองหรือไม่รู้ตัวเองก็ตาม ขอแสดงความเสียใจเอาไว้ล่วงหน้าและย้อนหลัง

สรุปสิ่งที่จะเกิด

๑. ภูเขาไฟจะระเบิดในเวลาใกล้ๆ กันแม่ว่าภูเขาไฟที่เชื่อว่าดับแล้ว(ในประเทศไทยมีเพียบ)
๒. รอยแยกทั้งโลกจะแตกโดยเริ่มจากรอยแตกแถวๆ ประเทศไทยจำนวนประมาณ ๓๙ รอย
๓. พายุลม(เฮอริเคน หรือ ทอร์นาโด เท่านั้น แต่จะไม่มีไต้ฝุ่นเกิด)ในประเทศไทยก็โดนนะครับ
๔. คลื่นยักษ์ที่ใหญ่กว่าซึนามิโดยประมาณ ๒๖ เท่า
๕. จะเกิดสงครามระหว่างภพภูมิ ประตูทุกภพจะเปิด แต่มนุษย์ต่างดาวจะมาช่วยเราใว้ เพราะเขาบอกว่า ถ้าอนาคตไมมีมนุษย์ในโลก ก็จะไม่มีเค้าด้วย
๖. เกิดมลพิษทางน้ำ น้ำที่อยู่ในมหาสมุทร,แม่น้ำ,คลอง ฯลฯ จะมีสถานภาพเป็นน้ำกรด
๗. ประจุไฟฟ้าจะเกิดการดึงดูด ทำให้อาจเกิดฟ้าผ่าได้ทุกวินาที และถ้าเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าไว้จะมีไฟฟ้าออกจากเครื่องและมาช็อตคนที่อยู่ใกล้ได้
๘. แผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ตามที่วัดได้คือประมาณ ๑๓.๓๙ ริคเตอร์
๙ อื่นๆ อีกมากมายถ้าผมได้รับการติดต่อจากมนุษย์ต่างดาวเมื่อไหร่จะมีบอกนะครับ

ที่มา http://palungjit.org/showthread.php?t=100780

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@​

<!-- / message -->

 

กลุ้ม!!!

ใครหาข้อมูลหน่อยเถิดว่า ทำไม่เมื่อก่อนวันปีใหม่ของสยามอยู่ประมาณ เดือนเมษายน จะได้ดูเรื่องเดือน 1 2 3....11 12 ได้ถูก ไหนจะปีนักษัตรอีก งง กำหนดวันไม่ถูกเลย

 

แผ่นดินไหว ภัยใกล้ตัว​

​

ภัยพิบัติธรรมชาติที่นับว่ามีความรุนแรงมากที่สุด พยากรณ์ได้ยากที่สุดแม้จะลดภัยพิบัติได้บ้าง แต่ก็ไม่มีทางป้องกันได้ในปัจจุบันก็คือ​

 

​

ปีใหม่ไทยมีการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้งหลายหน โดยกำหนดให้สอดคล้องกับฤดูกาล คือชาวไร่ชาวนาจะเริ่มเพาะปลูกประมาณเดือน 5 เดือน 6 เก็บเกี่ยวเสร็จเดือน 3 หรือเดือน 4 เมื่อว่างเว้นจากงานนางานไร่ ตกเดือน 5 จึงถือเอาเดือน 5 เป็นวันขึ้นปีใหม่เป็นต้นปีตามอย่างพวกฮินดู ในปี พ.ศ. 1182 สมเด็จพระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัยทรงตั้งจุลศักราชขึ้นเป็น จ.ศ. 1 ต่อมาในปี พ.ศ. 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงสถาปนากรุงเทพพระมหานครเป็นราชธานีใหม่ เป็นรัตนโกสินทรศก หรือ ร.ศ. 1 ซึ่งตรงกับ จ.ศ. 1144 และ ค.ศ.1782 โดยยังคงถือเดือน 5 เป็นต้นปี

ในปี พ.ศ. 2432 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดให้เปลี่ยนวันขึ้นปีใหม่ตามจันทรคติมาถือตามสุริยคติแทน ได้ทรงกำหนดให้วันขึ้น 1 ค่ำเดือน 5 ซึ่งตรงกับวันที่ 1 เมษายน ร.ศ.108 เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งพระองค์ได้นำรัตนโกสินทร์ศกมาใช้แทน จุลศักราช ในการนับวันเดือนปีของไทยแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ แบบแรกนับแบบจันทรคติ คือ การนับวันเดือนปี โดยใช้การโคจรของพระจันทร์เป็นเกณฑ์ คือ นับขึ้นแรม นับเดือนอ้าย ยี่ สาม สี่ ฯลฯ นับปีชวด ฉลู ขาล เถาะ ฯลฯ เรียกว่า การนับทางจันทรคติ ส่วนแบบที่สองนับแบบ สุริยะคติ คือ การนับวันเดือนปี โดยใช้การโคจรของพระอาทิตย์เป็นเกณฑ์ คือวิธีการนับอย่างในปัจจุบัน เช่น วันจันทร์ อังคาร พุธ เดือน มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม และปี พ.ศ. ปี ค.ศ. ต่าง ๆ ฯลฯ
ในสมัยของ คณะรัฐบาลของจอมพล ป.พิบูลสงคราม เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2483 ได้ประกาศให้ใช้วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2484 เป็นวันขึ้นปีใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับอนารยประเทศ และได้ใช้จนถึงปัจจุบัน

ที่มา http://203.172.175.11/~web/index.php?name=article&file=read_article&id=9