สงสัยเกี่ยวกับความสุขแบบประณีต

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย chomchan, 27 มิถุนายน 2013.

  1. chomchan

    chomchan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอความกรุณาถามผู้รู้ค่ะ คือดิฉันเริ่มปฎิบัติธรรม ถือศีล สมาธิ ภาวนา ต้นปี 56
    ดิฉันไม่มีความทุกข์มากมายแต่สนใจธรรมะเอง เริ่มนั่งสมาธิได้เดือนเดียวปรากฎ
    มีความสุขที่ร่างกาย(ไม่ใช่สุขใจ) ทั้งตอนนั่งสมาธิและตอนไม่นั่ง แรกๆสังเกตุความสุขตอนไม่นั่งมันจะมาตอนที่จิตคิดเรื่องดีๆ แต่ตอนนี้ความสุขมีทุกวัน บางวันมากจนไม่อยากกินข้าว คือจะรู้สึกอิ่มค่ะ ดิฉันอยากรู้ที่มาของความสุขที่ดิฉันเป็น
    ตอนนี้เวลานั่งสมาธิดิฉันปล่อยคำบริกรรมพุทโธ ไม่ตามลมหายใจแล้ว ผ่านช่วงวิปัสนูกิเลส เวลาจะเข้าสมาธิดิฉันจะเอาจิตวางตรงอารมณ์ปล่อยวาง(ดิฉันรู้สึกว่าเป็นร่องของมัน) แล้วเข้าสมาธิได้คล่องมาก อยากรู้ว่าใช่เข้าฌานได้มั้ยคะ ถามผู้รู้บางท่านบอกว่าคนธรรมดาอย่างเราๆยังห่างใกลฌานมาก
     
  2. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    อาการนี้ เรียกว่า เฉียดฌาณ แต่สติสังเกตุอารมณ์ความตั้งมั่นยังไม่ดีพอครับ จึงทำให้เรายังไม่สามารถยืนยันตัวเองได้ชัดเจน
    อารมณ์ฌาณจะ นิ่งสงบสุข ตั้งมั่นนาน แม้ออกจากฌาณแล้ว จิตก็ยังเป็นหนึ่ง
    ให้หมั่นสังเกตุตัวเองนะครับว่า จิตในขณะที่นิ่งอยู่นั้น เผลอคิดบ่อยแค่ไหน หากสติจ่อตรงหน้านิ่งตั้งมั่น อาการอะไรเกิดรู้ตัว คิดอะไรรู้ตัว ตลอด ไม่ล่องลอย มีสุขสบายเกิดขึ้นทั่วกาย นั่นแหละครับ จิตเป็นองค์ฌาณ สังเกตุให้แม่นยำแล้วปฏิบัติให้ชัดเจนและประณีตยิ่งๆขึ้นไป โดยใช้ปัญญาจดจำในสภาวะธรรมที่เกิดกับตน
     
  3. chomchan

    chomchan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอบคุณมากค่ะ คุณ รโชหรณัง ขอแสดงความคิดเห็นนะคะ จากที่คุณแนะนำดิฉันคิดว่าภูมิธรรมคุณไม่ธรรมดาค่ะ ดิฉันปฎิบัติธรรมด้วยตนเองที่บ้านเพราะไม่มีโอกาสไปสำนักไหนมีหน้าที่ดูแลพ่อ แม่ ที่ป่วยมาก อาศัยอ่านหนังสือ ดูสภาวะธรรมแต่ละข้อกว่าจะเห็นนี่ยากลำบากมากค่ะ จิตใจโลเล มีแต่ความไม่แน่ใจ อาศัยยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่ง
     
  4. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ผมว่าหลีกให้ไกลจาก "ผู้รู้" คนนั้นดีกว่านะครับ

    ทุกดวงจิต แค่จิตพ้นจากสิ่งปิดบัง ก็ถึงฌานแล้ว

    แต่อย่าติดอยู่แค่ความสุขนั่น ให้เจริญสติต่อไปเรื่อยๆ นะครับ
     
  5. chomchan

    chomchan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอบคุณค่ะคุณอิทรบุตร จะพยายามสุดความสามารถ
    ตามปัญญาอันน้อยนิดค่ะ
     
  6. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ให้คุณ chomchan หมั่นเจริญสติ คอยรู้ตัวว่า คิดอะไร ทำอะไรอยู่ และรู้สึกอารมณ์อะไร สำคัญคือ เมื่อไรที่ว้าวุ่นใจ กลุ้มใจ ทุกข์ใจ นั้นเป็นเพราะอารมณ์ที่จิตก่อตัว ถือว่าเป็นนาทีทอง ให้คอยประคองสติอย่าให้มันลุกลาม รีบสลัดความคิดปรุง แล้วจดจำสภาวะอารมณ์ที่ดีที่เบิกบาน และ อารมณ์ทุกข์ให้ได้ แยกสภาวะธรรมทั้งสองนั้นให้เป็น แล้วเจริญอารมณ์ที่ดี สลัดอารมณ์ที่ทุกข์ให้ได้ ซึ่งจะต้องอาศัยทั้ง ศีล สมาธิ และ ปัญญา เพื่อที่จะนำพาใจให้หลุดจากอารมณ์ทุกข์นั้น หมั่นมีฉันทะหรือความพอใจในการปฏิบัติธรรมให้มากๆ
    ปัญญาแรกๆอาจจะไม่กว้างขวาง สมาธิอาจจะไม่ตั้งมั่นพอ ศีลอาจจะไม่ดี การดับอารมณ์ต่างๆได้ไม่มาก ไม่เร็ว และอาจจะไม่สามารถสลัดอารมณ์ได้ทันที เนื่องจากยังมีอวิชชา ตรงนี้ต้องหมั่นเจริญศีล สมาธิ ปัญญา ด้วยสติระลึกสภาวะธรรมที่เกิดแต่ละอย่างให้ดี พอจิตตั้งมั้่นด้วยสมาธิ แล้วจะระลึกเห็นเหตุเห็นผลได้ชัดเจน แล้วจะเห็น ทุกข์ว่า ทุกข์อันนั้นก็ไม่จำเป็นจะต้องหยิบฉวยเอามาเข้าตัว วางได้ทันที เรียกว่า นิโรธ
    สุดท้ายใช้ชีวิตตามครรลองคลองธรรม คอยสังเกตุ มีสติ จะทำการสิ่งใดอย่าให้มันผูกมัดตัวมากเกินไป ระแวดระวังภัย จะทำการสิ่งใดให้คิดให้รอบครอบ สิ่งเหล่านี้จะเป็นทางส่งเสริมให้ปฏิบัติธรรมไม่ติดขัด
    กุศลที่ดูแลพ่อแม่ นั้นจะนำพาให้การปฏิบัติธรรมเจริญก้าวหน้า เพราะจิตไม่เห็นแก่ตัว
    ขอให้เจริญในธรรม
     
  7. chomchan

    chomchan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +6
    คุณรโชหรณัง ดิฉันอ่านโพสของคุณซ้ำหลายรอบมากค่ะเหมือนคุณมานั่งดูจิตของฉันเลยค่ะ
    คือตอนดิฉันปฏิบัติธรรมใหม่ๆ สบายใจ สุขใจรู้สึกมหรรศจรรย์ในธรรมมากค่ะ พอทุกวันนี้ชีวิตดิฉันมีแต่เรื่องให้ทุกใจ เรื่องนั้นเข้า เรื่องนี้ออก จ่อคิวไม่ว่างแต่ละวัน เรื่องธุรกิจไม่เคยคิดทำไม่รู้เกิดไรขึ้นลุกขึ้นมาทำโครงการใหญ่มาก จิตดิฉันมีแต่ความกังวลสารพัด จากชีวิตเรียบๆ สบายๆ เรื่องวุ่นวายมีน้อยมาก บางวันจิตตก ดิฉันฝึกอยู่กับจิตที่มันตก โดยไม่ให้คนในครอบครัวรู้ อาศัยพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง พยายามอยู่กับปัจจุบันแต่ลำบากมากค่ะ ดิฉันรู้สึกว่าเป็นช่วงนาทีทองของเจ้ากรรมนายเวร
     
  8. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    คุณ chomchan ในเมื่อทำอะไรลงไปแล้ว หากเกิดปัญหา ก็ต้องใช้สติ ใช้ความเพียร ค้นคว้าหาทางแก้ไขไปตามวิธีการความรู้แบบทางโลกที่เขาใช้กัน แต่อาศัยทางธรรมคอยกำกับใจให้เห็นถูกแก้ปัญหาให้ถูกทางตามครรลองของธรรม คือ หลักคุณธรรมเป็นหลักใหญ่ เรื่องที่มีปัญหาก็จะเบาบางลงไปได้ ด้วยคุณธรรมนี้แหละ เช่นคนโกรธกัน พออภัยให้กัน คิดดีต่อกัน เรื่องที่ขัดกันก็เบาไปยอมกันได้ สำคัญคือ ต้องยอมเสียสละ รู้จักยอมเสียสิ่งเล็กเพื่อรักษาสิ่งใหญ่ แบบนี้เป็นต้น เรื่องแก้ปัญหาทางโลกก็คงต้องทำใจให้สบาย อย่าไปแก้ไขทั้งๆที่ขุ่นมัว จิตใจที่ขุ่นมัวเป็นจิตของอวิชชามักจะพาไปผิดทางเสมอ ก็แนะนำเรื่องทางโลกเท่านี้นะครับ
    การเจริญภาวนาและการทำบุญให้กับพระศาสนาจะช่วยทำให้เรามีกุศลมาช่วยเหลือเกื้อกูลในยามที่มีปัญหา
    ขอให้เจริญในธรรม
     
  9. chomchan

    chomchan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +6
    เป็นยังไงสุขที่ร่างกาย ไม่ใช่ที่ใจ? งง... ถ้าใจไม่รับรู้ แล้วกายมันจะรู้ยังไง
    ปกติใจเป็นสุขก่อน ก็พลอยให้กายสุขด้วย ก็ดูจะสมเหตุสมผล
    คิดว่า จขกท น่าจะเหมือนนั่งสักพัก แล้วใจเย็นลง ใจนิ่งลงมากกว่า ก็เลยเหมือนสุขอยู่
    ทั้งวัน อย่าพึ่งไปคิดถึง ญาณ ชาน ระเบียง อะไรเลย อาจจะได้จริงหรือไม่จริงก็ได้
    ตั้งใจกำหนดสติให้มากขึ้น เรื่อย ๆ เดี๋ยวอะไรดี ๆ ยังมีรออีกเยอะ
    พระอรหันต์ก่อนท่านจะสำเร็จ ท่านก็มีจุดเริ่มต้นเหมือนคนธรรมดาแบบเรามาก่อน
    แต่ท่านมุ่งมั่น และตั้งใจทำ มาเรื่อย ๆ จนถึงที่สุดแห่งธรรม ฉะนั้นคนธรรมดาแบบพวก
    เราก็ทำแบบท่านได้ ถ้าตั้งใจ และไม่ขี้เกียจ ทุกคนต้องมีจุดเริ่มต้น

    ความสุขที่ร่างกายจริงๆค่ะ ยืนยัน มันเกิดขึ้นกับดิฉันซึ่งสงสัยถามผู้ที่ปฏิบัติธรรมหลายคนแล้วไม่ได้คำตอบ ไม่ใช่สุขใจ เพราะ เวลาทุกข์ใจ เสียใจ จิตตก กังวล ดีใจ ความสุขมันเกิดได้ทุกอารมณ์ ไม่เลือกเวลากำหนดไม่ได้ แต่มันเกิดขึ้นทุกวัน เป็นความสุขเย็นๆค่ะ คือตอนดิฉันเริ่มปฏิบัติธรรมไม่นานครั้งแรกตอนนั่งสมาธิมันจะเริ่มจากฝ่าเท้าขึ้นมาหาตัว ตัวในที่นี้ไม่เกิดขึ้นพร้อมกันนะคะ ทีละจุดค่ะ บางทีก็สุขที่ท้องบ้าง หัวใจบ้าง หัว มันจะเปลียนเอง แต่ก่อนเป็นตอนนั่งสมาธิ ทุกวันนี้ไม่นั่งก็เกิดค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...