วัตถุมงคลหลากหลายเพื่องานบุญสร้างแหวนถวายหลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม

รายการที่ 240 พระปิดตายันต์ยุ่ง "พาหุงชนะมาร" พิมพ์ใหญ่ นวะ ไตรมาส ปี 2554
หลวงพ่อ (ลำ) ใย สัญญโม วัดสะแก อยุธยา

คุณ Natchapon บูชาแล้ว EK 168983225 TH




พระปิดตารุ่นนี้จัดสร้างขึ้นด้วยเนื้อนวะเพียงอย่างเดียว มี 2 พิมพ์ คือ
พระปิดตาพาหุงชนะมาร (พิมพ์ใหญ่) และพระปิดตาพุทซ้อนมหาลาภ (พิมพ์เล็ก)
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาปัจจัยเป็นค่ารักษาพยาบาลหลวงน้าใย ซึ่งต้องฟอกไตทุกสัปดาห์
ทางคณะศิษย์จึงได้รวบรวมชนวนรุ่นเก่าๆ ของลป.ดู่ วัดสะแก และวัตถุมงคลต่างๆ
อีกทั้งแผ่นยันต์ของหลวงน้าใยนำมาสร้างเป็นพระปิดตายันต์ยุ่งนี้ขึ้น
โดย หลวงน้าลำใย วัดสะแก อธิษฐานจิตตลอดไตรมาส

หลวงน้า (ลำ) ใย ท่านเป็นศิษย์เอกที่ถือได้ว่าได้รับวิชาจากลป.ดู่มากที่สุดรูปหนึ่ง
เพราะท่านได้รับการประสิทธิ์ประสาทการลงตะกรุดจักรพรรดิจากลป.ดู่โดยตรง
อีกทั้งท่านยังเป็นผู้ที่มีกลังจิตกล้าแข็ง สำเร็จกสิณโดยเฉพาะกสิณไฟ
เคยมีครั้งหนึ่ง ลป.ดู่ เคยให้หลวงน้าใยเสกพระ
ปรากฏว่าพอหลวงน้าใยยกถาดใส่พระที่เสกแล้วไปให้ลป.ดู่
ลป.ดู่ก็บอกว่า...เสกแบบนี้ได้ไง ไฟลุกเต็มถาด อย่างนี้คนเอาไปใช้เขาก็ร้อนกันหมด
ท่านจึงได้เปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติเสียใหม่ ตามแนวทางที่ลป.ดู่่แนะนำให้
จนบรรลุคุณธรรมชั้นสูง อีกทั้งเส้นเกศาและโลหิตของท่านก็แปรสภาพเป็นพระธาตุแล้ว

พระปิดตารุ่นนี้ส่วนใหญ่หาสภาพสวยยาก มักจะมีฉลาบเกินตรงรอยตะเข็บ
หรือไม่ก็หล่อติดไม่เต็ม เนื่องจากเนื้อโลหะมีความเข้มข้นมาก
องค์นี้สภาพสวยมาก มีตอกโค๊ตใต้ฐานทุกองค์

 

รายการที่ 241 เหรียญ ลป.ทวด เปิดโลก 2 เนื้อตะกั่ว (กรรมการ) ปี 2554
หลวงพ่อ (ลำ) ใย สัญญโม วัดสะแก อยุธยา

คุณ วันทวี บูชาแล้ว EK 168927612 TH



เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างโดย คุณวรวิทย์ ด่านชัยวิจิตร ผู้ซึ่งเคยสร้างเหรียญ ลป.ทวดเปิดโลก ถวาย ลป.ดู่ มาก่อนนั่นเอง
ฝีมือแกะแม่พิมพ์สวยมาก รายละเอียดชัดเจน ด้านหลังเป็นยันต์พระเจ้า 16 พระองค์
หลวงน้าใย วัดสะแก อธิษฐานจิตเปิด 3 โลกให้แบบเดียวกับ ลป.ดู่
จัดเป็นเหรียญดีมีอนาคต

 

รายการที่ 242 พระผงรูปเหมือนครึ่งองค์หลวงน้าใย วัดสะแก ปี 2547
หลวงพ่อ (ลำ) ใย สัญญโม วัดสะแก อยุธยา

คุณ อนันตภพ บูชาแล้ว EK 168983234 TH



หลวงน้า (ลำ) ใย ท่านเป็นศิษย์เอกที่ถือได้ว่าได้รับวิชาจากลป.ดู่มากที่สุดรูปหนึ่ง
เพราะท่านได้รับการประสิทธิ์ประสาทการลงตะกรุดจักรพรรดิจากลป.ดู่โดยตรง
อีกทั้งท่านยังเป็นผู้ที่มีกลังจิตกล้าแข็ง สำเร็จกสิณโดยเฉพาะกสิณไฟ

ครั้งหนึ่ง ลป.ดู่ ท่านให้หลวงน้าใยลองเสกพระให้ท่านดู
ปรากฏว่าพอหลวงน้าใยยกถาดใส่พระที่เสกแล้วไปให้ลป.ดู่
ลป.ดู่ก็บอกว่า...เสกแบบนี้ได้ไง ไฟลุกเต็มถาด อย่างนี้คนเอาไปใช้เขาก็ร้อนกันหมด
ท่านจึงได้เปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติเสียใหม่ ตามแนวทางที่ลป.ดู่่แนะนำให้
จนบรรลุคุณธรรมชั้นสูง อีกทั้งเส้นเกศาและโลหิตของท่านก็แปรสภาพเป็นพระธาตุแล้ว


พระธาตุที่แปรจากเกศาและโลหิตของท่าน ต่อมามีเสด็จมาเพิ่มเอง

พระผงรุ่นนี้มีลูกศิษย์ท่านที่แม่อ่องสอนได้ลองยิงด้วย M. 16 ปรากกว่าไม่โดนสักนัด
จนนัดสุดท้ายโดนพระเข้าอย่างจังจนกระเด็นไปไกล ในใจคิดว่าคงแตกหักหมด
แต่พอไปดูปรากฏว่าพระผงรุ่นนี้ยังอยุ่ในสภาพเดิมไม่มีแตกหักบิ่นตรงไหนเลย

 

จอง รายการที่ 238 พระปิดตาเนื้อมังสา

 

วันที่ 12/08/13 เวลา 15.43
โอนเงินร่วมบุญบูชา
รายการที่ 234 พระสมเด็จองค์ปฐมขุนแผนโพธิสัตว์ เนื้อพิเศษ (ขึ้นไขว่าน)
พระครูสุภัทรธรรมโสภณ (ทรง ฉันทโสภี) วัดศาลาดิน อ่างทอง

SMS แจ้งจากตู้ ATM ไปแล้วครับ
ที่จัดส่งแจ้งทาง PM ครับ

 

วันนี้โอนเงินค่าสีผึ้งหลวงพ่อทรง จำนวนเงิน 500 บาทให้แล้วครับ เวลา 9.41 น.ส่งที่อยู่เดิมครับขอบคุณ

 

ขอจองค่ะ

 

โอนค่าพระขรรค์แล้วนะคะ ตามใบโอนนี้

 

รายการที่ 243 ลูกอมผงอิทธิเจ สุดยอดมหาเสน่ห์ (เลี่ยมเก่าแต่เดิม)
ลพ.สงวน ธมฺมานนฺโท วัดไผ่พันมือ สุพรรณบุรี

บูชา 1,200-



ลูกอมสุดยอดแล้วแห่งเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ มีคนนำไปใช้กับผู้หญิงเป็นสำเร็จทุกรายไป
แต่ได้มาต้องรับเลี้ยงและรับผิดชอบ มิฉะนั้นจะมีอันเป็นไปตามที่ท่านแช่งไว้อย่างแน่นอน
ขนาด ลพ.มุ่ย วัดดอนไร่ ยังเอ่ยปากชมว่า ท่านสงวนเก่งเรื่องผงมหาเสน่ห์จริง

สร้างจากผงอิทธิเจ ซึ่งท่านเขียนและลบผงด้วยตัวท่านเองตลอดชีวิต
ศิษย์และกรรมการในสมัยนั้นต่างทราบดีว่า เวลาว่างจากรับแขกท่านก็จะเขียนและลบผงทั้งคืน
โดยนำมวลสารมาปั้นเป็นแท่ง เขียนแล้วลบเป็นผง จากนั้นก็นำผงมาปั้นเป็นแท่งใหม่ แล้วเขียนแล้วลบเป็นผงใหม่
ทำแบบนี้ซ้ำๆ หลายต่อหลายครั้งจนสำเร็จ แล้วจึงนำผงที่ได้มาผสมกับมวลสารอื่นๆ อาทิ ว่าน ดินกรุ (ซึ่งบดละเอียด) เป็นต้น
ผงอิทธิเจของท่านมีพุทธคุณด้านเสน่ห์-เมตตามหานิยม-ป้องกันภัย-คงกะพันชาตรี ครบสูตรเลยทีเดียว

เรื่อง ผงอิทธิเจ ของท่านขึ้นชื่อมาก หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เคยกล่าวว่า " อาจารย์สงวน ทำผงเก่ง "
ในสมัยนั้นวัดพิกุลทอง มีงานพุทธาภิเษกพระเครื่องเมื่อใด หลวงพ่อแพจะส่งรถมารับหลวงพ่อสงวนอยู่เสมอๆ
หลวงพ่อสงวนก็เคยกล่าวยกย่องให้ลูกๆหลานๆฟังเสมอว่า " หลวงพ่อแพ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก ผ่านไปสิงห์บุรีให้ไปกราบท่านให้ได้นะ "

เรื่องความเหนียวก็ใช่ย่อย หมากัดนี่ไม่เข้า

 

รายการที่ 244 พระนาคปรกเนื้อผงอิทธิเจ หลังปั๊มชื่อวัด (เลี่ยมเก่าเดิมจากวัด)
ลพ.สงวน ธมฺมานนฺโท วัดไผ่พันมือ สุพรรณบุรี

บูชา 3,000-



องค์นี้เป็นพิมพ์มาตรฐานยุคแรกๆ ของท่าน เนื้อจะแก่ผงกว่ายุคหลังที่เนื้อออกขาวๆ
องค์นี้เลี่ยมพลาสติกเก่าเดิมมาจากวัด ปั๊มชื่อวัดด้วยหมึกแดง

 

รายการที่ 245 พระสมเด็จแหวกม่าน พิมพ์เล็ก (หายากมาก) เลี่ยมเก่าเดิมจากวัด
ลพ.สงวน ธมฺมานนฺโท วัดไผ่พันมือ สุพรรณบุรี

บูชา 5,000-



พระพิมพ์แหวกม่านเป็นพระพิมพ์มาตรฐานยุคแรกๆ สร้างตั้งแต่สมัยที่ท่านมาอยู่วัดไผ่พันมือใหม่ๆ
มีทั้งพิมพ์ใหญ่ กลาง เล็ก มีทั้งแบบหลังเรียบ ติดรูป และปั๊มหมึก
องค์นี้เป็นพิมพ์เล็ก หลังปั๊มชื่อวัดด้วยหมึกแดง

พระพิมพ์แหวกม่านเล็กนั้นมีอยู่พิมพ์เดียว ลักษณะจะเหมือนพระแหวกม่านกลางเศียรกลมทุกอย่าง
เพียงแต่จะไม่มีหูและขนาดเล็กกว่าแหวกม่านกลาง แต่ก็มีขนาดใกล้เคียงกับพระสมเด็จทั่วไป
ในเรื่องของความหายากนั้น แทบจะไม่ต้องพูดถึง ส่วนใหญ่จะพบแต่พิมพ์ใหญ่และพิมพ์กลาง
เพราะพระแหวกม่านพิมพ์เล็กนั้นมีจำนวนการสร้างที่น้อยมากๆ จึงแทบจะไม่มีให้เห็นกันเลยทีเดียว

สำหรับพุทธคุณนั้น ท่านให้ใช้แหวกม่านเพื่อฝ่าฟันอุปสรรค์สู่ความสำเร็จ
ท่านไม่อยากให้ไปแหวกมุ้งใคร แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ
ให้ใครไปก็มักจะมีประสบการณ์ชู้สาวมาให้หลวงพ่อได้ยินเสมอๆ
ท่านจึงสั่งห้ามเน้นย้ำเวลาแจกให้ใครๆ ว่า "..ให้ไปแหวกม่านนะ ไม่ใช้ให้ไปแหวกมุ้ง.."

 

รายการที่ 246 ลิงขี่ปลัดไม้แกะ ปั๊มชื่อวัด (เลี่ยมเดิมจากวัด) ปลัดมหาเสน่ห์เมืองสุพรรณ (หายากมากๆ)
ลพ.สงวน ธมฺมานนฺโท วัดไผ่พันมือ สุพรรณบุรี

บูชา 2,500-



เครื่องรางที่หลวงพ่อสงวนเสกและสร้างนอกจากพระและลูกอมแล้ว
อีกสิ่งหนึ่งซึ่งเป็นที่แสวงหาของบรรดาลูกศิษย์และผู้ศรัทธาหลวงพ่อสงวน คือ"ปลัดขิก"
เพราะเป็นยอดแห่งวัตถุมงคลของท่านที่หาได้ยากอีกทั้งยังเป็นสุดยอดเครื่องรางของท่านที่มีประสบการณ์สูง

ปลัดขิกของท่านมีทั้งที่ทำจากไม้ต่างๆ และเนื้อผงก็มี
ม้ที่ทำก็มักจะทำมาจากไม้มงคล เช่น ไม้รัก ไม้มะยม ไม้โลดทะนง
ปลัดขิกของท่านสร้างน้อยและหายากกว่าลูกอมเสียอีก

 

รายการที่ 247 ปลัดขิกผงมหาเสน่ห์ทาทอง ยุคแรก ปี 2510
ลพ.สงวน ธมฺมานนฺโท วัดไผ่พันมือ สุพรรณบุรี

บูชา 3,000-



ปลัดขิกสุดยอดแห่งเมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์ ของ หลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ
มีคนนำไปใช้กับผู้หญิงเป็นสำเร็จทุกรายไป แต่ได้มาต้องรับเลี้ยงและรับผิดชอบ
มิฉะนั้นจะมีอันเป็นไปตามที่ท่านแช่งไว้อย่างแน่นอน
ขนาด หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ยังเอ่ยปากชมว่า ท่านสงวนเก่งเรื่องผงมหาเสน่ห์จริง เรื่องความเหนียวก็ใช่ย่อย หมากัดนี่ไม่เข้า

ปลัดขิกของท่านจะเป็นแบบครึ่งซีก ท้องแบน ตรงส่วนคอจะยกขอบนูนขึ้นมาดูคล้ายๆ นิ้วหัวแม่โป้งมือ
ของแท้ตรงคอหยักจะปั้นนูนขึ้นมาเป็นขอบแลดูเหมือนนิ้ว ส่วนของเก๊ตรงคอหยักจะใช้มีดเซาะคอหยักเป็นร่อง
สร้างจากผงอิทธิเจซึ่งท่านเขียนและลบผงด้วยตัวท่านเองตลอดชีวิต
ศิษย์และกรรมการในสมัยนั้นต่างทราบดี ว่างจากรับแขกท่านก็จะเขียนและลบผงทั้งคืน
โดยนำมวลสารมาปั้นเป็นแท่ง เขียนแล้วลบเป็นผง จากนั้นก็นำมาเขียนแล้วลบเป็นผง ทำแบบนี้ซ้ำๆ หลายต่อหลายครั้งจนสำเร็จ
ผงอิทธิเจของท่านมีพุทธคุณด้านเสน่ห์-เมตตามหานิยม-ป้องกันภัย-คงกะพันชาตรี ครบสูตรเลยทีเดียว
แล้วจึงนำผงที่ได้มาผสมกับมวลสารอื่นๆ อาทิ ว่าน ดินกรุ (ซึ่งบดละเอียด) เป็นต้น

เรื่อง ผงอิทธิเจ ของท่านขึ้นชื่อมาก หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เคยกล่าวว่า " อาจารย์สงวน ทำผงเก่ง "
ในสมัยนั้นวัดพิกุลทอง มีงานพุทธาภิเษกพระเครื่องเมื่อใด หลวงพ่อแพจะส่งรถมารับหลวงพ่อสงวนอยู่เสมอๆ
หลวงพ่อสงวนก็เคยกล่าวยกย่องให้ลูกๆหลานๆฟังเสมอว่า " หลวงพ่อแพ เป็นผู้มีบุญบารมีมาก ผ่านไปสิงห์บุรีให้ไปกราบท่านให้ได้นะ "

 

รายการ 240 พระปิดตาพาหุงชนะมาร ขอร่วมบุญรายการนี้ครับ

 

ขออภัยครับ ขอยกเลิกการจองครับ

รายการที่ 65 พระสมเด็จสามสมัย พิมพ์สุโขทัย พิธีจตุรพิธพรชัย ปี 2518
ลป.ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก อยุธยา

บูชา 500-

 

ได้รับพระ รายการที่ 234 แล้วครับ
ขอบคุณครับ

 

โอนรายการ 221 สมเด็จสาวหลงผสมผงอิทธิเจ 2 องค์ กับ รายการ 222 และ 223 แล้วนะครับ โอนวันนี้ เวลา 19.23 น. ยอดเงิน 1600.17 บาทครับ

 

รายการที่ 248 พระธรรมจักร ชุดจตุรงค์ 4 สี (กรรมการ) ปี 2520 (หายากมากๆ)
ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฎโฐ วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย

คุณ Natchapon บูชาแล้ว EK 168983225 TH




ถ้าพูดถึงจักรพรรดิแห่งพระเครื่องแล้ว ทุกท่านต่างยอมรับเป็นเสียงเดียวกันว่านั่นคือ พระสมเด็จวัดระฆัง
ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านเป็นผู้สร้างขึ้น ก่อเกิดอภินิหารเป็นอันมากแก่ผู้บูชา จนเป็นที่ใฝ่หาของนักสะสมพระเครื่องทั้งหลาย
แล้วในยุคปัจจุบันล่ะ พระเครื่องอะไรที่ถือได้ว่าสุดยอดที่สุดในยุคปัจจุบัน ?
คำถามนี้คงจะยากที่จะตอบได้ เพระาไม่มีสเกลเครื่องมือทางวืทยาศาสตร์ชิ้นใดที่จะวัดพลังงานในพระเครื่องได้
นอกจากจะอาศัยผู้ที่มีอำนาจจิตพิเศษสามารถตรวจดูพลังที่อยู่ในพระเครื่องและวัตถุมงคลได้
แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวที่คนตรวจรู้เองเห็นเองอยู่คนเดียว ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเชื่อท่านผู้นั้นหรือไม่
แต่อย่างน้อยก็มีพระเครื่องอยู่รุ่นหนึ่ง ที่องค์ท่านผู้เสกผู้ที่อัฐิแปรสภาพเป็นพระธาตุท่านถึงกับออกปากเองว่า...เป็นสุดยอดพระเครื่องในยุคปัจจุบัน
นั่นคือ พระธรรมจักร ของ พระอาจารย์จวน ภูทอก

ในปี พ.ศ. 2520 คุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต ได้คิดจะทอดกฐินและผ้าป่า 8 วัด ดังนี้
กฐิน - วัดเจติยาคิรีวิหาร (ภูทอก) อ.บึงกาฬ หนองคาย
ผ้าป่า - วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู อุดรธานี ท่านอาจารย์ขาว อนาลโย
- วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ หนองคาย ท่านอาจารย์เทสก์ เทศน์รังสี
- วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง อุดรธานี ท่านอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน
- วัดป่านิโครธาราม อ.หนองบัวลำภู ท่านอาจารย์อ่อน ญาณศิริ
- วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.สว่างแดนดิน สกลนคร ท่านอาจารย์วัน อุตตโม
- วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม สกลนคร สมทบทุนสร้างโรงพยาบาล ท่านอาจารย์ฝั้น อาจาโร
- วัดป่าแก้วชุมพล อ.สว่างแดนดิน สกลนคร ท่านอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
ดังมีรายละเอียดในโบว์ชัวร์บอกบุญกฐินในปีนั้นดังนี้

ขอเชิญร่วมทอดกฐิน-ผ้าป่าสามัคคี 11-14 พฤศจิกายน 2520

ด้วยวัดเจติยาคีรีวิหาร บนยอดเขาภูทอก ซึ่งเป็นสถานที่วิเวกแสวงธรรมที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่งของจังหวัดหนองคาย
อุดมไปด้วยความงดงามตามธรรมชาติ จึงมีผู้นิยมไปแสวงบุญและนมัสการ ท่านพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ปีหนึ่งเป็นจำนวนมาก
ทำให้สะพานลอยรอบเขาชั้นที่ 5 และชั้นที่ 6 จำเป็นต้องได้รับการบูรณะเสริมสร้างให้มั่นคงแข็งแรงขึ้น
พร้อมทั้งควรบูรณะหลัง คาวิหาร จัดสร้างกุฏิ ห้องน้ำ-ส้วม เพิ่มเติม
รวมทั้งจัดทำถังน้ำฝนและระบบประปาภายในวัดให้มีน้ำฝนไว้ใช้ได้ตลอดปี
นอกจากนี้ยังมีความจำเป็นต้องบูรณะสำนักสงฆ์ที่ห้วยสะแนน ซึ่งอยู่มนความดูแลของท่านอาจารย์อีกด้วย
คณะศิษย์ของท่านจึงเห็นควรจัดทอดกฐินสามัคคีเพื่อหาปัจจัยดำเนินการดังกล่าวนี้

ในโอกาสเดียวกันเพื่อให้คณะศิษย์ทางกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาและโอกาสมากราบนมัสการพระอาจารย์องค์อื่นๆ
ซึ่งเป็นปูชนียบุคคลอันน่าเคารพเลื่อมใสยิ่งแห่งภาคอีสานได้บ่อยครั้งนัก
จึงได้จัดทอดผ้าที่วัดพระอาจารย์องค์อื่นๆ ด้วย

จีงเรียนมาเพื่อขอเชิญไปร่วมอนุโมทนาโดยทั่วกัน
สำหรับผู้ที่บริจาคปัจจัยสมทบทุนทอด กฐินและผ้าป่าในครั้งนี้
จะได้รับ “ พระธรรมจักร ” พระพุทธรูปผง ปางปฐมเทศนา เป็นที่ระลึกด้วย
ตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป พระธรรมจักร 1องค์
ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป พระธรรมจักรชุด จตุรงค์ 4 สี
พระธรรมจักรนี้ ท่านอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ และ ท่านอาจารย์วัน อุตตโม
กรุณามอบดินจากสังเวชนียสถาน 4 แห่ง และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ ในประเทศอินเดีย
รวมทั้งวัตถุมงคลต่างๆ ที่ท่านได้รวบรวมไว้เพื่อใช้ในการสร้างพระครั้งนี้

คณะกรรมการได้ขออนุญาตท่านอาจารย์ทำเนื้อพิเศษสุด (ลงรักปิดทอง) จำนวน 9 องค์
เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมงกุฎราชกุมาร
และพระวรชายาสมเด็จพระเจ้าลูกเธอทั้ง 3 พระองค์ รวมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ครบทุกพระองค์
และได้จัดทำเนื้อพิเศษอีก 1,000 องค์ เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เพื่อทรงพระราชทานแก่ข้าราชบริพารใกล้ชิด ถือเป็นเนื้อพิเศษ “ ในวัง ”
ส่วนที่เป็นเนื้อพิเศษ “ นอกวัง ” จัดทำเป็น 4 สีๆ ละ 2,100 องค์ เรียกว่า จตุรงค์ สำหรับมอบให้ผู้บริจาคตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป
ส่วนเนื้อธรรมดาที่มีสีแดงนั้นมีจำนวนจัดสร้างเท่าพระธรรมขันธ์ คือ 40,000 องค์
โดยแบ่งส่วนหนึ่งจำนวน 20,000 องค์บรรจุกรุไว้ที่ใต้ฐานพระประธานที่ภูทอก

วัตถุมงคลที่นำมาสร้างพระ
1. ดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในอินเดีย ได้แก่ ดินสังเวชนียสถานทั้ง 4 แห่งของอินเดีย คือ ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปริ นิพพาน
ดิน ณ ที่ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ ดินเชตวันมหาวิหาร ดินที่สถูปพระสารีบุตร พระโมคคัลลาน์ พระอานนท์ พระมหากัสสปะ
พระอนุรุทธะ พระราหุล พระกัจจายนะ พระองคุลีมาล ดินในถ้ำสุกรชาตาเขาคิชกูฎ ดินคันธกุฎีที่ประทับพระพุทธองค์บนยอดเขาคิชกูฎ
มีเรื่องอัศจรรย์เกี่ยวกับดินที่พระคันธกุฎีนี้ กล่าวคือ ครั้งหนึ่งคุณหญิงสุรีพันธุ์ มณีวัต เป็นหัวหน้าทีมนำคณะพระกรรมฐาน
อันประกอบด้วย หลวงปู่หลุย จันทสาโร หลวงปุ่ชอบ ฐานสโม หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส
ท่านพระอาจารย์วัน อุตตโม พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
และคณะศิษย์ไปกราบนมัสการสังเวชนียสถาน 4 แห่ง ในอินเดีย
ขณะที่เดินขึ้นเขาคิชกูฏนั้น ครั้นใกล้ถึงพระคันธกุฎี ท่านพระอาจารย์วันกับท่านพระอาจารย์จวนก็ออกวิ่งเหยาะๆ นำไป
คุณสุรีพันธุ์ประหลาดใจนักเพราะปกติพระจะไม่วิ่ง ยิ่งเป็นท่านอาจารย์ทั้งสองแล้ว นับแต่เป็นศิษย์อาจารย์กันมา ท่านเรียบร้อยที่สุด
ลงถ้าท่านวิ่งถึงจะช้า แต่เหตุต้องไม่ใช่เรื่อง “ ธรรมดา ” คุณสุรีพันธุ์จึงตัดสินใจวิ่งตาม
เมื่อถึงคันธกุฎีก็ทันเห็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์พันลึก ด้วยตินใกล้ๆ กับที่ท่านอาจารย์ทั้งสองยืนอยู่ เกิดการเต้นกระโดดน้อยๆ ชวนขนลุกขนพอง
ขณะที่ตะลึงพรึงเพริดอยู่นั่นเอง ท่านอาจารย์ทั้งสองก็ก้มลงเก็บดินเหล่านั้นขึ้นมาจำนวนหนึ่ง
และเก็บอยู่กับท่านเป็นแรมปีจวบจนมีการสร้างพระธรรมจักร นอาจารย์ทั้งสองจึงได้มอบดินมหัศจรรย์นั้นมาให้ผสมเนื้อ
2. ใบไม้มงคล ใบโพธิ์ ณ ที่ประสูติ ลุมพินีวัน ใบโพธิ์ ณ ที่ตรัสรู้ พุทธคยา ใบสาละ ณ ที่ปรินิพพาน กุสินารา
ใบโพธิ์ที่หลังคันธกุฎี และใบโพธิ์พระอานนท์ ณ เชตวันมหาวิหาร
3. เส้นเกศาพระอาจารย์
- หลวงปู่แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่
- หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี
- ท่านอาจารย์เทสก์ เทสรังสี ( พระนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาจารย์ ) วัดหินหมากเป้ง
หนองคาย
- ท่านอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร สกลนคร
- ท่านอาจารย์อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม อุดรธานี
- ท่านอาจารย์ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุรณ์ วังสะพุง เลย
- ท่านอาจารย์หลุย จันทสาโร วัดถ้ำผาปิ้ง เลย
- ท่านอาจารย์คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ เลย
- ท่านอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สกลนคร
- ท่านอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ วัดเจติยาคีรีวิหาร หนองคาย
- ท่านอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้ว สกลนคร
มีเรื่องแปลกอีกเกี่ยวกับเส้นเกศา กล่าวคือ เมื่อคณะกรรมการกำลังรวบรวมเส้นเกศาอยู่นั้น
จู่ๆ ก็มีพระรูปหนึ่งมาหานำเส้นเกศากับชานหมากจำนวนหนึ่งมาให้ พร้อมแจ้งว่า
“ หลวงปุ่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ สั่งให้เอามาให้ เพราะทราบว่าคุณสุรีพันธุ์จะสร้างพระ ”
คุณสุรีพันธุ์บอกว่าน่าประหลาดนัก การสร้างพระธรรมจักรดูจะเป็นงานใหญ่ก็จริง แต่ก็ทำกันเงียบๆ รู้กันเฉพาะคนในเท่านั้น
หลวงปู่คำดีทราบได้อย่างไร เพราะในเวลานั้นคุณสุรีพันธุ์ไม่รู้จักท่านเลย
เมื่อสืบเสาะภายหลังจึงทราบความว่า หลวงปุ่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ เลย เป็นศิษย์องค์สำคัญของพระอาจาร์มั่น ภูริทัตโต
ซึ่งเมื่อพระราชทานเพลิงศพท่านแล้ว อัฐิหลวงปุ่คำดีก็แปรสภาพเป็นธาตุดุจเดียวกับองค์อาจารย์
4. ดอกไม้ ผงธูป ทองคำเปลว จาก
- พระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช - พระธาตุไชยา สุราษฏร์ธานี
- พระธาตุพนม นครพนม - พระธาตุชิงชุม สกลนคร
- พระร่วงโรจนฤทธิ์ นครปฐม - หลวงพ่อโต วัดพนัญเชิง อยุธยา
- พระมงคลบพิตร อยุธยา - วัดบวรนิเวศน์ กทม.
- วัดราชบพิธ กทม.
- ที่บุชาพระรูปสมเด้จพระสังฆราช ( สุก ไก่เถื่อน ) วัดราชสิทธาราม กทม.
- ที่บูชาพระรูปสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี ) วัดระฆังโฆสิตาราม กทม.
5. ดอกไม้ ผงธูป ที่บุชาพระสวดมนต์ของ
- สมเด็จพระญาณสังวร ( เจริญ สุวัฒฑโน ) - หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
- หลวงปุ่ขาว อนาลโย - ท่านอาจารย์เทสก์ เทสรังสี
- ท่านอาจารย์อ่อน ญาณสิริ - ท่านอาจารย์หลุย จันทสาโร
- ท่านอาจารย์คำดี ปภาโส - ท่านอาจารย์วัน อุตตโม
- ท่านอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ - ท่านอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
- พระครูปลัดสัมพิพัฒเมธาจารย์ ( พระอาจารย์ไพบูลย์ สุมังคโล )
6. ชานหมาก ข้าวก้นบาตร ก้นบุหรี่
- หลวงปู่แหวน สุจิณโณ - หลวงปุ่ขาว อนาลโย
- ท่านอาจารย์อ่อน ญาณสิริ - ท่านอาจารย์หลุย จันทสาโร
- ท่านอาจารย์วัน อุตตโม - ท่านอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
- ท่านอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร
7. พระชำรุดที่นำมาบดอัดเป็นผงมงคล
- พระพุทธรูป อายุ 1,000 กว่าปี ที่ท่านพระอาจารย์จวนธุดงค์ไปพบในถ้ำแถบภูสิงห์ ภูวัว
- พระสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี วัดระฆังและบางขุนพรหม
- พระพิมพ์ดินเผาสมัยสุโขทัย
- พระผงกรุวัดสามปลื้ม
- พระผงงิ้วดำ
- พระพิมพ์วังหน้า
8. มวลสารมงคลอื่นๆ
- โคตรเหล็กไหลและขี้เหล็กไหลจากถ้ำบุชา ภูวัว ที่ท่านพระอาจารย์จวนมอบให้
คุณสุรีพันธุ์ได้ให้กองกษาปณ์ป่นเหล็กไหลทั้งหมดให้เป็นผงด้วยเครื่องบดพิเศษเป็นเหล็กเหนียว ชื่อว่า “ ไทเทเนียม ” ว่ากันว่าเป็นเหล็กที่แข็งที่สุดในโลก
ปรากฏว่ากว่าจะได้ผงขี้เหล็กไหล 1 กะละมัง เครื่องก็สึกไปจนใช้อีกไม่ได้
- งาช้าง เขากวางคุด
- แก่นจันทน์หอม ที่ถ้ำจันทน์และภูทอง
- ไม้กลายเป็นหิน ที่พระอาจารย์ฝั้นได้เมตตาสกัดให้ต้วยตัวท่านเอง
- กระเบื้องไม้หลังคากุฏิท่านอาจารย์ขาว อนาลโย
- ไม้มะขามจากถ้ำขามของพระอาจารย์ฝั้น
- กระเบื้องหลังคาโบสถ์วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.
- กระเบื้องหลังคาโบสถ์วัดราชบพิธ กทม.
- หินสีชมพูที่ภูเขาภูทอก
- ข้าวตอกพระร่วง ข้าวสารดำ 3,000 ปี

พระธรรมจักรที่จัดสร้างชุดนี้ ได้ใช้วัตถุมงคลที่กล่าวมาทั้งหมดบดอัดผสมเป็นเนื้อพระล้วนๆ โดยใช้ระบบอัดแรงดันสูง มิได้ใช้วัตถุอื่นผสมเพิ่มเติมเลย
พระทั้งหมดจึงมีแต่มวลสารล้วนๆ แต่ก็มีข้อเสีย คือ แตกหักง่าย เนื่องจากไม่มีตัวประสานนั่นเอง

การอธิษฐานจิต คุณหญิงสุรีพันธุ์ได้นำไปถวายให้ท่านอาจารย์ของวัดที่จะไปทอดกฐิน-ผ้าป่าครั้งนี้ เมตตาอธิษฐานจิตให้ท่านละ 1 คืน
ดังมีรายนามดังต่อไปนี้
1. หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อ.หนองบัวลำภู อุดรธานี
2. หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ หนองคาย
3. หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม อ.หนองบัวลำภู อุดรธานี
4. หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อ.เมือง อุดรธานี
5. พระอาจารย์วัน อุตตโม วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม อ.สว่างแดนดิน สกลนคร
6. พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ วัดเจติยาคีรีวิหาร ( ภูทอก ) อ.บึงกาฬ หนองคาย
7. พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร วัดป่าแก้วบ้านชุมพล อ.สว่างแดนดิน สกลนคร

หมายเหตุ 1. พระธรรมจักรนี้ไม่ทันหลวงปู่ฝั้นอธิษฐานจิต เนื่องจากท่านได้มรณภาพเสียก่อน
2. ได้รับการยืนยันจากคุณหญิงสุรีพันธ์ว่า หลวงตามหาบัว วัดป่าบ้านตาด ไม่ได้อธิษฐานจิตให้ดังที่ปรากฏในโบชัวร์แต่อย่างใด




พระธรรมจักรนี้ ด้านหน้าเป็นรูปปางเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ส่วนด้านหลังเป็นรูปเจดีย์ทั้งสาม แสดงถึงวาระแห่งการประสูติ ตรัสรู้ และนิพพาน
และในการนี้ทางคณะกรรมการได้จัดสร้างพระชุดพิเศษให้แสดงถึงวาระอันสำคัญยิ่งให้ครบเป็น 4 โอกาส โดยจัดทำเป็นสีพิเศษ 4 สี ดังนี้

ประสูติ - สีเขียว หมายถึง ความรื่นเริงของโลกที่ทราบถึงการประสูติ
ตรัสรู้ - สีขาว หมายถึง ความสว่างเจิดจ้าแห่งการตรัสรู้
ปฐมเทศนา - สีชมพู หมายถึง สีอาทิตย์อุทัยที่แสดงถึงการอุบัติขึ้นของพุทธศาสนา
นิพพาน - สีเทาดำ หมายถึง ความโศกสลดของชาวโลกที่มีต่อวาระปรินิพพาน

ซึ่งแต่ละสีนอกจากจะใช้วัตถุมงคลทั้งมวลที่มีอยู่แล้วเป็นสีพื้น จะเพิ่มมวลสารบางชนิดเน้นหนัก คือ

สีเขียว เน้นด้วย กระเบื้องเขียวหลังคาวัดบวรนิเวศน์ วัดราชบพิธ จันทน์หอม
และที่สำคัญคือ เตยหอมจากภูทอก ที่พระอาจารย์จวนได้อธิษฐานจิตให้ไว้ว่า “ จะแตกไปกี่กอ ทุกต้นทุกกอคือเราเสกไว้แล้ว ”
สีขาว เน้นด้วย เกสรดอกไม้ งาช้าง และกระเบื้องวัดบวรฯ วัดราชบพิธ
สีชมพู เน้นด้วย ชานหมาก หินชมพูจากภูทอก โคตรเหล็กไหลและขี้เหล็กไหล
ซึ่งเทพที่รักษาอยู่ได้มาขอให้ท่านอาจารย์นำออกจากถ้ำบูชาภูวัวไปแจกจ่ายแก่ประชาชนเพื่อที่เขาจะได้บุญด้วย
สีเทาดำ เน้นด้วย พระผงงิ้วดำ และเบ้าหล่อพระพุทธรูป ภปร. ข้าวสารดำสามพันปี

สีพิเศษนี้จะจัดสร้างเพียงสีละ 2,100 องค์เท่านั้น โดยจัดเป็นชุดกรรมการ เรียกว่า ชุดจตุรงค์ 4 สี
ส่วนเนื้อธรรมดาที่มีสีแดงนั้นมีจำนวนจัดสร้างเท่าพระธรรมขันธ์ คือ 84,000 องค์
โดยแบ่งส่วนหนึ่งจำนวน 40,000 องค์ บรรจุกรุไว้ที่ใต้ฐานพระประธานที่ภูทอก

 

รายการที่ 249 รูปหล่อประจำตระกูล “ โลหิตดี ” (ครบ 8 รอบ 96 ปี) เนื้อขันลงหิน ปี 2552
พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี

บูชา 25,000-




ขอจัดหนักสำหรับคนมีบุญ กับรูปหล่อหลวงตามหาบัว รุ่น " โลหิตดี "
หนึ่งในวัตถุมงคลไม่กี่รุ่นที่หลวงตาฯ เมตตาอธิษฐานจิตให้อย่างเป็นทางการ
มีหลักฐานเป็นภาพถ่ายและพยานรู้เห็นหลายคน (ภาพถ่ายอยู่ที่คนขับรถของหลวงตาฯ)

สำหรับรูปหล่อ รุ่น "โลหิตดี" (นามสกุลเดิมของหลวงตาฯ) คุณแม่จันดี โลหิตดี
(น้องสาวแท้ๆ ของหลวงตามหาบัว ซึ่งหลวงตาฯ รับรองว่าสำเร็จแล้ว)
ได้ขออนุญาตหลวงตาฯ จัดสร้างขึ้นเพื่อแจกเป็นที่ระลึกแก่วงศ์ตระกูล “ โลหิตดี ”
เนื่องในวาระที่หลวงตามหาบัวมีอายุครบ 8 รอบ 96 ปี ในปี 2552
โดยมี ตาเยี่ยม ซึ่งเป็นหลานของหลวงตามหาบัว เป็นผู้ดูแลและดำเนินการจัดสร้าง

จำนวนการสร้าง
1. เนื้อนวะพิเศษ ก้นอุดทองคำ แจกกรรมการ (ตอก 3 โค๊ต ไม่ตอกหมายเลข) 3 องค์
2. เนื้อนวะพิเศษ แจกกรรมการ (ตอก 3 โค๊ต ไม่ตอกหมายเลข) 4 องค์
3. เนื้อนวะ 227 องค์
4. เนื้อขันลงหินพิเศษ แจกกรรมการ (ตอก 3 โค๊ต ไม่ตอกหมายเลข) 6 องค์
5. เนื้อขันลงหิน 996 องค์

มวลสารบรรจุในองค์พระ เป็นของที่เกี่ยวเนื่องกับองค์หลวงตาทั้งสิ้น
อาทิ เกศา เล็บ ชานหมาก จีวร สายสิญจน์
แล้วปิดด้วยฝากริ่ง ตอกโค๊ตรูปธรรมจักรและรันหมายเลขทุกองค์ที่ใต้ฐาน
(ยกเว้นเนื้อพิเศษแจกกรรมการที่ตอกโค๊ตอย่างเดียว)

การอธิษฐานจิต ได้นำถวายให้หลวงตาท่านอธิษฐานจิตเป็นกรณีพิเศษที่กุฏิของหลวงตา เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2552 เมื่อเวลา 16.15 น.
ซึ่งองค์หลวงตาท่านได้แผ่เมตตาให้นานราว 10 นาที
(ในการนี้ได้มีการขออนุญาตถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่ารุ่นนี้ได้มีการขออนุญาตอย่างถูกต้องจริง ซึ่งรูปนี้ปัจจุบันอยู่ที่คนขับรถของหลวงตา)

รูปหล่อรุ่นนี้จัดได้ว่าเป็นรูปหล่อที่หายากมากรุ่นหนึ่งของหลวงตามหาบัวเลยทีเดียว
เนื่องจากจำนวนสร้างที่น้อยมาก และแจกในหมู่วงศาคณาญาติที่เกี่ยวเนื่องกับองค์หลวงตาฯ ท่าน
และเนื่องจากผู้ขอจัดสร้างเป็นอริยะขนิษฐาขององค์หลวงตาฯ เพื่อมอบเป็นที่ระลึกแก่ลูกหลาน
หลวงตาท่านจึงเต็มใจที่จะทำให้อย่างเต็มที่ ซึ่งเวลา 10 นาที สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกว่าเร็วมาก
แต่ถ้าใครลองไปนั่งนิ่งๆ ต่อหน้าองค์หลวงตาฯ ท่านสัก 10 นาทีจะรู้ได้เลยว่าเหมือนเวลามันเดินช้ามาก
และยิ่งสำหรับองค์หลวงตาแล้ว ถือได้ว่านี่เป็นการอธิษฐานจิตที่นานที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ปกติแล้วแค่ท่านชายตามอง หรือแค่กำหนดจิตแว๊บเดียวก็เสร็จสิ้นแล้ว


หมายเหตุ รูปหล่อรุ่นนี้บางองค์ที่เห็นมีพระธาตุเสด็จมาเกาะด้วย

และเมื่อเช้ามืดของวันนี้ เวลา 01.03 น. คุณแม่จันดี โลหิตดี (น้องสาวแท้ๆ ขององค์ลต.มหาบัว ญาณสัมปันโน) ได้ถึงแก่อนิจกรรมลงด้วยโรคชรา

 

โอนบูชา ผ้ายันต์ให้แล้วครับผม พอดีเนตเสียหลายวันเลย