ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

อเมริกาและยุโรป..ได้เตรียมการเรื่องภัยพิบัติกันแล้ว !!!​

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=vg1b1F9oGn0]Remote Viewers Predict Catastrophic Events for 2013 - YouTube[/ame]​

Nirvana สมาชิก

เรื่องที่รัฐบาลในหลายประเทศทั้งอเมริกาและยุโรป ได้เตรียมสถานที่หลบภัยใต้ดินขนาดใหญ่ไว้รองรับเหตุการณ์ที่อาจะะเกิดขึ้น นั่นเป็นการส่งสัญญานอะไรให้ชาวโลกรู้ว่า รัฐบาลประเทศนั้นๆคิดอย่างไร และเตรียมการอย่างไร สำหรับผู้คนในชาติบ้านเมืองของเขา ดูเหตุผลหลายๆข้อในคลิปวีดีโอนี้ ก็ตรงกับข้อมูลจากแหล่งอื่นๆเช่นกัน

ส่วนในบ้านเรากระแสวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 มีแนวโน้มว่าจะแรงขึ้น เพราะการถอดรหัสรูปภาพในมหาชนกของสมาชิกในเวปพลังจิตเมื่อ 2-3 ปี ก่อนก็กล่าวถึงวันที่ 9 พ.ค. 56 เช่นกัน หลวงปู่หงษ์ ณ.สุสานทุ่งมน จ.สุรินทร์ก็ได้เตือนลูกหลานที่ไปกราบท่านทุกคนว่า ให้ระวังเดือนพฤษภาคมนี้ เหตุการณ์จริงจะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป

ที่มา http://palungjit.org/threads/สิ่งที...ารณ์ที่จะเกิดขึ้นในปี-2013-๒๕๕๖.444502/page-6

 

เหยื่อไข้หวัดนกรายแรกไต้หวันอาการหนักอยู่ ICU !!!​

​

ไต้หวัน 27 เม.ย. - ผู้ป่วยไข้หวัดนกรายแรกของไต้หวันยังอาการหนัก แพทย์ยังต้องคอยเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดอยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก

ชายวัย 53 ปี ชาวไต้หวันผู้กลับจากไปทำงานที่เมืองซูโจว ในมณฑลเจียงซู จีนแผ่นดินใหญ่ และล้มป่วยลง แพทย์ไต้หวันยืนยันว่ามีเชื้อไข้หวัดนก H7N9 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และเป็นผู้ป่วยรายแรกของไต้หวัน ขณะนี้อาการยังอยู่ในขั้นวิกฤติ ส่งผลให้ทางการไต้หวันต้องประกาศเข้มงวดการเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะชาวไต้หวันที่เคยเดินทางไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ ในบริเวณที่มีรายงานว่ามีผู้ป่วยไข้หวัดนก H7N9 อยู่ บุคคลเหล่านี้หากมีอาการไข้และไอ ให้รีบเข้าพบแพทย์ที่โรงพยาบาล และโรงพยาบาลต้องรายงานให้รัฐบาลได้รับทราบภายใน 24 ชั่วโมง

ขณะเดียวกัน สภาการเกษตรของไต้หวันประกาศว่าจะเข้มงวดการตรวจสอบนกอพยพ ฟาร์มสัตว์ปีก ตลาดค้าสัตว์ปีก และอาจสั่งห้ามการเชือดเป็ดไก่ที่ตลาดเป็นการชั่วคราวด้วย

สำนักข่าวไทย TNA News | 27 เม.ย. 2556 16:04 |

ที่มา เหยื่อไข้หวัดนกรายแรกไต้หวันอาการหนักอยู่ ICU | MCOT.net | MCOT.net

จีนสั่งห้ามขายสัตว์ปีกทั่วเมืองหนานจาง หลังพบผู้ติดเชื้อ H7N9 รายแรก !!!​

​

จีน 27 เม.ย. - ทางการจีนสั่งห้ามซื้อขายสัตว์ปีกตามตลาดต่างๆ ทั่วเมืองหนานจาง ในมณฑลเจียงซี หลังจากพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนก H7N9 รายแรกในพื้นที่แล้ว

สาธารณสุขมณฑลเจียงซีระบุว่า ผู้ติดเชื้อไข้หวัดนก H7N9 รายแรกของเมืองหนานจาง เป็นชายวัย 69 ปี ซึ่งไม่เคยเดินทางออกนอกพื้นที่ และไม่ได้สัมผัสกับสัตว์ปีกแต่อย่างใด เพียงแต่ที่อยู่อาศัยนั้นอยู่ใกล้ตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต ซึ่งทางการได้นำตัวอย่างเนื้อเยื่อของสัตว์ปีกเหล่านั้นกว่า 100 ตัวอย่าง ส่งห้องแล็บเพื่อตรวจอย่างละเอียด พร้อมกับสั่งห้ามขายเป็ดไก่มีชีวิตรวมไปถึงนกต่างๆ

ขณะที่สวนสัตว์ของเมืองได้รับคำสั่งห้ามผู้ชมเข้าไปในบริเวณกรงนก หรือที่อยู่อาศัยของสัตว์ปีกเป็นการชั่วคราว พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้โรงพยาบาล 5 แห่งในมณฑลเจียงซี เตรียมพร้อมรับผู้ป่วยไข้หวัดนก H7N9 ที่อาจมีเพิ่มมากขึ้นด้วย

สำนักข่าวไทย TNA News | 27 เม.ย. 2556 13:40 |

ที่มา จีนสั่งห้ามขายสัตว์ปีกทั่วเมืองหนานจาง หลังพบผู้ติดเชื้อ H7N9 รายแรก | MCOT.net | MCOT.net

 

ขอให้เตรียมจิตใจให้เข้มแข็ง !!!​

​

ZZ
ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด


จาก...PM ที่ได้ส่งให้สมาชิก

ขอสรุปตัดตอน...และเพิ่มเิติม...เพื่อให้ชาว WAR ROOM ได้ระมัดระวัง...ดังนี้

- สถานะการณ์การเมืองที่ไม่ค่อยดีเลย เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ, การกู้เงิน 4.5 ล้านล้าน (ยอดรวม), การกดดันธนาคารแห่งประเทศไทย, เงินงบประมาณที่ไม่พอใช้ และการเก็บภาษีไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

- ดวงเมือง...ที่ไม่ค่อยดีเช่นกัน อาจเกิดความรุนแรง (โหรท่านต่างๆทายไว้มากแล้วลองค้นดูครับ)

- ฝันว่า...ท่านให้เตรียมเสบียงไว้ล่วงหน้า (ส่วนตัวอยากเก็บ...ทองและอาหาร...ค่อยๆทะยอยเก็บ)

- เศรษฐกิจ...ฟองสบู่ใกล้แตกเต็มที...เตรียมตัว (ตกงาน) กันด้วยครับ....เก็บเงินไว้ยามฉุกเฉินได้แล้ว

- บรรยากาศโลกเศร้าหมอง จิตใจเศร้าหมอง...อากาศวิปริต...ผู้คนใจร้อน...ขอให้เตรียมจิตใจให้เข้มแข็ง (ทำบุญ ทำทาน ทำสมาธิ ปล่อยวาง)

- น้ำท่วม ?

- สงครามเล็ก - ใหญ่ ?

2 ข้อหลังนี้...ต้องตามข่าว....นะครับ

28-04-2013, 02:29 AM

ที่มา http://palungjit.org/threads/warroo...พื่อรองรับสถานการณ์ปี-2013-a.288866/page-1311

 

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าระบบทุนนิยมโลกล่มสลาย !!!​

​

ถ้ามีการสร้างภาพยนต์เรื่อง ทุนนิยมโลกล่มสลาย (The End of Capitalism) บทในภาพยนต์เรื่องนี้ จะเริ่มต้นด้วย

ฉากที่ 1 : สถาบันการเงินตั่งแต่ ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ บริษัทประกันภัย ล้ม ผู้ที่ฝากเงินในสถาบันการเงินเหล่านี้หมดตัว เงินออมที่สะสมไว้ไม่ว่าจะสร้างขึ้นมาเอง หรือได้รับมรดกมาหายไปหมด เหลือแต่สมุดฝาก ซึ่งไม่มีความหมาย เพราะไปถอนเงินไม่ได้ อย่างดีก็ได้แค่ที่รัฐบาลค้ำประกัน ถ้าเป็นกรณีของประเทศไทย ก็จะเหลือเพียงแค่คนละ 1 ล้านต่อหนึ่งธนาคาร

ฉากที่ 2: ตลาดหุ้นพังพินาศ ราคาหุ้นตกต่ำ บริษัทที่จดทะเบียนขาดทุน ปิดกิจการ ใบหุ้นคือเศษกระดาษ คนที่มีหุ้นที่ซื้อเก็บเพื่อลงทุนไม่ว่าจะซื้อเองหรือได้รับมรดก หมดตัว

ฉากที่ 3: ตลาดตราสารหนี้ พังพินาศ หุ้นกู้ หรือตราสารหนี้ที่ออกโดยบริษัทและสถาบันการเงิน ที่ได้ปิดกิจการตามที่แสดงในฉากที่ 1 และ 2 ไม่สามารถได้ผลตอบแทนหรือไถ่ถอนได้ ตราสารเหล่านี้ จึงเป็นเศษกระดาษ เหมือนกับใบหุ้น

ฉากที่ 4: คนทั้งหมดที่เก็บสะสมความมั่งคั่งไว้ทั้งฝากธนาคาร ซื้อหุ้น ซื้อตราสารหนี้ แถบไม่มีอะไรเหลือ ความเหลื่อมล้าเรื่องการกระจายรายได้ระหว่างประชาชนหมดไป คือจนลงถ้วนหน้า นอกจากจนอย่างเท่าเทียมกันแล้ว ยังตกงานเท่าเทียมกันในเกือบทุกอาชีพ (ยกเว้นสัปเหร่อ หรือคนงานมูลนิธิร่วมกตัญญูหรือปอเต็งตึ้ง เนื่องจากมีคนฆ่าตัวตายเยอะ รวมทั้งมีการปล้นฆ่ากันมากขึ้นเพื่อหาเงินประทังชีวิต)

ราคาสินค้าลดลงต่ำสุดอย่างที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อน เช่น ราคานำมันเบนซินจะเหลือลิตรละ 4-5 บาท ราคามือถือ IPhone จะเหลือไม่กี่พันบาท ห้างสรรพสินค้าจะ all day sale ไม่แต่เฉพาะ midnight หรือ midday sale แต่ก็จะไม่มีใครซื้อ (นอกจาก oat) จะไม่มีใครไปเดินที่ห้างสรรพสินค้า คนจะซื้อเฉพาะของกิน หรือ เพราะไม่มีเงิน ตกงาน ที่สุดทุกบริษัทก็จะต้องปิดตัว เพราะขายต่ำกว่าราคาต้นทุนไม่ได้

ฉากที่ 5: รัฐบาลเก็บภาษีไม่ได้ เพราะธุรกิจเจ๊งหมด คนไม่มีรายได้ การค้าหดตัว เมื่อรัฐบาลไม่มีรายได้ ก็ไม่มีเงินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ หรือลงทุนทำอะไร รัฐบาลจะออกพันธบัตรมาขอกู้เงิน ไม่ว่าจะกู้จากในประเทศหรือต่างประเทศ ก็จะไม่มีใครมาให้กู้ รัฐบาลไทยและรัฐบาลทั่วโลก

คงต้องไปกู้จากแหล่งเดียวคือ ธนาคารชาติของตน ซึ่งธนาคารชาติคงไม่มีทางเลือกนอกจากจะพิมพ์แบงค์ให้รัฐบาลใช้ ก็พอประทังไปได้ชั่วขณะ แต่ถ้าพิมพ์ออกมามาก ๆๆๆๆๆ เพื่อที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจทุกย่อมหญ้า ท้ายสุดก็จะเกิด hyperinflation เศรษฐกิจอาจจะพงกหัวขึ้นมา จากนั้นก็จะฟุบกลับเหมือนเดิม

ฉากที่ 6 จบลงตรงที่ นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับรางวัลโนเบลทั้งหมดที่ยังมีชีวิตอยู่ มานั่งสุ่มหัวว่า จะสร้างระบบทุนนิยมของโลกขึ้นมาใหม่อย่างไร เพื่อช่วยชีวิตของคนทั้งโลก ให้พ้นจากความหายะนะของชีวิต ในระบบทุนนิยม ที่ความมั่งคั่งที่สะสมมา หายวับไปกับตา

(หนังเรื่องนี้ ระบุว่ามีภาค 2 , 3 ต่อ โปรดติดตามชม)

หมายเหตุ บทหนังเรื่องนี้จำลองมาจากของจริงในช่วงเกิด great depression 1930-2940 บวกกับบางส่วนของวิกฤต subprime ที่กำลังเกิดขึ้น ภายใต้สถานการณ์ที่รัฐบาลและธนาคารชาติของประเทศต่างๆ ไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือสถาบันการเงินและพยุงตลาดหุ้น

บทความโดย คุณถวิล นิลใบ วันที่เขียน : 2009-01-01 16:30:06 น.

ที่มา http://blog.ru.ac.th/myBlog.php?bID=1298&mID=488

 

ขอบคุณเช่นกันครับที่เข้าใจผม ผมก็ลบไปละพี่damrongp

 

คณะนักท่องเที่ยวจีนจะล่องเรือไปหมู่เกาะพาราเซลที่พิพาทกับเวียดนาม ​

​

ปักกิ่ง 28 เม.ย. - สื่อทางการจีนรายงานว่า คณะนักท่องเที่ยวจีนจะล่องเรือไปยังหมู่เกาะพาราเซลในทะเลจีนใต้ วันนี้ ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่จีนอ้างสิทธิทับซ้อนกับเวียดนาม

หนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์ส อ้างรายงานของเซี่ยงไฮ้มอร์นิงโพสต์ว่า นักท่องเที่ยวมากถึง 100 คน ซื้อตั๋วราคา 7,000-9,000 หยวน (เกือบ 35,000-45,000 บาท) เพื่อล่องเรือนาน 4 วัน จำกัดเฉพาะนักท่องเที่ยวสุขภาพดี มีน้ำหนักตัวปกติเท่านั้น หากเรือเที่ยวปฐมฤกษ์ประสบความสำเร็จด้วยดีก็จะมีการล่องเรือทุกเดือน หรือเดือนละ 2 ครั้ง

แผนการล่องเรือท่องเที่ยวนี้มีขึ้นต่อเนื่องจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมืองซานซา ซึ่งเป็นเมืองใหม่ และการตั้งกองทหารรักษาการณ์บนหมู่เกาะพาราเซลเมื่อปีก่อน จีนเรียกหมู่เกาะนี้ว่า ซีซา ส่วนเวียดนามเรียกว่า หวงซา จีนเข้ายึดตั้งแต่ทำสงครามกับเวียดนามเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อปี 2517 ประกอบด้วยหมู่เกาะเล็กๆ 40 เกาะ ชายหาด และแนวปะการัง เดือนที่แล้วเวียดนามเพิ่งกล่าวหาเรือจีนว่า ยิงเรือประมงเวียดนามที่ลอยลำอยู่ในน่านน้ำพิพาทของหมู่เกาะนี้

สำนักข่าวไทย TNA News | 28 เม.ย. 2556 15:47 |

ที่มา คณะนักท่องเที่ยวจีนจะล่องเรือไปหมู่เกาะพาราเซลที่พิพาทกับเวียดนาม | MCOT.net | MCOT.net

ญี่ปุ่นเผยเครื่องบินทหารจีนบินใกล้เกาะเซนกากุวันเดียวกว่า 40 เที่ยว​

​

โตเกียว 27 เม.ย.-หนังสือพิมพ์ซังเคของญี่ปุ่นรายงานวันนี้ว่า เครื่องบินทหารของจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครื่องบินขับไล่ บินเข้าใกล้เกาะที่อยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่น และเป็นกรณีพิพาทระหว่างกันถึงกว่า 40 เที่ยว ในระยะเวลาเพียงวันเดียว

การบินเข้าใกล้เกาะดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อเรือลาดตระเวนของจีน 8 ลำล่วงล้ำเข้าไปในบริเวณที่อยู่ห่างจากเกาะในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งญี่ปุ่นเรียกว่าเซนกากุ และจีนเรียกว่าเตียวหยู 12 ไมล์ทะเล

รายงานระบุว่า ญี่ปุ่นได้ส่งเครื่องบินรบเอฟ-15 จากฐานทัพอากาศบนเกาะโอกินาวาขึ้นสกัดเครื่องบินของจีนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ระดับสูงรัฐบาลญี่ปุ่นกล่าวว่า นับเป็นการคุกคามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และว่าหากยังคงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ต่อไปอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศของญี่ปุ่นไม่สามารถจัดการได้ อย่างไรก็ตาม รายงานไม่ได้ระบุว่าเครื่องบินของจีนล่วงล้ำน่านฟ้าของญี่ปุ่นหรือไม่

เรือของรัฐบาลจีนมักแล่นเข้าไปในบริเวณใกล้เกาะดังกล่าวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งก่อให้เกิดการปะทะกันทางการทูต แต่เหตุการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานับเป็นการนำเรือเข้าไปยังน่านน้ำที่เป็นกรณีพิพาทจำนวนมากที่สุดในเวลาเพียงวันเดียวนับแต่ญี่ปุ่นเข้าซื้อเกาะดังกล่าวเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว

สำนักข่าวไทย TNA News | 27 เม.ย. 2556 18:11 |

ที่มา ญี่ปุ่นเผยเครื่องบินทหารจีนบินใกล้เกาะเซนกากุวันเดียวกว่า 40 เที่ยว | MCOT.net | MCOT.net

 

จะเกิดการพังพินาศของระบบเศรษฐกิจโลกทั้งระบบ !!!​

​

พบจารึกบนโล่ไม้โบราณ อายุกว่า 1,000 ปี ของชาวไวกิ้ง ระบุประเทศ มหาอำนาจของโลก จะพลิกคว่ำล้มละลาย จากวิกฤติการณ์ทางการเงิน ผู้คนต่างพากันบุกปล้นชิงอาหารและทรัพย์สิน เพื่อความอยู่รอดเกิดเหตุจราจลที่เมืองใหญ่ทั่วโลก

เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ จารึกบนโล่ไม้ กำหนดไว้ในปี ค.ศ. 2011 หรือปีหน้าที่จะถึงนี้เอง การขุดค้นแหล่งโบราณคดี ที่ประสาทโบราณ เก่าแก่แห่งหนึ่งบริเวณ ชานกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงเดนมาร์ค ซึ่งเมื่อพันปีก่อน ดินแดนแถบนี้เป็นที่อยู่ชนเผ่าไวกิ้ง นักรบผมขาวผิวขาว ตาสีฟ้า และชอบสวมหมวกมีเขาบนหัว 2 เขา คล้ายเขาวัวกระทิง

ภายในประสาทเก่าแก่ นักโบราณคดี ที่มีศาสตราจารย์อูลไรด์สเตนสการ์ด ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาวิจัยชนเผ่าไวกิ้ง ได้พบโล่ทำจากไม้เนื้อแข็ง กว่าง 32 นิ้ว
บนแผ่นโล่ไม้นี่เองมีอักษรจารึกเป็นภาษารูน เป็นภาษาของชาวสแกนดิเนเวีย ใช้กันเมื่อหลายพันปีก่อน ผู้จารึกข้อความเอาไว้เป็นชาวนอร์ส หรือชาวนอร์เวย์ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นลูกหลานโดยสายเลือดของชาวไวกิ้ง

ในอดีตชาวนอร์ส หรือนักรบไวกิ้งนี่เอง กรีฑาทัพบุกโจมตีคนผิวขาวทั้งที่เกาะ อังกฤษ และในทวีปยุโรปในยุคกลางหรือ 500 ปีที่ผ่านมา ชาวไวกิ้งคือชนเผ่ามหาอำนาจแห่งสแกนดิเนเลียน นักโบราณคดีได้ถอดความจารึกบนโล่ไม้ได้ความว่า...เป็นคำพยากรณ์ เมื่อ 1,500 ปีก่อน ถึงโลกในปัจจุบัน

“ระบบการเงินการคลังของโลก จะแห้งเหือดหายไปทีละนิด ซื้อขายโดยใช้ธนบัตรจะหมดคุณค่าลงในฉับพลันทันที ธนบัตรมีค่าเท่ากับกระดาษแผ่นเดียว คนไม่มีงานทำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมๆกับภาวะขาดแคลนอาหารลุกลามไปทั่วโลก เมื่อน้ำจืดหาได้ยากและเกิดการแย่งชิงกันขึ้น”

“จากคำพยากรณ์ระบุว่า ระบบธนาคารในประเทศมหาอำนาจจะล้มคลืนลงมาก่อน จากนั้นกลายเป็นสถาบันการเงินอื่น ล้มตามเหมือนทฤษฎีโดมิโน่”

“เงินหายไปจากตลาดเงิน เงินเป็นสิ่งหาได้ยาก แต่เมื่อได้มาแล้วมีคุณค่าน้อยนิด เช่นเดียวกับราคาสินค้า โดยเฉพาะสินค้าอาหารแพงขึ้นหลายเท่าตัว”

“พยากรณ์บนโล่ไม้บอกอีกว่า ผู้คนออกจากบ้านที่อยู่อาศัยเพราะไม่มีอาหาร น้ำและเครื่องสาธารณูปโภค มาชุมนุมตามท้องถนน แล้วก่อการจราจล เผาบ้าน เผาเมือง ปล้น จี้ ชิงทรัพย์ เพื่อเอาชีวิตรอดจากวิกฤติการณ์ ”ศาสตราจารย์อูลไรด์กล่าว”

“ทรัพย์สินที่ชาวบ้านนำไปจำนำ จำนองเพื่อแลกเป็นเงินเพื่อใช้ซื้อข้าวของเลี้ยงชีวิต จะถูกยึด ถูกริบ เพราะไม่มีปัญญาหาเงินมาไถ่คืนไปได้” และในที่สุดชาวเมืองพากันบุกเข้าปล้นแหล่งอาหาร อย่างไม่มีทางเลือกเป็นอื่นไปได้”

“วิกฤติการณ์เช่นนี้เหมือนกับ นักรบไวกิ้งได้กระทำมาแล้วเมื่อหลายพันปีก่อน โดยการปล้นจี้ตีชิงอาหารและทรัพย์สิน จากคนรวยมาแบ่งให้คนจนได้ประทังชีวิตรอด ในยามเกิดวิกฤติการณ์ไปได้”

“อีกฝ่ายยกพวกปล้นชิง อีกฝ่ายตั้งกองกำลังป้องกันตัวเอง การฆ่าฟันเกิดขึ้น จากเมืองใหญ่ แพร่ไปยังเมืองเล็ก เลือดจะไหลรินท่วมถนนเป็นท้องธาร” ศาสตราจารย์ อูลไรด์กล่าว

“จารึกบนโล่ไม้ระบุไว้ว่า ปลายปี 2011 จะเกิดสงครามแย่งชิงอาหารและน้ำดื่มมกันขึ้น เป็นสงครามใหญ่ที่มีผู้เสีย ชีวิตหลายสิบล้านคน และจบลงด้วยการพังพินาศ ของระบบเศรษฐกิจโลกทั้งระบบ”

“แต่ไม่นานระบบเศรษฐกิจใหม่ ระบอบการเมืองใหม่จะอุบัติขึ้นมา ซึ่งระบบใหม่นี้สามารถจัดระเบียบทำให้ผู้คน แต่ละชนชาติอยู่ร่วมโลกกันด้วยสันติสุข ไปอีกระยะหนึ่ง จากนั้นก็เกิดสงครามขึ้นอีก เพราะความโลภ ความไม่พอเพียงซึ่งเป็นธาตุแท้ดั้งเดิมของมนุษย์ทุกคน”

“และสิ่งแน่นอนที่สุดเมื่อเกิดการ ฆ่าฟันเพื่อแย่งอาหาร แย่งน้ำกัน ถึงเวลานั้น กติกาของสังคม กฎหมาย และความศรัทธา จะพังทะลายลง ผู้คนสวมหัวใจสัตว์เดรัจฉาน จับอาวุธฆ่าฟันกันอย่างกระหายเลือด โดยไม่เลือกพี่เลือกน้อง ชนเผ่าและสายเลือดเดียวกันหรือไม่?

“ในกลียุคที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ผู้คนใช้อาวุธทำลายล้างกันอย่างเชี่ยวชาญ ตรงข้ามกับระดับจิตใจ ตกต่ำลงถึงขีดสุด” นักโบราณคดีชาวเดนมาร์คกล่าว

“สิ่งที่ประวัติศาสตร์มนุษยชาติ จะได้เห็นกันอีกครั้ง คนจะอยู่ร่วมอย่างไม่ละอายต่อบาป เพื่อให้ได้ปัจจัย 4 มาเป็นของตัวเอง สามารถฆ่าได้แม้เป็นผู้มีพระคุณเคยช่วยชีวิตตนเองมาก่อน”

“คุณค่าของคนและชีวิตของคน ลดค่าเท่ากับศูนย์ เพราะคนเราจะหันมาบูชาเงินเป็นพระเจ้า”

ศาสตราจารย์ อูลไรด์ ตั้งข้อสังเกตอีกว่า การพังพินาศระบอบเศรษฐกิจทั่วโลก อาจเป็นลางร้าย บอกล่วงหน้าว่าโลกกำลัง มาถึงยุคการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่อีกครั้ง เป็นการเปลี่ยนแหลงจากยุคแสวงหาสัจธรรม ในยุคที่ 3 มาเป็นกลียุคในยุคที่ 4 เหลือเวลาอีกไม่ถึงปี กลียุคจะเกิดขึ้นบนโลกหรือไม่? ก็ขอใช้คำเดิม ๆ ...ถ้าไม่เชื่อกรุณาอย่าลบหลู่

โพสต์เมื่อ : 2010-12-03 13:40:19 น.

ที่มา 108

 

9 พค.56 มีเหตุไปชะอำด้วยซิ

 

ซาราห์ เพลิน เตือนอเมริกาจะผิดชำระหนี้เกิดจลาจล !!!​

​

ซาราห์ เพลิน (Sarah Palin) อดีตผู้รับสมัครรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เขียนลงในเฟซบุ๊กของเธอเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ว่า ถ้าหากยังก่อหนี้ใช้จ่ายเกินตัวอย่างนี้ รัฐบาลกลางอเมริกาจะผิดชำระหนี้ในที่สุด และขณะนี้รัฐบาลกำลังระดมเสบียงกระสุนดินปืนอยู่ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับจลาจลภายในประเทศ ในกรณีที่เศรษฐกิจล่มสลาย

เพลิน กล่าวโจมตีประธานาธิบดีบารัก โอบามา ว่า ยังคงดำเนินนโยบายใช้จ่ายเกินตัวอยู่ การตัดงบประมาณใช้จ่ายลง 110,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี (ประมาณครึ่งหนึ่งเป็นงบประมาณทางทหาร) หรือ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ในระยะ 10 ปีข้างหน้า เป็นแค่น้ำจิ้มไม่มีความหมายเลยกับหนี้ที่กำลังพอกพูนมหาศาล เพราะตัวเลขการตัดงบนี้เทียบเท่าแค่ 0.3% หรือ 3.6 ล้านล้านดอลลาร์ของงบประมาณในปีนี้

ขณะนี้งบประมาณสหรัฐขาดดุลอยู่ที่ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี และไม่มีทีท่าว่าจะลดลงได้เลย ทำให้ตัวเลขหนี้สาธารณะกว่า 16 ล้านล้านดอลลาร์ เทียบเท่า 100% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติจะพุ่งสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้านับเอาหนี้นอกบัญชีงบประมาณอีกอย่างน้อย 86 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมของโลกที่ 75 ล้านล้านดอลลาร์เสียอีก

อเมริกาเข้าขั้นล้มละลายแล้ว ไม่มีทางเก็บภาษีมาทันใช้หนี้ได้ ยกเว้นการพิมพ์เงินอย่างเดียว ซึ่งผลของการพิมพ์เงินจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์ตกต่ำไม่มีความน่าเชื่อถือ เงินจะเฟ้ออย่างรุนแรงและเศรษฐกิจจะพังในที่สุด

เพลินใช้คำว่า Armageddon หรือวาระสุดท้ายที่แท้จริงของเศรษฐกิจอเมริกาคือหนี้ที่เอาไม่อยู่ และพวกนักการเมืองในกรุงวอชิงตัน ดีซี ยังไม่รู้จักโต และยังไม่รู้จักที่จะใช้จ่ายตามฐานะ มีรายงานข่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า กระทรวงความมั่นคงภายในประเทศ หรือ Department of Homeland Security มีแผนจะซื้อกระสุน 1.6 พันล้านนัด ในระยะ 4-5 ปีข้างหน้า หรือกระสุน 5 นัดต่อชาวอเมริกันทุกๆ 1 คน เพื่อใช้ในการฝึกซ้อมของเจ้าหน้าที่ที่ดูแลความสงบภายในประเทศ ข่าวนี้ทำให้คนอเมริกันจำนวนมากวิตกว่า อาจจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจและการจลาจลภายในประเทศ รัฐบาลกลางถึงได้เตรียมพร้อมขนาดนี้

และเพื่อตัดเขี้ยวเล็บของประชาชน โอบามา กำลังพยายามจะออกกฎหมายเพื่อจำกัดสิทธิของคนอเมริกันในการครอบครองอาวุธหนัก โดยอ้างเหตุร้ายการไล่ยิงเด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ที่โรงเรียนแซนดี้ ฮุค และที่อื่นๆ ในช่วงที่ผ่านมา ผลก็คือ คนอเมริกันรีบแห่ซื้ออาวุธและตุนกระสุนเสบียงกัน ก่อนที่กฎหมายจำกัดสิทธิครอบครองปืนจะออก โรงงานผลิตอาวุธปืนกำลังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

ในความพยายามที่จะซื้อเวลาด้วยการดันไม่ให้เศรษฐกิจที่แท้จริงล่มสลาย ทางธนาคารกลางของสหรัฐจะยังคงพิมพ์เงินอย่างต่อเนื่องเดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ เพื่ออัดสภาพคล่องเข้าไปในระบบ และซื้อพันธบัตรรัฐบาลกลาง เพราะว่าหาคนซื้อได้ยากขึ้น นโยบายการพิมพ์เงินนี้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย เพราะเงินไปอยู่ในแบงก์หมด และมีเงินล้นปล่อยออกมาไม่ได้ และแถมเป็นการสร้างฟองสบู่รอบ 2 หลังจากฟองสบู่รอบแรกแตกไปแล้วเมื่อปี 2008 แทนที่จะถือโอกาสปฏิรูปเศรษฐกิจและสถาบันการเงิน รัฐบาลสหรัฐเลือกที่จะอุ้มนักธุรกิจฟอร์จูน 500 และนักการเงินวอลล์สตรีท ผ่านนโยบายการคลังและการเงินที่ผ่อนคลายอย่างสุดๆ เชื่อกันว่าธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางประเทศอื่นๆ พิมพ์เงินรวมกันแล้ว 20 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อพยุงระบบการเงินโลกไม่ให้ล้มในช่วงที่ผ่านมา

ฟองสบู่รอบ 2 นี้ กำลังจะดันดัชนีดาวโจนส์ให้พุ่งกลับไปลบสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยที่พื้นฐานเศรษฐกิจไม่ได้มีอะไรดีขึ้นเลย และตัวเลขว่างงานยังอยู่ในระดับสูง 7.9% อยู่ ดาวโจนส์ทำสถิติสูงสุดในระดับ 14,164 เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2007 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาดาวโจนส์ปิดที่ 14,089 เหลืออีกคืบเดียวก็ทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง ถ้าดันพื้นฐานเศรษฐกิจจริงต่อไม่ไหว หุ้นก็ต้องร่วง คราวนี้ฟองสบู่จะแตกเหมือนดวงอาทิตย์ดับ ญี่ปุ่นก็กำลังสร้างฟองสบู่คล้ายๆ สหรัฐ ด้วยแผนการพิมพ์เงินรอบใหม่ ทั้งๆ ที่การพิมพ์เงินนี้ล้มเหลวมาเกือบ 10 ปีแล้ว

ช่วงนี้ถึงกลางปีจะเป็นการวัดดวงว่าใครจะอยู่ ใครจะไป เพราะว่าอะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ เพราะคนที่ถือทรัพย์สินดอลลาร์ดูออกว่า สหรัฐเข้ามุมอับแล้ว ทางการเงินไม่มีทางออก ยิ่งถือดอลลาร์ยิ่งจะขาดทุนจากการพิมพ์เงินไม่มีขอบเขตจำกัด

ให้จับตาดูดีๆ กับกลุ่มประเทศเกิดใหม่ โดยเฉพาะจีน รัสเซีย อินเดีย และประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ซึ่งกำลังตุนทองและสร้างระบบการค้าใหม่แบบบาร์เตอร์และระบบการเงินใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เงินสกุลดอลลาร์ ถ้าเหตุการณ์ดำเนินต่อเนื่องไปลักษณะเช่นนี้ เงินดอลลาร์จะถูกเทขายและหมดสภาพความเป็นเงินสกุลหลักของโลก ดอลลาร์จะไหลกลับประเทศสหรัฐ ก่อให้เกิดเงินเฟ้ออย่างรุนแรง ฟองสบู่รอบ 2 หรือรอบสุดท้ายนี้กำลังรอวันแตกอยู่

หน้าต่างอาเซียน โดยทนง ขันทอง

คมชัดลึกออนไลน์ วันที่ 29-04-2556

ที่มา ซาราห์เพลิน:อเมริกาจะผิดชำระหนี้เกิดจลาจล คมชัดลึก : การเมือง : คอลัมน์เด็ด

 

พบเด็กชายชาวจีนติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ตามพ่อ​

​

ปักกิ่ง 27 เม.ย. - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีน เปิดเผยว่า พบเด็กชายชาวจีน อายุ 4 ปี ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ตามพ่อของเขา

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของมณฑลซานตง ระบุว่า ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 มีการระบาดระหว่างคนสู่คน พร้อมกล่าวว่า เด็กชายคนดังกล่าวยังมีอาการทรงตัว และพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของจีน รายงานว่า บิดาวัย 36 ปีของเด็กชายคนนี้ ไม่ได้สัมผัสกับสัตว์ปีกโดยตรง แต่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ใกล้ตลาดที่มีการค้าขายสัตว์ปีก มีผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ในจีนแล้ว 126 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 23 คน บรรดาผู้เชี่ยวชาญซึ่งติดตามพัฒนาการของไข้หวัดนกสายพันธุ์นี้อย่างใกล้ชิด ระบุว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าไข้หวัดนกสายพันธุ์นี้จะแพร่ระบาดได้ง่ายๆ ระหว่างคนสู่คน พวกเขาต่างเชื่อว่า ผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกชนิดนี้เกิดจากการได้สัมผัสกับสัตว์ปีกที่ป่วยด้วยโรคชนิดนี้

สำนักข่าวไทย TNA News| 29 เม.ย. 2556 15:49 |

ที่มา พบเด็กชายชาวจีนติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ตามพ่อ | MCOT.net | MCOT.net

นิวยอร์กไทมส์ระบุซีไอเอจ่ายเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ผ่านทำเนียบ ปธน.อัฟกัน​

​

นิวยอร์ก 29 เม.ย.-หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ ระบุหน่วยสืบราชการลับแห่งสหรัฐอเมริกา หรือซีไอเอ ได้บรรจุเงินสดในกระเป๋าเดินทาง กระเป๋าสะพายหลัง และถุงพลาสติกสำหรับใส่สินค้าตามห้างสรรพสินค้า เพื่อส่งไปยังทำเนียบประธานาธิบดีฮามิด คาร์ไซ ของอัฟกานิสถาน มูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณหลายร้อยล้านบาท) ในช่วงมากกว่าทศวรรษที่ผ่านมา

หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์อ้างการให้สัมภาษณ์ของบรรดาที่ปรึกษาปัจจุบัน และอดีตที่ปรึกษาของผู้นำอัฟกานิสถานในรายงานข่าวดังกล่าว โดยเงินจำนวนนี้มีเป้าหมายเพื่อใช้เพื่อเสริมสร้างอิทธิพลของซีไอเอในอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า เงินจำนวนดังกล่าวกลับก่อให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น และใช้เพิ่มบารมีของผู้นำทางทหารในอัฟกานิสถาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อแผนการถอนทหารสหรัฐออกจากอัฟกานิสถาน

สำนักข่าวไทย TNA News | 29 เม.ย. 2556 11:42 |

ที่มา นิวยอร์กไทมส์ระบุซีไอเอจ่ายเงินหลายสิบล้านดอลลาร์ผ่านทำเนียบ ปธน.อัฟกัน | MCOT.net | MCOT.net

 

การเดินทางอพยพ..เพื่ออยู่รอด..เพื่อชีวิตใหม่ !!!​

​

DreamWorks Animation จัดเป็นค่ายหนึ่งที่มีผลงานการ์ตูน Animation ออกมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีมากมายหลายแนวให้เลือกรับชมได้ตามใจชอบอีกต่างหาก และแน่นอน The Croods จัดเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่กำลังจะพาเราย้อนยุคสมัยไปพบกับเรื่องราวยุคหิน ทั้งที่โลกภายนอกรอบตัวเราทันสมัยไปไกลสุดโต่งแล้ว

เรื่องราวย้อนยุคของครอบครัว The Croods พาเราไปพบกับแนวทางการใช้ชีวิตเพื่ออยู่รอดของทุกคนในครอบครัว ที่มีคุณพ่อเป็นหัวเรือใหญ่ผู้ซึ่งคอยระวังภัยและสร้างกฎเกณฑ์มากมายเพื่อพิทักษ์และปกป้องทุกคน แต่กรอบที่พ่อสร้างไว้หาใช่แนวทางเพื่อมีชีวิตรอดอย่างมีอิสรภาพไม่ เพียงแต่มันเป็นพันธนาการที่โอบรัดทุกคนให้อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่อึดอัด หวาดระแวงกับการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติรอบตัวไปซะทุกอย่าง

ลองนึกดูว่า หากเราเป็นเจ้าของร้านโชว์ห่วยที่ทำมาค้าขายมานานหลาย 10ปี กิจการเราอยู่รอดได้ มีรายได้ สร้างกำไรได้ แต่วันหนึ่งการมาถึงของร้านสะดวกซื้อแบรนด์เนมต่างเข้ามาบุกรุกพื้นที่ของเรา ไม่เพียงจะมาพร้อมบริการเสริมดีๆ ยังติดแอร์ มีของกินสดสะอาดมากมายให้เลือกสรรค์ หากเราไม่ปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมนั้น ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลงแนวทางการทำการค้าให้มีรูปแบบที่ทันยุคทันสมัยมากขึ้น เราจะถูกกลืนกินและอาจล่มสลายไปในที่สุด

ซึ่งปัจจัยใหญ่ที่เข้ามากระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัว The Croods ไม่ใช่ร้านสะดวกซื้อหรอกนะ แต่มันเป็นการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติที่ทุกคนต้องรู้จักปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เรื่องราวหลักในภาพยนตร์จึงเป็นการออกเดินทางผจญภัยไปในสถานที่ต่าง ๆ ร่วมกัน มีเห็นพ้องต้องกันบ้าง มีขัดแย้งกันบ้าง แต่โดยรวมแล้วสนุก สุขสรรค์ และสร้างเสียงหัวเราะได้ตลอดทางที่พวกเขาเดินทางไป

ครั่กผู้เป็นพ่อ มีชีวิตร่วมกับครอบครัวมานานและแนวคิดของเขาพาครอบครัวให้มีชีวิตรอดปลอดภัยมาได้นานแล้ว ซึ่งแนวคิดของเขาค่อนข้างจะเป็นคนหัวโบราณมากๆ นั่นคือกลัวความมืด และไม่ทดลองรับมือกับสิ่งใหม่

ทุกวันที่มีความมืดผ่านเข้ามา พวกเขาต้องพากันวิ่งหนีเข้าถ้ำเพื่อซ่อนตัว ด้วยความเชื่อว่า ความมืดนั่นทำร้ายและพรากชีวิตของเราทุกคนได้ ซึ่งมันเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สะท้อนให้เราเห็นว่า ความเชื่อมันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ไม่ได้ แต่วิทยาศาสตร์เป็นสิ่งที่ทำให้เรารับทราบถึงความถูกต้องและความน่าจะเป็นที่มีเหตุผลมากกว่า ตัวอย่างเช่น เมื่อปิดไฟแล้วเราอาจโดนผีหลอก แต่เราไม่เคยคิดเลยว่าถ้าผีมาจริง ๆ เราจะรับมือกับมันได้อย่างไร จะแก้ปัญหาและแก้เผ็ดผีได้อย่างไร

รวมทั้งความคิดแบบเดิมๆ ที่กลัวไปซะทุกอย่างของครั่กก็ทำให้ทุกคนต่างมีวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ไปวันๆ ซึ่งพวกเขาไม่เคยแม้แต่จะไปงานวัด ไปดูพลุ หรือเทศกาลต่างๆ ด้วยกัน เพียงเพราะกลัวสถานที่คนเยอะ กลัวพลุ กลัวแสงเสียง หรือแม้กระทั่งกลัวน้ำทะเล ซึ่งการมีชีวิตอยู่ในกรอบแบบเดิมนั้น ไม่ต่างจากการหายใจทิ้งไปวันๆ ก็เท่านั้นเอง

แต่เมื่อสถานการณ์พลิกผัน ในวันที่ภัยธรรมชาติเข้ามาเยือน เป็นสิ่งที่จุดประกายให้พวกเขาต้องออกเดินทางสู่โลกกว้างด้วยกันเป็นครั้งแรก ซึ่งเปรียบเสมือนกับพวกเรานั่นล่ะ หากไม่เกิดแผ่นดินไหว หรือภัยน้ำท่วมที่ทำให้บ้านเรือนที่อยู่อาศัยเราพังทลายลงไป เราคงคิดว่าเราอยู่แบบเดิมอย่างนี้ล่ะดีแล้ว ปลอดภัยดีแล้ว ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากหรอก แต่วันหนึ่งหากแผ่นดินไหวขึ้นมาจริงๆ น้ำท่วมบ้านเราจริงๆ เราจะอยู่กันอย่างไรหากเราไม่เตรียมความพร้อม

การออกเดินทางของพวกเขา เปรียบได้กับการมองเห็นเส้นชัยอยู่ข้างหน้า เป็นเส้นทางที่ค่อนข้างแสนไกล และข้างหลังคือภาวะของวันสิ้นโลกที่แผ่นดินค่อยๆหายลับไป พวกเขาวิ่งหน้าตั้งสู่วันใหม่ เพื่อวันพรุ่งนี้ด้วยกัน โดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเส้นชัยข้างหน้าจะมีอะไรเลวร้ายรออยู่หรือไม่ แต่รู้เพียงว่าหากวันนี้ไม่วิ่งไป ก็คงหมดลมหายใจอยู่ตรงนี้

เรื่องราวการผจญภัยไปสู่โลกกว้างของครอบครัว The Croods นำเสนอออกมาได้ค่อนข้างสุขสรรค์สำหรับผม แม้จะมีแง่มุมที่เป็นทุกข์ปนสุข มีขัดแย้งปนสร้างสรรค์ มีฮาปนฝืดกันบ้าง นั่นก็เป็นเรื่องราวความเป็นจริงของการอยู่ร่วมกัน การมีชีวิต หรือที่เรียกได้ว่า มากคนมากความนั่นเอง

เมื่อความจริงเริ่มปรากฎให้ทุกคนในครอบครัวให้เห็นชัดยิ่งขึ้น ว่าการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด มันทำให้พวกเขาได้สัมผัสถึงความมีชีวิตได้มากเพียงไร พวกเขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าการอยู่ในกรอบแบบเดิมๆ ที่คิดว่าดีอยู่แล้ว มันไม่ใช่คำตอบของการหายใจอยู่ในแต่ละวัน เพราะการออกเดินทาง แสวงหาเรื่องราวใหม่ๆ การเปิดหู เปิดตาสู่โลกกว้างต่างหากล่ะ ที่ทำให้ชีวิตเราอิ่มเอม หัวใจพองโต และยิ้มได้กว้างขึ้น

เช่นเดียวกัน การผจญภัยของแต่ละคน แต่ละครอบครัวก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน จุดหมายปลายทางก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ นั่นเป็นเพราะเรื่องราวระหว่างการเดินทางต่างหากล่ะที่สำคัญและสร้างความสุขให้เราได้อย่างแท้จริง ในส่วนนี้ผมคิดว่าเรื่องราวของครอบครัว The Croods ทำให้เราเห็นชัดเจนที่สุด

สุดท้ายผมอยากฝากไว้ว่า ดูหนังให้สนุก สัมผัสกับเนื้อหาที่สอดแทรกไว้ในหนัง แล้วคุณจะเพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตอยู่อย่างท้าทาย ใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง เพื่อวันพรุ่งนี้ เพื่อก้าวต่อไป เพื่อชีวิตที่มีความสุขและความหมายมากกว่าเดิม

“The Croods อนิเมชั่นครอบครัวสนุกเพลินๆ พร้อมสาระการเดินทางเพื่ออยู่รอด เพื่อชีวิตใหม่ และเพื่อวันพรุ่งนี้ที่สวยงามกว่า”

ที่มา The Croods [2013] – การผจญภัยสู่วันพรุ่งนี้ ของครอบครัวยุคหิน

 

2004 สึนามิภูเก็ต !!!​

The Impossible NEW TRAILER (2012) Ewan McGregor, Naomi Watts Movie HD - YouTube​

ภาพยนตร์ที่สร้างจากเหตุการณ์ที่โลกไม่เคยลืม ของวันที่ 26 ธันวาคม 2004 วันมหาวิปโยคที่ก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งสำคัญของโลก เมื่อแผ่นดินไหวขนาด 9 ริคเตอร์ ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิถล่มเข้าชายฝั่งทางภาคใต้ของประเทศไทยและภายในเวลาเพียงแต่ 10 นาที ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่าห้าพันคน สูญหายอีกกว่าสองพัน และเด็กๆ กว่า 1,400 ชีวิตต้องกลายเป็นลูกกำพร้า นี่คือหายนะทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดของประเทศ

โดยหนังสร้างจากเรื่องจริงของครอบครัวชาวอมเริกัน 5 ชีวิต เฮนรี่ มาเรีย สองสามีภรรยาและลูกชายทั้งสามคน ประกอบไปด้วย ลูคัส, ไซม่อน, และ โทมัส ที่เดินทางมาฉลองเทศกาลคริสต์มาส ในปี 2004 ที่จ.ภูเก็ต และเผชิญหน้ากับมหันตภัยสึนามิในระยะประชิด และแม้จะรอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ แต่ระหว่างทางพวกเขาต้องผ่านการพลัดพรากตามหา และ เผชิญหน้ากับชะตากรรมที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนจนได้กลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง ...... ด้วยสิ่งนำทางเพียงอย่างเดียวที่มีชื่อว่า “พลังใจ”



ที่มา BoomerangShop.com - Impossible, The (2012) /2004 สึนามิภูเก็ต (DVD SE Jewel Box) (ฟรี! คู่มือรู้สู้ภัยพิบัติภายในกล่อง)

 

ผู้ป่วยไข้หวัดนกในนครเซี่ยงไฮ้ ตายเพิ่มเป็น 13 คนแล้ว​

​

จีน 30 เม.ย.-ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนก เอช7เอ็น9 วัย 89 ปี ในนครเซี่ยงไฮ้ของจีนเสียชีวิตลงแล้ว ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในเซี่ยงไฮ้เพิ่มเป็น 13 คน

ชายวัย 89 ปีจากมณฑลเจียงซูนับเป็นเหยื่อไข้หวัดนก เอช7เอ็น9 รายที่ 13 ของนครเซี่ยงไฮ้ คนไข้รายดังกล่าวเสียชีวิตลงเมื่อเช้าวานนี้ หลังเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 17 เมษายน ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในนครเซี่ยงไฮ้อยู่ที่ 33 คน นอกจากนี้ยังมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 คนที่มณฑลฝูเจี้ยนและมณฑลซานตง ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทั้งในจีนและไต้หวันล่าสุดอยู่ที่ 126 คน

ด้านคณะทำงานร่วมระหว่างรัฐบาลจีน และองค์การอนามัยโลกชี้ว่าแหล่งที่มีความเสี่ยงมากที่สุดที่ทำให้คนได้รับเชื้อ เอช7เอ็น9 มาจากตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิต แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่ามีการแพร่ระบาดของเชื้อในฟาร์มสัตว์ปีก ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าด้วยว่าเนื้อสัตว์ปีก และไข่ที่ปรุงสุกมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

สำนักข่าวไทย TNA News | 30 เม.ย. 2556 14:16 |

ที่มา ผู้ป่วยไข้หวัดนกในจีนตายเพิ่มเป็น 13 คนแล้ว | MCOT.net | MCOT.net

กู้ภัยบังกลาเทศหมดหวังค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากโรงงานถล่ม​

​

บังกลาเทศ 30 เม.ย.-หน่วยกู้ภัยบังกลาเทศหมดหวังในการค้นหาผู้ที่อาจรอดชีวิตภายใต้ซากอาคารโรงงานเสื้อผ้าที่พังถล่มชานกรุงธากาแล้ว ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตนับได้เกือบ 400 คนแล้ว

นายชัมซุล ฮ็อก ตูกู รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยบังกลางเทศ กล่าวว่า ปฏิบัติการค้นหาผู้ที่อาจรอดชีวิตภายใต้ซากอาคารรานาพลาซาได้จบลงแล้ว ต่อไปก็เป็นการเก็บกู้ซากปรักหักพัง และการดำเนินคดีเจ้าของโรงงาน ผู้จัดการ และวิศวกร รวม 8 คนถูกจับกุมตัวแล้ว ยังเหลืออีกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของโรงงาน และมีสัญชาติสเปน

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 385 คน และยังมีผู้สูญหายอีกหลายร้อยคน สำหรับคนงานที่หน่วยกู้ภัยช่วยเหลือออกมาจากซากตึกได้มีจำนวนกว่า 2,500 คน จากการสอบสวนพบว่า โรงงานแห่งนี้สร้างบนพื้นที่ชุ่มน้ำ และไม่ได้รับอนุญาต มีพนักงานราว 3,000 คน ส่วนใหญ่เป็นสตรีวัยรุ่นได้รับคำสั่งให้เข้าทำงาน ทั้งที่มีคำเตือนจากวิศวกรว่า อาคารมีรอยร้าว และไม่ปลอดภัย

สำหรับการดำเนินคดี นายโมฮัมเหม็ด โซเฮล รานา เจ้าของกิจการนั้น ศาลบังกลาเทศให้เวลาตำรวจ 15 วัน ในการสอบสวนผู้ต้องหาก่อนยื่นคำฟ้องเพื่อลงโทษ ส่วนนายอับดุล คาเลก ผู้เป็นบิดา ก็ถูกจับกุมในข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการบังคับคนงานเข้าไปทำงานในที่ซึ่งไม่ปลอดภัย ขณะที่คนงานในเขตอุตสาหกรรมอาชูเลีย ซึ่งอยู่ใกล้กัน ก็ได้พากันเดินขบวนประท้วง เผารถยนต์ และพยายามจะวางเพลิงโรงงาน

ทั้งนี้ เมื่อ 5 เดือนที่แล้ว ได้เกิดเพลิงไหม้โรงงานเสื้อผ้าในบังกลาเทศ คนงานเสียชีวิตถึง 112 คน ทำให้เกิดเสียงเรียกร้องในการปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยแก่คนงาน แต่ก็ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้น

สำนักข่าวไทย TNA News | 30 เม.ย. 2556 07:21 |

ที่มา กู้ภัยบังกลาเทศหมดหวังค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากโรงงานถล่ม | MCOT.net | MCOT.net

 

2013 ปีแห่งรุ่งอรุณของดวงอาทิตย์ดวงใหม่ !!!​

​

Chayutt สมาชิก

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน (Archangel Metatron)เรื่อง: 2013 – The Aquarian Shift & Anthropocene Radiation Part-1 วันที่: 30 ธันวาคม 2012 ผู้รับสาส์น: นาย James Tyberonn

สวัสดีท่านคุรุทั้งหลาย

เราคือเมตาตรอน เทพแห่งแสงสว่าง และเราขอทักทายพวกคุณในเวกเตอร์ของความรักแบบไม่มีเงื่อนไข ปี 2013 นี้ พวกเราขอรับประกันกับพวกคุณได้เลยว่า มันคือปีแห่งรุ่งอรุณของดวงอาทิตย์ดวงใหม่ และมันก็คือดวงอาทิตย์แห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง มันจะนำพาแสงสว่างคริสตัลไลน์อันประณีต (coherent crystalline) มาสู่โลกใหม่ที่สวยสดงดงามและอลังการ และพวกเราก็หมายถึงความอลังการจริงๆ

ที่รักทั้งหลาย พวกเราอยากจะบอกพวกคุณอีกครั้งว่า กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น (Ascension) ของดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ เพราะว่ามวลหมู่มนุษยชาติได้ทำให้มันเป็นไปแบบนั้น แม้ว่ามนุษย์โลกส่วนใหญ่ที่มีระดับจิตสำนึกอยู่ในมิติที่ 3 นี้ จะไม่สามารถรับรู้ได้ก็ตาม แต่ว่าดาวเคราะห์โลก ก็กำลังมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอยู่จริงๆ เพื่อเลื่อนระดับขึ้นไปสู่กระบวนทัศน์ใหม่ และบรรดาปราชญ์เมธีทั้งหลายที่อยู่ท่ามกลางพวกคุณก็รู้เรื่องนี้กันดี และตอนนี้เราจะมาพูดถึงการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคแห่งกลุ่มดาว Aquarius กัน

การเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคแห่ง Aquarius / Anthropocene Radiation

นักวิทยาศาสตร์ของพวกคุณตระหนักรู้แล้วว่า เฟสของโลกเฟสหนึ่ง ที่สิ่งมีชีวิตในรูปแบบมนุษย์ ซึ่งกลายมาเป็นร่างกายเนื้อของพวกคุณส่วนใหญ่ในขณะนี้ ถือกำเนิดขึ้น มีชื่อเรียกว่าเฟส Cambrian Radiation ซึ่งเฟสๆนี้ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ เคยมีการถาโถมเข้ามาครั้งใหญ่ของรังสีพลาสม่า และมันก็ได้ทำให้เกิดสิ่งมีชีวิตรูปแบบใหม่ ขึ้นมาบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ

ดาร์วิน ซึ่งเป็นนักวิวัฒนาการผู้โด่งดังได้เคยออกมายอมรับว่า เฟส Cambrian Radiation นี้แหละที่มีหลักฐานความขัดแย้งต่อทฤษฎีวิวัฒนาการของเขามากที่สุด และปรากฎการณ์เดียวกันนี้ มันก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ด้วย เพราะว่าการแผ่รังสีจากดวงอาทิตย์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ได้เริ่มอัดประจุลงมาสู่โลกแบบติดเทอร์โบมาตั้งแต่ปี 1989 แล้ว และก็ยังคงดำเนินต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันนี้ด้วย

ดังนั้น การปลดปล่อยมวลสารจากดวงอาทิตย์ (Corona Mass Ejection - CME) ที่เกิดขึ้นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน จึงทำให้รังสี, อิออน, และอิเล็กตรอนจำนวนมากมายมหาศาล เกินกว่าจะจินตนาการได้ ถาโถมเข้ามายังโลกจนท่วมท้นไปหมดอยู่ ซึ่งรังสีที่มีประจุเหล่านี้ จะไปทำให้ร่างกายเนื้อของพวกคุณ เกิดการพัฒนาขึ้นอย่างจริงแท้แน่นอน โดยการทำให้ DNA ของพวกคุณเกิดการเปลี่ยนแปลงไป และร่างกายของพวกคุณก็กำลังจะมีความหนาแน่นทึบตันน้อยลงด้วย แหล่งที่มาหลักของพลังงานใหม่ของโลกมาจากพายุสุริยะ ที่จะปลดปล่อยมวลสารของรังสีจากเอกภพลงมาสู่โลก ซึ่งพวกเราจะเรียกมันว่า “การเปลี่ยนไปสู่ยุค Aquarius” (Aquarian Shift) ถึงแม้ว่าผู้รับสาส์นจะอยากใช้ศัทพ์ทางธรณีวิทยาว่า Anthropocene Radiation ก็ตาม

ตัวเร่งปฏิกิริยาหลัก (The Root Catalyst)

การแผ่กระจายของอิออนจากเอกภพในยุค Aquarius นี้ แม้ว่ามันจะทำให้พวกคุณงงงวยอยู่ก็ตาม แต่มันก็คือตัวการหลักที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และมันก็มีบทบาทสำคัญจนขาดเสียมิได้ และเป็นบทบาทในแง่ดีมากๆซะด้วย ต่อการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้ ดังนั้นมันจึงไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวแต่อย่างใดเลย รังสีเหล่านี้กำลังส่งผลกระทบต่อดาวเคราะห์โลกของพวกคุณอยู่อย่างมาก มากกว่าการแค่ทำให้สนามแม่เหล็กโลก หรือแม็กนีโตสเฟียร์ (magnetosphere) เกิดการสั่นคลอนเท่านั้น และมากกว่าการแค่ทำให้แผ่นรอยเลื่อนของเปลือกโลก (tectonic plate) และสภาพภูมิอากาศของโลกได้รับผลกระทบเท่านั้น

แต่พวกเรายังจะบอกเพิ่มเติมอีกด้วยว่า อิออนที่แพร่ผ่านเข้ามาเหล่านี้แหละ คือตัวเร่งปฏิกิริยา (catalyst) หลักที่แท้จริง ของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, การเกิดซูเปอร์สตอร์ม, การเกิดแผ่นดินไหว, และคือสาเหตุหลักของการเกิดภาวะโลกร้อนด้วย

นักทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดหลายคนของพวกคุณ อาจจะอยากให้สาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศ มันเกิดจากฝีมือของมนุษย์ แต่พวกเราจะบอกพวกคุณว่า มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เพราะว่ามันเกิดจาก “พลาสม่า” (plasma) จำนวนเป็นพันๆล้านตัน ที่กำลังถาโถมลงมาเอิบอาบโลกใบนี้อยู่ นับตั้งแต่เมื่อ 2 ทศวรรษที่แล้วต่างหากหละ ซึ่งพลาสม่าที่โหมกระหน่ำลงมานี้ มีปริมาณมากกว่าครั้งไหนๆในประวัติศาสตร์ที่เคยถูกบันทึกเอาไว้ มากมายนัก

และความคิดที่ว่าการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่บนดาวเคราะห์โลกในขณะนี้ เป็นฝีมือของเครื่องสร้างความร้อนในชั้นบรรยากาศ ที่มีขนาดเล็กนิดเดียวที่ชื่อว่า HAARP นั้นด้วย ก็เป็นเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลยด้วย เพราะว่ามนุษย์ยังไม่มีเทคโนโลยีใดๆ ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงถึงขนาดนี้ได้

มันเกิดจาก “พลาสม่าจากดวงอาทิตย์” (Solar Plasma) ต่างหากหละ! และมันก็เคยทำให้โลกของพวกคุณ และทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่บนโลกของพวกคุณ เปลี่ยนแปลงมาแล้วด้วยก่อนหน้านี้ ซึ่งก็คือในยุคที่ชื่อว่า the Cambrian Radiation นั่นเอง และพวกเราอยากจะบอกพวกคุณอีกว่า การไหลบ่าเข้ามาของอิออนดังกล่าวนี้ ยังจะมีผลกระทบต่อร่างกายเนื้อของพวกคุณอีกด้วย เพราะว่ามันจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ร่างกายเนื้อของพวกคุณ เกิดการเปลี่ยนแปลง จากการเป็นรูปธรรมชีวิต ที่มีธาตุคาร์บอนเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกาย ไปเป็นรูปธรรมชีวิตที่มีซิลิคอนเป็นองค์ประกอบหลักของร่างกายแทน

DNA และโครงสร้างใหม่ของชีวิต

การเปลี่ยนไปสู่ยุค Aquarius หรือที่เรียกว่ายุค Anthropocene Radiation นี้จะทำให้เกิดชีวิตใหม่ขึ้นมา เช่นเดียวกับที่การแผ่รังสีได้เคยทำให้เกิดขึ้นมาแล้วในยุค Cambrian Radiation เมื่อราวๆ 580 ล้านปีก่อนหน้านี้ และดังนั้น สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแต่อย่างใดเลย แม้ว่ามันจะไม่เคยถูกจดบันทึกเอาไว้มาก่อน และแม้ว่ามันจะยังไม่เป็นที่เข้าใจก็ตาม

แต่สิ่งที่ทำให้กระแสการหลั่งไหลเข้ามาของอิออนในยุคนี้กับยุคก่อนๆ มีความแตกต่างกันก็คือ ในครั้งนี้มันมีความเกี่ยวข้องกับ “โครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์” (the Crystalline Grid) ของโลกด้วย หรือก็คือมันมีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการ “เลื่อนระดับขึ้น” (Ascension) และโปรแกรมตัวใหม่ที่อาจจะเรียกชื่อว่าโปรแกรม Window 2012 ด้วย

รูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติสูงๆกว่าทั้งหลาย ก็จะสามารถถูกมองเห็นได้ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหม่สำหรับโลกใบนี้ แต่ว่าก็ใหม่เฉพาะในแง่ที่ว่า พวกเขาจะเริ่ม “มีความเป็นรูปธรรมมากขึ้น” เท่านั้นเอง เพราะว่าการมีตัวตนอยู่ของพวกเขาได้ถูกกล่าวขานถึงมานานแล้ว ในคัมภีร์ทางศาสนาของพวกคุณ คัมภีร์โบราณหลายเล่มที่มีอยู่ในลัทธิความเชื่อทางศาสนาต่างๆของพวกคุณ ได้กล่าวถึงการกำเนิดของสิ่งมีชีวิตว่า มีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ ได้แก่ เกิดจากดิน (สิ่งมีชีวิตที่มีกายเนื้อ), เกิดจากไฟ (พวกอาณาจักรเทวะที่เป็นกระแสไฟฟ้า) และเกิดจากแสงสว่าง (พวกทวยเทพทั้งหลาย)

ภายใต้การเสริมซึ่งกันและกันของยุคแห่งการแผ่รังสี Aquarius – Cosmic Radiation และโครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์ 144 ของโลก จะทำให้พวกคุณสามารถเข้าถึงมิติคู่ขนานทั้งหลาย ได้มากขึ้นกว่าเดิมแล้วในตอนนี้ ซึ่งสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมิติคู่ขนานเหล่านี้ หรือรูปธรรมชีวิตทั้งหลายที่ถูกกล่าวถึงในคัมภีร์เหล่านี้ จะดำรงอยู่ในรูปแบบของ “ไบโอพลาสมิก” หรือ กระแสไฟฟ้า และ โฟตอน ซึ่งในคัมภีร์ไบเบิลของพวกคุณ ก็มีการกล่าวถึงทวยเทพทั้งหลายที่มีรูปกายเป็นแสงสว่างเหมือนกันอยู่ไม่ใช่เหรอ?

ปรากฎการณ์การพบเห็นทรงกลมแห่งแสงสว่าง (orbs), เทพยดาที่มีร่างกายเป็นแสงสว่าง (lighting spites) หรือเหล่าภูติน้อยทั้งหลาย (elves) และปรากฎการณ์ “แมงกะพรุนโฟตอน” (photonic jellyfish) ที่ได้เริ่มพบเห็นบ่อยขึ้นในช่วงหลายปีมานี้ ความจริงแล้วพวกเขาก็คือรูปธรรมชีวิตที่มีจิตสำนึก ที่อยู่ในมิติอื่นๆหรืออยู่ในโครงสร้างอื่นๆนั่นเอง ซึ่งบางพวกก็ได้ทำการติดต่อสื่อสารกับพวกคุณมาโดยตลอด ด้วยวิธีการต่างๆ รวมถึงผ่านทาง crop circles ด้วย และรูปธรรมชีวิตจากนอกโลกพวกนี้ ยิ่งพวกเขามีระดับวิวัฒนาการสูงมากเท่าไหร่ พวกเขาก็จะยิ่งมีความเป็นวัตถุธาตุทางกายภาพน้อยลงเท่านั้น และมีความเป็นแสงสว่างมากขึ้นเท่านั้นด้วย

กระแสการหลั่งไหลเข้ามาของรังสี และการให้กำเนิด

สองปีหลังจากการเกิดปรากฎการณ์ Harmonic Convergence ขึ้นในปี 1987 แล้วนั้น ก็ได้มีพายุแม่เหล็กขนาดมหึมา ซึ่งเต็มไปด้วยรังสีพลาสม่าที่มีประจุจำนวนหลายพันล้านตัน ถาโถมเข้ามาใส่ดาวเคราะห์โลก บรรดานักวิทยาศาสตร์และนักธรณีฟิสิกส์ของพวกคุณหลายคน ได้จดบันทึกผลกระทบของมันครั้งนั้นเอาไว้ว่า มันมีการเกิดเปลวสุริยะ หรือ Solar flare ขึ้นจำนวนกว่า 200 ครั้ง ในการปลดปล่อยมวลสารจากดวงอาทิตย์ (Coronal Mass Ejection) จำนวน 36 ครั้ง ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ 11 ครั้งที่เป็นระดับ X-class และสนามพลังออร่าของดาวเคราะห์โลก หรือก็คือแม็กนีโตสเฟียร์ (Magnetosphere) ก็ได้ถูกทำให้แบนลงไปเหลือเพียงครึ่งหนึ่งของขนาดเดิมของมัน จนมีรูปร่างคล้ายกับแมงกะพรุนโฟตอน (photonic jellyfish) ไปเลย

พายุแม่เหล็กครั้งใหญ่ครั้งนั้น ได้ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นหลายอย่าง เช่น องค์การ NASA สูญเสียร่องรอยของเทหะวัตถุบางอย่าง ที่พวกเขากำลังแกะรอยติดตามดูพวกมันอยู่ไป, คอมพิวเตอร์ที่มีความทันสมัยและสลับซับซ้อนหลายระบบได้ล่มลง, แท่นขุดเจาะน้ำมันหยุดการเจาะน้ำมัน,ระบบตรวจติดตามตำแหน่งทั่วโลกใช้การไม่ได้,เข็มทิศใช้การไม่ได้,เครือข่ายระบบไฟฟ้าช็อตทำให้ประชากรในแคนาดาและในอเมริกาเหนือ หลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้, สถานีอวกาศ MIR ถูกตัดขาด และกระแสการหลั่งไหลเข้ามาของพลังงานนี้ ก็ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง เปลวสุริยะลูกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยถูกบันทึกไว้ ได้เกิดขึ้นในปี 2001 ตามด้วยพายุสุริยะอีก 150 ลูกในปี 2003 และในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมานี้ เปลวสุริยะที่เป็นระดับ X-class ก็ได้เกิดขึ้นมากขึ้น มากกว่าที่เคยถูกบันทึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์โลกครั้งไหนๆซะอีก

ปรากฎการณ์แสงที่ไม่ธรรมดาก็ได้เริ่มเกิดขึ้นด้วย เช่น แสงออโรร่าสีแดง (red aurora) ที่เกิดขึ้นได้ยาก ก็ได้เกิดขึ้นแล้วและถูกบันทึกเอาไว้ และแสงออโรร่าก็สามารถมองเห็นได้ในเวลากลางวันแล้ว,ปรากฎการณ์แสงที่น่าสนใจที่เรียกชื่อว่าแมงกะพรุนโฟตอน (photonic jellyfish) และเทพยดาทั้งหลาย (sprites) และเหล่าภูติน้อย (elves) ก็ได้มีบันทึกว่าถูกพบเห็นบ่อยครั้งกว่าแต่ก่อน, และ crop circle ทั้งหลาย ก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก จนมีรูปแบบที่สลับซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิมมาก จนทำให้สามารถแยกแยะจาก crop circle ที่มนุษย์ทำขึ้นมาเองได้อย่างง่ายดาย

สัดส่วน 6:1 คือสัดส่วนที่ใช้เปิดต่อมไพเนียล

กระแสการหลั่งไหลเข้ามาของอิออนอันน่าพิศวงนี้ มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนมิติอย่างขาดเสียมิได้ และมันก็กำลังทำงานส่งเสริมกัน กับโครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์ของโลกอยู่ด้วย เพราะว่า รูปแบบการกำทอนแบบใหม่ของอิออนนี้ จะช่วยให้พวกคุณสามารถเปิดใช้งานต่อมไพเนียลได้ง่ายดายขึ้น นักวิชาการของพวกคุณหลายคนได้ค้นพบมานานแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงสัดส่วนของอิออนที่อยู่ในสนามแม่เหล็ก จะส่งผลกระทบอย่างมากต่อจิตสำนึกของมนุษย์

นักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศษคนหนึ่งที่ชื่อ Mesmer คือคนแรกที่ได้บังเอิญไปพบความรู้นี้เข้า เขาพบว่าโดยการใส่ “สิ่งทดลอง” ลงไปในสนามพลังงานที่มีอิออนลบเข้มข้น (สนามแม่เหล็ก)อยู่ สิ่งทดลองจะสามารถเข้าถึงสภาวะความตระหนักรู้ที่เหลือเชื่อได้ ซึ่งในสภาวะนี้จะช่วยให้สามารถติดต่อสื่อสารกับ “จิตแห่งจักรวาล”ได้ พวกเราขอบอกพวกคุณว่า ที่มันเป็นเช่นนี้ได้ ก็เพราะว่าเกิดจากการเหนี่ยวนำของอิออน ที่ไปเปิดการทำงานของต่อมไพเนียลขึ้น

ชนเผ่าพื้นเมืองของพวกคุณหลายเผ่า ก็มักจะชอบเข้าไปในพื้นที่ๆพวกเขาเรียกกันว่า “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์” เป็นพิเศษเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพราะว่า พวกเขาค้นพบว่า การใช้ญาณทัศนะของพวกเขา จะสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายกว่า เมื่ออยู่ในสถานที่ๆมีพลังมากๆเช่นนั้น เหตุผลก็เพราะว่าพลังงานจากแร่ธาตุและจากพื้นโลก (mineralogy and telluric energy) ที่มีอยู่ในพื้นที่พิเศษและหายากเหล่านั้น จะทำให้สัดส่วนของอิออนแตกต่างออกไป และจะช่วยให้ต่อมไพเนียลเปิดการใช้งานขึ้นมาได้

มีผลการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้ว่า นักวิจัยของพวกคุณบางคน ในบางมหาวิทยาลัย ได้ค้นพบว่า ถ้าเปลี่ยนสัดส่วนของอิออนลบต่ออิออนบวก ในเครื่องกำเนิดอิออน ให้เป็นสัดส่วน 6:1 แล้ว จะทำให้ “กลุ่มของผู้ถูกทดลอง” มีประสบการณ์ “ถอดจิต” (out of body experience)ได้ และอีกครั้งหนึ่ง นี่คือผลจากการเหนี่ยวนำของอิออน ทำให้ต่อมไพเนียลเปิดการใช้งานขึ้นมา

สัดส่วน และ การสร้างสรรค์ในคลื่นระดับธีต้า (Ratio & Theta Creation)

การถาโถมเข้ามาอย่างท่วมท้นของอิออนลบ บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณในขณะนี้ คือการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนของอิออนด้วยเช่นกัน และสิ่งนี้ก็กำลังทำงานร่วมกันกับ และทำงานผ่านโครงข่ายคริสตัลไลน์ของโลกอยู่ เพื่อที่จะช่วยให้จิตสำนึกของพวกคุณ เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้ และแน่นอนว่ารวมถึงร่างกายเนื้อของพวกคุณด้วย ตอนนี้มีนักวิทยาศาสตร์และนักชีววิทยาของพวกคุณหลายคน ที่กำลังรู้เรื่องนี้กันมากขึ้นเรื่อยๆอยู่ ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้มีโปรเจ็กต์อยู่โปรเจ็กต์หนึ่งที่ชื่อว่า Human Genome Projetc ที่ได้ยืนยันถึงเรื่องนี้แล้ว เรื่องที่ว่า DNA ของมนุษย์จะเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือผ่าเหล่าได้

ไม่เพียงแต่จะขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับ “โปรแกรมด้านความเชื่อต่างๆ” ที่วัฒนธรรมเป็นผู้ปลูกฝังเอาไว้ให้อีกด้วย เมื่อปีที่แล้ว มีผลการทดลองที่น่าประหลาดใจอย่างที่สุดเกิดขึ้น และได้สั่นสะเทือนวงการวิทยาศาสตร์ไปทั่วโลก การทดลองที่ว่านี้ได้เปิดศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ใหม่ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง และมันก็ได้ถูกทดลองโดยนักวิชาการที่เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปซะด้วย ซึ่งคนๆนั้นก็คือ นักวิทยาศาสตร์ผู้ได้รับรางวัลโนเบล Dr.Luc Montagnier

หลอดทดลอง 2 ชุด ถูกปิดผนึกอย่างหนาแน่น จนไม่มีสิ่งใดเข้า-ออกได้ ซึ่งหนึ่งในสองหลอดนั้นบรรจุชิ้น DNA ชิ้นเล็กๆเอาไว้ ส่วนอีกหลอดหนึ่งนั้นบรรจุน้ำกลั่นปลอดเชื้อเอาไว้ หลอดทดลองทั้งสองชุดนี้ถูกวางไว้คู่กัน ในสนามพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีคลื่นความถี่ 7Hz ผลการทดลองพบว่า หลอดทดลองชุดที่บรรจุน้ำกลั่นปลอดเชื้อเอาไว้ มีชิ้นส่วนของ DNA ปรากฎขึ้นมาเอง เหมือนกับว่ามันหายตัวเข้ามาเองอย่างนั้นแหละ ในขณะที่เมื่อทำการทดลองซ้ำอีก โดยที่ไม่มีสนามพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีคลื่นความถี่ 7Hz ล้อมรอบอยู่แล้ว ผลการทดลองพบว่า ไม่มี “การหายตัว” เข้ามาของชิ้นส่วน DNA เกิดขึ้นแต่อย่างใดเลย

สิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร? มันหมายความว่า “รหัสแห่งชีวิต” ทั้งหลายจะถูกเข้ารหัสใน “สนามพลังรวมที่สอดประสานกลมกลืนกัน” (the Unified Harmonic Field) และจะสามารถสร้างชีวิตขึ้นมาได้ ภายใต้คลื่นความสั่นสะเทือนอันประณีตและเป็นระเบียบ ระดับธีต้า (theta)นี้ จงบันทึกเอาไว้ด้วยว่า ให้พวกคุณทำการศึกษาความแตกต่างเล็กๆน้อยๆ ของคลื่นความสั่นสะเทือนระดับธีต้าและเดลต้าไว้ให้ดี! และมันก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก ที่จะบันทึกเอาไว้ด้วยว่า กระบวนการสรรสร้าง จะเกิดขึ้นภายในสนามพลังงานที่มีคลื่นความสั่นสะเทือนอันประณีตและเป็นระเบียบ ระดับธีต้า

โลกแห่งวัตถุธาตุที่พวกคุณเห็นอยู่ในขณะนี้ แต่ไหนแต่ไรมา มันก็คือผลลัพท์สุดท้ายของจิตสำนึกมาตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ว่าจนกระทั่งบัดนี้ มันก็ยังถูกฉายออกมาแบบส่งเดชและไร้จุดหมายอยู่ เพราะว่ามนุษย์โลกไม่เคยตระหนักรู้เลยว่าตัวเองมีศักยภาพอยู่ และก็เลยไม่เคยควบคุมการใช้งานศักยภาพนั้นของตัวเองมาก่อนเลยด้วย “กระแสความคิด” (thought) และ “จินตภาพ” (image) สามารถที่จะถูกใช้เพื่อการสรรสร้าง “โลกใหม่” ขึ้นมาได้จริงๆ ซึ่งเป็นโลกแห่งสันติสุข, โลกแห่งความรักและมิตรไมตรี และดังนั้น “คลื่นความสั่นสะเทือนระดับธีต้าที่ประณีตและเป็นระเบียบ” (Coherent Theta) และกระแสความคิดที่มีระดับการสั่นสะเทือนแบบคริสตัลไลน์ (crystalline resonant thought)

จึงสามารถที่จะถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างสอดประสานกลมกลืนกัน เพื่อสร้างโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพขึ้นได้ และสามารถที่จะทำให้กลายเป็นความจริงทางกายภาพขึ้นมาได้ และกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของพวกคุณ คือกระบวนการที่มนุษย์โลก จะต้องขับเคลื่อนด้วยกระแสจิต จากสภาวะที่กระแสจิตอยู่ในคลื่นความถี่ที่เรียกว่า “กระแสคลื่นความสั่นสะเทือนระดับธีต้า” (theta-coherency) ให้มันถูกเนรมิตออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพ

Exploring Theta Coherency

มนุษย์โลกในยุคปัจจุบันนี้ ได้พากันให้ความสำคัญกับจิตสำนึกที่อยู่ในสภาวะคลื่นความถี่ระดับเบต้า (Beta Frequency) กันซะมาก ตอนนี้มันจึงถึงเวลาแล้ว ที่จะเริ่มหันมาสำรวจสภาวะอื่นๆของจิตใจกันบ้าง มันถึงเวลาแล้วที่จะนำเอา “สภาวะธีต้า” (theta state) มาใช้ให้เป็นประโยชน์บ้าง เพื่อร่วมกันสร้างโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเองขึ้นมา ยุคแห่ง Aquarian Radiation นี้ เป็นกลไกและเป็นผลพวงของการเลื่อนระดับขึ้น ของโลกอย่างแท้จริง เพราะว่ามันจะช่วยให้มนุษย์โลก มีเครื่องมือสำหรับใช้ในการเลื่อนระดับขึ้น ของมวลหมู่มนุษยชาติ

กลไกที่เอื้อประโยชน์อย่างมาก ที่ได้เกิดขึ้นแล้ว และกำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ และที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย โดยเฉพาะตลอดปี 2013 นี้ ซึ่งเป็นปีที่จะมีปฏิกิริยาของดวงอาทิตย์มากที่สุด ก็คือการปลดปล่อยมวลสารพลาสม่าจากเอกภพ (massive injection of Cosmic Plasma) ลงมายังดาวเคราะห์โลกใบนี้ ซึ่งพลังงานของอิออนจำนวนหลายพันล้านตัน ได้ถูกสาดส่องลงมายังโลกของพวกคุณแล้วในขณะนี้ และมันก็เป็นพลังงานที่น่าอัศจรรย์อย่างมากด้วย

ตอนนี้บรรดานักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ (astrophysicists) ของพวกคุณ รู้แล้วว่ารังสีพลาสม่าจำนวนมากมายที่พุ่งตรงลงมายังโลกอย่างไม่ขาดสาย นับตั้งแต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ ตอนนี้กำลังโอบล้อมโลกใบนี้อยู่ ซึ่งรังสีพลาสม่าเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะมาทำให้ สัดส่วนของอิออนของโลกเปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น แต่มันยังจะทำแบบนั้น ในสนามพลังงานที่อัดตัวกันแน่น ของคลื่นระดับธีต้าอีกด้วย ธีต้าคือประตูสู่ความสามารถในการสร้างสรรค์ของพระผู้เป็นเจ้า คลื่นในแนวตั้ง หรือบ่อในแนวตั้งของพลังงานธีต้าที่อัดเรียงตัวกันแน่น

ตอนนี้กำลังถูกดึงดูดเข้ามาสู่จุดศูนย์รวมพลังงานบางจุดของโลกใบนี้อยู่ ดังนั้นสถานที่เหล่านี้ ก็จะสามารถถูกนำไปใช้เป็น “จุดศูนย์กลางในการสร้างสรรค์” (creation center) ได้ เพื่อให้เหล่า “นักรบแห่งจิตวิญญาณ” ทั้งหลาย ได้ใช้เป็นสถานที่เพื่อทำสมาธิหมู่ร่วมกัน เพื่อเนรมิตให้โลกที่มีแต่ความสอดประสานกลมกลืนกันเจริญเติบโตและพัฒนามากขึ้น! ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ แต่ไหนแต่ไรมาก็คือสิ่งที่มีประจุไฟฟ้า ที่กำลังโคจรอยู่ในสนามพลังงานพลาสม่าอยู่แล้ว ดังนั้น กระแสการหลั่งไหลเข้ามาของรังสีจากดวงอาทิตย์เมื่อเร็วๆนี้ จึงส่งผลกระทบเพิ่มขึ้นอย่างมาก และมีปฏิกิริยาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ต่อทั้งมนุษย์โลกและดาวเคราะห์โลกในบี้ เป็นเท่าทวีคูณ

นักวิชาการของพวกคุณหลายคน ตอนนี้ก็มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ที่จะทำให้หันมามองดูการเปลี่ยนแปลงของโลกและของเอกภพ ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ในแบบที่ลึกซึ้งกว่าเดิมแล้ว และกำลังหันมาพิจารณาถึงความมากน้อยของการเปลี่ยนแปลงและบทบาทของพวกมันด้วย พวกเราขอบอกพวกคุณว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะมีผลกระทบต่อโลกทั้งโลกอย่างแท้จริงเท่านั้นนะ คือนับตั้งแต่ใจกลางโลกขึ้นไปจนถึงชั้นบรรยากาศของโลก และจนถึงสนามพลังงานแม็กนีโตสเฟียร์ของโลกด้วย แต่มันยังไม่หยุดผลกระทบอยู่แค่นั้น เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงของสัดส่วนอิออนดังกล่าวนี้ จะไปเปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่ ที่จิตใจของมนุษย์ปฏิบัติการอยู่ด้วย พวกมันจะทำให้เกิดส่วนเชื่อมต่อที่จะเป็นทางเข้าไปสู่มิติที่สูงๆกว่าได้

สิ่งนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร? พลังงานที่มาพร้อมกับการปลดปล่อยมวลสารของดวงอาทิตย์ จะถูกดูดซึมเข้าไปในแผ่นรอยเลื่อนของเปลือกโลก (tectonic plate) แล้วจะทำให้โลกมีระดับความสั่นสะเทือนเพิ่มสูงขึ้น ผ่านทางกระบวนการนี้ แต่ว่ากระบวนการนี้ก็จะเกิดขึ้นไม่เหมือนกันในแต่ละที่ โดยเฉพาะกับที่ๆเป็นจุดศูนย์รวมพลังงาน (power point) และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ในตำแหน่ง ที่มีเส้นโครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์พาดผ่านด้วยแล้ว ประจุไฟฟ้าที่มาพร้อมกับการแผ่รังสีของเอกภพเหล่านี้ จะแผ่กระจายไปทั่วเครือข่ายของจุดศูนย์รวมพลังงานที่อยู่บนโลกเหล่านี้

ดังนั้น ถ้ารังสีพลาสม่าที่มาพร้อมกับการปลดปล่อยมวลสารของดวงอาทิตย์ สามารถสร้างให้เกิดความสั่นสะเทือนขึ้นได้จริงๆแล้วหละก็ ดังนั้นกระแสพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าทั่วทั้งโลกก็จะต้องได้รับผลกระทบไปด้วยแน่ๆ และกระแสจิตร่วมของมนุษย์ทั้งโลก (collective mind) และรวมถึงกระบวนทัศน์ของมนุษย์ทั้งโลก ก็จะต้องได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างแน่นอน นอกจากนี้ วิถีที่มนุษย์ใช้สร้างสรรค์โลกแห่งความเป็นจริงที่ตนเองอาศัยอยู่นี้ขึ้นมา รวมถึงความเชื่อถือของมนุษย์ที่มีต่อ “สิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นของจริง” แต่มนุษย์กลับคิดว่าเป็นของจริงทั้งหลาย ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ก็จะต้องได้รับผลกระทบไปด้วย จากสิ่งที่มาจากดวงอาทิตย์ จากสิ่งที่มากับพายุสุริยะ

บทส่งท้าย

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงด้านรังสีพลาสม่า (Effects of the Plasmic Shift)

- สัดส่วนของอิออนจะเปลี่ยนไป ซึ่งจะช่วยให้มนุษย์สามารถเข้าสู่สภาวะธีต้า
อันประณีตและเป็นระเบียบได้ง่ายดายยิ่งขึ้น
- ช่วยให้ต่อมไพเนียลเปิดได้ง่ายขึ้น
- เป็นเครื่องมือในการเนรมิตอย่างสร้างสรรค์และสอดประสานกลมกลืนกัน
- เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการเปลี่ยนแปลงของ DNA มนุษย์ และเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางชีวภาพของร่างกายมนุษย์ เพื่อไปเป็นร่างกายที่มีซิลิคอนเป็นองค์ประกอบหลัก (แร่ควอตซ์ก็คือซิลิคอนไดออกไซด์) และเมื่อเสริมการทำงานกับโครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์ของโลกแล้ว

การเปลี่ยนแปลงด้านพลาสม่านี้ จะส่งผลกระทบดังต่อไปนี้:

- ช่วยในการขยายตัวเข้าไปสู่มิติทั้ง 12 ของดาวเคราะห์โลก
- ช่วยให้สามารถเข้าถึงความเป็นหลากมิติได้มากขึ้น (เข้าถึงรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในรูปแบบโฟตอน และ พลาสม่าได้มากขึ้น)
- เป็นกุญแจหลักสำคัญสำหรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่จำเป็นของโลก
- เร่งการเกิดโคฮีเรนซ์ (Coherency acceleration – น่าจะหมายถึงการเรียงตัวกันแน่น และเป็นระเบียบ – ผู้แปล)
- เป็นกุญแจหลักสำคัญสำหรับการสร้าง “เส้นขอบฟ้าใหม่” (The New Firmament) ขึ้นมา
- ช่วยเพิ่มระดับความสั่นสะเทือนของจุดศูนย์รวมพลังงานทั้งหลาย, และจุดที่มีพลังงานหมุนวนที่เป็นประตูมิติทั้งหลาย
- ช่วยให้มนุษย์โลกสามารถเป็นผู้ร่วมสร้างโลกใหม่ขึ้นมาได้

ที่รักทั้งหลาย พวกเราขอบอกพวกคุณอีกครั้งว่า กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของดาวเคราะห์โลกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว เพราะว่ามนุษย์โลกได้ทำให้มันเป็นไปแบบนั้น แม้ว่าชาวโลกส่วนใหญ่ที่มีระดับจิตสำนึกอยู่ในมิติที่ 3 จะยังไม่รู้อะไรเลยก็ตาม แต่ว่าโลกใบนี้ได้เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงมานานแล้ว และก็กำลังค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปสู่กระบวนทัศน์ใหม่อยู่ เพราะฉะนั้น มันจึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องปลดปล่อยพลังงานเก่า ซึ่งเป็นพลังงานแห่งความกลัวออกไป ข้อความที่พวกเราส่งมาถึงพวกคุณในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะบอกพวกคุณให้รับรู้ถึงความเป็นพระเจ้าของตัวพวกคุณเอง และเพื่อที่จะบอกพวกคุณให้รู้ได้ความจริง ซึ่งเป็นแค่ส่วนหนึ่งความเป็นจริง ว่าตอนนี้ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณกำลังอยู่ในช่วงปีแรก ของการเป็นโลกใหม่อยู่

อันที่จริงแล้ว มนุษย์โลกก็กำลังจะตามมา และในเวลาอันรวดเร็วนี้ มนุษย์โลกก็จะเลื่อนระดับขึ้นตามไปด้วย พวกคุณกำลังอยู่บนเส้นทางแห่งการเลื่อนระดับขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ในยุคใหม่นี้ มันเป็นภาระหน้าที่ของผู้แสวงหาสัจธรรมทั้งหลาย ที่จะต้องฉายแต่ความเบิกบาน และแสงสว่างออกมา เพราะว่าเมื่อมันเข้าไปสู่กระบวนการขยายตัว ในความสอดประสานกลมกลืนกันของพลังงานคริสตัลไลน์แล้ว ทุกๆโฟตอนของแสงสว่างที่เกิดจากความคิดของพวกคุณ ที่พวกคุณฉายหรือแผ่ออกมา ก็จะถูกขยายให้ใหญ่ขึ้น/เข้มข้นขึ้น และสิ่งนี้ก็จะเกิดรวดเร็วมากขึ้นเมื่ออยู่ในยุคพลังงานใหม่นี้

ดังนั้น เมื่อพลังอำนาจในการสรรสร้างของพวกคุณมีมากขึ้น ภาระหน้าที่ใหม่ของพวกคุณ ก็คือการที่จะต้องมีคุณงามความดีเพิ่มมากขึ้นด้วย มนุษย์โลกหลายคน ที่กำลังอยู่บนเส้นทางแห่งแสงสว่างนี้ ยืนยันว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะมีเหตุผลบางอย่าง ซึ่งบ่อยครั้งก็มักจะเหมารวมไปหมดว่า “ทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น เพราะมันสมควรจะต้องเกิดขึ้น เพราะว่าทุกๆอย่างมันกำลังเป็นไปในแบบที่มันควรจะเป็นแล้ว” พวกเราขอบอกพวกคุณว่า เมื่อมองจากมุมที่สูงที่สุดแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนนำมาซึ่งความเข้าใจที่มากขึ้นเสมอ

แต่ว่า “มหาวิทยาลัยแห่งโลกใบนี้” ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์อย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งศาสตราจารย์ผู้เป็นหัวหน้าใหญ่ก็คือ ดร.”เหตุ และ ผล” นั่นเอง (Cause & Effect - ซึ่งเป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับกฎแห่งกรรม - ผู้แปล)และ ดร.ผู้นี้ก็จะไปตรวจรักษาให้ถึงที่บ้านซะด้วย ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ดีที่สุดไปตั้งแต่ครั้งแรกเลยนั้น มันก็คงจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด เพื่อการเรียนรู้และการเจริญเติบโตแต่อย่างใดเลย ดังนั้น ในความเป็นจริงแล้ว มันจึงจำเป็นจะต้องมีช่วงแห่งการไต่ระดับการเรียนรู้ และช่วงแห่งการฝึกหัดอยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการนี้มันหมุนเวียนกลับมาใหม่ได้อีก เพื่อที่มนุษย์โลกจะได้สามารถกลับมาเรียนบทเรียนเดิมซ้ำใหม่ได้เรื่อยๆ จนกว่าจะมีความชำนาญในการสร้างสรรค์อย่างมีความรับผิดชอบโน่นแหละเพราะว่าไม่ใช่ว่าทุกๆการกระทำ และทุกๆการตัดสินใจจะผ่านบททดสอบเสมอไป

แมตริกซ์ใหม่ของพวกคุณในปี 2013 นี้เป็นต้นไป จะทำให้เงื่อนไขในการลงทะเบียนเรียนของมนุษย์โลก มีความเข้มงวดมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะว่าในหลักเกณฑ์ที่สูงขึ้นนี้ การที่จะสำเร็จการศึกษาได้ มันจะต้องใช้การกระทำมากขึ้นกว่าเดิมอีก ช่วงเวลานี้มันคือช่วงเวลาสำคัญแห่งการเป็นผู้ร่วมสร้าง พวกเราขอบอกพวกคุณว่า กระแสความคิดที่เข้มข้นและแน่วแน่ ของพวกคุณเพียงคนเดียว หรือของทั้งกลุ่มก็ตาม สามารถเปลี่ยนแปลง และก็จะเปลี่ยนแปลง โลกแห่งความเป็นจริงของดาวเคราะห์โลกของพวกคุณได้ แต่พวกคุณก็จะต้องเข้าใจไว้ด้วยว่า การเนรมิตให้กลายเป็นจริงใดๆ จะมีประสิทธิภาพมากที่สุด และมีพลังอำนาจมากที่สุดได้นั้น จะไม่เกิดขึ้นในสมองที่อยู่ในมิติที่ 3 นี้ของพวกคุณโดยเด็ดขาด แต่มันจะเกิดขึ้นในคลื่นความถี่ระดับธีต้า ของจิตใจที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าเท่านั้น

มันมีหลายสิ่งหลายอย่างเหลือเกิน ที่พวกคุณก็รู้แล้วว่า มันจะต้องถูกทำให้เปลี่ยนไป เพราะว่ายังมีพฤติกรรมและความเชื่อที่ผิดๆอันเกิดจากการติดอยู่ในกับดักของมิติที่ 3 นี้มากมายหลายอย่าง ที่ผู้คนยังจดจ่อกันอยู่ เช่น ความโลภ, การไร้มนุษยธรรมต่อเพื่อนร่วมโลก, และการแสวงหาอำนาจมากกว่าความรัก เป็นต้น ดังนั้น ในปี 2013 นี้ พวกคุณจึงสามารถที่จะเริ่มต้นรวมกลุ่มกัน และสร้างสรรค์โลกที่มีแต่มิตรไมตรีขึ้นมาได้แล้ว มันต้องใช้ความพยายาม และเสียงแตรก็เป่าเรียกพวกคุณแล้ว! เราคือเมตาตรอน และเราขอแบ่งปันสัจธรรมนี้แก่พวกคุณ พวกคุณคือผู้อันเป็นที่รัก

...And so it is...And it is so...

ที่มา http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ุค-aquarius-ยุคแห่งการเลื่อนระดับขึ้น.415040/

 

มีผู้เสียชีวิต 13 คนจากน้ำท่วมฉับพลันในซาอุดีอาระเบีย​

​

ริยาดห์ 1 พ.ค. - เจ้าหน้าที่มหาดไทยซาอุดีอาระเบียรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 13 คน และสูญหายอีก 4 คน หลังฝนตกหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่

สำนักข่าวเอสพีเอของทางการรายงานอ้างข้อมูลจากพันเอกอับดุลลาห์ อัล-ฮาเรธี ที่กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตในหลายพื้นที่รวมทั้งในกรุงริยาดห์ เมืองบาฮาทางใต้ เมืองฮาอิลทางภาคเหนือ และพื้นที่ทางตะวันตกด้วย เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงพื้นที่บริเวณหุบเขาและที่ราบสูงซึ่งมีฝนตกหนักและน้ำท่วมมาตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว สถานีโทรทัศน์มีรายงานข่าวพร้อมภาพรถอเนกประสงค์ติดอยู่กลางกระแสน้ำเชี่ยว และผู้คนต้องขึ้นไปอยู่บนต้นไม้เพื่อหนีกระแสน้ำที่ไหลบ่ามาอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาพื้นที่ส่วนใหญ่ในซาอุดีอาระเบียไม่เคยเผชิญฝนตกหนักเลยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา

สำนักข่าวไทย TNA News | 1 พ.ค. 2556 19:36 |

ที่มา มีผู้เสียชีวิต 13 คนจากน้ำท่วมฉับพลันในซาอุดีอาระเบีย | MCOT.net | MCOT.net

ฝนถล่ม กุ้ยหลิน-หูหนานน้ำท่วมใหญ่​

​

จีน 1 พ.ค.-เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในเมืองกุ้ยหลินในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง และอีกหลายเมืองในมณฑลหูหนาน หลังจากพายุฝนฟ้าคะนองพัดเข้าถล่มอย่างรุนแรง

ชาวเมืองกุ้ยหลินหลายร้อยคนต้องแช่อยู่ในน้ำ หลังจากพายุฝนพัดเข้าถล่มอย่างรุนแรงในช่วงกลางดึกวานนี้ วัดปริมาณน้ำฝนได้ถึงกว่า 100 มิลลิเมตรในเวลาเพียง 2 ชั่วโมง หน่วยกู้ภัยต้องเร่งเข้าช่วยเหลือผู้ที่ติดอยุ่ในบ้านและที่พักที่ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง ระดับน้ำท่วมสูงถึงกว่า 1 เมตรในหลายพื้นที่ ทางการต้องสั่งระงับการเดินเรือในแม่น้ำหลี่เจี้ยงเป็นเวลา 2 วัน

ส่วนที่มณฑลหูหนานก็ถูกพายุฝนพัดถล่มอย่างหนักเช่นกันตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา มีทั้งพายุฝนฟ้าคะนอง พายุลูกเห็บ และอุณหภูมิลดต่ำลงอย่างรวดเร็วถึง 8 องศาฯ ในหลายพื้นที่ เมืองเจ้าหยางและเฉินโจวมีพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงที่สุด ท้องฟ้ามืดมิดแม้เป็นเวลากลางวัน สำนักพยากรณ์อากาศต้องออกประกาศเตือนให้ระวังพายุฝนฟ้าคะนองถึง 27 ครั้ง อย่างน้อย 8 เมืองในมณฑลหูหนานวัดปริมาณน้ำฝนได้ถึงกว่า 50 มิลลิเมตร โดยเฉพาะเมืองฮวยหัวและหยวนหลิง วัดปริมาณน้ำฝนได้เกินกว่า 90 มิลลิเมตร ชาวเมืองกว่า 100,000 คนได้รับผลกระทบ ต้องอพยพประชาชนกว่า 300 คนไปยังที่ปลอดภัย ครอบครัวหนึ่งเคราะห์ร้ายต้นไม้ขนาดใหญ่อายุกว่า 200 ปี ทานแรงพายุไม่ไหว โค่นลงทับบ้านพังทั้งหลัง เคราะห์ดีไม่มีผู้เสียชีวิต

สำนักข่าวไทย TNA News | 1 พ.ค. 2556 07:37 |

ที่มา ฝนถล่ม กุ้ยหลิน-หูหนานน้ำท่วมใหญ่ | MCOT.net | MCOT.net

 

- คุณเกษมครับ ผมอ่านกระทู้ของคุณตั้งแต่ปี 2005 แล้วก็อ่านต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้
-ถ้าในเรื่องภัยพิบัติก็ไม่ต้องไปไหนไกล สามจังหวัดภาคใต้นี่ไง ตอนนี้ก็กราดยิงกันกลางเมือง แม้เด็ก 3 ขวบก็ไม่เว้น ตอนนี้พวกคนชั่วเหล่านี้ก็ขยายวงไปเรื่อยๆ ท้ายสุด ประเทศไทยก็คงพบภัยพิบัติอย่างแท้จริง ไม่ต้องรอภัยธรรมชาติใหญ่หรือจากนอกโลกกระมั่ง และย่อมกระทบถึงพระพุทธศาสนาด้วย
- ส่วนตัวขอเล่าประสบการณ์นะครับ จากที่เริ่มอ่าน จากที่ผมไม่เชื่อ อ่านบ่อยเข้าผมก็เริ่มเชื่อ และเชื่อมากจนจิตตกไม่อยากจะทำอะไร รอว่าให้ภัยพิบัติเกิดก่อน ถ้าไม่ตายค่อยว่ากัน บ้านผมอยู่จังหวัดติดชายทะเล ผมก็ไม่ยอมซื้ออสังหาฯ เวลานั้น ป่านนี้ถ้าขายคงได้ตังค์มากกว่าเท่าตัว รอแล้ว รอเล่าก็ไม่เกิด หน้าที่การงานทางโลกก็ถดถอย เพราะไม่ได้กระตือรือล้นตามอย่างที่ชาวโลกควรทำ
- หลังจากอ่านมาหลายปี (แต่ก็ข้าม ไม่อ่านข่าวที่ซ้ำกับทีวี) ทำให้ได้คิด ได้เห็นว่าบางคนก็ตายก่อนภัยพิบัติ แม้ผมเตรียมอุปกรณ์พร้อมไว้ ณ ที่หลบภัยแล้ว แต่เผอิญมีเหตุให้ต้องไปธุระที่อื่น แล้วอยู่ๆเกิดภัยพิบัติทันที่ผมก็ไม่รอดอยู่ดี แล้วถ้ารอดก็อาจจะอยู่ต่อได้ไม่นานแล้วก็ตาย กังวลไปก็เท่านั้น
- จึงอยากจะบอกคุณเกษมว่า กระทู้นี้เหมือนดาบสองคมอยู่เหมือนกัน อ่านแล้วอาจทำให้ซึมเศร้าแบบผมก็ได้ ขอคุณเกษมลองพิจารณาดูเถิด คุณเกษมอาจทำบาปโดยไม่ได้ตั้งใจก็ได้ครับ

สุดท้าย ผมหวังว่าคุณเกษมคงไม่โกรธ เพราะเดานิสัยจากการโพสต์แล้วผมคิดว่าคุณเกษมเป็นคนดีมีจิตรใจเอื้อเฟื้อครับ

 

ไม่ว่ากันครับ..สิ่งใดที่ดีมีประโยชน์ก็จงเก็บเอาไปใช้..สิ่งใดที่ไม่ดีไม่มีประโยชน์ก็โปรดทิ้งเอาไว้ ณ.ที่นี้ครับ

 

ปีนี้น้องน้ำ..มากับพี่มาก...!!!​

​

เป็นประจำทุกวันสงกรานต์ของทุกปีที่จะมีการประกาศนางสงกรานต์ โดย นางสงกรานต์ปี 2556 ชื่อว่า นางมโหทรเทวี โดยปีนี้มีคำทำนายค่อนข้างดุเดือด

วันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน เวลา 1 นาฬิกา 58 นาที 48 วินาที ตรงกับเวลา 2 นาฬิกา 16 นาที 48 วินาที (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน) จันทรคติตรงกับ วันเสาร์ขึ้น 3 ค่ำ เดือนห้า(5) ปีมะเส็ง

นางสงกรานต์ปี 2556 คือนางมโหทรเทวี ทรงพาหุรัด ทัดดอกสามหาว(ผักตบชวา) อาภรณ์แก้วนิลรัตน์ ภักษาหารเนื้อทราย หัตถ์ขวาทรงจักร หัตถ์ซ้ายทรงตรีศูล เสด็จไสยาสน์หลับเนตร (นอนหลับตา) มาเหนือหลังมยุรา(นกยูง) เป็นพาหนะ

เกณฑ์พิรุณศาสตร์ ปีนี้ ศุกร์ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า เกณฑ์ธาราธิคุณ ชื่อ อาโป (ธาตุน้ำ) น้ำมาก น้ำท่วม

เกณฑ์นาคราชให้น้ำ ปีมะเส็ง นาคราชให้น้ำ 1 ตัว ทำนายว่าฝนต้นปีมาก กลางปีงาม แต่ปลายปีน้อยแล

เกณฑ์ธัญญาหารชื่อ ปาปะ ข้าวกล้าในไร่นา จะได้ 1 ส่วน เสีย 10 ส่วน คนทั้งหลายจะตกทุกข์ได้ยากลำบากแค้น เพราะกันดารอาหารบ้าง จะฉิบหายเป็นอันมากแล

วันเถลิงศก ตรงกับ วันอังคารที่ 16 เมษายน เวลา 5 นาฬิกา 56 นาที 24 วินาที ตรงกับเวลา 6 นาฬิกา 14 นาที 24 วินาที (เวลามาตรฐานประเทศไทยปัจจุบัน) จันทรคติตรงกับ วันจันทร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือนห้า(5) ปีมะเส็ง

คำทำนายสงกรานต์ 2556 วันเสาร์เป็นวันมหาสงกรานต์ : จะเกิดอันตรายกลางเมือง จะเกิดเพลิง และ โจรผู้ร้าย และจะเจ็บไข้นักแล ฯ วันจันทร์ เป็นวันเนา : เกลือจะแพง นางพระยาจะร้อนใจ มักจะเกิดความไข้ต่างๆ วันจันทร์ เป็นวันเถลิงศก : พระราชเทวี และหมู่นางสนม ราชบริพาร จะประกอบไปด้วยสุขและสมบัติทั้งปวง นางสงกรานต์ ไสยาสน์หลับเนตร (นอนหลับตา) : พระมหากษัตริย์จะเจริญรุ่งเรืองดี

ที่มา นางสงกรานต์และคำทำนายปี 2556 : อาหารสมอง

 

ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ..หรือไม่เชื่อ !!!​

"คำทำนายของตถาคตนี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ใน ความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา"

พุทธทำนาย โดยที่คณะธรรมทูตไทย ผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ( ไม่ต้องปรับแก้ ) ได้คัดลอกพระพุทธพจน์ทำนายจากศิลาจารึกเขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน แปลได้ดังนี้ "สาธุ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาแก่สัตว์โลก ซึ่งเกิดมาล้วนแต่ลำบากยิ่งนัก ในคราวที่พระองค์ไกล้ถึงพระชนมายุย่างเข้าพระปรินิพานตามกาลเวลา จึงตรัสแก่พระอานนท์ผู้ศิษย์อันสนิทพากเพียรพยาบาลว่า

ดูกรอานนท์ สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดมาล้วนแต่ลำบากทุกชาติ ทุกศาสนา ตามธรรมชาติที่หมุนเวียนของโลก โลกหมุนไปใกล้ความแตกทำลายจนถึงสมัยที่ตถาคตนิพพานไปแล้วได้ ๕๐๐๐ ปี เมื่อโลกไปใกล้กึ่งจำนวนที่ตถาคตทำนายไว้ ( คือ ก่อนปี ๒๕๐๐ ปี หรือ ก่อน พ.ศ. 2548 ) มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศเสียครึ่งหนึ่ง ( สิ่งนี้ถ้าจะเดา น่าจะหมายถึง ก่อนปี พ.ศ. 2548 มาแล้ว ผู้คนครึ่งหนึ่งของโลกจะได้รับภัยพิบัติเสียครึ่งหนึ่ง )

พ.ศ. 2533 – 2563 : ช่วงในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หิน ถูกสาป ( คนไม่ดี มีจิตใจเช่นยักษ์ ) ให้หลับก็กลับคื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก เมื่อใกล้กึ่งศาสนาของตถาคต ก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และมนุษย์นอกศาสนาก็จะรบราฆ่าฟัน กันถึงเลือดนองแผ่นดินและแผ่นน้ำ แม้ในอากาศก็มี อำนาจภัยจากฟ้าทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์ กระหายเลือด แผ่นดินแผ่นน้ำจะเดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา ซึ่งกำเนิดมจากสัตว์ป่าอำมหิต

( อธิบาย : ผูู้้มีพระภาคตรัสเกี่ยวกับก่อนกึ่งพุทธกาล หรือปี 2500 หรือ ก่อน พ.ศ. 2548 ว่า ก่อนกึ่งพุทธกาลนั้น ผู้คนนอกศาสนาพุทธ ได้สู้รบกัน และที่รู้จักดีคือทั้ง สงครามโลกครั้งที่ 1 และที่ 2 ทำให้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก แม้การต่อสู้ทางอากาศ มีลูกระเบิดจากเครื่องบินทำให้เกิดเป็นเพลิงเผาพลานไปทั่ว ทางพื้นน้ำก็มีการสู้รบกันทางเรือ ทั้งสองฝ่ายต่างเสียชีวิตเป็นอันมาก และแล้วก็เลิกรากัน )

ส่วนศาสนิกชนผู้ขวนขวายในทางบุญตามเดิม วัจนะของตถาคต ก็จะสามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใดที่เคารพสักการะพระศรีมหาโพธิ์และ กาสาวพัสตร์จะได้รับวิบัติเบาบางลง แต่จะหนีธรรมชาติไม่พ้น ( พระผู้มีพระภาคตรัสถึงภัยพิบัติต่างๆ ที่กล่าวแล้วข้างต้นว่า มนุษย์ต้องเผชิญภัยพิบัติต่อไป )

เริ่มแต่ศาสนาตถาคตล่วงมาได้ ๒๔๘๕ ปี ( พ.ศ. 2533 ) เป็นต้นไป ไฟจะลุกมาทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม ( อธิบาย : พระสงฆ์ ครูอาจารย์ทางพุทธศาสนาเสื่อมลงตามทีพระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้ว ศาสนาและลัทธิอื่นเข้ามาเผยแพรในแดนพระพุทธศาสนา่ เดียรถีย์เพิ่มพูล ) สมณชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ ( จากการวิเคราะห์ อาจเดาว่า พระผู้มีพระภาคน่าจะตรัสถึง สมณชีพราหมณ ที่ประพฤติปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จะอดยากยากเข็ญ เพราะไม่มีผู้นิยม ) คนบ้านจะเข้าป่า ( อธิบาย : คนในเมืองบุกรุกป่า มีทั้งจับจองที่ดิน และหาผลประโยชน์จากป่า ) สัตว์ป่าจะเข้ากรุง ( สัตว์ป่าไม่มีทีหากิน เข้ามาหากินตามไร่สวนรบกวนผู้คน ) เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำ ( เกิดมลพิษต่างๆ )

สงครามจะทั่วทิศ ( สงครามในรูปแบบต่างๆ จะเกิดขึ้นมากมาย ) ศึกจะติดเมือง ( สงครามนั้นๆ อยู่ในเมืองนี่เอง ) ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง ( คอร์รัปชั่นจักเกิดมาก ) ปราชญ์เปรื่องจะสิ้นสูญ ( คนดีมีวิชาความรู้ไม่มีปากเสียง ) ราชตระกูลอำมาตย์ ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม โดยปรวนแปรนิยมเชื่อถือถ้วยคำของคนโกง คนกล่าวคำเท็จ คนประจบสอพลอย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต ( อธรรมจะได้รับการยกย่อง เชื่อถือ )

ผู้ดีมีศีลธรรมประพฤติชอบไม่มีเสียง ( แต่ผู้ยึดถือพระธรรมะจะเป็นใบ้ ) จะเกิดการจลาจลวุ่นวาย ลูกจะพลัดแม่ แม่จะพลัดจากลูก ( ลูกและพ่อแม่จะแยกกันอย ู่) โคกจะเป็นน้ำ ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมืองจะเข้าไพร เทวดาจะเรียกแมลงบี้เหล็กโกฏิหนึ่งผีเสื้อแสนหนึ่งมาปล่อยแสนหนึ่งมาปล่อย ไข้เป็นไฟผลาญ ( สรุปว่าเมืองหลวงจะเต็มไปด้วยสิ่งไม่ดีต่างๆ นาๆ )

( ในส่วนต่อไปนี้ ได้สรุปมาจากการศึกษาพระสูตรและเรื่องราวเกี่ยวกับพระศรีอาริยเมตไตรย [ พระศรีอารย์ ] และคำพยากรณ์ต่างๆ ซึ่งกล่าวไว้ตรงกัน ซึ่งการวิเคราะห์สรุปได้ว่าเป็นทางสองแพร่ง ซึ่งตรงกับการทำนายของโลก ที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไปตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว )

ทางสองแพร่งเป็นอย่างไร ที่ได้มาจากการวิเคราะห์วิจัยตามหลักฐานและวิชาการ สรุปคือ

1. ทางที่หนึ่งเกิดสันติสุขขึ้น โดยการนำของพระศรีอารย์ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ในส่วนต่อไป พระศรีอารย์เป็นพระจักรพรรดิ ไม่ใช่ศาสดา ศาสนาพระศรีอารย์จึงไม่มี พระ ศรีอารย์จะมานำผู้คนสร้างสันติสุข และช่วยให้เป็นคนดีมีศีลธรรม ทุกคนจักมีกินมีใช้ มีที่อยู่อาศัยไม่ลำบาก กิจการงานก็ไม่ต้องแข่งขัน มีการชวยเหลือซึ่งกันและกันตามพรหมวิหาร 4 เมื่อเป็นเช่นนี้ผู้คนก็จะทำอะไรไม่รีบร้อน ไม่ต้องแข่งขันชิงดีชิงเด่นกัน ( ตามที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า "คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน" ) ทุกคนมีสติ มีสมาธิ เกิดปัญญากันทั่วหน้า เพื่อการปรับเข้าสู่ยุคทองที่มีคนดีทั้ง 4 ส่วน เหตุการณ์นี้จักเกิดอย่างช้าสุดในปี พ.ศ. 2555 ถ้าสิ่งดีงามไม่เกิดในปีนี้ ปี พ.ศ. 2556 ก็จะเกิดโลกาวินาศ ซึ่งคำทำนายโลกต่างๆ และมายันยังทำนายละเอียดถึงวันโลกาวินาศไว้ที่ วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ซึ่งคงไม่ได้ต่างอะไรมากนักกับปี พ.ศ. 2556 ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ เรื่องนี้ไม่สนับสนุนให้ใครเชื่อ แต่นำมาแสดงไว้ตามข้อมูลของพุทธทำนาย

2. ทางที่สอง ถ้าผู้้คนไม่สนใจการมาปรากฏของพระศรีอารย์ ก็จะเกิดโลกาวินาศขึ้นบนโลก ในปี พ.ศ. 2556
( ทำไมถึงต้องเกิดโลกาวินาศ การเป็นเช่นนี้เพราะคนในปัจจุบัน มีคนดีเพียง 1 ใน 4 ของประชากรโลก ดังนั้นโลกาวินาศทจะเกิดขึ้นเพื่อล้างโลก ล้างคนไม่ดี ไม่มีศีลธรรม และคัดเฉพาะคนดีเข้าสู่ยุคทอง นอกนั้นจะถูกส่งไปนรกภูม [ เรื่องดังมีกล่าว มีในพยากรณ์ของโลกที่สามารถค้นหาเองได้ ทั้งทั้งของมายัน และของศาสนาต่างๆ ที่ได้กล่าวไว้ตรงกัน จนเป็นที่น่าสังเกตุว่า ทำไมคำทำนายเหล่านี้ต่างทั้งเวลาและสถานที่ ถึงได้กล่าวเป็นคำทำนายไว้ตรงกัน ] )

เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๐๗ ( ปีมะโรง พ.ศ. 2555 ) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ( ดังได้อธิบายไว้เบื้องต้นแล้ว )

ล่วงได้ ๒๕๐๘ ( ปีมะเส็ง พ.ศ. 2556 ) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ( น่าจะเกิดโลกาวินาศ ถ้าผู้คนไม่สนใจพระศรีอารย์ และมนุษย์ยังถูกซ้ำเติมต่อไปในปี พ.ศ. 2560 ผู้มีศีลธรรมจะอยู่รอด )

ล่วงได้ ๒๕๑๒ ( ปีระกา พ.ศ. 2560 ) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม และยึดถือคาถาของตถาคตจะพ้นภัยพิบัติ

ให้ เจริญภาวนาดังนี้ "หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน" ให้ท่องบ่นภาวนาเป็นนิจ ให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้หน้าบ้าน หัวนอน หรือพันศรีษะไว้ สารพัดภัยพินาศ สันติประสิทธิ์

ดูกรอานนท์ ตถาคตสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้นที่มีอายุขัยอยู่ได้ไกล้ยุคกึ่งยุคลลาย

เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงมาได้ ๒๕๑๒ ( ต่อจากปลายปีระกา ปีจอ พ.ศ. 2560 ) พระจันทร์จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ ( ปีชวด พ.ศ. 2563 ) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี ( จาก พ.ศ. 2533 - 2563 ) พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ( เหตุการณ์ในปี พ.ศ. 2563 )

ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนที่จรจะกลับเข้ากรุงบำรุงธรรม ธรรมจะชนะ พระจะอยู่บ้านเมืองต่อไป การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ ( ตรงกับพยากรณ์อื่น เช่นในระหัสลับดาวินซี ) ซึ่งไม่ต้องเบียดเบียนแรงผู้ใด ทุกคนจะสมบูรณ์ด้วยศีลธรรมและชีวิตผาสุก

ส่วนนี้พระผู้มีพระภาคตรัสถึง พระมหาเถรโพธิิสัตว์ และพระธรรมมิกราช ดังมีความดังนี้

มหากษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์ องค์หนึ่งจะเกิดภายในความอุปภัมถ์ของพระมหาเถระโพธิสัตว์ ( การตีความ แสดงว่า พระธรรมมิกราช นั้นอยู่ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระมหาเถรโพธิสัตว์ ) ทั้งสององค์นั้น จะจัดการบำรุงศาสนาของตถาคต ในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล" ( ตรงคำทำนายโลกอื่นๆ และสมเด็จพุทฒาจารย์ [ โต ] พรหมรังสี )

พระมหาเถระโพธิสัตว์ จะเกิดในสมัยของตถาคตล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี (พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงแสดงถึงความเป็นพระมหาโพธิสัตว์ และในเวลาปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ร.9 และในเวลาปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระมหาเถรโพธิสัตว์โดยสมบูรณ์)

เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ ( พ.ศ. 2515 - 2534 ) พระมหากษัตริย์ธรรมิกราชจะมาเกิด (ท่านอินทรา คนไทยในพุทธศาสนา มีถิ่นฐานอยู่ในสหรัฐอเมริกาได้อธิฐานบุญอันแรงกล้าในปี พ.ศ. 2534 และท่านอินทรารู้อมตธรรมด้วยตนเอง ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2535 หลังค้นหามากว่า 40 ปี จึงนับว่าพระธรรมมิกราช ได้เกิดขึ้นแล้ว )

ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ ( อธิบาย : พระโพธิสัตว์สองพระองค์จะอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชณิมประเทศ หรือกล่าวได้ว่าเป็นไปในภาคกลางของประเทศเขตชมพูทวีป หรือทวีปของพระพุทธศาสนา มาทางทางตะวันออกที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข เมืองที่ประทับดังกล่าวคือ กรุงเทพมหานครฯ ของประเทศไทย )

ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ ( พ.ศ. 2561 – 2562 เหล่าประชาราษฎรขอถวายพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จงพระองค์จงทรงพระเจริญ ทรงมีพระพลามัยที่แข็งแรงขึ้นเป็นพระประมุขของแผ่นดิน ยิ่งยืนนานตลอดไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะฯ ) ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้เที่ยงแท้สมณชีพราหมณ์ จะเสด็จมา ๘๔,๐๐๐ รูป

ดูกรอานนท์ ตถาคตสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที ( ยกของเดิมมา ตั้งแต่ พ.ศ. 2556 - 2563 = 30 ปี ) พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก ( นี่ี่คือคำตอบ "เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที" เพราะพวกไม่มีศีลธรรมได้หมดไปจากโลกหมดแล้ว )

คำทำนายของตถาคตนี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ใน ความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อ ๆ ไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา ผู้ใดปรารถนาจะได้เห็นหรือทันมีบุญ ให้รักษา ศีลห้าประการหนึ่ง ยำเกรงบิดามารดา รู้จักบุญคุณท่านผู้มีคุณหนึ่ง ให้เจริญภาวนาในพรหมไตรสภาพหนึ่ง คาถาว่าดังนี้

พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติ ปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม"

ลิงค์ไปยังวีดีโอ ทำไมโลกวิปริต ความจริงที่พิสูจน์ได้ และปี 2556 จะเป็นอย่างไร

วีดีโอ ทำนาย 2012 2013 2556 ยุค พระศรีอารย์

 

อย่าได้เห็นเป็นเรื่องล้อเล่น !!!​

​

พระโอวาทท้าวสักกะเทวราช กัณฑ์ปลุกชาวโลก

มหันตภัยอันน่ากลัวใกล้ตัวแค่นัยน์ตา มารทั้งห้ามากวาดล้างโลกดุร้ายยิ่ง ทุกคนจัดแจงรีบป้องกันแต่เนิ่นเนิ่น ถึงเวลาเกิดเหตุเสียใจภายหลัง

กัณฑ์ปลุกชาวโลก อธิบายชัดเจน ณ เวลานี้จงเร่งรีบบำเพ็ญคุณธรรม พิบัติภัยใกล้ตัว ร้ายแรงนัก บัญชีหนี้กรรมหมื่นปีต้องชำระ เหล่าทวยเทพอริยะ ได้จัดเตรียมทำบัญชีไว้ก่อน ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต มีหนี้ต้องชดใช้ หนี้ชีวิตหนี้ในบัญชีหนีไม่พ้น

เหล่าอสูรร้ายได้รับคำสั่งให้ลงสู่โลกมนุษย์ โลกสีแสงสุรานารี พร้อมกันอึกทึกครึกโครมเอ็ดอึงพาให้เสีย ก่อเกิดฆ่าฟันทั่วทุกหนทุกแห่งทั่วโลกา พาให้โลกวุ่นวาย คนทุกประเภทอยู่อย่างไม่เป็นสุข โจรผู้ร้ายชุกชุมทั่วทุกหัวระแหง ทุกคนต่างแสดงตนเป็นวีรบุรุษผู้กล้า บ้างแย่งชิงบ้างหลอกลวง บ้างจับตัวเรียกค่าไถ่ โจรขโมยก่อความวุ่นวาย ทหารออกมาปรากฏทุกคนถูกบีบบังคับจนอยู่ไม่ได้ บ้างถูกปืนยิงตาย บ้างถูกมีดฟันตายไปเมืองผี บ้างถูกไฟเผาตายบ้างกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทั้งหมดล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยที่ก่อไว้ในอดีตชาติ

ชาติก่อนก่อกรรมไว้ชาตินี้มาชดใช้ อดีตชาติทำกรรมไว้ชาตินี้มาชดใช้ กรรมสนองกรรมในชาตินี้ ตามสนองในชาตินี้ไม่ผิดพลาด คนมีบาปเทพเทวารู้ ทุกคนล้วนมีธงปักอยู่บนศีรษะเป็นสัญลักษณ์ ไม่จำตัวบุคคล จะดูสัญลักษณ์จากธงเป็นเครื่องหมายในการตอบสนองตามจริง ปักธงเขียว ถูกยิง ถูกระเบิด ปักธงแดง ถูกไฟเผา ปักธงดำ จมน้ำตาย ปักธงขาว ต้องคมหอกคมดาบ มีแต่ผู้สั่งสมคุณงามความดี ทำบุญทำทาน ถูกปักธงเหลือง เทพเทวาคุ้มครอง

คนทำความดีได้รับบุญวาสนาอยู่สุขสบายเทพเทวาคุ้มครอง ไม่สู้บำเพ็ญธรรมจึงรอดพ้นภัยได้ มนุษย์โลกควรเร่งรีบเสาะหามหาธรรม ไม่แสวงหามหาธรรมจะไม่รอดพ้นภัย ภัยพิบัติครั้งนี้ หาขอบเขตไม่ได้ เลือดนองเหมือนสายน้ำ กระดูกกองเป็นภูเขา ผู้บำเพ็ญธรรมพ้นจากภัย คนที่ไม่มีธรรมะ ยากที่จะหลุดรอดได้

เหล่าเทพเทวาลอยสถิตกลางนภา นำบัญชีมาชำระสะสาง ใครถูกเรียก ใครเป็นหนี้ ใครมีหนี้คนนั้นจะต้องชำระ ใครชาติก่อนทำความชั่วไว้ ใครชาติก่อนทำกรรมดีไว้ หักลบกลบหนี้ มาดูว่าชั่วมากกว่าหรือดีมากกว่าหากมีความดี เทพเทวาคุ้มครอง เทพเทวาปกปักรักษามักอยู่เย็นเป็นสุข ชั่วมากกว่าเทพเทวาลงทัณฑ์ เทพเทวาลงทัณฑ์ประสบภัยมาร วุ่นวายทุกหัวระแหง เพิ่มภัยแล้ง นักเลงอันธพาลโรคภัยไข้เจ็บระบาดทั้งในและนอก ทนอดอยากเผชิญความวุ่นวาย ไม่แน่ว่าการขู่กรรโชกจะทำให้เสียชีวิตได้ คิดคิดดูน่าตกใจ วันข้างหน้าจะมีคนตายมากมาย สิบส่วนตายเก้าส่วน เหลือเพียงหนึ่งส่วน เทพเซียนคิดคำนวณ ไม่ผิดพลาดแม้แต่น้อย

หนี้ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต เป็นหนี้ในที่สุดต้องชำระ คนในโลกนี้ควรมองให้ทะลุปรุโปร่งเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งโดยตลอด เร่งรีบกินเจสวดมนต์ รักษาศีลสวดพระคัมภีร์ช่วยปลดเปลื้อง บาปกรรมหมื่นพัน หนี้ชีวิตไม่ต้องชดใช้ด้วยชีวิต ติดหนี้ไม่ต้องชดใช้

โลกโลกีย์อย่าห่วงอาลัยรัก หลงรักอาลัยยากที่จะตัด โลกสีแสงสุรานารี ถึงแม้ดูดี หลงอาลัยรักสุดท้ายมิเหลืออะไรแม้แต่น้อย ละโมบบริโภค กินเนื้อสัตว์ล้วนแต่สร้างหนี้กรรม กินเขาสี่ตำลึง ชดใช้ครึ่งชั่ง ไม่มีใครยอมเสียเปรียบ บริโภคมาก ก่อบาปเวรมาก ก่อบาปกรรมมากจึงอยู่ไม่ได้ เมื่อหมดอายุขัยต้องตายจาก พญายมออกหมายเรียก ส่งยมทูตมาตามตัว ถือโซ่ตรวนล่ามตัวพาไป ล่ามเที่ยงคืนตายเที่ยงคืน ไม่มีใครที่จะมีลมหายใจอยู่ได้ต่อไปอีก ไม่ว่าจะว่างหรือไม่ว่าง ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ ต้องทิ้งทั้งหมด เมื่อสิ้นลมต่อให้ลืมตาก็มองไม่เห็น ทรัพย์สินเงินทองเอาไปไม่ได้ เหลือแค่สองมือว่างเปล่าน่าสงสาร

ไปถึงยมโลกถูกยมทูตโบยตีกลิ้งไปมา ถูกโบยตี ไม่มีที่จะหลบซ่อน ยังต้องพาตัวไปพบพญายม ฝูงสุนัขดุขวางไว้รุมกัด ถูกกัดจนเลือดไหลท่วมตัว หมู่บ้านผีตายโหงโกลาหล ฝูงผีฉุดลากเรียกเอาเงิน กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ ฟันหมาป่ามากมายดั่งเทือกเขาตามทำร้าย เข็มปักกองเท่าภูเขา ทั้งหมดถูกทับอยู่บนตัวกลิ้งไปมา เลือดไหลเลอะเทอะเต็มตัว เนื้อหนังแหลกเหลว ยมทูตลากไปรายงานตัว

ขุมนรกขุมที่ 5 น่าเกรงขาม ยมทูตหัววัว ยมทูตหน้าม้า ยืนเรียงสองข้าง พญายมประทับตรงกลาง ผู้พิพากษาถือสมุดบัญชี หากทำดี หากทำชั่ว แม้ว่าทั้งตัวเต็มไปด้วยปากยังแก้ต่างไม่ตก หากทำบุญสุนทานได้เป็นขุนนาง บุญกุศลครบสามพันได้เป็นเทพเป็นเซียน หากไม่มีบุญกุศลคงจะลำบาก มีแต่ลงนรกร้องไห้กับฟ้า ลงกระทะทองแดง ปีนภูเขามีด ถูกครกตำ ใช้โม่เหล็กบด ถึงตอนนั้นเสียใจก็สายไปแล้ว

วันนี้รีบเร่งบำเพ็ญปฏิบัติ พูดถึงการบำเพ็ญปฏิบัติไม่ยากเลย ขอเพียงมีจิตศรัทธา ตั้งความมุ่งมั่น งดเว้นอาหารคาวเพื่อตัดกรรม รักษาพุทธระเบียบ ตั้งโต๊ะบูชา ถวายธูปวันละสามครั้ง หมั่นสวดมนต์ ไม่ขี้เกียจ หนี้กรรมในอดีตชาติจะถูกลบล้างหมดไป หนี้กรรมในอดีตชาติ หากถูกลบล้างหมดไป จากนี้ไปจะไม่ประสบภัยตกทุกข์ได้ยากต่อไปอีก กราบไหว้พระวิสุทธิอาจารย์ เปิดประตูญาณสามารถเป็นเทพเซียนบนสวรรค์ ขึ้นสวรรค์เป็นเทพเซียน ไม่เสียแรงที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ฉุดช่วยบรรพบุรุษเจ็ดชั้น ลูกหลานอีกเก้าระดับ ช่วยบิดามารดาได้ไปอยู่แดนพุทธเกษตร ได้รับการยกย่องเป็นลูกกตัญญู ยกย่องเป็นอริยะ ได้รับการยกย่องเป็นทั้งอริยะและกตัญญูพร้อมกัน ขึ้นไปเฝ้าพระแม่องค์ธรรม พบเหล่าเทพเซียน อิสรเสรีสุขสำราญ

กล่าวถึงตรงนี้ ขอจบแล้ว ขอให้ทุกคนสำรวจและพิจารณาตรวจสอบละเอียดรอบคอบ จะหนีให้พ้นจากภัยพิบัติ ต้องเร่งรีบศึกษากัณฑ์ปลุกชาวโลกนี้ กัณฑ์ปลุกชาวโลกเสมือนเรือฉุดช่วย พบใครก็ตักเตือนบอกต่อ กลับคืนสู่พุทธบรรพต กราบพระอนุตตรธรรมมารดา ตนเองบรรลุ พาให้คนอื่นบรรลุด้วย บุญกุศลนับไม่ถ้วน หากใครไม่ศึกษากัณฑ์ปลุกชาวโลกนี้ ขณะมีชีวิตอยู่ประสบเคราะห์ร้าย ตายไปถูกลงโทษด้วย ฝากคำพูดง่ายๆ ไว้เตือนชาวโลก รีบไปฉุดช่วยคนให้พ้นจากความทุกข์ เพื่อเก็บงานให้สมบูรณ์

ขอเตือนสาธุชนชายหญิง รีบบำเพ็ญตนเพื่อคุ้มครองชีวิตตนเอง อย่าได้เห็นเป็นเรื่องล้อเล่น ฉวยโอกาสขณะได้เกิดเป็นคนที่มีความอิสระและสะดวกในการปฏิบัติ รีบขึ้นเรือธรรม ได้รับมหาธรรม

ที่มา พระโอวาทท้าวสักกะเทวราช | เตือนภัยพิบัติโลก